ข่าวความเคลื่อนไหวของพระชายาฉู่ถูกรายงานไปยังพระตำหนักของไทเฮาทันทีไทเฮาทนไม่ไหวจนอยากจะออกจากวัง เสียนเฟยรีบห้ามนางและกล่าวว่า "ท่านป้า ท่านไปไม่ได้ ท่านยังป่วยอยู่เลย"“ข้าไม่สบายใจ ไปดูเองถึงจะสบายใจได้”เสียนเฟยปลอบโยนนาง "ท่านป้า ให้ข้าไปดีกว่า ข้าเป็นแม่สามีของนางอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรผิดพลาด ข้ายังสั่งการได้ ท่านอย่าไปเลย ตอนนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมา ร่างกายท่านรับไหวหรือไม่?”ไทเฮาที่ทรงร้อนรนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้นางก็ตำหนิทันที “พูดอย่างนั้นได้อย่างไร? ตบหน้าตัวเองเดี๋ยวนี้ พูดอะไรดี ๆ ไม่ได้เลยรึ เหตุร้ายอะไรกัน?"เสียนเฟยรู้ว่านางทำพลาดไป นางจึงตบตัวเองสองครั้งเพื่อเอาใจไทเฮา “ได้ ๆ ข้าตบปากเอง ไทเฮาโปรดให้ข้าออกจากวังไปด้วยเถอะนะเพคะ”ไทเฮาอยากไปจริง ๆ แต่สิ่งที่เสียนเฟยพูดทำให้นางตกใจมากนางจะทนได้อย่างไรดังนั้นนางจึงสั่งการลงไป ให้พาหูโม่โม่ออกจากวังไปกับนางไทเฮาจับข้อมือของนางและตรัสว่า "เจ้าต้องเฝ้าดูไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้หมอหลวงรักษานางด้วยกำลังทั้งหมดที่มี และใช้ยาที่ดีที่สุด"“อย่ากังวลไปเลย ยาในวังได้เตรียมไ
เขาทำตามความคาดหวัง และให้กำเนิดลูกชายหลายคน แต่โชคไม่ดีที่ลูกชายเหล่านี้ไม่ได้เรื่องเลย ที่ไม่สามารถมีลูกชายได้มาจนถึงตอนนี้ดังนั้นการคุกเข่าโขกศีรษะในครั้งนี้ จักรพรรดิหมิงหยวนได้ใช้พิธีการนี้ทุ่มความอึดอัดใจทั้งหมดลงไปด้วยพระสนมเสียนเฟยพาหูโม่โม่และทหารองค์รักษ์กลุ่มหนึ่งมาที่จวนอ๋องฉู่ เห็นว่าในจวนนั้นบรรยากาศตึงเครียดอย่างถึงที่สุดนางพาหูโม่โม่เข้าไปหาหยวนชิงหลิง ทันทีที่นางเห็นหยวนชิงหลิง นางก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที อ่อนแอขนาดนี้จะคลอดได้อย่างไร? นางรู้สึกเครียดจนหน้าดำคร่ำเครียดไปหมดใช้ไม่ได้เลยจริง ๆเห็นห้องที่รายล้อมไปด้วยผู้คน แต่มีไม่กี่คนที่ยุ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธ "พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกัน? ไม่รู้เลยรึไงว่าควรทำอะไร ยังไม่ย้ายไปที่ห้องคลอดอีก?"อวี่เหวินห่าวขมวดคิ้ว "เสด็จแม่ อย่าตะโกน อย่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ทำข้าตกใจได้ แต่อย่าทำให้เหล่าหยวนตกใจ"เขาเพิ่งเป็นลมจากความกลัว และฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน ตอนนี้เหล่าหยวนบอกว่าความดันโลหิตของเขาพุ่งสูงขึ้นมาก จนเขาจะเป็นลมอีกครั้งได้ทุกเมื่อ เขาตกใจจนทนไม่ไหวหลังจากได้ยินเช่นนี้ พระสนมเสียนเฟยก็โกรธแต่
เสียนเฟยถึงกับสะอึก ใบหน้าของนางก็ดำคล้ำด้วยความโมโหทันทีนางพูดไม่ออก แต่นางรู้สึกผิดหวังมากในใจ นางมองไปที่หยวนชิงหลิงที่นอนเอนกุมท้องนาง นางทำใจร้ายมองไปทางคนพวกนั้นอย่างเย็นชา ทั้งหมอหลวงและหมอตำแยที่อยู่ข้างใน นางพูดอย่างเคร่งเครียด "คุกเข่ารับพระราชเสาวนีย์ ไทเฮาทรงมีพระราชเสาวนีย์"ทุกคนคุกเข่าลง แม้ว่าอวี่เหวินห่าวจะโกรธอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังคุกเข่าลงเพื่อรับพระราชเสาวนีย์ของเสด็จย่าเสียนเฟยพูดเสียงดัง "ไทเฮาทรงมีรับสั่งว่า หากพระชายาฉู่ประสบเหตุอันตรายใด ๆ ระหว่างการคลอดบุตร เด็กที่คลอดมานั้นสำคัญที่สุด จะใช้ยาหรือวิธีใดก็ได้ จะต้องปกป้องเด็กเอาไว้ให้ได้...”ในประโยคสุดท้าย นางมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชา "แม้ว่าจะต้องเสียสละแม่ก็ตาม!"หยวนชิงหลิงกำลังมีอาการหดเกร็งจะคลอดนั้น เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ ก็ตกใจจนหน้าซีดลงในทันทีอวี่เหวินห่าวลุกขึ้นมาทันทีและพูดอย่างเย็นชา "เสด็จแม่ถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์ปลอม ไม่รู้หรือว่านี่เป็นโทษร้ายแรง"เขาเหลือบมองฝูงชนอย่างเย็นชา “ข้าสงสัยว่าเป็นพระราชเสาวนีย์ปลอม ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องสนใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พระชายาคือสิ่งสำคัญที่
หยวนชิงหลิงจับมือของเขา "เข้าใจแล้ว ท่านให้ใครสักคนช่วยดูหน่อยเถิด พิธีสักการะบูชาฟ้าดินเสร็จเมื่อไหร่ ให้พาท่านเจ้าอาวาสกลับมาทันที""อย่ากังวล กู้ซีออกไปแล้ว" อวี่เหวินห่าวพูดเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ปล่อยนาง และยื่นมือออกไปจัดผมของนาง "เจ็บมากไหม?"หยวนชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และปรับลมหายใจของนาง "ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่เจ็บมากแล้ว การหดตัวก็ไม่รุนแรงขนาดนั้น ยังทนได้อยู่"ดวงตาของอวี่เหวินห่าวดูเหมือนจะร้อนผ่าวขึ้นมา และเสียงของเขาก็เช่นเดียวกัน เขาพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า "ข้าเกลียดที่เจ็บแทนเจ้าไม่ได้"หยวนชิงหลิงยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าที่ผอมตอบของเขา "ช่วงนี้ท่านไม่ได้ดีไปกว่าข้าเลย ข้าจะไม่ทิ้งท่านไว้ตามลำพัง ไม่ต้องกังวลไปนะ"คำพูดเหล่านี้ช่างเสียดแทงใจดำของเขาเขาไม่เคยเห็นหน้าเด็ก และไม่ได้อยู่กับเด็กมาตลอดเก้าเดือน ความรักที่เขามีต่อเด็กนั้นก็ไม่ลึกซึ้งเท่าเหล่าหยวนเขาหวังเพียงให้นางรอดจากการทดสอบนี้ แม้ว่านางจะสูญเสียลูกไป เขาก็ไม่สนใจ ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เขาแทบน้ำตาตกใน แต่วินาทีต่อมา เขาก็เงยหน้ายิ้ม “พูดได้ดี ก่อนอายุร้อยปีจะไม่มีใครทิ้งใครก่อน”"ได้ ก่อน
เสียนเฟยคิดว่านางเป็นต้นเหตุของหายนะ นางจึงมีความคิดชั่วร้ายโหดเหี้ยมขึ้นมา นางหันหลังกลับออกไปเรียกให้หูโม่โม่มาคุยด้วย"พระนางมีรับสั่งอะไรหรือเพคะ?" หูโม่โม่เข้าไปไม่ได้ ตอนที่อยู่รับใช้ที่ตำหนักเสี่ยวเยว่ จึงได้พบพระชายาครู่หนึ่งเสียนเฟยถามว่า "โม่โม่ เจ้าเองก็เห็นแล้ว เจ้าคิดว่าพระชายามีแรงคลอดบุตรหรือไม่?"หูโม่โม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "เรื่องนี้...พระนางอย่ากังวลไปเลยเพคะ ที่นี่มีหมอหลวงมากมาย พระชายาจะต้องไม่เป็นอะไรเพคะ"เสียนเฟยกดมือของนางด้วยแววตาเย็นเยียบ "นางจะเป็นอะไรหรือไม่นั้นข้าไม่สน ข้าแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของหลานชายของข้าเท่านั้น มีคำหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้าไว้ก่อน หากตอนคลอดมีอะไรเกิดขึ้น ปกป้องเด็กเอาไว้ไม่ต้องสนแม่ ทุกคนน่าจะคิดอย่างนั้น แต่ลูกห้ากลับห้ามไว้ เมื่อถึงเวลาก็หาทางเอาตัวเขาออกไป ข้ากลัวเขาจะตามเข้าไปในห้องคลอด”หูโม่โม่ตกตะลึง "นี่... พระนางมองโลกในแง่ร้ายเกินไปรึเปล่าเพคะ นางยังไม่คลอดลูกเลย"เสียนเฟยกล่าวว่า "โม่โม่ เห็นพวกสนมคลอดทารกมากมายในวัง เจ้าไม่รู้หรือว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของนาง มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะคลอดลูกทั้งสามคนอย่างราบรื่น"ใ
แม้ว่านางไมใช่สูติแพทย์ แต่ทั้งหมอหลวงและหมอตำแยกล่าวว่า ด้วยความเจ็บปวดแบบนี้ คาดว่านางจะต้องคลอดบุตรภายในหนึ่งชั่วโมงแต่เจ้าอาวาสยังไม่กลับมาอดทนรอไม่ไหว ลองคลอดธรรมชาติไม่ได้ เสียนเฟยอยู่ข้างนอก เพิ่งเรียกหมอหลวงและคนอื่น ๆ ออกไป ไม่รู้ว่านางกำลังวางแผนอะไรอยู่ นางไม่สามารถฝากชีวิตของตัวเองและลูกไว้กับพวกเขาได้ นอกจากนี้ฮูหยินเจียงหนิงยังไม่มีประสบการณ์มากนัก และต้องการคำแนะนำของนางเองเมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว นางค่อย ๆ ลุกขึ้นและพูดกับเจ้าห้า ฮูหยินเจียงหนิง และอาซื่อว่า "เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าห้องผ่าตัด"อวี่เหวินห่าวสูดหายใจเข้าลึกทันที กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างของเขาหดเกร็งขึ้นมาทันทีพวกเขาผลัดกันเดินไปหลังฉากเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทีละคน นางข้าหลวงสี่ดึงหมอตำแยที่ใต้เท้าชุ่ยแนะนำเข้ามา และพูดว่า "ถึงตอนนั้นเจ้าช่วยได้ เจ้ามีประสบการณ์"หยวนชิงหลิงอาศัยจังหวะช่วงหดเกร็งที่ยังพอมีแรงพูดอะไรได้อยู่บ้างนี้ นางขอให้อวี่เหวินห่าวช่วยประคองนางนั่ง นางมองไปที่คณะหมอและหมอหลวงและพูดว่า "ขอบคุณที่สละเวลาดูแลข้าด้วยความห่วงใย แต่ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ข้าอ่อนแอ และมันยากที่จะแบกรับความเจ็บป
อวี่เหวินห่าวเดินหลีกออกไปไม่ให้นางเข้าใกล้ เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าของเขาเปื้อน และไม่พูดต่อล้อต่อเถียงไร้สาระกับนาง เขาหยิบสเปรย์ที่หยวนชิงหลิงวางไว้ก่อนหน้านี้ฉีดใส่ตัวเองแล้วเข้าไปทันที ประตูปิดลง เขาตะโกนออกมาจากข้างในว่า "กู้ซี ถังหยาง เฝ้าประตู หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ฝ่าบาทก็เข้ามาไม่ได้"กู้ซีและถังหยางระดมกององค์รักษ์ และทหารหลวงล้อมรอบห้องผ่าตัดทั้งหมดอย่างแน่นหนาทันที กู้ซี ถังหยาง ก็เข้ามาเฝ้าประตูห้องด้านนอกและห้องด้านใน กอดอกเหมือนเทพทวารบาลสององค์ เสียนเฟยโมโหจนหัวใจของนางปวดร้าวไป นางกดหน้าอกตัวเองและพูดอย่างเย็นชา “ได้ แม่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของเจ้าเอง แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่ามัน มันช่างปวดใจเหลือใจ หากภายภาคหน้าเกิดอะไรขึ้น อย่าได้มาขอร้องแม่คนนี้”หูโม่โม่เข้ามาปลอบนางและพูดว่า "พระนาง โปรดสงบสติอารมณ์ด้วยเพคะ ท่านอ๋องทำอะไรไม่ได้เลย พระชายาเองกำลังท้องแฝดสาม ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานการณ์พิเศษ ควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษโดยไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ "เสียนเฟยรู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อได้ยินเช่นนี้นางรู้สึกหมดหนทางและโดดเดี่ยวไม่มีใครเข้าใจความพยายามอย่างยากลำบากขอ
พิธีสักการะบูชาฟ้าดินครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก เหล่าขุนนาง ทหาร และพลเรือนต่างก็มาเข้าร่วมด้วยใต้ปะรำพิธีมีผู้คนมากมายสายตาของอ๋องอันเฉียบคมมาก เมื่อเขาเห็นซูยี่มองไปที่เจ้าอาวาส เจ้าภาพกำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อท่ามกลางฝูงชน อ๋องอันยิ้มเย็น แน่นอนว่าเขาเดาถูก เจ้าอาวาสคือกุญแจสำคัญเมื่อพิธีสักการะบูชาฟ้าดินสิ้นสุดลง เขาจะสั่งให้คนไปขัดขวางซูยี่ และไม่อนุญาตให้เขาเข้าใกล้เจ้าอาวาสจักรพรรดิหมิงหยวนขอให้เจ้าอาวาสขึ้นราชรถไปด้วยกัน หลังจากพิธีสักการะบูชาฟ้าดินแล้ว พระองค์ก็เสด็จกลับวังหลวงเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่บรรพบุรุษของตระกูลอวี่เหวินซูยี่สลัดคนของอ๋องอันหลุดได้แล้ว แต่เขาทำได้เพียงเฝ้าดูราชรถหายลับไปเขากระทืบเท้าและรีบไล่ตามไป แต่เข้าไปไม่ได้เพราะทหารคุ้มกันและมีฝูงชนจำนวนมาก เสียงนั้นดังมาก จนเขาตะโกนคอแทบแตกเจ้าอาวาสก็ไม่ได้ยินเขาทำได้เพียงขี่ม้ากลับไปที่จวนอย่างรวดเร็ว และขอให้ท่านอ๋องรีบหยุดราชรถของฝ่าบาทในห้องคลอด อวี่เหวินห่าวเห็นว่าท้องของหยวนชิงหลิงถูกผ่าออกและขยายใหญ่ขึ้น เผยให้เห็นรอยเลือดสีแดงเหมือนปากของสัตว์ประหลาดน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัวไ