ใบหน้าอ๋องฉีมีรอยช้ำอยู่หลายจุด ทั้งแดงทั้งเขียวเต็มหน้าไปทั่วทั้งหน้าอวี่เหวินห่าวถามว่า "เจ้าโดนไม้ฟาดหน้ามารึ?"สีหน้าอ๋องฉีดูไม่ได้ เขากระซิบเบา ๆ “เกี่ยวอะไรกับท่าน? อย่ายุ่งน่า”หยวนหยงอี้จึงอธิบายว่า “ใช่ ถูกตีมา ข้าพาเขาไปเจอเจ้าอาวาสวัดฮูกั๋ว ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเขาถูกผีเข้า เลยทำการปัดเป่าวิญญาณร้ายให้”“อ๋อ ทำไมถึงไปวัดเพื่อถามเรื่องพวกนี้กันเล่า?” อวี่เหวินห่าวถามขึ้นมาหยวนหยงอี้มองไปที่อ๋องฉี นึกขึ้นได้ว่าห้ามพูดเรื่องที่เขาเจ็บป่วย จึงหัวเราะแห้งและเอ่ยว่า “ข้าไม่ได้ตั้งใจไปถาม”อ๋องฉีกลัวว่านางจะพูดจาเหลวไหล จึงลุกขึ้นดึงตัวอวี่เหวินห่าวไปคุยที่ด้านนอกหยวนหยงอี้คุยกับหยวนชิงหลิงอย่างมีความสุขว่า “ข้าได้ยินมาว่าในท้องพี่หยวนเป็นแฝดสาม ดีจริงเชียว”หยวนชิงหลิงยิ้มและมองนาง “อาการป่วยเขาดีขึ้นบ้างไหม?”หยวนหยงอี้ส่ายหน้า “ไม่รู้สิ เขาก็ไม่ยอมไปตรวจดู ข้าไปหาท่านย่าเพื่อที่จะคุยเรื่องนี้ ท่านย่าบอกว่า ถ้ารักษาไม่มีหวัง ให้ไปถามท่านเจ้าอาวาส ให้ลองตรวจดวงชะตาดู ไม่เช่นนั้นจะพาเขาไปไหม?”“ท่านเจ้าอาวาสว่าอย่างไร?”“ไม่เป็นอะไร แต่ว่ามีวิญญาณร้ายคอยตามติด”หยวนชิง
หมานเอ๋อร์รีบไปเชิญอวี่เหวินห่าวมาทันทีเมื่ออวี่เหวินห่าวได้ยินเข้า เขากับอ๋องฉีรีบร้อนจะออกไปในทันทีอวี่เหวินห่าวที่โกรธจนหน้าดำไปหมดแล้วเป็นเพราะเขาถูกโบยก่อนหน้านี้ ถังหยางจึงไปหาพระอาจารย์ ถามได้ความมาว่า ที่จวนอ๋องฉู่ช่วงนี้จะมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น ให้ระวังกันหน่อย ดังนั้นเขาจึงกังวลใจเรื่องนี้มาตลอดตอนนี้ได้ยินว่ามีคนทำของใส่ และยังใช้คุณไสยสกปรกเช่นนี้มาทำร้ายท้องของเหล่าหยวน เขาจะทนไหวได้อย่างไรแต่เขาก็ไม่ได้ขาดสติ และถามอย่างเย็นชาว่า “จู่ ๆ มาเชิญกันเช่นนี้ พวกเราก็กันไปสักหน่อย ข่าไม่สนว่าใครเป็นคนทำ วันนี้ต้องได้คำตอบให้ได้”หยวนชิงหลิงนั้นเชื่อในตัวพระชายาจี้ไม่ใช่ว่าพระชายจี้เป็นคนดี หรือว่าตอนนี้นางป่วย และจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากนางถ้าหากพระชายาจี้จะซ่อนของแบบนี้ในห้องพระจริง คุณหนูรองฉู่คงเข้าไปหาไม่ได้หรอกนี่เป็นการใส่ร้ายการใส่ร้ายนี้เกิดขึ้นโดยไม่ให้พระชายาจี้ได้ทันตั้งตัว เกรงว่าไม่ใช่ฝีมือคุณหนูรองฉู่เพียงคนเดียวทางด้านอ๋องจี้ที่บอกจะจับตัวนางเข้าวังนั้น ไม่รู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?ถ้าเขามีส่วนร่วมกับแผนชั่วของฉู่หมิงหยาง เพื่อช่
ดูเหมือนว่าพระชายาจี้แค่รอให้อวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงมาถึงเท่านั้นนางค่อย ๆ ลุกขึ้น และเดินไปตรงหน้าอวี่เหวินห่าว “เจ้าห้า เอาตุ๊กตาตัวนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”พูดเสร็จก็ยื่นมือออกไปเพราะอาการป่วยของนาง จึงทำให้นางผอมลงมาก มือที่ยื่นออกมาผอมแห้งติดกระดูกไม่มีเนื้อเลยสักนิดอวี่เหวินห่าวเอาตุ๊กตานั้นวางไว้ในมือนางนางพลิกดูมันอย่างละเอียด และดึงปิ่นออกมาแกะดูฝ้ายข้าในอย่างละเอียดอีกด้วยอ๋องจี้ลุกขึ้นและจับข้อมือนางไว้ พร้อมเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจะเสแร้งไปทำไม? มันถูกเจอในห้องพระของเจ้า ไม่ใช่เจ้าก็ต้องเป็นคนของเจ้า ยังมีอะไรต้องอธิบายอีก? เข้าวังกับข้า ให้เสด็จพ่อทรงตัดสิน”ๆพระชายาจี้เม้มปากยิ้มมองอ๋องจี้ด้วยสายตาประชดประชันเล็กน้อย และพูดอย่างอ่อนแรง "อย่ากังวลไปเลย ท่านอ๋อง เข้าวังแน่ แต่ก่อนเข้าวังเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วยังต้องคุยกับผู้ว่าจวนจิ้งเป่าด้วย ในเมื่อพวกเรากำลังจะเข้าวัง หรืออาจจะไปที่สำนักผู้ตรวจการด้วยกันอยู่แล้ว ท่านอ๋องปล่อย และฟังข้าก่อนสักสองสามคำ”“เรื่องมาถึงขั้นนี้ยังจะพูดอะไรอีก?” แววตาอ๋องจี้จริงจัง.และจะลากนางออกไป หลังจากนั้นก็
ฉู่หมิงหยางรู้ว่าฝืนใช้แรงกับนางไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงชักมือกลับและเชอะใส่แล้วเงียบไม่พูดอะไรอีกพระชายาจี้ที่ได้ยินอวี่เหวินห่าวพูดก็ตกใจ และจ้องมองไปทางเขาในใจนางตอนนี้สับสนยิ่งนัก และขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยนานมาแล้ว นานมากจริง ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นนางที่รับผิดชอบและจัดการเพียงคนเดียว ไม่เคยมีใครยื่นมือเข้าช่วย นอกจากบ้านแม่นางแล้ว นางก็พยายามด้วยตัวคนเดียวมาตลอดที่จริงนางให้เพ่ย์เอ๋อร์พาหยวนชิงหลิงมา ไม่ใช่เพื่อให้นางมาช่วย แค่อยากให้นางมาเป็นพยายาน ในขณะเดียวกัน เรื่องนี้ต้องถึงหูหยวนชิงหลิงไม่ช้าก็เร็ว นางหวังว่าหยวนชิงหลิงจะไม่เข้าใจผิดนางเท่านั้นดังนั้น เมื่อเห็นสีหน้าอ๋องจี้ซีดเผือดเช่นนั้น นางจึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมา “วันนี้ข้าว่าจะไปที่จวนอ๋องฉู่ แต่ถูกคนห้ามไว้ บอกว่าชายารองเข้าไปที่ห้องพระของข้า และเจ้าตุ๊กตานี่ซ่อนอยู่หลังพระพุทธรูป ท่านอ๋องสั่งให้ข้ากลับจวน ข้าไม่เคยเห็นตุ๊กตาตัวนี้มาก่อน และไม่รู้ยามตกฟากพระชายาฉู่ด้วย ดังนั้นย่อมไม่ใช่ข้า และข้าก็ไม่รู้จักการทำคุณไสย”อ๋องจี้ยิ้มเย้ยหยัน “มันเจอในห้องพระของเจ้า ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร?”พระชายาจี้มองไปที่เขาและ
พระชายาจี้พูดจบก็มองไปยังฉู่หมิงหยาง “ชายารองเจ้ามีอะไรจะแย้งข้าหรือไม่?”ฉู่หมิงหยางที่ได้ยินเช่นนั้น ไม่สนว่าจะถูกตบอีก จึงมองไปที่พระชายาจี้ด้วยสายตาดำมืด “ข้ออ้าง!”“จะใช่ข้ออ้างหรือไม่ตรวจสอบดูก็รู้ พอดีเลยที่ผู้ว่าจวนจิ้งเป่าอยู่ที่นี่ด้วย” พระชายาจี้กล่าวฉู่หมิงหยางหัวเราะเยาะออกมา “ผู้ว่าจวนจิ้งเป่า? ต้องกลัวงั้นรึ เขาถูกปลดนานแล้ว”หยวนหยงอี้พูดอย่างเฉยชา ”นั้นมันเรื่องก่อนหน้า ตอนนี้ฝ่าบาทได้แต่งตั้งอ๋องฉู่ให้กลับไปดำรงตำแหน่ง เจ้าไม่รู้หรอกรึ? ตอนนี้เขายังเป็นผู้ว่าจวนจิ้งเป่าเหมือนเดิม”ฉู่หมิงหยางยิ้มเย้ยหยัน “งั้นรึ? กลับไปดำรงตำแหน่งเดิม? เจ้าบอกว่าเช่นนั้น? ไหนล่ะราชโองการ? ไหนล่ะหนังสือแต่งตั้ง?”อวี่เหวินห่าวสั่งการลงไปอย่างนิ่ง ๆ “ซูยี่เจ้าไปที่สำนักผู้ตรวจการถ่ายทอดคำสั่งข้า ไปเชิญเจ้าหน้าที่ฝูเฉิงมาและสั่งคนไปทั้โรงเรียนหลวงกั๋วจือเจียนเชิญใต้เท้าเหลิ่งจิ้งเหยียน ข้าอยากให้เขามาพิสูจน์อักษร”อ๋องจี้พูดอย่างโกรธเคือง “ช้าก่อน เจ้าห้าอย่าทำเกินไปนัก เรื่องภายในจวนข้า ไม่ต้องไปถึงสำนักผู้ตรวจการหรอก”อวี่เหวินห่าวเอ่ยอย่างเย็นชา “ในเมื่อพี่ใหญ่จะไปทูลเสด็จพ่อ
เขาใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกไป วาดกระบี่สลัดสองคนออกไปให้พ้นทาง เพื่อมาช่วยอาซื่ออาซื่อพูดออกมา “ขอบคุณท่านอ๋องมาก!”“ไปปกป้องพระชายา!” อวี่เหวินห่าวร่อนลงมาอย่างช้า ๆ และทะยานขึ้นไปต่อ แล้ววาดขาเตะทหารที่อยู่ตรงหน้าหยวนหยงอี้ออกไป และหันมาพูดกับอาซื่อแต่อาซื่อไม่ได้กลับไป ทางนั้นมีหมานเอ๋อร์ก็เกินพอแล้ว นางอยู่ช่วยอวี่เหวินห่าวและหยวนหยงอี้ต่อหยวนชิงหลิงรู้สึกจุกอยู่ในคอ ข้างนอกทหารมากมายเช่นนี้ อาการบาดเจ็บของเขาเพิ่งฟื้นตัว หากต่อสู้กันขึ้นมา แม้ทหารจะจำได้ว่าเขามีฐานะเป็นถึงท่านอ๋อง ไม่กล้าที่จะลงมือรุนแรง แต่ก็ต้องทรมานจากอาการบาดเจ็บอยู่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วรยุทธ์ของเขายังแย่นัก สู้กับกู้ซีทีไร ถูกเขาตีจนหน้าเขียวหน้าบวมไปหมดหมานเอ๋อร์พูดปลอบว่า “พระชายาวางใจเถอะเพคะ ท่านอ๋องต้องช่วยซูยี่ฝ่าออกไปได้แน่เพคะ”แต่เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวลงมืออย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว เขาวาดกระบี่เป็นวงกลมและรัวเตะคู่ต่อสู้ แต่ไม่ได้ลงมือหนัก แค่เตะผลักออกไปเท่านั้นประกายดาบที่ปะทะกัน เห็นเขายังรับมือได้ง่ายดาย ถึงจะถูกล้อมอยู่หลายครั้ง แต่ก็เห็นร่างสีขาวของเขาทะยานขึ้นมา และร่อนลงวาดกระบี่ หล
นี่ทำให้ฉู่หมิงหยางโกรธเป็นอย่างมาก นางตะคอกเสียงดัง “หยวนชิงหลิง ข้าไม่ทำร้ายเจ้า แต่เจ้าทำร้ายข้ารึ?”นางยกมือสะบัดแส้เสียงดังราวกับฟ้าผ่า แส้สะบัดเสียงแหลมตรงไปจะฟาดเข้าที่ท้องของหยวนชิงหลิงหมานเอ๋อร์ตกใจมาก ไม่สนว่าตอนนี้จะกลัวอย่างไร นางคว้าแส้มือเปล่าและจับมันไว้แน่น ฉู่หมิงหยางแค่นหัวเราะ แล้วดึงแส้กลับ แส้นั้นมีหนามแหลม เมื่อดึงกลับก็ครูดมือหมานเอ๋อร์จนเลือดไหลนองไปหมดหยวนชิงหลิงที่เห็นก็โกรธจนปวดท้องไปหมด นางยกไม้เท้ากระหน่ำฟาดลงไป หมานเอ๋อร์ที่ปกป้องนางอยู่ ฉู่หมิงหยางก็ดึงแส้สู้กลับไม่ได้ จึงทิ้งแส้ในมือ และคู้ตัวหลบและตะโกนเสียงดังว่า “ท่านอ๋องช่วยข้าด้วย”อ๋องจี้หันกลับมาเห็นนางถูกหยวนชิงหลิงทุบตี จึงวิ่งกลับมาช่วย คาดไม่ถึงว่าพระชายาจี้จะออกมาขวางไว้ และเอ่ยย่างเย็นชาว่า “ท่านอ๋อง ละครของท่านวันนี้คงไม่คิดสินะว่าจะมีคนมาร่วมเยอะเช่นนี้? เพื่อหย่ากับข้า ท่านต้องลำบากมากจริง ๆ”“หญิงบ้า ไสหัวไป!” อ๋องจี้เป็นห่วงฉู่หมิงหยาง จึงยกมือตบลงไปเขาในตอนนี้เกลียดพระชายาจี้ยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อเห็นใบหน้าซูบเซียวของนางพระชายาจี้ร่างกายอ่อนแอ แค่ตบลงไปทีเดียวนางก็เกือบล้มพับ
อ๋องจี้จ้องมองเขาอย่างเย็นชา และมองไปทางอ๋องฉี “เจ้าเจ็ด ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม หากเสด็จพ่อถามขึ้นมา เจ้าก็เลี่ยงความผิดไม่ได้ ถ้าไม่อยากโดนลูกหลงแล้วล่ะก็ รีบพาชายารองของเจ้าไปซะ”อ๋องฉีไม่เคยก่อเรื่อง และด้วยนิสัยรักสงบของเขานั้น อีกทั้งยังเป็นบุตรของฮองเฮายิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาพี่น้อง เขาสนิทกับเจ้าห้าที่สุด แต่เรื่องเขาเองก็เป็นคนที่ไม่เคยล่วงเกินผู้อื่นโดยเฉพาะสำหรับพี่ใหญ่ ก็มีความยำเกรงอยู่ไม่น้อยอ๋องจี้แค่อยากไล่เขาไป เรื่องวันนี้หากไปถึงหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ ก็ค่อยอธิบาย ตราบใดที่เขาปฏิเสธอย่างหัวเด็ดตีนขาดเรื่องตุ๊กตาเล่นของ ก็เอาผิดเขาไม่ได้อ๋องฉียืนนิ่งท่าทางลังเลหยวนหยงอี้ก้าวมายืนหน้าอ๋องฉีและพูดว่า “พวกเราไม่ไป รอคนจากสำนักผู้ตรวจก่อนมาเถอะ เรื่องวันนี้พวกเราเห็นกับตา ล้วนเป็นพยานได้”อ๋องฉีพูดขึ้นมาทันที “ถูกต้อง พวกเราไม่ไป”อ๋องจี้โกรธมาก “เจ้า...”อวี่เหวินห่าวถือกระบี่และพูดเรียบเฉยว่า "พี่ใหญ่ ท่านอยากสู้จนถึงที่สุดหรือไม่? วันนี้ข้าจะสู้ตายกับท่าน"อ๋องจี้หน้าเขียวไปหมด เขาเงียบแล้วหันไปมองพระชายาจี้อย่างดุร้ายสถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ เขาไม่เคยคาด