Share

บทที่ 20

Author: เล่อเอิน
ก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นพวกเอาคืนกับเรื่องเล็กๆ แค่นี้

ฉันทำได้แค่กัดฟันเดินตามหลังเขาไป คิดไม่ถึงว่า ฉันยังไม่ทันอธิบาย คุณปู่ฟู่ก็ยิ้มแป้นแล้น เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นว่า

"ได้ยินป้าหลิวบอกว่า หนานจือย้ายออกไปแล้วหรือ?"

"ใช่ค่ะ คุณปู่"

ฉันทำได้แค่ยอมรับ ถ้าหากคุณปู่โกรธขึ้นมาค่อยหาวิธีปลอบเขา

คุณปู่กลับไม่โมโหฉัน แต่ไปถลึงตาใส่ฟู่ฉีชวนแทน "เจ้าคนไม่ได้เรื่อง แค่ภรรยาของตัวเองก็ยังปกป้องไว้ไม่ได้!"

"คุณปู่ พูดกันด้วยเหตุผลหน่อย เป็นเธอที่ย้ายออกไปเอง แล้วผมจะทำอะไรได้?"

"หล่อนหนีไป แกก็ไม่รู้จักไล่ตามหรือ?"

คุณปู่เตือนขึ้นอย่างหวังดี "แกนี่นะ ได้พ่อแกมาเต็มๆ เลย คานบนไม่ตรงอย่างไรคานล่างมันก็เอียงอย่างนั้น"

"แล้วปู่ไม่ใช่คานบนของพ่อผมหรือ?" ฟู่ฉีชวนหัวเราะขึ้นมา

"ไอ้เด็กเวร!"

ปู่คว้าถ้วยชาทำท่าจะเขวี้ยง แต่ก็วางลง ตั้งท่าจะพูดแต่ก็ยั้งไว้นาน สุดท้ายจึงพูดแค่ "หิวแล้ว กินข้าวเถอะ"

ข้าวมือนี้กินกันอย่างสนุกสนาน

คุณปู่คีบกับข้าวให้ฉันบ่อยมาก ชามข้าวตรงหน้าฉันแทบจะกองขึ้นเป็นภูเขาย่อมๆ แล้ว

"กินเยอะๆ หน่อย ดูหลานสิ ช่วงนี้ผอมเกินไปแล้ว กินเยอะๆ ให้มีน้ำมีนวลหน่อย"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณปู
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 21

    "วางใจเถอะคุณปู่"ฉันคีบเต้าหู้หมักชิ้นหนึ่งให้คุณปู่ เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน "เขารังแกหนูไม่ได้หรอก"ถึงอย่างไร ก็จะหย่ากันอยู่แล้วนี่กินข้าวเสร็จ ฟู่ฉีชวนก็ลงไปเล่นหมากล้อมกับคุณปู่ที่เรือนหลังฉันคอยชงชาให้อยู่ข้างๆฟู่ฉีชวนฝีมือวางหมากซับซ้อนมหัศจรรย์มาก รีบไล่รีบปิดฉาก กินไปอีกกระดาน คุณปู่โมโหถลึงตาใส่เขา "แกคิดว่าเล่นกับคนนอกอยู่หรือไง ไม่คิดจะเหลือทางไว้ให้ปู่บ้าง?""ก็ได้"ฟู่ฉีชวนหัวเราะ หลังจากนั้นก็ต่อให้จริงๆ คุณปู่ก็ดูดีอกดีใจ หัวเราะอย่างเบิกบาน ชี้แนะมาคำหนึ่ง "เด็กอย่างแกนี่นะจงจำเอาไว้ คนในครอบครัวกับคนนอกนั้นแตกต่างกัน"ฉันยื่นถ้วยชาส่งออกไป "คุณปู่คะ ดื่มชาหน่อย""อืม"คุณปู่ขานรับคำหนึ่ง รับไปจิบๆ เอ่ยขึ้นอย่างปลื้มอกปลื้มใจ "ถ้าพวกแกปรองดองกันได้ตลอด วันที่ชั้นจะได้อุ้มเหลนก็คงอยู่ไม่ไกลแล้ว!""..."ใจฉันสั่นเล็กน้อย ยื่นมือมากุมท้องตัวเองด้วยสัญชาตญาณพอเห็นใบหน้าคุณปูที่แก่ตัวลงทุกวัน ก็เกิดความรู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาหน่อยๆถ้าหาก ระหว่างฉันกับฟู่ฉีชวนไม่มีเส้นแบ่งเหล่านั้น ไม่มีปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นฉันตอนนี้ก็คงบอกคุณปู่ได้ ว่าฉันตั้งท้องแล้ว คุณปู่ใกล้จะได้อุ้มเห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 22

    หมายความว่าอะไร?สงสัยว่าฉันยังไม่ทันหย่าก็จะสวมเขาให้เขาแล้วอย่างนั้นหรือ?เขาเป็นคนแบบนี้จริงๆฉันขี้เกียจจะอธิบาย เอ่ยขึ้นอย่างเป็นปกติ "เพื่อนสนิท""เพื่อนคนไหน?""ฟู่ฉีชวน"ฉันยิ้มขึ้นมา เอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน "คนตายเขาไม่ถามนั่นถามนี่หรอกนะ"ในเมื่อเขายอมจะเป็นแฟนเก่าที่ตายไปแล้ว เช่นนั้นทำตัวให้เหมือนตายหน่อยฟู่ฉีชวนเกือบจะโมโหออกมา ปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้ม หัวเราะเย็นชาออกมา "ได้"พอมาถึงสุสาน หลังจากลงรถ ฉันก็เดินตรงไปยังบันไดขึ้นเขาพอเห็นเขาไม่ตามมา แันจึงต้องหันกลับไปรอเขาพอหมุนตัว เห็นเขาหิ้วตะกร้าที่ไม่รู้ไปเตรียมมาตอนไหน ดอกเบญจมาศเหลือบกับขาวอยู่ด้านใน จึงอดตะลึงขึ้นมาไม่ได้ฉันเม้มปาก "ขอบคุณ""ขอบคุณอะไร? เดิมทีนี่ก็เป็นสิ่งที่ชั้นควรทำอยู่แล้ว" เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบรอจนเขาเดินตามขึ้นมา พวกเราจึงเดินเคียงไหลไปยังหลุมศพของพ่อแม่ฉันเช่นนี้ก็ดี แม้จะเป็นความรักใคร่ที่ปรากฏอยู่ในใจ แต่พ่อกับแม่ในปรโลกถ้ารู้เข้า ก็น่าจะวางใจได้ระดับหนึ่งกระมังสุสานมีคนมาคอยดูแลให้ตลอดทั้งปี ป้ายสุสานมีฝุ่นอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นพูดขึ้นมา พ่อแม่ของฉันจากไปตั้งหลายปีแล้ว อันที่จริงฉันก็ไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 23

    ไม่เช่นนั้น เครือตระกูลฟู่คงไม่ส่งต่อถึงมือฟู่ฉีชวนทันทีหรอก"แล้วเธอล่ะ มีชีวิตที่ดีไหม?" ฉันเงยหน้า มองดูเส้นกรามคมของเขา ถามขึ้นแช่มช้า"ก็สามปีนี้ที่แต่งงานกับเธอมา"เขายังคงฉีกยิ้ม ทอดถอนใจออกมาเสียหงนึ่ง "มีชีวิตที่ดีมาก"คำตอบนี้ ทำเอาฉันยิ่งอยากจะร้องไห้น่าจะเป็นความเสียดายกระมังเห็นๆ อยู่ ถ้าหากไม่มีเรื่องพวกนั้น พวกเขาก็สามารถครองรักกันจนแก่เฒ่าได้……ระหว่างทางกลับ ฉันกับเขาต่างฝ่ายต่างรู้ในใจ ไม่พูดอะไรกันอีกคำบางคำพูดมากไปก็ไร้ความหมายเขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนฉันเองก็อยู่อย่างมีไมตรีสุขไม่ได้เหมือนกันปล่อยวางไวหน่อย ถือโอกาสขณะที่ในสายตาของต่างฝ่ายต่างยังไม่ถึงขั้นที่เกลียดชังกันฤดูใบไม้ร่วงช่วงกลางวันสั้นกลางคืนยาว มองผ่านกระจกรถ เงาของเขาถูกแสงตะวันยามเย็นฉาบจนเป็นประกายทองชั้นหนึ่ง"ชั้นจะส่งเธอขึ้นไป"ตอนมาถึงหลินเจียงการ์เด้น ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไร เขาก็เอ่ยขึ้นมาก่อนฉันยังไม่ทันปฏิเสธ ทั้งสองคนก็ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน ตอนยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ฉันเม้มปาก "ชั้นมาถึงแล้ว เธอกลับไปเถอะ""ได้"ฟู่ฉีชวนพยักหน้าเล็กน้อย แต่เท้ากลับไม่ขยับฉันไม่สนใจเข

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 24

    ลู่สือเยี่ยนไม่รู้ว่าฟังออกถึงความนัยหรือเปล่า ยังคงไม่คิดเล็กคิดน้อย แค่ยิ้มกลับอย่างอบอุ่น "เรื่องเล็ก รีบล้างมือเถอะ เตรียมกินกันได้แล้ว"ลู่สือเยี่ยนฝีมือทำครัวดีมาก อาหารเต็มโต๊ะส่งกลิ่นหอมกรุ่น ทำเอาน้ำลายสอไปหมดแล้วเฮ่อถิงกับเจียงไหลล้วนชมไม่ขาดปากฉันเองก็ยังอดชมขึ้นมาไม่ได้ "รุ่นพี่ หน้าตาอาหารของพี่นี่ดูดีจริงๆ !""รีบกินเถอะ ลองดูว่าถูกปากพวกเธอไหม"ลู่สือเยี่ยนยกสองจานสุดท้ายออกจากครัว วางกุ้งรสเผ็ดจานหนึ่งลงตรงหน้าฉัน ยิ้มอย่างอบอุ่น "เจ้านี่เธอน่าจะชอบกิน"ฉันเองก็รู้สึกเกินคาดนอกจากเจียงไหล คนทั้งหมดล้วนคิดว่าฉันชอบรสชาติแบบเดียวกับฟู่ฉีชวน รสจืดแต่ว่า ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไร ฟู่ฉีชวนก็พูดเสียงเย็นขึ้นมา "หล่อนไม่กินเผ็ดนะ พวกนายแม้ว่าตอนเรียนจะสนิทกัน แต่รสชาติของหล่อนเหมือนนายจะยังไม่ค่อยเข้าใจ...""ประธานฟู่"เจียงไหลไม่พอใจแทนฉัน แต่ใบหน้ากลับกระหยิ่มยิ้มย่อง พูดน้ำเสียงหยอกขึ้นมา "แต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว หัวใจของนายเอาใครไปใส่ไว้กันแน่หา? หรวนหร่วนชอบกินเผ็ดมากที่สุดเลยต่างหาก ถ้าไม่เผ็ดนี่คือเกลียดเลย!"ใจฉันฝาดขึ้นมาทันทีจริงสิใจของเขาวางใครใส่ไว้กันนะแต่ไหนแต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 25

    ทั้งสองคนยังเตรียมของขวัญย้ายมามาให้กันอีกด้วยลู่สือเยี่ยนเองก็หยิบกล่องของขวัญที่ดูประณีตใบหนึ่งยื่นให้ฉัน "หวังว่าเธอจะชอบนะ""ขอบคุณค่ะรุ่นพี่"ฉันยิ้มขอบคุณพอเห็นว่าในกล่องเป็นชุดที่ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ชุดหนึ่ง ก็เลยรู้สึกประหลาดใจ มองไปทางเขา "พี่ออกแบบเองหรือ?""อืม แค่ตัวนี้ตัวเดียวด้วยนะ" ลู่สือเยี่ยนยิ้มตอบ"รุ่นพี่ลู่ดูตั้งใจจริงๆ!"เจียงไหลชมเสร็จ ก็จงใจทำให้ฟู่ฉีชวนลำบากใจ "ประธานฟู่ ในเมื่อมาร่วมงานขึ้นบ้านแล้ว ก็น่าจะติดของขวัญอะไรมาบ้างสิ?"เดิมทีฉันคิดจะตัดบท แต่ก็ถูกเจียงไหลขวางเอาไว้ขนาดก่อนที่ฉันจะเข้าบ้านมา ยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาเตรียมงานขึ้นบ้านใหม่ให้ฉัน ฟู่ฉีชวนจะเตรียมของขวัญให้ล่วงหน้าได้อย่างไรกันดวงตาดำขลับทั้งคู่ของฟู่ฉีชวนจ้องมองฉัน ยื่นมือล้วงกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสูท วางไว้ตรงหน้าฉันเขาซ่อนคลื่นผันผวนใต้ตาลงไป มุมปากยกขึ้นเป็นวงอย่างชัดเจน "เดิมทียังหาโอกาสให้เธอไม่ได้เลย ดูท่าตอนนี้ได้จังหวะพอดี""คืออะไรหรือ?"เจียงไหลพุ่งเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็นฉันเปิดออกดู ก็มองฟู่ฉีชวนอย่างประหลาดใจ "เธอประมูลมาหรือ?"เป็นต่างหูอัญมณีสี

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 26

    พอคิดขึ้นมาก็รู้สึกน่าขันฉันที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในคืนแต่งงาน ฉันที่สามีไม่เคยโผล่มาในวันเกิด ฉันที่มีของขวัญที่อยากได้แต่ก็ถูกส่งไปให้คนอื่น กระทั่งวันที่ตรวจครรภ์สามีก็ยังไปกับคนอื่น นี่ก็ตัวฉันอีก...ตอนนี้พวกเราเดินมาถึงจุดที่ต้องหย่าร้าง เพื่อนมาจัดงานขึ้นบ้านใหม่ให้ฉัน แต่เขากลับรับไม่ได้ขึ้นมาหรือมุมปากฉันกระตุก หรุบตามองเขา "ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะโทรหาฟู่จินอันแล้วนะ"ถ้าให้ฟู่จินอันมาอาละวาดกับเขา เขาก็คงรับมือไม่ไหวหรอกฟู่ฉีชวนโอบเอาฉันแน่นขึ้นมา หน้าผากยันไว้ที่หน้าอกฉัน เอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า "หนานจือ ชั้นไม่เคยคิดจะให้มันเปลี่ยนเป็นแบบนี้เลย จริงๆ นะ"เขาเป็นแบบนี้ ฉันก็อดใจอ่อนลงมาไม่ได้จังหวะที่จะอ้าปากพูดนั้น โทรศัพท์มือถือที่เขาวางไว้บนโต๊ะก็ดังขึ้นสายที่เข้ามาแสดงชื่อ 'ฟู่จินอัน'เหมือนน้ำเย็นสาดลงมาบนหัว กระตุ้นเรียกฉันให้ตื่นขึ้นมาในพริบตา ยื่นมือผลักเขาออก "เธอมีสายเข้า"พอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน ลู่สือเยี่ยนเดินออกมาจากห้องครัวพอดี"หนานจือ เก็บเรียบร้อยแล้ว ชั้นไปส่งเฮ่อถิงกลับก่อนนะ""ชั้นจะส่งพวกเธอลงไป"ฉันเหลือบมองร่างที่ไปรับโทรศัพท์ตรงระเบียง อดรำคาญใจขึ้นมาอย่างปร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 27

    "อยากขอบคุณชั้นจริงหรือ?"เดินมาข้างรถ ลู่สือเยี่ยนดันเฮ่อถิงเข้าไปที่เบาะหลัง เอนพิงตัวรถ หรุบตายิ้มมองฉันฉันพยักหน้า "แน่นอน""ถ้าอย่างนั้นก็รับปากชั้นหน่อย หลังจากนี้ห้ามเอาแต่พูดคำว่า 'ขอบคุณ' กับชั้นอีก"คำพูดนี้ทำให้ฉันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่ยังไม่ทันได้คิด เขาก็ยิ้มเสริมมาให้คำหนึ่ง "มันดูห่างเหินเกินไป"ฉันยิ้มตอบ "ได้ เข้าใจแล้ว"คนขับรถเข้ามาพอดี เขาเอากุญแจรถส่งให้คนขับ เอ่ยขึ้นด้วยคิ้วตาที่ดูอบอุ่น "ชั้นไปแล้วนะ เธอรีบขึ้นไปเถอะ"ตอนที่ฉันขึ้นไป ห้องรับแขกก็ว่างเปล่าไปแล้วฟู่ฉีชวนไม่อยู่ในใจฉันก็เหมือนโหวงไปครู่หนึ่งแต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นไปมาไม่บอกกล่าว ก็เป็นสไตล์ของเขามาโดยตลอดอยู่แล้วคิดว่าฟู่จินอันทางนั้นคงจะมี 'เรื่องด่วน' อะไรขึ้นมาฉันกลับมาที่ห้องนอน ตบเบาๆ ไปที่เจียงไหล "ไหลไหล ตื่นได้แล้ว ชั้นจะเปลี่ยนชุดนอนให้เธอ จะได้หลับสบายหน่อย""อื้อ"เจียงไหลหรี่ตาขึ้นมา พอเห็นฉัน ก็ยกมือสองข้างกอดฉันอย่างออดอ้อน ยอมให้ฉันเปลี่ยนถอดเสื้อผ้าให้เธอ มุมปากก็ยังงึมงำๆ "หรวนหร่วนที่แสนดี หรวนหร่วนที่แสนดีของชั้น ใครก็ห้ามมารังแกเธอทั้งนั้น...""บ๊องหรือเปล่าเนี่ย?"ฉันอด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 28

    ประโยคนี้ของหล่อน ถ้าถามขึ้นก่อนหน้านี้ จิตใจฉันอาจจะรู้สึกอะไรอยู่บ้างแต่ตอนนี้ ขนาดฉันยังยอมรับเรื่องที่ว่า 'ฟู่ฉีชวนไม่ได้มีความรู้สึกให้ฉันเลยแม้แต่น้อย' ได้ จึงไม่สนใจที่จะถามอะไรหล่อนแค่มองเธอนิ่งๆ เท่านั้น "เธอกำตั๋วชนะในมืออยู่แล้ว ทำไมวันๆ ยังเอาแต่มาบ้าบอใส่ชั้นกัน?"ประสาทเช้าตรู่ก็แจ้นมาสำนักงานฉัน ทำตัวอย่างกับพวกเมียน้อยพอเห็นฉันไม่ได้รู้สึกรู้สา ฟู่จินอันก็ดูจะร้อนรน และไม่รอให้ฉันถามไถ่ก็เอ่ยขึ้นอย่างผู้ชนะ "ก็เพื่อตัวชั้นนี่ไง"สองมือของหล่อนค้ำอยู่บนโต๊ะทำงานฉัน ก้มตัวเล็กน้อยเหมือนมองคนที่เคยพ่ายแพ้ "หร่วนหนานจือ ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะชั้น เขาไม่มีทางแต่งกับเธอหรอก! ตอนนี้เธอแค่ประตูของตระกูลฟู่เปิดให้แค่ไหน ก็ยังไม่รู้เลย!"พอได้ยิน มือของฉันก็กำแน่น ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้กระจายอยู่ในใจฉัน ถูกบีบจนกระตุกริมฝีปากแดงของหล่อนเชิดขึ้นอย่างภูมิใจ สองมือกอดอก "คุณปู่ใช้ชั้นไปคุกคามเขา ถ้าหากเขาไม่แต่งกับเธอ ก็จะใช้อำนาจบังคับชั้นไล่ออกไปนอกประเทศ"รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่รักฉัน แต่ตอนนี้พอมาได้ยิน ก็ยังรู้สึกเสียใจมากอยู่ดีขนาดแค่แต่งงานกับฉัน ก็ยังเพราะเขาจำเป็นต้องท

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 274

    เขามีความแค้นในใจกับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?เขาลดตาลงและพูดอย่างไม่ใส่ใจ "อย่าคิดมาก ฉันแค่ต้องการจัดการกับเธอด้วยตัวเอง"ฉันพูดโดยไม่ลังเล: "โอเ งั้นเรื่องวันนี้ถือว่าคุณจัดการไป"ทำไมไม่แก้แค้นเสิ่นซิงหยู่และถอยห่างจากเธอล่ะโจวฟางเหลือบตามองมาที่ฉันและยิ้มออกมา "หร่วนหนานจือ คุณฉวยโอกาสเก่งมากเลยสินะ?""แน่อยู่แล้ว!"ฉันหัวเราะคิกคัก “ว่าแต่ คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”โจวฟางมองฉันเหมือนคนโง่แล้วพูด: "คุณคิดว่าจินซื่อเจี๋ยจะไม่โทรหาฉันก่อนลงมือเหรอ?"ฉันขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจ"ฉันเข้าใจแล้ว"แน่นอนว่าจินซื่อเจี๋ยจะต้องแจ้งให้โจวฟางทราบถ้าโจวฟางตกลง นั่นก็ถือเป็นการช่วยเหลือสำหรับเขา เพราะเมื่อฉันขอความช่วยเหลือในวันนั้น ฉันก็ยืมชื่อของโจวฟางมาใช้ และถ้าเกิดเรื่องไม่ดี โจวฟางก็จะปกป้องเขาถ้าโจวฟางหยุดเขา มันก็จะยิ่งสะดวกสำหรับเขามากขึ้น เพราะเขาไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกแก้แค้นจากตระกูลเสิ่นหลังจากลงมือไม่ว่าจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่มีข้อเสียเปรียบเลยหลังจากกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงหมายเลข 1 และออกจากลิฟต์แล้ว เราก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเองฉันเพิ่งล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 273

    ปฏิกิริยาแรกของฉันคือสับสนไปชั่วครู่ จากนั้นฉันก็พบว่ามันไร้สาระโหดร้ายพวกเขาลักพาตัวฉันและปล่อยให้ฉันบาดเจ็บตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาจะคิดทบทวนตัวเองบ้างเลยตอนนี้ ฉันแค่ขอให้จินซื่อเจี๋ยทำแผลแบบเดียวกับฉันบนเสิ่นซิงหยู แต่พวกเขากับเรียกมันว่าสองมาตรฐานคุณหนูลูกสาวเศรษฐีมีค่า แต่คนธรรมดานั้นไม่มีค่าเลยงั้นเหรอ?ช่างสองมาตรฐานจริงๆ"พูดอะไรหน่อยสิ? แกรู้สึกผิดอยู่หรือเปล่า โอเค ตั้งแต่คุณเริ่มเรื่องนี้ อย่าโทษฉันสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป!" แม่เสิ่นยังคงตะโกนอย่างโกรธจัดที่ปลายสายอีกด้านโทรศัพท์เชื่อมต่อกับบลูทูธของรถ ดังนั้นโจวฟางจึงได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจนฉันยิ้ม ก่อนที่ฉันที่จะพูดออกมา โจวฟางก็พูดขึ้นก่อน: "ป้า คุณกำลังกล่าวหาคุณหร่วนอย่างไม่ยุติธรรมอยู่ วันนี้ฉันอยู่ที่บริษัทของเธอทั้งบ่าย เพื่อถูรถ และฉันก็ไม่เห็นเธอคบหาสมาคมกับใครเลย"เขาใช้คำพูดเบาๆ เพียงไม่กี่คำเพื่อเคลียร์ฉันให้พ้นจากความเกี่ยวข้องใดๆ ได้อย่างเรียบร้อย"อาฟาง?"แม่เสิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งและระงับอารมณ์ไว้ "มันไม่จำเป็นต้องพบใครเพื่อทำแบบนี้ อย่าให้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและใจดีขอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 272

    "?"ฉันสงสัยว่า "รอฉันทำงานเสร็จก่อนเหรอ?"นี่มันการกระทำแบบไหนกัน"เพื่อนส่งฉันมาที่นี่เมื่อกี้ ฉันไม่มีรถ"ขณะที่เขาพูด เขาก็ยื่นข้อมือมาให้ฉันและขอให้ฉันดูเวลา "คุณกำลังจะเลิกงานแล้ว ช่วยมารับฉันกลับด้วย""ฉันจะโทรเรียกรถให้คุณ"ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมา และเขาก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ฉันไม่เคยนั่งแท็กซี่มาก่อน"เอาล่ะเป็นเรื่องธรรมดาที่นายน้อยจะมีลักษณะเฉพาะของเขาฉันไม่มีอะไรจะพูด "งั้นคุณก็รอได้เลย"ฉันหันศีรษะและเข้าไปในห้องทำงานของฉัน เจียงไหลเอื้อมมือมาอย่างรวดเร็วเธอขยิบตาให้ฉันและพูดว่า "ทำไมนายน้อยของตระกูลโจวยังไม่ไปจากที่นี่?""กำลังรอรถ"ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบเจียงไหลนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามฉัน โดยวางข้อศอกบนโต๊ะและเอามือประคองใบหน้า“ก่อนหน้านี้ ฉันสังเกตเห็นว่าแม่ลูกตระกูลเสิ่นดูกลัวเขามาก บางทีคุณควรพยายามทำความรู้จักกับเขาหน่อย ถ้าเกิดอะไรขึ้น เขาอาจช่วยคุณได้”“ช่างมันเถอะ”ฉันปฏิเสธความคิดนั้นโดยไม่ลังเล “คุณคิดว่าเขาเป็นคนประเภทที่ปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกใช้หรือเปล่า?”เขาดูเย้ยหยัน แต่ที่จริงแล้ว เขารู้ทุกอย่างในใจของเขาไ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 271

    เมื่อเห็นเขาเข้ามา เสิ่นซิงหยูก็ระงับสีหน้าเยาะเย้ยทันที แต่ยังคงอารมณ์ฉุนเฉียวและพึมพำว่า “เข้าข้างคนนอกเสมอ!”แม่เสิ่นไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนก่อนหน้านี้ เธอแค่ถาม "ทำไม?"“ผมบอกคุณย่าไปแล้วว่าผมจะเอาชุดที่สั่งตัดมาให้เธอสองสามชุด”โจวฟางยิ้มและเสริมว่า “สุดสัปดาห์นี้ผมจะพาหร่วนหนานจือไปพบเธอเพื่อฟังความคิดของเธอ ถ้าตอนนี้คุณรังแกเธอแล้วเธออารมณ์เสียและปฏิเสธผม ผมจะอธิบายเรื่องนี้กับคุณย่าได้ยังไง”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นซิงหยู่ก็ยกคิ้วและจ้องมองทันที "คุณจะพาเธอไปหาคุณย่าโจวเหรอ?""ใช่เรื่องของเธอเหรอ?"โจวฟางพูดอย่างประหยัด ไม่เต็มใจที่จะเสียเวลาแม้แต่พยางค์เดียวเสิ่นซิงหยู่ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา "คุณย่าโจวมักจะกังวลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์และชื่อเสียงอยู่เสมอ จะยอมให้หญิงมั่วชายอย่างนางพบได้ยังไง?""เสิ่นซิงหยู่ แม้ว่าเธอจะเป็นแบบนี้ คุณย่าของฉันก็ยังทนได้ ฉันแน่ใจว่าคุณหร่วนจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี"แม้แต่ต่อหน้าแม่เสิ่น โจวฟางก็ไม่ไว้หน้าให้เสิ่นซิงหยู่แม่เสิ่นระงับความโกรธและประนีประนอมโดยกล่าว: "เมื่อเป็นอย่างนั้น เราจะไว้หน้าให้เธอและไม่โต้เถียงกับเธอในตอนนี้"“ดูแลตัวเอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 270

    หากยืนกรานที่จะทำให้ฉันอับอายอย่างตั้งใจ นั่นฟังดูน่ายินดีมากแสดงความรักอย่างลึกซึ้งในอดีต แต่ฉันจำคำพูดตรงไปตรงมาที่ เธอพูดกับฟู่ฉีชวนในโรงพยาบาลได้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตาม แม่เสิ่นก็ตกตะลึงจนจับหน้าผากของเธอด้วยความหงุดหงิด "นี่ลูก! ทำไมลูกถึงรักฟู่ฉีชวนทั้งหัวใจแบบนี้!”เสิ่นซิงหยูยิ้มอย่างเชื่อฟังและพูดว่า "เขาเป็นคนดีมาก บางคนไม่รู้ว่าจะดูแลเขายังไง แต่ฉันจะทำแน่นอน"ชอบพูดจาแขวะคนอื่นฉันพบว่ามันน่าขบขันแต่ก็ไม่อยากยุ่งกับเธอ ฉันแค่อยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ฉันเลยถามอีกครั้งว่า “แล้วคุณบอกความต้องการของคุณให้ฉันรู้ได้ไหม?”"ต้องสูงศักดิ์!"เธอสั่งอย่างเย่อหยิ่งและเสริมว่า “ควรมีเพชรจำนวนมาก แวววาวไปทั่วทุกจุด คอเสื้อควรประดับด้วยไข่มุก ต้องดูแพงมาก โอ้ แล้วก็ทับทิมด้วย ฉันชอบสีแดง…”สุดท้ายแล้ว ฉันรู้สึกมีแรงบันดาลใจเล็กน้อยเพชร ไข่มุก ทับทิมนี่ไม่ใช่ชุดราตรี แต่เป็นตู้โชว์เครื่องประดับฉันบอกไม่ได้ว่าเธอชอบสไตล์นี้จริงๆ หรือเธอจงใจทำให้ทุกอย่างยากขึ้นฉันเม้มปากและพูดจากมุมมองของมืออาชีพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้: "คุณหนูเสิ่น องค์ประกอบนี้อาจมากเกินไปหน่อย ซึ่ง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 269

    เมื่อแม่เสิ่นปรากฏตัวที่สำนักงาน หน้าอกของเธอยังคงไม่เท่ากันเล็กน้อย ซึ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังวิตกกังวลใครๆ ก็บอกได้ในทันทีว่าเธอใส่ใจลูกสาวของเธอ เสิ่นซิงหยูมากเพียงใดไม่ต่างอะไรกับการปกป้องอัญมณีอันล้ำค่าเสิ่นซิงหยูเห็นผู้สนับสนุนของเธอเข้ามาและยื่นปากออกมา ดูเหมือนว่าเธออยากจะร้องไห้ "แม่ ฉันสงสารเธอที่หย่าร้างและจะช่วยอุดหนุนธุรกิจของเธอ เธอถึงกับเรียกฉันว่าหมากับเพื่อนของเธอด้วยซ้ำ"แม่เสิ่นขมวดคิ้วและจ้องมองฉันอย่างโกรธเคือง "หร่วนหนานจือ อย่าไม่รู้จักบุญคุณกันเกินไปนะ! ขอโทษลูกสาวของฉันเดี๋ยวนี้!""ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น"เจียงไหลไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป "การไม่รู้จักบุญคุณหมายความว่ายังไง? ใครเป็นคนขอร้องให้ลูกสาวของคุณอุดหนุนธุรกิจของเรา ฉันบอกไปแล้วว่าเราไม่รับออเดอร์ เธอจะยืนกรานอย่างไม่ลดละ""แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?”หลังจากพูดจาเหยียดหยาม สายตาของแม่เสิ่นก็จับจ้องมาที่ฉัน เต็มไปด้วยความคุกคาม "หร่วนหนานจือ คราวที่แล้ว ฉันปล่อยให้เธอออกไปเพราะไว้หน้าเธอ ถ้าวันนี้เธอควบคุมปากไม่ได้ ฉันจะทำให้เธอหายไปจากเมืองเจียงเฉิง"เจียงไหลที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อการ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 268

    ส่วนที่เหลือ ค่อยๆ รับสมัคร……ในช่วงบ่าย ขณะที่ฉันกำลังจดจ่ออยู่กับการออกแบบคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิใหม่ ฉันได้ยินเสียงการโต้เถียงดังมาจากภายนอกหนึ่งในนั้นชัดเจนมาก ฉันคุ้นเคยเป็นพิเศษและอีกอันก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าเช่นกันทันทีที่ฉันเปิดประตูและเดินออกไป ฉันได้ยินเจียงไหลพูดว่า "เธอไม่เข้าใจเหรอ ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันจะไม่ทำธุรกิจกับเธอ การออกแบบเสื้อผ้าให้เธอ ฉันคิดว่าฉันกำลังทำให้มือของหรวนหร่วนของฉันสกปรก"ฮึ่ม"อีกคนกรนเสียงเย็นชาด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งและชอบบงการตามปกติของเขา “งั้นฉันขอพูดให้ชัดเจนนะ เธอจะทำไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ก็ตาม”มีเพียงเสิ่นซิงหยูเท่านั้นที่สามารถทำตัวให้หยิ่งผยองได้“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ เธอจะทำยังไง?”เจียงไหลก็ไม่กลัวเธอเช่นกัน เขาทำท่ายักไหล่แล้วพูดว่า "ทำไมเธอไม่โทรเรียกตำรวจล่ะ? อ้อ ถ้าเราจับคุณได้ เราคงต้องหาทีมจับสุนัขให้เจอ อย่าไปโทร 110 เลย เธอจะเสียทรัพยากรของตำรวจไปเปล่าๆ"เธอไม่เคยแพ้ใครในการด่าทอเลยเสิ่นซิงหยู่โกรธมากจนกัดฟันแล้วพูดว่า “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ทำ? โอเค งั้นฉันจะทำให้แน่ใจว่าบริษัทของเธอปิดตัวลงในวันที่เปิดทำการ”"เราจะทำ!"ฉันก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 267

    ฉันกับเจียงไหลคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะมีใครทำเรื่องดีๆ เช่นนี้"ลืมไปเถอะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ตอนนี้ การเปิดประตูเพื่อทำธุรกิจ การมีออเดอร์เป็นสิ่งที่ดี"เจียงไหลมองโลกในแง่ดีขณะที่เธอยืดตัวอย่างขี้เกียจ “มีคนมาสัมภาษณ์เร็วๆ นี้ เธอพร้อมไหม? อยากร่วมสัมภาษณ์กับฉันไหม?”"ได้"ฉันตกลงมีหลายอย่างที่ต้องทำเมื่อบริษัทใหม่เปิดขึ้นแค่ฉันกับเจียงไหลทำงานไม่หยุดตลอด 24 ชั่วโมงไม่เพียงพอการจ้างงานเป็นเรื่องเร่งด่วนระหว่างการสัมภาษณ์ เจียงไหลรับผิดชอบในการถามคำถาม ในขณะที่ฉันรับผิดชอบแค่การทบทวน เราสามารถตัดสินใจร่วมกันในภายหลังฉันคิดว่าสองสามคนแรกโอเค แต่ฉันบอกไม่ได้ว่าดีตรงไหนจนกระทั่งมีหญิงสาวผลักประตูเปิด โค้งตัวเล็กน้อยให้เรา นั่งลงอย่างเชื่อฟัง และแนะนำตัว "สวัสดี ฉันชื่อโจวโม่...."ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับท่าทางไร้เดียงสาของเธอเสมอเมื่อเธอพูด สายตาของเธอหันมาทางฉันเป็นครั้งคราว ดวงตาที่เปียกชื้นของเธอเป็นประกายสดใสเจียงไหลรู้สึกขบขันและถามเธอว่า “คุณรู้จักประธานหร่วนของเราไหม? หรือคุณแค่คิดว่าเธอสวยเกินไป?”“ประธานหร่วน...”เธอยิ้มอย่างเขินอายและถามอย่างระมั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 266

    ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกราวกับว่าน้ำตาได่้ไหลรินลงมาราวกับฝนตก แต่ใบหน้าของฉันยังคงสะอาดและแห้งแม้แต่การมองเห็นก็ยังชัดเจนเป็นพิเศษเมื่อฉันกลับถึงบ้าน ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ก็โทรมาหาฉันทันทีและบอกว่ามีผู้ซื้อรายหนึ่งตัดสินใจซื้อบ้านในหลินเจียงการ์เด้นและยังใจกว้างมาก โดยไม่ต้องลดราคาใดๆ ทั้งสิ้นพวกเขาขอให้ฉันพบกับผู้ซื้อเพื่อหารือรายละเอียด หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เราก็สามารถเซ็นสัญญาและดำเนินการตามกระบวนการต่อไปได้ระหว่างทางไปหลินเจียงการ์เด้น ฉันคิดอยู่ตลอดว่าถ้าบ้านหลังนี้สามารถหาผู้ซื้อได้เร็วกว่านี้สักหน่อย หนานซีก็คงไม่ต้องพึ่งการลงทุนของ RF กรุ๊ปน่าเสียดาย ที่ไม่มีคำว่าถ้าอย่างไรก็ตาม การพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงาก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเองเมื่อฉันมาถึงหลินเจียงการ์เด้น ฉันเห็น "ผู้ซื้อ" ยืนอยู่ข้างๆ ตัวแทน และอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ "คุณเฉิน คุณชอบอพาร์ตเมนต์นี้หรือเปล่า?""ฉันเอง"เฉินเย่ดูไม่แปลกใจเลยและเป็นกันเองมาก “คุณหร่วน เราเจอกันอีกแล้ว”ฉันหัวเราะและพูดว่า "บังเอิญจริงๆ คุณลงทุนกับฉันตอนเที่ยงและซื้อบ้านของฉันในช่วงบ่าย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status