เสียนเฟยคิดว่านางเป็นต้นเหตุของหายนะ นางจึงมีความคิดชั่วร้ายโหดเหี้ยมขึ้นมา นางหันหลังกลับออกไปเรียกให้หูโม่โม่มาคุยด้วย"พระนางมีรับสั่งอะไรหรือเพคะ?" หูโม่โม่เข้าไปไม่ได้ ตอนที่อยู่รับใช้ที่ตำหนักเสี่ยวเยว่ จึงได้พบพระชายาครู่หนึ่งเสียนเฟยถามว่า "โม่โม่ เจ้าเองก็เห็นแล้ว เจ้าคิดว่าพระชายามีแรงคลอดบุตรหรือไม่?"หูโม่โม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "เรื่องนี้...พระนางอย่ากังวลไปเลยเพคะ ที่นี่มีหมอหลวงมากมาย พระชายาจะต้องไม่เป็นอะไรเพคะ"เสียนเฟยกดมือของนางด้วยแววตาเย็นเยียบ "นางจะเป็นอะไรหรือไม่นั้นข้าไม่สน ข้าแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของหลานชายของข้าเท่านั้น มีคำหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้าไว้ก่อน หากตอนคลอดมีอะไรเกิดขึ้น ปกป้องเด็กเอาไว้ไม่ต้องสนแม่ ทุกคนน่าจะคิดอย่างนั้น แต่ลูกห้ากลับห้ามไว้ เมื่อถึงเวลาก็หาทางเอาตัวเขาออกไป ข้ากลัวเขาจะตามเข้าไปในห้องคลอด”หูโม่โม่ตกตะลึง "นี่... พระนางมองโลกในแง่ร้ายเกินไปรึเปล่าเพคะ นางยังไม่คลอดลูกเลย"เสียนเฟยกล่าวว่า "โม่โม่ เห็นพวกสนมคลอดทารกมากมายในวัง เจ้าไม่รู้หรือว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของนาง มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะคลอดลูกทั้งสามคนอย่างราบรื่น"ใ
แม้ว่านางไมใช่สูติแพทย์ แต่ทั้งหมอหลวงและหมอตำแยกล่าวว่า ด้วยความเจ็บปวดแบบนี้ คาดว่านางจะต้องคลอดบุตรภายในหนึ่งชั่วโมงแต่เจ้าอาวาสยังไม่กลับมาอดทนรอไม่ไหว ลองคลอดธรรมชาติไม่ได้ เสียนเฟยอยู่ข้างนอก เพิ่งเรียกหมอหลวงและคนอื่น ๆ ออกไป ไม่รู้ว่านางกำลังวางแผนอะไรอยู่ นางไม่สามารถฝากชีวิตของตัวเองและลูกไว้กับพวกเขาได้ นอกจากนี้ฮูหยินเจียงหนิงยังไม่มีประสบการณ์มากนัก และต้องการคำแนะนำของนางเองเมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว นางค่อย ๆ ลุกขึ้นและพูดกับเจ้าห้า ฮูหยินเจียงหนิง และอาซื่อว่า "เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าห้องผ่าตัด"อวี่เหวินห่าวสูดหายใจเข้าลึกทันที กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างของเขาหดเกร็งขึ้นมาทันทีพวกเขาผลัดกันเดินไปหลังฉากเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทีละคน นางข้าหลวงสี่ดึงหมอตำแยที่ใต้เท้าชุ่ยแนะนำเข้ามา และพูดว่า "ถึงตอนนั้นเจ้าช่วยได้ เจ้ามีประสบการณ์"หยวนชิงหลิงอาศัยจังหวะช่วงหดเกร็งที่ยังพอมีแรงพูดอะไรได้อยู่บ้างนี้ นางขอให้อวี่เหวินห่าวช่วยประคองนางนั่ง นางมองไปที่คณะหมอและหมอหลวงและพูดว่า "ขอบคุณที่สละเวลาดูแลข้าด้วยความห่วงใย แต่ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ข้าอ่อนแอ และมันยากที่จะแบกรับความเจ็บป
อวี่เหวินห่าวเดินหลีกออกไปไม่ให้นางเข้าใกล้ เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าของเขาเปื้อน และไม่พูดต่อล้อต่อเถียงไร้สาระกับนาง เขาหยิบสเปรย์ที่หยวนชิงหลิงวางไว้ก่อนหน้านี้ฉีดใส่ตัวเองแล้วเข้าไปทันที ประตูปิดลง เขาตะโกนออกมาจากข้างในว่า "กู้ซี ถังหยาง เฝ้าประตู หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ฝ่าบาทก็เข้ามาไม่ได้"กู้ซีและถังหยางระดมกององค์รักษ์ และทหารหลวงล้อมรอบห้องผ่าตัดทั้งหมดอย่างแน่นหนาทันที กู้ซี ถังหยาง ก็เข้ามาเฝ้าประตูห้องด้านนอกและห้องด้านใน กอดอกเหมือนเทพทวารบาลสององค์ เสียนเฟยโมโหจนหัวใจของนางปวดร้าวไป นางกดหน้าอกตัวเองและพูดอย่างเย็นชา “ได้ แม่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่ามัน มันช่างปวดใจเหลือใจ หากภายภาคหน้าเกิดอะไรขึ้น อย่าได้มาขอร้องแม่คนนี้”หูโม่โม่เข้ามาปลอบนางและพูดว่า "พระนาง โปรดสงบสติอารมณ์ด้วยเพคะ ท่านอ๋องทำอะไรไม่ได้เลย พระชายาเองกำลังท้องแฝดสาม ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานการณ์พิเศษ ควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษโดยไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ "เสียนเฟยรู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อได้ยินเช่นนี้นางรู้สึกหมดหนทางและโดดเดี่ยวไม่มีใครเข้าใจความพยายามอย่างยากลำบากขอ
พิธีสักการะบูชาฟ้าดินครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก เหล่าขุนนาง ทหาร และพลเรือนต่างก็มาเข้าร่วมด้วยใต้ปะรำพิธีมีผู้คนมากมายสายตาของอ๋องอันเฉียบคมมาก เมื่อเขาเห็นซูยี่มองไปที่เจ้าอาวาส เจ้าภาพกำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อท่ามกลางฝูงชน อ๋องอันยิ้มเย็น แน่นอนว่าเขาเดาถูก เจ้าอาวาสคือกุญแจสำคัญเมื่อพิธีสักการะบูชาฟ้าดินสิ้นสุดลง เขาจะสั่งให้คนไปขัดขวางซูยี่ และไม่อนุญาตให้เขาเข้าใกล้เจ้าอาวาสจักรพรรดิหมิงหยวนขอให้เจ้าอาวาสขึ้นราชรถไปด้วยกัน หลังจากพิธีสักการะบูชาฟ้าดินแล้ว พระองค์ก็เสด็จกลับวังหลวงเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่บรรพบุรุษของตระกูลอวี่เหวินซูยี่สลัดคนของอ๋องอันหลุดได้แล้ว แต่เขาทำได้เพียงเฝ้าดูราชรถหายลับไปเขากระทืบเท้าและรีบไล่ตามไป แต่เข้าไปไม่ได้เพราะทหารคุ้มกันและมีฝูงชนจำนวนมาก เสียงนั้นดังมาก จนเขาตะโกนคอแทบแตกเจ้าอาวาสก็ไม่ได้ยินเขาทำได้เพียงขี่ม้ากลับไปที่จวนอย่างรวดเร็ว และขอให้ท่านอ๋องรีบหยุดราชรถของฝ่าบาทในห้องคลอด อวี่เหวินห่าวเห็นว่าท้องของหยวนชิงหลิงถูกผ่าออกและขยายใหญ่ขึ้น เผยให้เห็นรอยเลือดสีแดงเหมือนปากของสัตว์ประหลาดน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัวไ
กู้ซีตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง แต่ไม่รู้สึกถึงเสียงใด ๆหลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงอาซื่อร้องไห้ดังขึ้นอาซื่อร้องไห้ นางเคยสงบสติอารมณ์ได้มาก่อน แต่นางรู้สึกกระวนกระวายใจจนไม่พูดอะไรไม่ออก อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กทั้งสองที่มีสุขภาพดีถูกนำออกมา นางรู้สึกว่าหินก้อนใหญ่บนหัวใจของถูกยกออก เมื่อเห็นเด็กน้อยสองคนที่นอนอยู่บนเตียงข้างกันส่งเสียงอ้อแอ้เป็นครั้งคราว นางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา"อาซื่อ ยังมีอีกคน!" ฮูหยินเจียงหนิงคว้ามือนาง "อย่าเพิ่งร้องไห้ รีบช่วยเร็ว สวรรค์ สายสะดือพันรอบคอ..."หยวนชิงหลิงก็เห็นเช่นกัน แม้ว่ากระจกสัมฤทธิ์จะไม่ชัด แต่เมื่ออุ้มออกมา เห็นใบหน้าของเด็กเป็นสีม่วงคล้ำ และเขาก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน"ไม่ ไม่..." หยวนชิงหลิงร้องไห้ ตาของนางมองตามมือของหมอตำแย หมอตบก้นสองสามครั้ง แต่เด็กไม่ตอบสนองเลยฮูหยินเจียงหนิงรีบเดินไปทันทีปั้มหัวใจเบา ๆ แล้วเป่าปาก แต่เด็กนอนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ไม่ขยับเขยื้อนศีรษะของเขาหันไปทางด้านข้างเล็กน้อย และหันหน้าไปทางหยวนชิงหลิง ดวงตาของเขาปิดสนิทและดูเหมือนเขาไม่หายใจเลย"ไม่..." หัวใจของหยวนชิงหลิงแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล
มีความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเสียนเฟยอย่างรวดเร็วสถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุดคือ เด็กเกิดและหยวนชิงหลิงตาย"ข้าอยากเข้าไป" เสียนเฟยมองกู้ซีด้วยสายตาวิตกกังวล "พระชายาทำงานหนักมาก และตอนนี้นางกไลังตกเลือด ข้าควรไปอยู่กับนาง"กู้ซีส่ายหน้า "ขออภัย พระนางเสียนเฟย ท่านอ๋องสั่งไม่ให้พระนางเข้าไป"“เขาไม่เคยพูดเช่นนั้น” เสียนเฟยโกรธมากที่กู้ซีกล้าฝ่าฝืนคำสั่งนาง?กู้ซีพูดว่า "ท่านอ๋องพูด พวกเราทุกคนล้วนได้ยิน"เสียนเฟยโกรธจัด “ไปให้พ้น!”“ขออภัย พระสนมเสียนเฟย ข้ามาที่นี่เพื่อปกป้องที่นี่ หากปราศจากคำสั่งของท่านอ๋อง พระนางก็ไปข้างในไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” กู้ซีพูดขึ้นทันทีเสียนเฟยเย้ยหยัน "กู้ซี มาดูกันว่าเจ้าจะเอาอะไรมาหยุดข้าได้ ถ้าเจ้าแตะต้องข้า ก็มีโทษถึงตาย"นางเดินไปข้างหน้า นางเป็นนางสนมของจักรพรรดิ กู้ซีไม่กล้าแตะต้องนางจริง ๆ ทำได้เพียงถูกนางบังคับกลับ เสียนเฟยเย้ยหยันเขา "ห้ามข้าสิ!"นางข้าหลวงสี่เดินเข้ามาจากข้างนอก ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และหยุดนางไว้ "เขาไม่กล้าหยุด แต่หม่อมฉันกล้า"เสียนเฟยโกรธจัดจนตบหน้านางข้าหลวงสี่ "ถอยไป!"นางข้าหลวงสี่กัดฟันสู้ "เสียนเฟยฆ่าบ่
กู้ซีเดินออกไปอย่างช้า ๆ เมื่อถึงประตูห้องด้านนอก ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมา และฟันไปที่ดาบในมือของหลี่มู่ หลี่มู่ที่สัมผัสได้ถึงจิตสังหาร เขาก้มลงเอี่ยวตัวหลบ เขาพลาดท่าจนอาวุธในมือหลุดไปเสียนเฟยพูดด้วยความโกรธ "บังอาจนัก พวกเจ้าไปจัดการกู้ซีและถังหยางให้ข้า ข้ากับไทเฮาจะประทานรางวัลมากมายแก่เจ้า!"องค์รักษ์รีบวิ่งไปข้างหน้าช่วยหลี่มู่กององค์รักษ์ของกู้ซีและทหารของถังหยางก็วิ่งเข้ามาและการตะลุมบอนก็เกิดขึ้นในห้องเล็ก ๆ ด้านนอกนี้เสียนเฟยเฝ้าประตูอย่างแน่นหนาไม่ยอมให้ใครเข้าไปข้างในเป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตาย ภายนอกกลับมีภัยอันตรายกีดขวางไว้เห็นได้ชัดว่าทั้งทหารและกององค์รักษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ทหาหารองค์รักษ์ที่ไทเฮาส่งมาที่จวนได้เข้าร่วมแทรกแซงเสียนเฟยส่งต่อพระราชเสาวนีย์ของไทเฮา พวกเขาก็ปฏิบัติตามพระราชเสาวนีย์ของไทเฮาก็เท่านั้นชั่วขณะหนึ่งไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ นางข้าหลวงสี่ก็ยังไม่สามารถพาสาวใช้เข้าไปในห้องด้านในได้ด้วยความสิ้นหวัง นางข้าหลวงสี่ดึงปิ่นนางออก คว้าคอเสียนเฟยเอาไว้และกดปิ่นของนางลงบนใบหน้าของเสียนเฟย และตะโกนด้วยความโกรธว่า "หยุดเดี๋ยวนี้!"“
เขายกมือขึ้น "พาตัวออกไป!"ในตอนนี้เสียนเฟยโต้แย้งอะไรไม่ได้เลย นางพยายามคุกเข่าอ้อนวอนอย่างน่าอนาถ "หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ!"แม้ว่านางจะปวดใจมาก แต่ร่องรอยแห่งความสุขก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจักรพรรดิทรงทราบว่านางคิดจะทำอะไร แต่พระองค์ก็ไม่ปลดนาง เพราะจักรพรรดิบอกว่าวันนี้เป็นวันที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งวันนี้เป็นวันที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง อ๋องฉู่มีลูกชาย ราชวงศ์มีทายาทสืบสกุลแล้ว รัชทายาทไม่สามารถมีแม่ที่ถูกปลดได้ฝ่าบาท พระองค์ทรงตัดสินพระทัยแล้วหรือ?เสียนเฟยถูกส่งตัวกลับไป และทุกคนที่ต่อสู้เมื่อครู่นี้ก็ถูกจัดการจักรพรรดิหมิงหยวนช่วยประคองนางข้าหลวงสี่ด้วยตัวเอง เขามองดวงตาแดงก่ำ และใบหน้าที่บวมแดงของนาง "วันนี้ลำบากเจ้ามากแล้วจริง ๆ"นางข้าหลวงสี่ร้องไห้น้ำตาไหล "บ่าวแค่อยากให้พระชายาปลอดภัยเท่านั้น!"“ใช่แล้ว ๆ” จักรพรรดิหมิงหยวนตรัสแล้วมองไปทางห้องผ่าตัด “เด็ก ๆ อุ้มออกมาได้หรือไม่?”เหตุผลที่เจ้าห้าสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ก็เพราะเจ้าอาวาสขอให้ราชรถพาเขากลับไปที่จวนอ๋องฉู่ อวี่เหวินห่าวจึงไม่ได้ไปไกลจากจวนมากนักเมื่อจักรพรรดิหมิงหยวนได้ยินว่าเขาได้ให้กำเนิดลูกชายสามค