ทั้งสองคนยังเตรียมของขวัญย้ายมามาให้กันอีกด้วยลู่สือเยี่ยนเองก็หยิบกล่องของขวัญที่ดูประณีตใบหนึ่งยื่นให้ฉัน "หวังว่าเธอจะชอบนะ""ขอบคุณค่ะรุ่นพี่"ฉันยิ้มขอบคุณพอเห็นว่าในกล่องเป็นชุดที่ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ชุดหนึ่ง ก็เลยรู้สึกประหลาดใจ มองไปทางเขา "พี่ออกแบบเองหรือ?""อืม แค่ตัวนี้ตัวเดียวด้วยนะ" ลู่สือเยี่ยนยิ้มตอบ"รุ่นพี่ลู่ดูตั้งใจจริงๆ!"เจียงไหลชมเสร็จ ก็จงใจทำให้ฟู่ฉีชวนลำบากใจ "ประธานฟู่ ในเมื่อมาร่วมงานขึ้นบ้านแล้ว ก็น่าจะติดของขวัญอะไรมาบ้างสิ?"เดิมทีฉันคิดจะตัดบท แต่ก็ถูกเจียงไหลขวางเอาไว้ขนาดก่อนที่ฉันจะเข้าบ้านมา ยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาเตรียมงานขึ้นบ้านใหม่ให้ฉัน ฟู่ฉีชวนจะเตรียมของขวัญให้ล่วงหน้าได้อย่างไรกันดวงตาดำขลับทั้งคู่ของฟู่ฉีชวนจ้องมองฉัน ยื่นมือล้วงกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสูท วางไว้ตรงหน้าฉันเขาซ่อนคลื่นผันผวนใต้ตาลงไป มุมปากยกขึ้นเป็นวงอย่างชัดเจน "เดิมทียังหาโอกาสให้เธอไม่ได้เลย ดูท่าตอนนี้ได้จังหวะพอดี""คืออะไรหรือ?"เจียงไหลพุ่งเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็นฉันเปิดออกดู ก็มองฟู่ฉีชวนอย่างประหลาดใจ "เธอประมูลมาหรือ?"เป็นต่างหูอัญมณีสี
พอคิดขึ้นมาก็รู้สึกน่าขันฉันที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในคืนแต่งงาน ฉันที่สามีไม่เคยโผล่มาในวันเกิด ฉันที่มีของขวัญที่อยากได้แต่ก็ถูกส่งไปให้คนอื่น กระทั่งวันที่ตรวจครรภ์สามีก็ยังไปกับคนอื่น นี่ก็ตัวฉันอีก...ตอนนี้พวกเราเดินมาถึงจุดที่ต้องหย่าร้าง เพื่อนมาจัดงานขึ้นบ้านใหม่ให้ฉัน แต่เขากลับรับไม่ได้ขึ้นมาหรือมุมปากฉันกระตุก หรุบตามองเขา "ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะโทรหาฟู่จินอันแล้วนะ"ถ้าให้ฟู่จินอันมาอาละวาดกับเขา เขาก็คงรับมือไม่ไหวหรอกฟู่ฉีชวนโอบเอาฉันแน่นขึ้นมา หน้าผากยันไว้ที่หน้าอกฉัน เอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า "หนานจือ ชั้นไม่เคยคิดจะให้มันเปลี่ยนเป็นแบบนี้เลย จริงๆ นะ"เขาเป็นแบบนี้ ฉันก็อดใจอ่อนลงมาไม่ได้จังหวะที่จะอ้าปากพูดนั้น โทรศัพท์มือถือที่เขาวางไว้บนโต๊ะก็ดังขึ้นสายที่เข้ามาแสดงชื่อ 'ฟู่จินอัน'เหมือนน้ำเย็นสาดลงมาบนหัว กระตุ้นเรียกฉันให้ตื่นขึ้นมาในพริบตา ยื่นมือผลักเขาออก "เธอมีสายเข้า"พอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน ลู่สือเยี่ยนเดินออกมาจากห้องครัวพอดี"หนานจือ เก็บเรียบร้อยแล้ว ชั้นไปส่งเฮ่อถิงกลับก่อนนะ""ชั้นจะส่งพวกเธอลงไป"ฉันเหลือบมองร่างที่ไปรับโทรศัพท์ตรงระเบียง อดรำคาญใจขึ้นมาอย่างปร
"อยากขอบคุณชั้นจริงหรือ?"เดินมาข้างรถ ลู่สือเยี่ยนดันเฮ่อถิงเข้าไปที่เบาะหลัง เอนพิงตัวรถ หรุบตายิ้มมองฉันฉันพยักหน้า "แน่นอน""ถ้าอย่างนั้นก็รับปากชั้นหน่อย หลังจากนี้ห้ามเอาแต่พูดคำว่า 'ขอบคุณ' กับชั้นอีก"คำพูดนี้ทำให้ฉันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่ยังไม่ทันได้คิด เขาก็ยิ้มเสริมมาให้คำหนึ่ง "มันดูห่างเหินเกินไป"ฉันยิ้มตอบ "ได้ เข้าใจแล้ว"คนขับรถเข้ามาพอดี เขาเอากุญแจรถส่งให้คนขับ เอ่ยขึ้นด้วยคิ้วตาที่ดูอบอุ่น "ชั้นไปแล้วนะ เธอรีบขึ้นไปเถอะ"ตอนที่ฉันขึ้นไป ห้องรับแขกก็ว่างเปล่าไปแล้วฟู่ฉีชวนไม่อยู่ในใจฉันก็เหมือนโหวงไปครู่หนึ่งแต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นไปมาไม่บอกกล่าว ก็เป็นสไตล์ของเขามาโดยตลอดอยู่แล้วคิดว่าฟู่จินอันทางนั้นคงจะมี 'เรื่องด่วน' อะไรขึ้นมาฉันกลับมาที่ห้องนอน ตบเบาๆ ไปที่เจียงไหล "ไหลไหล ตื่นได้แล้ว ชั้นจะเปลี่ยนชุดนอนให้เธอ จะได้หลับสบายหน่อย""อื้อ"เจียงไหลหรี่ตาขึ้นมา พอเห็นฉัน ก็ยกมือสองข้างกอดฉันอย่างออดอ้อน ยอมให้ฉันเปลี่ยนถอดเสื้อผ้าให้เธอ มุมปากก็ยังงึมงำๆ "หรวนหร่วนที่แสนดี หรวนหร่วนที่แสนดีของชั้น ใครก็ห้ามมารังแกเธอทั้งนั้น...""บ๊องหรือเปล่าเนี่ย?"ฉันอด
ประโยคนี้ของหล่อน ถ้าถามขึ้นก่อนหน้านี้ จิตใจฉันอาจจะรู้สึกอะไรอยู่บ้างแต่ตอนนี้ ขนาดฉันยังยอมรับเรื่องที่ว่า 'ฟู่ฉีชวนไม่ได้มีความรู้สึกให้ฉันเลยแม้แต่น้อย' ได้ จึงไม่สนใจที่จะถามอะไรหล่อนแค่มองเธอนิ่งๆ เท่านั้น "เธอกำตั๋วชนะในมืออยู่แล้ว ทำไมวันๆ ยังเอาแต่มาบ้าบอใส่ชั้นกัน?"ประสาทเช้าตรู่ก็แจ้นมาสำนักงานฉัน ทำตัวอย่างกับพวกเมียน้อยพอเห็นฉันไม่ได้รู้สึกรู้สา ฟู่จินอันก็ดูจะร้อนรน และไม่รอให้ฉันถามไถ่ก็เอ่ยขึ้นอย่างผู้ชนะ "ก็เพื่อตัวชั้นนี่ไง"สองมือของหล่อนค้ำอยู่บนโต๊ะทำงานฉัน ก้มตัวเล็กน้อยเหมือนมองคนที่เคยพ่ายแพ้ "หร่วนหนานจือ ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะชั้น เขาไม่มีทางแต่งกับเธอหรอก! ตอนนี้เธอแค่ประตูของตระกูลฟู่เปิดให้แค่ไหน ก็ยังไม่รู้เลย!"พอได้ยิน มือของฉันก็กำแน่น ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้กระจายอยู่ในใจฉัน ถูกบีบจนกระตุกริมฝีปากแดงของหล่อนเชิดขึ้นอย่างภูมิใจ สองมือกอดอก "คุณปู่ใช้ชั้นไปคุกคามเขา ถ้าหากเขาไม่แต่งกับเธอ ก็จะใช้อำนาจบังคับชั้นไล่ออกไปนอกประเทศ"รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่รักฉัน แต่ตอนนี้พอมาได้ยิน ก็ยังรู้สึกเสียใจมากอยู่ดีขนาดแค่แต่งงานกับฉัน ก็ยังเพราะเขาจำเป็นต้องท
"เอวชั้นเจ็บมากเลย..."หล่อนขดอยู่ในอ้อมอกฟู่ฉีชวนพลางร้องไห้ฟ้อง "ชั้นแค่เพิ่งจะถามหล่อนเรื่องความคืบหน้าของงาน แต่หล่อนก็ผลักชั้น...อาชวน ถ้าอย่างไรให้หล่อนไปเป็นผู้บริหารเถอะ จริงๆ ชั้นก็ไม่อยากจะทำงานในสิ่งแวดล้อมแบบนี้หรอก""..."ฉันฟังจนต้องขมวดคิ้ว นับถือในฝีมือการแต่งเรื่องของหล่อนเสียจนแทบจะหัวเราะเพราะความโกรธเลยจริงๆ แต่กลับเจอกับสายตาที่เต็มไปด้วยการพิจารณาจากฟู่ฉีชวนแทน"เป็นอย่างนี้หรือ?"เสียงของเขาเย็นชาจนเหมือนชั้นน้ำแข็ง ทำเอาฉันเย็นวาบลงไปตั้งแต่หัวจรดเท้าฉันย้อนถามกลับไป "ถ้าชั้นบอกไม่ใช่ เธอจะเชื่อไหมล่ะ?""อาชวน..."ฟู่จินอันหางตาน้ำตาคลอ นิ้วเรียวยาวดึงปกเสื้อของเขา ชุดสูทนี้ เป็นชุดที่ชั้นออกแบบและตัดให้เขาด้วยตัวเองเป็นของขวัญที่มอบให้เขาในวันไวท์เดย์ปีนี้เขาไม่ตอบฉัน กลับหรุบตาลงมองหญิงสาวในอ้อมกอด ขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเหมือนหมดความอดทนแต่ยังดูเป็นห่วง "ไม่ใช่เด็กแล้ว หกล้มนิดเดียวยังมาร้องห่มร้องไห้? ชั้นส่งเธอไปโรงพยาบาลตรวจดูก็แล้วกัน"จากนั้น จึงสาวเท้าเดินออกไป ราวกับกลัวว่าหญิงสาวในดวงใจจะเสียหายตรงไหน ทิ้งไว้แค่แผ่นหลังที่เย็นชาฉันสูดลมหายใจลึ
ฉันถูกหล่อนทำเอาตกใจสะดุ้งโหยงตอนนี้จึงเพิ่งลูบๆ ไปที่ติ่งหู เลือดแห้งไปแล้ว ยังลูบติดสะเก็ดเลือดสีแดงมาบางส่วนด้วยพอแตะไป ที่ติ่งหูก็มีความเจ็บแล่นขึ้นมาอีกครั้งนี่ดึงจนเลือดออก แต่ฉันกลับไม่รู้ตัวเลยเจียงไหลตบลงบนมือของฉัน "เธอจะไปแกะมันทำไม ไม่เจ็บหรือ?"ระหว่างที่พูด หล่อนก็หยิบก้านสำลีชุบไอโอดีนออกมา รวมผมของฉัน จากนั้นก็ล้างแผลให้อย่างระมัดระวัง "ไปโดนอะไรมา?""ฟู่จินอันทำน่ะ"ฉันพูดสาเหตุออกมาให้หล่อนฟังง่ายๆ รอบหนึ่งเจียงไหลโมโหจนด่ากราด "นี่มันบ้าบออะไรกัน ชั้นว่าหล่อนคงเป็นพวกคิวอาร์โค๊ดล่ะมั๊ง ไม่แสกนดูเสียหน่อยก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่ใช่ของของหล่อนก็ยังกล้าเข้ามาแย่งอีก หายนะกลับชาติมาเกิดแท้ๆ""เธอทำไมถึงด่าคนเป็นชุดๆ แบบนี้กัน?"หล่อนด่ารวดออกมาแบบนี้ อารมณ์ขุ่นมัวทั้งวันของฉัน ก็เหมือนจะน้อยตามลงมาบ้างแล้วเจียงไหลถลึงตามองฉัน "เพราะมีเพื่อนแบบเธอนี่ไง ชั้นต้องเรียนรู้เรื่องด่าคนเอาไว้บ้างอยู่แล้ว""โอ้"ฉันยอมให้หล่อนช่วยจัดการหูให้ พอไอโอดินทาลงไปก็เย็นวาบ แต่ไม่เจ็บเจียงไหลจัดการจนเสร็จ ก็สบถขึ้นมาว่า "เจ้าฟู่ฉีชวนคนนี้ถนัดลูบหลังแล้วตบหัวเสียจริง เมื่อวานนี้เพิ่
ในวันครบรอบแต่งงานสามปีฟู่ฉีชวนซื้อสร้อยคอที่ฉันอยากได้มานานในราคาสูงลิ่วใครๆ ก็บอกว่าเขารักฉันจะเป็นจะตายฉันเตรียมดินเนอร์ใต้แสงเทียนด้วยความสุขอันเปี่ยมล้น ทว่ากลับมีคลิปนึงถูกส่งมาในคลิปนั้น เขาสวมสร้อยคอให้ผู้หญิงอีกคนด้วยมือของเขาเอง "ยินดีกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่"ที่แท้ วันนี้ไม่ใช่แค่วันครบรอบแต่งงานของพวกเราแต่เป็นวันที่ผู้หญิงในดวงใจของเขาหย่าด้วยเช่นกัน.......ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองแม้ว่าการแต่งงานกับฟู่ฉีชวน จะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากความรักแต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น เขามักจะเป็นผู้ชายที่คลั่งรักภรรยามาโดยตลอดฉันนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร มองดูสเต็กที่เวลานี้เย็นสนิท และข้อความที่ขึ้นติดเทรนด์ฮอตอยู่ในขณะนี้ "ฟู่ฉีชวนทุ่มเงินหลายสิบล้านเพื่อเอาใจเมีย"ทั้งหมดนี้ ล้วนกลายเป็นคำเยาะเย้ยที่ไร้ซึ่งเสียงเวลาตีสอง ในที่สุดรถมายบัคสีดำก็เคลื่อนเข้าสู่สนามหญ้าหน้าต่างสูงจรดพื้น สามารถมองเห็นชายหนุ่มที่ลงจากรถ เขาสวมชุดสูทสีเข้มที่สั่งตัดเย็บด้วยมือ รูปร่างสูงโปร่ง สง่างามและสูงศักดิ์"ทำไมยังไม่นอนอีก?"ฟู่ฉีชวนเปิดไฟ เมื่อเห
เครื่องเพชร?ฉันขมวดคิ้วเบาๆ ตะเบ็งเสียงพูดกับฟู่ฉีชวนที่เพิ่งเดินเข้าห้องน้ำ "ฉีชวน พี่จินอันมาค่ะ ฉันลงไปดูก่อนนะ"เรียกได้ว่าเกือบจะวินาทีต่อมา ฟู่ฉีชวนก็กระโจมออกมา สีหน้าของเขาเย็นชาอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน"ผมไปเองก็ได้ คุณไม่ต้องสนใจหรอก ไปอาบน้ำเถอะ"ชายหนุ่มที่อารมณ์มั่นคงและสุขุมมาโดยตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าฉัน แต่น้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยอารมณ์บางอย่างที่ยากจะอธิบาย ราวกับทั้งหงุดหงิดทั้งตึงเครียดความรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นในใจของฉัน "ฉันอาบเสร็จแล้ว ยาสีฟันของคุณ ฉันก็เป็นคนเตรียมเอาไว้ให้เอง ลืมไปแล้วหรอ?""ก็ได้ครับ งั้นก็ลงไปด้วยกันนี่แหละ อย่าให้แขกต้องรอนานจะดีกว่า"ฉันจับมือของเขาเดินลงไปชั้นล่างบันไดเป็นดีไซน์แบบบันไดวน ส่วนที่เป็นลักษณะโค้งในครึ่งล่าง ทำให้สามารถมองเห็นฟู่จินอันที่สวมชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ หล่อนนั่งอยู่บนโซฟาอย่างสง่าผ่าเผยเพราะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวหล่อนก็เงยหน้าขึ้น เผยรอยยิ้มเงียบเชียบ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับมือทั้งสองข้างของฉันกับฟู่ฉีชวนที่จับกันอยู่ แก้วน้ำในมือก็สั่นทันที จนน้ำชาในแก้วกระฉอกออกมาเล็กน้อย"อ๊ะ..."น่าจะเพราะค่อนข้างร้อน หล่อน