Share

บทที่ 40

Author: เล่อเอิน
ฉันยิ้มพลางหาที่นั่งแล้วนั่งลง ยกชาที่คนรับใช้นำมาเสิร์ฟขึ้นจิบคำนึง

น้ำชาสีใสๆ กลิ่นหอมของชา นุ่ม หวานละมุนในปาก

ฉันยิ้มเบาๆ อย่างว่านอนสอนง่าย "ทุกครั้งที่คุณปู่มีของอะไรดีๆ ก็จะนึกถึงพวกหนูเสมอ"

"มิน่าล่ะคุณท่านถึงได้โอ๋เธอนัก ก็ปากหวานซะขนาดนี้!"

ป้ารองพูดพลางหัวเราะ

ฉันโค้งริมฝีปากยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก

จากนั้นก็พูดคุยคละคลุ้งด้วยเสียงหัวเราะอีกนิดหน่อย ลุงเฉิงก็มาเรียกทุกคนไปกินข้าว

ตำแหน่งที่นั่งในโต๊ะอาหารครอบครัวถูกจัดเตรียมมาล่วงหน้า

คุณปู่นั่งหัวโต๊ะ ด้านขวาเรียงลำดับจากลุงรอง ป้ารอง และลูกพี่ลูกน้อง

ส่วนด้านซ้ายเป็นฟู่ฉีชวนที่รับมือสืบทอดแซ่ฟู่กรุ๊ปมาแล้ว ตามด้วยฉัน พ่อสามี และฟู่จินอัน

เห็นได้ชัดถึงลำดับความสำคัญ

ต่อให้ฟู่จินอันจะไม่พอใจ แต่ก็ทำได้แค่จำทน

อยู่ที่อื่นหล่อนกล้าหาเรื่องฉันได้ จะมีก็แต่คฤหาสน์ตระกูลฟู่เท่านั้น ที่ต่อให้ฉันกับฟู่ฉีชวนหย่ากันโดยสมบูรณ์แล้ว หล่อนก็ไม่กล้าขึ้นมาเล่นบนหัวฉัน

ซึ่งความมั่นใจนี้ คุณปู่เป็นคนมอบให้กับฉันเอง

ฉันที่กำลังค่อยๆ เคี้ยวข้าวอย่างช้าๆ ป้ารองก็เอ่ยขึ้นด้วยความกระตือรือร้นว่า "หนานจือ ลองชิมกุ้งโบตั๋นดูสิ"

"ฉันได้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
พรนภา
ฟูจีฉวนเป็นคนที่เลือดเย็นโหดร้าย ทำร้ายจิตใจของภรรยาตัวเองทึ้งคำพูดและการกระทำ ขอให้การหย่าจบสิ้นก่อนที่ปู่จะตาย เพื่อปู่ตายหรวนหรวนจะได้จากไปโดยไม่ต้องทำเพื่อคุณปู่
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 41

    "ค่ะ"ฉันรับคำพร้อมกับนั่งลงข้างๆ เมื่อสบตากับสายตาเฉียบคมของคุณปู่ ก็ยิ่งนั่งไม่ติดภายในห้องหนังสือขนาดใหญ่ มีแค่ฉันกับคุณปู่ และลุงเฉิงที่ยืนชงชาอยู่ห่างๆแล้วก็เป็นดังคาด คุณปู่เอ่ยขึ้นมาอย่างคนที่รู้ทุกอย่าง "พวกหนูจะหย่ากัน?""..."หัวใจที่หวิวๆ ของฉันได้ตายไปในที่สุดในเมื่อถูกคุณปู่มองทะลุปรุโปร่งแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่โกหกอีกต่อไป "ค่ะ...คุณปู่ทราบได้ยังไงคะ?"คุณปู่ถอนหายใจ ทว่าไม่ได้โกรธที่ถูกหลอก "หนูเนี่ยนะ ถึงจะเป็นคนเด็ดเดี่ยว หัวแข็ง ถึงจะแสดงออกว่าไม่ได้ชอบเขาเท่าไหร่ แต่ดวงตาคู่นั้นเคยละสายตาไปจากเขาที่ไหน?""แต่วันนี้ แม้แต่หน้าเขาหนูยังไม่ปรายตามองสักครั้ง"ภายในคำพูดของคุณปู่แฝงไว้ด้วยความเสียใจได้ยินดังนั้น ฉันก็สะอึก จู่ๆ ก็พูดอะไรไม่ออกใช่สิ การชอบใครสักคนมันปิดไม่มิดหรอก ต่อให้ปิดปากเอาไว้ มันก็ฟ้องออกมาทางสายตาอยู่ดีแม้แต่คุณปู่ก็ยังเห็นอย่างชัดเจน แต่ฟู่ฉีชวนกลับคิดว่าฉันชอบคนอื่นสรุปว่าเป็นเพราะเขาเอาแต่หมกมุ่นจนมองไม่เห็น หรือเป็นเพราะไม่เคยใส่ใจกันแน่ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อย ซ่อนความรู้สึกอันขมขื่น กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายคำพูดทั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 42

    "เป็นอย่างที่หนูเห็นนั่นแหละ"ในน้ำเสียงของคุณปู่แฝงไว้ด้วยความโชกโชนต่อโลกปนโศกเศร้า "ตระกูลฟู่ของเราทำผิดต่อเสียวหว่าน เราไม่สั่งสอนลูกชายของตัวเองให้ดีเอง!"แม่สามีของฉันที่เสียชีวิตไป มีชื่อที่ไพเราะว่า หลินทิงหว่านได้ยินดังนั้น ฉันเองก็ตกอยู่ในภวังค์ของความตกตะลึงที่แท้ แม่สามีของฉันไม่ได้เสียชีวิตเนื่องจากคลอดลูกยากธรรมดาๆแต่ตอนที่เธออายุครรภ์ได้สิบเดือน ถูกคนผลักตกจากบันไดและคนที่ผลักเธอ กลายเป็น "แม่เลี้ยงแสนดี" ของฟู่ฉีชวนที่รักเขาเหมือนลูกในไส้ และต้องกลายเป็นอัมพาตเพราะช่วยเขาสมองของฉันว้าวุ่นสับสนไปหมดหล่อนทำดีกับฟู่ฉีชวนได้ขนาดนี้ แต่ก็เป็นฆาตกรที่ทำให้แม่แท้ๆ ของฟู่ฉีชวนต้องตาย...?นี่มันดูจะขัดต่อมนุษยธรรมหน่อยมั้ง...ยังฉันเรียบเรียงสติอารมณ์ไม่ได้ ก็ได้ยินคุณปู่พูดต่อว่า "คิดไม่ตกว่าทำไมหล่อนถึงทำดีกับฉีชวนขนาดนี้?""ค่ะ..."คุณปู่แค่นหัวเราะทีนึง "ทั้งหมดถูกคำนวณถึงผลประโยชน์มาหมดแล้ว""หลังจากที่แม่ของฉีชวนเสียชีวิต พ่อสามีที่โง่เง่าเขลาปัญญาของหนูก็โวยวายจะสู่ขอเวินฟางเข้าตระกูลให้ได้""เวินฟางทำลายกล้องวงจรปิดก่อนที่จะลงมือ เลยนึกว่าทุกอย่างเป็น

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 43

    จนตอนนี้ คุณปู่อุตส่าห์พูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธอีกฉันกับฟู่ฉีชวนแยกกันอยู่แล้ว หนังสือหย่าแผ่นเดียว แค่ช่วยให้พวกเราแยกขาดจากกันได้อย่างชัดเจนขึ้นก็เท่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องรีบร้อนทำเดี๋ยวนี้ยิ่งไปกว่านั้น งานครบรอบอายุแปดสิบปีของคุณปู่ ก็จะจัดในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง อีกไม่นานก็ถึงแล้วจากนั้นลุงเฉิงก็มาส่งฉันออกจากห้องหนังสือ"ที่คุณท่านทำแบบนี้ ก็เพราะกลัวว่าคุณนายกับนายน้อยจะมานึกเสียใจทีหลัง ก็เลยอยากให้พวกคุณใช้เวลาช่วงนี้ไตร่ตรองกันให้ดี"ฉันเม้มปากนิดหน่อย ขณะกำลังอยากจะพูดอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา"สวัสดีครับ เป็นญาติของเจียงไหลใช่ไห?""ใช่ค่ะ""ผมโทรมาจากสถานีตำรวจเจียงอัน รบกวนคุณช่วยมาที่นี่หน่อยครับ"ฉันตื่นตระหนกทันที ยังไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็วางสายไปฉันไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น รีบซอยเท้าลงชั้นล่าง ทันทีที่ออกจากลิฟต์ก็เจอเข้ากับฟู่จินอันที่หัวร้อนจนควันออกหู"แกจะข่มเหงฉันมากไปแล้ว!"หล่อนพูด พร้อมกับเตรียมจะตวัดฝ่ามือใส่ฉันอีกรอบ แต่ถูกฉันรั้งเอาไว้ในใจของฉันคิดแต่เรื่องของเจียงไหล ไม่มีอารมณ์มาเสียเวลาอย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 44

    เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น สีหน้าของฟู่ฉีชวนมักจะเฉยชาตามเคยเสื้อกันลมสีดำยิ่งช่วยเพิ่มออร่าให้แข็งแกร่งขึ้นจนคนแปลกหน้าไม่กล้าเข้าใกล้ยิ่งเขาย่างกรายเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกตุ้มๆ ต่อมๆมากขึ้นเท่านั้นเรื่องนี้ จะว่าเล็กก็ได้ จะว่าใหญ่ก็ไม่เชิงถ้าเป็นคดีเล็กก็ชดใช้เงิน แต่ถ้าคดีใหญ่...ระดับอำนาจของฟู่ฉีชวนในเมืองเจียงเฉิง การจะให้เจียงไหลเข้าคุกก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาต้องปกป้องฟู่จินอันแน่นอนตามที่คาด เขายืนข้างกายฟู่จินอัน ดวงตาหรี่ลงเล็กร้อย ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นว่า "เธออยากจะให้จัดการยังไง?"ฉันกำฝ่ายมือแน่นทันที ก่อนที่ฟู่จินอันจะพูดอะไรออกมา เจียงไหลก็ดึงฉันไปไว้ด้านหลัง"ฉันเป็นคนทำเรื่องนี้เองคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหรวนหร่วน""เจียงไหล!"ฉันร้อนใจทันที แต่เจียงไหลกลับมองมาที่ฉัน แล้วตั้งใจเสียดสีว่า "แล้วเธอจะทำยังไง? จะยอมขอร้องอ้อนวอนอดีตสามีต่อหน้าประชาชี หรือขอร้องอ้อนวอนนังเมียน้อยหน้าไม่อายที่เข้ามาเป็นมือที่สามในชีวิตคู่ของเธอเพื่อฉันดีล่ะ?"ก่อนที่เธอจะพูดจบ บรรยากาศยิ่งตึงเครียดหนักกว่าเดิมฟู่จินอันแค่นหัวเราะเสียง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 45

    "ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่เอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง นายก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้"……เจียงไหลฟังจนต้องกรอกตามองบน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันลากเอาไว้ คงได้พุ่งกลับไปสั่งสอนอีกแน่ไม่รู้ว่าฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ลมในฤดูใบไม่ร่วงโหมกระหน่ำ อุณหภูมิลดลงอย่างกระทันหัน หนาวจนต้องหดคอลงเมื่อขึ้นมาบนรถ เจียงไหลก็บ่นอย่างเดือดดาล "เธอจะลากฉันออกมาทำไม ไม่ได้ยินที่มันพูดหรอ? แม่งเอ้ย ไอ้ควาย ตอนที่มนุษย์กำลังวิวัฒนาการ มันมัวแต่ไปหลบอยู่ในกะลาสินะ!""ได้ยินแล้ว"ฉันเหนื่อยหน่าย สตาร์ทรถแล้วค่อยๆ ขับออกถนน "ฟู่ฉีชวนเป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ฉันอยากรีบออกมาก่อนที่เขาจะนึกเปลี่ยนใจ"ไม่มีความจำเป็นต้องจุกจิกอยู่กับฟู่จินอัน"เธอไม่โกรธหรอ?" เธอถาม"ยังได้อยู่"แทนที่จะบอกว่าไม่โกรธ บอกว่าชินแล้วจะดีกว่าเวลานี้ ชีวิตกลางคืนในเมืองเจียงเฉิงเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ผู้คนจำนวนมากแออัดเต็มท้องถนน ทำให้การจราจรติดขัดฉันขับๆ หยุดๆ ตลอดทางจู่ๆ เจียงไหลก็โค้งริมฝีปากหัวเราะออกมา เขยิบเข้ามาใกล้ แล้วกระพริบตาปริบๆ ใส่ฉัน "สะใจป้ะ?""สะใจอะไร""เห็นรถของแม่นั่นโดนทุบจนกลายเป็นสภาพนั้น สะใจป้ะ?"

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 46

    ย้ายบ้าน?ฉันแทบหยุดหายใจทันใดนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ค่อยสบายใจฉันหายใจเข้าลึก "ย้ายมานี่? แต่ฉันยังไม่อนุญาตเลย""ปู่เธอบอกว่าเธอสัญญากับผู้ใหญ่ว่าจะเลื่อนการหย่าออกไป"เขาเริ่มเล่นแง่ ส่งมือถือมาให้ฉัน "ไม่งั้นคุณคุยกับคุณปู่ดู""เล่นแง่กับฉันหรอ"ฉันอดไม่ได้ถลึงตาใส่เขา "ฉันยอมจะเลื่อนการหย่า ไม่ได้หมายความว่าให้คุณย้ายมาอยู่"ขนาดเป็นถึงรองประธานบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ปยังจะมาไม้นี้พูดออกไปใครจะเชื่อ"ผัวเมียอยู่ได้กันเป็นเรื่องปกติ" เขาพูดด้วยเหตุผลน่าคล้ายตาม"ตรรกะป่วยๆ"ฉันด่าเขาและเปิดประตูกลับเข้าบ้านเขาเดินตามเข้ามาอย่างเป็นกันเองบางทีอาจเพราะคิดถึงท่านปู่บอกฉันเมื่อคืนนั้น ฉันเลยอดไม่ได้จะรู้สึกสงสารฟู่ฉีชวน และไม่ได้ไล่เขาออกไปฉันเพียงแค่ชี้ไปยังห้องนอนตรงข้าม "คุณนอนห้องนั้น""อืม ครับ"เขาไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาตอบอย่างนุ่มนวล และลากกระเป๋าเดินเข้าไปฉันเทน้ำดื่ม พอวางแก้วหันหลัง ก็กระแทกเข้ากับแผงอกอันอบอุ่นเป็นบรรยากาศคุ้นเคยชวนคิดถึงทว่า ฉันกลับกระโจนถอยหลังไปสองก้าว ถามกลับอย่างทำตัวไม่ถูก "มีธุระอะไรอีก?"ไม่ได้ดูคุ้นเคยเหมือนสามีภรรยา แต่กลับเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 47

    "ยัง ยังไม่หิว"ฉันปฏิเสธ "ฉันมาหยิบของ""อันนั้นน่ะเหรอ?"เขาชี้นิ้วไปยังถุงใส่อาหารเดลิเวอรี่ใบหนึ่งบนโต๊ะฉันรู้สึกอายเหมือนโกหกแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขา ฉันปัดจมูก "คนส่งอาหารไม่ได้กดกริ่งไม่ใช่หรอ""เขาไม่ได้กดกริ่งหรอก""คุณรู้ได้ไงเขามาส่งแล้ว?""เขาเคาะประตู""..."ฉันกระแอมเบาๆ รู้เหลือสุดจะทนกับความฉลาดของคนส่งอาหารตอนฉันเดินเข้าไปเปิดถุงเตรียมรับประทาน ฟู่ฉีชวนก็เอาโจ๊กทะเลร้อนๆ หอมฟุ้งมาวางไว้ตรงหน้าฉัน"คุณปู่บอกว่าคุณแทบไม่ได้ทานอะไรเลย เลยให้คนเอาอาหารทะเลที่เหลือมาส่ง""แล้วโจ๊กชามนี้...""ผมทำเอง"ฟู่ฉีชวนนั่งตรงข้ามฉัน สีหน้าจริงจังเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นสงบ "ผมอาบน้ำแล้ว อาบเสร็จก็ไปทำให้ คุณไม่สบายไม่ใช่หรอ ช่วงนี้ควรลดทานอาหารเดลิเวอรี่"พอฟังเขาพูด ฉันชะงักไปเล็กน้อย หลังจากได้สติก็อดประหลาดใจไม่ได้เขากำลังบอกฉันเขาอาบน้ำจนสะอาดแล้วไปต้มโจ๊กให้ฉัน เพื่อไม่ให้ฉันรังเกียจเขางั้นหรอฉันก้มหน้าลงมองโจ๊กร้อนๆ ด้วยสายตาเหม่อลอย พอตักโจ๊กทานได้สองสามคำ อารมณ์ก็สงบลง"ฟู่ฉีชวน ที่จริงไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้"คุณทำแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันลังเลตัดใจไม่ไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 48

    ตั้งแต่หลังจากท้อง นี่เป็นครั้งที่ฉันนอนหลับไม่เต็มอิ่มที่สุดฉันตอกย้ำบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเขาคืออดีตสามี แต่สุดท้ายก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่ดีวันรุ่งขึ้น ตอนต้องออกไปทำงานพร้อมกับขอบตาดำ ขณะกำลังเดินไปเปิดประตูก็ถูกฟู่ฉีชวนเรียกเขาสวมสูทธสีเทาเงินแบบพิเศษ สั่งตัดพอดีตัว เสริมให้บรรยากาศรอบตัวดูเข้าหายาก แต่รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบกลับดึงดูสายตามากขึ้นเขาเอากระเป๋าเก็บอุณหภูมิยื่นให้ฉันอย่างไม่อาจปฏิเสธพร้อมกับเสียงราบเรียบ "เอาอาหารเช้าไปด้วย""อืม"ฉันรับไว้ไม่ได้ปฏิเสธฉันเองจะได้ไม่ต้องซื้อข้าวเช้าด้วย เขาฐานะพ่อของเด็กในท้อง ทานอาหารเช้าของเขาสักมื้อไม่ใช่เรื่องใหญ่พอเห็นเช่นนั้น มุมปากของเขาก็เผยยิ้มเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว "ผมต้องไปบริษัทด้วย ไปด้วยกัน""อย่าเลย ไม่อยากเป็นที่ต้องสงสัย เดี๋ยวคนรักคุณมาหาเรื่องฉันอีก""เธอไม่หาเรื่องหรอก""คุณยอมรับว่าเธอคือคนรักคุณ?"น้ำเสียงฉันเยาะเย้ย พอพูดจบก็เดินออกจากห้อง เดินไปเข้าลิฟต์ในลานจอดรถชั้นล่าง รถ Maybach สีดำคุ้นตาจอดอยู่ข้างๆ รถฉันฉันทำเป็นไม่เห็นและขึ้นรถของตัวเอง ขณะกำลังสตาร์ทรถ ฉินเจ๋อทำหน้ายิ้มแย้มเดินมาเคาะกร

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status