Share

บทที่ 10

Author: เล่อเอิน
last update Last Updated: 2024-09-27 11:51:23
วันครบรอบการจากไปของพ่อแม่ฉันก็ตรงกับวันเสาร์นี้พอดี

ช่วงเช้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เสร็จแล้วก็ไปเยี่ยมหลุมศพพ่อแม่ได้

ไม่น่าจะใช้เวลามากนัก

แต่ไม่รู้ทำไม กลับรู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ ทำให้ฉันไม่กล้าพูดออกไปอย่างมั่นใจ

ไม่สามารถบอกฟู่ฉีชวนไปเมื่อวานนี้ได้ว่าฉันตั้งครรภ์แล้ว

และไม่สามารถบอกเจียงไหลในตอนนี้อย่างมั่นใจได้ว่าจะพาฟู่ฉีชวนไปด้วย

กลัวว่าแผนที่วางไว้จะตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง

ความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ฉีชวนกับฟู่จินอัน สำหรับฉันแล้วมันเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดในทุกเมื่อ

เจียงไหลเห็นฉันไม่ค่อยมีอารมณ์สนใจนัก จึงเหลือบมองไปที่ออฟฟิศของฟู่จินอัน แล้วถามว่า "เรื่องนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์นั่น ฟู่ฉีชวนจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?"

"ก็คงประมาณนั้น"

เราคุยกันอีกสักพัก จากนั้นเธอก็กลับไปแผนกการตลาดอย่างวางใจ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟู่จินอันเปลี่ยนนิสัยไปแล้ว หรือว่าจู่ๆ ก็คิดได้

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา พวกเราอยู่กัยอย่างสงบสุข

แต่เดิมฉันกังวลว่าการออกแบบรุ่นพิเศษสำหรับปีใหม่อาจจะติดขัดเพราะเธอ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นจนเข้าสู่ขั้นตอนการทำต้นแบบ

"พวกเธอคิดว่าคนที่เพิ่งเข้ามามีความสัมพันธ์อะไรกับท่านรองประธานหรือเปล่า?"

"ใครจะไปรู้ล่ะ"

"ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าใช่ภรรยาของท่านรองประธานที่เขาลือกันหรือเปล่า แต่หลายวันนี้ก็ไม่เห็นเธอจะมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับท่านรองประธานเลย"

"อาจจะเป็นเพราะเธอไม่อยากให้เป็นที่สนใจก็ได้ เคยเห็นใครเคยได้รับการต้อนรับแบบนั้นบ้างล่ะ ท่านรองประธานเป็นคนพาเข้ามาทำงานด้วยตัวเองเลยนะ"

"แต่ก็ไม่แน่ว่าเธอจะใช่ภรรยารองประธานสักหน่อย บางทีอาจจะเป็นมือที่สามก็ได้"

วันนั้นตอนที่เข้าไปพักผ่อนเพื่อเติมน้ำ ก็ได้ยินคนกำลังนินทาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฟู่ฉีชวนพอดี

พอหันกลับไป ก็เห็นฟู่จินอันกำลังมองฉันด้วยสีหน้าประหลาด

"เดิมทีฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกได้ใจ"

"?"

ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร

แต่กลับกลายเป็นว่าเพื่อนร่วมงานที่กำลังซุบซิบกันอยู่ พอเห็นฉันก็รีบหนีไปทันที เหมือนกับนกที่ตกใจเสียงธนู

ชั่วขณะนั้น ในห้องพักผ่อนก็เหลือแค่ฉันกับฟู่จินอันสองคน

เธอยิ้มเยาะนิดๆ วางแก้วน้ำลงใต้เครื่องชงกาแฟแล้วถามว่า "ทำไมเธอถึงดูใจเย็นอยู่ตลอดเวลา? แพ้ก็ไม่เห็นเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ชนะก็ไม่เห็นเธอดีใจสักนิด"

"..."

ฉันไม่ได้มีอารมณ์จะคุยเปิดใจด้วย จึงเทน้ำมะนาวใส่แก้วแล้วหันหลังเดินออกไป

ฟู่จินอันหัวเราะขึ้นมาเบาๆ "ฉันแค่ทนเห็นเธอเป็นแบบนี้ไม่ได้ เธอคิดว่าเธอชนะแล้วหรือยังไง? หร่วนหนานจือ อนาคตยังอีกยาวไกลนะ"

ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา

ฉันขมวดคิ้ว "วันนี้ไม่ได้กินยาหรือไง?"

"อะไรนะ?"

"ลองไปหาจิตแพทย์บ้างนะ ไม่ต้องประหยัดหรอก ถึงเงินของคุณพ่อสามีฉันจะไม่มากมายอะไร แต่ก็น่าจะพอให้ลูกเลี้ยงอย่างเธอไปซื้อยามากินได้บ้าง"

ฉันพูดทิ้งไว้แล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

เพิ่งจะก้าวเข้าห้องทำงาน ก็ได้ยินเสียงบางอย่างตกกระทบพื้นดังมาจากทางห้องพักผ่อน

แค่นี้ถึงกับขว้างปาของเลยเหรอ?

งั้นคงต้องกินยาจริงๆ แล้วล่ะ

ตอนเย็นหลังเลิกงาน ฟู่ฉีชวนรอฉันอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน

หลายวันนี้ เขากลายเป็นคนคลั่งรักภรรยาตามที่คนในเน็ตพูดถึงจริงๆ แล้ว

ไปทำงานด้วยกัน กลับบ้านด้วยกันทุกวัน แล้วก็ให้ฉินเจ๋อส่งชาและขนมตอนบ่ายมาให้ฉันที่ออฟฟิศเป็นประจำ บางทียังมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้ฉันอีกด้วย

"เย็นนี้อยากกินอะไร?"

พอฉันขึ้นรถ ฟู่ฉีชวนก็ถามขึ้นทันที

ฉันหันไปมองเขา ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "คุณจะทำอาหารอีกแล้วเหรอ?"

ช่วงนี้ตอนเย็นเขาเป็นคนทำอาหารตลอด

บางทีป้าหลิวก็มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว เหมือนกลัวว่าตัวเองจะตกงาน

ฟู่ฉีชวนขับรถออกจากที่จอดรถด้วยมือข้างเดียว น้ำเสียงของเขาชัดเจนและอ่อนโยน "เบื่อแล้วหรือไง?"

"เปล่า แค่แปลกใจน่ะ แต่ก่อนคุณไม่ค่อยทำอาหารที่บ้านเลย"

"จากนี้ถ้าผมอยู่บ้าน ผมจะทำอาหารเอง"

"โห"

แน่นอนว่าฉันไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว

แม้ว่าฉันจะรู้แล้วว่าเขาเรียนทำอาหารจากใครมา แต่ตราบใดที่เขาตัดขาดจากฟู่จินอัน มันก็ไม่กระทบอะไรกับฉัน

เธอต่างหากที่ควรจะโกรธ เพราะเธอเป็นคนสอนเขาแทนฉัน

พอกลับถึงบ้าน ฟู่ฉีชวนก็เปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านแล้วเข้าไปทำอาหารในครัว

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง แสงอาทิตย์สีส้มที่ลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ส่องกระทบเขาเหมือนมีออร่าอ่อนๆ จับอยู่รอบตัว ทำให้เขาดูอบอุ่นขึ้นมาก

เขาหลุบตามองต่ำ มือเรียวสวยกำลังจัดการกับวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว

ภาพนี้ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขและสวยงาม

บางทีอาจเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาของฉัน เขาจึงหันมามองแล้วยิ้มอ่อนๆ "มองผมอยู่แต่ใจลอยไปถึงไหนเนี่ย?"

"ก็แค่อยากมองคุณเฉยๆ"

ฉันตอบกลับไปอย่างไม่ปิดบัง

มองสามีของตัวเองก็ไม่เห็นน่าอายตรงไหน

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังหน้าตาดีเหมือนกับผลงานชิ้นเอกที่พระเจ้าตั้งใจสร้างด้วย

เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ส่งเสียงดังขึ้นก่อน

เขากำลังจัดการกับปลาอยู่ มือไม่ว่างเลยพูดว่า "ที่รัก ช่วยรับสายให้หน่อยสิ"

"ได้"

ฉันเดินไปข้างๆ เขา ยื่นมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา ความรู้สึกอายเล็กๆ บังเกิดขึ้นมา

ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของฉันกับเขาส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเตียง

เมื่ออยู่นอกเตียง เราต่างให้เกียรติกันและกัน

เมื่อเห็นว่าฉันไม่ขยับ เขาหันมามองแล้วเย้าแหย่ว่า "เป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว ยังจะอายอะไรอีก? แค่ให้หยิบโทรศัพท์เองนะ ไม่ได้ให้หยิบอย่างอื่น"

"เปล่านะ..."

แก้มของฉันร้อนขึ้นเล็กน้อย ยื่นมือเข้าไปอย่างระมัดระวังเพื่อหยิบโทรศัพท์ กลัวจะไปจับโดนกับสิ่งที่ไม่ควรจับ

แต่สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ สัมผัสโดนจุดที่อ่อนไหวของเขาผ่านเนื้อผ้า

ฉันล้วงโทรศัพท์ออกมาด้วยความอาย เงยหน้าขึ้นเจอเขามองด้วยสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งอยู่

เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากฉินเจ๋อ ฉันกดรับสายแล้วกำลังจะส่งโทรศัพท์ให้เขา แต่เขาบอกว่า "คุณรับเถอะ ถามเขาว่ามีธุระอะไร"

"คุณฉิน ฟู่ฉีชวนไม่สะดวกตอนนี้ มีอะไรหรือคะ?" ฉันถาม

"นายหญิง"

ฉินเจ๋อรู้ว่าเป็นเสียงของฉัน จึงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า "ไม่มีเรื่องด่วนครับ แค่มีรายละเอียดสัญญาที่อยากให้ท่านประธานยืนยัน แต่รอถึงวันจันทร์ก็ได้ครับ"

เรื่องนี้ ฉันกับฟู่ฉีชวนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

หลายวันนี้ ฉันง่วงนอนง่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เขาไปเดินย่อยอาหารในสวนหลังทานอาหารเย็นเป็นเพื่อน ฉันก็รู้สึกง่วงนอนมาก

ฉันขึ้นไปอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนหลับไปทันที

เดิมทีฉันนอนหลับสบายมาก แต่เพราะนอนเร็วไป เลยตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะปวดฉี่

เมื่อเปิดไฟก็พบว่าด้านข้างเตียงว่างเปล่า

ฟู่ฉีชวนไม่อยู่

ฉันตั้งสติกลับมาได้นิดหน่อย และได้ยินเสียงดังแว่วมาจากระเบียง

เป็นเสียงของฟู่ฉีชวนที่ฟังดูเครียดและเย็นชา "ถ้าเธออยากตายก็ยื่นมีดให้เธอไปเลย! ถ้าต้องเรียกรถพยาบาลก็เรียกไป! โทรหาฉันทำไม? ฉันเป็นหมอหรือเป็นตำรวจหรือไง?"

"เธอไม่กล้าหรอก! กี่ครั้งแล้วที่เธอทำเป็นจะฆ่าตัวตาย แต่ครั้งไหนที่ได้เห็นเลือดบ้าง?"

"บอกเธอไปเลยว่าฉันจะไม่หย่า! ให้เธอเลิกคิดเรื่องนี้ซะ!"

สุดท้ายเขาลดเสียงลงอีก และสั่งว่า "แต่อย่าให้เธอเกิดเรื่องจริงๆ ล่ะ ส่งคนไปดูแลให้ดีๆ"

ประโยคสุดท้ายนั้นฉันไม่ได้ยินชัดเจนเท่าไร

เขาหันหลังให้ฉัน มือข้างหนึ่งพาดอยู่บนราวระเบียง ทั้งตัวเขาแผ่ความหงุดหงิดและความไม่พอใจออกมา

ความยึดติดของฟู่จินอันที่มีต่อเขานั้นแรงกล้ามาก ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกหมดหนทาง

แต่โชคดีที่ฟู่ฉีชวนครั้งนี้ดูจะไม่ยอมตามใจเธออีก

ฉันเข้าห้องน้ำเสร็จ แต่ก็หลับต่อไม่ค่อยลง

ไม่นาน ฟู่ฉีชวนก็เข้ามา เขาค่อยๆ กอดฉันเข้ามาในอ้อมแขน ความเย็นจากอากาศในคืนต้นฤดูใบไม้ร่วงที่ติดมากับตัวเขาทำให้รู้สึกสบาย

แต่พอฉันตื่นขึ้นมาอีกที กลับไม่เห็นเขาอีกแล้ว

ฉันลงไปหาทั่วทั้งชั้นล่าง แต่ก็ไม่เห็นเขาแม้แต่เงาเลย

ทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้ว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกันแท้ๆ

ป้าหลิวบอกว่า "นายหญิง คุณผู้ชายออกไปตั้งแต่เช้ามืด เหมือนว่าจะมีเรื่องด่วนค่ะ"

ฉันอึ้งไปชั่วครู่

ตั้งใจจะโทรหาเขา แต่พึ่งนึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์อยู่ข้างบน เลยตัดสินใจใช้โทรศัพท์บ้านแทน

ไม่ทันไร เขาก็รับสายด้วยเสียงที่แสดงถึงความเหนื่อยล้า "ฮัลโหล"

ฉันสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเขา "เกิดอะไรขึ้น?"

"หนานจือ พอจะให้ป้าหลิวไปโรงพยาบาลกับเธอแทนได้ไหม? วันนี้ฉันคงไปไม่ได้"

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 11

    ความหวังทั้งหมดดับวูบลงในทันที รู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัวหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง คงจะเป็นแบบนี้นี่เองฉันถือโทรศัพท์ไว้ในมือ แต่พูดอะไรไม่ออกอยู่นานอยากจะถามอะไรบางอย่าง แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่มีความหมายอะไรแล้วเขาไปที่ไหน มันชัดเจนอยู่แล้วฉันพูดกับเขาไว้แล้วว่าจะไม่มีครั้งหน้าดังนั้น นี่ก็แสดงว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วไม่ใช่หรือ?คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่มีใครไม่รู้จักการเลือกและการพิจารณาผลดีผลเสียหรอกฉันคือคนที่ถูกเขาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แล้วถูกทิ้งไปคนนั้นฉันยกมือขึ้นลูบท้องโดยไม่รู้ตัว และคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าควรจะเก็บเด็กคนนี้ไว้จริงๆ หรือถ้าหากฉันเก็บเด็กคนนี้ไว้ ต่อให้ฉันอยากตัดขาดกับเขา ก็ยากที่จะตัดขาดได้อย่างสมบูรณ์สิทธิในการเลี้ยงดูลูกก็คือปัญหาใหญ่ที่ปลายสาย เขาเรียกฉันเบาๆ "หนานจือ?""อืม"ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก หรืออาจจะบอกได้ว่า ในเวลานี้ ฉันไม่อยากพูดอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียวหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันขับรถไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองที่อยากให้เขามาด้วย เพราะตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ให้เขาทำไมต้องลำบากคุณป้าหลิวด้วย ฉันยังไม่ได้ท้องโตจนขยับตัวลำบากสักหน่อยบางทีเพราะในใจสับสนวุ่นวายมาก รถค

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 12

    ครั้งที่สามแล้วสามครั้งที่ฉันพยายามจะบอกเขา แต่เขากลับปฏิเสธทุกครั้งคิดๆ ดูแล้ว ก็คงไม่มีวาสนากันมั้งฉันก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้บอกเขา แบบนี้จะได้หย่ากันได้อย่างง่ายมากขึ้นเมืองเจียงเฉิงใหญ่ขนาดนี้ หย่ากันแล้วคงยากที่จะเจอกันอีกบางทีตลอดชีวิตนี้เขาอาจจะไม่มีวันรู้ว่าเรามีลูกด้วยกันคนหนึ่งก็ได้เจียงไหลฟังความคิดของฉันแล้วก็เห็นด้วย "ลูกคงไม่อยากมีพ่อที่แย่แบบนี้หรอก ไม่บอกเขาก็ดีแล้ว"ตอนที่ให้น้ำเกลือเสร็จและเดินออกจากโรงพยาบาล ก็เพิ่งบ่ายสองกว่าๆเจียงไหลควงแขนฉันเดินไปที่ลานจอดรถ ขณะเดินไปก็พูดว่า "รถของเธอส่งไปซ่อมที่ศูนย์แล้ว ชนค่อนข้างหนักต้องใช้เวลาซ่อมประมาณหนึ่งอาทิตย์ รอซ่อมเสร็จแล้วฉันจะไปเอารถกับเธอเอง ช่วงนี้ถ้าอยากไปไหนก็แค่โทรหาฉัน คนขับรถเสี่ยวเจียงคนนี้จะมาบริการเธอทันที""..."ฉันหัวเราะทั้งน้ำตา "เธอจะคอยอยู่ใกล้ๆ ฉันตลอดเวลาเลยหรือไง ไม่ทำงานแล้วเหรอ? ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันยังมีรถอีกคัน"ฟู่ฉีชวนอาจไม่เคยให้ความรักอะไรกับฉัน แต่ทั้งบ้าน รถ และเงิน ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกขาดอะไรเลยแต่เขาไม่รู้เลยว่า สิ่งเดียวที่ฉันต้องการก็คือความรัก"หมอบอกแล้วว่าเธอต้องกลับบ้านไปพักผ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 13

    "อะไรนะ?"ฉันรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะฟู่ฉีชวนทำหน้าเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญ "ลู่สือเยี่ยน""คืนนั้นไม่ใช่เขาหรอกหรือที่ส่งคุณกลับมา? เขาเพิ่งกลับมา คุณก็รีบแจ้นไปหาเขาทันที" น้ำเสียงของเขาทั้งเยาะเย้ยทั้งเสียดสีตัวเองฉันขมวดคิ้วแน่น มองตรงเข้าไปในสายตาของเขาและพูดอย่างไม่เชื่อว่า "คุณกำลังบอกว่าฉันชอบลู่สือเยี่ยนงั้นเหรอ?""ไม่ใช่เหรอ?" เขาเหยียดยิ้มออกมา ทั้งเย็นชาและเย้ยหยันในสายตาฉัน มันช่างเป็นการดูถูกอย่างที่สุดความรู้สึกโกรธแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนพุ่งขึ้นมา ฉันยกมือขึ้นตบหน้าเขาเต็มแรง "ฟู่ฉีชวน คุณมันเลว!"แม้ฉันจะพยายามควบคุมตัวเอง แต่ใบหน้าก็ยังคงเปียกชื้นไปหมดร้องไปๆ ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้มันช่างน่าขำเหลือเกินฉันรักเขาอย่างหมดใจมาตลอดหลายปี สุดท้ายกลับได้รับเพียงคำพูดว่า คุณจะหย่ากับผมเพราะผู้ชายคนอื่นหรือ?มันช่างน่าผิดหวังเหลือเกินไม่รู้เจียงไหลมาถึงตั้งแต่เมื่อไร ด้านหลังเธอมาเฮ่อถิงตามมาด้วยเจียงไหลดึงฉันออกไปข้างนอก พร้อมกับมองเฮ่อถิงที่ยืนตกตะลึงแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า "ยืนเซ่ออะไรอยู่? มาช่วยขนของสิ คิดว่าฉันเรียกมาดูละครหรือไง?"เฮ่อถิงมองกระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็มองฉ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 14

    เรายังไม่ได้หย่ากันจริงๆ เลย เธอรีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอมูลค่าหุ้นสูงเกินไป จนเหมือนถ่านร้อนที่ฉันก็ไม่อยากเก็บไว้ในมือเพียงแต่แค่ไม่อยากให้ฟู่จินอันสมปรารถนาเร็วก็เท่านั้นฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย "เธอกำลังถามฉันในฐานะอะไร?"ฟู่จินอันหัวเราะเบาๆ อย่างถือตัว "หรือเธอคิดจะฮุบหุ้นไว้? นั่นเป็นของที่อาชวนให้ภรรยาของเขา ถ้าเธอหย่ากันแล้ว หุ้นก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป!""เธอยังไม่ได้ไปหาหมออีกเหรอ?"ฉันถามด้วยท่าทางสงสัย "ต้องรักษาให้เร็วนะ ไม่งั้นถ้าปล่อยไว้จนยาเอาไม่อยู่ คงต้องส่งไปที่ศูนย์บำบัดแล้วล่ะ"เธอหรี่ตาลง "หรวนหร่วน เธอกำลังด่าว่าฉันบ้าหรือไง?!"ฉันขี้เกียจเถียงกับเธอ จึงถามเสียงเรียบๆ "ได้รับใบลาออกของฉันแล้วใช่ไหม? เร่งอนุมัติให้หน่อยล่ะ""ต้องให้บอกด้วยเหรอ? ฉันส่งให้ฝ่ายบุคคลตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว" เธอคงอยากให้ฉันไสหัวออกตั้งแต่วันนี้แล้วฉันไม่ตอบอะไรอีก นั่งลงที่โต๊ะทำงานแล้วเริ่มจัดการงานที่ต้องส่งต่อฟู่ฉีชวนก็คงอยากให้ฉันออกไปเร็วๆ เหมือนกันเรื่องการลาออก น่าจะเสร็จภายในวันสองวันนี้แล้วฟู่จินอันเห็นว่าฉันไม่ยอมตอบโต้ก็เริ่มร้อนใจ "ไม่ว่ายังไง เธอก็ต้องคืนหุ้นมา อย่าหน้าด้านไปหน่อ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 15

    เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉันก็รู้สึกได้ว่า นอกจากคุณปู่แล้ว ยังมีสายตาอีกคู่ที่จับจ้องมาที่ฉันอย่างแน่วแน่คำถามนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกไม่อยากโกหกคุณปู่ แต่ถ้าพูดความจริง คุณปู่จะต้องไม่ยอมให้เราหย่ากันแน่นอนฉันลังเลอยู่นาน ยังไม่ทันได้พูดอะไร คุณปู่ก็รู้ทันและพูดขึ้นว่า "เอาล่ะ ปู่รู้แล้ว ก็ถือว่าเห็นแก่ปู่หน่อยเถอะนะ ไอ้เด็กคนนี้น่ะ โตมาโดยไม่มีแม่อยู่ข้างกาย ถึงได้โตมามีนิสัยแบบนี้ อย่าไปถือสาเขาเลย"แล้วคุณปู่ก็ดึงหูของฟู่ฉีชวนพร้อมพูดว่า "ถ้าแกคิดว่าฉันตายยากยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของแกเกินไป ก็ทำให้ฉันโมโหตายไปซะเลยสิ พอฉันตายแล้ว แกอยากจะหย่าเมื่อไรก็ได้ ไม่มีใครมาขวางแกอีก""นี้ถึงกับต้องขู่กันด้วยชีวิตแล้วเหรอครับ?" ฟู่ฉีชวนพูดด้วยรอยยิ้มแฝงความประชดประชัน"พูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง?!"คุณปู่โกรธจัด เตรียมจะตีเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฟู่ฉีชวนหลบได้ แล้วตอบแบบยอมจำนนว่า "ผมเข้าใจแล้วครับ ผมยังไงก็ได้ คุณปู่ลองถามเธอเถอะ"ท่าทางที่ดูไม่สนใจอะไรเลยนั้นอีกแล้วพูดจบ เขาก็ดูนาฬิกาข้อมือแล้วบอกว่า "ผมจะไปประชุมนะ"เขาออกไปอย่างง่ายดาย ปล่อยให้ฉันอยู่กับคุณปู่เพียงลำพังหลังจากผ่านไปสักพัก คุณปู

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 16

    พอมองเวลา ก็ตีสองกว่าแล้วเขาไม่ใช่ว่าเลิกงานพร้อมกับฟู่จินอันหรอกหรือทำไมถึงไปดื่มเหล้ากับพวกเฮ่อถิงแล้วล่ะ ฟังจากเฮ่อถิง ฟู่จินอันเหมือนจะไม่ได้อยู่ด้วยพอโทรศัพท์ไปหา ก็ปิดเครื่องไปแล้ว น่าจะแบตหมดฉันทำได้แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้าน โบกรถตรงไปจุดรวมตัวเก่าในวันปกติของพวกเขา คลับเฮาส์ส่วนตัวแห่งหนึ่งตอนไปถึง คนก็แยกย้ายกันเกือบหมดแล้วในห้องเหมาเหลือแค่เฮ่อถิงกับลู่สือเยี่ยนและยังมีฟู่ฉีชวนในชุดสูทสั่งตัด หลับขาไขว้กันอยู่บนโซฟาอีกคนหนึ่งพอเห็นฉัน เฮ่อถิงก็ทำหน้าจำใจ "พี่สะใภ้ พี่ชวนวันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เอาแต่ดึงสือเยี่ยนให้ดื่มเหล้าอยู่นั่นล่ะ ห้ามก็ไม่ฟัง""..."ฉันเหมือนเดาเหตุผลได้รางๆเขายังคงดื้อแพ่งเข้าใจว่า ระหว่างฉันกับลู่สือเยี่ยนมีอะไรกันสินะผู้ชายก็เป็นแบบนี้ ตัวเองจะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามให้ภรรยามีความเป็นไปได้ที่จะสวมเขาแม้แต่น้อยต่อให้ความเป็นไปได้จุดนี้ จะมาจากความสงสัยที่ไม่มีมูลของเขาฉันมองอย่างขอโทษไปทางลู่สือเยี่ยนที่ดูสง่าอ่อนโยนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ "รุ่นพี่ พี่ยังไหวไหม ชั้นเอายาแก้แฮงค์มาด้วย จะกินหน่อยไหม?"เขาเหมือนถูกกรอกเหล้าลงไปไม่น้อย สายตาเลื่อนลอยไปแ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 17

    สิบกว่านาทีต่อมา รถจึงค่อยๆ แล้วเข้ามาในบ้าน"ถึงบ้านแล้ว ฟู่ฉีชวน" ฉันเปิดประตูพร้อมกับร้องเรียกคิดไม่ถึง ว่าผู้ชายที่เมาจนไม่เป็นผู้เป็นคน จะล้มตะแคงลงมาตามการเปิดประตูของฉันฉันขมวดคิ้ว ทำได้แค่กัดฟันประคองเขาไว้ "เธอออกแรงเองบ้างได้มั๊ย?"ไม่มีปฏิกิริยาทำได้แค่โทรศัพท์เรียกป้าหลิวที่กำลังหลับฝันหวาน ให้ออกมาช่วยประคองฟู่ฉีชวนกลับเข้าห้อง"นายหญิง จะให้ชั้นช่วยอะไรไหมคะ?" ป้าหลิวถาม"ไม่ต้องแล้ว คุณรีบไปนอนต่อเถอะ"ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เดิมทีก็รบกวนคนจนตื่นจากฝันแล้ว ไม่อยากจะรบกวนให้มากกว่านี้หลังจากป้าหลิวออกไป ฉันก็ต้องมาทนกับอาการอึดอัดที่ถูกกลิ่นแอลกอฮอล์รมจนแทบจะอาเจียน ก้มเอวลงถอดรองเท้าหนังกับปลดเข็มขัดให้ฟู่ฉีชวน จากนั้นจึงยืดตัวตรงเตรียมลงไปชั้นล่างพอหมุนตัวกลับรู้สึกว่ามือของตนเองจู่ๆ ถูกกุมเอาไว้เขาหลับตามงึมงำ "คุณภรรยา...""..."อันที่จริงฉันไม่คิดว่าเขากำลังเรียกฉันที่เป็นไปได้มากกว่า คือเขากับฟู่จินอันน่าจะพัฒนากันไปจนถึงขั้นเรียกสามีภรรยากันแล้วฉันยื่นมือไปเลิกหนังตาของเขา "ฟู่ฉีชวน เธอมองดีดีว่าชั้นเป็นใคร""คุณภรรยา..."เขาไม่ให้ความร่วมมือเลย ขณะที่พลิกตั

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 18

    ทั้งที่คั่นด้วยเนื้อผ้าชั้นหนึ่งแท้ๆ แต่ผิวที่เอวกลับร้อนจนแทบลวกฉันเหมือนเหมือนถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ขยับตัวไม่ได้เลย ยังดีที่ความรู้สึกนึกคิดยังแจ่มชัดอยู่ "พวกเราพูดกันชัดเจนแล้ว ชั้นไม่ยอมแต่งงานไปเป็นคนที่สามที่คั่นกลางอยู่หรอก""ขอโทษ" หน้าผากชายหนุ่มดันแผ่นหลังของฉัน พูดเสียงอู้อี้ออกมาจะใจอ่อนไหมแน่นอนว่าใช่ใครบ้างที่ลบความรู้สึกหลายปีออกไปได้ง่ายๆ ในชั่วข้ามคืนฉันอยากจะโพล่งออกมาเหลือเกิน ว่าจะให้โอกาสเขาอีกสักครั้งแต่เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ก็ร้องเอะอะขึ้นในสมองฉันตลอดเลือกเขา หรือว่าจะเลือกตัวเองฉันพ่นลมออกมา "ฟู่ฉีชวน เธอรู้อยู่แล้วว่ามันผิด แต่ต่อมาก็ยังทำผิดอีก สิ่งนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลย"ครั้งนี้ ฉันเลือกตัวเองเลือกเขามาแล้วถึงเจ็ดปี เพียงพอแล้วฟู่ฉีชวนนิ่งงันไปนาน ไม่พูดอะไร"ปล่อยมือเถอะ พวกเราเดินมาได้เท่านี้แหละ" ฉันในอดีตไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าจะมีวันที่ฉันจะพูดเย็นชาแบบนี้กับฟู่ฉีชวนชอบเขาข้างเดียวคืออะไร มันคือการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของตนเองครั้งหนึ่งแค่สายตาเดียวของอีกฝ่าย หรือแค่คล้องนิ้วกัน ก็แจ้นออกไปอย่างดีอกดีใจแล้วมีความสุขสนุกสน

    Last Updated : 2024-09-27

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 204

    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับเศรษฐีรุ่นสองที่พูดเรื่องเงินตลอดเวลา"ช่างมันเถอะ ฉันจะไปถามคนอื่น"ทันทีที่ฉันพูดจบ ฉันก็ก้าวเดินเข้าไปข้างในฉันเพิ่งกลับมาถึง เจียงไหลก็ก้าวออกมาจากห้องส่วนตัว ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดจากการร้องไห้ “กลับบ้านกันเถอะ”"ทุกอย่างเรียบร้อยไหม?"ฉันหยิบเสื้อคลุมจากมือของเธอแล้วพาดไว้บนไหล่ของเธอเธอสูดหายใจและดวงตาของเธอแจ่มใส "อืม จากนี้ไป ไม่ว่าเขาจะแต่งงานหรือไม่ก็ตาม มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉันก็ชื่นชมความเด็ดขาดของเธอ ความสามารถในการปล่อยวางอย่างหมดจดของเธอขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน เจียงไหลกำลังรับผิดชอบการขับรถอยู่ ทันใดนั้น ฉันก็ได้รับสายจากลู่สือเยี่ยนหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นและถามว่า "หนานจือ คุณคือคนที่อยู่กับโจวฟางเมื่อกี้ใช่ไหม?"ฉันตกใจไปครู่หนึ่ง แต่ฉันไม่ได้โกหกเขา "ใช่ ฉันเอง... คุณรู้ได้ยังไง"โจวฟางปิดบังฉันไว้อย่างมิดชิดแม้แต่ฟู่ฉีชวนก็ถามแค่เรื่องรองเท้าเท่านั้นและถึงอย่างนั้น น้ำเสียงของเขาก็ยังไม่แน่ใจแต่ลู่สือเยี่ยนเดาได้จริงๆ ว่าเป็นฉันทางโทรศัพท์ ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นค

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 203

    ดูเหมือนว่าคนที่ตกลงกับฉันเมื่อวานไม่ใช่เขาฉันโกรธ และพูดไม่ออก "คุณไม่ได้สัญญากับฉันว่าจะไม่บอกใครหรอกเหรอ?""?"โจวฟางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "สิ่งที่ฉันสัญญากับคุณคือจะไม่บอกใครว่าคุณกำลังแอบดูและยังบันทึกวิดีโอด้วย""..."ไม่เป็นไรตามตรรกะนั้น เขาก็ไม่ได้ผิดเลย ดังนั้นเป็นความผิดของฉันที่ไม่อธิบายตัวเองให้ชัดเจนงั้นเหรอ?"คุณมีความแค้นต่อตระกูลฟู่หรือเปล่า?""ก็ไม่หนิ"โจวฟางมองฉันด้วยความสับสนแล้วพูดว่า "คุณไม่เข้าใจสงครามธุรกิจที่โหดร้ายเหรอ หลังจากติดตามฟู่ฉีชวนมาสามปี เขาก็ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้คุณเลยเหรอ?"ฉันอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะความตรงไปตรงมาของเขาช่างน่ากลัว และยังเป็นเพราะคำถามที่สองของเขาด้วยฉันบีบฝ่ามือแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ไม่"หลังจากติดตามฟู่ฉีชวนมาสามปี เขาสอนอะไรฉันบ้าง? ความเป็นอิสระ ความอดทน ความอดกลั้น และความทุ่มเท....นอกจากการรักษาระยะห่างอย่างสุภาพแล้ว เราไม่เคยมีบทสนทนาที่จริงจังเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกลอุบายของโลกธุรกิจคราวนี้ถึงคราวของโจวฟางที่ต้องตกตะลึง เขายกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจและพูดว่า "คุณน่าสนใจเลยทีเดียว""คุณก็น่าสนใจเหมื

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 202

    ขอร้องเขาเหรอ?หัวเขากระแทกประตูหรือไง!ฉันปล่อยมือเขา ไม่สนใจอีกต่อไปว่าฟู่ฉีชวนหรือลู่สือเยี่ยนจะเห็นฉันหรือไม่ ฉันยอมแพ้และหันหลังเดินจากไปทันใดนั้น ดวงตาของฉันก็มืดลง เสื้อคลุมยาวของผู้ชายพร้อมฮู้ดถูกสวมทับตัวฉัน และฉันถูกนำทางอย่างชาญฉลาดกลับไปที่ราวบันได เพื่อหลีกเลี่ยงการมองเห็นโดยคนสองคนนั้นกลิ่นมิ้นต์สดชื่นลอยเข้าจมูกของฉันฉันค่อนข้างเข้ากันได้กับโจวฟางฝีเท้าของฟู่ฉีชวนดูเหมือนจะหยุดชะงักชั่วขณะ และฉันได้ยินเสียงที่ไม่สุภาพของโจวฟาง "ประธานฟู่ สนใจเรื่องส่วนตัวระหว่างคู่รักหนุ่มสาวมาก"ฟู่ฉีชวนดูเหมือนจะกำลังพินิจพิเคราะห์ เสียงของเขาทุ้มและอ่อนโยน "รองเท้าของแฟนคุณ ภรรยาของฉันดูเหมือนจะมีคู่เดียวกัน"หัวใจของฉันเต้นแรงนี่เป็นรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์หนึ่ง ในเมืองเจียงเฉิงมีเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น ซึ่งสามารถนับได้ด้วยมือเดียวแม้ว่าฉันจะไม่ได้แอบฟังความลับใดๆ เลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปอย่างเปิดเผย แต่ตอนนี้ที่โจวฟางเล่นกับฉันแบบนี้ ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อยฉันไม่กล้าขยับเลย"งั้นเหรอ?"โจวฟางหัวเราะเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าประธานฟู่จะไม่ค่อยสนใจภรรยาคน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 201

    ฉันอิ่มแล้ว ฉันเลยวางตะเกียบลงแล้วพูดว่า "เธอตกลงที่จะพบเขาเหรอ?"“ใช่ ฉันตกลง”เจียงไหลช่วยฉันเก็บกล่องอาหารเดลิเวอรี่ “วันก่อนเขายังไม่โตเลย เขาไม่ฟังคำพูดของฉัน บางอย่างก็อธิบายทางโทรศัพท์ได้ยาก ฉันเลยคิดว่าจะพบเขาอีกครั้งแล้วค่อยเคลียร์กันให้เรียบร้อย”ฉันพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันสนับสนุนเธอ”"คุณจะไปกับฉันไหม?""ไปสิ"ฉันยิ้มและพูดเล่น: "ถ้าฉันไม่ไป แล้วถ้าเขามัดคุณแล้วขายคุณล่ะ"สถานที่ที่พวกเขานัดกันไว้ยังคงเป็นคลับเฮาส์เจียงไหลพาฉันเข้าไปในห้องส่วนตัวอย่างสบายๆ หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉันก็พูดว่า "เธอเข้าไปเถอะ ถ้าฉันอยู่ด้วย เธอจะพูดอะไรไม่ได้ ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้เลย ฉันจะเข้าไปทันที""โอเค"เจียงไหลพยักหน้าและผลักประตูเปิดออกฉันยืนอยู่หน้าประตู มองดูพนักงานเสิร์ฟถือจานผลไม้และจานเดินไปมา ฉันรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในที่ที่ดีนัก จึงเดินช้าๆ ไปที่สวนลอยฟ้าใกล้ๆเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ค่ำคืนในเมืองเจียงเฉิงจะชื้นและหนาวเย็นอย่างไรก็ตาม คลับเฮาส์แห่งนี้ได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการออกแบบสวนลอยฟ้าที่สวยงามและหรูหราสวนหินไหลด้วยน้ำที่ไหลเอื่อยๆ และมีพืชหายากมากมายในฤดูใบไม้ร่วงแล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 200

    เจียงไหลจ้องมองอย่างว่างเปล่า"ไม่ได้งั้นเหรอ?""เป็นแบบนั้นนั่นแหละ"ฉันไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะโน้มน้าวชายคนนั้นให้ไปเอาใบหย่ามาได้เจียงไหลเห็นว่าฉันอารมณ์ไม่ดี เธอก็ปลอบใจฉัน: "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งมีเจตนาที่จะจากไป มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น นอกจากนี้ คุณได้บรรลุข้อตกลงในทุกสิ่งแล้ว ยกเว้นใบหย่า มันก็ถือว่าคุณหย่าแล้ว"ฉันยิ้มและคุยกับเธอสักพัก จากนั้นการสนทนาก็เปลี่ยนไป “แล้วเธอล่ะ เฮ่อถิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาเธอเหรอ?”ตอนที่เราย้ายบ้าน เฮ่อถิงช่วยเราย้ายบ้าน พูดถึงเรื่องนี้ พอนึกดูดีๆ ฉันยังติดเลี้ยงข้าวเขาอยู่เลยเขาคงยังจำที่อยู่นี้ได้ถึงแม้จะไม่รู้ แค่ถามฟู่ฉีชวนก็คงรู้แล้วเจียงไหลลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเธอแผ่วเบา "ไม่ เขาไม่กล้ามาบ้านคุณหรอก""ทำไมล่ะ?""เขากลัวฟู่ฉีชวนที่สุด""......"……ต่อมา ฉันไม่อยากทำอาหาร แต่ทักษะการทำอาหารของเจียงไหลน่าประทับใจมาก ฉันเลยสั่งอาหารเดลิเวอรี่แทนเจียงไหลกินข้าวและคุยเล่นในขณะที่ปัดโทรศัพท์เป็นครั้งคราวทันใดนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าตะลึงงันว่า “โอ้พระเจ้า แม่ลูกคู่นั้นทะเลาะกันที

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 199

    เวินฟางถูกผลักออกไปอย่างไม่ทันระวังตัวและล้มลงบนพื้น เบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดขณะมองฟู่จินอันด้วยความไม่เชื่อ "ฟู่จินอัน... แกผลักฉันงั้นเหรอ? ตั้งแต่แกยังเด็ก ฉันหาอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่ดีที่สุดแก่แกเสมอมา นี่คือวิธีที่แกตอบแทนตอนนี้เหรอ?""ถ้าแม่ดีกับฉันจริงๆ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นตอนนี้!”ฟู่จินอันดูขุ่นเคืองและนั่งยองๆ ลงไปจับผมของเธอ เรียกร้องทีละคำ "ถ้าต้องการอะไร ก็คว้ามันมาด้วยตัวเอง แม่ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้ฉันเองหรอกเหรอ? ทำไมคุณถึงตำหนิฉันที่ทำแบบนี้ แม่... ฉันไม่เชื่อฟังแม่เหรอ?""...ไม่ใช่"เวินฟางตกตะลึง สับสนระหว่างความเกลียดชังและความเสียใจ "ฉันไม่เคยสอนเธอเรื่องนี้เลย… ไม่เคยเลย ไม่แม้แต่ครั้งเดียว!"“ฉันไม่เคย… ฉันไม่เคยสอนแกแบบนั้น… มันไม่จริง!!”ยิ่งเธอพูด เธอก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น ทันใดนั้น เธอก็ลุกขึ้นและวิ่งออกไปพร้อมกับเถียงตัวเอง พูดจาไม่รู้เรื่องฟู่จินอันมองไปทางที่เธอจากไปและจู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา จากนั้นก็มองมาที่ฉันด้วยความเกลียดชัง "แกพอใจไหม? แกภูมิใจไหมที่เห็นพวกเราแม่ลูกเป็นแบบนี้""ก็เฉยๆ"ฉันพูดเบาๆไม่ได้น่าพอใจจริงๆ ฉันแค่รู้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 198

    เวินฟางเสียสติและกดดูวิดีโอทันทีโดยไม่สนใจเสียงที่เร่าร้อนและคลุมเครือที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ของเธอฟู่จินอันก็มองดูการค้นหาที่ร้อนแรงอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน และตอนนี้ที่เธอได้ยินเสียงนี้ เธอก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น และเสียงของเธอก็สั่นเทา "แม่....""เพี้ยะ!"เวินฟางตบเธออย่างแรง ตาของเธอแดงก่ำ และสาปแช่งด้วยความโกรธ "แม่เหรอ? แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าแม่อีกเหรอ! ฟู่เหวินไห่เป็นพ่อเลี้ยงของแก แกเข้าใจไหม? แกอ้าขาให้พ่อเลี้ยงของแกเหรอ?"เธอเคยปกป้องและตามใจฟู่จินอันมาก แต่ตอนนี้เธอเกลียดอีกฝ่ายอย่างมากความรู้สึกที่ถูกแทงข้างหลังโดยคนที่สนิทที่สุดย่อมเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนที่เธอถูกหลินเนี่ยนทรยศมากฟู่จินอันไม่สนใจแม้แต่ความเจ็บปวดจากการตบ เธอทรุดตัวลงคุกเข่าทันทีพร้อมกับเสียงดัง “แม่… ไม่ใช่ฉัน… มันไม่จริง!”"แกกำลังบอกฉันว่าวิดีโอนี้และทุกสิ่งในอินเตอร์เน็ตเป็นของปลอมเหรอ?!"เวินฟางโกรธจัด ตาของเธอโปนด้วยความโกรธ ถ่มน้ำลายขณะที่เธอตะโกนใส่ฟู่จินอันเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป และฟู่จินอันก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ เธอใช้เวลานานมากในการหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง น้ำตาไหลนองหน้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 197

    "โอ้"ฉันพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ยิ้มขณะที่ถามคำถามโหดร้าย: “แล้วถ้าเธอเอาของที่เป็นของคุณไปล่ะ?”เมื่อถูกถาม เวินฟางยังคงไม่รู้ตัว แต่ฟู่จินอันมีความรู้สึกผิดขึ้นมาสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปมาก เธอปกปิดความตื่นตระหนกและพูดอย่างจริงจัง: "หร่วนหนานจือ เธอกำลังทำอะไร? ตอนนี้เธอไม่ได้แค่พยายามขโมยอาชวน เธอกำลังพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างฉันกับแม่ด้วยเหรอ?""แม่ ไปกันเถอะ"เธอพูดพร้อมกับดึงเวินฟางและอยากจะจากไป กลัวว่าฉันจะพูดอะไรอีกเวินฟางปฏิเสธและปกป้องฟู่จินอันไว้ข้างหลังเธอ เหยียดหลังตรงด้วยความดูถูกและเหยียดหยามในดวงตาของเธอ"จินอันพูดถูก อย่าพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างเราแม่ลูก ฉันรู้ว่าเธอเติบโตมาโดยไม่มีพ่อหรือแม่ แม้ว่าเหวินไห่และฉันจะแต่งงานกันครั้งที่สอง แต่เขาก็รักจินอันเสมอมาเหมือนกับว่าเธอเป็นลูกของเขาเอง จินอันมีครอบครัวที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรักมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ลึกๆ แล้ว เธอคงอิจฉาลูกฉันมากใช่มั้ยล่ะ?"“ใช่แล้ว”ฉันพยักหน้าอย่างไม่ยอมรับความจริงและพูดอย่างมีความหมายว่า "พ่อตาของฉันรักฟู่จินอันมาก"ขณะที่ฉันพูด ฉันมองไปที่ฟู่จินอันอย่างใจเย็น พร้อมยิ้มอ่อน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 196

    ถ้าเป็นตามปกติ ฉันคงรู้สึกโกรธแต่ตอนนี้ ฉันพบว่าการปรากฏตัวของพวกเขาตลกมาก และมันยังช่วยคลายความหงุดหงิดของฉันไปได้มากฉันยิ้มเบาๆ และพูดสองคำออกไป: “ไม่ได้หย่า”รอยยิ้มของพวกเขาชะงักในทันที แต่ฟู่จินอันไม่เชื่อและเยาะเย้ย "จะเป็นไปได้ยังไง? อาชวนแจ้งอำเภอโดยเฉพาะและยืนกรานที่จะขอใบหย่าจากเธอทันที หร่วนหนานจือ อย่าดื้อรั้น มันเป็นแค่การหย่าร้าง ไม่มีอะไรน่าละอาย"ฉันยักไหล่และพูดอย่างตั้งใจว่า "งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ บางทีพวกเขาอาจทนไม่ได้ที่จะแยกทางกับฉันอีกครั้งก็ได้นะ ท้ายที่สุดแล้ว ความเมตตาของคู่รักก็อยู่ได้เป็นร้อยวัน และไม่ใช่ทุกคนจะเทียบได้"“หร่วนหนานจือ ความไร้ยางอายของเธอนี่มัน…”ฟู่จินอันจ้องมองฉันด้วยความเกลียดชังราวกับว่าเธอต้องการถลกหนังฉันให้ตายทั้งเป็น เวินฟางหยุดเธอด้วยมือและขัดจังหวะ "ลูกอายุสามสิบปีแล้ว ลูกยังปล่อยให้เธอปั่นหัวง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง?"จากนั้นก็หันมามองฉันอย่างไม่รีบร้อนและพูด: "เธอพูดความจริงงั้นเหรอ?"“ทำไมคุณไม่ถามเขาเองล่ะ?”มันเป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆ แต่เธอกลับเข้าไปถามจริงๆเธอเดินเข้าไปในสำนักงานด้วยความมั่นใจ “ฉันเป็นแม่ของฟู่ฉีชวน”ห

DMCA.com Protection Status