Share

บทที่ 39

Author: เล่อเอิน
"..."

เขาเก่งเรื่องโบ้ยความผิดจริงๆ

ฉันอยากขำสิ้นดี กระตุกมุมปาก แต่แก้มก็ปวดไม่ไหว "เมื่อกี้คุณเปิดโอกาสให้ฉันพูดหรือไง?"

ทุกครั้งที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฟู่จินอัน เขาก็มักจะร้อนรนแทบไม่ไหว

"หนานจือ..."

"ช่างเถอะ "พี่สาว" ของคุณกำลังรอคุณอยู่บนรถน่ะ"

ฉันไม่อยากพูดอะไรกับเขาอีก ตัดบทเขาเสร็จ ก็กลับขึ้นไปนั่งบนรถ

จังหวะที่กำลังจะปิดประตู มือใหญ่ของเขาเกี่ยวบานประตูรถของฉันไว้ "คุณหาอะไรมาปกปิดรอยแผลบนใบหน้าหน่อย อย่าเอะอะจนเรื่องไปถึงคุณปู่ ไม่งั้นท่านคง..."

ทุกๆ คำที่พูดออกมา ราวกับกำลังทิ่มแทงลงมาบนขั้วหัวใจของฉัน ฉีกทึ้งร่างกายและวิญญาณให้ขาดออกเป็นชิ้นๆ

ฉันไม่มีความกล้าที่จะทนฟังอีกต่อไป ปิดประตูลงอย่างแรง แยกตัวเขาให้ออกไปอยู่ด้านนอก

ในดวงตาของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำใสๆ ฉันเบี่ยงหน้าหนี ไม่ให้เขาเห็นความอัปยศอดสูของฉัน

คนที่โดนตบคือฉันแท้ๆ แต่สิ่งที่เขาห่วงกลับเป็นการที่ฟู่จินอันจะโดนตำหนิ

ฉันเหยียบคันเร่งทันที โดยไม่สนใจว่าเขาออกไปจากตรงนั้นหรือยัง พุ่งทะยานรถออกไปจากที่จอด

ทันทีที่เพิ่งจะจอดลงตรงไฟจราจรหน้าตึกบริษัท ก็ได้รับสายจากเจียงไหล

ฉันกระแอมลำคอนิดหน่อยแล้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 40

    ฉันยิ้มพลางหาที่นั่งแล้วนั่งลง ยกชาที่คนรับใช้นำมาเสิร์ฟขึ้นจิบคำนึงน้ำชาสีใสๆ กลิ่นหอมของชา นุ่ม หวานละมุนในปากฉันยิ้มเบาๆ อย่างว่านอนสอนง่าย "ทุกครั้งที่คุณปู่มีของอะไรดีๆ ก็จะนึกถึงพวกหนูเสมอ""มิน่าล่ะคุณท่านถึงได้โอ๋เธอนัก ก็ปากหวานซะขนาดนี้!"ป้ารองพูดพลางหัวเราะฉันโค้งริมฝีปากยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไรอีกจากนั้นก็พูดคุยคละคลุ้งด้วยเสียงหัวเราะอีกนิดหน่อย ลุงเฉิงก็มาเรียกทุกคนไปกินข้าวตำแหน่งที่นั่งในโต๊ะอาหารครอบครัวถูกจัดเตรียมมาล่วงหน้าคุณปู่นั่งหัวโต๊ะ ด้านขวาเรียงลำดับจากลุงรอง ป้ารอง และลูกพี่ลูกน้องส่วนด้านซ้ายเป็นฟู่ฉีชวนที่รับมือสืบทอดแซ่ฟู่กรุ๊ปมาแล้ว ตามด้วยฉัน พ่อสามี และฟู่จินอันเห็นได้ชัดถึงลำดับความสำคัญต่อให้ฟู่จินอันจะไม่พอใจ แต่ก็ทำได้แค่จำทนอยู่ที่อื่นหล่อนกล้าหาเรื่องฉันได้ จะมีก็แต่คฤหาสน์ตระกูลฟู่เท่านั้น ที่ต่อให้ฉันกับฟู่ฉีชวนหย่ากันโดยสมบูรณ์แล้ว หล่อนก็ไม่กล้าขึ้นมาเล่นบนหัวฉันซึ่งความมั่นใจนี้ คุณปู่เป็นคนมอบให้กับฉันเองฉันที่กำลังค่อยๆ เคี้ยวข้าวอย่างช้าๆ ป้ารองก็เอ่ยขึ้นด้วยความกระตือรือร้นว่า "หนานจือ ลองชิมกุ้งโบตั๋นดูสิ""ฉันได้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 41

    "ค่ะ"ฉันรับคำพร้อมกับนั่งลงข้างๆ เมื่อสบตากับสายตาเฉียบคมของคุณปู่ ก็ยิ่งนั่งไม่ติดภายในห้องหนังสือขนาดใหญ่ มีแค่ฉันกับคุณปู่ และลุงเฉิงที่ยืนชงชาอยู่ห่างๆแล้วก็เป็นดังคาด คุณปู่เอ่ยขึ้นมาอย่างคนที่รู้ทุกอย่าง "พวกหนูจะหย่ากัน?""..."หัวใจที่หวิวๆ ของฉันได้ตายไปในที่สุดในเมื่อถูกคุณปู่มองทะลุปรุโปร่งแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่โกหกอีกต่อไป "ค่ะ...คุณปู่ทราบได้ยังไงคะ?"คุณปู่ถอนหายใจ ทว่าไม่ได้โกรธที่ถูกหลอก "หนูเนี่ยนะ ถึงจะเป็นคนเด็ดเดี่ยว หัวแข็ง ถึงจะแสดงออกว่าไม่ได้ชอบเขาเท่าไหร่ แต่ดวงตาคู่นั้นเคยละสายตาไปจากเขาที่ไหน?""แต่วันนี้ แม้แต่หน้าเขาหนูยังไม่ปรายตามองสักครั้ง"ภายในคำพูดของคุณปู่แฝงไว้ด้วยความเสียใจได้ยินดังนั้น ฉันก็สะอึก จู่ๆ ก็พูดอะไรไม่ออกใช่สิ การชอบใครสักคนมันปิดไม่มิดหรอก ต่อให้ปิดปากเอาไว้ มันก็ฟ้องออกมาทางสายตาอยู่ดีแม้แต่คุณปู่ก็ยังเห็นอย่างชัดเจน แต่ฟู่ฉีชวนกลับคิดว่าฉันชอบคนอื่นสรุปว่าเป็นเพราะเขาเอาแต่หมกมุ่นจนมองไม่เห็น หรือเป็นเพราะไม่เคยใส่ใจกันแน่ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อย ซ่อนความรู้สึกอันขมขื่น กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายคำพูดทั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 42

    "เป็นอย่างที่หนูเห็นนั่นแหละ"ในน้ำเสียงของคุณปู่แฝงไว้ด้วยความโชกโชนต่อโลกปนโศกเศร้า "ตระกูลฟู่ของเราทำผิดต่อเสียวหว่าน เราไม่สั่งสอนลูกชายของตัวเองให้ดีเอง!"แม่สามีของฉันที่เสียชีวิตไป มีชื่อที่ไพเราะว่า หลินทิงหว่านได้ยินดังนั้น ฉันเองก็ตกอยู่ในภวังค์ของความตกตะลึงที่แท้ แม่สามีของฉันไม่ได้เสียชีวิตเนื่องจากคลอดลูกยากธรรมดาๆแต่ตอนที่เธออายุครรภ์ได้สิบเดือน ถูกคนผลักตกจากบันไดและคนที่ผลักเธอ กลายเป็น "แม่เลี้ยงแสนดี" ของฟู่ฉีชวนที่รักเขาเหมือนลูกในไส้ และต้องกลายเป็นอัมพาตเพราะช่วยเขาสมองของฉันว้าวุ่นสับสนไปหมดหล่อนทำดีกับฟู่ฉีชวนได้ขนาดนี้ แต่ก็เป็นฆาตกรที่ทำให้แม่แท้ๆ ของฟู่ฉีชวนต้องตาย...?นี่มันดูจะขัดต่อมนุษยธรรมหน่อยมั้ง...ยังฉันเรียบเรียงสติอารมณ์ไม่ได้ ก็ได้ยินคุณปู่พูดต่อว่า "คิดไม่ตกว่าทำไมหล่อนถึงทำดีกับฉีชวนขนาดนี้?""ค่ะ..."คุณปู่แค่นหัวเราะทีนึง "ทั้งหมดถูกคำนวณถึงผลประโยชน์มาหมดแล้ว""หลังจากที่แม่ของฉีชวนเสียชีวิต พ่อสามีที่โง่เง่าเขลาปัญญาของหนูก็โวยวายจะสู่ขอเวินฟางเข้าตระกูลให้ได้""เวินฟางทำลายกล้องวงจรปิดก่อนที่จะลงมือ เลยนึกว่าทุกอย่างเป็น

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 43

    จนตอนนี้ คุณปู่อุตส่าห์พูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธอีกฉันกับฟู่ฉีชวนแยกกันอยู่แล้ว หนังสือหย่าแผ่นเดียว แค่ช่วยให้พวกเราแยกขาดจากกันได้อย่างชัดเจนขึ้นก็เท่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องรีบร้อนทำเดี๋ยวนี้ยิ่งไปกว่านั้น งานครบรอบอายุแปดสิบปีของคุณปู่ ก็จะจัดในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง อีกไม่นานก็ถึงแล้วจากนั้นลุงเฉิงก็มาส่งฉันออกจากห้องหนังสือ"ที่คุณท่านทำแบบนี้ ก็เพราะกลัวว่าคุณนายกับนายน้อยจะมานึกเสียใจทีหลัง ก็เลยอยากให้พวกคุณใช้เวลาช่วงนี้ไตร่ตรองกันให้ดี"ฉันเม้มปากนิดหน่อย ขณะกำลังอยากจะพูดอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา"สวัสดีครับ เป็นญาติของเจียงไหลใช่ไห?""ใช่ค่ะ""ผมโทรมาจากสถานีตำรวจเจียงอัน รบกวนคุณช่วยมาที่นี่หน่อยครับ"ฉันตื่นตระหนกทันที ยังไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็วางสายไปฉันไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น รีบซอยเท้าลงชั้นล่าง ทันทีที่ออกจากลิฟต์ก็เจอเข้ากับฟู่จินอันที่หัวร้อนจนควันออกหู"แกจะข่มเหงฉันมากไปแล้ว!"หล่อนพูด พร้อมกับเตรียมจะตวัดฝ่ามือใส่ฉันอีกรอบ แต่ถูกฉันรั้งเอาไว้ในใจของฉันคิดแต่เรื่องของเจียงไหล ไม่มีอารมณ์มาเสียเวลาอย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 44

    เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น สีหน้าของฟู่ฉีชวนมักจะเฉยชาตามเคยเสื้อกันลมสีดำยิ่งช่วยเพิ่มออร่าให้แข็งแกร่งขึ้นจนคนแปลกหน้าไม่กล้าเข้าใกล้ยิ่งเขาย่างกรายเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกตุ้มๆ ต่อมๆมากขึ้นเท่านั้นเรื่องนี้ จะว่าเล็กก็ได้ จะว่าใหญ่ก็ไม่เชิงถ้าเป็นคดีเล็กก็ชดใช้เงิน แต่ถ้าคดีใหญ่...ระดับอำนาจของฟู่ฉีชวนในเมืองเจียงเฉิง การจะให้เจียงไหลเข้าคุกก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาต้องปกป้องฟู่จินอันแน่นอนตามที่คาด เขายืนข้างกายฟู่จินอัน ดวงตาหรี่ลงเล็กร้อย ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นว่า "เธออยากจะให้จัดการยังไง?"ฉันกำฝ่ายมือแน่นทันที ก่อนที่ฟู่จินอันจะพูดอะไรออกมา เจียงไหลก็ดึงฉันไปไว้ด้านหลัง"ฉันเป็นคนทำเรื่องนี้เองคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหรวนหร่วน""เจียงไหล!"ฉันร้อนใจทันที แต่เจียงไหลกลับมองมาที่ฉัน แล้วตั้งใจเสียดสีว่า "แล้วเธอจะทำยังไง? จะยอมขอร้องอ้อนวอนอดีตสามีต่อหน้าประชาชี หรือขอร้องอ้อนวอนนังเมียน้อยหน้าไม่อายที่เข้ามาเป็นมือที่สามในชีวิตคู่ของเธอเพื่อฉันดีล่ะ?"ก่อนที่เธอจะพูดจบ บรรยากาศยิ่งตึงเครียดหนักกว่าเดิมฟู่จินอันแค่นหัวเราะเสียง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 45

    "ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่เอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง นายก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้"……เจียงไหลฟังจนต้องกรอกตามองบน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันลากเอาไว้ คงได้พุ่งกลับไปสั่งสอนอีกแน่ไม่รู้ว่าฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ลมในฤดูใบไม่ร่วงโหมกระหน่ำ อุณหภูมิลดลงอย่างกระทันหัน หนาวจนต้องหดคอลงเมื่อขึ้นมาบนรถ เจียงไหลก็บ่นอย่างเดือดดาล "เธอจะลากฉันออกมาทำไม ไม่ได้ยินที่มันพูดหรอ? แม่งเอ้ย ไอ้ควาย ตอนที่มนุษย์กำลังวิวัฒนาการ มันมัวแต่ไปหลบอยู่ในกะลาสินะ!""ได้ยินแล้ว"ฉันเหนื่อยหน่าย สตาร์ทรถแล้วค่อยๆ ขับออกถนน "ฟู่ฉีชวนเป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ฉันอยากรีบออกมาก่อนที่เขาจะนึกเปลี่ยนใจ"ไม่มีความจำเป็นต้องจุกจิกอยู่กับฟู่จินอัน"เธอไม่โกรธหรอ?" เธอถาม"ยังได้อยู่"แทนที่จะบอกว่าไม่โกรธ บอกว่าชินแล้วจะดีกว่าเวลานี้ ชีวิตกลางคืนในเมืองเจียงเฉิงเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ผู้คนจำนวนมากแออัดเต็มท้องถนน ทำให้การจราจรติดขัดฉันขับๆ หยุดๆ ตลอดทางจู่ๆ เจียงไหลก็โค้งริมฝีปากหัวเราะออกมา เขยิบเข้ามาใกล้ แล้วกระพริบตาปริบๆ ใส่ฉัน "สะใจป้ะ?""สะใจอะไร""เห็นรถของแม่นั่นโดนทุบจนกลายเป็นสภาพนั้น สะใจป้ะ?"

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 46

    ย้ายบ้าน?ฉันแทบหยุดหายใจทันใดนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ค่อยสบายใจฉันหายใจเข้าลึก "ย้ายมานี่? แต่ฉันยังไม่อนุญาตเลย""ปู่เธอบอกว่าเธอสัญญากับผู้ใหญ่ว่าจะเลื่อนการหย่าออกไป"เขาเริ่มเล่นแง่ ส่งมือถือมาให้ฉัน "ไม่งั้นคุณคุยกับคุณปู่ดู""เล่นแง่กับฉันหรอ"ฉันอดไม่ได้ถลึงตาใส่เขา "ฉันยอมจะเลื่อนการหย่า ไม่ได้หมายความว่าให้คุณย้ายมาอยู่"ขนาดเป็นถึงรองประธานบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ปยังจะมาไม้นี้พูดออกไปใครจะเชื่อ"ผัวเมียอยู่ได้กันเป็นเรื่องปกติ" เขาพูดด้วยเหตุผลน่าคล้ายตาม"ตรรกะป่วยๆ"ฉันด่าเขาและเปิดประตูกลับเข้าบ้านเขาเดินตามเข้ามาอย่างเป็นกันเองบางทีอาจเพราะคิดถึงท่านปู่บอกฉันเมื่อคืนนั้น ฉันเลยอดไม่ได้จะรู้สึกสงสารฟู่ฉีชวน และไม่ได้ไล่เขาออกไปฉันเพียงแค่ชี้ไปยังห้องนอนตรงข้าม "คุณนอนห้องนั้น""อืม ครับ"เขาไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาตอบอย่างนุ่มนวล และลากกระเป๋าเดินเข้าไปฉันเทน้ำดื่ม พอวางแก้วหันหลัง ก็กระแทกเข้ากับแผงอกอันอบอุ่นเป็นบรรยากาศคุ้นเคยชวนคิดถึงทว่า ฉันกลับกระโจนถอยหลังไปสองก้าว ถามกลับอย่างทำตัวไม่ถูก "มีธุระอะไรอีก?"ไม่ได้ดูคุ้นเคยเหมือนสามีภรรยา แต่กลับเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 47

    "ยัง ยังไม่หิว"ฉันปฏิเสธ "ฉันมาหยิบของ""อันนั้นน่ะเหรอ?"เขาชี้นิ้วไปยังถุงใส่อาหารเดลิเวอรี่ใบหนึ่งบนโต๊ะฉันรู้สึกอายเหมือนโกหกแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขา ฉันปัดจมูก "คนส่งอาหารไม่ได้กดกริ่งไม่ใช่หรอ""เขาไม่ได้กดกริ่งหรอก""คุณรู้ได้ไงเขามาส่งแล้ว?""เขาเคาะประตู""..."ฉันกระแอมเบาๆ รู้เหลือสุดจะทนกับความฉลาดของคนส่งอาหารตอนฉันเดินเข้าไปเปิดถุงเตรียมรับประทาน ฟู่ฉีชวนก็เอาโจ๊กทะเลร้อนๆ หอมฟุ้งมาวางไว้ตรงหน้าฉัน"คุณปู่บอกว่าคุณแทบไม่ได้ทานอะไรเลย เลยให้คนเอาอาหารทะเลที่เหลือมาส่ง""แล้วโจ๊กชามนี้...""ผมทำเอง"ฟู่ฉีชวนนั่งตรงข้ามฉัน สีหน้าจริงจังเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นสงบ "ผมอาบน้ำแล้ว อาบเสร็จก็ไปทำให้ คุณไม่สบายไม่ใช่หรอ ช่วงนี้ควรลดทานอาหารเดลิเวอรี่"พอฟังเขาพูด ฉันชะงักไปเล็กน้อย หลังจากได้สติก็อดประหลาดใจไม่ได้เขากำลังบอกฉันเขาอาบน้ำจนสะอาดแล้วไปต้มโจ๊กให้ฉัน เพื่อไม่ให้ฉันรังเกียจเขางั้นหรอฉันก้มหน้าลงมองโจ๊กร้อนๆ ด้วยสายตาเหม่อลอย พอตักโจ๊กทานได้สองสามคำ อารมณ์ก็สงบลง"ฟู่ฉีชวน ที่จริงไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้"คุณทำแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันลังเลตัดใจไม่ไ

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 274

    เขามีความแค้นในใจกับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?เขาลดตาลงและพูดอย่างไม่ใส่ใจ "อย่าคิดมาก ฉันแค่ต้องการจัดการกับเธอด้วยตัวเอง"ฉันพูดโดยไม่ลังเล: "โอเ งั้นเรื่องวันนี้ถือว่าคุณจัดการไป"ทำไมไม่แก้แค้นเสิ่นซิงหยู่และถอยห่างจากเธอล่ะโจวฟางเหลือบตามองมาที่ฉันและยิ้มออกมา "หร่วนหนานจือ คุณฉวยโอกาสเก่งมากเลยสินะ?""แน่อยู่แล้ว!"ฉันหัวเราะคิกคัก “ว่าแต่ คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”โจวฟางมองฉันเหมือนคนโง่แล้วพูด: "คุณคิดว่าจินซื่อเจี๋ยจะไม่โทรหาฉันก่อนลงมือเหรอ?"ฉันขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจ"ฉันเข้าใจแล้ว"แน่นอนว่าจินซื่อเจี๋ยจะต้องแจ้งให้โจวฟางทราบถ้าโจวฟางตกลง นั่นก็ถือเป็นการช่วยเหลือสำหรับเขา เพราะเมื่อฉันขอความช่วยเหลือในวันนั้น ฉันก็ยืมชื่อของโจวฟางมาใช้ และถ้าเกิดเรื่องไม่ดี โจวฟางก็จะปกป้องเขาถ้าโจวฟางหยุดเขา มันก็จะยิ่งสะดวกสำหรับเขามากขึ้น เพราะเขาไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกแก้แค้นจากตระกูลเสิ่นหลังจากลงมือไม่ว่าจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่มีข้อเสียเปรียบเลยหลังจากกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงหมายเลข 1 และออกจากลิฟต์แล้ว เราก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองฉันเพิ่งล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 273

    ปฏิกิริยาแรกของฉันคือสับสนไปชั่วครู่ จากนั้นฉันก็พบว่ามันไร้สาระโหดร้ายพวกเขาลักพาตัวฉันและปล่อยให้ฉันบาดเจ็บตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาจะคิดทบทวนตัวเองบ้างเลยตอนนี้ ฉันแค่ขอให้จินซื่อเจี๋ยทำแผลแบบเดียวกับฉันบนเสิ่นซิงหยู แต่พวกเขากับเรียกมันว่าสองมาตรฐานคุณหนูลูกสาวเศรษฐีมีค่า แต่คนธรรมดานั้นไม่มีค่าเลยงั้นเหรอ?ช่างสองมาตรฐานจริงๆ"พูดอะไรหน่อยสิ? แกรู้สึกผิดอยู่หรือเปล่า โอเค ตั้งแต่คุณเริ่มเรื่องนี้ อย่าโทษฉันสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป!" แม่เสิ่นยังคงตะโกนอย่างโกรธจัดที่ปลายสายอีกด้านโทรศัพท์เชื่อมต่อกับบลูทูธของรถ ดังนั้นโจวฟางจึงได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจนฉันยิ้ม ก่อนที่ฉันที่จะพูดออกมา โจวฟางก็พูดขึ้นก่อน: "ป้า คุณกำลังกล่าวหาคุณหร่วนอย่างไม่ยุติธรรมอยู่ วันนี้ฉันอยู่ที่บริษัทของเธอทั้งบ่าย เพื่อถูรถ และฉันก็ไม่เห็นเธอคบหาสมาคมกับใครเลย"เขาใช้คำพูดเบาๆ เพียงไม่กี่คำเพื่อเคลียร์ฉันให้พ้นจากความเกี่ยวข้องใดๆ ได้อย่างเรียบร้อย"อาฟาง?"แม่เสิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งและระงับอารมณ์ไว้ "มันไม่จำเป็นต้องพบใครเพื่อทำแบบนี้ อย่าให้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและใจดีขอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 272

    "?"ฉันสงสัยว่า "รอฉันทำงานเสร็จก่อนเหรอ?"นี่มันการกระทำแบบไหนกัน"เพื่อนส่งฉันมาที่นี่เมื่อกี้ ฉันไม่มีรถ"ขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นข้อมือมาให้ฉันและขอให้ฉันดูเวลา "คุณกำลังจะเลิกงานแล้ว ช่วยมารับฉันกลับด้วย""ฉันจะโทรเรียกรถให้คุณ"ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมา และเขาก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ฉันไม่เคยนั่งแท็กซี่มาก่อน"เอาล่ะเป็นเรื่องธรรมดาที่นายน้อยจะมีลักษณะเฉพาะของเขาฉันไม่มีอะไรจะพูด "งั้นคุณก็รอได้เลย"ฉันหันศีรษะและเข้าไปในห้องทำงานของฉัน เจียงไหลเอื้อมมือมาอย่างรวดเร็วเธอขยิบตาให้ฉันและพูดว่า "ทำไมนายน้อยของตระกูลโจวยังไม่ไปจากที่นี่?""กำลังรอรถ"ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบเจียงไหลนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามฉัน โดยวางข้อศอกบนโต๊ะและเอามือประคองใบหน้า“ก่อนหน้านี้ ฉันสังเกตเห็นว่าแม่ลูกตระกูลเสิ่นดูกลัวเขามาก บางทีคุณควรพยายามทำความรู้จักกับเขาหน่อย ถ้าเกิดอะไรขึ้น เขาอาจช่วยคุณได้”“ช่างมันเถอะ”ฉันปฏิเสธความคิดนั้นโดยไม่ลังเล “คุณคิดว่าเขาเป็นคนประเภทที่ปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกใช้หรือเปล่า?”เขาดูเย้ยหยัน แต่ที่จริงแล้ว เขารู้ทุกอย่างในใจของเขาไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 271

    เมื่อเห็นเขาเข้ามา เสิ่นซิงหยูก็ระงับสีหน้าเยาะเย้ยทันที แต่ยังคงอารมณ์ฉุนเฉียวและพึมพำว่า “เข้าข้างคนนอกเสมอ!”แม่เสิ่นไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนก่อนหน้านี้ เธอแค่ถาม "ทำไม?"“ผมบอกคุณย่าไปแล้วว่าผมจะเอาชุดที่สั่งตัดมาให้เธอสองสามชุด”โจวฟางยิ้มและเสริมว่า “สุดสัปดาห์นี้ผมจะพาหร่วนหนานจือไปพบเธอเพื่อฟังความคิดของเธอ ถ้าตอนนี้คุณรังแกเธอแล้วเธออารมณ์เสียและปฏิเสธผม ผมจะอธิบายเรื่องนี้กับคุณย่าได้ยังไง”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นซิงหยู่ก็ยกคิ้วและจ้องมองทันที "คุณจะพาเธอไปหาคุณย่าโจวเหรอ?""ใช่เรื่องของเธอเหรอ?"โจวฟางพูดอย่างประหยัด ไม่เต็มใจที่จะเสียเวลาแม้แต่พยางค์เดียวเสิ่นซิงหยู่ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา "คุณย่าโจวมักจะกังวลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์และชื่อเสียงอยู่เสมอ จะยอมให้หญิงมั่วชายอย่างนางพบได้ยังไง?""เสิ่นซิงหยู่ แม้ว่าเธอจะเป็นแบบนี้ คุณย่าของฉันก็ยังทนได้ ฉันแน่ใจว่าคุณหร่วนจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี"แม้แต่ต่อหน้าแม่เสิ่น โจวฟางก็ไม่ไว้หน้าให้เสิ่นซิงหยู่แม่เสิ่นระงับความโกรธและประนีประนอมโดยกล่าว: "เมื่อเป็นอย่างนั้น เราจะไว้หน้าให้เธอและไม่โต้เถียงกับเธอในตอนนี้"“ดูแลตัวเอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 270

    หากยืนกรานที่จะทำให้ฉันอับอายอย่างตั้งใจ นั่นฟังดูน่ายินดีมากแสดงความรักอย่างลึกซึ้งในอดีต แต่ฉันจำคำพูดตรงไปตรงมาที่ เธอพูดกับฟู่ฉีชวนในโรงพยาบาลได้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตาม แม่เสิ่นก็ตกตะลึงจนจับหน้าผากของเธอด้วยความหงุดหงิด "นี่ลูก! ทำไมลูกถึงรักฟู่ฉีชวนทั้งหัวใจแบบนี้!”เสิ่นซิงหยูยิ้มอย่างเชื่อฟังและพูดว่า "เขาเป็นคนดีมาก บางคนไม่รู้ว่าจะดูแลเขายังไง แต่ฉันจะทำแน่นอน"ชอบพูดจาแขวะคนอื่นฉันพบว่ามันน่าขบขันแต่ก็ไม่อยากยุ่งกับเธอ ฉันแค่อยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ฉันเลยถามอีกครั้งว่า “แล้วคุณบอกความต้องการของคุณให้ฉันรู้ได้ไหม?”"ต้องสูงศักดิ์!"เธอสั่งอย่างเย่อหยิ่งและเสริมว่า “ควรมีเพชรจำนวนมาก แวววาวไปทั่วทุกจุด คอเสื้อควรประดับด้วยไข่มุก ต้องดูแพงมาก โอ้ แล้วก็ทับทิมด้วย ฉันชอบสีแดง…”สุดท้ายแล้ว ฉันรู้สึกมีแรงบันดาลใจเล็กน้อยเพชร ไข่มุก ทับทิมนี่ไม่ใช่ชุดราตรี แต่เป็นตู้โชว์เครื่องประดับฉันบอกไม่ได้ว่าเธอชอบสไตล์นี้จริงๆ หรือเธอจงใจทำให้ทุกอย่างยากขึ้นฉันเม้มปากและพูดจากมุมมองของมืออาชีพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้: "คุณหนูเสิ่น องค์ประกอบนี้อาจมากเกินไปหน่อย ซึ่ง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 269

    เมื่อแม่เสิ่นปรากฏตัวที่สำนักงาน หน้าอกของเธอยังคงไม่เท่ากันเล็กน้อย ซึ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังวิตกกังวลใครๆ ก็บอกได้ในทันทีว่าเธอใส่ใจลูกสาวของเธอ เสิ่นซิงหยูมากเพียงใดไม่ต่างอะไรกับการปกป้องอัญมณีอันล้ำค่าเสิ่นซิงหยูเห็นผู้สนับสนุนของเธอเข้ามาและยื่นปากออกมา ดูเหมือนว่าเธออยากจะร้องไห้ "แม่ ฉันสงสารเธอที่หย่าร้างและจะช่วยอุดหนุนธุรกิจของเธอ เธอถึงกับเรียกฉันว่าหมากับเพื่อนของเธอด้วยซ้ำ"แม่เสิ่นขมวดคิ้วและจ้องมองฉันอย่างโกรธเคือง "หร่วนหนานจือ อย่าไม่รู้จักบุญคุณกันเกินไปนะ! ขอโทษลูกสาวของฉันเดี๋ยวนี้!""ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น"เจียงไหลไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป "การไม่รู้จักบุญคุณหมายความว่ายังไง? ใครเป็นคนขอร้องให้ลูกสาวของคุณอุดหนุนธุรกิจของเรา ฉันบอกไปแล้วว่าเราไม่รับออเดอร์ เธอจะยืนกรานอย่างไม่ลดละ""แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?”หลังจากพูดจาเหยียดหยาม สายตาของแม่เสิ่นก็จับจ้องมาที่ฉัน เต็มไปด้วยความคุกคาม "หร่วนหนานจือ คราวที่แล้ว ฉันปล่อยให้เธอออกไปเพราะไว้หน้าเธอ ถ้าวันนี้เธอควบคุมปากไม่ได้ ฉันจะทำให้เธอหายไปจากเมืองเจียงเฉิง"เจียงไหลที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อการ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 268

    ส่วนที่เหลือ ค่อยๆ รับสมัคร……ในช่วงบ่าย ขณะที่ฉันกำลังจดจ่ออยู่กับการออกแบบคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิใหม่ ฉันได้ยินเสียงการโต้เถียงดังมาจากภายนอกหนึ่งในนั้นชัดเจนมาก ฉันคุ้นเคยเป็นพิเศษและอีกอันก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าเช่นกันทันทีที่ฉันเปิดประตูและเดินออกไป ฉันได้ยินเจียงไหลพูดว่า "เธอไม่เข้าใจเหรอ ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันจะไม่ทำธุรกิจกับเธอ การออกแบบเสื้อผ้าให้เธอ ฉันคิดว่าฉันกำลังทำให้มือของหรวนหร่วนของฉันสกปรก"ฮึ่ม"อีกคนกรนเสียงเย็นชาด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งและชอบบงการตามปกติของเขา “งั้นฉันขอพูดให้ชัดเจนนะ เธอจะทำไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ก็ตาม”มีเพียงเสิ่นซิงหยูเท่านั้นที่สามารถทำตัวให้หยิ่งผยองได้“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ เธอจะทำยังไง?”เจียงไหลก็ไม่กลัวเธอเช่นกัน เขาทำท่ายักไหล่แล้วพูดว่า "ทำไมเธอไม่โทรเรียกตำรวจล่ะ? อ้อ ถ้าเราจับคุณได้ เราคงต้องหาทีมจับสุนัขให้เจอ อย่าไปโทร 110 เลย เธอจะเสียทรัพยากรของตำรวจไปเปล่าๆ"เธอไม่เคยแพ้ใครในการด่าทอเลยเสิ่นซิงหยู่โกรธมากจนกัดฟันแล้วพูดว่า “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ทำ? โอเค งั้นฉันจะทำให้แน่ใจว่าบริษัทของเธอปิดตัวลงในวันที่เปิดทำการ”"เราจะทำ!"ฉันก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 267

    ฉันกับเจียงไหลคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะมีใครทำเรื่องดีๆ เช่นนี้"ลืมไปเถอะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ตอนนี้ การเปิดประตูเพื่อทำธุรกิจ การมีออเดอร์เป็นสิ่งที่ดี"เจียงไหลมองโลกในแง่ดีขณะที่เธอยืดตัวอย่างขี้เกียจ “มีคนมาสัมภาษณ์เร็วๆ นี้ เธอพร้อมไหม? อยากร่วมสัมภาษณ์กับฉันไหม?”"ได้"ฉันตกลงมีหลายอย่างที่ต้องทำเมื่อบริษัทใหม่เปิดขึ้นแค่ฉันกับเจียงไหลทำงานไม่หยุดตลอด 24 ชั่วโมงไม่เพียงพอการจ้างงานเป็นเรื่องเร่งด่วนระหว่างการสัมภาษณ์ เจียงไหลรับผิดชอบในการถามคำถาม ในขณะที่ฉันรับผิดชอบแค่การทบทวน เราสามารถตัดสินใจร่วมกันในภายหลังฉันคิดว่าสองสามคนแรกโอเค แต่ฉันบอกไม่ได้ว่าดีตรงไหนจนกระทั่งมีหญิงสาวผลักประตูเปิด โค้งตัวเล็กน้อยให้เรา นั่งลงอย่างเชื่อฟัง และแนะนำตัว "สวัสดี ฉันชื่อโจวโม่...."ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับท่าทางไร้เดียงสาของเธอเสมอเมื่อเธอพูด สายตาของเธอหันมาทางฉันเป็นครั้งคราว ดวงตาที่เปียกชื้นของเธอเป็นประกายสดใสเจียงไหลรู้สึกขบขันและถามเธอว่า “คุณรู้จักประธานหร่วนของเราไหม? หรือคุณแค่คิดว่าเธอสวยเกินไป?”“ประธานหร่วน...”เธอยิ้มอย่างเขินอายและถามอย่างระมั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 266

    ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกราวกับว่าน้ำตาได่้ไหลรินลงมาราวกับฝนตก แต่ใบหน้าของฉันยังคงสะอาดและแห้งแม้แต่การมองเห็นก็ยังชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อฉันกลับถึงบ้าน ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ก็โทรมาหาฉันทันทีและบอกว่ามีผู้ซื้อรายหนึ่งตัดสินใจซื้อบ้านในหลินเจียงการ์เด้นและยังใจกว้างมาก โดยไม่ต้องลดราคาใดๆ ทั้งสิ้นพวกเขาขอให้ฉันพบกับผู้ซื้อเพื่อหารือรายละเอียด หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เราก็สามารถเซ็นสัญญาและดำเนินการตามกระบวนการต่อไปได้ระหว่างทางไปหลินเจียงการ์เด้น ฉันคิดอยู่ตลอดว่าถ้าบ้านหลังนี้สามารถหาผู้ซื้อได้เร็วกว่านี้สักหน่อย หนานซีก็คงไม่ต้องพึ่งการลงทุนของ RF กรุ๊ปน่าเสียดาย ที่ไม่มีคำว่าถ้าอย่างไรก็ตาม การพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงาก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเองเมื่อฉันมาถึงหลินเจียงการ์เด้น ฉันเห็น "ผู้ซื้อ" ยืนอยู่ข้างๆ ตัวแทน และอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ "คุณเฉิน คุณชอบอพาร์ตเมนต์นี้หรือเปล่า?""ฉันเอง"เฉินเย่ดูไม่แปลกใจเลยและเป็นกันเองมาก “คุณหร่วน เราเจอกันอีกแล้ว”ฉันหัวเราะและพูดว่า "บังเอิญจริงๆ คุณลงทุนกับฉันตอนเที่ยงและซื้อบ้านของฉันในช่วงบ่าย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status