แชร์

บทที่ 16

ผู้เขียน: เล่อเอิน
พอมองเวลา ก็ตีสองกว่าแล้ว

เขาไม่ใช่ว่าเลิกงานพร้อมกับฟู่จินอันหรอกหรือ

ทำไมถึงไปดื่มเหล้ากับพวกเฮ่อถิงแล้วล่ะ ฟังจากเฮ่อถิง ฟู่จินอันเหมือนจะไม่ได้อยู่ด้วย

พอโทรศัพท์ไปหา ก็ปิดเครื่องไปแล้ว น่าจะแบตหมด

ฉันทำได้แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้าน โบกรถตรงไปจุดรวมตัวเก่าในวันปกติของพวกเขา คลับเฮาส์ส่วนตัวแห่งหนึ่ง

ตอนไปถึง คนก็แยกย้ายกันเกือบหมดแล้ว

ในห้องเหมาเหลือแค่เฮ่อถิงกับลู่สือเยี่ยน

และยังมีฟู่ฉีชวนในชุดสูทสั่งตัด หลับขาไขว้กันอยู่บนโซฟาอีกคนหนึ่ง

พอเห็นฉัน เฮ่อถิงก็ทำหน้าจำใจ "พี่สะใภ้ พี่ชวนวันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เอาแต่ดึงสือเยี่ยนให้ดื่มเหล้าอยู่นั่นล่ะ ห้ามก็ไม่ฟัง"

"..."

ฉันเหมือนเดาเหตุผลได้รางๆ

เขายังคงดื้อแพ่งเข้าใจว่า ระหว่างฉันกับลู่สือเยี่ยนมีอะไรกันสินะ

ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ ตัวเองจะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามให้ภรรยามีความเป็นไปได้ที่จะสวมเขาแม้แต่น้อย

ต่อให้ความเป็นไปได้จุดนี้ จะมาจากความสงสัยที่ไม่มีมูลของเขา

ฉันมองอย่างขอโทษไปทางลู่สือเยี่ยนที่ดูสง่าอ่อนโยนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ "รุ่นพี่ พี่ยังไหวไหม ชั้นเอายาแก้แฮงค์มาด้วย จะกินหน่อยไหม?"

เขาเหมือนถูกกรอกเหล้าลงไปไม่น้อย สายตาเลื่อนลอยไปแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 17

    สิบกว่านาทีต่อมา รถจึงค่อยๆ แล้วเข้ามาในบ้าน"ถึงบ้านแล้ว ฟู่ฉีชวน" ฉันเปิดประตูพร้อมกับร้องเรียกคิดไม่ถึง ว่าผู้ชายที่เมาจนไม่เป็นผู้เป็นคน จะล้มตะแคงลงมาตามการเปิดประตูของฉันฉันขมวดคิ้ว ทำได้แค่กัดฟันประคองเขาไว้ "เธอออกแรงเองบ้างได้มั๊ย?"ไม่มีปฏิกิริยาทำได้แค่โทรศัพท์เรียกป้าหลิวที่กำลังหลับฝันหวาน ให้ออกมาช่วยประคองฟู่ฉีชวนกลับเข้าห้อง"นายหญิง จะให้ชั้นช่วยอะไรไหมคะ?" ป้าหลิวถาม"ไม่ต้องแล้ว คุณรีบไปนอนต่อเถอะ"ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เดิมทีก็รบกวนคนจนตื่นจากฝันแล้ว ไม่อยากจะรบกวนให้มากกว่านี้หลังจากป้าหลิวออกไป ฉันก็ต้องมาทนกับอาการอึดอัดที่ถูกกลิ่นแอลกอฮอล์รมจนแทบจะอาเจียน ก้มเอวลงถอดรองเท้าหนังกับปลดเข็มขัดให้ฟู่ฉีชวน จากนั้นจึงยืดตัวตรงเตรียมลงไปชั้นล่างพอหมุนตัวกลับรู้สึกว่ามือของตนเองจู่ๆ ถูกกุมเอาไว้เขาหลับตามงึมงำ "คุณภรรยา...""..."อันที่จริงฉันไม่คิดว่าเขากำลังเรียกฉันที่เป็นไปได้มากกว่า คือเขากับฟู่จินอันน่าจะพัฒนากันไปจนถึงขั้นเรียกสามีภรรยากันแล้วฉันยื่นมือไปเลิกหนังตาของเขา "ฟู่ฉีชวน เธอมองดีดีว่าชั้นเป็นใคร""คุณภรรยา..."เขาไม่ให้ความร่วมมือเลย ขณะที่พลิกตั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 18

    ทั้งที่คั่นด้วยเนื้อผ้าชั้นหนึ่งแท้ๆ แต่ผิวที่เอวกลับร้อนจนแทบลวกฉันเหมือนเหมือนถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ขยับตัวไม่ได้เลย ยังดีที่ความรู้สึกนึกคิดยังแจ่มชัดอยู่ "พวกเราพูดกันชัดเจนแล้ว ชั้นไม่ยอมแต่งงานไปเป็นคนที่สามที่คั่นกลางอยู่หรอก""ขอโทษ" หน้าผากชายหนุ่มดันแผ่นหลังของฉัน พูดเสียงอู้อี้ออกมาจะใจอ่อนไหมแน่นอนว่าใช่ใครบ้างที่ลบความรู้สึกหลายปีออกไปได้ง่ายๆ ในชั่วข้ามคืนฉันอยากจะโพล่งออกมาเหลือเกิน ว่าจะให้โอกาสเขาอีกสักครั้งแต่เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ก็ร้องเอะอะขึ้นในสมองฉันตลอดเลือกเขา หรือว่าจะเลือกตัวเองฉันพ่นลมออกมา "ฟู่ฉีชวน เธอรู้อยู่แล้วว่ามันผิด แต่ต่อมาก็ยังทำผิดอีก สิ่งนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลย"ครั้งนี้ ฉันเลือกตัวเองเลือกเขามาแล้วถึงเจ็ดปี เพียงพอแล้วฟู่ฉีชวนนิ่งงันไปนาน ไม่พูดอะไร"ปล่อยมือเถอะ พวกเราเดินมาได้เท่านี้แหละ" ฉันในอดีตไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าจะมีวันที่ฉันจะพูดเย็นชาแบบนี้กับฟู่ฉีชวนชอบเขาข้างเดียวคืออะไร มันคือการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของตนเองครั้งหนึ่งแค่สายตาเดียวของอีกฝ่าย หรือแค่คล้องนิ้วกัน ก็แจ้นออกไปอย่างดีอกดีใจแล้วมีความสุขสนุกสน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 19

    บ้านหลังนี้ หลังจากเขาส่งมาถึงมือแันไม่กี่วัน ก็เริ่มตกแต่งแล้วเพื่อจะตกแต่งมัน ฉันลงแรงอย่างหนักเลยทีเดียวเขาไม่เคยถามถึงมาก่อนต่อให้ฉันกลับบ้านค่ำแค่ไหน อย่างมากสุดเขาก็แค่พูดออกมาตามมารยาทคำสองคำ อย่างกลับมาค่ำจัง หรือไม่ก็ดูท่างานออกแบบจะวุ่นมากไม่เคยมีสองคำนี้ ว่าฉันไปไหน ไปทำอะไรมาไม่อยู่ในขอบเขตที่เขาจำเป็นต้องมากังวลพอมาถึงขั้นที่ต้องหย่าร้าง ฉันเองก็ไม่คิดจะทนต่อไปอีก "น่าจะเป็นตอนที่เธอไปอยู่กับฟู่จินอันนั่นล่ะ"แล้วก็ตามคาด มองเห็นอาการแข็งทื่อบนหน้าเขาในใจฉันสบายขึ้นเยอะเลย"ชั้นกับหล่อนช่วงนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว""ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายกับชั้น"ตอนนี้ไม่จำเป็นอีกแล้ว ฉันพูดต่อว่า "ขอแค่เธอเต็มใจ รอให้เรื่องหย่าจัดการเสร็จก่อน จะแต่งหล่อนเข้าบ้านตอนไหนก็เชิญ""หร่วนหนานจือ ตอนนี้ทำไมเธอต้องพูดจาเหน็บแนมขนาดนี้?" เขาขมวดคิ้วแน่น เหมือนรู้สึกจำใจหน่อยๆ"แล้วชั้นควรต้องพูดว่าอะไรล่ะ?""ไม่ว่าจะหย่าหรือไม่หย่า หล่อนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับความสัมพันธ์ของพวกเรา""หลอกตัวเองแล้วยังหลอกคนอื่นอีก"ฉันทิ้งคำนี้ออกมา เดินไปโถงหน้าเปลี่ยนรองเท้าลงจากตึกโชเฟอร์รออยู่ในรถมาตลอด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 20

    ก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นพวกเอาคืนกับเรื่องเล็กๆ แค่นี้ฉันทำได้แค่กัดฟันเดินตามหลังเขาไป คิดไม่ถึงว่า ฉันยังไม่ทันอธิบาย คุณปู่ฟู่ก็ยิ้มแป้นแล้น เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นว่า"ได้ยินป้าหลิวบอกว่า หนานจือย้ายออกไปแล้วหรือ?""ใช่ค่ะ คุณปู่"ฉันทำได้แค่ยอมรับ ถ้าหากคุณปู่โกรธขึ้นมาค่อยหาวิธีปลอบเขาคุณปู่กลับไม่โมโหฉัน แต่ไปถลึงตาใส่ฟู่ฉีชวนแทน "เจ้าคนไม่ได้เรื่อง แค่ภรรยาของตัวเองก็ยังปกป้องไว้ไม่ได้!""คุณปู่ พูดกันด้วยเหตุผลหน่อย เป็นเธอที่ย้ายออกไปเอง แล้วผมจะทำอะไรได้?""หล่อนหนีไป แกก็ไม่รู้จักไล่ตามหรือ?"คุณปู่เตือนขึ้นอย่างหวังดี "แกนี่นะ ได้พ่อแกมาเต็มๆ เลย คานบนไม่ตรงอย่างไรคานล่างมันก็เอียงอย่างนั้น""แล้วปู่ไม่ใช่คานบนของพ่อผมหรือ?" ฟู่ฉีชวนหัวเราะขึ้นมา"ไอ้เด็กเวร!"ปู่คว้าถ้วยชาทำท่าจะเขวี้ยง แต่ก็วางลง ตั้งท่าจะพูดแต่ก็ยั้งไว้นาน สุดท้ายจึงพูดแค่ "หิวแล้ว กินข้าวเถอะ"ข้าวมือนี้กินกันอย่างสนุกสนานคุณปู่คีบกับข้าวให้ฉันบ่อยมาก ชามข้าวตรงหน้าฉันแทบจะกองขึ้นเป็นภูเขาย่อมๆ แล้ว"กินเยอะๆ หน่อย ดูหลานสิ ช่วงนี้ผอมเกินไปแล้ว กินเยอะๆ ให้มีน้ำมีนวลหน่อย""ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณปู

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 21

    "วางใจเถอะคุณปู่"ฉันคีบเต้าหู้หมักชิ้นหนึ่งให้คุณปู่ เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน "เขารังแกหนูไม่ได้หรอก"ถึงอย่างไร ก็จะหย่ากันอยู่แล้วนี่กินข้าวเสร็จ ฟู่ฉีชวนก็ลงไปเล่นหมากล้อมกับคุณปู่ที่เรือนหลังฉันคอยชงชาให้อยู่ข้างๆฟู่ฉีชวนฝีมือวางหมากซับซ้อนมหัศจรรย์มาก รีบไล่รีบปิดฉาก กินไปอีกกระดาน คุณปู่โมโหถลึงตาใส่เขา "แกคิดว่าเล่นกับคนนอกอยู่หรือไง ไม่คิดจะเหลือทางไว้ให้ปู่บ้าง?""ก็ได้"ฟู่ฉีชวนหัวเราะ หลังจากนั้นก็ต่อให้จริงๆ คุณปู่ก็ดูดีอกดีใจ หัวเราะอย่างเบิกบาน ชี้แนะมาคำหนึ่ง "เด็กอย่างแกนี่นะจงจำเอาไว้ คนในครอบครัวกับคนนอกนั้นแตกต่างกัน"ฉันยื่นถ้วยชาส่งออกไป "คุณปู่คะ ดื่มชาหน่อย""อืม"คุณปู่ขานรับคำหนึ่ง รับไปจิบๆ เอ่ยขึ้นอย่างปลื้มอกปลื้มใจ "ถ้าพวกแกปรองดองกันได้ตลอด วันที่ชั้นจะได้อุ้มเหลนก็คงอยู่ไม่ไกลแล้ว!""..."ใจฉันสั่นเล็กน้อย ยื่นมือมากุมท้องตัวเองด้วยสัญชาตญาณพอเห็นใบหน้าคุณปูที่แก่ตัวลงทุกวัน ก็เกิดความรู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาหน่อยๆถ้าหาก ระหว่างฉันกับฟู่ฉีชวนไม่มีเส้นแบ่งเหล่านั้น ไม่มีปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นฉันตอนนี้ก็คงบอกคุณปู่ได้ ว่าฉันตั้งท้องแล้ว คุณปู่ใกล้จะได้อุ้มเห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 22

    หมายความว่าอะไร?สงสัยว่าฉันยังไม่ทันหย่าก็จะสวมเขาให้เขาแล้วอย่างนั้นหรือ?เขาเป็นคนแบบนี้จริงๆฉันขี้เกียจจะอธิบาย เอ่ยขึ้นอย่างเป็นปกติ "เพื่อนสนิท""เพื่อนคนไหน?""ฟู่ฉีชวน"ฉันยิ้มขึ้นมา เอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน "คนตายเขาไม่ถามนั่นถามนี่หรอกนะ"ในเมื่อเขายอมจะเป็นแฟนเก่าที่ตายไปแล้ว เช่นนั้นทำตัวให้เหมือนตายหน่อยฟู่ฉีชวนเกือบจะโมโหออกมา ปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้ม หัวเราะเย็นชาออกมา "ได้"พอมาถึงสุสาน หลังจากลงรถ ฉันก็เดินตรงไปยังบันไดขึ้นเขาพอเห็นเขาไม่ตามมา แันจึงต้องหันกลับไปรอเขาพอหมุนตัว เห็นเขาหิ้วตะกร้าที่ไม่รู้ไปเตรียมมาตอนไหน ดอกเบญจมาศเหลือบกับขาวอยู่ด้านใน จึงอดตะลึงขึ้นมาไม่ได้ฉันเม้มปาก "ขอบคุณ""ขอบคุณอะไร? เดิมทีนี่ก็เป็นสิ่งที่ชั้นควรทำอยู่แล้ว" เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบรอจนเขาเดินตามขึ้นมา พวกเราจึงเดินเคียงไหลไปยังหลุมศพของพ่อแม่ฉันเช่นนี้ก็ดี แม้จะเป็นความรักใคร่ที่ปรากฏอยู่ในใจ แต่พ่อกับแม่ในปรโลกถ้ารู้เข้า ก็น่าจะวางใจได้ระดับหนึ่งกระมังสุสานมีคนมาคอยดูแลให้ตลอดทั้งปี ป้ายสุสานมีฝุ่นอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นพูดขึ้นมา พ่อแม่ของฉันจากไปตั้งหลายปีแล้ว อันที่จริงฉันก็ไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 23

    ไม่เช่นนั้น เครือตระกูลฟู่คงไม่ส่งต่อถึงมือฟู่ฉีชวนทันทีหรอก"แล้วเธอล่ะ มีชีวิตที่ดีไหม?" ฉันเงยหน้า มองดูเส้นกรามคมของเขา ถามขึ้นแช่มช้า"ก็สามปีนี้ที่แต่งงานกับเธอมา"เขายังคงฉีกยิ้ม ทอดถอนใจออกมาเสียหงนึ่ง "มีชีวิตที่ดีมาก"คำตอบนี้ ทำเอาฉันยิ่งอยากจะร้องไห้น่าจะเป็นความเสียดายกระมังเห็นๆ อยู่ ถ้าหากไม่มีเรื่องพวกนั้น พวกเขาก็สามารถครองรักกันจนแก่เฒ่าได้……ระหว่างทางกลับ ฉันกับเขาต่างฝ่ายต่างรู้ในใจ ไม่พูดอะไรกันอีกคำบางคำพูดมากไปก็ไร้ความหมายเขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนฉันเองก็อยู่อย่างมีไมตรีสุขไม่ได้เหมือนกันปล่อยวางไวหน่อย ถือโอกาสขณะที่ในสายตาของต่างฝ่ายต่างยังไม่ถึงขั้นที่เกลียดชังกันฤดูใบไม้ร่วงช่วงกลางวันสั้นกลางคืนยาว มองผ่านกระจกรถ เงาของเขาถูกแสงตะวันยามเย็นฉาบจนเป็นประกายทองชั้นหนึ่ง"ชั้นจะส่งเธอขึ้นไป"ตอนมาถึงหลินเจียงการ์เด้น ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไร เขาก็เอ่ยขึ้นมาก่อนฉันยังไม่ทันปฏิเสธ ทั้งสองคนก็ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน ตอนยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ฉันเม้มปาก "ชั้นมาถึงแล้ว เธอกลับไปเถอะ""ได้"ฟู่ฉีชวนพยักหน้าเล็กน้อย แต่เท้ากลับไม่ขยับฉันไม่สนใจเข

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 24

    ลู่สือเยี่ยนไม่รู้ว่าฟังออกถึงความนัยหรือเปล่า ยังคงไม่คิดเล็กคิดน้อย แค่ยิ้มกลับอย่างอบอุ่น "เรื่องเล็ก รีบล้างมือเถอะ เตรียมกินกันได้แล้ว"ลู่สือเยี่ยนฝีมือทำครัวดีมาก อาหารเต็มโต๊ะส่งกลิ่นหอมกรุ่น ทำเอาน้ำลายสอไปหมดแล้วเฮ่อถิงกับเจียงไหลล้วนชมไม่ขาดปากฉันเองก็ยังอดชมขึ้นมาไม่ได้ "รุ่นพี่ หน้าตาอาหารของพี่นี่ดูดีจริงๆ !""รีบกินเถอะ ลองดูว่าถูกปากพวกเธอไหม"ลู่สือเยี่ยนยกสองจานสุดท้ายออกจากครัว วางกุ้งรสเผ็ดจานหนึ่งลงตรงหน้าฉัน ยิ้มอย่างอบอุ่น "เจ้านี่เธอน่าจะชอบกิน"ฉันเองก็รู้สึกเกินคาดนอกจากเจียงไหล คนทั้งหมดล้วนคิดว่าฉันชอบรสชาติแบบเดียวกับฟู่ฉีชวน รสจืดแต่ว่า ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไร ฟู่ฉีชวนก็พูดเสียงเย็นขึ้นมา "หล่อนไม่กินเผ็ดนะ พวกนายแม้ว่าตอนเรียนจะสนิทกัน แต่รสชาติของหล่อนเหมือนนายจะยังไม่ค่อยเข้าใจ...""ประธานฟู่"เจียงไหลไม่พอใจแทนฉัน แต่ใบหน้ากลับกระหยิ่มยิ้มย่อง พูดน้ำเสียงหยอกขึ้นมา "แต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว หัวใจของนายเอาใครไปใส่ไว้กันแน่หา? หรวนหร่วนชอบกินเผ็ดมากที่สุดเลยต่างหาก ถ้าไม่เผ็ดนี่คือเกลียดเลย!"ใจฉันฝาดขึ้นมาทันทีจริงสิใจของเขาวางใครใส่ไว้กันนะแต่ไหนแต

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 330

    ในใจของฉันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีเหมือนถูกอะไรบางอย่างแทงเข้ามาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวฉันเอื้อมมือออกไปที่ประตูแล้วพูดอย่างเย็นชา: "ออกไป!""หร่วนหนานจือ ใครทำให้คุณอารมณ์เสียขนาดนี้ มีอะไรอยาจะพูดก็พูดมา""คุณพูดจบแล้วหรือยัง?"ฉันจ้องเขม็งไปที่เขา "คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะมาโทษฉัน คู่หมั้นของคุณล่ะ คุณไม่ต้องไปอยู่กับเธอเหรอ? มาหาฉันทำไม?""คุณดื่มมากเกินไปแล้ว แต่ท่าทางก็รุนแรงไม่ลดลงสักนิดเลย"เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเอง จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ ราวกับยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขานั่งยองๆ ลงครึ่งหนึ่งต่อหน้าฉัน น้ำเสียงของเขาอ่อนลง“โอเค ฉันกังวลเกินไปและไม่ได้พูดกับคุณอย่างเหมาะสม ฉันผิด ฉันยอมรับการโทษของฉัน”ฉันถามโดยสัญชาตญาณว่า "คุณยอมรับการลงโทษอะไร?"เขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยที่น่าหงุดหงิด “จูบคุณอีกครั้งดีไหม?”"......"ฉันเพิ่งสังเกตว่าหูของเขาแดงมาตลอดฉันส่ายหัว พยายามสลัดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ออกไป ฉันบังคับตัวเองให้จดจ่อและมองเขาอย่างชัดเจน “คุณมาที่นี่ทำไม?”“มาอธิบายให้คุณฟัง”ฉันขมวดคิ้ว “เมื่อคืนเราไม่ได้เคลียร์เรื่องกันไปแล้วเหรอ?”"นั่นเพราะคุณคิดไปเอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 329

    แม้ว่าพรมนุ่มๆ จะปกคลุมพื้นทางเดิน แต่ความเจ็บปวดจากช่วงเวลาที่กระดูกก้นกบของฉันกระแทกพื้นอย่างแรง นั่นทำให้สมองที่มึนงงของฉันกลับมามีสติเล็กน้อยคนที่พาฉันขึ้นมาคือฟู่ฉีชวนฉันจำผิดคนจริงๆบางทีฟู่ฉีชวนอาจสัมผัสได้ถึงการต่อต้านของฉัน จึงตกตะลึงชั่วขณะ จากนั้นก็หันหลังให้กับแสงและยิ้มเยาะ "คุณตั้งใจที่จะคบกับเขาอีกไหม? รอวันที่เขาจะแต่งงานกับคุณหนูใหญ่เสิ่น คุณสามารถเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พวกเขา?"ปากของโจวฟางมักจะพูดจาดูถูกเสมอ “คุณกำลังพูดจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือเปล่า”ด้วยขาที่ยาวของเขา เขาเดินเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว ช่วยพยุงฉันขึ้นจากพื้น และมองไปที่ฟู่ฉีชวนด้วยรอยยิ้มจางๆ "ประธานฟู่ ขอตัวก่อนนะครับ ไม่ต้องเดินมาส่ง"มือของฟู่ฉีชวนกำแน่น เพื่อระงับความโกรธ “คุณควรมุ่งความสนใจไปที่เสิ่นชิงหลี่แทน หร่วนหนานจือเป็นของฉัน”“เธอไม่เคยเป็นของใคร”น้ำเสียงของโจวฟางสงบ "เธอคือตัวเธอเอง"สายตาของฟู่ฉีชวนมืดมนลง เขาเอื้อมมือมาหาฉัน โดยทำท่าทีประนีประนอมที่สุดที่เขาเคยทำมาในชีวิตเขาคิดว่าตัวเองกำลังประนีประนอม "ฟังนะ อย่าดื้อดึง คุณกับเขาไปด้วยกันไม่ได้หรอก กลับบ้านกับฉันเถอะ""ไม่ว่าจ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 328

    ดวงตาของฉันร้อนผ่าว ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ แล้วส่งโลเคชันไปให้เธอ"แล้วซานย่าของเธอล่ะ เธอไม่ได้ไปตามหารักเหรอ?""ความรักสำคัญหรือเธอสำคัญกว่ากันล่ะ? ฉันจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในวันตรุษจีน"เธอไม่สนใจและเปลี่ยนหัวข้อสนทนาด้วยรอยยิ้ม "นอกจากนี้ ฉันได้ยินมาว่าเมืองจิงเฉิงก็เหมาะกับการตามหาความรักเหมือนกัน""บุญคุณครั้งนี้ ฉันไม่มีวันลืมและไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี"ฉันอดหัวเราะไม่ได้ "ทำได้แค่พาไปกินดื่มเที่ยวแบบจัดเต็ม ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจ"จริงๆ แล้ว ระหว่างฉันกับเธอ สนิทกันมากจนเรื่องเงินแทบไม่มีเส้นแบ่งเลยเลยไม่มัใครสนใจเรื่องพวกนี้แต่เธอก็ยังเล่นตามและแซวว่า "ประธานหร่วนใจดีมาก! ข้าน้อยขอเกาะขาแน่นๆ ทันทีเลย"ทันทีที่เจียงไหลมาถึง อารมณ์ของฉันก็ดีขึ้นมากทันทีเธอยืนอยู่ที่หน้าต่างชื่นชมทิวทัศน์หิมะของจิงเฉิงและถามว่า "เธอคิดยังไงกับข่าวเกี่ยวกับโจวฟาง"ฉันตกตะลึงไปชั่วขณะและพูดว่า "เธอหมายความว่าอะไรที่ว่าคิดยังไง? มีอะไรให้คิดด้วย""กับฉันยังต้องเสแสร้งอีก"เจียงไหลจิ้มหัวฉันแล้วพูดว่า "เขาสนใจเธอ แล้วเธอล่ะ คงไม่ได้สร้างกำแพงในหัวใจหรอกใช่ไหม?""นิดหน่อย"ฉันขดตัวบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 327

    ก่อนที่ฉันจะพูดได้ หญิงชราก็โกรธขึ้นมาทันที!เธอจ้องไปที่แม่เสิ่นด้วยสีหน้าโกรธจัดและพูดว่า "ใครให้ความกล้าเธอมาไล่แขกที่บ้านของฉัน?""คุณย่า ไม่เป็นไรค่ะ!"ฉันจำได้ว่าโจวฟางบอกว่า ร่างกายของคุณย่าไม่สามารถทนต่อความสุขและความเศร้าโศกได้ และฉันก็ได้ปลอบใจเธออย่างรวดเร็ว "ฉันควรจะกลับไปอยู่แล้ว แต่หลังจากนั้น... โจวฟางควรพาคุณหนูเสิ่นกลับมาพบคุณ"ในสถานการณ์ที่ทุกคนในครอบครัวมารวมตัวกัน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์แบบนี้ ฉันเป็นคนนอก จึงไม่ควรอยู่ที่นี่คุณย่ายังอยากรั้งฉันไว้ แต่เมื่อเห็นว่าฉันยืนกราน เธอจึงไม่พูดอะไรอีกฉันเก็บสัมภาระก่อนจะลงไปข้างล่างในตอนเช้า และไม่นานก็กลับลงมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของฉัน แม่เสิ่นพาฉันออกจากบ้านและพูดด้วยความรังเกียจ เมื่อฉันไปถึงระยะที่คุณย่าจะไม่ได้ยิน"ถ้าไม่มีเรื่องอะไรอีกในอนาคต ก็อย่ามาที่นี่อีก ตระกูลเฉินของเราไม่ใช่ว่าใครหน้าไหนจะมาตีสนิทได้""คุณนายเสิ่น"ฉันไม่ได้หยุดเดินและไม่ได้มองเธอด้วย ฉันแค่ตอบการสนทนาอย่างใจเย็น“ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉัน คุณต้องการจะกำจัดฉันในฐานะอดีตภรรยาแทนลูกสาวอันล้ำค่าของคุณ ตั้งแต่แรกเริ่ม เราอยู่คนละฝ่ายกัน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 326

    "โอเคค่ะ"ฉันเดินไปหาคุณย่าอย่างเชื่อฟัง และกินเกี๊ยวสองสามชิ้น ก่อนจะมองไปที่คุณย่าพร้อมรอยยิ้ม ฉันอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "คุณย่า ฉันรบกวนคุณมาหลายวันแล้ว อีกสักพัก ฉันจะกลับเมืองเจียงเฉิง ฉันอวยพรล่วงหน้า สวัสดีวันตรุษจีน ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดไช้""ทำไมถึงจะกลับแล้วล่ะ? เธอยังคงอยากช่วยอาฟางอยู่ไหม....""เขา..."ฉันระงับอารมณ์และพูดว่า "เขาคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันอีกแล้ว"รักแรกที่แท้จริงของเขาคงใกล้จะกลับมาแล้ว"หมายความว่าอะไร? เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เธอเลยไม่สนใจย่าคนนี้อีก?"คุณย่าแสร้งทำเป็นอารมณ์เสีย “ฉันแค่คิดว่าคงจะดีแค่ไหนที่ในที่สุดฉันก็มีใครสักคนอยู่ข้างๆ ในช่วงตรุษจีน และตอนนี้เธออยากจะกลับไปงั้นเหรอ นี่มันช่วงวันหยุดนะ แค่อยู่และใช้เวลากับฉันก็พอแล้ว!”"คุณย่า..."ฉันรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย เมื่อเห็นคุณย่าเป็นแบบนี้แต่ก็รู้ว่า การอยู่ที่นี่ต่อไปอาจไม่เหมาะสมสำหรับฉันหญิงชราจับมือฉันแล้วพูดว่า "เมื่อเธอกลับไป เธอจะอยู่คนเดียว แค่ทำตามที่ฉันจัดเตรียมไว้ก็พอ..."“คุณย่า!”ทันใดนั้น เสียงหยิ่งยโสเสียงหนึ่งดังมาจากด้านนอก คนสามคนจากครอบครัวของเสิ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 325

    นี่เป็นครั้งแรก ที่เห็นโจวฟางมีท่าทางแบบนี้ฉันบอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะความตึงเครียด ความตื่นเต้น หรือความตื่นตระหนกกันแน่...โดยรวมแล้ว นี่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ดื้อดึงและไม่แคร์ใครที่เขามักจะโชว์ออกมาเลยสักนิดในขณะนั้น ฉันเห็นฟู่ฉีชวนสมัยก่อนในตัวเขาในชั่วขณะหนึ่ง ฉันยิ่งเยือกเย็นขึ้น แม้กระทั่งไร้ความรู้สึก เก็บทุกความรู้สึกที่เกือบจะผลิบานออกมาไว้ และหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว"อืม คุณพูดต่อเลย"โทรศัพท์ของโจวฟางยังไม่ได้กดวางสาย เขาก้าวใหญ่เข้ามาแล้วใช้มือเดียวกอดฉันไว้ในอ้อมแขน ไม่ว่าจะขัดขืนยังไง เขาก็จับฉันเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยปลายสายพูดสองสามคำ และเขาพูดเบาๆ ว่า "ฉลาดกว่านี้หน่อย อย่าถูกคนอื่นหลอกไป ฉันจะไปที่นั่น หลังจากที่ฉันเกลี้ยกล่อใคนก่อน"เมื่อพูดจบ เขาก็วางสาย ยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็บีบแก้มฉันโดยไม่บอกกล่าว ทำให้หน้าฉันบิดเบี้ยวขณะถอนหายใจอย่างหงุดหงิด "คุณวิ่งหนีทำไม? คุณได้ฟังสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้หรือเปล่า?""ปล่อยฉัน""...เอ่อ..."บางทีวิธีที่เขาจับแก้มฉันด้วยท่าทางขำ ๆ นั่นทำให้รู้สึกขบขันเล็กน้อย เขาหัวเราะในลำคอและยังคงจับแก้มเอาไว้ โดยที

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 324

    "ใช่"ฉันยกริมฝีปากขึ้นและรวบรวมความกล้าพูดว่า "ถ้าเป็นอย่างหลัง ฉันกังวลว่าคุณอาจจะเริ่มมีความรู้สึกต่อฉัน"เขาขมวดคิ้วและพูดว่า "กังวลเหรอ? อาจเป็นเพราะฉันรักคุณและทำให้คุณกระสับกระส่ายหรือเปล่า?"“อะไรประมาณนั้น”ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมาและพูดว่า “คุณมีบุคลิกที่ดี มีพื้นเพครอบครัวที่ดี และทุ่มเท การที่ใครสักคนอย่างคุณชอบเป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกซาบซึ้ง แต่เพราะเหตุนี้เอง เราเลยเป็นไปไม่ได้”“เป็นไปไม่ได้เหรอ?”“ใช่ เป็นไปไม่ได้”ฉันหายใจเข้าลึกๆ และมองเขาอย่างจริงจัง "ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มมีความรัก ฉันไม่มีทางรู้ว่าข้างหน้ามีอันตราย แต่ยังเลือกที่จะเดินเข้าไปหามัน ความรักที่มั่นคงของคุณ สำหรับฉันแล้ว...มันคือไม่มีอะไรดี""เมื่อกี้คุณช่วยฉัน และฉันจะช่วยคุณรับมือกับพ่อแม่ของคุณด้วย นอกจากนี้ เราทุกคนควรมีเหตุผลมากขึ้น"……คืนนั้น หลังจากอาบน้ำในห้องรับรองแขกที่คุณย่าจัดให้ฉัน ฉันนอนบนเตียงโดยที่ยังตื่นอยู่ตอนกลางวัน โจวฟางตอบอะไรกับฉันเขาบอกว่า หร่วนหนานจือ อย่าคิดว่าคุณเป็นคนเดียวที่กลัวก่อนที่ฉันจะเข้าใจความหมายของประโยคนี้ เขาก็ผลักฉันเข้าไปในรถ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 323

    ฉันตกใจ “? ”"คุณเชื่อฉันไหม"โจวโม่นั่งขัดสมาธิบนโซฟาด้วยสีหน้ามั่นใจ "ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับตัวเอง เขาชอบคุณ แต่เขากลัวที่จะชอบคุณ"ฉันยิ้มและพูดว่า "อย่าเดามั่วสิ คนที่เขาชอบคือเสิ่นชิงหลี่ แค่เพราะว่าพวกเรามีคิ้วและดวงตาที่คล้ายกัน...""ไม่จริงหรอก!"โจวโม่แย้งว่า "พี่ชายฉันไม่ใช่คนแบบนั้น หลายปีที่ผ่านมามีคนมากมายที่เหมือนพี่ชิงหลี่มากกว่าคุณ แต่เขาไม่เคยเหลียวแลด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าฉันพูดไม่ดีเกี่ยวกับเขาแต่เขาไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล ถ้าเขาไม่มีความรู้สึกต่อคุณ ทำไมเขาถึงคอยช่วยเหลือคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า"“นั่นเป็นเพราะว่า…”ฉันพยายามโต้แย้งกลับแต่ก็พบว่าตัวเองพูดไม่ออกเมื่อพูดไปครึ่งประโยคเหตุการณ์ของจินซื่อเจี๋ย และแม่เสิ่นบังคับให้ฉันคุกเข่าในหิมะ… ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้กำลังช่วยเหลือซึ่งกันและกันหลังจากนั้น เขาไม่ได้ขอให้ฉันสัญญาอะไรกับเขา……เมื่อฉันจากไป ฉันยังคงเหม่อลอยเล็กน้อยเมื่อวานนี้ คุณย่าตั้งใจจะจับคู่เรา และวันนี้ โจวโม่ก็เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังอีกครั้งไม่ว่าใครจะตั้งใจแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ดีฉันไม่คาดคิดว่า จะได้เห็นรถคัลลิแนนที่คุ้นเค

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 322

    "สาวน้อยโง่เขลา"หญิงชรายิ้มและพูดว่า "ถ้าฉันไม่รู้จักเธอ ฉันจะพาเธอเข้าบ้านได้ยังไง ฉันยังรู้ด้วยว่า อดีตสามีของเธอคือฟู่ฉีชวน""ก็..."ฉันคิดอะไรขึ้นมาและอดไม่ได้ที่จะถาม "คุณรู้แล้วเหรอว่าครั้งก่อนที่คุณหนูเสิ่นพาฟู่ฉีชวนกลับมา?""ฉันจงใจสร้างความยากลำบากสำหรับเขา"หญิงชรายกคิ้วขึ้นและพูดว่า “ถ้าเขาปกป้องภรรยาของเขาเองไม่ได้ ก็สมน้ำหน้า”“ถูกต้อง สมน้ำหน้าเขา”"ฟังคำแนะนำของย่านะ ฟู่ฉีชวนเป็นคนดี แต่เขาคิดเยอะเกินไป และการอยู่กับเขาจะเหนื่อยและยากลำบากเกินไปสำหรับเธอ"“คุณย่า เราหย่ากันแล้วค่ะ” ฉันยิ้มหญิงชราถามด้วยความอยากรู้ “เธอลืมเขาไปแล้วจริงๆ เหรอ?”“ลืมไปเลย”ฉันเหลือบมองไปที่ท้องของตัวเอง ความรู้สึกขมขื่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย “เราเกือบจะมีลูกกันแล้ว แต่เขากลับไม่สนใจฉันเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น และลูกก็... จากไป”ตอนที่ฉันเลิกสนใจเขาจริงๆก็คือตอนนั้นเองต่อมา หลายคนรู้สึกว่าถ้ารู้เร็วกว่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำตั้งแต่แรกกระจกที่แตกก็คือกระจกที่แตก ไม่ว่าจะใช้เวลาและความพยายามมากเพียงใดในการประสานกระจกเข้าด้วยกัน รอยร้าวเหล่านั้นก็จะเตือนเสมอว่าบาดแผลบางอย่างมีอยู่จ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status