Share

บทที่ 16

Author: เล่อเอิน
พอมองเวลา ก็ตีสองกว่าแล้ว

เขาไม่ใช่ว่าเลิกงานพร้อมกับฟู่จินอันหรอกหรือ

ทำไมถึงไปดื่มเหล้ากับพวกเฮ่อถิงแล้วล่ะ ฟังจากเฮ่อถิง ฟู่จินอันเหมือนจะไม่ได้อยู่ด้วย

พอโทรศัพท์ไปหา ก็ปิดเครื่องไปแล้ว น่าจะแบตหมด

ฉันทำได้แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้าน โบกรถตรงไปจุดรวมตัวเก่าในวันปกติของพวกเขา คลับเฮาส์ส่วนตัวแห่งหนึ่ง

ตอนไปถึง คนก็แยกย้ายกันเกือบหมดแล้ว

ในห้องเหมาเหลือแค่เฮ่อถิงกับลู่สือเยี่ยน

และยังมีฟู่ฉีชวนในชุดสูทสั่งตัด หลับขาไขว้กันอยู่บนโซฟาอีกคนหนึ่ง

พอเห็นฉัน เฮ่อถิงก็ทำหน้าจำใจ "พี่สะใภ้ พี่ชวนวันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เอาแต่ดึงสือเยี่ยนให้ดื่มเหล้าอยู่นั่นล่ะ ห้ามก็ไม่ฟัง"

"..."

ฉันเหมือนเดาเหตุผลได้รางๆ

เขายังคงดื้อแพ่งเข้าใจว่า ระหว่างฉันกับลู่สือเยี่ยนมีอะไรกันสินะ

ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ ตัวเองจะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามให้ภรรยามีความเป็นไปได้ที่จะสวมเขาแม้แต่น้อย

ต่อให้ความเป็นไปได้จุดนี้ จะมาจากความสงสัยที่ไม่มีมูลของเขา

ฉันมองอย่างขอโทษไปทางลู่สือเยี่ยนที่ดูสง่าอ่อนโยนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ "รุ่นพี่ พี่ยังไหวไหม ชั้นเอายาแก้แฮงค์มาด้วย จะกินหน่อยไหม?"

เขาเหมือนถูกกรอกเหล้าลงไปไม่น้อย สายตาเลื่อนลอยไปแ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 17

    สิบกว่านาทีต่อมา รถจึงค่อยๆ แล้วเข้ามาในบ้าน"ถึงบ้านแล้ว ฟู่ฉีชวน" ฉันเปิดประตูพร้อมกับร้องเรียกคิดไม่ถึง ว่าผู้ชายที่เมาจนไม่เป็นผู้เป็นคน จะล้มตะแคงลงมาตามการเปิดประตูของฉันฉันขมวดคิ้ว ทำได้แค่กัดฟันประคองเขาไว้ "เธอออกแรงเองบ้างได้มั๊ย?"ไม่มีปฏิกิริยาทำได้แค่โทรศัพท์เรียกป้าหลิวที่กำลังหลับฝันหวาน ให้ออกมาช่วยประคองฟู่ฉีชวนกลับเข้าห้อง"นายหญิง จะให้ชั้นช่วยอะไรไหมคะ?" ป้าหลิวถาม"ไม่ต้องแล้ว คุณรีบไปนอนต่อเถอะ"ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เดิมทีก็รบกวนคนจนตื่นจากฝันแล้ว ไม่อยากจะรบกวนให้มากกว่านี้หลังจากป้าหลิวออกไป ฉันก็ต้องมาทนกับอาการอึดอัดที่ถูกกลิ่นแอลกอฮอล์รมจนแทบจะอาเจียน ก้มเอวลงถอดรองเท้าหนังกับปลดเข็มขัดให้ฟู่ฉีชวน จากนั้นจึงยืดตัวตรงเตรียมลงไปชั้นล่างพอหมุนตัวกลับรู้สึกว่ามือของตนเองจู่ๆ ถูกกุมเอาไว้เขาหลับตามงึมงำ "คุณภรรยา...""..."อันที่จริงฉันไม่คิดว่าเขากำลังเรียกฉันที่เป็นไปได้มากกว่า คือเขากับฟู่จินอันน่าจะพัฒนากันไปจนถึงขั้นเรียกสามีภรรยากันแล้วฉันยื่นมือไปเลิกหนังตาของเขา "ฟู่ฉีชวน เธอมองดีดีว่าชั้นเป็นใคร""คุณภรรยา..."เขาไม่ให้ความร่วมมือเลย ขณะที่พลิกตั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 18

    ทั้งที่คั่นด้วยเนื้อผ้าชั้นหนึ่งแท้ๆ แต่ผิวที่เอวกลับร้อนจนแทบลวกฉันเหมือนเหมือนถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ขยับตัวไม่ได้เลย ยังดีที่ความรู้สึกนึกคิดยังแจ่มชัดอยู่ "พวกเราพูดกันชัดเจนแล้ว ชั้นไม่ยอมแต่งงานไปเป็นคนที่สามที่คั่นกลางอยู่หรอก""ขอโทษ" หน้าผากชายหนุ่มดันแผ่นหลังของฉัน พูดเสียงอู้อี้ออกมาจะใจอ่อนไหมแน่นอนว่าใช่ใครบ้างที่ลบความรู้สึกหลายปีออกไปได้ง่ายๆ ในชั่วข้ามคืนฉันอยากจะโพล่งออกมาเหลือเกิน ว่าจะให้โอกาสเขาอีกสักครั้งแต่เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ก็ร้องเอะอะขึ้นในสมองฉันตลอดเลือกเขา หรือว่าจะเลือกตัวเองฉันพ่นลมออกมา "ฟู่ฉีชวน เธอรู้อยู่แล้วว่ามันผิด แต่ต่อมาก็ยังทำผิดอีก สิ่งนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลย"ครั้งนี้ ฉันเลือกตัวเองเลือกเขามาแล้วถึงเจ็ดปี เพียงพอแล้วฟู่ฉีชวนนิ่งงันไปนาน ไม่พูดอะไร"ปล่อยมือเถอะ พวกเราเดินมาได้เท่านี้แหละ" ฉันในอดีตไม่อาจจินตนาการได้เลย ว่าจะมีวันที่ฉันจะพูดเย็นชาแบบนี้กับฟู่ฉีชวนชอบเขาข้างเดียวคืออะไร มันคือการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของตนเองครั้งหนึ่งแค่สายตาเดียวของอีกฝ่าย หรือแค่คล้องนิ้วกัน ก็แจ้นออกไปอย่างดีอกดีใจแล้วมีความสุขสนุกสน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 19

    บ้านหลังนี้ หลังจากเขาส่งมาถึงมือแันไม่กี่วัน ก็เริ่มตกแต่งแล้วเพื่อจะตกแต่งมัน ฉันลงแรงอย่างหนักเลยทีเดียวเขาไม่เคยถามถึงมาก่อนต่อให้ฉันกลับบ้านค่ำแค่ไหน อย่างมากสุดเขาก็แค่พูดออกมาตามมารยาทคำสองคำ อย่างกลับมาค่ำจัง หรือไม่ก็ดูท่างานออกแบบจะวุ่นมากไม่เคยมีสองคำนี้ ว่าฉันไปไหน ไปทำอะไรมาไม่อยู่ในขอบเขตที่เขาจำเป็นต้องมากังวลพอมาถึงขั้นที่ต้องหย่าร้าง ฉันเองก็ไม่คิดจะทนต่อไปอีก "น่าจะเป็นตอนที่เธอไปอยู่กับฟู่จินอันนั่นล่ะ"แล้วก็ตามคาด มองเห็นอาการแข็งทื่อบนหน้าเขาในใจฉันสบายขึ้นเยอะเลย"ชั้นกับหล่อนช่วงนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว""ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายกับชั้น"ตอนนี้ไม่จำเป็นอีกแล้ว ฉันพูดต่อว่า "ขอแค่เธอเต็มใจ รอให้เรื่องหย่าจัดการเสร็จก่อน จะแต่งหล่อนเข้าบ้านตอนไหนก็เชิญ""หร่วนหนานจือ ตอนนี้ทำไมเธอต้องพูดจาเหน็บแนมขนาดนี้?" เขาขมวดคิ้วแน่น เหมือนรู้สึกจำใจหน่อยๆ"แล้วชั้นควรต้องพูดว่าอะไรล่ะ?""ไม่ว่าจะหย่าหรือไม่หย่า หล่อนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับความสัมพันธ์ของพวกเรา""หลอกตัวเองแล้วยังหลอกคนอื่นอีก"ฉันทิ้งคำนี้ออกมา เดินไปโถงหน้าเปลี่ยนรองเท้าลงจากตึกโชเฟอร์รออยู่ในรถมาตลอด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 20

    ก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นพวกเอาคืนกับเรื่องเล็กๆ แค่นี้ฉันทำได้แค่กัดฟันเดินตามหลังเขาไป คิดไม่ถึงว่า ฉันยังไม่ทันอธิบาย คุณปู่ฟู่ก็ยิ้มแป้นแล้น เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นว่า"ได้ยินป้าหลิวบอกว่า หนานจือย้ายออกไปแล้วหรือ?""ใช่ค่ะ คุณปู่"ฉันทำได้แค่ยอมรับ ถ้าหากคุณปู่โกรธขึ้นมาค่อยหาวิธีปลอบเขาคุณปู่กลับไม่โมโหฉัน แต่ไปถลึงตาใส่ฟู่ฉีชวนแทน "เจ้าคนไม่ได้เรื่อง แค่ภรรยาของตัวเองก็ยังปกป้องไว้ไม่ได้!""คุณปู่ พูดกันด้วยเหตุผลหน่อย เป็นเธอที่ย้ายออกไปเอง แล้วผมจะทำอะไรได้?""หล่อนหนีไป แกก็ไม่รู้จักไล่ตามหรือ?"คุณปู่เตือนขึ้นอย่างหวังดี "แกนี่นะ ได้พ่อแกมาเต็มๆ เลย คานบนไม่ตรงอย่างไรคานล่างมันก็เอียงอย่างนั้น""แล้วปู่ไม่ใช่คานบนของพ่อผมหรือ?" ฟู่ฉีชวนหัวเราะขึ้นมา"ไอ้เด็กเวร!"ปู่คว้าถ้วยชาทำท่าจะเขวี้ยง แต่ก็วางลง ตั้งท่าจะพูดแต่ก็ยั้งไว้นาน สุดท้ายจึงพูดแค่ "หิวแล้ว กินข้าวเถอะ"ข้าวมือนี้กินกันอย่างสนุกสนานคุณปู่คีบกับข้าวให้ฉันบ่อยมาก ชามข้าวตรงหน้าฉันแทบจะกองขึ้นเป็นภูเขาย่อมๆ แล้ว"กินเยอะๆ หน่อย ดูหลานสิ ช่วงนี้ผอมเกินไปแล้ว กินเยอะๆ ให้มีน้ำมีนวลหน่อย""ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณปู

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 21

    "วางใจเถอะคุณปู่"ฉันคีบเต้าหู้หมักชิ้นหนึ่งให้คุณปู่ เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน "เขารังแกหนูไม่ได้หรอก"ถึงอย่างไร ก็จะหย่ากันอยู่แล้วนี่กินข้าวเสร็จ ฟู่ฉีชวนก็ลงไปเล่นหมากล้อมกับคุณปู่ที่เรือนหลังฉันคอยชงชาให้อยู่ข้างๆฟู่ฉีชวนฝีมือวางหมากซับซ้อนมหัศจรรย์มาก รีบไล่รีบปิดฉาก กินไปอีกกระดาน คุณปู่โมโหถลึงตาใส่เขา "แกคิดว่าเล่นกับคนนอกอยู่หรือไง ไม่คิดจะเหลือทางไว้ให้ปู่บ้าง?""ก็ได้"ฟู่ฉีชวนหัวเราะ หลังจากนั้นก็ต่อให้จริงๆ คุณปู่ก็ดูดีอกดีใจ หัวเราะอย่างเบิกบาน ชี้แนะมาคำหนึ่ง "เด็กอย่างแกนี่นะจงจำเอาไว้ คนในครอบครัวกับคนนอกนั้นแตกต่างกัน"ฉันยื่นถ้วยชาส่งออกไป "คุณปู่คะ ดื่มชาหน่อย""อืม"คุณปู่ขานรับคำหนึ่ง รับไปจิบๆ เอ่ยขึ้นอย่างปลื้มอกปลื้มใจ "ถ้าพวกแกปรองดองกันได้ตลอด วันที่ชั้นจะได้อุ้มเหลนก็คงอยู่ไม่ไกลแล้ว!""..."ใจฉันสั่นเล็กน้อย ยื่นมือมากุมท้องตัวเองด้วยสัญชาตญาณพอเห็นใบหน้าคุณปูที่แก่ตัวลงทุกวัน ก็เกิดความรู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาหน่อยๆถ้าหาก ระหว่างฉันกับฟู่ฉีชวนไม่มีเส้นแบ่งเหล่านั้น ไม่มีปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นฉันตอนนี้ก็คงบอกคุณปู่ได้ ว่าฉันตั้งท้องแล้ว คุณปู่ใกล้จะได้อุ้มเห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 22

    หมายความว่าอะไร?สงสัยว่าฉันยังไม่ทันหย่าก็จะสวมเขาให้เขาแล้วอย่างนั้นหรือ?เขาเป็นคนแบบนี้จริงๆฉันขี้เกียจจะอธิบาย เอ่ยขึ้นอย่างเป็นปกติ "เพื่อนสนิท""เพื่อนคนไหน?""ฟู่ฉีชวน"ฉันยิ้มขึ้นมา เอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน "คนตายเขาไม่ถามนั่นถามนี่หรอกนะ"ในเมื่อเขายอมจะเป็นแฟนเก่าที่ตายไปแล้ว เช่นนั้นทำตัวให้เหมือนตายหน่อยฟู่ฉีชวนเกือบจะโมโหออกมา ปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้ม หัวเราะเย็นชาออกมา "ได้"พอมาถึงสุสาน หลังจากลงรถ ฉันก็เดินตรงไปยังบันไดขึ้นเขาพอเห็นเขาไม่ตามมา แันจึงต้องหันกลับไปรอเขาพอหมุนตัว เห็นเขาหิ้วตะกร้าที่ไม่รู้ไปเตรียมมาตอนไหน ดอกเบญจมาศเหลือบกับขาวอยู่ด้านใน จึงอดตะลึงขึ้นมาไม่ได้ฉันเม้มปาก "ขอบคุณ""ขอบคุณอะไร? เดิมทีนี่ก็เป็นสิ่งที่ชั้นควรทำอยู่แล้ว" เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบรอจนเขาเดินตามขึ้นมา พวกเราจึงเดินเคียงไหลไปยังหลุมศพของพ่อแม่ฉันเช่นนี้ก็ดี แม้จะเป็นความรักใคร่ที่ปรากฏอยู่ในใจ แต่พ่อกับแม่ในปรโลกถ้ารู้เข้า ก็น่าจะวางใจได้ระดับหนึ่งกระมังสุสานมีคนมาคอยดูแลให้ตลอดทั้งปี ป้ายสุสานมีฝุ่นอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นพูดขึ้นมา พ่อแม่ของฉันจากไปตั้งหลายปีแล้ว อันที่จริงฉันก็ไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 23

    ไม่เช่นนั้น เครือตระกูลฟู่คงไม่ส่งต่อถึงมือฟู่ฉีชวนทันทีหรอก"แล้วเธอล่ะ มีชีวิตที่ดีไหม?" ฉันเงยหน้า มองดูเส้นกรามคมของเขา ถามขึ้นแช่มช้า"ก็สามปีนี้ที่แต่งงานกับเธอมา"เขายังคงฉีกยิ้ม ทอดถอนใจออกมาเสียหงนึ่ง "มีชีวิตที่ดีมาก"คำตอบนี้ ทำเอาฉันยิ่งอยากจะร้องไห้น่าจะเป็นความเสียดายกระมังเห็นๆ อยู่ ถ้าหากไม่มีเรื่องพวกนั้น พวกเขาก็สามารถครองรักกันจนแก่เฒ่าได้……ระหว่างทางกลับ ฉันกับเขาต่างฝ่ายต่างรู้ในใจ ไม่พูดอะไรกันอีกคำบางคำพูดมากไปก็ไร้ความหมายเขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนฉันเองก็อยู่อย่างมีไมตรีสุขไม่ได้เหมือนกันปล่อยวางไวหน่อย ถือโอกาสขณะที่ในสายตาของต่างฝ่ายต่างยังไม่ถึงขั้นที่เกลียดชังกันฤดูใบไม้ร่วงช่วงกลางวันสั้นกลางคืนยาว มองผ่านกระจกรถ เงาของเขาถูกแสงตะวันยามเย็นฉาบจนเป็นประกายทองชั้นหนึ่ง"ชั้นจะส่งเธอขึ้นไป"ตอนมาถึงหลินเจียงการ์เด้น ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไร เขาก็เอ่ยขึ้นมาก่อนฉันยังไม่ทันปฏิเสธ ทั้งสองคนก็ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน ตอนยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ฉันเม้มปาก "ชั้นมาถึงแล้ว เธอกลับไปเถอะ""ได้"ฟู่ฉีชวนพยักหน้าเล็กน้อย แต่เท้ากลับไม่ขยับฉันไม่สนใจเข

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 24

    ลู่สือเยี่ยนไม่รู้ว่าฟังออกถึงความนัยหรือเปล่า ยังคงไม่คิดเล็กคิดน้อย แค่ยิ้มกลับอย่างอบอุ่น "เรื่องเล็ก รีบล้างมือเถอะ เตรียมกินกันได้แล้ว"ลู่สือเยี่ยนฝีมือทำครัวดีมาก อาหารเต็มโต๊ะส่งกลิ่นหอมกรุ่น ทำเอาน้ำลายสอไปหมดแล้วเฮ่อถิงกับเจียงไหลล้วนชมไม่ขาดปากฉันเองก็ยังอดชมขึ้นมาไม่ได้ "รุ่นพี่ หน้าตาอาหารของพี่นี่ดูดีจริงๆ !""รีบกินเถอะ ลองดูว่าถูกปากพวกเธอไหม"ลู่สือเยี่ยนยกสองจานสุดท้ายออกจากครัว วางกุ้งรสเผ็ดจานหนึ่งลงตรงหน้าฉัน ยิ้มอย่างอบอุ่น "เจ้านี่เธอน่าจะชอบกิน"ฉันเองก็รู้สึกเกินคาดนอกจากเจียงไหล คนทั้งหมดล้วนคิดว่าฉันชอบรสชาติแบบเดียวกับฟู่ฉีชวน รสจืดแต่ว่า ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไร ฟู่ฉีชวนก็พูดเสียงเย็นขึ้นมา "หล่อนไม่กินเผ็ดนะ พวกนายแม้ว่าตอนเรียนจะสนิทกัน แต่รสชาติของหล่อนเหมือนนายจะยังไม่ค่อยเข้าใจ...""ประธานฟู่"เจียงไหลไม่พอใจแทนฉัน แต่ใบหน้ากลับกระหยิ่มยิ้มย่อง พูดน้ำเสียงหยอกขึ้นมา "แต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว หัวใจของนายเอาใครไปใส่ไว้กันแน่หา? หรวนหร่วนชอบกินเผ็ดมากที่สุดเลยต่างหาก ถ้าไม่เผ็ดนี่คือเกลียดเลย!"ใจฉันฝาดขึ้นมาทันทีจริงสิใจของเขาวางใครใส่ไว้กันนะแต่ไหนแต

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 324

    "ใช่"ฉันยกริมฝีปากขึ้นและรวบรวมความกล้าพูดว่า "ถ้าเป็นอย่างหลัง ฉันกังวลว่าคุณอาจจะเริ่มมีความรู้สึกต่อฉัน"เขาขมวดคิ้วและพูดว่า "กังวลเหรอ? อาจเป็นเพราะฉันรักคุณและทำให้คุณกระสับกระส่ายหรือเปล่า?"“อะไรประมาณนั้น”ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมาและพูดว่า “คุณมีบุคลิกที่ดี มีพื้นเพครอบครัวที่ดี และทุ่มเท การที่ใครสักคนอย่างคุณชอบเป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกซาบซึ้ง แต่เพราะเหตุนี้เอง เราเลยเป็นไปไม่ได้”“เป็นไปไม่ได้เหรอ?”“ใช่ เป็นไปไม่ได้”ฉันหายใจเข้าลึกๆ และมองเขาอย่างจริงจัง "ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มมีความรัก ฉันไม่มีทางรู้ว่าข้างหน้ามีอันตราย แต่ยังเลือกที่จะเดินเข้าไปหามัน ความรักที่มั่นคงของคุณ สำหรับฉันแล้ว...มันคือไม่มีอะไรดี""เมื่อกี้คุณช่วยฉัน และฉันจะช่วยคุณรับมือกับพ่อแม่ของคุณด้วย นอกจากนี้ เราทุกคนควรมีเหตุผลมากขึ้น"……คืนนั้น หลังจากอาบน้ำในห้องรับรองแขกที่คุณย่าจัดให้ฉัน ฉันนอนบนเตียงโดยที่ยังตื่นอยู่ตอนกลางวัน โจวฟางตอบอะไรกับฉันเขาบอกว่า หร่วนหนานจือ อย่าคิดว่าคุณเป็นคนเดียวที่กลัวก่อนที่ฉันจะเข้าใจความหมายของประโยคนี้ เขาก็ผลักฉันเข้าไปในรถ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 323

    ฉันตกใจ “? ”"คุณเชื่อฉันไหม"โจวโม่นั่งขัดสมาธิบนโซฟาด้วยสีหน้ามั่นใจ "ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับตัวเอง เขาชอบคุณ แต่เขากลัวที่จะชอบคุณ"ฉันยิ้มและพูดว่า "อย่าเดามั่วสิ คนที่เขาชอบคือเสิ่นชิงหลี่ แค่เพราะว่าพวกเรามีคิ้วและดวงตาที่คล้ายกัน...""ไม่จริงหรอก!"โจวโม่แย้งว่า "พี่ชายฉันไม่ใช่คนแบบนั้น หลายปีที่ผ่านมามีคนมากมายที่เหมือนพี่ชิงหลี่มากกว่าคุณ แต่เขาไม่เคยเหลียวแลด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าฉันพูดไม่ดีเกี่ยวกับเขาแต่เขาไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล ถ้าเขาไม่มีความรู้สึกต่อคุณ ทำไมเขาถึงคอยช่วยเหลือคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า"“นั่นเป็นเพราะว่า…”ฉันพยายามโต้แย้งกลับแต่ก็พบว่าตัวเองพูดไม่ออกเมื่อพูดไปครึ่งประโยคเหตุการณ์ของจินซื่อเจี๋ย และแม่เสิ่นบังคับให้ฉันคุกเข่าในหิมะ… ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้กำลังช่วยเหลือซึ่งกันและกันหลังจากนั้น เขาไม่ได้ขอให้ฉันสัญญาอะไรกับเขา……เมื่อฉันจากไป ฉันยังคงเหม่อลอยเล็กน้อยเมื่อวานนี้ คุณย่าตั้งใจจะจับคู่เรา และวันนี้ โจวโม่ก็เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังอีกครั้งไม่ว่าใครจะตั้งใจแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ดีฉันไม่คาดคิดว่า จะได้เห็นรถคัลลิแนนที่คุ้นเค

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 322

    "สาวน้อยโง่เขลา"หญิงชรายิ้มและพูดว่า "ถ้าฉันไม่รู้จักเธอ ฉันจะพาเธอเข้าบ้านได้ยังไง ฉันยังรู้ด้วยว่า อดีตสามีของเธอคือฟู่ฉีชวน""ก็..."ฉันคิดอะไรขึ้นมาและอดไม่ได้ที่จะถาม "คุณรู้แล้วเหรอว่าครั้งก่อนที่คุณหนูเสิ่นพาฟู่ฉีชวนกลับมา?""ฉันจงใจสร้างความยากลำบากสำหรับเขา"หญิงชรายกคิ้วขึ้นและพูดว่า “ถ้าเขาปกป้องภรรยาของเขาเองไม่ได้ ก็สมน้ำหน้า”“ถูกต้อง สมน้ำหน้าเขา”"ฟังคำแนะนำของย่านะ ฟู่ฉีชวนเป็นคนดี แต่เขาคิดเยอะเกินไป และการอยู่กับเขาจะเหนื่อยและยากลำบากเกินไปสำหรับเธอ"“คุณย่า เราหย่ากันแล้วค่ะ” ฉันยิ้มหญิงชราถามด้วยความอยากรู้ “เธอลืมเขาไปแล้วจริงๆ เหรอ?”“ลืมไปเลย”ฉันเหลือบมองไปที่ท้องของตัวเอง ความรู้สึกขมขื่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย “เราเกือบจะมีลูกกันแล้ว แต่เขากลับไม่สนใจฉันเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น และลูกก็... จากไป”ตอนที่ฉันเลิกสนใจเขาจริงๆก็คือตอนนั้นเองต่อมา หลายคนรู้สึกว่าถ้ารู้เร็วกว่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำตั้งแต่แรกกระจกที่แตกก็คือกระจกที่แตก ไม่ว่าจะใช้เวลาและความพยายามมากเพียงใดในการประสานกระจกเข้าด้วยกัน รอยร้าวเหล่านั้นก็จะเตือนเสมอว่าบาดแผลบางอย่างมีอยู่จ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 321

    ดูเหมือนว่าหัวใจของฉัน จะถูกดึงด้วยอะไรบางอย่างอย่างที่โจวฟางพูด มันเป็นจิตใต้สำนึกและไม่รู้ว่ามาจากไหนเมื่อเห็นความเศร้าโศกบนสีหน้าของเขา ฉันจึงเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ ย่องขึ้นเขย่งเท้าและเอื้อมมือไปยีผมเขาอย่างสบายใจแต่พอมือยื่นออกไปได้ครึ่งทาง ฉันก็หยุดนิ่งกลางอากาศ เมื่อสบตากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขา ฉันจึงปลอบใจเขาเบาๆ ว่า “โจวฟาง เธอจะไม่โทษคุณหรอก”ชั่วขณะหนึ่ง แสงสว่างวาบขึ้นในดวงตาของเขา แต่ทันทีที่มือของฉันหยุดลง เขาก็กลับมาเฉยเมยเช่นเคย “คุณไม่ใช่เธอ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอคิดอย่างไร?”“เพราะฉันเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว”ฉันลดสายตาลงเล็กน้อย ความขมขื่นปรากฏขึ้น “พวกเราต่างก็มีชีวิตที่ดี… จนกระทั่งจู่ๆ เราก็สูญเสียพ่อแม่ไป และต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยตัวเอง เพียงเพื่อจะดำเนินชีวิตต่อไป”ฉันเงยหน้ามองเขาอีกครั้งและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไม่โทษคุณ และฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะโทษคุณเช่นกัน”คนที่มีชีวิตที่ยากลำบาก ย่อมเข้าใจกันดีเขาสามารถรอคอยมาหลายปีแล้ว ซึ่งก็เพียงพอแล้วเขาค่อนข้างจะซาบซึ้งใจ ไม่ค่อยมีอารมณ์รุนแรงเหมือนเดิม “หลายปีที่ผ่านมา… คุณลำบากหรือเป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 320

    เธอกำลังคุยกับโจวฟาง ขณะที่ฉันอยู่ข้างๆ กำลังแขวนเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้คนแก่อย่างเธอและรีดอย่างระมัดระวัง"หนานจือ!"หญิงชราแสร้งทำเป็นไม่พอใจและลุกขึ้นดึงฉันลงบนโซฟา "เรื่องพวกนี้ให้คนรับใช้ทำก็ได้ เธอจะได้นั่งลงจิบชาและคุยกับฉัน เธอต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลยหรือ?"ฉันยิ้มออกมาก่อน “แต่ยังไงนี่ก็เป็นงานของฉัน”“นังเด็กคนนี้นี่”หญิงชราจับมือฉันแล้วหันไปหาโจวฟาง “ฉันเพิ่งได้ยินเธอบอกว่าเธอวางแผนให้หนานจือช่วยหลอกพ่อแม่ของเธอเหรอ?”ความสัมพันธ์ระหว่างโจวฟางกับหญิงชรานั้นลึกซึ้งมาก จนเขาพูดทุกอย่าง "ใช่"หญิงชรามองฉันด้วยความกังวลและพูดว่า "เขาบังคับเธอเหรอ?""คุณย่า คุณคิดว่าผมเป็นคนยังไง?" โจวฟางพูดทั้งน้ำตาทั้งรอยยิ้มฉันก็ยิ้มเหมือนกัน “ไม่หรอก ฉันมีเรื่องจะขอร้องเขาเหมือนกัน”หญิงชราไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงต่อ แต่แสดงความกังวลอย่างหนึ่ง"ชิงหลี่... ฉันกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว"หญิงชรากลั้นน้ำตาไว้และมองโจวฟาง ด้วยท่าทางของผู้เฒ่าที่สง่างาม "ไม่ว่าเธอกับหนานจือจะเป็นแกล้งทำหรือเป็นเรื่องจริง ฉันก็ดีใจที่เห็นพวกเธอประสบความสำเร็จ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น แม้จะเป็นเพียงการแส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 319

    นอนหลับไม่สนิท แถมยังใส่หน้ากาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้คล่องแคล่ว แม้จะนอนอยู่ก็ตามด้วยความโล่งใจ ฉันรีบใส่ที่อุดหูไว้ในมือของเขาเขาใส่ที่อุดหูสองสามครั้งแล้วกลับไปนอนต่อโจวโม่ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ เอนตัวไปข้างๆ แล้วเงียบไปสักพักก่อนจะกระซิบเบาๆ"พี่ ฉันแค่แกล้งพี่ชายของฉันเมื่อกี้... จริงๆ แล้ว เขาเป็นคนดีมากเลยนะ""อืม?"ฉันไม่รู้ว่าเธอมาบอกฉันแบบนี้ทำไมโจวโม่เอียงศีรษะพิงไหล่ฉันแล้วพูดว่า "พ่อกับฉันไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเพราะเขาพาเมียน้อยกลับบ้าน ฉันเกลียดเขา ฉันเกลียดเขาที่ทรยศต่อแม่ของฉัน"ฉันตกตะลึง"ตอนเด็กๆ ฉันอ่อนแอและต้องเติบโตในบ้านโดยไม่ได้ออกจากประตูหน้าหรือเดินออกไปข้างนอก"โจวโม่ถอนหายใจแล้วพูดว่า "หลังจากเหตุการณ์นั้น ฉันจึงย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลโจวและถึงกับตำหนิพี่ชายของฉันที่ไม่ไปกับฉัน"ฉันหลับตาแล้วพูดว่า "เขา... น่าจะฉลาดเกินเด็ก""ใช่"มีเค้าลางของการตำหนิตัวเองในน้ำเสียงของโจวโม่ "ต่อมา ฉันรู้ว่าเขาฉลาดและมีเหตุผลมากกว่าฉันมาก การทำแบบเขาเป็นวิธีที่ถูกต้อง""ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับสละทุกสิ่งที่เป็นของแม่และของเราไป""ฉันเด็กเกินไปและเอาแต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 318

    ฉันพยักหน้าและยิ้ม "ใช่ แล้วเธอล่ะ? ตรุษจีนแล้ว เธอจะกลับเมื่อไหร่?"ถึงแม้ฉันจะไม่บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับโจวฟาง ฉันก็ยังต้องไปเสื้อผ้าของคุณย่าเสิ่นและคุณย่าโจวต้องส่งมอบการตัดเย็บเสื้อผ้าตามสั่งไม่ใช่แค่เรื่องของสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของบริการด้วย นอกจากนี้ หนานซียังต้องการผู้หญิงที่น่าเคารพทั้งสองคนนี้เพื่อช่วยโปรโมตแบรนด์ของเราการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับฉัน"ฉันจะกลับกับพวกคุณ รอฉันด้วย!"โจวโม่เปิดประตูทิ้งไว้ รีบวิ่งเข้าไป คว้าเป้สะพายหลัง และเริ่มยัดของลงไปอย่างบ้าคลั่งก่อนจะรีบวิ่งออกไป"โจวโม่ เธอกระโดดโลดเต้นอะไรในบ้าน? ถ้าจะหาเรื่องอีกก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น เธอจะได้ไม่มีบ้านอยู่!"เสียงคำรามหงุดหงิดของโจวฟางดังก้องไปทั่วอพาร์ตเมนต์จากห้องนั่งเล่นผู้คนบอกว่าฉันอารมณ์ร้ายในตอนเช้า แต่ชัดเจนว่าของเขาแย่กว่าโจวโม่สั่งให้เขาเงียบ “ทำไมพี่ถึงหงุดหงิดจัง พี่สาวหนานจือรอเราอยู่ที่ประตูแล้ว ลุกขึ้นมา!”“ขอเวลาอีกสามนาที”และทันใดนั้น ความเงียบก็กลับคืนมาฉันยกมือขึ้นและมองดูนาฬิกา ดีเลย เหลือเวลาอีกเพียงห้านาทีเท่านั้นก่อนที่เวลาที่เขานัดที่น่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 317

    บางทีอาจเป็นเพราะฉันรู้สึกขอบคุณและรู้สึกผิดต่อเขามากเกินไป ฉันเลยไม่ใส่ใจและยิ้ม "ไม่เป็นไร มันไม่เจ็บมาก"เขาถอนมือออก ถอนหายใจเงียบๆ แล้วพูดว่า "เข้าบ้านเถอะ ฉันแค่แวะมาหาคุณเท่านั้น ฉันสบายใจเมื่อเห็นว่าคุณสบายดีก็พอแล้ว""โอเค"อากาศหนาวมาก ฉันเลยสูดอากาศและโบกมือให้เขา ก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูบ้านเมื่อนึกถึงบ้านที่เขาเพิ่งพูดถึง ฉันจึงหันกลับไปหาเขาแล้วพูดว่า “ยังไงก็ตาม รุ่นพี่ ฉันจะย้ายออกไปโดยเร็วที่สุด...”เมื่อฉันย้ายมาที่นี่ ฉันคิดว่ามันเป็นแค่เพราะมิตรภาพตอนนี้ฉันรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว และต้องการเป็นเพื่อนกันต่อไป จะดีกว่าถ้าจะไม่ก่อปัญหา"ไม่จำเป็น!"หลังจากพยายามอยู่พักหนึ่ง ลู่สือเยี่ยนดูเหมือนจะประนีประนอมและพูด: "คุณสามารถอยู่ที่นี่อย่างสงบสุขได้ โจวฟางอยู่ตรงข้ามกับคุณ... คนทั่วไปคงไม่กล้ามาที่นี่เพื่อก่อเรื่อง ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคุณ""ขอบคุณค่ะ...""หนานจือ เรายังเป็นเพื่อนกันนะ"เขาเห็นความไม่สบายใจของฉัน จึงตัดสินใจพูดออกมาตรง ๆ "คุณไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระใดๆ เพียงเพราะฉันชอบคุณ และคุณไม่ได้ทำให้ฉันเสียเวลาอะไรใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้เราเปิดใจพูดกันแล้ว

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 316

    เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "วันหยุดจะเริ่มวันมะรืนนี้สินะ""ใช่แล้ว"เขาพูดอย่างไม่ลังเลว่า "เราจะออกเดินทางไปเมืองจิงเฉิงตอนเจ็ดโมงเช้า"“……?”ฉันมองเขาแล้วพูดว่า "คุณไม่ได้ช่วยฉันจัดการกับฟู่ฉีชวนก่อนเหรอ?"เขายกคิ้ว แล้วพูดอย่างเป็นธรรมชาติว่:"ตอนนี้คุณกำลังขอร้องให้ฉันช่วย อย่างน้อยก็แสดงความจริงใจให้ฉันดูก่อนสิ?""......"นักธุรกิจทุกคนก็เหมือนกันฟู่ฉีชวนเป็นยังไง เขาก็เช่นกันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน และฉันตัดสินใจที่จะกำหนดขอบเขตบางอย่างไว้ล่วงหน้า “ฉันช่วยเล่นละครกับพ่อแม่คุณได้ แต่ฉันหย่าร้าง พวกเขาคงไม่ยอมรับฉันหรอก…”โจวฟางไม่ได้ใส่ใจเลย "นั่นเป็นเรื่องของฉัน"ลิฟต์มาถึงชั้นแล้ว ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ “โอเค ฉันสัญญา”ทันทีที่พูดจบ ประตูก็เปิดออกแล้วเราแยกย้ายกันไป แต่ทันทีที่ออกไป ฉันก็แปลกใจที่เห็นลู่สือเยี่ยนยืนอยู่หน้าบ้านตระกูลลู่ยอมให้เขามาหาฉันจริงๆจากหางตา โจวฟางเหลือบมองมาทางเราแต่ก็ไม่หยุด เขาปลดล็อกประตูอย่างนุ่มนวล ก้าวเข้าไปข้างใน และปิดประตูตามหลังเขาไปในคราวเดียวนอกประตู เงียบมากจนได้ยินเพียงเสียงลมหอนในคืนฤดูหนาวด้วยคำเตือนของลู่สือจิ่ง ฉันรู้สึ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status