แชร์

บทที่ 29

ผู้เขียน: เล่อเอิน
"เอวชั้นเจ็บมากเลย..."

หล่อนขดอยู่ในอ้อมอกฟู่ฉีชวนพลางร้องไห้ฟ้อง "ชั้นแค่เพิ่งจะถามหล่อนเรื่องความคืบหน้าของงาน แต่หล่อนก็ผลักชั้น...อาชวน ถ้าอย่างไรให้หล่อนไปเป็นผู้บริหารเถอะ จริงๆ ชั้นก็ไม่อยากจะทำงานในสิ่งแวดล้อมแบบนี้หรอก"

"..."

ฉันฟังจนต้องขมวดคิ้ว นับถือในฝีมือการแต่งเรื่องของหล่อนเสียจนแทบจะหัวเราะเพราะความโกรธเลยจริงๆ แต่กลับเจอกับสายตาที่เต็มไปด้วยการพิจารณาจากฟู่ฉีชวนแทน

"เป็นอย่างนี้หรือ?"

เสียงของเขาเย็นชาจนเหมือนชั้นน้ำแข็ง ทำเอาฉันเย็นวาบลงไปตั้งแต่หัวจรดเท้า

ฉันย้อนถามกลับไป "ถ้าชั้นบอกไม่ใช่ เธอจะเชื่อไหมล่ะ?"

"อาชวน..."

ฟู่จินอันหางตาน้ำตาคลอ นิ้วเรียวยาวดึงปกเสื้อของเขา ชุดสูทนี้ เป็นชุดที่ชั้นออกแบบและตัดให้เขาด้วยตัวเอง

เป็นของขวัญที่มอบให้เขาในวันไวท์เดย์ปีนี้

เขาไม่ตอบฉัน กลับหรุบตาลงมองหญิงสาวในอ้อมกอด ขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเหมือนหมดความอดทนแต่ยังดูเป็นห่วง "ไม่ใช่เด็กแล้ว หกล้มนิดเดียวยังมาร้องห่มร้องไห้? ชั้นส่งเธอไปโรงพยาบาลตรวจดูก็แล้วกัน"

จากนั้น จึงสาวเท้าเดินออกไป ราวกับกลัวว่าหญิงสาวในดวงใจจะเสียหายตรงไหน ทิ้งไว้แค่แผ่นหลังที่เย็นชา

ฉันสูดลมหายใจลึ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 30

    ฉันถูกหล่อนทำเอาตกใจสะดุ้งโหยงตอนนี้จึงเพิ่งลูบๆ ไปที่ติ่งหู เลือดแห้งไปแล้ว ยังลูบติดสะเก็ดเลือดสีแดงมาบางส่วนด้วยพอแตะไป ที่ติ่งหูก็มีความเจ็บแล่นขึ้นมาอีกครั้งนี่ดึงจนเลือดออก แต่ฉันกลับไม่รู้ตัวเลยเจียงไหลตบลงบนมือของฉัน "เธอจะไปแกะมันทำไม ไม่เจ็บหรือ?"ระหว่างที่พูด หล่อนก็หยิบก้านสำลีชุบไอโอดีนออกมา รวมผมของฉัน จากนั้นก็ล้างแผลให้อย่างระมัดระวัง "ไปโดนอะไรมา?""ฟู่จินอันทำน่ะ"ฉันพูดสาเหตุออกมาให้หล่อนฟังง่ายๆ รอบหนึ่งเจียงไหลโมโหจนด่ากราด "นี่มันบ้าบออะไรกัน ชั้นว่าหล่อนคงเป็นพวกคิวอาร์โค๊ดล่ะมั๊ง ไม่แสกนดูเสียหน่อยก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่ใช่ของของหล่อนก็ยังกล้าเข้ามาแย่งอีก หายนะกลับชาติมาเกิดแท้ๆ""เธอทำไมถึงด่าคนเป็นชุดๆ แบบนี้กัน?"หล่อนด่ารวดออกมาแบบนี้ อารมณ์ขุ่นมัวทั้งวันของฉัน ก็เหมือนจะน้อยตามลงมาบ้างแล้วเจียงไหลถลึงตามองฉัน "เพราะมีเพื่อนแบบเธอนี่ไง ชั้นต้องเรียนรู้เรื่องด่าคนเอาไว้บ้างอยู่แล้ว""โอ้"ฉันยอมให้หล่อนช่วยจัดการหูให้ พอไอโอดินทาลงไปก็เย็นวาบ แต่ไม่เจ็บเจียงไหลจัดการจนเสร็จ ก็สบถขึ้นมาว่า "เจ้าฟู่ฉีชวนคนนี้ถนัดลูบหลังแล้วตบหัวเสียจริง เมื่อวานนี้เพิ่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 31

    ทำไมจะต้องเปลืองแรงเจียงไหลระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ "ได้ งั้นเรารีบจ่ายเงินแล้วไปกันเถอะ เห็นแล้วเสียลูกกะตาเปล่าๆ"หลังจากที่สะสางค่าใช้จ่ายแล้ว ที่ปรึกษาด้านการขายก็พาเราไปหน้าประตูร้านเพื่อดูรถเพราะผ่านการซ่อมแซมมานานหลายวัน จึงไม่มีร่องรอยของอุบัติเหตุอีก ภายนอกแทบไม่ต่างอะไรกับรถใหม่"เธอรอฉันแป๊บนึง ฉี่จะแตก ฉันไปห้องน้ำหน่อย"เจียงไหลทิ้งประโยคนั้น แล้วก็ก้าวฉับๆไปยังห้องน้ำด้วยความรีบร้อนฉันยิ้มเล็กน้อย แล้วเข้าไปนั่งรอในรถทันทีวินาทีที่เข้าไปในรถ ก็ได้ยินเสียงออกคำสั่งที่สดใสชัดเจน "ฉันชอบรถคันนั้น!"จะชอบคันไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันฉันปิดประตูรถ คิดแค่ว่ารอให้เจียงไหลออกมาก็จะไปทันทีแต่ไม่คาดคิดเลยว่า ยังไม่ทันที่เจียงไหลจะออกมา ที่ปรึกษาการขายก็มาเคาะหน้าต่างรถของฉันก่อนฉันลดหน้าต่างลงเล็กน้อย เอ่ยปากอย่างตัดรำคาญ "มีอะไร?""สวัสดีค่ะ คืออย่างนี้นะคะ มีลูกค้าท่านนึงอยากจะดูรถของคุณหน่อยได้ไหมคะ...""ไม่ใช่ดู แต่ฉันจะซื้อรถของเธอ"ฟู่จินอันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน แต่น้ำเสียงกลับเผยความไม่ยอม "พวกเรามีเงิน คุณให้เธอเสนอราคามาสิ เท่าไหร่ก็ย่อมได้"พนักงาน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 32

    ระหว่างทางที่ไปกินอาหารเย็น ฉันพลันนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองยังมึนงงไม่หายตอนที่ฟู่จินอันถามประโยคนั้น ฉันยังอุตส่าห์คาดหวังว่าฟู่ฉีชวนจะพูดอะไรที่ปกป้องฉันสักหน่อยอย่างเช่น "หนานจือจะใช้เงินฉันมันก็ไม่แปลกตรงไหน" "ถ้าหนานจือจะใช้เงินของฉันต้องขอความเห็นจากเธอหรือไง?"แต่ฟู่ฉีชวนตอบว่ายังไงน่ะหรอเขาพูดว่า "รถคันนี้คุณปู่ซื้อให้เธอ"เพราะแบบนั้นฟู่จินอันจึงพูดอะไรไม่ออกแต่ก็เห็นกันชัดๆ ว่ามันเป็นของขวัญที่เขามอบให้ฉันในวันวาเลนไทน์เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่ฟู่จินอันโวยวาย เขาจำไม่ได้ว่ารถคันนี้เป็นของฉัน นั่นก็ว่าแย่แล้วแต่เขายังลืมด้วยซ้ำว่ารถคันนี้มาที่มายังไงหรือจะบอกว่า จริงๆ แล้วเขาจำได้แต่เขาไม่ต้องการให้ฟู่จินอันรู้ ว่าความจริงแล้วเขาก็ดีกับฉันไม่น้อยฉันที่เป็นนายหญิงตระกูลฟู่ ไร้ชื่อไร้เกียรติถึงขนาดนี้ที่แม้แต่ทรัพย์สินร่วมของสามีภรรยาก็ไม่มีสิทธิ์ใช้? แถมยังต้องซ่อนเร้นเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนรักเก่าของเขาแต่เขากลับให้รถฟู่จินอัน โอ๋หล่อนเสียงเย็นต่อหน้าฉันว่า "พอเถอะ คนอายุสามสิบจะมาดื้อทำไม ซื้อรุ่นเดียวกันมันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไปทำสีใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 33

    และ MS เป็นหนึ่งในแบรนด์หรูชั้นนำอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่คนส่วนใหญ่ในโลกการออกแบบใฝ่ฝันดวงตาของลู่สือเยี่ยนเผยรอยยิ้มบางๆ "อืม เพิ่งจะคอนเฟิร์มเอง""เขานั่นแหละเพิ่งจะยอมปริปาก"เฮ่อถิงไม่ให้เขาถ่อมตัวแต่อย่างใด "ก่อนที่เขาจะกลับประเทศ MSพยายามติดต่อเขาอยู่ตลอด แต่เขายังตัดสินใจไม่ได้ ถึงได้ลากเลื่อนมาจนป่านนี้"อย่าว่าแต่หลินเนี่ยน แม้แต่ฉันเองก็ยังอดนับถือขึ้นมาไม่ได้ จึงพูดยิ้มๆ "รุ่นพี่ ดูท่าทางว่าอีกไม่นานม.เจียงจะต้องเขียนบทความถึงรุ่นพี่ในฐานะแสงแห่งโรงเรียนเก่าแน่ๆ"จะว่าไป ฟู่ฉีชวนก็มีชื่ออยู่ในบล็อคของม.เจียงมาอย่างยาวนาน แม้ว่าเขาจะเรียนจบมาหลายปีแล้วก็ตาม และมีนักศึกษาจำนวนมากในม.เจียงที่เป็นแฟนคลับเขาด้วยบางที เขาอาจจะเป็นดวงดาวบนฟากฟ้า ที่ฉันไม่ควรเพ้อพกหวังจะได้มาครอบครอง"เพราะงั้น วันนี้นายก็เลยตั้งใจมาฉลองรุ่นพี่ลู่ที่เข้าทำงานในMSโดยเฉพาะ?" เจียงไหลถามพลางกินไปด้วย"ก็ใช่น่ะสิ"เฮ่อถิงพยักหน้า "รีบกินๆ อีกเดี๋ยวยังมีปาร์ตี้ครึ่งหลังอีก"เขาพูดขณะที่มองอย่างไม่ใส่ใจ "น่าเสียดายที่พี่ชวนไม่ว่าง ไม่งั้นพวกเธอ..."ฉันดูออกว่าเขาไม่อยากให้ฉันกับ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 34

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ชะงักไปเล็กน้อยลู่สือเยี่ยนละเอียดอ่อนกว่าภาพในความทรงจำของฉันซะอีกเมื่อกี้ตอนที่กินหม้อไฟ มีอาหารประเภทเนื้อบางจานที่เพิ่งเสิร์ฟและยังไม่ได้ถูกปรุงสุกจึงมีกลิ่นคาว พอฉันดมแล้วก็รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย แต่ก็พยายามฝืนเก็บอาการไม่คิดว่าจะถูกเขาเห็นเข้าฉันยิ้มบางๆ "ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร""งั้นก็ดีแล้ว สุขภาพสำคัญที่สุด"คำพูดประโยคนี้ของลู่สือเยี่ยน เห็นได้ชัดว่าแฝงนัยยะอยู่ "ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ก็ต้องดูแลตัวเองก่อน""ค่ะ"หัวใจของฉันอบอุ่นขึ้นมาแต่ต่อมา ฉันถึงได้เข้าใจว่าประโยคนั้นของเขา แท้จริงแล้วมันหมายความว่าอะไรรถค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่โรงจอดรถใต้ดินของหลินเจียงการ์เด้น ลู่สือเยี่ยนประคองฉันลงจากรถ ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีแสงสว่างอยู่เบื้องหลัง แต่พอมองไปรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติขณะกำลังจะเข้าไปในตัวอาคาร รถมายบัคคันนึงขับเฉียดผ่านไป เจ้าของรถคลับคล้ายว่ากำลังถูกครอบงำไว้ด้วยไฟแห่งโทสะฉันตกใจมาก รีบปกป้องส่วนท้องของตัวเองแล้วถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ใช่เพราะลู่สือเยี่ยนคอยประคองไว้ด้วยความมั่นคง เกรงว่าคงได้ล้มเป็น

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 35

    "ใคร?"ฉันไม่เข้าใจเขายิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย "ลู่สือเยี่ยน""..."ฉันขมวดคิ้วมองเขา ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "ฟู่ฉีชวน คุณมาที่นี่เพื่อจะจับผิดหรือไง?"ตัวเองทำผิดแต่จะมาโยนให้ชั่วให้คนอื่นแววตาของเขามืดลง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน พ่นออกมาสองคำด้วยเสียงเรียบ "ไม่ใช่""งั้นคุณมาทำไม?""..."ฟู่ฉีชวนไม่ตอบ ขนตายาวๆ สะท้อนเป็นเงาบนแก้มทั้งสองข้างของเขา สีหน้าท่าทางของเขาเผยรังสีความหดหู่ไปทั่วลมในยามกลางคืนพัดเข้ามา ทำเอาฉันขนลุกซู่ทั้งร่างกาย แล้วก็พูดอย่างเหนื่อยหน่าย "ถ้าไม่พูดฉันจะปิดประตูแล้ว"ชายหนุ่มที่อมพะนำอยู่เนิ่นนาน จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงอู้อี้ "ผมก็แค่คิดถึงคุณ"หัวใจของฉันราวกับหยุดเต้นไปทันทีจู่ๆ ก็ทำอะไรไม่ถูกเขาเคยพูดหยอดใส่ฉันมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำลามก ที่แค่เกี้ยวพาราสี ไม่ได้มาจากความรู้สึกจริงๆเมื่อก่อนมีหลายครั้งที่ฉันคาดหวังว่าเขาจะพูดคำรักแสนซึ้งที่มาจากใจจริง เวลาที่ร่วมรักกันบนเตียงฉันก็มักจะโอบรอบคอของเขา ครางด้วยเสียงสั่นเครือว่าฉันรักคุณ ฉันคิดถึงคุณเหลือเกินแต่สิ่งที่ได้กลับมามีแค่ความเงียบ หรือไม่ก็คำหยอกเย้าที่เอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 36

    ราวกับอากาศรอบๆ เยือกแข็ง หัวใจของฉันเองก็ลอยล่องในอากาศเหมือนกับกำลังรอคอย ให้เขาอธิบายเป็นคำพูดนั้นออกมาหลังจากที่นิ่งสงัดไปชั่วครู่ เขากลับโยนคำถามด้วยเสียงแข็งกระด้างกลับมาว่า "จะต้องรีบหย่าให้ได้เลยใช่ไหม?"ความรู้สึกในอกที่กลั้นเอาไว้จนฉันแทบจะหายใจไม่ออก แหงนหน้ามองแสงไฟในห้องรับแขกที่สว่างจ้าจนแสบตา กระพริบตาปริบๆ แม้ว่าหัวใจจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับโหดร้ายยิ่งกว่า"ใช่ ฉันรีบ"อย่างน้อยก่อนที่ท้องจะโตไปมากกว่านี้ ต้องตัดจากเขาให้ขาดโดยสิ้นเชิงถ้าต้องใช้ลูกมาเดิมพัน ฉันทำไม่ลงที่ด้านหลัง ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่ตอบกลับฉันเป็นเสียงประตูที่ดังลั่นฉันเหมือนกับถูกสูบเอาพลังไปจนหมด ทิ้งร่างกายลงไหลไปกับตู้รองเท้า มองฝ้าเพดานอย่างสติเลื่อนลอยภายในใจก็รู้สึกโหวงๆภายในชั่วขณะ ความเจ็บปวดแปล๊บๆ อยู่ภายในอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่รู้สึกเกิดอาการแพ้ท้อง แต่นอนพลิกตัวไปมายากจะข่มตาหลับลมแรงในคืนฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงโหยหวนตลอดทั้งคืน เหมือนว่ามันจะพัดถาโถมใส่ร่างกายของฉัน จนร่างกายเปียกชื้นด้วยความหนาวเย็นไปทั้งตัวจะว่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 37

    "แค่นั้น?""แค่นั้น"ฉันเลิกคิ้ว "เธอไม่ชอบเขาสักนิดเลยหรอ?""ชอบนิดหน่อยมั้ง"เจียงไหลตอบเสร็จ จู่ๆ ก็หัวเราะเสียดสีนิดหน่อย "แต่ชอบแล้วมันมีประโยชน์อะไร แม่ฉันยังพูดเลยว่าตอนนั้นที่แต่งให้พ่อก็เพราะทั้งสองคนชอบพอกัน""แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาหยุดเขกกระบาลอีกฝ่าย เวลาที่ทะเลาะกัน""บนโลกนี้มันมีความรักที่ซื่อสัตย์และยาวนานตลอดไปซะที่ไหน?"ความจริงฉันรู้ดี ว่าเธอไม่เชื่อในความรัก กระทั่งความสัมพันธ์ในครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอทำธุรกิจล้มเหลว ก็เริ่มติดเหล้า เล่นพนัน ตบเมีย เตะลูกสาวส่วนแม่ของเธอก็หายตัวไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใด ปล่อยให้เธอเติบโตกับพ่อที่ไม่เอาไหน ถูกเลี้ยงมาด้วยลำแข้งตั้งแต่เด็กๆฉันกลัวว่าเธอจะเสียใจ ก็เลยเบี่ยงหัวข้อสนทนา พูดด้วยรอยยิ้ม "งั้นทำไมเธอถึงได้ดีกับฉันมาตั้งหลายปีขนาดนี้?"เธอกรอกตาขึ้นบน "ใครกันที่ร้องไห้บนดาดฟ้าหน้าหนาวจนน้ำตาน้ำมูกไหลเต็มมือฉัน ขอร้องอ้อนวอนไม่ให้ฉันโดดตึก?"พอพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็ลูบจมูกแก้เขินตอนนั้นเธอนั่งตากลมอยู่บนดาดฟ้า ฉันเห็นก็ตกใจใหญ่โต พุ่งเข้าไปกอดเธอแล้วหวังจะดึงลงไปเธอเองก็ตกใจมาก นึกว่าใครจะมาลอบฆ่า

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status