แชร์

บทที่ 31

ผู้แต่ง: เล่อเอิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-11 18:52:26
ทำไมจะต้องเปลืองแรง

เจียงไหลระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ "ได้ งั้นเรารีบจ่ายเงินแล้วไปกันเถอะ เห็นแล้วเสียลูกกะตาเปล่าๆ"

หลังจากที่สะสางค่าใช้จ่ายแล้ว ที่ปรึกษาด้านการขายก็พาเราไปหน้าประตูร้านเพื่อดูรถ

เพราะผ่านการซ่อมแซมมานานหลายวัน จึงไม่มีร่องรอยของอุบัติเหตุอีก ภายนอกแทบไม่ต่างอะไรกับรถใหม่

"เธอรอฉันแป๊บนึง ฉี่จะแตก ฉันไปห้องน้ำหน่อย"

เจียงไหลทิ้งประโยคนั้น แล้วก็ก้าวฉับๆไปยังห้องน้ำด้วยความรีบร้อน

ฉันยิ้มเล็กน้อย แล้วเข้าไปนั่งรอในรถทันที

วินาทีที่เข้าไปในรถ ก็ได้ยินเสียงออกคำสั่งที่สดใสชัดเจน "ฉันชอบรถคันนั้น!"

จะชอบคันไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน

ฉันปิดประตูรถ คิดแค่ว่ารอให้เจียงไหลออกมาก็จะไปทันที

แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ยังไม่ทันที่เจียงไหลจะออกมา ที่ปรึกษาการขายก็มาเคาะหน้าต่างรถของฉันก่อน

ฉันลดหน้าต่างลงเล็กน้อย เอ่ยปากอย่างตัดรำคาญ "มีอะไร?"

"สวัสดีค่ะ คืออย่างนี้นะคะ มีลูกค้าท่านนึงอยากจะดูรถของคุณหน่อยได้ไหมคะ..."

"ไม่ใช่ดู แต่ฉันจะซื้อรถของเธอ"

ฟู่จินอันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน แต่น้ำเสียงกลับเผยความไม่ยอม "พวกเรามีเงิน คุณให้เธอเสนอราคามาสิ เท่าไหร่ก็ย่อมได้"

พนักงาน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 32

    ระหว่างทางที่ไปกินอาหารเย็น ฉันพลันนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองยังมึนงงไม่หายตอนที่ฟู่จินอันถามประโยคนั้น ฉันยังอุตส่าห์คาดหวังว่าฟู่ฉีชวนจะพูดอะไรที่ปกป้องฉันสักหน่อยอย่างเช่น "หนานจือจะใช้เงินฉันมันก็ไม่แปลกตรงไหน" "ถ้าหนานจือจะใช้เงินของฉันต้องขอความเห็นจากเธอหรือไง?"แต่ฟู่ฉีชวนตอบว่ายังไงน่ะหรอเขาพูดว่า "รถคันนี้คุณปู่ซื้อให้เธอ"เพราะแบบนั้นฟู่จินอันจึงพูดอะไรไม่ออกแต่ก็เห็นกันชัดๆ ว่ามันเป็นของขวัญที่เขามอบให้ฉันในวันวาเลนไทน์เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่ฟู่จินอันโวยวาย เขาจำไม่ได้ว่ารถคันนี้เป็นของฉัน นั่นก็ว่าแย่แล้วแต่เขายังลืมด้วยซ้ำว่ารถคันนี้มาที่มายังไงหรือจะบอกว่า จริงๆ แล้วเขาจำได้แต่เขาไม่ต้องการให้ฟู่จินอันรู้ ว่าความจริงแล้วเขาก็ดีกับฉันไม่น้อยฉันที่เป็นนายหญิงตระกูลฟู่ ไร้ชื่อไร้เกียรติถึงขนาดนี้ที่แม้แต่ทรัพย์สินร่วมของสามีภรรยาก็ไม่มีสิทธิ์ใช้? แถมยังต้องซ่อนเร้นเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนรักเก่าของเขาแต่เขากลับให้รถฟู่จินอัน โอ๋หล่อนเสียงเย็นต่อหน้าฉันว่า "พอเถอะ คนอายุสามสิบจะมาดื้อทำไม ซื้อรุ่นเดียวกันมันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไปทำสีใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 33

    และ MS เป็นหนึ่งในแบรนด์หรูชั้นนำอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่คนส่วนใหญ่ในโลกการออกแบบใฝ่ฝันดวงตาของลู่สือเยี่ยนเผยรอยยิ้มบางๆ "อืม เพิ่งจะคอนเฟิร์มเอง""เขานั่นแหละเพิ่งจะยอมปริปาก"เฮ่อถิงไม่ให้เขาถ่อมตัวแต่อย่างใด "ก่อนที่เขาจะกลับประเทศ MSพยายามติดต่อเขาอยู่ตลอด แต่เขายังตัดสินใจไม่ได้ ถึงได้ลากเลื่อนมาจนป่านนี้"อย่าว่าแต่หลินเนี่ยน แม้แต่ฉันเองก็ยังอดนับถือขึ้นมาไม่ได้ จึงพูดยิ้มๆ "รุ่นพี่ ดูท่าทางว่าอีกไม่นานม.เจียงจะต้องเขียนบทความถึงรุ่นพี่ในฐานะแสงแห่งโรงเรียนเก่าแน่ๆ"จะว่าไป ฟู่ฉีชวนก็มีชื่ออยู่ในบล็อคของม.เจียงมาอย่างยาวนาน แม้ว่าเขาจะเรียนจบมาหลายปีแล้วก็ตาม และมีนักศึกษาจำนวนมากในม.เจียงที่เป็นแฟนคลับเขาด้วยบางที เขาอาจจะเป็นดวงดาวบนฟากฟ้า ที่ฉันไม่ควรเพ้อพกหวังจะได้มาครอบครอง"เพราะงั้น วันนี้นายก็เลยตั้งใจมาฉลองรุ่นพี่ลู่ที่เข้าทำงานในMSโดยเฉพาะ?" เจียงไหลถามพลางกินไปด้วย"ก็ใช่น่ะสิ"เฮ่อถิงพยักหน้า "รีบกินๆ อีกเดี๋ยวยังมีปาร์ตี้ครึ่งหลังอีก"เขาพูดขณะที่มองอย่างไม่ใส่ใจ "น่าเสียดายที่พี่ชวนไม่ว่าง ไม่งั้นพวกเธอ..."ฉันดูออกว่าเขาไม่อยากให้ฉันกับ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 34

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ชะงักไปเล็กน้อยลู่สือเยี่ยนละเอียดอ่อนกว่าภาพในความทรงจำของฉันซะอีกเมื่อกี้ตอนที่กินหม้อไฟ มีอาหารประเภทเนื้อบางจานที่เพิ่งเสิร์ฟและยังไม่ได้ถูกปรุงสุกจึงมีกลิ่นคาว พอฉันดมแล้วก็รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย แต่ก็พยายามฝืนเก็บอาการไม่คิดว่าจะถูกเขาเห็นเข้าฉันยิ้มบางๆ "ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร""งั้นก็ดีแล้ว สุขภาพสำคัญที่สุด"คำพูดประโยคนี้ของลู่สือเยี่ยน เห็นได้ชัดว่าแฝงนัยยะอยู่ "ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ก็ต้องดูแลตัวเองก่อน""ค่ะ"หัวใจของฉันอบอุ่นขึ้นมาแต่ต่อมา ฉันถึงได้เข้าใจว่าประโยคนั้นของเขา แท้จริงแล้วมันหมายความว่าอะไรรถค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่โรงจอดรถใต้ดินของหลินเจียงการ์เด้น ลู่สือเยี่ยนประคองฉันลงจากรถ ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีแสงสว่างอยู่เบื้องหลัง แต่พอมองไปรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติขณะกำลังจะเข้าไปในตัวอาคาร รถมายบัคคันนึงขับเฉียดผ่านไป เจ้าของรถคลับคล้ายว่ากำลังถูกครอบงำไว้ด้วยไฟแห่งโทสะฉันตกใจมาก รีบปกป้องส่วนท้องของตัวเองแล้วถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ใช่เพราะลู่สือเยี่ยนคอยประคองไว้ด้วยความมั่นคง เกรงว่าคงได้ล้มเป็น

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 35

    "ใคร?"ฉันไม่เข้าใจเขายิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย "ลู่สือเยี่ยน""..."ฉันขมวดคิ้วมองเขา ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "ฟู่ฉีชวน คุณมาที่นี่เพื่อจะจับผิดหรือไง?"ตัวเองทำผิดแต่จะมาโยนให้ชั่วให้คนอื่นแววตาของเขามืดลง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน พ่นออกมาสองคำด้วยเสียงเรียบ "ไม่ใช่""งั้นคุณมาทำไม?""..."ฟู่ฉีชวนไม่ตอบ ขนตายาวๆ สะท้อนเป็นเงาบนแก้มทั้งสองข้างของเขา สีหน้าท่าทางของเขาเผยรังสีความหดหู่ไปทั่วลมในยามกลางคืนพัดเข้ามา ทำเอาฉันขนลุกซู่ทั้งร่างกาย แล้วก็พูดอย่างเหนื่อยหน่าย "ถ้าไม่พูดฉันจะปิดประตูแล้ว"ชายหนุ่มที่อมพะนำอยู่เนิ่นนาน จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงอู้อี้ "ผมก็แค่คิดถึงคุณ"หัวใจของฉันราวกับหยุดเต้นไปทันทีจู่ๆ ก็ทำอะไรไม่ถูกเขาเคยพูดหยอดใส่ฉันมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำลามก ที่แค่เกี้ยวพาราสี ไม่ได้มาจากความรู้สึกจริงๆเมื่อก่อนมีหลายครั้งที่ฉันคาดหวังว่าเขาจะพูดคำรักแสนซึ้งที่มาจากใจจริง เวลาที่ร่วมรักกันบนเตียงฉันก็มักจะโอบรอบคอของเขา ครางด้วยเสียงสั่นเครือว่าฉันรักคุณ ฉันคิดถึงคุณเหลือเกินแต่สิ่งที่ได้กลับมามีแค่ความเงียบ หรือไม่ก็คำหยอกเย้าที่เอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 36

    ราวกับอากาศรอบๆ เยือกแข็ง หัวใจของฉันเองก็ลอยล่องในอากาศเหมือนกับกำลังรอคอย ให้เขาอธิบายเป็นคำพูดนั้นออกมาหลังจากที่นิ่งสงัดไปชั่วครู่ เขากลับโยนคำถามด้วยเสียงแข็งกระด้างกลับมาว่า "จะต้องรีบหย่าให้ได้เลยใช่ไหม?"ความรู้สึกในอกที่กลั้นเอาไว้จนฉันแทบจะหายใจไม่ออก แหงนหน้ามองแสงไฟในห้องรับแขกที่สว่างจ้าจนแสบตา กระพริบตาปริบๆ แม้ว่าหัวใจจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ แต่คำพูดที่เปล่งออกมากลับโหดร้ายยิ่งกว่า"ใช่ ฉันรีบ"อย่างน้อยก่อนที่ท้องจะโตไปมากกว่านี้ ต้องตัดจากเขาให้ขาดโดยสิ้นเชิงถ้าต้องใช้ลูกมาเดิมพัน ฉันทำไม่ลงที่ด้านหลัง ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่ตอบกลับฉันเป็นเสียงประตูที่ดังลั่นฉันเหมือนกับถูกสูบเอาพลังไปจนหมด ทิ้งร่างกายลงไหลไปกับตู้รองเท้า มองฝ้าเพดานอย่างสติเลื่อนลอยภายในใจก็รู้สึกโหวงๆภายในชั่วขณะ ความเจ็บปวดแปล๊บๆ อยู่ภายในอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่รู้สึกเกิดอาการแพ้ท้อง แต่นอนพลิกตัวไปมายากจะข่มตาหลับลมแรงในคืนฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงโหยหวนตลอดทั้งคืน เหมือนว่ามันจะพัดถาโถมใส่ร่างกายของฉัน จนร่างกายเปียกชื้นด้วยความหนาวเย็นไปทั้งตัวจะว่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 37

    "แค่นั้น?""แค่นั้น"ฉันเลิกคิ้ว "เธอไม่ชอบเขาสักนิดเลยหรอ?""ชอบนิดหน่อยมั้ง"เจียงไหลตอบเสร็จ จู่ๆ ก็หัวเราะเสียดสีนิดหน่อย "แต่ชอบแล้วมันมีประโยชน์อะไร แม่ฉันยังพูดเลยว่าตอนนั้นที่แต่งให้พ่อก็เพราะทั้งสองคนชอบพอกัน""แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาหยุดเขกกระบาลอีกฝ่าย เวลาที่ทะเลาะกัน""บนโลกนี้มันมีความรักที่ซื่อสัตย์และยาวนานตลอดไปซะที่ไหน?"ความจริงฉันรู้ดี ว่าเธอไม่เชื่อในความรัก กระทั่งความสัมพันธ์ในครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอทำธุรกิจล้มเหลว ก็เริ่มติดเหล้า เล่นพนัน ตบเมีย เตะลูกสาวส่วนแม่ของเธอก็หายตัวไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใด ปล่อยให้เธอเติบโตกับพ่อที่ไม่เอาไหน ถูกเลี้ยงมาด้วยลำแข้งตั้งแต่เด็กๆฉันกลัวว่าเธอจะเสียใจ ก็เลยเบี่ยงหัวข้อสนทนา พูดด้วยรอยยิ้ม "งั้นทำไมเธอถึงได้ดีกับฉันมาตั้งหลายปีขนาดนี้?"เธอกรอกตาขึ้นบน "ใครกันที่ร้องไห้บนดาดฟ้าหน้าหนาวจนน้ำตาน้ำมูกไหลเต็มมือฉัน ขอร้องอ้อนวอนไม่ให้ฉันโดดตึก?"พอพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็ลูบจมูกแก้เขินตอนนั้นเธอนั่งตากลมอยู่บนดาดฟ้า ฉันเห็นก็ตกใจใหญ่โต พุ่งเข้าไปกอดเธอแล้วหวังจะดึงลงไปเธอเองก็ตกใจมาก นึกว่าใครจะมาลอบฆ่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 38

    ฉันโมโหจนแทบจะระเบิดหัวเราะออกมาสุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะฟู่ฉีชวนตามใจหล่อนมากเกินไป จนทำให้หล่อนหน้าหนาได้ถึงขนาดนี้หนาซะยิ่งกว่าฝาบ้านฉันฉีกริมฝีปาก เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา "เธอนับว่าเป็นคนฝ่ายไหนในตระกูลฟู่ไม่ทราบ? เท่าที่ฉันจำได้ ขนาดแซ่ของเธอยังใช้ตามฝั่งพ่อเลยนะ คุณปู่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้เธอเข้ามาเป็นส่วนนึงในตระกูลฟู่หนิ?""ถ้าว่าตามหลักที่เธอพูด รถคันนี้ก็ยิ่งเป็นของฉันเข้าไปใหญ่ เพราะฉันคือภรรยาที่ฟู่ฉีชวนแต่งงานออกหน้าออกตา"ฉันพูดเน้นย้ำทีละคำ พร้อมกับมองดูสีหน้าที่ค่อยๆ แตกละเอียดทีละนิด ในใจก็พลันรู้สึกเบิกบานขึ้นมาไม่น้อยหล่อนกัดฟันกรอด "พวกเธอจะหย่ากันอยู่แล้ว!""ก็ยังไม่ได้หย่าไม่ใช่หรอ? ตราบใดที่ยังไม่หย่า ฉันก็ยังมีหน้ามีตามากกว่าเธอ" ฉันฉีกริมฝีปากยิ้ม"หน้าด้าน!"หล่อนโกรธเกรี้ยวจนควันออกหู ถลึกตาใส่ฉันด้วยความเดือดดาล "ในเมื่อเธอจะหย่าอยู่แล้ว ก็หย่าลงด้วยดีไปสิ! เอาแต่ตามตอแยอาชวนไม่ปล่อยนี่มันหมายความว่ายังไง?!""ใครตามตอแยใครยังไม่รู้เลย""เธอหมายความว่ายังไง?"ราวกับหล่อนได้ยินคำพูดที่ไม่คาดคิด สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม "เธอกำลังจะบอกฉันว่า อาชวนตา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 39

    "..."เขาเก่งเรื่องโบ้ยความผิดจริงๆฉันอยากขำสิ้นดี กระตุกมุมปาก แต่แก้มก็ปวดไม่ไหว "เมื่อกี้คุณเปิดโอกาสให้ฉันพูดหรือไง?"ทุกครั้งที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฟู่จินอัน เขาก็มักจะร้อนรนแทบไม่ไหว"หนานจือ...""ช่างเถอะ "พี่สาว" ของคุณกำลังรอคุณอยู่บนรถน่ะ"ฉันไม่อยากพูดอะไรกับเขาอีก ตัดบทเขาเสร็จ ก็กลับขึ้นไปนั่งบนรถจังหวะที่กำลังจะปิดประตู มือใหญ่ของเขาเกี่ยวบานประตูรถของฉันไว้ "คุณหาอะไรมาปกปิดรอยแผลบนใบหน้าหน่อย อย่าเอะอะจนเรื่องไปถึงคุณปู่ ไม่งั้นท่านคง..."ทุกๆ คำที่พูดออกมา ราวกับกำลังทิ่มแทงลงมาบนขั้วหัวใจของฉัน ฉีกทึ้งร่างกายและวิญญาณให้ขาดออกเป็นชิ้นๆฉันไม่มีความกล้าที่จะทนฟังอีกต่อไป ปิดประตูลงอย่างแรง แยกตัวเขาให้ออกไปอยู่ด้านนอกในดวงตาของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำใสๆ ฉันเบี่ยงหน้าหนี ไม่ให้เขาเห็นความอัปยศอดสูของฉันคนที่โดนตบคือฉันแท้ๆ แต่สิ่งที่เขาห่วงกลับเป็นการที่ฟู่จินอันจะโดนตำหนิฉันเหยียบคันเร่งทันที โดยไม่สนใจว่าเขาออกไปจากตรงนั้นหรือยัง พุ่งทะยานรถออกไปจากที่จอดทันทีที่เพิ่งจะจอดลงตรงไฟจราจรหน้าตึกบริษัท ก็ได้รับสายจากเจียงไหลฉันกระแอมลำคอนิดหน่อยแล้

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 100

    พอฟังจบ ฉันก็รู้สึกถูกอกถูกใจ ทว่าไม่นานฉันก็เข้าใจเหตุผลเจียงไหลขมวดคิ้วแน่น มองมาที่ฉันอย่างไม่เข้าใจและพูดเสียงเบา "ฟู่ฉีชวนจู่ๆ ก็เป็นคนละคนเลย?""ไม่ใช่หรอก"ฉันมองฟู่จินอันถูกบอดี้การ์ดลากตัวไปและเม้มปากเบาๆ "เขาก้แค่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ เลยแค่อยากชดเชย"ก่อนท่านปู่จะจากไป เขาในฐานะหลากรักของท่านปู่กลับไม่ได้อยู่ข้างกาย อีกทั้งยังทำให้ท่านปู่โมโหวันเดียวกันกับที่ท่านปู่เสียเขาจะไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ไม่โทษตัวเองได้ไงเพื่อแสดงให้เห็นในตอนสุดท้าย เขาเลือกจะฟังท่านปู่ ให้ฉันเป็นนายหญิงตระกูลฟู่ตลอดไปส่วนสำหรับฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหลังจากพิธีศพของท่านปู่ ฉันกลับไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ช่วยลุงเฉิงจัดเก็บข้าวของของท่านปู่คนรับใช้จัดเก็บให้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นพวกเสื้อที่มักใส่ประจำของท่านปู่เสื้อผ้าแต่ละตัวที่ฉันหยิบมา ทำให้รู้สึกเหมือนท่านปู่ไม่ได้ไปไหนขณะฉันเก็บข้าวของ ฉันก็ครุ่นคิดและพูดออกมา "ลุงเฉิง คุณมั่นใจไหมว่าสองวันก่อนในกระเป๋าเสื้อของท่านปู่มียาใส่ไว้จริงๆ?""มีแน่นอนครับ คุณสั่งกับผมเอาไว้ โดยเฉพาะตอนอากาศเปลี่ยน ต้องเตรียมยาไว้ให้คุณท่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 99

    เขากลัวว่าฉันจะแจ้งความอีก เขาเลยไม่ไปบริษัท เลยประชุมออนไลน์ที่ห้องหนังสือแทนฉันถูกเขาเฝ้าเหมือนกับตัวเองนั่งอยู่บนพรมเข็ม ฉันนั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน……วันต่อมา เป็นงานพิธีศพของท่านปู่ บรรยากาศอึมครึมโศกเศร้าฝนตกลงมาโปรยปราย หอบลมหนาวพัดผ่านลึกถึงใจกลางทรวงส่วนฉันก็ต้องออกจากคฤหาสน์หลังเก่านี้ไปงานกับฟู่ฉีชวน ถูกเขาลากอย่างกับเป็นหุ่นเชิดให้คอยรับแขกภายในงานศพเขาสองวันนี้อารมณ์หงุดหงิดมาก ถึงจะบอกว่านิสัยเปลี่ยนไป แต่เหมือนเผยธาตุแท้ออกมามากกว่าฉันขัดขืนไม่ได้เลยเมื่อคืนฉันพูดกับเขาอีกครั้ง ก่อนท่านปู่จากไปไม่ได้ขอร้องว่าห้ามพวกเราหย่า ก็แค่ห้ามไม่ให้ฟู่จินอันแต่งเข้ามาในตระกูลฟู่เขาไม่เชื่อบอกว่าฉันโกหกส่วนฉันเหนื่อยมาก ไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเขาตอนพิธีศพเริ่มขึ้น ฉันสวมเสื้อโค๊ทสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ ฟังบทสวดให้ท่านปู่ไปสู่สุขติเขาอายุ 80 ปี บทสรุปสุดท้ายของชีวิตกลับแสนง่ายดายสองวันก่อนเขายังยิ้มให้กับฉันอยู่เลย ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ธุลี"คุณปู่!"ฟู่จินอันจู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในงาน สีหน้าเศร้าสร้อยคุกเข่าตรงหน้าป้ายศพ "คุณปู่...ทำไมท่านถึงจากไปกระทันหัน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 98

    วันต่อมา ฉันถูกคนใช้ขวางเอาไว้ตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่า ไม่ให้ฉันออกไปแม้แต่ก้าว ฉันเข้าใจแล้วเมื่อคืน ที่แท้แค่แจ้งให้ฉันทราบฉันรู้ว่านี่คือความคิดของฟู่ฉีชวน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนใช้ ฉันเลยได้แต่ถาม "ฟู่ฉีชวนล่ะ?""นายน้อยออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยค่ะ""ลุงเฉิงกลับมาแล้วหรือยัง?""ยังเจ้าค่ะ ลุงเฉิงกำลังยุ่งกับพิธีศพของคุณท่าน""..."ฉันกล่าวน้ำเสียงเรียบๆ "แล้วถ้าหาก ฉันต้องออกไปข้างนอกตอนนี้ล่ะ?""นายหญิง ท่านออกไปไม่ได้"คนใช้ชี้ออกไปด้านนอกหน้าต่าง บอดี้การ์ดยืนกันอยู่หลายคนฉันอดตกใจไม่ได้สามปีมานี้ นิสัยโกหกของฟู่ฉีชวนยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆบอกกับฉันว่าอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว ตอนนี้กลับไม่ให้ฉันออกจากบ้านด้วยซ้ำฉันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขาอาจไม่ได้ใจดีเหมือนตอนนั้นที่ส่งฉันไปโรงพยาบาล เขาตอนนั้นระวังดูแลความนับถือในตัวเองของฉัน พยายามคิดหาวิธีเชิญฉันไปทานอาหารระยะแปดปี เพียงพอจะเปลี่ยนให้คนจากอีกคนเป็นอีกคนได้เลยหรอ?ตอนเช้า มือถือมีข้อความไลน์ส่งมามากมาย พวกเขาคงรู้เรื่องการจากไปของท่านปู่ เลยมาปลอบใจฉันเจียงไหล ลู่สือเยี่ยน ทั้งสองคนแตกต่างกันอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 97

    ฉันคิดถึงสิ่งที่ท่านปู่บอกซ้ำไปซ้ำมาก่อนหน้านี้ท่านปู่ไม่ยอมรับให้ฟู่ฉีชวนและฟู่จินอันอยู่ด้วยกัน รู้แค่ว่านางดูเป็นคนซับซ้อน แต่วันนี้...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านปู่ขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ฉันเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะเดิน ฟู่ฉีชวนรีบวิ่งตามฉันมาและคว้าฉันเข้าไปกอดฉันนิ่งไม่ขยับ ศีรษะของเขาซุกเข้ามาตรงไหล่ฉันพร้อมกับกล่าวขอร้อง "หนานจือ อยุ่กับผมคืนนึงได้ไหม""แค่คืนเดียว""ผมขอร้อง"พอได้ฟัง ประวัติผู้ป่วยในแฟ้มสีเหลืองตอนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อตอนกลางวันก้ปรากฎขึ้นในหัวฉัน จนฉันรู้สึกเห็นใจ "ได้"บรรยากาศในคฤหาสน์หลังเก่าหนักอึ้งขึ้นอย่างมาก แต่ท่านปู่ไม่อยู่ คฤหาสน์ทั้งหลังกลับดูว่างเปล่าขึ้นมาพอมาถึงห้องนอน ฉันก็ไปอาบน้ำร้อน พอออกมาก้ไม่เห็นฟู่ฉีชวนแล้วจนฉันนอนหลับจนถึงกลางดึก ด้านหลังก็ค่อยๆ มีคนขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ต้องพลิกตัวก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางของฟู่ฉีชวนทุกอย่างในคืนนี้ ฉันกลับรู้สึกได้ถึงความเสียใจ"คุณหลับหรือยัง?"หน้าผากของเขาแนบกับหัวของฉัน พร้อมกับถามอย่างเแผ่วเบาฉันไม่ตอบ และก็ไม่ได้ขยับ ไม่นานนัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 96

    เดิมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกให้ฉันอย่าหย่ากับฟู่ฉีชวนแต่ว่า ท่านปู่ไม่ได้พูดแบบนั้นฉันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของท่านปู่ค่อยๆ ริบหรี่ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างที่สุด "ไม่ว่า...ยังไง...ก็อย่าให้ฟู่จินอันแต่งเข้าตระกูลของเรา ปกป้องตระกูลฟู่แทนปู่ด้วย""ค่ะ ท่านปู่..."ฉันใกล้จะทนรับไม่ไหวแล้ว ฉันทั้งร้องไห้และพยักหน้าไม่หยุด "ท่านปู่ ฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านใช่ไหม ไม่งั้นอาการท่านคงไม่กำเริบแบบนี้...""นาง..."แววตาของท่านสะท้อนความเกลียดแค้นและโทสะ จนสุดท้ายท่านก็ถอนหายใจ "หนูจำคำพูดของปู่เอาไว้ให้ดีก็พอ""ค่ะ...หรวนหร่วนจะจำเอาไว้ หนูจะจดจำเอาไว้ทุกคำ"ฉันพูดสะอึกสะอื้น ไม่กล้าถามอีกแม้แต่คำเดียว กลัวว่าท่านปู่จะโมโหอีกทว่าในใจกลับได้ฝังเมล็ดความสงสัยเอาไว้ฟู่จินอันจะต้องพูดอะไรกับท่านปู่แน่นอน"ยัยหนู อย่าเสียใจเลย ดูแลลูกในท้องของหนูให้ดีๆ"ท่านปู่พยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หันมองและยิ้มให้กับฉัน "เท่านี้ ปู่ก็จะได้ตายตาหลับสักที....""ตี๊ด——"เครื่องตรวจชีพจรส่งเสียงแหลมดังยาว!ฉันมองท่านปู่หลับตาสนิททั้งสองข้างพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก ทันใดนั้นทุกอย่างพังทลายลงมาใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 95

    "ไม่ต้อง..."ฟู่จินอันดึงแขนเสื้อของเขา "ฉันอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน ครู่เดียวก็พอแล้ว ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันทนเจ็บจนตายเถอะ!""งั้นก็ทนเจ็บจะตายไปเลย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังรินน้ำอุ่นให้กับเธอพร้อมกับพูดห้วนๆ "ดื่มน้ำอุ่นมากๆ"ฟู่จินอันไม่พอใจ "น้ำอุ่นไม่ได้ช่วยให้หายปวด"ฉันถูกเขากระแทกตัวเซ อีกนิดก้เกือบจะล้ม พอเงยหน้าขึ้นก็เห็พวกเขาทำเหมือนเป็นปกติอีกคนเสแสร้ง อีกคนก็พร้อมเชื่อหลังจากท่านปู่ส่งตัวเข้า ICU หมอไม่แนะนำให้เข้าเยี่ยม เพื่อจะพิจารณาสุขภาพของคุณท่านพวกเราเลยได้แต่ยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปด้านในโดยมีเพียงแค่กระจกกั้นท่านปู่ซึ่งมักเมตตาและอัธยาศัยดี ตอนนี้กลับต้องพึ่งหน้ากากออกซิเจนหายใจ ฉันเสียใจอยากมากเกินกว่าจะบรรยาทันใดนั้น ฉันก็เห็นท่านปู่เหมือนขยับนิ้วมือฉันดีใจจนหันไปหาลุงเฉิง "ลุงเฉิง ท่านปู่ขยับนิ้วใช่ไหม?""ใช่ ใช่ครับ! คุณไม่ได้ตาฝาด ตอนนี้กำลังขยับนิ้ว"ลุงเฉิงตื่นเต้นมากเดิมทีไม่รู้ว่าท่านปู่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นได้สติเร็วขนาดนี้ฉันทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบร้อนรีบออกไปตามหมอ ก้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 94

    "ผิดปกติ..."ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฟู่ฉีชวนถามต่อ "ตรงไหนผิดปกติ?"ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย "ท่านปู่ปกติตอนอาการกำเริบจะต้องทานยาทันที ปกติอาการจะทุเลาลง ทำไมครั้งนี้ถึงหมดสติไปเลย?""ใช่ครับ แต่ก่อนคุณท่านตอนมาตรวจสุขภาพ ผมสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อคุณท่านจะเตรียมยาไว้ตลอด แต่สถานการณ์วันนี้ หากท่านทานยาได้ทันเวลา อาการคงไม่สาหัส" ผอ.กล่าวฉันเหลือบมองฟู่ฉีชวน "ฟู่จินอันล่ะ?""เธอพักอยู่ในห้องผู้ป่วย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากตอบ จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นใจ "คุณสงสัยเธอหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก แม้นิสัยเธอจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี อีกอย่างเธอก็เชื่อฟังคุณปู่ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้า"พอฉันฟังจบ ฉันกลับรู้สึกโมโหอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกคนจิตใจดี คงไม่พยายามมาตอแยแย่งผัวชาวบ้านหรอกแต่ว่าคงไม่มีใครไปปลุกฟู่จินอันที่แกล้งหลับหรอก ตรงจุดนี้ฉันเข้าใจดีขี้เกียจจะไปเถียงอะไรกับเขา ฉันหันไปหาผอ. "เสื้อผ้าตอนท่านปู่มาถึงโรงพยาบาลยังอยู่ไหมคะ? รบกวนช่วยดูให้ฉันทีว่ากระเป๋าเสื้อมียารึเปล่า""ได้ครับ"ผอ.รีบสั่งให้แพทย์ด้านหลังไปตรวจดูเสื้อผ้าผานไปอึดใจหมอก็เดินกลับม

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 93

    "แล้วฟู่จินอันล่ะ?"ฉันปัดมือเขาออกพร้อมกับสะอึกสะอื้นถามท่านปู่หมดสติตอนอยู่กับฟู่จินอัน ฟู่จินอันทำไมถึงไม่อยู่นี่?พอฉันถาม เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นตรงทางเดิน ดูกระวนกระวายชัดเจน ฟู่จินอันวิ่งพรวดเข้ามา ทำท่าตกใจ "อาชวน ท่านปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉันขอโทษ ตรงนั้นฉันเรียกรถไม่ได้เลย ฉันเลยมาช้า..."ฉันพูดขัดในทันที "ท่านปู่ทำไมถึงหมดสติ?"ฟู่จินอันเผยสีหน้าวิตกกังวลจากนั้นก็พูด "ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ๆ ท่านปู่ก็หายใจหอบขึ้นมาแล้วก็หมดสติไป""จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้เลยหรอ? เธอไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรอ?" ฉันไม่เชื่อนางสองปีมานี้ ท่านปู่ดูแลสุขภาพตัวเองดีมาก ตรวจสุขภาพตรงตตามนัดขนาดตอนเขาลงมือทำร้ายฟู่ฉีชวนก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางจะล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ"เธอหมายความว่าไง? หนานจือ หรือว่าเธอสงสัยว่าฉันทำให้ท่านปู่โมโหจนล้มป่วยงั้นเหรอ?"ฟู่จินอันสีหน้าสับสน ทันใดนั้นเธอก็กุมท้อง หันไปมองฟู่ฉีชวนอย่างเจ็บปวด "อาชวน ฉันเจ็บท้อง..."ฟู่ฉีชวนสีหน้าสงสัย "เจ็บท้อง?""อืม!"พอเห็นฟู่จินอันตอบกลับเขาอย่างมั่นใจ เขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาและรีบเดินออกไป "หมอครับ! เธอต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 92

    ท่านปู่มองได้เฉียบขาด ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและพยักหน้า "ใช่ค่ะ"ท่านปู่ยกมือขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้ลุงเฉิงอาของบางอย่างเข้ามา มันเป็นแฟ้มประวัติผู้ป่วยสีเหลืองฉันรับเอามาอ่านดู หัวใจก็เหมือนถูกมือล่องหนข้างหนึ่งบีบรัดเอาไว้ฟู่ฉีชวนตอนเด็กไปพบแพทย์โรคหัวใจหลายครั้ง...ฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ราวกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เขาผู้เป็นเหมือนลูกคนโปรด กลับกลายเป็นผู้ป่วยประจำของแผนกโรคหัวใจผ่านไปนานกว่าฉันจะขมวดความคิดของตนเองได้จนฉันเผลอกัดริมฝีปาก "เขา เข้าทำไมถึง..."พอลองคิดอีกด้าน ก็รู้สึกว่ามีเค้าลางเสียแม่มาตั้งแต่เกิด พ่อเขาเองทำให้ครอบครัววุ่นวายจนบ้านแตกเพราะผู้หญิงอื่นแค่คนเดียว อีกทั้งยังเอาแต่รักลูกต่างแม่เขาจะมีปัญหาสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องปกติ"หลายปีมานี้ ปู่ก็เคยคิดว่าควรจะบอกเขาดีไหม"ท่านปู่ถอนหายใจ แววตาของคนผ่านโลกมานานก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที "ทว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องรู้ ปิดบังเขาไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก"……ฉันออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ด้วยอารมณ์ซับซ้อน บนถนนขณะกลับบ้าน ตาข้างขวาก็กระตุกไม่หยุดปกติฉันไม่เชื่อเรื่องโชคลางพวกนี้ ทว่าวันนี้ฉันรู้สึกอึดอั

DMCA.com Protection Status