แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: เล่อเอิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-27 11:51:23
เครื่องเพชร?

ฉันขมวดคิ้วเบาๆ ตะเบ็งเสียงพูดกับฟู่ฉีชวนที่เพิ่งเดินเข้าห้องน้ำ "ฉีชวน พี่จินอันมาค่ะ ฉันลงไปดูก่อนนะ"

เรียกได้ว่าเกือบจะวินาทีต่อมา ฟู่ฉีชวนก็กระโจมออกมา สีหน้าของเขาเย็นชาอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน

"ผมไปเองก็ได้ คุณไม่ต้องสนใจหรอก ไปอาบน้ำเถอะ"

ชายหนุ่มที่อารมณ์มั่นคงและสุขุมมาโดยตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าฉัน แต่น้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยอารมณ์บางอย่างที่ยากจะอธิบาย ราวกับทั้งหงุดหงิดทั้งตึงเครียด

ความรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นในใจของฉัน "ฉันอาบเสร็จแล้ว ยาสีฟันของคุณ ฉันก็เป็นคนเตรียมเอาไว้ให้เอง ลืมไปแล้วหรอ?"

"ก็ได้ครับ งั้นก็ลงไปด้วยกันนี่แหละ อย่าให้แขกต้องรอนานจะดีกว่า"

ฉันจับมือของเขาเดินลงไปชั้นล่าง

บันไดเป็นดีไซน์แบบบันไดวน ส่วนที่เป็นลักษณะโค้งในครึ่งล่าง ทำให้สามารถมองเห็นฟู่จินอันที่สวมชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ หล่อนนั่งอยู่บนโซฟาอย่างสง่าผ่าเผย

เพราะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวหล่อนก็เงยหน้าขึ้น เผยรอยยิ้มเงียบเชียบ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับมือทั้งสองข้างของฉันกับฟู่ฉีชวนที่จับกันอยู่ แก้วน้ำในมือก็สั่นทันที จนน้ำชาในแก้วกระฉอกออกมาเล็กน้อย

"อ๊ะ..."

น่าจะเพราะค่อนข้างร้อน หล่อนจึงเผลอหลุดร้องเสียงหลงออกมา

ฟู่ฉีชวนดึงฝ่ามือของเขาในออกทันที แล้ววิ่งลงไปชั้นล่างด้วยความตื่นตระหนกและร้อนใจ จากนั้นหยิบแก้วน้ำออกจากมือของหล่อน "ทำไมโง่ขนาดนี้ แค่แก้วใบเดียวยังถือให้มั่นไม่ได้?"

น้ำเสียงของเขาจริงจังดุดัน ทว่าจับมือของฟู่จินอันได้ก็พาไปที่อ่างล้างหน้าโดยไม่ลังเล แล้วชำระล้างด้วยน้ำเย็น

ฟู่จินอันรู้สึกจนปัญญา อยากจะดึงมือกลับ "ฉันไม่เป็นไร เอะอะใหญ่โตไปได้"

"หุบปาก ถ้าไม่ระวังแผลลวกไหม้มันจะทิ้งรอยบนผิว รู้หรือเปล่า?"

ฟู่ฉีชวนตำหนิเสียงเย็น โดยที่ยังคงจับมือไม่ปล่อย

ฉันยืนอยู่บนขั้นบันได มองภาพช็อตนั้นด้วยความตะลึง รู้สึกมึนงงไม่น้อย

ราวกับมีภาพอะไรบางอย่างผุดเข้ามาในหัว

เป็นภาพตอนที่เราเพิ่งแต่งงานกัน ฉันรู้ว่าฟู่ฉีชวนท้องไส้ไม่ค่อยดี จึงเริ่มเรียนทำอาหาร

แม้ว่าที่บ้านจะมีป้าหลิวอยู่แล้ว แต่อาหารที่ป้าหลิวทำไม่ค่อยถูกปากเขานัก

คนที่เพิ่งเรียนได้ไม่เท่าไหร่ การจะเผลอทำมีดหั่นโดนนิ้ว หรือถูกลวกเข้าตรงไหนสักที่มักจะเป็นเรื่องที่ห้ามได้ยาก

ครั้งนึงไม่ทันระวังจนทำกระทะคว่ำ น้ำมันเดือดๆ ไหลตามการเคลื่อนไหวของฉัน จนสัมผัสโดนเข้าที่หน้าท้อง

เสื้อผ้าเปียกไปทั้งตัว มันร้อนมากจนใบหน้าของฉันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

ฟู่ฉีชวนได้ยินเสียง เพียงแค่เดินเข้ามา แล้วพูดด้วยความนุ่มนวลอย่างที่เป็นในปกติ "โอเคไหม? คุณไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง"

อ่อนโยนใส่ใจ ทว่ากลับสงบและเรียบเฉย

บางครั้งฉันก็แอบรู้สึกว่า เหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่

แต่เพราะฉันแอบชอบเขามานานหลายปี ในสมุดโน้ตล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่พรรณนาถึงเขา

การที่ได้แต่งงานกับเขา ก็นับว่าพอใจมากแล้ว

จึงคิดไปเองว่า นั่นเป็นเพราะเขามีนิสัยเย็นชาและเก็บตัว

……

"ป้าเทเสิร์ฟน้ำมะนาวให้คุณจินอันนี่นา"

ที่ด้านข้าง คำพูดพึมพำของป้าหลิวดึงเอาความคิดของฉันกลับมา

ไม่รู้ว่าสายตาเริ่มเบลอตั้งแต่เมื่อไหร่ หัวใจก็ราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบอย่างแรง จนฉันหายใจไม่ออก

ดูสิ

เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาเป็นคนดึงแก้วน้ำออกจากมือของฟู่จินอันเอง แต่เพราะเป็นห่วงมาก จนลืมสังเกตุไปว่าน้ำในแก้วมันร้อนหรือเย็น

ฉันสูดหายใจลึก เดินลงบันไดอย่างช้าๆ จับจ้องไปที่พวกเขาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "ที่รัก ป้าหลิวเสิร์ฟน้ำมะนาวให้พี่จินอัน เป็นน้ำเย็น คงลวกผิวไม่ได้หรอก หรือคุณจะเป็นห่วงอีกว่าน้ำเย็นจะทำให้ผิวช้ำ?"

ฉันก็อยากอดกลั้น แต่มันกลั้นไม่อยู่จริงๆ สุดท้ายก็พูดเสียดสีออกไป

ฟู่ฉีชวนหยุดการเคลื่อนไหวทันที แล้วจึงปล่อยมือออก หลบสายตาของฉัน หันไปกล่าวโทษฟู่จินอัน "แค่น้ำเย็นหกใส่มือก็ต้องแหกปาก? เธอนี่มันสำออยจริงๆ"

ฟู่จินอันหันไปค้อนใส่เขาทีนึง แล้วหันมาหาฉันด้วยความอ่อนโยน "เขาก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก"

พูดจบ หล่อนก็เดินมายังโต๊ะรับแขก หยิบกล่องกำมะหยี่ที่แค่ดูด้วยตาก็รู้ว่าราคาไม่ธรรมดาแล้วยื่นให้ฉัน

หล่อนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน "สิ่งนี้ ต้องคืนสู่เจ้าของเดิมของมัน"

ฉันรับมาเปิดดูแวบนึง ทันใดนั้นเล็บคมก็ฝังลึกลงไปในฝ่ามือ

ความว้าวุ่นปั่นป่วนถาโถมเข้ามาในใจ

ผู้หญิงที่อยู่ในคลิป ก็คือฟู่จินอัน?

เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ฉันกดความรู้สึกเอาไว้ อยากจะยิ้มทว่ายิ้มไม่ออก

เมื่อคืนฉันยังบีบให้ฟู่ฉีชวนเอาสร้อยคอกลับมา เวลานี้สร้อยก็อยู่ในมือของฉันแล้ว แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่นิดเดียว

สายตาของฉันมองไปยังฟู่ฉีชวนอย่างค้นหา แต่ดวงตาของเขาลึกล้ำจนยากจะคาดเดา จากนั้นกยื่นมือมาโอบกอดฉัน

"ชอบไหม? ถ้าชอบก็เก็บไว้ ถ้าไม่ชอบก็ยกให้ใครไปก็ได้ ถึงยังไงของแค่นี้ไม่สะเทือนขนหน้าแข้งผมอยู่แล้ว ไว้ผมค่อยซื้อของขวัญชิ้นใหม่ให้คุณ"

"ค่ะ"

ฉันเม้มริมฝีปาก เพราะอยู่ต่อหน้าฟู่จินอัน สุดท้ายก็ต้องยอมไว้หน้าเขาหน่อย

หรือจะพูดอีกอย่างคือไว้หน้าตัวฉันเองด้วย

วินาทีนี้ จู่ๆ ฉันเองก็มองไม่ออกถึงจุดประสงค์ที่ฟู่จินอันมาในวันนี้

หล่อนคิดว่าตัวเองไม่สมควรเก็บสร้อยเส้นนี้จริงๆ

หรือกำลังประกาศอะไรอยู่?

เมื่อเห็นแบบนั้น ใบหน้าของฟู่จินอันก็เผยความรู้สึกบางอย่างในชั่วพริบตาแล้วหาย มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถจับเอาไว้ได้

เธอยิ้มบางๆ "ฉันยังนึกกลัวอยู่ว่าสร้อยเส้นนี้ จะทำให้พวกเธอเข้าใจผิดกัน แต่เท่าที่ดูตอนนี้เหมือนจะไม่ได้เป็นแบบนั้นสินะ งั้นฉันขอตัวกลับก่อนล่ะ"

ป้าหลิวออกไปส่งหล่อน

วินาทีที่ประตูประกบปิด ฉันปลีกตัวออกมาจากแขนของฟู่ฉีชวน "ไหนคุณบอกว่าไปประมูลให้เฮ่อถิงไม่ใช่หรอ? ที่สำคัญพี่จินอันแต่งงานแล้วไม่ใช่หรือยัง เธอกลายเป็นหนึ่งในบรรดาสาวๆ ของเฮ่อถิงตั้งแต่เมื่อไหร่...อุ๊บ"

เขาจูบริมฝีปากของฉันโดยไร้ซึ่งเหตุผล บังคับให้ฉันหยุดพูดคำพูดที่เหลือ

เขาใช้กำลังครอบครองด้วยดุดันและเลือดร้อน ราวกับกำลังระบายอะไรบางอย่าง

ขณะที่ฉันเริ่มจะหายใจไม่ออก เขาถึงได้ปล่อยฉันเบาๆ แล้วลูบศีรษะของฉัน เอ่ยปากยอมรับผิด "ผมโกหกคุณเอง"

เขาโอบฉันในอ้อมกอด "หล่อนเพิ่งหย่า ผมกลัวว่าหล่อนจะคิดสั้น ก็เลยมอบของขวัญให้"

ฉันอึ้งไปทันที

เข้าใจในทันทีว่าประโยคที่เขาพูดในคลิป "ยินดีกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่" มันหมายถึงอะไร

ฉันเม้มริมฝีปาก เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "แค่นั้น?"

"แค่นั้น"

เขาตอบด้วยความหนักแน่น อธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนช้าๆ "คุณก็น่าจะรู้ ในตอนนั้นแม่ของหล่อนต้องเกิดอุบัติเหตุขึ้นเพราะช่วยผม ผมจะนิ่งดูดายไม่ได้"

เรื่องนี้ ฉันเองก็เคยได้ยินป้าหลิวเล่าให้ฟังอยู่

แม่แท้ๆ ของฟู่ฉีชวนเสียชีวิตเนื่องจากปัญหาคลอดบุตรยาก ตอนที่เขาอายุได้ห้าขวบ พ่อของเขาก็แต่งงานใหม่ อีกฝ่ายคือแม่ของฟู่จินอัน

แม้ว่าจะเป็นแม่เลี้ยง ทว่าก็ปฏิบัติต่อฟู่ฉีชวนดีมาก ประหนึ่งให้กำเนิดออกมาเอง

ถึงขนาดที่ตอนฟู่ฉีชวนเผชิญหน้ากับอันตราย หล่อนยอมสละชีวิตเพื่อช่วยฟู่ฉีชวน จนกลายเป็นอัมพาต นอนติดเตียงมาหลายปี

ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนี้

ก็นับว่าสมเหตุสมผลแล้ว

ฉันโล่งใจในทันที แต่ก็อดเตือนเขาด้วยความน้อยใจไม่ได้ "ฟู่ฉีชวน ฉันเชื่อว่าคุณแค่อยากทดแทนบุญคุณ และเห็นหล่อนเป็นแค่พี่สาวเท่านั้น"

……

สร้อยเส้นนั้น สุดท้ายก็ถูกฉันโยนเข้าไปในห้องเก็บของ

บางที อาจะเป็นเพราะความเคลือบแคลงในใจฉันไม่ได้หายไปโดยสิ้นเชิงแต่อย่างใด

เพียงแต่เก็บมันไว้ชั่วคราว และมันย้อนกลับมาได้ง่ายๆ ในวันนึง เมื่อถูกสะสมซ้ำไปซ้ำมา

จนท่วมท้น

แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ วันนั้นมันจะมาถึงเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้

สมัยมหาวิทยาลัยฉันเรียนดีไซน์เนอร์ และได้เข้าฝึกงานในแผนกดีไซน์เนอร์ของบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ป

การแต่งงานกับฟู่ฉีชวนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนอาชีพการงานของฉันแต่อย่างใด

ผ่านมาสี่ปี ฉันได้ขึ้นเป็นรองผอ.ของแผนกดีไซน์เนอร์

"ผอ.หร่วน ไปกินข้าวไม่เรียกฉันเลยนะ?"

วันนี้ ฉันกินอาหารกลางวันที่โรงอาหารของบริษัท เจียงไหล เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย กำลังยกถาดอาหาร บิดเอวบางๆ นั่งลงตรงหน้าฉันอย่างมีจริต

"ฉันจะรีบกินรีบไปวาดแบบร่างให้เสร็จน่ะ"

หล่อนขยิบตาใส่ฉัน แล้วพูดอย่างจนปัญญา "อะไรกัน?"

"ช่วงเช้าฉันได้ยินแผนก HR บอกว่า เขาเลือกแคนดิเดทตำแหน่งผอ.ของแผนกดีไซน์เนอร์เอาไว้แล้ว!"

ใบหน้าแจ่มใสของหล่อนแผยรอยยิ้มกว้าง "ฉันเดาว่าต้องเป็นเธอแน่ ถึงได้มาแสดงความยินดีล่วงหน้านี่ไง? ร่ำรวย เฮงๆ ไปด้วยกันนะจ๊ะ"

"ก่อนที่ประกาศออกคำสั่งจะลงมา ใครมันจะคาดเดาได้ถูก? พูดให้มันเบาๆ หน่อย"

ผอ.ของแผนกลาออกไปเมื่อกลางเดือนนี้เอง ใครๆ ก็พูดว่า ตำแหน่งนี้ต้องเป็นของฉันแน่นอน

ตัวฉันเองก็ค่อนข้างมั่นใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็แอบกลัวว่าจะมีอะไรที่เหนือความคาดหมาย

"จะเดาไม่ถูกได้ไง? อย่าว่าแต่เธอเป็นภรรยาท่านประธาน..."

หล่อนพูดได้ครึ่งนึงก็กดเสียงต่ำ เพราะเรื่องที่ฉันกับฟู่ฉีชวนแต่งงานกันไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้ สังคมภายนอกรู้แค่ว่าฟู่ฉีชวนคลั่งรักภรรยา ทว่าไม่รู้ว่าภรรยาของเขาคือฉัน

จากนั้น หล่อนก็อวยฉันไม่หยุด

"ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาทำงานที่นี่ก็สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทั้งออกแบบแบรนด์ ทั้งงานแฮนด์เมดสั่งตัด มีตั้งกี่บริษัทที่อยากจะแย่งตัวเธอ! แล้วทำไมแซ่ฟู่จะไม่เลื่อนตำแหน่งให้เธอ?"

ขณะที่เจียงไหลเพิ่งจะพูดจบ โทรศัพท์ของฉันกับหล่อนก็ส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกัน

เป็นหนังสือประกาศคำสั่ง

เมื่อหล่อนเห็นตัวหนังสือตัวใหญ่ในอีเมล ดวงตาก็เป็นประกาย จับจ้องด้วยความตื่นเต้นขั้นสุด คิ้วก็ขมวดขึ้นมา แสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดเพราะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม

"ฟู่จินอัน ใครกัน?"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 3

    ฉันอึ้งไปอย่างแรงอ่านอีเมลนั้นซ้ำไปซ้ำมาอย่างละเอียด ราวกับกำลังเช็คให้แน่ใจก็ไม่ปานใช่แล้ว ไม่ผิดแน่ฟู่จินอัน ไม่รู้ว่าโผล่มาจากนั้น จู่ๆ ก็กลายเป็นผอ.แผนกดีไซน์เนอร์ เป็นหัวหน้าของฉัน"หรวนหร่วน เธอรู้จักหล่อนใช่ไหม?"เจียงไหลเห็นว่าฉันแปลกไป ก็ยื่นมือมาโบกตรงหน้าฉัน แล้วเอ่ยการคาดเดาของเธอฉันวางโทรศัพท์ลง "อืม หล่อนเป็นพี่สาวต่างพ่อต่างแม่ของฟู่ฉีชวน ที่ก่อนหน้านี้ฉันเคยเล่าให้เธอฟัง"หลังจากที่เรียบจบ ทุกคนก็แยกย้ายกันไป แต่ฉันกับเจียงไหลสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย สัญญากันเอาไว้ว่าจะอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงต่อด้วยกัน จะไม่ไปไหนทั้งนั้นเจียงไหลกระดกลิ้น "เช้ด เด็กเส้นหรอกหรอ!""..."ฉันไม่ได้พูดอะไรในใจก็พลางคิดว่า ไม่ใช่แค่เด็กเส้นธรรมดาด้วยสิ"สมองของฟู่ฉีชวนได้รับการกระทบกระเทือนหรือไง?"เจียงไหลแซะไม่หยุด ต่อสู้กับความอยุติธรรมแทนฉัน "มีสิทธิ์อะไร? ฉันไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำว่าวงการดีไซน์เนอร์มีเบอร์ต้นที่ชื่อนี้อยู่ แล้วดูฟู่ฉีชวนสิ ยกตำแหน่งผอ.ให้นางหน้าตาเฉย? แล้วเธอล่ะ เขาเอาเธอไปไว้ตรงไหน...""ช่างเถอะหน่า"ฉันขัดบทสนทนาของเธอ แล้วพูดเสียงเบา "ของพวกนี้มันไม่สำคัญหรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 4

    เขาแทบจะตอบรับในทันทีไม่ลังเลหรือครุ่นคิดสักนิดฉันโอบรอบคอของเขา ริมฝีปากทั้งสองด้านยกยิ้ม จับจ้องไปที่เขาไม่วางสายตา "สิบเปอร์เซ็น คุณไม่เสียดายหรอ?"แววตาของเขาบริสุทธิ์ "ก็ให้คุณ ไม่ได้ให้คนอื่นสักหน่อย"วินาทีนี้ฉันต้องยอมรับเลยว่า เงินเป็นสิ่งที่จะใช้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ได้ดีมากอารมณ์ที่ฝืนกดมันเอาไว้ตลอดช่วงบ่าย ในที่สุดก็ได้รับการปลอดล็อคฉันถามยิ้มๆ ราวกับอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง "แล้วถ้าเป็นพี่จินอัน คุณจะให้เธอหรือเปล่า?"เขาเงียบไปชั่วอึดใจ แล้วให้คำตอบที่แน่ชัด "ไม่ให้""จริงหรอ?""อืม ที่ผมจะให้เธอได้ ก็มีแค่ตำแหน่งนั้น"ฟู่ฉีชวนดึงฉันเข้าสู่อ้อมกอด น้ำเสียงอันอบอุ่นและมุ่งมั่นดังอยู่เหนือศีรษะของฉัน "หนังสือสัญญาโอนหุ้น ตอนบ่ายผมจะให้ฉินเจ๋อส่งมา นับจากวันนี้ไป คุณก็คือหนึ่งในเจ้าของของแซ่ฟู่กรุ๊ป ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นแค่ลูกน้องที่ทำงานให้คุณ""แล้วคุณล่ะ?"ฉันอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ก็ถามเขายิ้มๆเขาเลิกคิ้ว "อะไร?""คุณก็ทำงานให้ฉันด้วยหรือเปล่า?""แน่นอน"เขาหุบยิ้ม ลูบศีรษะของฉัน โน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหู พูดจาสองแง่สองง่าม "ผมให้บริการคุณได้ทั้งบนเตียงและหลังลงจากเตียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 5

    ทั้งที่รู้ว่าฟู่ฉีชวนกำลังรอฉันหล่อนที่ขออาศัยติดรถ กลับนั่งตำแหน่งข้างคนขับฉันอยากจะสะบัดหน้าแล้วเดินหนี แต่สติสัมปชัญญะสั่งให้ฉันหยุดความคิดนั้น แล้วยื่นมือไปหาฟู่ฉีชวน "กุญแจรถ"ฟู่ฉีชวนไม่ได้พูดอะไร แค่วางกุญแจรถลงบนมือฉันเดินอ้อมกระโปรงรถ เข้าไปนั่งบนตำแหน่งคนขับ ขณะที่ฟู่จินอันกำลังอึ้งและหน้าแข็งไป ฉันก็ยิ้มน้อยๆ "เครื่องแค่นี้เอง? พี่เองก็นับว่าเป็นพี่สาวของฉีชวน แค่ขอติดรถด้วยปกติจะตาย"จากนั้น ก็ยื่นหน้าออกไปมองฟู่ฉีชวนที่อยู่นอกรถ "รีบขึ้นรถสิคะ คุณปู่กำลังรอพวกเราอยู่แหงๆ"ตลอดทางเต็มไปด้วยความเงียบสงัดเงียบราวกับอยู่ในป่าช้าเดิมทีฟู่จินอันอยากจะคุยกับฟู่ฉีชวน แต่คงเป็นเพราะต้องหันหลังไปคุย ซึ่งอาจจะดูไม่ค่อยธรรมชาติอาจจะเป็นเพราะสังเกตได้ว่าฉันรู้สึกไม่ดี จู่ๆ ฟู่ฉีชวนก็เปิดกระป๋องเครื่องดื่มแล้วส่งให้ "น้ำมะม่วงที่คุณชอบ"ฉันดื่มไปคำนึง ก็ขมวดคิ้วแล้วส่งคืนกลับไป "หวานเกินไป คุณดื่มเถอะ"ช่วงนี้ฉันชอบกินของเปรี้ยวๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาเจออะไรที่ไม่ค่อยถูกปาก ฉันพอจะฝืนกินมันลงไปเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองแต่ตอนนี้ แค่คำเดียวก็ไม่สามารถฝืนได้"โอเค"ฟู่ฉีชวนไม่ได้พูดอะไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 6

    ฉันรู้สึกเหมือนตกลงไปในเหวที่เย็นเฉียบเลือดในร่างกายแทบจะหยุดแข็งมีวินาทีหนึ่งที่ฉันสงสัยว่า ตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่าฉันเคยสงสัยว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่ทุกครั้งก็ถูกปฏิเสธกลับอย่างชัดเจนแม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่ถ้าพูดออกไป คนหนึ่งคือคุณชายตระกูลฟู่ อีกคนคือคุณหนูตระกูลฟู่ ยังไงก็ถือว่าเป็นพี่น้องกันอยู่ดียิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งสองคนต่างก็แต่งงานแล้วฟู่ฉีชวนเป็นคนที่เพียบพร้อมขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้แต่ทว่า ไม่ไกลจากตรงนั้น ฟู่ฉีชวนที่มีดวงตาแดงก่ำกดฟู่จินอันไว้กับผนัง พูดเสียงเย้ยหยันและเย็นชาออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน"จะหย่าเพราะฉันอย่างนั้นเหรอ? ตอนแรกคนที่เลือกจะแต่งงานกับคนอื่นก็คือตัวเธอเอง ตอนนี้เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน?!""ฉัน..."คำถามที่มารัวๆ ทำให้ฟู่จินอันพูดไม่ออก น้ำตาไหลราวกับหยาดน้ำค้างที่หล่นลงมาไม่หยุด มือทั้งสองข้างจับชายเสื้อของฟู่ฉีชวนไว้อย่างไร้หนทาง"ฉันผิดไปแล้ว อาชวน ยกโทษให้ฉันสักครั้งได้ไหม? แค่ครั้งเดียว และตอนนั้นฉันก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ...""ฉันแต่งงานแล้ว""แต่งงานแล้วมันหย่าไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 7

    ฟู่ฉีชวนดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรฉันเม้มริมฝีปากเบาๆ แล้วพูดเสียงแผ่วว่า "แล้วคืนแต่งงานล่ะ เพราะอะไร?"ยังคงจำได้ลางๆ ว่าคืนนั้นฉันนั่งรออยู่ที่ระเบียงทั้งคืนคืนแต่งงาน เขาทิ้งภรรยาที่เพิ่งแต่งงานแล้วออกไปโดยไม่สนใจใยดีฉันคิดว่าคงเป็นเรื่องใหญ่โต เป็นห่วงความปลอดภัยของเขา อีกทั้งยังคิดฟุ้งซ่านว่าตัวเองทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า แต่ก็ยังคาดหวังว่าเขาจะกลับบ้านเร็วๆตอนนั้นฉันเพิ่งอายุยี่สิบสามปี บังเอิญได้แต่งงานกับคนที่แอบชอบมานานหลายปีจะไม่คาดหวังอะไรกับการแต่งงานและเขาได้อย่างไรแต่จนถึงวันนี้ ฉันถึงได้รู้ว่า ตอนที่ฉันนั่งรอเขากลับบ้านด้วยความหวังเต็มหัวใจ เขากลับไปอยู่กับผู้หญิงอีกคนทั้งหมดนี้ ช่างเหมือนกับเรื่องตลกเรื่องหนึ่งจริงๆตอนนี้ฟู่ฉีชวนไม่ได้ปิดบังฉันอีกแล้ว น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ "คืนนั้นเธอไปแข่งรถกับคนอื่นแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ตำรวจจึงแจ้งให้ฉันไปรับ"ช่างบังเอิญจริงๆในวันแต่งงานของฉันกับฟู่ฉีชวน เธอกลับเกิดอุบัติเหตุขึ้นในช่วงดึกแต่ฉันจำได้ว่าในงานเลี้ยงที่บ้านหลังงานแต่งเพียงไม่กี่วัน เธอก็อยู่ในงาน ทั้งยังไม่มีร่องรอยบาดเจ็บเลยสักนิดฉันล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 8

    ฉันไม่อยากเข้าใจในทันที แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเข้าใจเจียงไหลหัวเราะเบาๆ แล้วพูดวิจารณ์ว่า "ก็แค่ทั่วไปนั่นแหละ""..."ฉันมองเธอด้วยความประหลาดใจ ส่งสายตาเป็นคำถาม ???"เคยนอนด้วยครั้งหนึ่ง ประสบการณ์แย่มาก"เจียงไหลรีวิวอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าเฮ่อถิงจะอยู่ด้วยเฮ่อถิงโวยวาย "นั่นมันครั้งแรกของฉัน เธอจะไปรู้อะไร!""หยุด หยุด หยุด ฉันไม่ขอรับผิดชอบเรื่องนี้ นายเป็นคนเจ้าชู้ อย่ามาพูดถึงเรื่องครั้งแรกกับฉันเลย อย่างน้อยๆ ครั้งแรกของนายก็น่าจะเป็นกับมันหรือมันต่างหาก" เจียงไหลพูดขัดแล้วชี้ไปที่มือซ้ายและขวาของเขาฉันมองเฮ่อถิงที่ปกติมักจะทำตัวไม่จริงจัง แต่เมื่อเจียงไหลพูดแบบนี้ เขาก็หน้าแดงขึ้นมา และในที่สุดฉันก็เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันคือความสัมพันธ์แบบคืนเดียวเฮ่อถิงน่าจะกำลังตามจีบเจียงไหลเจียงไหลไม่สนใจเฮ่อถิงอีกต่อไป จูงมือฉันเดินไปที่ห้องวีไอพี "มีรุ่นพี่คนหนึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เฮ่อถิงกับพวกเขาจัดงานเลี้ยงให้ แล้วชวนฉันมาร่วมสนุก""รุ่นพี่คนไหนเหรอ?" ฉันถามเบาๆ"เธอน่าจะรู้จักนะ ก็คือ..."เจียงไหลพูดขณะเปิดประตูห้องวีไอพีในห้องวีไอพีมีผู้ชายหลายคนนั่งอยู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 9

    ทุกการกระทำเหล่านั้นเหมือนตบหน้าฉันอย่างแรงรู้สึกเจ็บไปจนถึงกระดูกฉันเคยจินตนาการถึงฉากแบบนี้หลายครั้งหลายครามองไปมองมา แม้ฉันจะอยู่ในบ้าน แต่กลับรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว"หนานจือ ตื่นแล้วเหรอ?"ฟู่จินอันหันมาเห็นฉัน แล้วยิ้มทักทาย "มาลองชิมฝีมือการทำอาหารของอาชวนสิ รับรองว่าอร่อย"พูดจบ เธอก็ยกอาหารไปที่โต๊ะเหมือนเป็นนายหญิงของบ้านฉันสูดหายใจลึกๆ แล้วมองข้ามเธอไปถามฟู่ฉีชวนตรงๆ "ทำไมเธอถึงมาที่บ้าน?"ฟู่ฉีชวนตักอาหารจานสุดท้ายใส่จานแล้วถอดผ้ากันเปื้อนออก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เธอจะออกไปหลังจากกินอาหารมื้อนี้เสร็จ""คุณไม่มีหัวใจเลยหรือไง? จะไล่ฉันจริงๆ เหรอ?" ฟู่จินอันถลึงตาใส่เขา"ฟู่จินอัน พอแค่นี้เถอะ! อย่าสร้างปัญหาให้ฉันอีก" ฟู่ฉีชวนพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เหมือนความอดทนของเขาหมดลงแล้ว"ใจแคบจริง"ฟู่จินอันพึมพำแล้วดึงฉันไปที่โต๊ะอาหารราวกับว่าคนที่ร้องไห้ขอให้สามีฉันหย่ากับฉันเมื่อวานไม่ใช่เธอ คนที่พยายามหาทางพาสามีฉันออกจากบ้านไม่ใช่เธอฟู่ฉีชวนมีฝีมือทำอาหารมาก กับข้าวห้าอย่างกับซุปหนึ่งอย่าง หน้าตาน่ากินและมีกลิ่นหอมยวนใจถึงฉันไม่กิน แต่ลูกในท้องก็ต้องกินในเมื่อเธอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 10

    วันครบรอบการจากไปของพ่อแม่ฉันก็ตรงกับวันเสาร์นี้พอดีช่วงเช้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เสร็จแล้วก็ไปเยี่ยมหลุมศพพ่อแม่ได้ไม่น่าจะใช้เวลามากนักแต่ไม่รู้ทำไม กลับรู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ ทำให้ฉันไม่กล้าพูดออกไปอย่างมั่นใจไม่สามารถบอกฟู่ฉีชวนไปเมื่อวานนี้ได้ว่าฉันตั้งครรภ์แล้วและไม่สามารถบอกเจียงไหลในตอนนี้อย่างมั่นใจได้ว่าจะพาฟู่ฉีชวนไปด้วยกลัวว่าแผนที่วางไว้จะตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ฉีชวนกับฟู่จินอัน สำหรับฉันแล้วมันเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดในทุกเมื่อเจียงไหลเห็นฉันไม่ค่อยมีอารมณ์สนใจนัก จึงเหลือบมองไปที่ออฟฟิศของฟู่จินอัน แล้วถามว่า "เรื่องนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์นั่น ฟู่ฉีชวนจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?""ก็คงประมาณนั้น"เราคุยกันอีกสักพัก จากนั้นเธอก็กลับไปแผนกการตลาดอย่างวางใจ…ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟู่จินอันเปลี่ยนนิสัยไปแล้ว หรือว่าจู่ๆ ก็คิดได้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา พวกเราอยู่กัยอย่างสงบสุขแต่เดิมฉันกังวลว่าการออกแบบรุ่นพิเศษสำหรับปีใหม่อาจจะติดขัดเพราะเธอ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นจนเข้าสู่ขั้นตอนการทำต้นแบบ"พวกเธอคิดว่าคนที่เพิ่งเข้ามามีความสัมพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 204

    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับเศรษฐีรุ่นสองที่พูดเรื่องเงินตลอดเวลา"ช่างมันเถอะ ฉันจะไปถามคนอื่น"ทันทีที่ฉันพูดจบ ฉันก็ก้าวเดินเข้าไปข้างในฉันเพิ่งกลับมาถึง เจียงไหลก็ก้าวออกมาจากห้องส่วนตัว ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดจากการร้องไห้ “กลับบ้านกันเถอะ”"ทุกอย่างเรียบร้อยไหม?"ฉันหยิบเสื้อคลุมจากมือของเธอแล้วพาดไว้บนไหล่ของเธอเธอสูดหายใจและดวงตาของเธอแจ่มใส "อืม จากนี้ไป ไม่ว่าเขาจะแต่งงานหรือไม่ก็ตาม มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉันก็ชื่นชมความเด็ดขาดของเธอ ความสามารถในการปล่อยวางอย่างหมดจดของเธอขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน เจียงไหลกำลังรับผิดชอบการขับรถอยู่ ทันใดนั้น ฉันก็ได้รับสายจากลู่สือเยี่ยนหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นและถามว่า "หนานจือ คุณคือคนที่อยู่กับโจวฟางเมื่อกี้ใช่ไหม?"ฉันตกใจไปครู่หนึ่ง แต่ฉันไม่ได้โกหกเขา "ใช่ ฉันเอง... คุณรู้ได้ยังไง"โจวฟางปิดบังฉันไว้อย่างมิดชิดแม้แต่ฟู่ฉีชวนก็ถามแค่เรื่องรองเท้าเท่านั้นและถึงอย่างนั้น น้ำเสียงของเขาก็ยังไม่แน่ใจแต่ลู่สือเยี่ยนเดาได้จริงๆ ว่าเป็นฉันทางโทรศัพท์ ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นค

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 203

    ดูเหมือนว่าคนที่ตกลงกับฉันเมื่อวานไม่ใช่เขาฉันโกรธ และพูดไม่ออก "คุณไม่ได้สัญญากับฉันว่าจะไม่บอกใครหรอกเหรอ?""?"โจวฟางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "สิ่งที่ฉันสัญญากับคุณคือจะไม่บอกใครว่าคุณกำลังแอบดูและยังบันทึกวิดีโอด้วย""..."ไม่เป็นไรตามตรรกะนั้น เขาก็ไม่ได้ผิดเลย ดังนั้นเป็นความผิดของฉันที่ไม่อธิบายตัวเองให้ชัดเจนงั้นเหรอ?"คุณมีความแค้นต่อตระกูลฟู่หรือเปล่า?""ก็ไม่หนิ"โจวฟางมองฉันด้วยความสับสนแล้วพูดว่า "คุณไม่เข้าใจสงครามธุรกิจที่โหดร้ายเหรอ หลังจากติดตามฟู่ฉีชวนมาสามปี เขาก็ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้คุณเลยเหรอ?"ฉันอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะความตรงไปตรงมาของเขาช่างน่ากลัว และยังเป็นเพราะคำถามที่สองของเขาด้วยฉันบีบฝ่ามือแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ไม่"หลังจากติดตามฟู่ฉีชวนมาสามปี เขาสอนอะไรฉันบ้าง? ความเป็นอิสระ ความอดทน ความอดกลั้น และความทุ่มเท....นอกจากการรักษาระยะห่างอย่างสุภาพแล้ว เราไม่เคยมีบทสนทนาที่จริงจังเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกลอุบายของโลกธุรกิจคราวนี้ถึงคราวของโจวฟางที่ต้องตกตะลึง เขายกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจและพูดว่า "คุณน่าสนใจเลยทีเดียว""คุณก็น่าสนใจเหมื

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 202

    ขอร้องเขาเหรอ?หัวเขากระแทกประตูหรือไง!ฉันปล่อยมือเขา ไม่สนใจอีกต่อไปว่าฟู่ฉีชวนหรือลู่สือเยี่ยนจะเห็นฉันหรือไม่ ฉันยอมแพ้และหันหลังเดินจากไปทันใดนั้น ดวงตาของฉันก็มืดลง เสื้อคลุมยาวของผู้ชายพร้อมฮู้ดถูกสวมทับตัวฉัน และฉันถูกนำทางอย่างชาญฉลาดกลับไปที่ราวบันได เพื่อหลีกเลี่ยงการมองเห็นโดยคนสองคนนั้นกลิ่นมิ้นต์สดชื่นลอยเข้าจมูกของฉันฉันค่อนข้างเข้ากันได้กับโจวฟางฝีเท้าของฟู่ฉีชวนดูเหมือนจะหยุดชะงักชั่วขณะ และฉันได้ยินเสียงที่ไม่สุภาพของโจวฟาง "ประธานฟู่ สนใจเรื่องส่วนตัวระหว่างคู่รักหนุ่มสาวมาก"ฟู่ฉีชวนดูเหมือนจะกำลังพินิจพิเคราะห์ เสียงของเขาทุ้มและอ่อนโยน "รองเท้าของแฟนคุณ ภรรยาของฉันดูเหมือนจะมีคู่เดียวกัน"หัวใจของฉันเต้นแรงนี่เป็นรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์หนึ่ง ในเมืองเจียงเฉิงมีเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น ซึ่งสามารถนับได้ด้วยมือเดียวแม้ว่าฉันจะไม่ได้แอบฟังความลับใดๆ เลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปอย่างเปิดเผย แต่ตอนนี้ที่โจวฟางเล่นกับฉันแบบนี้ ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อยฉันไม่กล้าขยับเลย"งั้นเหรอ?"โจวฟางหัวเราะเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าประธานฟู่จะไม่ค่อยสนใจภรรยาคน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 201

    ฉันอิ่มแล้ว ฉันเลยวางตะเกียบลงแล้วพูดว่า "เธอตกลงที่จะพบเขาเหรอ?"“ใช่ ฉันตกลง”เจียงไหลช่วยฉันเก็บกล่องอาหารเดลิเวอรี่ “วันก่อนเขายังไม่โตเลย เขาไม่ฟังคำพูดของฉัน บางอย่างก็อธิบายทางโทรศัพท์ได้ยาก ฉันเลยคิดว่าจะพบเขาอีกครั้งแล้วค่อยเคลียร์กันให้เรียบร้อย”ฉันพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันสนับสนุนเธอ”"คุณจะไปกับฉันไหม?""ไปสิ"ฉันยิ้มและพูดเล่น: "ถ้าฉันไม่ไป แล้วถ้าเขามัดคุณแล้วขายคุณล่ะ"สถานที่ที่พวกเขานัดกันไว้ยังคงเป็นคลับเฮาส์เจียงไหลพาฉันเข้าไปในห้องส่วนตัวอย่างสบายๆ หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉันก็พูดว่า "เธอเข้าไปเถอะ ถ้าฉันอยู่ด้วย เธอจะพูดอะไรไม่ได้ ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้เลย ฉันจะเข้าไปทันที""โอเค"เจียงไหลพยักหน้าและผลักประตูเปิดออกฉันยืนอยู่หน้าประตู มองดูพนักงานเสิร์ฟถือจานผลไม้และจานเดินไปมา ฉันรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในที่ที่ดีนัก จึงเดินช้าๆ ไปที่สวนลอยฟ้าใกล้ๆเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ค่ำคืนในเมืองเจียงเฉิงจะชื้นและหนาวเย็นอย่างไรก็ตาม คลับเฮาส์แห่งนี้ได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการออกแบบสวนลอยฟ้าที่สวยงามและหรูหราสวนหินไหลด้วยน้ำที่ไหลเอื่อยๆ และมีพืชหายากมากมายในฤดูใบไม้ร่วงแล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 200

    เจียงไหลจ้องมองอย่างว่างเปล่า"ไม่ได้งั้นเหรอ?""เป็นแบบนั้นนั่นแหละ"ฉันไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะโน้มน้าวชายคนนั้นให้ไปเอาใบหย่ามาได้เจียงไหลเห็นว่าฉันอารมณ์ไม่ดี เธอก็ปลอบใจฉัน: "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งมีเจตนาที่จะจากไป มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น นอกจากนี้ คุณได้บรรลุข้อตกลงในทุกสิ่งแล้ว ยกเว้นใบหย่า มันก็ถือว่าคุณหย่าแล้ว"ฉันยิ้มและคุยกับเธอสักพัก จากนั้นการสนทนาก็เปลี่ยนไป “แล้วเธอล่ะ เฮ่อถิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาเธอเหรอ?”ตอนที่เราย้ายบ้าน เฮ่อถิงช่วยเราย้ายบ้าน พูดถึงเรื่องนี้ พอนึกดูดีๆ ฉันยังติดเลี้ยงข้าวเขาอยู่เลยเขาคงยังจำที่อยู่นี้ได้ถึงแม้จะไม่รู้ แค่ถามฟู่ฉีชวนก็คงรู้แล้วเจียงไหลลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเธอแผ่วเบา "ไม่ เขาไม่กล้ามาบ้านคุณหรอก""ทำไมล่ะ?""เขากลัวฟู่ฉีชวนที่สุด""......"……ต่อมา ฉันไม่อยากทำอาหาร แต่ทักษะการทำอาหารของเจียงไหลน่าประทับใจมาก ฉันเลยสั่งอาหารเดลิเวอรี่แทนเจียงไหลกินข้าวและคุยเล่นในขณะที่ปัดโทรศัพท์เป็นครั้งคราวทันใดนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าตะลึงงันว่า “โอ้พระเจ้า แม่ลูกคู่นั้นทะเลาะกันที

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 199

    เวินฟางถูกผลักออกไปอย่างไม่ทันระวังตัวและล้มลงบนพื้น เบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดขณะมองฟู่จินอันด้วยความไม่เชื่อ "ฟู่จินอัน... แกผลักฉันงั้นเหรอ? ตั้งแต่แกยังเด็ก ฉันหาอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่ดีที่สุดแก่แกเสมอมา นี่คือวิธีที่แกตอบแทนตอนนี้เหรอ?""ถ้าแม่ดีกับฉันจริงๆ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นตอนนี้!”ฟู่จินอันดูขุ่นเคืองและนั่งยองๆ ลงไปจับผมของเธอ เรียกร้องทีละคำ "ถ้าต้องการอะไร ก็คว้ามันมาด้วยตัวเอง แม่ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้ฉันเองหรอกเหรอ? ทำไมคุณถึงตำหนิฉันที่ทำแบบนี้ แม่... ฉันไม่เชื่อฟังแม่เหรอ?""...ไม่ใช่"เวินฟางตกตะลึง สับสนระหว่างความเกลียดชังและความเสียใจ "ฉันไม่เคยสอนเธอเรื่องนี้เลย… ไม่เคยเลย ไม่แม้แต่ครั้งเดียว!"“ฉันไม่เคย… ฉันไม่เคยสอนแกแบบนั้น… มันไม่จริง!!”ยิ่งเธอพูด เธอก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น ทันใดนั้น เธอก็ลุกขึ้นและวิ่งออกไปพร้อมกับเถียงตัวเอง พูดจาไม่รู้เรื่องฟู่จินอันมองไปทางที่เธอจากไปและจู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา จากนั้นก็มองมาที่ฉันด้วยความเกลียดชัง "แกพอใจไหม? แกภูมิใจไหมที่เห็นพวกเราแม่ลูกเป็นแบบนี้""ก็เฉยๆ"ฉันพูดเบาๆไม่ได้น่าพอใจจริงๆ ฉันแค่รู้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 198

    เวินฟางเสียสติและกดดูวิดีโอทันทีโดยไม่สนใจเสียงที่เร่าร้อนและคลุมเครือที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ของเธอฟู่จินอันก็มองดูการค้นหาที่ร้อนแรงอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน และตอนนี้ที่เธอได้ยินเสียงนี้ เธอก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น และเสียงของเธอก็สั่นเทา "แม่....""เพี้ยะ!"เวินฟางตบเธออย่างแรง ตาของเธอแดงก่ำ และสาปแช่งด้วยความโกรธ "แม่เหรอ? แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าแม่อีกเหรอ! ฟู่เหวินไห่เป็นพ่อเลี้ยงของแก แกเข้าใจไหม? แกอ้าขาให้พ่อเลี้ยงของแกเหรอ?"เธอเคยปกป้องและตามใจฟู่จินอันมาก แต่ตอนนี้เธอเกลียดอีกฝ่ายอย่างมากความรู้สึกที่ถูกแทงข้างหลังโดยคนที่สนิทที่สุดย่อมเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนที่เธอถูกหลินเนี่ยนทรยศมากฟู่จินอันไม่สนใจแม้แต่ความเจ็บปวดจากการตบ เธอทรุดตัวลงคุกเข่าทันทีพร้อมกับเสียงดัง “แม่… ไม่ใช่ฉัน… มันไม่จริง!”"แกกำลังบอกฉันว่าวิดีโอนี้และทุกสิ่งในอินเตอร์เน็ตเป็นของปลอมเหรอ?!"เวินฟางโกรธจัด ตาของเธอโปนด้วยความโกรธ ถ่มน้ำลายขณะที่เธอตะโกนใส่ฟู่จินอันเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป และฟู่จินอันก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ เธอใช้เวลานานมากในการหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง น้ำตาไหลนองหน้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 197

    "โอ้"ฉันพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ยิ้มขณะที่ถามคำถามโหดร้าย: “แล้วถ้าเธอเอาของที่เป็นของคุณไปล่ะ?”เมื่อถูกถาม เวินฟางยังคงไม่รู้ตัว แต่ฟู่จินอันมีความรู้สึกผิดขึ้นมาสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปมาก เธอปกปิดความตื่นตระหนกและพูดอย่างจริงจัง: "หร่วนหนานจือ เธอกำลังทำอะไร? ตอนนี้เธอไม่ได้แค่พยายามขโมยอาชวน เธอกำลังพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างฉันกับแม่ด้วยเหรอ?""แม่ ไปกันเถอะ"เธอพูดพร้อมกับดึงเวินฟางและอยากจะจากไป กลัวว่าฉันจะพูดอะไรอีกเวินฟางปฏิเสธและปกป้องฟู่จินอันไว้ข้างหลังเธอ เหยียดหลังตรงด้วยความดูถูกและเหยียดหยามในดวงตาของเธอ"จินอันพูดถูก อย่าพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างเราแม่ลูก ฉันรู้ว่าเธอเติบโตมาโดยไม่มีพ่อหรือแม่ แม้ว่าเหวินไห่และฉันจะแต่งงานกันครั้งที่สอง แต่เขาก็รักจินอันเสมอมาเหมือนกับว่าเธอเป็นลูกของเขาเอง จินอันมีครอบครัวที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรักมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ลึกๆ แล้ว เธอคงอิจฉาลูกฉันมากใช่มั้ยล่ะ?"“ใช่แล้ว”ฉันพยักหน้าอย่างไม่ยอมรับความจริงและพูดอย่างมีความหมายว่า "พ่อตาของฉันรักฟู่จินอันมาก"ขณะที่ฉันพูด ฉันมองไปที่ฟู่จินอันอย่างใจเย็น พร้อมยิ้มอ่อน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 196

    ถ้าเป็นตามปกติ ฉันคงรู้สึกโกรธแต่ตอนนี้ ฉันพบว่าการปรากฏตัวของพวกเขาตลกมาก และมันยังช่วยคลายความหงุดหงิดของฉันไปได้มากฉันยิ้มเบาๆ และพูดสองคำออกไป: “ไม่ได้หย่า”รอยยิ้มของพวกเขาชะงักในทันที แต่ฟู่จินอันไม่เชื่อและเยาะเย้ย "จะเป็นไปได้ยังไง? อาชวนแจ้งอำเภอโดยเฉพาะและยืนกรานที่จะขอใบหย่าจากเธอทันที หร่วนหนานจือ อย่าดื้อรั้น มันเป็นแค่การหย่าร้าง ไม่มีอะไรน่าละอาย"ฉันยักไหล่และพูดอย่างตั้งใจว่า "งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ บางทีพวกเขาอาจทนไม่ได้ที่จะแยกทางกับฉันอีกครั้งก็ได้นะ ท้ายที่สุดแล้ว ความเมตตาของคู่รักก็อยู่ได้เป็นร้อยวัน และไม่ใช่ทุกคนจะเทียบได้"“หร่วนหนานจือ ความไร้ยางอายของเธอนี่มัน…”ฟู่จินอันจ้องมองฉันด้วยความเกลียดชังราวกับว่าเธอต้องการถลกหนังฉันให้ตายทั้งเป็น เวินฟางหยุดเธอด้วยมือและขัดจังหวะ "ลูกอายุสามสิบปีแล้ว ลูกยังปล่อยให้เธอปั่นหัวง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง?"จากนั้นก็หันมามองฉันอย่างไม่รีบร้อนและพูด: "เธอพูดความจริงงั้นเหรอ?"“ทำไมคุณไม่ถามเขาเองล่ะ?”มันเป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆ แต่เธอกลับเข้าไปถามจริงๆเธอเดินเข้าไปในสำนักงานด้วยความมั่นใจ “ฉันเป็นแม่ของฟู่ฉีชวน”ห

DMCA.com Protection Status