Share

บทที่ 4

Author: เล่อเอิน
last update Last Updated: 2024-09-27 11:51:23
เขาแทบจะตอบรับในทันที

ไม่ลังเลหรือครุ่นคิดสักนิด

ฉันโอบรอบคอของเขา ริมฝีปากทั้งสองด้านยกยิ้ม จับจ้องไปที่เขาไม่วางสายตา "สิบเปอร์เซ็น คุณไม่เสียดายหรอ?"

แววตาของเขาบริสุทธิ์ "ก็ให้คุณ ไม่ได้ให้คนอื่นสักหน่อย"

วินาทีนี้

ฉันต้องยอมรับเลยว่า เงินเป็นสิ่งที่จะใช้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ได้ดีมาก

อารมณ์ที่ฝืนกดมันเอาไว้ตลอดช่วงบ่าย ในที่สุดก็ได้รับการปลอดล็อค

ฉันถามยิ้มๆ ราวกับอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง "แล้วถ้าเป็นพี่จินอัน คุณจะให้เธอหรือเปล่า?"

เขาเงียบไปชั่วอึดใจ แล้วให้คำตอบที่แน่ชัด "ไม่ให้"

"จริงหรอ?"

"อืม ที่ผมจะให้เธอได้ ก็มีแค่ตำแหน่งนั้น"

ฟู่ฉีชวนดึงฉันเข้าสู่อ้อมกอด น้ำเสียงอันอบอุ่นและมุ่งมั่นดังอยู่เหนือศีรษะของฉัน "หนังสือสัญญาโอนหุ้น ตอนบ่ายผมจะให้ฉินเจ๋อส่งมา นับจากวันนี้ไป คุณก็คือหนึ่งในเจ้าของของแซ่ฟู่กรุ๊ป ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นแค่ลูกน้องที่ทำงานให้คุณ"

"แล้วคุณล่ะ?"

ฉันอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ก็ถามเขายิ้มๆ

เขาเลิกคิ้ว "อะไร?"

"คุณก็ทำงานให้ฉันด้วยหรือเปล่า?"

"แน่นอน"

เขาหุบยิ้ม ลูบศีรษะของฉัน โน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหู พูดจาสองแง่สองง่าม "ผมให้บริการคุณได้ทั้งบนเตียงและหลังลงจากเตียง"

……

ฉันหน้าแดงฉ่า ถลึงตาใส่เขาทันที

เขาเป็นคนแบบนี้แหละ ดูภายนอกเคร่งขรึม เย็นชา สูงส่ง แต่บางครั้งก็หยอกเย้าออกมาบ้าง แกล้งให้ฉันอายหน้าแดงหูแดวง

เมื่อเห็นว่าฉันอารมณ์ดีขึ้น เขาก็ยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ "ผมต้องขึ้นไปประชุมแล้ว วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ตอนเย็นต้องกลับคฤหาสน์เก่าไปกินข้าวกับคุณปู่ ผมจะรอคุณที่ลานจอดรถนะ"

"รู้แล้วค่ะ"

แน่นอนว่าฉันไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย ก็ตัดสินใจออกมา "ที่รัก เย็นนี้ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้คุณด้วย"

หลายวันก่อน เรื่องที่เขาโกหกฉันเพราะสร้อยเส้นนั้น ทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าควรจะบอกเขาเรื่องที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า

ในเมื่อเขาแยกแยะความสำคัญระหว่างฉันกับฟู่จินอันได้ งั้นฉันก็ไม่ควรจะปิดบังอีกต่อไป

"เซอร์ไพรส์อะไร?" เขาเป็นคนขี้สงสัยมาก จึงอยากจะถามให้ลึกถึงตำตอซะเดี๋ยวนี้เลย

"เลิกงานแล้วจะบอกค่ะ รอฉันนะ!"

ฉันเขย่งปลายเท้าขึ้น ประทับจูบลงบนริมฝีปากของเขา จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก

หลังจากที่เขาออกไป จิตใจของฉันก็สงบลงโดยสมบูรณ์ จึงตั้งหน้าตั้งใจออกแบบร่าง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะขึ้นมาอีกครั้ง

ฉันไม่แม้แต่จะเงยหน้า "เข้ามา"

"หนานจือ คงไม่ได้รบกวนเธอหรอกนะ?" น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟังของฟู่จินอันลอยขึ้นมา

"ก็รบกวนอยู่ค่ะ" ฉันพูดตามความจริง

เวลาที่กำลังเร่งวาดแบบร่าง ฉันไม่ชอบให้ใครเข้ามาขัด

ฟู่จินอันมีสีหน้ากระอักกระอ่วนแวบนึง แล้วใช้ความกล้าพูดขึ้นมาอีก "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ แค่เพิ่งจะได้รู้มาเมื่อกี้ว่า ตำแหน่งผอ.ของแผนกดีไซนเดิมทีแล้วมันควรต้องเป็นของเธอ ฉันเผลอไปแย่งตำแหน่งที่เป็นของเธอเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เลยอยากจะมาขอโทษน่ะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

เมื่อกี้ฟู่ฉีชวนชดเชยให้เรียบร้อยแล้ว

หุ้นสิบเปอร์เซ็น ต่อให้ฉันนั่งตำแหน่งผอ.ทำงานไปแปดร้อยชาติ ก็ยังหาเงินมากขนาดนั้นไม่ได้

บางทีอาจะเป็นเพราะฉันแสดงออกถึงความชิลเกินไป หล่อนจึงประหลาดใจไม่น้อย

"ไม่เป็นไรจริงๆ หรอ? ถ้าเธอไม่สบายใจ ก็บอกฉัน ฉันเปลี่ยนแผนกได้ อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคือง" หล่อนเดินมานั่งลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้างด้วยท่าทางที่สงบเรียบร้อย

"พี่จินอัน ฉันไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร พี่ก็อยู่ที่แผนกดีไซน์ต่อไปเถอะ"

แล้วก็เลิกวุ่นวายไปทั่วสักที

ฉันกลัวว่าหุ้นยังไม่ทันจะถึงมือ บริษัทจะเจ๊งเพราะหล่อนซะก่อน

ถ้าอยู่ที่แผนกดีไซน์ ยังดีที่ฉันพอจะเอาอยู่

"งั้นก็ได้ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าเธอรู้สึกไม่ดีก็บอกฉัน อย่าเก็บเอาไว้ในใจ"

ฟู่จินอันวางท่าราวกับเป็นพี่สาวที่รู้ใจ ทัดผมยาวไว้หลังหูเสร็จ ก็พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนอีก "ถึงยังไงอาชวนก็บอกแล้ว ว่าตำแหน่งในบริษัทนี้ฉันจิ้มเอาได้เลย ฉันไม่ได้ทำงานมาหลายปี ไม่ว่าจะไปแผนกไหนมันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ"

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันเซ้นซิทีฟเกินไป

หรือเพราะอะไร

คำพูดนั้นพอฟังดูแล้ว รู้สึกไม่เข้าหูยังไงไม่รู้

ราวกับว่า หล่อนต่างหากที่เป็นคนสนิทชิดใกล้ที่สุดของฟู่ฉีชวน หล่อนต่างหากที่เป็นเมียเจ้าของบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ป

"ผอ.หร่วน"

ฉินเจ๋อเห็นว่าประตูเปิดค้างไว้อยู่ ก็เคาะประตูเป็นเชิงสัญลักษณ์ก่อนจะเดินเข้ามา แล้วส่งหนังสือสัญญาให้ฉัน "เอกสารมีทั้งหมดสองชุด คุณลองดูก่อนนะครับ ท่านประธานเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว คุณเซ็นเสร็จสามารถเก็บเอาไว้เองชุดนึงได้เลยครับ"

ฟู่ฉีชวนเป็นคนพูดจริงทำจริง

"โอเค"

ฉันพลิกดูหนังสือสัญญา อ่านคร่าวๆ รอบนึง ก็จรดปากกาเซ็นชื่อตัวเอง จากนั้นส่งกลับคืนให้ฉินเจ๋อชุดนึง แล้วยิ้มบางๆ ตามมารยาท "รบกวนด้วยนะ"

"นี่มันสัญญาโอนหุ้น?" ฟู่จินอันคล้ายๆ ว่าเหลือบอ่านหน้าปกของสัญญา

ในมุมที่ฉันมองไม่เห็น ท่าทางสง่างาม สงบเรียบร้อยของหล่อนได้พังทลายลง เล็บแหลมคมฝังเข้าไปในฝ่ามือ

ฉินเจ๋อจึงหันไปมอง พร้อมกับประหลาดใจไม่น้อย "ผอ.ฟู่ก็อยู่ด้วยหรอครับ? งั้นพวกคุณคุยกันต่อเถอะครับ ผมขอตัวขึ้นไปรายงานท่านประธานก่อน"

เขาไม่ได้ตอบคำถามของฟู่จินอันแต่อย่างใด

ทว่าเผ่นแน่บออกไป

ในแววตาของฟู่จินอันแฝงไว้ด้วยความเหลือเชื่อ "อาชวนแบ่งหุ้นให้เธอ?"

"ไม่ว่าจะยังไง เรื่องแบบนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องรายงานให้ผอ.ฟู่ทราบมั้งคะ?"

หลังจากประเด็นเรื่องสร้อยคอ ฉันก็อธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงกับหล่อน

เอาเป็นว่า ฉันไม่สามารถทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเมื่อก่อนได้อีก

"หนานจือ ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอไม่ค่อยชอบฉันเลยล่ะ..."

ฟู่จินอันลุกขึ้นด้วยสีหน้าจนปัญญา "ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องสร้อย หรือเรื่องตำแหน่งในครั้งนี้ ที่ทำให้เธอรู้สึกแย่กับฉัน แต่ขอให้เธอเชื่อ ว่าฉันไม่เคยคิดที่จะแย่งของพวกนี้ไปจากมือเธอเลย"

"ของพวกนี้น่ะ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก" หล่อนพูด

ฉันมองดูท่าทางตรงไปตรงมาของหล่อน ภายในใจก็รู้สึกว้าวุ่น

……

ตกเย็น ฉันขุดเอาที่ทดสอบครรภ์ที่ฝังเอาไว้ในเค้กออกมา แล้วใส่ไว้ในกระเป๋า

ตั้งใจว่าทันทีที่ลงไปก็จะบอกฟู่ฉีชวน ว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว

ฉันกับเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน

พอคิดถึงปฏิกิริยาของเขา คิดว่าในท้องของฉันมีอีกหนึ่งชีวิตเล็กๆ ฝีเท้าของฉันที่กำลังก้าวอยู่ก็เบาลงหลายเท่า

แล้วก็ยิ่งอยากจะแชร์เซอร์ไพรส์นี้ให้เขาฟังจนรอไม่ไหวแล้ว

ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมายังชั้นจอดรถ ฉันหารถมายบัคสีดำคันนั้นเจอได้อย่างง่ายดาย

ร่างกายสูงใหญ่ของฟู่ฉีชวนกำลังยืนพิงกับรถ รอฉันอย่างใจเย็น

ฉันโถมเข้าอ้อมกอดของเขา ทุกลมหายใจที่สูดเข้าไปล้วนเป็นกลิ่นหอมเย็นของวูดดี้ "ที่รัก! ไม่ได้รอนานใช่ไหม?"

"อืม"

เขาไม่ได้กอดฉันเหมือนอย่างที่ทำในยามปกติ แต่กลับดันฉันออกด้วยความอึดอัด "ขึ้นรถก่อนเถอะ"

"เดี๋ยว ฉันจะบอกคุณก่อน ว่าเซอร์ไพรส์นั้นคืออะไร" ฉันดึงเขาเอาไว้

"คืออะไร?"

ปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อเรื่องนี้ ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนเมื่อตอนบ่ายที่อยู่ในห้องทำงาน ท่าทางของเขาดูเหม่อลอย

ฉันขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จ้องดวงตาสีดำราวกับหมึกของเขา แล้วพูดด้วยความจริงจัง "ฉีชวน คุณกำลังจะได้เป็น..."

"อาชวน ทำไมพวกเธอยังไม่ขึ้นรถกันอีก?"

จู่ๆ กระจกฝั่งเบาะข้างคนขับก็ถูกลดลง น้ำเสียงเร่งเร้าขัดจังหวะฉันในทันที

มุมที่ฉันยืน ประสานสายตาเข้ากับฟู่จินอันที่นั่งอยู่ในรถได้พอดี

ฉันหันไปหาฟู่ฉีชวนด้วยความตกตะลึง ต้องการคำอธิบายจากเขา

ทว่าฟู่จินอันไวกว่า หล่อนพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "หนานจือ รถของฉันส่งซ่อมน่ะ ยังไงทุกคนก็จะกลับคฤหาสน์เก่ากันพอดี ฉันเลยหน้าด้านขอเกาะรถของอาชวนมาด้วย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เธอคงไม่ใส่ใจหรอกใช่ไหม?"

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 5

    ทั้งที่รู้ว่าฟู่ฉีชวนกำลังรอฉันหล่อนที่ขออาศัยติดรถ กลับนั่งตำแหน่งข้างคนขับฉันอยากจะสะบัดหน้าแล้วเดินหนี แต่สติสัมปชัญญะสั่งให้ฉันหยุดความคิดนั้น แล้วยื่นมือไปหาฟู่ฉีชวน "กุญแจรถ"ฟู่ฉีชวนไม่ได้พูดอะไร แค่วางกุญแจรถลงบนมือฉันเดินอ้อมกระโปรงรถ เข้าไปนั่งบนตำแหน่งคนขับ ขณะที่ฟู่จินอันกำลังอึ้งและหน้าแข็งไป ฉันก็ยิ้มน้อยๆ "เครื่องแค่นี้เอง? พี่เองก็นับว่าเป็นพี่สาวของฉีชวน แค่ขอติดรถด้วยปกติจะตาย"จากนั้น ก็ยื่นหน้าออกไปมองฟู่ฉีชวนที่อยู่นอกรถ "รีบขึ้นรถสิคะ คุณปู่กำลังรอพวกเราอยู่แหงๆ"ตลอดทางเต็มไปด้วยความเงียบสงัดเงียบราวกับอยู่ในป่าช้าเดิมทีฟู่จินอันอยากจะคุยกับฟู่ฉีชวน แต่คงเป็นเพราะต้องหันหลังไปคุย ซึ่งอาจจะดูไม่ค่อยธรรมชาติอาจจะเป็นเพราะสังเกตได้ว่าฉันรู้สึกไม่ดี จู่ๆ ฟู่ฉีชวนก็เปิดกระป๋องเครื่องดื่มแล้วส่งให้ "น้ำมะม่วงที่คุณชอบ"ฉันดื่มไปคำนึง ก็ขมวดคิ้วแล้วส่งคืนกลับไป "หวานเกินไป คุณดื่มเถอะ"ช่วงนี้ฉันชอบกินของเปรี้ยวๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาเจออะไรที่ไม่ค่อยถูกปาก ฉันพอจะฝืนกินมันลงไปเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองแต่ตอนนี้ แค่คำเดียวก็ไม่สามารถฝืนได้"โอเค"ฟู่ฉีชวนไม่ได้พูดอะไร

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 6

    ฉันรู้สึกเหมือนตกลงไปในเหวที่เย็นเฉียบเลือดในร่างกายแทบจะหยุดแข็งมีวินาทีหนึ่งที่ฉันสงสัยว่า ตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่าฉันเคยสงสัยว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่ทุกครั้งก็ถูกปฏิเสธกลับอย่างชัดเจนแม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่ถ้าพูดออกไป คนหนึ่งคือคุณชายตระกูลฟู่ อีกคนคือคุณหนูตระกูลฟู่ ยังไงก็ถือว่าเป็นพี่น้องกันอยู่ดียิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งสองคนต่างก็แต่งงานแล้วฟู่ฉีชวนเป็นคนที่เพียบพร้อมขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้แต่ทว่า ไม่ไกลจากตรงนั้น ฟู่ฉีชวนที่มีดวงตาแดงก่ำกดฟู่จินอันไว้กับผนัง พูดเสียงเย้ยหยันและเย็นชาออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน"จะหย่าเพราะฉันอย่างนั้นเหรอ? ตอนแรกคนที่เลือกจะแต่งงานกับคนอื่นก็คือตัวเธอเอง ตอนนี้เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน?!""ฉัน..."คำถามที่มารัวๆ ทำให้ฟู่จินอันพูดไม่ออก น้ำตาไหลราวกับหยาดน้ำค้างที่หล่นลงมาไม่หยุด มือทั้งสองข้างจับชายเสื้อของฟู่ฉีชวนไว้อย่างไร้หนทาง"ฉันผิดไปแล้ว อาชวน ยกโทษให้ฉันสักครั้งได้ไหม? แค่ครั้งเดียว และตอนนั้นฉันก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ...""ฉันแต่งงานแล้ว""แต่งงานแล้วมันหย่าไ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 7

    ฟู่ฉีชวนดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรฉันเม้มริมฝีปากเบาๆ แล้วพูดเสียงแผ่วว่า "แล้วคืนแต่งงานล่ะ เพราะอะไร?"ยังคงจำได้ลางๆ ว่าคืนนั้นฉันนั่งรออยู่ที่ระเบียงทั้งคืนคืนแต่งงาน เขาทิ้งภรรยาที่เพิ่งแต่งงานแล้วออกไปโดยไม่สนใจใยดีฉันคิดว่าคงเป็นเรื่องใหญ่โต เป็นห่วงความปลอดภัยของเขา อีกทั้งยังคิดฟุ้งซ่านว่าตัวเองทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า แต่ก็ยังคาดหวังว่าเขาจะกลับบ้านเร็วๆตอนนั้นฉันเพิ่งอายุยี่สิบสามปี บังเอิญได้แต่งงานกับคนที่แอบชอบมานานหลายปีจะไม่คาดหวังอะไรกับการแต่งงานและเขาได้อย่างไรแต่จนถึงวันนี้ ฉันถึงได้รู้ว่า ตอนที่ฉันนั่งรอเขากลับบ้านด้วยความหวังเต็มหัวใจ เขากลับไปอยู่กับผู้หญิงอีกคนทั้งหมดนี้ ช่างเหมือนกับเรื่องตลกเรื่องหนึ่งจริงๆตอนนี้ฟู่ฉีชวนไม่ได้ปิดบังฉันอีกแล้ว น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ "คืนนั้นเธอไปแข่งรถกับคนอื่นแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ตำรวจจึงแจ้งให้ฉันไปรับ"ช่างบังเอิญจริงๆในวันแต่งงานของฉันกับฟู่ฉีชวน เธอกลับเกิดอุบัติเหตุขึ้นในช่วงดึกแต่ฉันจำได้ว่าในงานเลี้ยงที่บ้านหลังงานแต่งเพียงไม่กี่วัน เธอก็อยู่ในงาน ทั้งยังไม่มีร่องรอยบาดเจ็บเลยสักนิดฉันล

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 8

    ฉันไม่อยากเข้าใจในทันที แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเข้าใจเจียงไหลหัวเราะเบาๆ แล้วพูดวิจารณ์ว่า "ก็แค่ทั่วไปนั่นแหละ""..."ฉันมองเธอด้วยความประหลาดใจ ส่งสายตาเป็นคำถาม ???"เคยนอนด้วยครั้งหนึ่ง ประสบการณ์แย่มาก"เจียงไหลรีวิวอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าเฮ่อถิงจะอยู่ด้วยเฮ่อถิงโวยวาย "นั่นมันครั้งแรกของฉัน เธอจะไปรู้อะไร!""หยุด หยุด หยุด ฉันไม่ขอรับผิดชอบเรื่องนี้ นายเป็นคนเจ้าชู้ อย่ามาพูดถึงเรื่องครั้งแรกกับฉันเลย อย่างน้อยๆ ครั้งแรกของนายก็น่าจะเป็นกับมันหรือมันต่างหาก" เจียงไหลพูดขัดแล้วชี้ไปที่มือซ้ายและขวาของเขาฉันมองเฮ่อถิงที่ปกติมักจะทำตัวไม่จริงจัง แต่เมื่อเจียงไหลพูดแบบนี้ เขาก็หน้าแดงขึ้นมา และในที่สุดฉันก็เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันคือความสัมพันธ์แบบคืนเดียวเฮ่อถิงน่าจะกำลังตามจีบเจียงไหลเจียงไหลไม่สนใจเฮ่อถิงอีกต่อไป จูงมือฉันเดินไปที่ห้องวีไอพี "มีรุ่นพี่คนหนึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เฮ่อถิงกับพวกเขาจัดงานเลี้ยงให้ แล้วชวนฉันมาร่วมสนุก""รุ่นพี่คนไหนเหรอ?" ฉันถามเบาๆ"เธอน่าจะรู้จักนะ ก็คือ..."เจียงไหลพูดขณะเปิดประตูห้องวีไอพีในห้องวีไอพีมีผู้ชายหลายคนนั่งอยู่

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 9

    ทุกการกระทำเหล่านั้นเหมือนตบหน้าฉันอย่างแรงรู้สึกเจ็บไปจนถึงกระดูกฉันเคยจินตนาการถึงฉากแบบนี้หลายครั้งหลายครามองไปมองมา แม้ฉันจะอยู่ในบ้าน แต่กลับรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว"หนานจือ ตื่นแล้วเหรอ?"ฟู่จินอันหันมาเห็นฉัน แล้วยิ้มทักทาย "มาลองชิมฝีมือการทำอาหารของอาชวนสิ รับรองว่าอร่อย"พูดจบ เธอก็ยกอาหารไปที่โต๊ะเหมือนเป็นนายหญิงของบ้านฉันสูดหายใจลึกๆ แล้วมองข้ามเธอไปถามฟู่ฉีชวนตรงๆ "ทำไมเธอถึงมาที่บ้าน?"ฟู่ฉีชวนตักอาหารจานสุดท้ายใส่จานแล้วถอดผ้ากันเปื้อนออก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เธอจะออกไปหลังจากกินอาหารมื้อนี้เสร็จ""คุณไม่มีหัวใจเลยหรือไง? จะไล่ฉันจริงๆ เหรอ?" ฟู่จินอันถลึงตาใส่เขา"ฟู่จินอัน พอแค่นี้เถอะ! อย่าสร้างปัญหาให้ฉันอีก" ฟู่ฉีชวนพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เหมือนความอดทนของเขาหมดลงแล้ว"ใจแคบจริง"ฟู่จินอันพึมพำแล้วดึงฉันไปที่โต๊ะอาหารราวกับว่าคนที่ร้องไห้ขอให้สามีฉันหย่ากับฉันเมื่อวานไม่ใช่เธอ คนที่พยายามหาทางพาสามีฉันออกจากบ้านไม่ใช่เธอฟู่ฉีชวนมีฝีมือทำอาหารมาก กับข้าวห้าอย่างกับซุปหนึ่งอย่าง หน้าตาน่ากินและมีกลิ่นหอมยวนใจถึงฉันไม่กิน แต่ลูกในท้องก็ต้องกินในเมื่อเธอ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 10

    วันครบรอบการจากไปของพ่อแม่ฉันก็ตรงกับวันเสาร์นี้พอดีช่วงเช้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เสร็จแล้วก็ไปเยี่ยมหลุมศพพ่อแม่ได้ไม่น่าจะใช้เวลามากนักแต่ไม่รู้ทำไม กลับรู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ ทำให้ฉันไม่กล้าพูดออกไปอย่างมั่นใจไม่สามารถบอกฟู่ฉีชวนไปเมื่อวานนี้ได้ว่าฉันตั้งครรภ์แล้วและไม่สามารถบอกเจียงไหลในตอนนี้อย่างมั่นใจได้ว่าจะพาฟู่ฉีชวนไปด้วยกลัวว่าแผนที่วางไว้จะตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ฉีชวนกับฟู่จินอัน สำหรับฉันแล้วมันเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดในทุกเมื่อเจียงไหลเห็นฉันไม่ค่อยมีอารมณ์สนใจนัก จึงเหลือบมองไปที่ออฟฟิศของฟู่จินอัน แล้วถามว่า "เรื่องนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์นั่น ฟู่ฉีชวนจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?""ก็คงประมาณนั้น"เราคุยกันอีกสักพัก จากนั้นเธอก็กลับไปแผนกการตลาดอย่างวางใจ…ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟู่จินอันเปลี่ยนนิสัยไปแล้ว หรือว่าจู่ๆ ก็คิดได้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา พวกเราอยู่กัยอย่างสงบสุขแต่เดิมฉันกังวลว่าการออกแบบรุ่นพิเศษสำหรับปีใหม่อาจจะติดขัดเพราะเธอ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นจนเข้าสู่ขั้นตอนการทำต้นแบบ"พวกเธอคิดว่าคนที่เพิ่งเข้ามามีความสัมพ

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 11

    ความหวังทั้งหมดดับวูบลงในทันที รู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัวหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง คงจะเป็นแบบนี้นี่เองฉันถือโทรศัพท์ไว้ในมือ แต่พูดอะไรไม่ออกอยู่นานอยากจะถามอะไรบางอย่าง แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่มีความหมายอะไรแล้วเขาไปที่ไหน มันชัดเจนอยู่แล้วฉันพูดกับเขาไว้แล้วว่าจะไม่มีครั้งหน้าดังนั้น นี่ก็แสดงว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วไม่ใช่หรือ?คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่มีใครไม่รู้จักการเลือกและการพิจารณาผลดีผลเสียหรอกฉันคือคนที่ถูกเขาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แล้วถูกทิ้งไปคนนั้นฉันยกมือขึ้นลูบท้องโดยไม่รู้ตัว และคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าควรจะเก็บเด็กคนนี้ไว้จริงๆ หรือถ้าหากฉันเก็บเด็กคนนี้ไว้ ต่อให้ฉันอยากตัดขาดกับเขา ก็ยากที่จะตัดขาดได้อย่างสมบูรณ์สิทธิในการเลี้ยงดูลูกก็คือปัญหาใหญ่ที่ปลายสาย เขาเรียกฉันเบาๆ "หนานจือ?""อืม"ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก หรืออาจจะบอกได้ว่า ในเวลานี้ ฉันไม่อยากพูดอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียวหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันขับรถไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองที่อยากให้เขามาด้วย เพราะตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ให้เขาทำไมต้องลำบากคุณป้าหลิวด้วย ฉันยังไม่ได้ท้องโตจนขยับตัวลำบากสักหน่อยบางทีเพราะในใจสับสนวุ่นวายมาก รถค

    Last Updated : 2024-09-27
  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 12

    ครั้งที่สามแล้วสามครั้งที่ฉันพยายามจะบอกเขา แต่เขากลับปฏิเสธทุกครั้งคิดๆ ดูแล้ว ก็คงไม่มีวาสนากันมั้งฉันก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้บอกเขา แบบนี้จะได้หย่ากันได้อย่างง่ายมากขึ้นเมืองเจียงเฉิงใหญ่ขนาดนี้ หย่ากันแล้วคงยากที่จะเจอกันอีกบางทีตลอดชีวิตนี้เขาอาจจะไม่มีวันรู้ว่าเรามีลูกด้วยกันคนหนึ่งก็ได้เจียงไหลฟังความคิดของฉันแล้วก็เห็นด้วย "ลูกคงไม่อยากมีพ่อที่แย่แบบนี้หรอก ไม่บอกเขาก็ดีแล้ว"ตอนที่ให้น้ำเกลือเสร็จและเดินออกจากโรงพยาบาล ก็เพิ่งบ่ายสองกว่าๆเจียงไหลควงแขนฉันเดินไปที่ลานจอดรถ ขณะเดินไปก็พูดว่า "รถของเธอส่งไปซ่อมที่ศูนย์แล้ว ชนค่อนข้างหนักต้องใช้เวลาซ่อมประมาณหนึ่งอาทิตย์ รอซ่อมเสร็จแล้วฉันจะไปเอารถกับเธอเอง ช่วงนี้ถ้าอยากไปไหนก็แค่โทรหาฉัน คนขับรถเสี่ยวเจียงคนนี้จะมาบริการเธอทันที""..."ฉันหัวเราะทั้งน้ำตา "เธอจะคอยอยู่ใกล้ๆ ฉันตลอดเวลาเลยหรือไง ไม่ทำงานแล้วเหรอ? ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันยังมีรถอีกคัน"ฟู่ฉีชวนอาจไม่เคยให้ความรักอะไรกับฉัน แต่ทั้งบ้าน รถ และเงิน ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกขาดอะไรเลยแต่เขาไม่รู้เลยว่า สิ่งเดียวที่ฉันต้องการก็คือความรัก"หมอบอกแล้วว่าเธอต้องกลับบ้านไปพักผ

    Last Updated : 2024-09-27

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 204

    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับเศรษฐีรุ่นสองที่พูดเรื่องเงินตลอดเวลา"ช่างมันเถอะ ฉันจะไปถามคนอื่น"ทันทีที่ฉันพูดจบ ฉันก็ก้าวเดินเข้าไปข้างในฉันเพิ่งกลับมาถึง เจียงไหลก็ก้าวออกมาจากห้องส่วนตัว ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดจากการร้องไห้ “กลับบ้านกันเถอะ”"ทุกอย่างเรียบร้อยไหม?"ฉันหยิบเสื้อคลุมจากมือของเธอแล้วพาดไว้บนไหล่ของเธอเธอสูดหายใจและดวงตาของเธอแจ่มใส "อืม จากนี้ไป ไม่ว่าเขาจะแต่งงานหรือไม่ก็ตาม มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉันก็ชื่นชมความเด็ดขาดของเธอ ความสามารถในการปล่อยวางอย่างหมดจดของเธอขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน เจียงไหลกำลังรับผิดชอบการขับรถอยู่ ทันใดนั้น ฉันก็ได้รับสายจากลู่สือเยี่ยนหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นและถามว่า "หนานจือ คุณคือคนที่อยู่กับโจวฟางเมื่อกี้ใช่ไหม?"ฉันตกใจไปครู่หนึ่ง แต่ฉันไม่ได้โกหกเขา "ใช่ ฉันเอง... คุณรู้ได้ยังไง"โจวฟางปิดบังฉันไว้อย่างมิดชิดแม้แต่ฟู่ฉีชวนก็ถามแค่เรื่องรองเท้าเท่านั้นและถึงอย่างนั้น น้ำเสียงของเขาก็ยังไม่แน่ใจแต่ลู่สือเยี่ยนเดาได้จริงๆ ว่าเป็นฉันทางโทรศัพท์ ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นค

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 203

    ดูเหมือนว่าคนที่ตกลงกับฉันเมื่อวานไม่ใช่เขาฉันโกรธ และพูดไม่ออก "คุณไม่ได้สัญญากับฉันว่าจะไม่บอกใครหรอกเหรอ?""?"โจวฟางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "สิ่งที่ฉันสัญญากับคุณคือจะไม่บอกใครว่าคุณกำลังแอบดูและยังบันทึกวิดีโอด้วย""..."ไม่เป็นไรตามตรรกะนั้น เขาก็ไม่ได้ผิดเลย ดังนั้นเป็นความผิดของฉันที่ไม่อธิบายตัวเองให้ชัดเจนงั้นเหรอ?"คุณมีความแค้นต่อตระกูลฟู่หรือเปล่า?""ก็ไม่หนิ"โจวฟางมองฉันด้วยความสับสนแล้วพูดว่า "คุณไม่เข้าใจสงครามธุรกิจที่โหดร้ายเหรอ หลังจากติดตามฟู่ฉีชวนมาสามปี เขาก็ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้คุณเลยเหรอ?"ฉันอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะความตรงไปตรงมาของเขาช่างน่ากลัว และยังเป็นเพราะคำถามที่สองของเขาด้วยฉันบีบฝ่ามือแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ไม่"หลังจากติดตามฟู่ฉีชวนมาสามปี เขาสอนอะไรฉันบ้าง? ความเป็นอิสระ ความอดทน ความอดกลั้น และความทุ่มเท....นอกจากการรักษาระยะห่างอย่างสุภาพแล้ว เราไม่เคยมีบทสนทนาที่จริงจังเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกลอุบายของโลกธุรกิจคราวนี้ถึงคราวของโจวฟางที่ต้องตกตะลึง เขายกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจและพูดว่า "คุณน่าสนใจเลยทีเดียว""คุณก็น่าสนใจเหมื

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 202

    ขอร้องเขาเหรอ?หัวเขากระแทกประตูหรือไง!ฉันปล่อยมือเขา ไม่สนใจอีกต่อไปว่าฟู่ฉีชวนหรือลู่สือเยี่ยนจะเห็นฉันหรือไม่ ฉันยอมแพ้และหันหลังเดินจากไปทันใดนั้น ดวงตาของฉันก็มืดลง เสื้อคลุมยาวของผู้ชายพร้อมฮู้ดถูกสวมทับตัวฉัน และฉันถูกนำทางอย่างชาญฉลาดกลับไปที่ราวบันได เพื่อหลีกเลี่ยงการมองเห็นโดยคนสองคนนั้นกลิ่นมิ้นต์สดชื่นลอยเข้าจมูกของฉันฉันค่อนข้างเข้ากันได้กับโจวฟางฝีเท้าของฟู่ฉีชวนดูเหมือนจะหยุดชะงักชั่วขณะ และฉันได้ยินเสียงที่ไม่สุภาพของโจวฟาง "ประธานฟู่ สนใจเรื่องส่วนตัวระหว่างคู่รักหนุ่มสาวมาก"ฟู่ฉีชวนดูเหมือนจะกำลังพินิจพิเคราะห์ เสียงของเขาทุ้มและอ่อนโยน "รองเท้าของแฟนคุณ ภรรยาของฉันดูเหมือนจะมีคู่เดียวกัน"หัวใจของฉันเต้นแรงนี่เป็นรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์หนึ่ง ในเมืองเจียงเฉิงมีเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น ซึ่งสามารถนับได้ด้วยมือเดียวแม้ว่าฉันจะไม่ได้แอบฟังความลับใดๆ เลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปอย่างเปิดเผย แต่ตอนนี้ที่โจวฟางเล่นกับฉันแบบนี้ ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อยฉันไม่กล้าขยับเลย"งั้นเหรอ?"โจวฟางหัวเราะเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าประธานฟู่จะไม่ค่อยสนใจภรรยาคน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 201

    ฉันอิ่มแล้ว ฉันเลยวางตะเกียบลงแล้วพูดว่า "เธอตกลงที่จะพบเขาเหรอ?"“ใช่ ฉันตกลง”เจียงไหลช่วยฉันเก็บกล่องอาหารเดลิเวอรี่ “วันก่อนเขายังไม่โตเลย เขาไม่ฟังคำพูดของฉัน บางอย่างก็อธิบายทางโทรศัพท์ได้ยาก ฉันเลยคิดว่าจะพบเขาอีกครั้งแล้วค่อยเคลียร์กันให้เรียบร้อย”ฉันพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันสนับสนุนเธอ”"คุณจะไปกับฉันไหม?""ไปสิ"ฉันยิ้มและพูดเล่น: "ถ้าฉันไม่ไป แล้วถ้าเขามัดคุณแล้วขายคุณล่ะ"สถานที่ที่พวกเขานัดกันไว้ยังคงเป็นคลับเฮาส์เจียงไหลพาฉันเข้าไปในห้องส่วนตัวอย่างสบายๆ หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉันก็พูดว่า "เธอเข้าไปเถอะ ถ้าฉันอยู่ด้วย เธอจะพูดอะไรไม่ได้ ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้เลย ฉันจะเข้าไปทันที""โอเค"เจียงไหลพยักหน้าและผลักประตูเปิดออกฉันยืนอยู่หน้าประตู มองดูพนักงานเสิร์ฟถือจานผลไม้และจานเดินไปมา ฉันรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในที่ที่ดีนัก จึงเดินช้าๆ ไปที่สวนลอยฟ้าใกล้ๆเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ค่ำคืนในเมืองเจียงเฉิงจะชื้นและหนาวเย็นอย่างไรก็ตาม คลับเฮาส์แห่งนี้ได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการออกแบบสวนลอยฟ้าที่สวยงามและหรูหราสวนหินไหลด้วยน้ำที่ไหลเอื่อยๆ และมีพืชหายากมากมายในฤดูใบไม้ร่วงแล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 200

    เจียงไหลจ้องมองอย่างว่างเปล่า"ไม่ได้งั้นเหรอ?""เป็นแบบนั้นนั่นแหละ"ฉันไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะโน้มน้าวชายคนนั้นให้ไปเอาใบหย่ามาได้เจียงไหลเห็นว่าฉันอารมณ์ไม่ดี เธอก็ปลอบใจฉัน: "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งมีเจตนาที่จะจากไป มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น นอกจากนี้ คุณได้บรรลุข้อตกลงในทุกสิ่งแล้ว ยกเว้นใบหย่า มันก็ถือว่าคุณหย่าแล้ว"ฉันยิ้มและคุยกับเธอสักพัก จากนั้นการสนทนาก็เปลี่ยนไป “แล้วเธอล่ะ เฮ่อถิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาเธอเหรอ?”ตอนที่เราย้ายบ้าน เฮ่อถิงช่วยเราย้ายบ้าน พูดถึงเรื่องนี้ พอนึกดูดีๆ ฉันยังติดเลี้ยงข้าวเขาอยู่เลยเขาคงยังจำที่อยู่นี้ได้ถึงแม้จะไม่รู้ แค่ถามฟู่ฉีชวนก็คงรู้แล้วเจียงไหลลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเธอแผ่วเบา "ไม่ เขาไม่กล้ามาบ้านคุณหรอก""ทำไมล่ะ?""เขากลัวฟู่ฉีชวนที่สุด""......"……ต่อมา ฉันไม่อยากทำอาหาร แต่ทักษะการทำอาหารของเจียงไหลน่าประทับใจมาก ฉันเลยสั่งอาหารเดลิเวอรี่แทนเจียงไหลกินข้าวและคุยเล่นในขณะที่ปัดโทรศัพท์เป็นครั้งคราวทันใดนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าตะลึงงันว่า “โอ้พระเจ้า แม่ลูกคู่นั้นทะเลาะกันที

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 199

    เวินฟางถูกผลักออกไปอย่างไม่ทันระวังตัวและล้มลงบนพื้น เบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดขณะมองฟู่จินอันด้วยความไม่เชื่อ "ฟู่จินอัน... แกผลักฉันงั้นเหรอ? ตั้งแต่แกยังเด็ก ฉันหาอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่ดีที่สุดแก่แกเสมอมา นี่คือวิธีที่แกตอบแทนตอนนี้เหรอ?""ถ้าแม่ดีกับฉันจริงๆ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นตอนนี้!”ฟู่จินอันดูขุ่นเคืองและนั่งยองๆ ลงไปจับผมของเธอ เรียกร้องทีละคำ "ถ้าต้องการอะไร ก็คว้ามันมาด้วยตัวเอง แม่ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้ฉันเองหรอกเหรอ? ทำไมคุณถึงตำหนิฉันที่ทำแบบนี้ แม่... ฉันไม่เชื่อฟังแม่เหรอ?""...ไม่ใช่"เวินฟางตกตะลึง สับสนระหว่างความเกลียดชังและความเสียใจ "ฉันไม่เคยสอนเธอเรื่องนี้เลย… ไม่เคยเลย ไม่แม้แต่ครั้งเดียว!"“ฉันไม่เคย… ฉันไม่เคยสอนแกแบบนั้น… มันไม่จริง!!”ยิ่งเธอพูด เธอก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น ทันใดนั้น เธอก็ลุกขึ้นและวิ่งออกไปพร้อมกับเถียงตัวเอง พูดจาไม่รู้เรื่องฟู่จินอันมองไปทางที่เธอจากไปและจู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา จากนั้นก็มองมาที่ฉันด้วยความเกลียดชัง "แกพอใจไหม? แกภูมิใจไหมที่เห็นพวกเราแม่ลูกเป็นแบบนี้""ก็เฉยๆ"ฉันพูดเบาๆไม่ได้น่าพอใจจริงๆ ฉันแค่รู้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 198

    เวินฟางเสียสติและกดดูวิดีโอทันทีโดยไม่สนใจเสียงที่เร่าร้อนและคลุมเครือที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ของเธอฟู่จินอันก็มองดูการค้นหาที่ร้อนแรงอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน และตอนนี้ที่เธอได้ยินเสียงนี้ เธอก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น และเสียงของเธอก็สั่นเทา "แม่....""เพี้ยะ!"เวินฟางตบเธออย่างแรง ตาของเธอแดงก่ำ และสาปแช่งด้วยความโกรธ "แม่เหรอ? แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าแม่อีกเหรอ! ฟู่เหวินไห่เป็นพ่อเลี้ยงของแก แกเข้าใจไหม? แกอ้าขาให้พ่อเลี้ยงของแกเหรอ?"เธอเคยปกป้องและตามใจฟู่จินอันมาก แต่ตอนนี้เธอเกลียดอีกฝ่ายอย่างมากความรู้สึกที่ถูกแทงข้างหลังโดยคนที่สนิทที่สุดย่อมเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนที่เธอถูกหลินเนี่ยนทรยศมากฟู่จินอันไม่สนใจแม้แต่ความเจ็บปวดจากการตบ เธอทรุดตัวลงคุกเข่าทันทีพร้อมกับเสียงดัง “แม่… ไม่ใช่ฉัน… มันไม่จริง!”"แกกำลังบอกฉันว่าวิดีโอนี้และทุกสิ่งในอินเตอร์เน็ตเป็นของปลอมเหรอ?!"เวินฟางโกรธจัด ตาของเธอโปนด้วยความโกรธ ถ่มน้ำลายขณะที่เธอตะโกนใส่ฟู่จินอันเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป และฟู่จินอันก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ เธอใช้เวลานานมากในการหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง น้ำตาไหลนองหน้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 197

    "โอ้"ฉันพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ยิ้มขณะที่ถามคำถามโหดร้าย: “แล้วถ้าเธอเอาของที่เป็นของคุณไปล่ะ?”เมื่อถูกถาม เวินฟางยังคงไม่รู้ตัว แต่ฟู่จินอันมีความรู้สึกผิดขึ้นมาสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปมาก เธอปกปิดความตื่นตระหนกและพูดอย่างจริงจัง: "หร่วนหนานจือ เธอกำลังทำอะไร? ตอนนี้เธอไม่ได้แค่พยายามขโมยอาชวน เธอกำลังพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างฉันกับแม่ด้วยเหรอ?""แม่ ไปกันเถอะ"เธอพูดพร้อมกับดึงเวินฟางและอยากจะจากไป กลัวว่าฉันจะพูดอะไรอีกเวินฟางปฏิเสธและปกป้องฟู่จินอันไว้ข้างหลังเธอ เหยียดหลังตรงด้วยความดูถูกและเหยียดหยามในดวงตาของเธอ"จินอันพูดถูก อย่าพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างเราแม่ลูก ฉันรู้ว่าเธอเติบโตมาโดยไม่มีพ่อหรือแม่ แม้ว่าเหวินไห่และฉันจะแต่งงานกันครั้งที่สอง แต่เขาก็รักจินอันเสมอมาเหมือนกับว่าเธอเป็นลูกของเขาเอง จินอันมีครอบครัวที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรักมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ลึกๆ แล้ว เธอคงอิจฉาลูกฉันมากใช่มั้ยล่ะ?"“ใช่แล้ว”ฉันพยักหน้าอย่างไม่ยอมรับความจริงและพูดอย่างมีความหมายว่า "พ่อตาของฉันรักฟู่จินอันมาก"ขณะที่ฉันพูด ฉันมองไปที่ฟู่จินอันอย่างใจเย็น พร้อมยิ้มอ่อน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 196

    ถ้าเป็นตามปกติ ฉันคงรู้สึกโกรธแต่ตอนนี้ ฉันพบว่าการปรากฏตัวของพวกเขาตลกมาก และมันยังช่วยคลายความหงุดหงิดของฉันไปได้มากฉันยิ้มเบาๆ และพูดสองคำออกไป: “ไม่ได้หย่า”รอยยิ้มของพวกเขาชะงักในทันที แต่ฟู่จินอันไม่เชื่อและเยาะเย้ย "จะเป็นไปได้ยังไง? อาชวนแจ้งอำเภอโดยเฉพาะและยืนกรานที่จะขอใบหย่าจากเธอทันที หร่วนหนานจือ อย่าดื้อรั้น มันเป็นแค่การหย่าร้าง ไม่มีอะไรน่าละอาย"ฉันยักไหล่และพูดอย่างตั้งใจว่า "งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ บางทีพวกเขาอาจทนไม่ได้ที่จะแยกทางกับฉันอีกครั้งก็ได้นะ ท้ายที่สุดแล้ว ความเมตตาของคู่รักก็อยู่ได้เป็นร้อยวัน และไม่ใช่ทุกคนจะเทียบได้"“หร่วนหนานจือ ความไร้ยางอายของเธอนี่มัน…”ฟู่จินอันจ้องมองฉันด้วยความเกลียดชังราวกับว่าเธอต้องการถลกหนังฉันให้ตายทั้งเป็น เวินฟางหยุดเธอด้วยมือและขัดจังหวะ "ลูกอายุสามสิบปีแล้ว ลูกยังปล่อยให้เธอปั่นหัวง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง?"จากนั้นก็หันมามองฉันอย่างไม่รีบร้อนและพูด: "เธอพูดความจริงงั้นเหรอ?"“ทำไมคุณไม่ถามเขาเองล่ะ?”มันเป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆ แต่เธอกลับเข้าไปถามจริงๆเธอเดินเข้าไปในสำนักงานด้วยความมั่นใจ “ฉันเป็นแม่ของฟู่ฉีชวน”ห

DMCA.com Protection Status