Share

บทที่ 4

เขาแทบจะตอบรับในทันที

ไม่ลังเลหรือครุ่นคิดสักนิด

ฉันโอบรอบคอของเขา ริมฝีปากทั้งสองด้านยกยิ้ม จับจ้องไปที่เขาไม่วางสายตา "สิบเปอร์เซ็น คุณไม่เสียดายหรอ?"

แววตาของเขาบริสุทธิ์ "ก็ให้คุณ ไม่ได้ให้คนอื่นสักหน่อย"

วินาทีนี้

ฉันต้องยอมรับเลยว่า เงินเป็นสิ่งที่จะใช้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ได้ดีมาก

อารมณ์ที่ฝืนกดมันเอาไว้ตลอดช่วงบ่าย ในที่สุดก็ได้รับการปลอดล็อค

ฉันถามยิ้มๆ ราวกับอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง "แล้วถ้าเป็นพี่จินอัน คุณจะให้เธอหรือเปล่า?"

เขาเงียบไปชั่วอึดใจ แล้วให้คำตอบที่แน่ชัด "ไม่ให้"

"จริงหรอ?"

"อืม ที่ผมจะให้เธอได้ ก็มีแค่ตำแหน่งนั้น"

ฟู่ฉีชวนดึงฉันเข้าสู่อ้อมกอด น้ำเสียงอันอบอุ่นและมุ่งมั่นดังอยู่เหนือศีรษะของฉัน "หนังสือสัญญาโอนหุ้น ตอนบ่ายผมจะให้ฉินเจ๋อส่งมา นับจากวันนี้ไป คุณก็คือหนึ่งในเจ้าของของแซ่ฟู่กรุ๊ป ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นแค่ลูกน้องที่ทำงานให้คุณ"

"แล้วคุณล่ะ?"

ฉันอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ก็ถามเขายิ้มๆ

เขาเลิกคิ้ว "อะไร?"

"คุณก็ทำงานให้ฉันด้วยหรือเปล่า?"

"แน่นอน"

เขาหุบยิ้ม ลูบศีรษะของฉัน โน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหู พูดจาสองแง่สองง่าม "ผมให้บริการคุณได้ทั้งบนเตียงและหลังลงจากเตียง"

……

ฉันหน้าแดงฉ่า ถลึงตาใส่เขาทันที

เขาเป็นคนแบบนี้แหละ ดูภายนอกเคร่งขรึม เย็นชา สูงส่ง แต่บางครั้งก็หยอกเย้าออกมาบ้าง แกล้งให้ฉันอายหน้าแดงหูแดวง

เมื่อเห็นว่าฉันอารมณ์ดีขึ้น เขาก็ยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ "ผมต้องขึ้นไปประชุมแล้ว วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ตอนเย็นต้องกลับคฤหาสน์เก่าไปกินข้าวกับคุณปู่ ผมจะรอคุณที่ลานจอดรถนะ"

"รู้แล้วค่ะ"

แน่นอนว่าฉันไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย ก็ตัดสินใจออกมา "ที่รัก เย็นนี้ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้คุณด้วย"

หลายวันก่อน เรื่องที่เขาโกหกฉันเพราะสร้อยเส้นนั้น ทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าควรจะบอกเขาเรื่องที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า

ในเมื่อเขาแยกแยะความสำคัญระหว่างฉันกับฟู่จินอันได้ งั้นฉันก็ไม่ควรจะปิดบังอีกต่อไป

"เซอร์ไพรส์อะไร?" เขาเป็นคนขี้สงสัยมาก จึงอยากจะถามให้ลึกถึงตำตอซะเดี๋ยวนี้เลย

"เลิกงานแล้วจะบอกค่ะ รอฉันนะ!"

ฉันเขย่งปลายเท้าขึ้น ประทับจูบลงบนริมฝีปากของเขา จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก

หลังจากที่เขาออกไป จิตใจของฉันก็สงบลงโดยสมบูรณ์ จึงตั้งหน้าตั้งใจออกแบบร่าง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะขึ้นมาอีกครั้ง

ฉันไม่แม้แต่จะเงยหน้า "เข้ามา"

"หนานจือ คงไม่ได้รบกวนเธอหรอกนะ?" น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟังของฟู่จินอันลอยขึ้นมา

"ก็รบกวนอยู่ค่ะ" ฉันพูดตามความจริง

เวลาที่กำลังเร่งวาดแบบร่าง ฉันไม่ชอบให้ใครเข้ามาขัด

ฟู่จินอันมีสีหน้ากระอักกระอ่วนแวบนึง แล้วใช้ความกล้าพูดขึ้นมาอีก "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ แค่เพิ่งจะได้รู้มาเมื่อกี้ว่า ตำแหน่งผอ.ของแผนกดีไซนเดิมทีแล้วมันควรต้องเป็นของเธอ ฉันเผลอไปแย่งตำแหน่งที่เป็นของเธอเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เลยอยากจะมาขอโทษน่ะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

เมื่อกี้ฟู่ฉีชวนชดเชยให้เรียบร้อยแล้ว

หุ้นสิบเปอร์เซ็น ต่อให้ฉันนั่งตำแหน่งผอ.ทำงานไปแปดร้อยชาติ ก็ยังหาเงินมากขนาดนั้นไม่ได้

บางทีอาจะเป็นเพราะฉันแสดงออกถึงความชิลเกินไป หล่อนจึงประหลาดใจไม่น้อย

"ไม่เป็นไรจริงๆ หรอ? ถ้าเธอไม่สบายใจ ก็บอกฉัน ฉันเปลี่ยนแผนกได้ อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคือง" หล่อนเดินมานั่งลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้างด้วยท่าทางที่สงบเรียบร้อย

"พี่จินอัน ฉันไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร พี่ก็อยู่ที่แผนกดีไซน์ต่อไปเถอะ"

แล้วก็เลิกวุ่นวายไปทั่วสักที

ฉันกลัวว่าหุ้นยังไม่ทันจะถึงมือ บริษัทจะเจ๊งเพราะหล่อนซะก่อน

ถ้าอยู่ที่แผนกดีไซน์ ยังดีที่ฉันพอจะเอาอยู่

"งั้นก็ได้ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าเธอรู้สึกไม่ดีก็บอกฉัน อย่าเก็บเอาไว้ในใจ"

ฟู่จินอันวางท่าราวกับเป็นพี่สาวที่รู้ใจ ทัดผมยาวไว้หลังหูเสร็จ ก็พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนอีก "ถึงยังไงอาชวนก็บอกแล้ว ว่าตำแหน่งในบริษัทนี้ฉันจิ้มเอาได้เลย ฉันไม่ได้ทำงานมาหลายปี ไม่ว่าจะไปแผนกไหนมันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ"

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันเซ้นซิทีฟเกินไป

หรือเพราะอะไร

คำพูดนั้นพอฟังดูแล้ว รู้สึกไม่เข้าหูยังไงไม่รู้

ราวกับว่า หล่อนต่างหากที่เป็นคนสนิทชิดใกล้ที่สุดของฟู่ฉีชวน หล่อนต่างหากที่เป็นเมียเจ้าของบริษัทแซ่ฟู่กรุ๊ป

"ผอ.หร่วน"

ฉินเจ๋อเห็นว่าประตูเปิดค้างไว้อยู่ ก็เคาะประตูเป็นเชิงสัญลักษณ์ก่อนจะเดินเข้ามา แล้วส่งหนังสือสัญญาให้ฉัน "เอกสารมีทั้งหมดสองชุด คุณลองดูก่อนนะครับ ท่านประธานเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว คุณเซ็นเสร็จสามารถเก็บเอาไว้เองชุดนึงได้เลยครับ"

ฟู่ฉีชวนเป็นคนพูดจริงทำจริง

"โอเค"

ฉันพลิกดูหนังสือสัญญา อ่านคร่าวๆ รอบนึง ก็จรดปากกาเซ็นชื่อตัวเอง จากนั้นส่งกลับคืนให้ฉินเจ๋อชุดนึง แล้วยิ้มบางๆ ตามมารยาท "รบกวนด้วยนะ"

"นี่มันสัญญาโอนหุ้น?" ฟู่จินอันคล้ายๆ ว่าเหลือบอ่านหน้าปกของสัญญา

ในมุมที่ฉันมองไม่เห็น ท่าทางสง่างาม สงบเรียบร้อยของหล่อนได้พังทลายลง เล็บแหลมคมฝังเข้าไปในฝ่ามือ

ฉินเจ๋อจึงหันไปมอง พร้อมกับประหลาดใจไม่น้อย "ผอ.ฟู่ก็อยู่ด้วยหรอครับ? งั้นพวกคุณคุยกันต่อเถอะครับ ผมขอตัวขึ้นไปรายงานท่านประธานก่อน"

เขาไม่ได้ตอบคำถามของฟู่จินอันแต่อย่างใด

ทว่าเผ่นแน่บออกไป

ในแววตาของฟู่จินอันแฝงไว้ด้วยความเหลือเชื่อ "อาชวนแบ่งหุ้นให้เธอ?"

"ไม่ว่าจะยังไง เรื่องแบบนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องรายงานให้ผอ.ฟู่ทราบมั้งคะ?"

หลังจากประเด็นเรื่องสร้อยคอ ฉันก็อธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงกับหล่อน

เอาเป็นว่า ฉันไม่สามารถทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเมื่อก่อนได้อีก

"หนานจือ ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอไม่ค่อยชอบฉันเลยล่ะ..."

ฟู่จินอันลุกขึ้นด้วยสีหน้าจนปัญญา "ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องสร้อย หรือเรื่องตำแหน่งในครั้งนี้ ที่ทำให้เธอรู้สึกแย่กับฉัน แต่ขอให้เธอเชื่อ ว่าฉันไม่เคยคิดที่จะแย่งของพวกนี้ไปจากมือเธอเลย"

"ของพวกนี้น่ะ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก" หล่อนพูด

ฉันมองดูท่าทางตรงไปตรงมาของหล่อน ภายในใจก็รู้สึกว้าวุ่น

……

ตกเย็น ฉันขุดเอาที่ทดสอบครรภ์ที่ฝังเอาไว้ในเค้กออกมา แล้วใส่ไว้ในกระเป๋า

ตั้งใจว่าทันทีที่ลงไปก็จะบอกฟู่ฉีชวน ว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว

ฉันกับเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน

พอคิดถึงปฏิกิริยาของเขา คิดว่าในท้องของฉันมีอีกหนึ่งชีวิตเล็กๆ ฝีเท้าของฉันที่กำลังก้าวอยู่ก็เบาลงหลายเท่า

แล้วก็ยิ่งอยากจะแชร์เซอร์ไพรส์นี้ให้เขาฟังจนรอไม่ไหวแล้ว

ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมายังชั้นจอดรถ ฉันหารถมายบัคสีดำคันนั้นเจอได้อย่างง่ายดาย

ร่างกายสูงใหญ่ของฟู่ฉีชวนกำลังยืนพิงกับรถ รอฉันอย่างใจเย็น

ฉันโถมเข้าอ้อมกอดของเขา ทุกลมหายใจที่สูดเข้าไปล้วนเป็นกลิ่นหอมเย็นของวูดดี้ "ที่รัก! ไม่ได้รอนานใช่ไหม?"

"อืม"

เขาไม่ได้กอดฉันเหมือนอย่างที่ทำในยามปกติ แต่กลับดันฉันออกด้วยความอึดอัด "ขึ้นรถก่อนเถอะ"

"เดี๋ยว ฉันจะบอกคุณก่อน ว่าเซอร์ไพรส์นั้นคืออะไร" ฉันดึงเขาเอาไว้

"คืออะไร?"

ปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อเรื่องนี้ ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนเมื่อตอนบ่ายที่อยู่ในห้องทำงาน ท่าทางของเขาดูเหม่อลอย

ฉันขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จ้องดวงตาสีดำราวกับหมึกของเขา แล้วพูดด้วยความจริงจัง "ฉีชวน คุณกำลังจะได้เป็น..."

"อาชวน ทำไมพวกเธอยังไม่ขึ้นรถกันอีก?"

จู่ๆ กระจกฝั่งเบาะข้างคนขับก็ถูกลดลง น้ำเสียงเร่งเร้าขัดจังหวะฉันในทันที

มุมที่ฉันยืน ประสานสายตาเข้ากับฟู่จินอันที่นั่งอยู่ในรถได้พอดี

ฉันหันไปหาฟู่ฉีชวนด้วยความตกตะลึง ต้องการคำอธิบายจากเขา

ทว่าฟู่จินอันไวกว่า หล่อนพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "หนานจือ รถของฉันส่งซ่อมน่ะ ยังไงทุกคนก็จะกลับคฤหาสน์เก่ากันพอดี ฉันเลยหน้าด้านขอเกาะรถของอาชวนมาด้วย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เธอคงไม่ใส่ใจหรอกใช่ไหม?"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status