Share

บทที่ 904

Author: จูน
last update Last Updated: 2023-06-11 19:00:01
ซูยี่ยกมือขึ้น และเรียกคนหลายคนเข้ามาช่วยเปิดกล่อง

เมื่อกล่องทั้งหมดถูกเปิดออก และวางไว้ตรงหน้าอวี่เหวินห่าว อวี่เหวินห่าวก็ปิดปากของเขาและอุทานตกใจออกมา "โอ้สวรรค์!"

"สวรรค์!" ถังหยางและซูยี่อดไม่ได้ที่จะอุทาน ถังหยางที่เป็นคนควบคุมตัวเองได้ดี เขายังอดอุทานออกมาไม่ได้

ใครจะคิดว่าราชวงศ์ในปัจจุบัน ไท่ซ่างหวงในตอนนี้จะทำเรื่องธรรมดาที่ดูอลังการจนน่าเกลียดได้ถึงเพียงนี้?

ในบรรดากล่องทั้งสามสิบกล่อง ยี่สิบเจ็ดกล่องเป็นทองคำสีทองอร่ามทั้งหมด

"พระองค์ไปปล้นทองคำในท้องพระคลังมาหรือ?" อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความตกใจ จากนั้นพูดกับถังหยางด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา "เร็วเข้า นับเร็วว่ามีเท่าไหร่"

ถังหยางหยิบรายการของรางวัลออกมาจากข้างในและพูดว่า "ท่านอ๋อง มันมีเขียนไว้ที่นี่ หนึ่งแสนตำลึงทอง"

อวี่เหวินห่าวยกนิ้วนับ "ทองหนึ่งตำลึงเท่ากับสิบตำลึงเงิน หนึ่งตำลึงเงินเท่ากับสิบกว้าน สิบกว้านเท่ากับหนึ่งเหรียญ นี่มันเท่าไหร่?"

ซูยี่มองเขาอย่างตรงไปตรงมา "ท่านอ๋อง มันเป็นทองคำหนึ่งแสนตำลึง หากอยากจะเปลี่ยนเป็นเงิน มันจะเป็นเงินหนึ่งล้านตำลึง"

"สวรรค์ พวกเขาเกิดมาก็รวยแล้ว?" อวี่เหวินห่าวนั่งลงบนเก้าอ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 905

    เงินในท้องพระคลังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างส่งเดช และเงินจากในวังไม่สามารถใช้แบบสุ่มสี่สุ่มห้า“ไม่รู้สิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน” อวี่เหวินห่าวกล่าวทองหนึ่งแสนตำลึง นั่นคือเงินหนึ่งล้านตำลึง จู่ ๆ หยวนชิงหลิงก็รู้สึกว่าตัวเองร่ำรวยขึ้นมานางเริ่มคิดว่าตอนนี้เงินนั้นเพียงพอแล้ว หลังจากอยู่เดือนครบแล้ว นางควรเตรียมตัวสำหรับโรงเรียนแพทย์“ว่าแต่ เรื่องตั้งชื่อเล่า” หยวนชิงหลิงถาม"ยังไม่ได้ตั้ง" อวี่เหวินห่าวก็เศร้าเช่นกัน "ชักช้ามากนัก ปกติแล้วกรมพิธีการน่าจะร่างชื่อไว้แต่เนิ่น แล้วส่งไปให้เสด็จปู่เลือก พวกเขาเกิดมาได้หนึ่งวันแล้ว ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลย”หยวนชิงหลิงขยับตัวเล็กน้อย เท้าของนางกลับรู้สึกเจ็บขึ้นมา อวี่เหวินห่าวรีบนวดนาง เจ้าอาวาสบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า หลังคลอดลูกต้องนวดขา"ทำไมเราไม่คิดชื่อเล่นก่อนล่ะ" หยวนชิงหลิงกล่าวอวี่เหวินห่าวเห็นด้วย แต่นึกคิดอะไรแบบนี้ออกจะเกินตัวไปหน่อยการคิดชื่อนั้นยากพอ ๆ กับการเขียนบทกวีอวี่เหวินห่าวมองไปที่นางและพูดเบา ๆ "เจ้าให้กำเนิดลูกผ่านความยากลำบากนับไม่ถ้วน ข้าให้สิทธิ์เจ้าคิดชื่อเล่นนะ เจ้าตัดสินใจเลือกเอาได้"หยวนชิงหลิงตกลงอ

    Last Updated : 2023-06-11
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 906

    อวี่เหวินห่าวไปที่ห้องหนังสือ พอดีกับที่ซูยี่มาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง พร้อมพึมพำอะไรบางอย่างจนเกือบจะชนอวี่เหวินห่าว“ท่านอ๋องทำกระหม่อมตกใจหมด พระองค์กำลังจะไปห้องหนังสือหรือ?” ซูยี่ถาม"เจ้ากำลังบ่นงึมงำอะไร?" อวี่เหวินห่าวเห็นว่าเขาเลิ่นเล่อถึงเพียงนี้จึงดุเขาซูยี่ยิ้ม "นางข้าหลวงสี่ให้กระหม่อมเขียนรายการไปให้ห้องครัว บอกว่าต่อไปจะมีของขวัญจากตระกูลต่าง ๆ เข้ามา นางจึงเชิญคนมาทานซุปหวานและของว่างสักชาม กระหม่อมจึงมาเขียนรายการส่งให้ห้องครัวไปจัดการพ่ะย่ะค่ะ”"ไปเถอะ!" เมื่อเห็นว่าเขามีธุระ อวี่เหวินห่าวจึงไม่รั้งเขาไว้ และปล่อยให้เขาไป“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอตัวก่อน” ซูยี่ออกไปแล้วอวี่เหวินห่าวเข้าห้องหนังสือเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะ เขาเหลือบไปเห็นคำที่เขียนไว้ เขาเพ่งมองดูชัด ๆ "เปาจือ หยวนทัง ลั่วหมี่? ชื่อเล่นตั้งง่ายขนาดนั้นเลยหรือ แบบนี้ข้าก็ตั้งได้"เขารู้สึกว่าบางคำค่อนข้างเลอะเทอะเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงเขียนคัดลอกขึ้นมาใหม่ "อย่างไรก็ตาม เหล่าหยวนเป็นคนฉลาด เปาจื่อใหญ่กว่าหยวนทัง และหยวนทังใหญ่กว่าลั่วหมี่ เรียง ใหญ่ กลาง เล็ก เปาจื่อเป็นลูกโตสุด หยวนทัง เป็นลูกคนที่

    Last Updated : 2023-06-11
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 907

    อวี่เหวินห่าวโค้งคำนับขอบคุณเขาอย่างจริงใจทันใดนั้นเมื่อนึกถึงทองคำที่ไท่ซ่างหวงมอบให้ เขาก็ดึงฉางกงกงออกไปข้าง ๆ "ใช่แล้วกงกง ข้าอยากจะถามอะไรท่านสักอย่าง ในวันนี้ไท่ซ่างหวงให้รางวัลแก่เหล่าหยวนเป็นทองคำหนึ่งแสนตำลึง ทองคำได้มาจากไหน ไม่ได้มาจากพระคลังหลวงรึ?”ฉางกงกงหัวเราะออกมา "เป็นไปได้อย่างไร? ไท่ซ่างหวงจะเอาทองคำมาจากพระคลังเพื่อมอบให้พระชายาได้อย่างไร? นี่เป็นทั้งหมดของพระองค์เอง ท่านอ๋องจำไม่ได้หรือ ตอนที่พระองค์สละราชสมบัติ พระองค์ได้มอบเหมืองทองคำให้ตัวเอง"“อ่า? มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?” อวี่เหวินห่าวตกใจมาก เขาไม่รู้เลยฉางกงกงกล่าวว่า "พ่ะย่ะค่ะ มีเหมืองทองและเหมืองเหล็ก ไท่ซ่างหวงยังเปิดธนาคารในเมืองหลวง และสั่งให้คนดูแลมัน พระองค์หาเงินทุกวันพ่ะย่ะค่ะ"อวี่เหวินห่าวอดใจไม่ได้ "อีกนัยหนึ่ง เสด็จปู่ยังเป็นเศรษฐีอยู่งั้นหรือ?"“พระองค์เป็นเศรษฐีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?” ฉางกงกงกล่าวอวี่เหวินห่าวบ่นพึมพำ "ข้าขอโทษ ๆ ข้าเคยพูดว่าเขายากจน และราชวงศ์ของเราก็ยากจนเช่นกัน"เมื่อเขาไปทำศึก เขาได้ประทานรางวัล เขายังให้ทองคำห้าร้อยตำลึงแก่ไท่ซ่างหวงเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเขา

    Last Updated : 2023-06-12
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 908

    อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเหมาะสมหรือไม่ก็ตาม ชื่อเล่นจะถูกส่งไปยืนยันแล้วผู้คนในจวนกำลังเตรียมการเพื่อพิธีสรงสามในวันรุ่งขึ้นอย่างแข็งขันพิธีสรงสามเป็นพิธีมงคลยิ่งนัก ไทเฮาทรงตระเตรียมไว้นานแล้ว ไม่ว่าพระญาติจะว่างหรือไม่ก็ล้วนแต่ต้องมาหยวนชิงหลิงที่ความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับขนบธรรมเนียม พิธีสามอาบนั้น หมายความว่าหลังจากวันที่สามหลังจากที่เด็ก ๆ เกิดมา ญาติและเพื่อน ๆ จะมารวมตัวกันเพื่อดูการอาบน้ำชำระล้างร่างกาย เพื่ออวยพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย มั่งคั่ง และยังรวมถึงการป้องกันโรคภัย ซึ่งเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์มากมีผู้คนจากจวนจิ้งโฮ่วเข้าร่วมพิธีสรงสามด้วยในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น รุ่ยชิงอ๋องและพระชายาของเขามาบอกอวี่เหวินห่าวว่า ชื่อเล่นของเด็ก ๆ ได้เขียนไว้ที่ด้านข้างป้ายหยกแล้ว รอแค่ได้ชื่อจริงแล้วค่อยเพิ่มลงไปหยวนชิงหลิงยังคงนอนอยู่บนเตียง พระชายารุ่ยจึงเข้าไปเยี่ยมนางเมื่อเข้ามาแล้วก็เอ่ยชื่นชมยินดีกับนาง "เจ้าช่างยอดเยี่ยมมาก เจ้าได้เพิ่มพี่น้องสามคนให้กับราชวงศ์ ข้าไปเยี่ยมดูพวกเขาทั้งสามเหมือนกันไม่ผิด สวรรค์ทรงเมตตา อวยพรให้เจ้ามีความสุข"หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "น่าเกลียดเห

    Last Updated : 2023-06-12
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 909

    “ชื่อเล่นของเด็ก ๆ คืออะไร” หยวนชิงหลิงมองเขาแล้วถามอวี่เหวินห่าวยิ้มและพูดว่า "เจ้าเป็นคนตั้งเอง เจ้ายังไม่รู้อีกหรือ?"“อะไรนะ? ท่านส่งอะไรเข้าไปในวัง?” หยวนชิงหลิงมองใบหน้ายิ้มแย้มของเขา นางยิ้มไม่ออกเลยสักนิด"มันเป็นกระดาษที่เขียนว่า เปาจื่อ หยวนทัง และลั่วหมี่ไง" อวี่เหวินห่าวนั่งลงข้างนางแล้วบอกนางเช่นนั้นหยวนชิงหลิงลดมือลงอย่างอ่อนแรงและมองมาที่เขา "ข้าไม่ได้ตั้งแบบนั้น""ห๊ะ?" อวี่เหวินห่าวตกตะลึง "เจ้าบอกว่ามันอยู่บนโต๊ะในห้องหนังสือไม่ใช่หรือ? ข้าเอามันมาจากบนโต๊ะแล้วมีเขียนสามชื่อนี้ไว้อยู่ ถ้าเจ้าบอกว่าไม่ใช่สามชื่อนี้ แล้วเจ้าตั้งว่าอะไร?”หยวนชิงหลิงพูดอย่างอ่อนแรง "ข้าเขียนว่า คงซิง หนานชิง และเหนียนตง ซาลาเปาหมานโถ่วที่ไหนของท่าน? ท่านไปเจอที่ไหน?"อวี่เหวินห่าวตกตะลึง "เจ้าคิดชื่อได้เพราะขนาดนี้เชียวหรือ? แต่ชื่อที่ข้าเห็นคือชื่อนั้นจริง ๆ ข้าเห็นว่าลายมือของเจ้าน่าเกลียด ข้าเลยเขียนขึ้นมาใหม่ ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าไปเอามาให้เจ้าดู..”"ท่านไปเอามันมาหน่อยสิ!" หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาจริงจัง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกหก เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะสับสนจนหยิบผิด?นางตั้ง

    Last Updated : 2023-06-12
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 910

    มือใหญ่ยื่นออกมาจากด้านหลังของซูยี่ มือนั้นจับไหล่เลื่อนไปที่อกเสื้อ และขย้ำคอเสื้ออย่างแรง ซูยี่ถูกขย้ำคอเสื้อลากเข้าไปในม่าน เขารีบหันกลับมาอ้อนวอน "กระหม่อมผิดไปแล้ว!"อวี่เหวินห่าวชกที่เบ้าตาเขาและตะคอกว่า "เจ้าไม่ทิ้งกระดาษที่เขียนผิดรึไง? มีตะกร้าอยู่บนพื้นเจ้าไม่เห็นมันรึ? เจ้าไม่ทิ้งมันยังวางมันไว้บนโต๊ะอีก? เจ้าจงใจให้ข้าหยิบผิดงั้นหรือ? ใต้เท้าซูเป็นคนคิดชื่อเล่นของลูกข้าทั้งสามคนขึ้นงั้นหรือ?ซูยี่ปิดเบ้าตาของเขา และขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า "เข้าใจผิด เข้าใจผิด มันเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด มันยังไม่สายเกินไป ท่านอ๋องไปหารุ่ยชิงอ๋องเร็วเข้า"“หาอะไร มันเขียนไว้ในป้ายหยกแล้ว” อวี่เหวินห่าวโกรธมาก ราวกับพระพุทธเจ้าหนึ่งหมื่นองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ และจิ้มนิ้วไปที่หน้าผากของเขา “วันหลังจะทำงานหัดใช้สมองคิดบ้างได้หรือไม่?""พ่ะย่ะค่ะ ๆ!" ซูยี่รีบพูดตอบหยวนชิงหลิงถอนหายใจ "ช่างเถอะ ตอนนี้ท่านจะโกรธเขาไปทำไม? ท่านเองก็ผิด ตอนที่เห็นว่าชื่อไม่ถูกทำไมไม่ถามข้า"อวี่เหวินห่าวเตะก้นซูยี่ "ไสหัวออกไปซะ"ซูยี่ได้รับการอภัยจึงรีบวิ่งหนีบหางตัวเองออกไปทันทีหลังจากที่ซูยี่อยู่ที่นั่นสักพ

    Last Updated : 2023-06-13
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 911

    พิธีสรงสามจะเริ่มช่วงประมาณเที่ยงวัน เนื่องจากพระอาทิตย์ขึ้นสูงสุดและอุณหภูมิสูงในช่วงเวลานี้ ดังนั้นทารกจะไม่หนาวระหว่างทำพิธีสรงสามในเวลาประมาณเที่ยง ไทเฮา จักรพรรดิหมิงหยวน ฮองเฮาฉู่ เสียนเฟย กุ้ยเฟย เต๋อเฟย และหูเฟยล้วนเสด็จมาถึงแล้วไท่ซ่างหวงไม่เสด็จมาร่วมด้วย ดังนั้นพระองค์จึงส่งฉางกงกงมาแทน พระองค์รู้ว่าวันนี้มีคนมากมายในจวนต้องเอะอะวุ่นวายแน่ ดังนั้นจึงไม่ได้มาร่วมด้วยความยิ่งใหญ่ของผู้มิอำนาจในวังในวังนั้นช่างน่าอิจฉาและน่าแค้นใจนักหลังจากได้รับการต้อนรับแล้ว ไทเฮาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นเด็ก ๆ แล้วนางข้าหลวงสี่นำทารกทั้งสามออกมากับแม่นม พาไปให้ไทเฮาทอดพระเนตรดูทารกทั้งสามที่มีรูปร่างหน้าตาแทบเหมือนกันทุกประการ และนางมีความสุขมากจนไม่อาจหุบยิ้มที่ฉีกกว้างไปถึงหูได้ ทำให้นางหลงเสน่ห์เอาเสียจริงไทเฮานั้นทรงอุ้มเด็ก ๆ เด็ก ๆ ก็ยิ้มให้ด้วย รอยยิ้มนั้นจะทำให้หัวใจของไทเฮาแทบละลาย หลังจากเฝ้ารอมาอย่างยาวนานในหลายปีมานี้ ในที่สุดก็ได้มีเหลนสักที นางแทบจะคุกเข่าอุ้มเด็ก ๆ ต่อหน้าวิญญาณบรรพชนขอบคุณบรรพชนที่ประทานพรให้"มา ๆ มาอุ้มกัน!" ไทเฮาตรัสกับฮองเฮาฉู่ และบรรดาสนมอย่าง

    Last Updated : 2023-06-13
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 912

    เสียนเฟยแอบรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ นางจึงเข้าไปอุ้มลั่วหมี่ แต่นางไม่รู้ตัวว่าเมื่ออุ้มเขาแล้ว เขาก็ร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้นางไม่สามารถปั้นหน้าได้อีกต่อไป แต่นางยังคงพยายามอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ เสี่ยวลั่วหมี่ที่ไม่ร้องไห้ในตอนแรก แต่หลังจากที่ถูกอุ้มก็สำลักนมออกมา เสียนเฟยก็รีบเช็ดออก จากนั้นเสี่ยวลั่วหมี่ก็เริ่มร้องไห้เดิมเสี่ยวลั่วหมี่นั้นอ่อนแอและไม่ได้ร้องไห้ดังมาก แต่เมื่อร้องไห้ก็สำลักนมอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นไม่นานหน้าเสี่ยวลั่วหมี่ก็ร้องไห้ไม่หยุดจนหน้าม่วงหมดแล้วไทเฮาทรงกริ้ว “พอได้แล้ว นั่งลงซะ เจ้าไม่ต้องอุ้มแล้ว”ว่าแล้ว ขอให้นางข้าหลวงสี่พาเสี่ยวลั่วหมี่มาหานางเสียนเฟยน้ำตาคลอเบ้า อัปยศอดสูเหลือทน และนั่งลงด้วยความโกรธ ไทเฮาดูแลเด็ก ๆ หลังจากทำความสะอาดเสี่ยวลั่วหมี่แล้ว จึงวางไว้บนตักของนางเขย่าเบา ๆ แล้วลูบทารกเบา ๆ "เด็กดี เด็กดีของข้า ไม่ต้องกลัว ๆ ย่าทวดอุ้มน้า ย่าทวดโอ๋ ๆ"ทารกทั้งสามหยุดร้องไห้เสียนเฟยรู้สึกเพียงว่าใบหน้าของนางถูกตบหลายครั้งจนปวดแสบปวดร้อนไปหมด นางรู้สึกว่าทุกคนมองนางอย่างเยาะเย้ย นี่คือหลานชายของนางเอง ใคร ๆ ก็อุ้มเขาก็ได้ แต่นางก

    Last Updated : 2023-06-13

Latest chapter

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

DMCA.com Protection Status