Share

บทที่ 31

Author: เล่อเอิน
ทำไมจะต้องเปลืองแรง

เจียงไหลระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ "ได้ งั้นเรารีบจ่ายเงินแล้วไปกันเถอะ เห็นแล้วเสียลูกกะตาเปล่าๆ"

หลังจากที่สะสางค่าใช้จ่ายแล้ว ที่ปรึกษาด้านการขายก็พาเราไปหน้าประตูร้านเพื่อดูรถ

เพราะผ่านการซ่อมแซมมานานหลายวัน จึงไม่มีร่องรอยของอุบัติเหตุอีก ภายนอกแทบไม่ต่างอะไรกับรถใหม่

"เธอรอฉันแป๊บนึง ฉี่จะแตก ฉันไปห้องน้ำหน่อย"

เจียงไหลทิ้งประโยคนั้น แล้วก็ก้าวฉับๆไปยังห้องน้ำด้วยความรีบร้อน

ฉันยิ้มเล็กน้อย แล้วเข้าไปนั่งรอในรถทันที

วินาทีที่เข้าไปในรถ ก็ได้ยินเสียงออกคำสั่งที่สดใสชัดเจน "ฉันชอบรถคันนั้น!"

จะชอบคันไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน

ฉันปิดประตูรถ คิดแค่ว่ารอให้เจียงไหลออกมาก็จะไปทันที

แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ยังไม่ทันที่เจียงไหลจะออกมา ที่ปรึกษาการขายก็มาเคาะหน้าต่างรถของฉันก่อน

ฉันลดหน้าต่างลงเล็กน้อย เอ่ยปากอย่างตัดรำคาญ "มีอะไร?"

"สวัสดีค่ะ คืออย่างนี้นะคะ มีลูกค้าท่านนึงอยากจะดูรถของคุณหน่อยได้ไหมคะ..."

"ไม่ใช่ดู แต่ฉันจะซื้อรถของเธอ"

ฟู่จินอันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน แต่น้ำเสียงกลับเผยความไม่ยอม "พวกเรามีเงิน คุณให้เธอเสนอราคามาสิ เท่าไหร่ก็ย่อมได้"

พนักงาน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 32

    ระหว่างทางที่ไปกินอาหารเย็น ฉันพลันนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองยังมึนงงไม่หายตอนที่ฟู่จินอันถามประโยคนั้น ฉันยังอุตส่าห์คาดหวังว่าฟู่ฉีชวนจะพูดอะไรที่ปกป้องฉันสักหน่อยอย่างเช่น "หนานจือจะใช้เงินฉันมันก็ไม่แปลกตรงไหน" "ถ้าหนานจือจะใช้เงินของฉันต้องขอความเห็นจากเธอหรือไง?"แต่ฟู่ฉีชวนตอบว่ายังไงน่ะหรอเขาพูดว่า "รถคันนี้คุณปู่ซื้อให้เธอ"เพราะแบบนั้นฟู่จินอันจึงพูดอะไรไม่ออกแต่ก็เห็นกันชัดๆ ว่ามันเป็นของขวัญที่เขามอบให้ฉันในวันวาเลนไทน์เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่ฟู่จินอันโวยวาย เขาจำไม่ได้ว่ารถคันนี้เป็นของฉัน นั่นก็ว่าแย่แล้วแต่เขายังลืมด้วยซ้ำว่ารถคันนี้มาที่มายังไงหรือจะบอกว่า จริงๆ แล้วเขาจำได้แต่เขาไม่ต้องการให้ฟู่จินอันรู้ ว่าความจริงแล้วเขาก็ดีกับฉันไม่น้อยฉันที่เป็นนายหญิงตระกูลฟู่ ไร้ชื่อไร้เกียรติถึงขนาดนี้ที่แม้แต่ทรัพย์สินร่วมของสามีภรรยาก็ไม่มีสิทธิ์ใช้? แถมยังต้องซ่อนเร้นเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนรักเก่าของเขาแต่เขากลับให้รถฟู่จินอัน โอ๋หล่อนเสียงเย็นต่อหน้าฉันว่า "พอเถอะ คนอายุสามสิบจะมาดื้อทำไม ซื้อรุ่นเดียวกันมันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไปทำสีใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 33

    และ MS เป็นหนึ่งในแบรนด์หรูชั้นนำอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่คนส่วนใหญ่ในโลกการออกแบบใฝ่ฝันดวงตาของลู่สือเยี่ยนเผยรอยยิ้มบางๆ "อืม เพิ่งจะคอนเฟิร์มเอง""เขานั่นแหละเพิ่งจะยอมปริปาก"เฮ่อถิงไม่ให้เขาถ่อมตัวแต่อย่างใด "ก่อนที่เขาจะกลับประเทศ MSพยายามติดต่อเขาอยู่ตลอด แต่เขายังตัดสินใจไม่ได้ ถึงได้ลากเลื่อนมาจนป่านนี้"อย่าว่าแต่หลินเนี่ยน แม้แต่ฉันเองก็ยังอดนับถือขึ้นมาไม่ได้ จึงพูดยิ้มๆ "รุ่นพี่ ดูท่าทางว่าอีกไม่นานม.เจียงจะต้องเขียนบทความถึงรุ่นพี่ในฐานะแสงแห่งโรงเรียนเก่าแน่ๆ"จะว่าไป ฟู่ฉีชวนก็มีชื่ออยู่ในบล็อคของม.เจียงมาอย่างยาวนาน แม้ว่าเขาจะเรียนจบมาหลายปีแล้วก็ตาม และมีนักศึกษาจำนวนมากในม.เจียงที่เป็นแฟนคลับเขาด้วยบางที เขาอาจจะเป็นดวงดาวบนฟากฟ้า ที่ฉันไม่ควรเพ้อพกหวังจะได้มาครอบครอง"เพราะงั้น วันนี้นายก็เลยตั้งใจมาฉลองรุ่นพี่ลู่ที่เข้าทำงานในMSโดยเฉพาะ?" เจียงไหลถามพลางกินไปด้วย"ก็ใช่น่ะสิ"เฮ่อถิงพยักหน้า "รีบกินๆ อีกเดี๋ยวยังมีปาร์ตี้ครึ่งหลังอีก"เขาพูดขณะที่มองอย่างไม่ใส่ใจ "น่าเสียดายที่พี่ชวนไม่ว่าง ไม่งั้นพวกเธอ..."ฉันดูออกว่าเขาไม่อยากให้ฉันกับ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 34

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ชะงักไปเล็กน้อยลู่สือเยี่ยนละเอียดอ่อนกว่าภาพในความทรงจำของฉันซะอีกเมื่อกี้ตอนที่กินหม้อไฟ มีอาหารประเภทเนื้อบางจานที่เพิ่งเสิร์ฟและยังไม่ได้ถูกปรุงสุกจึงมีกลิ่นคาว พอฉันดมแล้วก็รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย แต่ก็พยายามฝืนเก็บอาการไม่คิดว่าจะถูกเขาเห็นเข้าฉันยิ้มบางๆ "ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร""งั้นก็ดีแล้ว สุขภาพสำคัญที่สุด"คำพูดประโยคนี้ของลู่สือเยี่ยน เห็นได้ชัดว่าแฝงนัยยะอยู่ "ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ก็ต้องดูแลตัวเองก่อน""ค่ะ"หัวใจของฉันอบอุ่นขึ้นมาแต่ต่อมา ฉันถึงได้เข้าใจว่าประโยคนั้นของเขา แท้จริงแล้วมันหมายความว่าอะไรรถค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่โรงจอดรถใต้ดินของหลินเจียงการ์เด้น ลู่สือเยี่ยนประคองฉันลงจากรถ ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีแสงสว่างอยู่เบื้องหลัง แต่พอมองไปรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติขณะกำลังจะเข้าไปในตัวอาคาร รถมายบัคคันนึงขับเฉียดผ่านไป เจ้าของรถคลับคล้ายว่ากำลังถูกครอบงำไว้ด้วยไฟแห่งโทสะฉันตกใจมาก รีบปกป้องส่วนท้องของตัวเองแล้วถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ใช่เพราะลู่สือเยี่ยนคอยประคองไว้ด้วยความมั่นคง เกรงว่าคงได้ล้มเป็น

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 35

    "ใคร?"ฉันไม่เข้าใจเขายิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย "ลู่สือเยี่ยน""..."ฉันขมวดคิ้วมองเขา ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "ฟู่ฉีชวน คุณมาที่นี่เพื่อจะจับผิดหรือไง?"ตัวเองทำผิดแต่จะมาโยนให้ชั่วให้คนอื่นแววตาของเขามืดลง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน พ่นออกมาสองคำด้วยเสียงเรียบ "ไม่ใช่""งั้นคุณมาทำไม?""..."ฟู่ฉีชวนไม่ตอบ ขนตายาวๆ สะท้อนเป็นเงาบนแก้มทั้งสองข้างของเขา สีหน้าท่าทางของเขาเผยรังสีความหดหู่ไปทั่วลมในยามกลางคืนพัดเข้ามา ทำเอาฉันขนลุกซู่ทั้งร่างกาย แล้วก็พูดอย่างเหนื่อยหน่าย "ถ้าไม่พูดฉันจะปิดประตูแล้ว"ชายหนุ่มที่อมพะนำอยู่เนิ่นนาน จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงอู้อี้ "ผมก็แค่คิดถึงคุณ"หัวใจของฉันราวกับหยุดเต้นไปทันทีจู่ๆ ก็ทำอะไรไม่ถูกเขาเคยพูดหยอดใส่ฉันมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำลามก ที่แค่เกี้ยวพาราสี ไม่ได้มาจากความรู้สึกจริงๆเมื่อก่อนมีหลายครั้งที่ฉันคาดหวังว่าเขาจะพูดคำรักแสนซึ้งที่มาจากใจจริง เวลาที่ร่วมรักกันบนเตียงฉันก็มักจะโอบรอบคอของเขา ครางด้วยเสียงสั่นเครือว่าฉันรักคุณ ฉันคิดถึงคุณเหลือเกินแต่สิ่งที่ได้กลับมามีแค่ความเงียบ หรือไม่ก็คำหยอกเย้าที่เอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 36

    ราวกับอากาศรอบๆ เยือกแข็ง หัวใจของฉันเองก็ลอยล่องในอากาศเหมือนกับกำลังรอคอย ให้เขาอธิบายเป็นคำพูดนั้นออกมาหลังจากที่นิ่งสงัดไปชั่วครู่ เขากลับโยนคำถามด้วยเสียงแข็งกระด้างกลับมาว่า "จะต้องรีบหย่าให้ได้เลยใช่ไหม?"ความรู้สึกในอกที่กลั้นเอาไว้จนฉันแทบจะหายใจไม่ออก แหงนหน้ามองแสงไฟในห้องรับแขกที่สว่างจ้าจนแสบตา กระพริบตาปริบๆ แม้ว่าหัวใจจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับโหดร้ายยิ่งกว่า"ใช่ ฉันรีบ"อย่างน้อยก่อนที่ท้องจะโตไปมากกว่านี้ ต้องตัดจากเขาให้ขาดโดยสิ้นเชิงถ้าต้องใช้ลูกมาเดิมพัน ฉันทำไม่ลงที่ด้านหลัง ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่ตอบกลับฉันเป็นเสียงประตูที่ดังลั่นฉันเหมือนกับถูกสูบเอาพลังไปจนหมด ทิ้งร่างกายลงไหลไปกับตู้รองเท้า มองฝ้าเพดานอย่างสติเลื่อนลอยภายในใจก็รู้สึกโหวงๆภายในชั่วขณะ ความเจ็บปวดแปล๊บๆ อยู่ภายในอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่รู้สึกเกิดอาการแพ้ท้อง แต่นอนพลิกตัวไปมายากจะข่มตาหลับลมแรงในคืนฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงโหยหวนตลอดทั้งคืน เหมือนว่ามันจะพัดถาโถมใส่ร่างกายของฉัน จนร่างกายเปียกชื้นด้วยความหนาวเย็นไปทั้งตัวจะว่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 37

    "แค่นั้น?""แค่นั้น"ฉันเลิกคิ้ว "เธอไม่ชอบเขาสักนิดเลยหรอ?""ชอบนิดหน่อยมั้ง"เจียงไหลตอบเสร็จ จู่ๆ ก็หัวเราะเสียดสีนิดหน่อย "แต่ชอบแล้วมันมีประโยชน์อะไร แม่ฉันยังพูดเลยว่าตอนนั้นที่แต่งให้พ่อก็เพราะทั้งสองคนชอบพอกัน""แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาหยุดเขกกระบาลอีกฝ่าย เวลาที่ทะเลาะกัน""บนโลกนี้มันมีความรักที่ซื่อสัตย์และยาวนานตลอดไปซะที่ไหน?"ความจริงฉันรู้ดี ว่าเธอไม่เชื่อในความรัก กระทั่งความสัมพันธ์ในครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอทำธุรกิจล้มเหลว ก็เริ่มติดเหล้า เล่นพนัน ตบเมีย เตะลูกสาวส่วนแม่ของเธอก็หายตัวไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใด ปล่อยให้เธอเติบโตกับพ่อที่ไม่เอาไหน ถูกเลี้ยงมาด้วยลำแข้งตั้งแต่เด็กๆฉันกลัวว่าเธอจะเสียใจ ก็เลยเบี่ยงหัวข้อสนทนา พูดด้วยรอยยิ้ม "งั้นทำไมเธอถึงได้ดีกับฉันมาตั้งหลายปีขนาดนี้?"เธอกรอกตาขึ้นบน "ใครกันที่ร้องไห้บนดาดฟ้าหน้าหนาวจนน้ำตาน้ำมูกไหลเต็มมือฉัน ขอร้องอ้อนวอนไม่ให้ฉันโดดตึก?"พอพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็ลูบจมูกแก้เขินตอนนั้นเธอนั่งตากลมอยู่บนดาดฟ้า ฉันเห็นก็ตกใจใหญ่โต พุ่งเข้าไปกอดเธอแล้วหวังจะดึงลงไปเธอเองก็ตกใจมาก นึกว่าใครจะมาลอบฆ่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 38

    ฉันโมโหจนแทบจะระเบิดหัวเราะออกมาสุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะฟู่ฉีชวนตามใจหล่อนมากเกินไป จนทำให้หล่อนหน้าหนาได้ถึงขนาดนี้หนาซะยิ่งกว่าฝาบ้านฉันฉีกริมฝีปาก เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา "เธอนับว่าเป็นคนฝ่ายไหนในตระกูลฟู่ไม่ทราบ? เท่าที่ฉันจำได้ ขนาดแซ่ของเธอยังใช้ตามฝั่งพ่อเลยนะ คุณปู่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้เธอเข้ามาเป็นส่วนนึงในตระกูลฟู่หนิ?""ถ้าว่าตามหลักที่เธอพูด รถคันนี้ก็ยิ่งเป็นของฉันเข้าไปใหญ่ เพราะฉันคือภรรยาที่ฟู่ฉีชวนแต่งงานออกหน้าออกตา"ฉันพูดเน้นย้ำทีละคำ พร้อมกับมองดูสีหน้าที่ค่อยๆ แตกละเอียดทีละนิด ในใจก็พลันรู้สึกเบิกบานขึ้นมาไม่น้อยหล่อนกัดฟันกรอด "พวกเธอจะหย่ากันอยู่แล้ว!""ก็ยังไม่ได้หย่าไม่ใช่หรอ? ตราบใดที่ยังไม่หย่า ฉันก็ยังมีหน้ามีตามากกว่าเธอ" ฉันฉีกริมฝีปากยิ้ม"หน้าด้าน!"หล่อนโกรธเกรี้ยวจนควันออกหู ถลึกตาใส่ฉันด้วยความเดือดดาล "ในเมื่อเธอจะหย่าอยู่แล้ว ก็หย่าลงด้วยดีไปสิ! เอาแต่ตามตอแยอาชวนไม่ปล่อยนี่มันหมายความว่ายังไง?!""ใครตามตอแยใครยังไม่รู้เลย""เธอหมายความว่ายังไง?"ราวกับหล่อนได้ยินคำพูดที่ไม่คาดคิด สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม "เธอกำลังจะบอกฉันว่า อาชวนตา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 39

    "..."เขาเก่งเรื่องโบ้ยความผิดจริงๆฉันอยากขำสิ้นดี กระตุกมุมปาก แต่แก้มก็ปวดไม่ไหว "เมื่อกี้คุณเปิดโอกาสให้ฉันพูดหรือไง?"ทุกครั้งที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฟู่จินอัน เขาก็มักจะร้อนรนแทบไม่ไหว"หนานจือ...""ช่างเถอะ "พี่สาว" ของคุณกำลังรอคุณอยู่บนรถน่ะ"ฉันไม่อยากพูดอะไรกับเขาอีก ตัดบทเขาเสร็จ ก็กลับขึ้นไปนั่งบนรถจังหวะที่กำลังจะปิดประตู มือใหญ่ของเขาเกี่ยวบานประตูรถของฉันไว้ "คุณหาอะไรมาปกปิดรอยแผลบนใบหน้าหน่อย อย่าเอะอะจนเรื่องไปถึงคุณปู่ ไม่งั้นท่านคง..."ทุกๆ คำที่พูดออกมา ราวกับกำลังทิ่มแทงลงมาบนขั้วหัวใจของฉัน ฉีกทึ้งร่างกายและวิญญาณให้ขาดออกเป็นชิ้นๆฉันไม่มีความกล้าที่จะทนฟังอีกต่อไป ปิดประตูลงอย่างแรง แยกตัวเขาให้ออกไปอยู่ด้านนอกในดวงตาของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำใสๆ ฉันเบี่ยงหน้าหนี ไม่ให้เขาเห็นความอัปยศอดสูของฉันคนที่โดนตบคือฉันแท้ๆ แต่สิ่งที่เขาห่วงกลับเป็นการที่ฟู่จินอันจะโดนตำหนิฉันเหยียบคันเร่งทันที โดยไม่สนใจว่าเขาออกไปจากตรงนั้นหรือยัง พุ่งทะยานรถออกไปจากที่จอดทันทีที่เพิ่งจะจอดลงตรงไฟจราจรหน้าตึกบริษัท ก็ได้รับสายจากเจียงไหลฉันกระแอมลำคอนิดหน่อยแล้

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 274

    เขามีความแค้นในใจกับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?เขาลดตาลงและพูดอย่างไม่ใส่ใจ "อย่าคิดมาก ฉันแค่ต้องการจัดการกับเธอด้วยตัวเอง"ฉันพูดโดยไม่ลังเล: "โอเ งั้นเรื่องวันนี้ถือว่าคุณจัดการไป"ทำไมไม่แก้แค้นเสิ่นซิงหยู่และถอยห่างจากเธอล่ะโจวฟางเหลือบตามองมาที่ฉันและยิ้มออกมา "หร่วนหนานจือ คุณฉวยโอกาสเก่งมากเลยสินะ?""แน่อยู่แล้ว!"ฉันหัวเราะคิกคัก “ว่าแต่ คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”โจวฟางมองฉันเหมือนคนโง่แล้วพูด: "คุณคิดว่าจินซื่อเจี๋ยจะไม่โทรหาฉันก่อนลงมือเหรอ?"ฉันขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจ"ฉันเข้าใจแล้ว"แน่นอนว่าจินซื่อเจี๋ยจะต้องแจ้งให้โจวฟางทราบถ้าโจวฟางตกลง นั่นก็ถือเป็นการช่วยเหลือสำหรับเขา เพราะเมื่อฉันขอความช่วยเหลือในวันนั้น ฉันก็ยืมชื่อของโจวฟางมาใช้ และถ้าเกิดเรื่องไม่ดี โจวฟางก็จะปกป้องเขาถ้าโจวฟางหยุดเขา มันก็จะยิ่งสะดวกสำหรับเขามากขึ้น เพราะเขาไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกแก้แค้นจากตระกูลเสิ่นหลังจากลงมือไม่ว่าจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่มีข้อเสียเปรียบเลยหลังจากกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงหมายเลข 1 และออกจากลิฟต์แล้ว เราก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองฉันเพิ่งล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 273

    ปฏิกิริยาแรกของฉันคือสับสนไปชั่วครู่ จากนั้นฉันก็พบว่ามันไร้สาระโหดร้ายพวกเขาลักพาตัวฉันและปล่อยให้ฉันบาดเจ็บตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาจะคิดทบทวนตัวเองบ้างเลยตอนนี้ ฉันแค่ขอให้จินซื่อเจี๋ยทำแผลแบบเดียวกับฉันบนเสิ่นซิงหยู แต่พวกเขากับเรียกมันว่าสองมาตรฐานคุณหนูลูกสาวเศรษฐีมีค่า แต่คนธรรมดานั้นไม่มีค่าเลยงั้นเหรอ?ช่างสองมาตรฐานจริงๆ"พูดอะไรหน่อยสิ? แกรู้สึกผิดอยู่หรือเปล่า โอเค ตั้งแต่คุณเริ่มเรื่องนี้ อย่าโทษฉันสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป!" แม่เสิ่นยังคงตะโกนอย่างโกรธจัดที่ปลายสายอีกด้านโทรศัพท์เชื่อมต่อกับบลูทูธของรถ ดังนั้นโจวฟางจึงได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจนฉันยิ้ม ก่อนที่ฉันที่จะพูดออกมา โจวฟางก็พูดขึ้นก่อน: "ป้า คุณกำลังกล่าวหาคุณหร่วนอย่างไม่ยุติธรรมอยู่ วันนี้ฉันอยู่ที่บริษัทของเธอทั้งบ่าย เพื่อถูรถ และฉันก็ไม่เห็นเธอคบหาสมาคมกับใครเลย"เขาใช้คำพูดเบาๆ เพียงไม่กี่คำเพื่อเคลียร์ฉันให้พ้นจากความเกี่ยวข้องใดๆ ได้อย่างเรียบร้อย"อาฟาง?"แม่เสิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งและระงับอารมณ์ไว้ "มันไม่จำเป็นต้องพบใครเพื่อทำแบบนี้ อย่าให้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและใจดีขอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 272

    "?"ฉันสงสัยว่า "รอฉันทำงานเสร็จก่อนเหรอ?"นี่มันการกระทำแบบไหนกัน"เพื่อนส่งฉันมาที่นี่เมื่อกี้ ฉันไม่มีรถ"ขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นข้อมือมาให้ฉันและขอให้ฉันดูเวลา "คุณกำลังจะเลิกงานแล้ว ช่วยมารับฉันกลับด้วย""ฉันจะโทรเรียกรถให้คุณ"ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมา และเขาก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ฉันไม่เคยนั่งแท็กซี่มาก่อน"เอาล่ะเป็นเรื่องธรรมดาที่นายน้อยจะมีลักษณะเฉพาะของเขาฉันไม่มีอะไรจะพูด "งั้นคุณก็รอได้เลย"ฉันหันศีรษะและเข้าไปในห้องทำงานของฉัน เจียงไหลเอื้อมมือมาอย่างรวดเร็วเธอขยิบตาให้ฉันและพูดว่า "ทำไมนายน้อยของตระกูลโจวยังไม่ไปจากที่นี่?""กำลังรอรถ"ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบเจียงไหลนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามฉัน โดยวางข้อศอกบนโต๊ะและเอามือประคองใบหน้า“ก่อนหน้านี้ ฉันสังเกตเห็นว่าแม่ลูกตระกูลเสิ่นดูกลัวเขามาก บางทีคุณควรพยายามทำความรู้จักกับเขาหน่อย ถ้าเกิดอะไรขึ้น เขาอาจช่วยคุณได้”“ช่างมันเถอะ”ฉันปฏิเสธความคิดนั้นโดยไม่ลังเล “คุณคิดว่าเขาเป็นคนประเภทที่ปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกใช้หรือเปล่า?”เขาดูเย้ยหยัน แต่ที่จริงแล้ว เขารู้ทุกอย่างในใจของเขาไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 271

    เมื่อเห็นเขาเข้ามา เสิ่นซิงหยูก็ระงับสีหน้าเยาะเย้ยทันที แต่ยังคงอารมณ์ฉุนเฉียวและพึมพำว่า “เข้าข้างคนนอกเสมอ!”แม่เสิ่นไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนก่อนหน้านี้ เธอแค่ถาม "ทำไม?"“ผมบอกคุณย่าไปแล้วว่าผมจะเอาชุดที่สั่งตัดมาให้เธอสองสามชุด”โจวฟางยิ้มและเสริมว่า “สุดสัปดาห์นี้ผมจะพาหร่วนหนานจือไปพบเธอเพื่อฟังความคิดของเธอ ถ้าตอนนี้คุณรังแกเธอแล้วเธออารมณ์เสียและปฏิเสธผม ผมจะอธิบายเรื่องนี้กับคุณย่าได้ยังไง”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นซิงหยู่ก็ยกคิ้วและจ้องมองทันที "คุณจะพาเธอไปหาคุณย่าโจวเหรอ?""ใช่เรื่องของเธอเหรอ?"โจวฟางพูดอย่างประหยัด ไม่เต็มใจที่จะเสียเวลาแม้แต่พยางค์เดียวเสิ่นซิงหยู่ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา "คุณย่าโจวมักจะกังวลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์และชื่อเสียงอยู่เสมอ จะยอมให้หญิงมั่วชายอย่างนางพบได้ยังไง?""เสิ่นซิงหยู่ แม้ว่าเธอจะเป็นแบบนี้ คุณย่าของฉันก็ยังทนได้ ฉันแน่ใจว่าคุณหร่วนจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี"แม้แต่ต่อหน้าแม่เสิ่น โจวฟางก็ไม่ไว้หน้าให้เสิ่นซิงหยู่แม่เสิ่นระงับความโกรธและประนีประนอมโดยกล่าว: "เมื่อเป็นอย่างนั้น เราจะไว้หน้าให้เธอและไม่โต้เถียงกับเธอในตอนนี้"“ดูแลตัวเอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 270

    หากยืนกรานที่จะทำให้ฉันอับอายอย่างตั้งใจ นั่นฟังดูน่ายินดีมากแสดงความรักอย่างลึกซึ้งในอดีต แต่ฉันจำคำพูดตรงไปตรงมาที่ เธอพูดกับฟู่ฉีชวนในโรงพยาบาลได้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตาม แม่เสิ่นก็ตกตะลึงจนจับหน้าผากของเธอด้วยความหงุดหงิด "นี่ลูก! ทำไมลูกถึงรักฟู่ฉีชวนทั้งหัวใจแบบนี้!”เสิ่นซิงหยูยิ้มอย่างเชื่อฟังและพูดว่า "เขาเป็นคนดีมาก บางคนไม่รู้ว่าจะดูแลเขายังไง แต่ฉันจะทำแน่นอน"ชอบพูดจาแขวะคนอื่นฉันพบว่ามันน่าขบขันแต่ก็ไม่อยากยุ่งกับเธอ ฉันแค่อยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ฉันเลยถามอีกครั้งว่า “แล้วคุณบอกความต้องการของคุณให้ฉันรู้ได้ไหม?”"ต้องสูงศักดิ์!"เธอสั่งอย่างเย่อหยิ่งและเสริมว่า “ควรมีเพชรจำนวนมาก แวววาวไปทั่วทุกจุด คอเสื้อควรประดับด้วยไข่มุก ต้องดูแพงมาก โอ้ แล้วก็ทับทิมด้วย ฉันชอบสีแดง…”สุดท้ายแล้ว ฉันรู้สึกมีแรงบันดาลใจเล็กน้อยเพชร ไข่มุก ทับทิมนี่ไม่ใช่ชุดราตรี แต่เป็นตู้โชว์เครื่องประดับฉันบอกไม่ได้ว่าเธอชอบสไตล์นี้จริงๆ หรือเธอจงใจทำให้ทุกอย่างยากขึ้นฉันเม้มปากและพูดจากมุมมองของมืออาชีพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้: "คุณหนูเสิ่น องค์ประกอบนี้อาจมากเกินไปหน่อย ซึ่ง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 269

    เมื่อแม่เสิ่นปรากฏตัวที่สำนักงาน หน้าอกของเธอยังคงไม่เท่ากันเล็กน้อย ซึ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังวิตกกังวลใครๆ ก็บอกได้ในทันทีว่าเธอใส่ใจลูกสาวของเธอ เสิ่นซิงหยูมากเพียงใดไม่ต่างอะไรกับการปกป้องอัญมณีอันล้ำค่าเสิ่นซิงหยูเห็นผู้สนับสนุนของเธอเข้ามาและยื่นปากออกมา ดูเหมือนว่าเธออยากจะร้องไห้ "แม่ ฉันสงสารเธอที่หย่าร้างและจะช่วยอุดหนุนธุรกิจของเธอ เธอถึงกับเรียกฉันว่าหมากับเพื่อนของเธอด้วยซ้ำ"แม่เสิ่นขมวดคิ้วและจ้องมองฉันอย่างโกรธเคือง "หร่วนหนานจือ อย่าไม่รู้จักบุญคุณกันเกินไปนะ! ขอโทษลูกสาวของฉันเดี๋ยวนี้!""ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น"เจียงไหลไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป "การไม่รู้จักบุญคุณหมายความว่ายังไง? ใครเป็นคนขอร้องให้ลูกสาวของคุณอุดหนุนธุรกิจของเรา ฉันบอกไปแล้วว่าเราไม่รับออเดอร์ เธอจะยืนกรานอย่างไม่ลดละ""แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?”หลังจากพูดจาเหยียดหยาม สายตาของแม่เสิ่นก็จับจ้องมาที่ฉัน เต็มไปด้วยความคุกคาม "หร่วนหนานจือ คราวที่แล้ว ฉันปล่อยให้เธอออกไปเพราะไว้หน้าเธอ ถ้าวันนี้เธอควบคุมปากไม่ได้ ฉันจะทำให้เธอหายไปจากเมืองเจียงเฉิง"เจียงไหลที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อการ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 268

    ส่วนที่เหลือ ค่อยๆ รับสมัคร……ในช่วงบ่าย ขณะที่ฉันกำลังจดจ่ออยู่กับการออกแบบคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิใหม่ ฉันได้ยินเสียงการโต้เถียงดังมาจากภายนอกหนึ่งในนั้นชัดเจนมาก ฉันคุ้นเคยเป็นพิเศษและอีกอันก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าเช่นกันทันทีที่ฉันเปิดประตูและเดินออกไป ฉันได้ยินเจียงไหลพูดว่า "เธอไม่เข้าใจเหรอ ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันจะไม่ทำธุรกิจกับเธอ การออกแบบเสื้อผ้าให้เธอ ฉันคิดว่าฉันกำลังทำให้มือของหรวนหร่วนของฉันสกปรก"ฮึ่ม"อีกคนกรนเสียงเย็นชาด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งและชอบบงการตามปกติของเขา “งั้นฉันขอพูดให้ชัดเจนนะ เธอจะทำไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ก็ตาม”มีเพียงเสิ่นซิงหยูเท่านั้นที่สามารถทำตัวให้หยิ่งผยองได้“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ เธอจะทำยังไง?”เจียงไหลก็ไม่กลัวเธอเช่นกัน เขาทำท่ายักไหล่แล้วพูดว่า "ทำไมเธอไม่โทรเรียกตำรวจล่ะ? อ้อ ถ้าเราจับคุณได้ เราคงต้องหาทีมจับสุนัขให้เจอ อย่าไปโทร 110 เลย เธอจะเสียทรัพยากรของตำรวจไปเปล่าๆ"เธอไม่เคยแพ้ใครในการด่าทอเลยเสิ่นซิงหยู่โกรธมากจนกัดฟันแล้วพูดว่า “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ทำ? โอเค งั้นฉันจะทำให้แน่ใจว่าบริษัทของเธอปิดตัวลงในวันที่เปิดทำการ”"เราจะทำ!"ฉันก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 267

    ฉันกับเจียงไหลคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะมีใครทำเรื่องดีๆ เช่นนี้"ลืมไปเถอะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ตอนนี้ การเปิดประตูเพื่อทำธุรกิจ การมีออเดอร์เป็นสิ่งที่ดี"เจียงไหลมองโลกในแง่ดีขณะที่เธอยืดตัวอย่างขี้เกียจ “มีคนมาสัมภาษณ์เร็วๆ นี้ เธอพร้อมไหม? อยากร่วมสัมภาษณ์กับฉันไหม?”"ได้"ฉันตกลงมีหลายอย่างที่ต้องทำเมื่อบริษัทใหม่เปิดขึ้นแค่ฉันกับเจียงไหลทำงานไม่หยุดตลอด 24 ชั่วโมงไม่เพียงพอการจ้างงานเป็นเรื่องเร่งด่วนระหว่างการสัมภาษณ์ เจียงไหลรับผิดชอบในการถามคำถาม ในขณะที่ฉันรับผิดชอบแค่การทบทวน เราสามารถตัดสินใจร่วมกันในภายหลังฉันคิดว่าสองสามคนแรกโอเค แต่ฉันบอกไม่ได้ว่าดีตรงไหนจนกระทั่งมีหญิงสาวผลักประตูเปิด โค้งตัวเล็กน้อยให้เรา นั่งลงอย่างเชื่อฟัง และแนะนำตัว "สวัสดี ฉันชื่อโจวโม่...."ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับท่าทางไร้เดียงสาของเธอเสมอเมื่อเธอพูด สายตาของเธอหันมาทางฉันเป็นครั้งคราว ดวงตาที่เปียกชื้นของเธอเป็นประกายสดใสเจียงไหลรู้สึกขบขันและถามเธอว่า “คุณรู้จักประธานหร่วนของเราไหม? หรือคุณแค่คิดว่าเธอสวยเกินไป?”“ประธานหร่วน...”เธอยิ้มอย่างเขินอายและถามอย่างระมั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 266

    ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกราวกับว่าน้ำตาได่้ไหลรินลงมาราวกับฝนตก แต่ใบหน้าของฉันยังคงสะอาดและแห้งแม้แต่การมองเห็นก็ยังชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อฉันกลับถึงบ้าน ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ก็โทรมาหาฉันทันทีและบอกว่ามีผู้ซื้อรายหนึ่งตัดสินใจซื้อบ้านในหลินเจียงการ์เด้นและยังใจกว้างมาก โดยไม่ต้องลดราคาใดๆ ทั้งสิ้นพวกเขาขอให้ฉันพบกับผู้ซื้อเพื่อหารือรายละเอียด หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เราก็สามารถเซ็นสัญญาและดำเนินการตามกระบวนการต่อไปได้ระหว่างทางไปหลินเจียงการ์เด้น ฉันคิดอยู่ตลอดว่าถ้าบ้านหลังนี้สามารถหาผู้ซื้อได้เร็วกว่านี้สักหน่อย หนานซีก็คงไม่ต้องพึ่งการลงทุนของ RF กรุ๊ปน่าเสียดาย ที่ไม่มีคำว่าถ้าอย่างไรก็ตาม การพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงาก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเองเมื่อฉันมาถึงหลินเจียงการ์เด้น ฉันเห็น "ผู้ซื้อ" ยืนอยู่ข้างๆ ตัวแทน และอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ "คุณเฉิน คุณชอบอพาร์ตเมนต์นี้หรือเปล่า?""ฉันเอง"เฉินเย่ดูไม่แปลกใจเลยและเป็นกันเองมาก “คุณหร่วน เราเจอกันอีกแล้ว”ฉันหัวเราะและพูดว่า "บังเอิญจริงๆ คุณลงทุนกับฉันตอนเที่ยงและซื้อบ้านของฉันในช่วงบ่าย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status