Share

บทที่ 881

Penulis: จูน
อาหรูถอนหายใจเบา ๆ “เพคะ หม่อมฉันจะออกไป”

เมื่อพระชายาอันมาถึงห้องหนังสือ อ๋องอันก็ลุกขึ้นจับมือนางแล้วพูดเบา ๆ ว่า "ทำไมใส่เสื้อผ้าน้อยจริง ไม่หนาวรึ?”

พระชายาอันยิ้มอย่างอ่อนโยน "ไม่หนาว ลมอุ่นดีเพคะ"

"รีบนั่งลงเถอะ" หลังจากให้นางนั่งลง อ๋องอันก็โอบไหล่นางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า "เจ้ารู้เรื่องที่พระชายาฉู่จะคลอดแล้วใช่ไหม? เพราะเรื่องของนางทำให้ไท่ซ่างหวงและไทเฮาล้มป่วย ข้าจึงเป็นห่วง"

พระชายาอันถอนหายใจอย่างโศกเศร้า "ใช่ หม่อมฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ ๆ เรื่องก็วุ่นวายเช่นนี้"

"ก่อนหน้านี้ ถึงข้าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกับเจ้าห้า แม้ว่าในภายหลังความเข้าใจผิดจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ก็มีความร้าวฉานเหลืออยู่ ข้าเองก็ไปถามไถ่เขาไม่ได้ แต่เป็นพี่น้องกัน เมื่อเกิดเรื่องขึ้นที่จวนของเขา ในฐานะพี่ชายจะไม่สนใจถามไถ่มันก็รู้สึกไม่ดีนัก เจ้าเข้าวังไปหาพระสนมเสียนเฟย และให้คำแนะนำนิดหน่อยก็ถือว่าพวกเราทำดีที่สุดแล้ว”

พระชายาอันมองเขาด้วยแววตาลังเล “วันที่เจ้าห้าพาคนมาก่อเรื่อง และเอาแต่พูดว่าท่านทำร้ายพระชายาของเขา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

นางอยากจะถามเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าถาม เพรา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 882

    ไทเฮาที่ประชวรอยู่นั้น เมื่อได้ฟังคำแนะนำของพระสนมเสียนเฟย จึงได้พยายามดิ้นรนสั่งให้คนไปเชิญจักรพรรดิหมิงหยวน และขอทำพิธีสักการะบูชาฟ้าดินอย่างจักรพรรดิหมิงหยวนมีหรือคิดจะสักการะฟ้าดินที่ไหน? แต่ไทเฮาเชื่อว่าเป็นเพราะในปีที่แล้ว ที่ไม่ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ จึงถูกสวรรค์ลงโทษจักรพรรดิหมิงหยวนกลัวว่าความคิดฟุ้งซ่านของนางจะทำให้นางเสียสุขภาพได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตกลงเพียงแต่ว่าพิธีสักการะบูชาฟ้าดินอย่างยิ่งใหญ่นั้นไม่สามารถทำได้ด้วยการสั่งออกไปแค่คำสองคำไทเฮามีพระราชเสาวนีย์เชิญท่านเจ้าอาวาสเข้าวังเพื่อหารือกับกรมราชพิธี เรื่องพิธีสักการะบูชาฟ้าดินก่อนที่เจ้าอาวาสจะเข้าวัง เขาบอกอวี่เหวินห่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า หากพระชายามีสัญญาณของการคลอดบุตรจะต้องแจ้งให้เขาทราบหยวนชิงหลิงเคยบอกอวี่เหวินห่าวมาก่อนว่า เขาต้องการให้เจ้าอาวาสอยู่เฝ้าเพื่ออธิษฐานขอพร แต่อวี่เหวินห่าวได้ยินว่ามีการจัดพิธีสักการะบูชาฟ้าดินดังนั้นเขาจึงไม่ได้ขัดขวาง เขาอธิษฐานขอพรในจวนอยู่แล้ว และพิธีสักการะบูชาฟ้าดินดูจะทรงพลังมาก บางทีอาจจะได้ผลดีกว่าเขาเพียงแต่บอกหยวนชิงหลิงว่า เขาจะจัดพิธีสักก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 883

    หยวนชิงหลิงยิ้ม “ดี”อย่าตกใจจนเป็นลมไปซะก่อน“ว่าแต่ท่านเจ้าอาวาสอยู่ที่ไหน?” หยวนชิงหลิงถามเหมือนว่าไม่ได้พบเขามาสองวันแล้วอวี่เหวินห่าวกล่าวว่า "ไปเป็นประธานในพิธีสักการะฟ้าดิน"หยวนชิงหลิงตกใจขึ้นมาทันที และคว้าข้อมือของเขาไว้ "ไปพิธีสักการะฟ้าดินหรือ? จะกลับมาเมื่อไหร่?""เสร็จงานแล้วคงกลับมา" อวี่เหวินห่าวพยายามทำสีหน้าผ่อนคลาย และปลอบโยนนางด้วยรอยยิ้ม “เจ้าวางใจเถอะ เจ้าอาวาสเคยบอกไว้ว่าตอนที่เจ้าจะคลอดให้บอกเขา แต่ข้าคิดว่าเขาสามารถอธิษฐานขอพรเผื่อเจ้าได้ในพิธี"ท่าทางสงบและผ่อนคลายบนใบหน้าของหยวนชิงหลิงหายไป และรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที "เชิญกลับมาก่อนได้หรือไม่?"สีหน้าของอวี่เหวินห่าวเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพูดว่า "เกิดอะไรขึ้น? นั่นคงไม่ได้หรอก เสด็จพ่อและข้าราชบริพาน รวมทั้งผู้คนทั่วทั้งเมืองคงไปที่นั่นกันหมด ในฐานะเจ้าภาพของพิธี เขาย่อมกลับมาก่อนไม่ได้"จู่ ๆ ใจของหยวนชิงหลิงก็ว้าวุ่นไปหมด "พยุงข้ากลับไปที"“เป็นอะไรไป? เจ้าเดินไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?” อวี่เหวินห่าวอยากจะอุ้มนางไป แต่หยวนชิงหลิงหันกลับมาแล้วเอ่ยว่า “ไปเรียกอาซื่อมา”เมื่อหยวนชิงหลิงกลับมาที่เรือนที่พัก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 884

    ข่าวความเคลื่อนไหวของพระชายาฉู่ถูกรายงานไปยังพระตำหนักของไทเฮาทันทีไทเฮาทนไม่ไหวจนอยากจะออกจากวัง เสียนเฟยรีบห้ามนางและกล่าวว่า "ท่านป้า ท่านไปไม่ได้ ท่านยังป่วยอยู่เลย"“ข้าไม่สบายใจ ไปดูเองถึงจะสบายใจได้”เสียนเฟยปลอบโยนนาง "ท่านป้า ให้ข้าไปดีกว่า ข้าเป็นแม่สามีของนางอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรผิดพลาด ข้ายังสั่งการได้ ท่านอย่าไปเลย ตอนนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมา ร่างกายท่านรับไหวหรือไม่?”ไทเฮาที่ทรงร้อนรนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้นางก็ตำหนิทันที “พูดอย่างนั้นได้อย่างไร? ตบหน้าตัวเองเดี๋ยวนี้ พูดอะไรดี ๆ ไม่ได้เลยรึ เหตุร้ายอะไรกัน?"เสียนเฟยรู้ว่านางทำพลาดไป นางจึงตบตัวเองสองครั้งเพื่อเอาใจไทเฮา “ได้ ๆ ข้าตบปากเอง ไทเฮาโปรดให้ข้าออกจากวังไปด้วยเถอะนะเพคะ”ไทเฮาอยากไปจริง ๆ แต่สิ่งที่เสียนเฟยพูดทำให้นางตกใจมากนางจะทนได้อย่างไรดังนั้นนางจึงสั่งการลงไป ให้พาหูโม่โม่ออกจากวังไปกับนางไทเฮาจับข้อมือของนางและตรัสว่า "เจ้าต้องเฝ้าดูไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้หมอหลวงรักษานางด้วยกำลังทั้งหมดที่มี และใช้ยาที่ดีที่สุด"“อย่ากังวลไปเลย ยาในวังได้เตรียมไ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 885

    เขาทำตามความคาดหวัง และให้กำเนิดลูกชายหลายคน แต่โชคไม่ดีที่ลูกชายเหล่านี้ไม่ได้เรื่องเลย ที่ไม่สามารถมีลูกชายได้มาจนถึงตอนนี้ดังนั้นการคุกเข่าโขกศีรษะในครั้งนี้ จักรพรรดิหมิงหยวนได้ใช้พิธีการนี้ทุ่มความอึดอัดใจทั้งหมดลงไปด้วยพระสนมเสียนเฟยพาหูโม่โม่และทหารองค์รักษ์กลุ่มหนึ่งมาที่จวนอ๋องฉู่ เห็นว่าในจวนนั้นบรรยากาศตึงเครียดอย่างถึงที่สุดนางพาหูโม่โม่เข้าไปหาหยวนชิงหลิง ทันทีที่นางเห็นหยวนชิงหลิง นางก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที อ่อนแอขนาดนี้จะคลอดได้อย่างไร? นางรู้สึกเครียดจนหน้าดำคร่ำเครียดไปหมดใช้ไม่ได้เลยจริง ๆเห็นห้องที่รายล้อมไปด้วยผู้คน แต่มีไม่กี่คนที่ยุ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธ "พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกัน? ไม่รู้เลยรึไงว่าควรทำอะไร ยังไม่ย้ายไปที่ห้องคลอดอีก?"อวี่เหวินห่าวขมวดคิ้ว "เสด็จแม่ อย่าตะโกน อย่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ทำข้าตกใจได้ แต่อย่าทำให้เหล่าหยวนตกใจ"เขาเพิ่งเป็นลมจากความกลัว และฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน ตอนนี้เหล่าหยวนบอกว่าความดันโลหิตของเขาพุ่งสูงขึ้นมาก จนเขาจะเป็นลมอีกครั้งได้ทุกเมื่อ เขาตกใจจนทนไม่ไหวหลังจากได้ยินเช่นนี้ พระสนมเสียนเฟยก็โกรธแต่

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 886

    เสียนเฟยถึงกับสะอึก ใบหน้าของนางก็ดำคล้ำด้วยความโมโหทันทีนางพูดไม่ออก แต่นางรู้สึกผิดหวังมากในใจ นางมองไปที่หยวนชิงหลิงที่นอนเอนกุมท้องนาง นางทำใจร้ายมองไปทางคนพวกนั้นอย่างเย็นชา ทั้งหมอหลวงและหมอตำแยที่อยู่ข้างใน นางพูดอย่างเคร่งเครียด "คุกเข่ารับพระราชเสาวนีย์ ไทเฮาทรงมีพระราชเสาวนีย์"ทุกคนคุกเข่าลง แม้ว่าอวี่เหวินห่าวจะโกรธอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังคุกเข่าลงเพื่อรับพระราชเสาวนีย์ของเสด็จย่าเสียนเฟยพูดเสียงดัง "ไทเฮาทรงมีรับสั่งว่า หากพระชายาฉู่ประสบเหตุอันตรายใด ๆ ระหว่างการคลอดบุตร เด็กที่คลอดมานั้นสำคัญที่สุด จะใช้ยาหรือวิธีใดก็ได้ จะต้องปกป้องเด็กเอาไว้ให้ได้...”ในประโยคสุดท้าย นางมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชา "แม้ว่าจะต้องเสียสละแม่ก็ตาม!"หยวนชิงหลิงกำลังมีอาการหดเกร็งจะคลอดนั้น เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ ก็ตกใจจนหน้าซีดลงในทันทีอวี่เหวินห่าวลุกขึ้นมาทันทีและพูดอย่างเย็นชา "เสด็จแม่ถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์ปลอม ไม่รู้หรือว่านี่เป็นโทษร้ายแรง"เขาเหลือบมองฝูงชนอย่างเย็นชา “ข้าสงสัยว่าเป็นพระราชเสาวนีย์ปลอม ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องสนใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พระชายาคือสิ่งสำคัญที่

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 887

    หยวนชิงหลิงจับมือของเขา "เข้าใจแล้ว ท่านให้ใครสักคนช่วยดูหน่อยเถิด พิธีสักการะบูชาฟ้าดินเสร็จเมื่อไหร่ ให้พาท่านเจ้าอาวาสกลับมาทันที""อย่ากังวล กู้ซีออกไปแล้ว" อวี่เหวินห่าวพูดเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ปล่อยนาง และยื่นมือออกไปจัดผมของนาง "เจ็บมากไหม?"หยวนชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และปรับลมหายใจของนาง "ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่เจ็บมากแล้ว การหดตัวก็ไม่รุนแรงขนาดนั้น ยังทนได้อยู่"ดวงตาของอวี่เหวินห่าวดูเหมือนจะร้อนผ่าวขึ้นมา และเสียงของเขาก็เช่นเดียวกัน เขาพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า "ข้าเกลียดที่เจ็บแทนเจ้าไม่ได้"หยวนชิงหลิงยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าที่ผอมตอบของเขา "ช่วงนี้ท่านไม่ได้ดีไปกว่าข้าเลย ข้าจะไม่ทิ้งท่านไว้ตามลำพัง ไม่ต้องกังวลไปนะ"คำพูดเหล่านี้ช่างเสียดแทงใจดำของเขาเขาไม่เคยเห็นหน้าเด็ก และไม่ได้อยู่กับเด็กมาตลอดเก้าเดือน ความรักที่เขามีต่อเด็กนั้นก็ไม่ลึกซึ้งเท่าเหล่าหยวนเขาหวังเพียงให้นางรอดจากการทดสอบนี้ แม้ว่านางจะสูญเสียลูกไป เขาก็ไม่สนใจ ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เขาแทบน้ำตาตกใน แต่วินาทีต่อมา เขาก็เงยหน้ายิ้ม “พูดได้ดี ก่อนอายุร้อยปีจะไม่มีใครทิ้งใครก่อน”"ได้ ก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 888

    เสียนเฟยคิดว่านางเป็นต้นเหตุของหายนะ นางจึงมีความคิดชั่วร้ายโหดเหี้ยมขึ้นมา นางหันหลังกลับออกไปเรียกให้หูโม่โม่มาคุยด้วย"พระนางมีรับสั่งอะไรหรือเพคะ?" หูโม่โม่เข้าไปไม่ได้ ตอนที่อยู่รับใช้ที่ตำหนักเสี่ยวเยว่ จึงได้พบพระชายาครู่หนึ่งเสียนเฟยถามว่า "โม่โม่ เจ้าเองก็เห็นแล้ว เจ้าคิดว่าพระชายามีแรงคลอดบุตรหรือไม่?"หูโม่โม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "เรื่องนี้...พระนางอย่ากังวลไปเลยเพคะ ที่นี่มีหมอหลวงมากมาย พระชายาจะต้องไม่เป็นอะไรเพคะ"เสียนเฟยกดมือของนางด้วยแววตาเย็นเยียบ "นางจะเป็นอะไรหรือไม่นั้นข้าไม่สน ข้าแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของหลานชายของข้าเท่านั้น มีคำหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้าไว้ก่อน หากตอนคลอดมีอะไรเกิดขึ้น ปกป้องเด็กเอาไว้ไม่ต้องสนแม่ ทุกคนน่าจะคิดอย่างนั้น แต่ลูกห้ากลับห้ามไว้ เมื่อถึงเวลาก็หาทางเอาตัวเขาออกไป ข้ากลัวเขาจะตามเข้าไปในห้องคลอด”หูโม่โม่ตกตะลึง "นี่... พระนางมองโลกในแง่ร้ายเกินไปรึเปล่าเพคะ นางยังไม่คลอดลูกเลย"เสียนเฟยกล่าวว่า "โม่โม่ เห็นพวกสนมคลอดทารกมากมายในวัง เจ้าไม่รู้หรือว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของนาง มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะคลอดลูกทั้งสามคนอย่างราบรื่น"ใ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 889

    แม้ว่านางไมใช่สูติแพทย์ แต่ทั้งหมอหลวงและหมอตำแยกล่าวว่า ด้วยความเจ็บปวดแบบนี้ คาดว่านางจะต้องคลอดบุตรภายในหนึ่งชั่วโมงแต่เจ้าอาวาสยังไม่กลับมาอดทนรอไม่ไหว ลองคลอดธรรมชาติไม่ได้ เสียนเฟยอยู่ข้างนอก เพิ่งเรียกหมอหลวงและคนอื่น ๆ ออกไป ไม่รู้ว่านางกำลังวางแผนอะไรอยู่ นางไม่สามารถฝากชีวิตของตัวเองและลูกไว้กับพวกเขาได้ นอกจากนี้ฮูหยินเจียงหนิงยังไม่มีประสบการณ์มากนัก และต้องการคำแนะนำของนางเองเมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว นางค่อย ๆ ลุกขึ้นและพูดกับเจ้าห้า ฮูหยินเจียงหนิง และอาซื่อว่า "เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าห้องผ่าตัด"อวี่เหวินห่าวสูดหายใจเข้าลึกทันที กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างของเขาหดเกร็งขึ้นมาทันทีพวกเขาผลัดกันเดินไปหลังฉากเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทีละคน นางข้าหลวงสี่ดึงหมอตำแยที่ใต้เท้าชุ่ยแนะนำเข้ามา และพูดว่า "ถึงตอนนั้นเจ้าช่วยได้ เจ้ามีประสบการณ์"หยวนชิงหลิงอาศัยจังหวะช่วงหดเกร็งที่ยังพอมีแรงพูดอะไรได้อยู่บ้างนี้ นางขอให้อวี่เหวินห่าวช่วยประคองนางนั่ง นางมองไปที่คณะหมอและหมอหลวงและพูดว่า "ขอบคุณที่สละเวลาดูแลข้าด้วยความห่วงใย แต่ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ข้าอ่อนแอ และมันยากที่จะแบกรับความเจ็บป

Bab terbaru

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status