Share

บทที่ 806

Author: จูน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ใบหน้าอ๋องฉีมีรอยช้ำอยู่หลายจุด ทั้งแดงทั้งเขียวเต็มหน้าไปทั่วทั้งหน้า

อวี่เหวินห่าวถามว่า "เจ้าโดนไม้ฟาดหน้ามารึ?"

สีหน้าอ๋องฉีดูไม่ได้ เขากระซิบเบา ๆ “เกี่ยวอะไรกับท่าน? อย่ายุ่งน่า”

หยวนหยงอี้จึงอธิบายว่า “ใช่ ถูกตีมา ข้าพาเขาไปเจอเจ้าอาวาสวัดฮูกั๋ว ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเขาถูกผีเข้า เลยทำการปัดเป่าวิญญาณร้ายให้”

“อ๋อ ทำไมถึงไปวัดเพื่อถามเรื่องพวกนี้กันเล่า?” อวี่เหวินห่าวถามขึ้นมา

หยวนหยงอี้มองไปที่อ๋องฉี นึกขึ้นได้ว่าห้ามพูดเรื่องที่เขาเจ็บป่วย จึงหัวเราะแห้งและเอ่ยว่า “ข้าไม่ได้ตั้งใจไปถาม”

อ๋องฉีกลัวว่านางจะพูดจาเหลวไหล จึงลุกขึ้นดึงตัวอวี่เหวินห่าวไปคุยที่ด้านนอก

หยวนหยงอี้คุยกับหยวนชิงหลิงอย่างมีความสุขว่า “ข้าได้ยินมาว่าในท้องพี่หยวนเป็นแฝดสาม ดีจริงเชียว”

หยวนชิงหลิงยิ้มและมองนาง “อาการป่วยเขาดีขึ้นบ้างไหม?”

หยวนหยงอี้ส่ายหน้า “ไม่รู้สิ เขาก็ไม่ยอมไปตรวจดู ข้าไปหาท่านย่าเพื่อที่จะคุยเรื่องนี้ ท่านย่าบอกว่า ถ้ารักษาไม่มีหวัง ให้ไปถามท่านเจ้าอาวาส ให้ลองตรวจดวงชะตาดู ไม่เช่นนั้นจะพาเขาไปไหม?”

“ท่านเจ้าอาวาสว่าอย่างไร?”

“ไม่เป็นอะไร แต่ว่ามีวิญญาณร้ายคอยตามติด”

หยวนชิง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 807

    หมานเอ๋อร์รีบไปเชิญอวี่เหวินห่าวมาทันทีเมื่ออวี่เหวินห่าวได้ยินเข้า เขากับอ๋องฉีรีบร้อนจะออกไปในทันทีอวี่เหวินห่าวที่โกรธจนหน้าดำไปหมดแล้วเป็นเพราะเขาถูกโบยก่อนหน้านี้ ถังหยางจึงไปหาพระอาจารย์ ถามได้ความมาว่า ที่จวนอ๋องฉู่ช่วงนี้จะมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น ให้ระวังกันหน่อย ดังนั้นเขาจึงกังวลใจเรื่องนี้มาตลอดตอนนี้ได้ยินว่ามีคนทำของใส่ และยังใช้คุณไสยสกปรกเช่นนี้มาทำร้ายท้องของเหล่าหยวน เขาจะทนไหวได้อย่างไรแต่เขาก็ไม่ได้ขาดสติ และถามอย่างเย็นชาว่า “จู่ ๆ มาเชิญกันเช่นนี้ พวกเราก็กันไปสักหน่อย ข่าไม่สนว่าใครเป็นคนทำ วันนี้ต้องได้คำตอบให้ได้”หยวนชิงหลิงนั้นเชื่อในตัวพระชายาจี้ไม่ใช่ว่าพระชายจี้เป็นคนดี หรือว่าตอนนี้นางป่วย และจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากนางถ้าหากพระชายาจี้จะซ่อนของแบบนี้ในห้องพระจริง คุณหนูรองฉู่คงเข้าไปหาไม่ได้หรอกนี่เป็นการใส่ร้ายการใส่ร้ายนี้เกิดขึ้นโดยไม่ให้พระชายาจี้ได้ทันตั้งตัว เกรงว่าไม่ใช่ฝีมือคุณหนูรองฉู่เพียงคนเดียวทางด้านอ๋องจี้ที่บอกจะจับตัวนางเข้าวังนั้น ไม่รู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?ถ้าเขามีส่วนร่วมกับแผนชั่วของฉู่หมิงหยาง เพื่อช่

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 808

    ดูเหมือนว่าพระชายาจี้แค่รอให้อวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงมาถึงเท่านั้นนางค่อย ๆ ลุกขึ้น และเดินไปตรงหน้าอวี่เหวินห่าว “เจ้าห้า เอาตุ๊กตาตัวนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”พูดเสร็จก็ยื่นมือออกไปเพราะอาการป่วยของนาง จึงทำให้นางผอมลงมาก มือที่ยื่นออกมาผอมแห้งติดกระดูกไม่มีเนื้อเลยสักนิดอวี่เหวินห่าวเอาตุ๊กตานั้นวางไว้ในมือนางนางพลิกดูมันอย่างละเอียด และดึงปิ่นออกมาแกะดูฝ้ายข้าในอย่างละเอียดอีกด้วยอ๋องจี้ลุกขึ้นและจับข้อมือนางไว้ พร้อมเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจะเสแร้งไปทำไม? มันถูกเจอในห้องพระของเจ้า ไม่ใช่เจ้าก็ต้องเป็นคนของเจ้า ยังมีอะไรต้องอธิบายอีก? เข้าวังกับข้า ให้เสด็จพ่อทรงตัดสิน”ๆพระชายาจี้เม้มปากยิ้มมองอ๋องจี้ด้วยสายตาประชดประชันเล็กน้อย และพูดอย่างอ่อนแรง "อย่ากังวลไปเลย ท่านอ๋อง เข้าวังแน่ แต่ก่อนเข้าวังเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วยังต้องคุยกับผู้ว่าจวนจิ้งเป่าด้วย ในเมื่อพวกเรากำลังจะเข้าวัง หรืออาจจะไปที่สำนักผู้ตรวจการด้วยกันอยู่แล้ว ท่านอ๋องปล่อย และฟังข้าก่อนสักสองสามคำ”“เรื่องมาถึงขั้นนี้ยังจะพูดอะไรอีก?” แววตาอ๋องจี้จริงจัง.และจะลากนางออกไป หลังจากนั้นก็

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 809

    ฉู่หมิงหยางรู้ว่าฝืนใช้แรงกับนางไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงชักมือกลับและเชอะใส่แล้วเงียบไม่พูดอะไรอีกพระชายาจี้ที่ได้ยินอวี่เหวินห่าวพูดก็ตกใจ และจ้องมองไปทางเขาในใจนางตอนนี้สับสนยิ่งนัก และขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยนานมาแล้ว นานมากจริง ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นนางที่รับผิดชอบและจัดการเพียงคนเดียว ไม่เคยมีใครยื่นมือเข้าช่วย นอกจากบ้านแม่นางแล้ว นางก็พยายามด้วยตัวคนเดียวมาตลอดที่จริงนางให้เพ่ย์เอ๋อร์พาหยวนชิงหลิงมา ไม่ใช่เพื่อให้นางมาช่วย แค่อยากให้นางมาเป็นพยายาน ในขณะเดียวกัน เรื่องนี้ต้องถึงหูหยวนชิงหลิงไม่ช้าก็เร็ว นางหวังว่าหยวนชิงหลิงจะไม่เข้าใจผิดนางเท่านั้นดังนั้น เมื่อเห็นสีหน้าอ๋องจี้ซีดเผือดเช่นนั้น นางจึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมา “วันนี้ข้าว่าจะไปที่จวนอ๋องฉู่ แต่ถูกคนห้ามไว้ บอกว่าชายารองเข้าไปที่ห้องพระของข้า และเจ้าตุ๊กตานี่ซ่อนอยู่หลังพระพุทธรูป ท่านอ๋องสั่งให้ข้ากลับจวน ข้าไม่เคยเห็นตุ๊กตาตัวนี้มาก่อน และไม่รู้ยามตกฟากพระชายาฉู่ด้วย ดังนั้นย่อมไม่ใช่ข้า และข้าก็ไม่รู้จักการทำคุณไสย”อ๋องจี้ยิ้มเย้ยหยัน “มันเจอในห้องพระของเจ้า ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร?”พระชายาจี้มองไปที่เขาและ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 810

    พระชายาจี้พูดจบก็มองไปยังฉู่หมิงหยาง “ชายารองเจ้ามีอะไรจะแย้งข้าหรือไม่?”ฉู่หมิงหยางที่ได้ยินเช่นนั้น ไม่สนว่าจะถูกตบอีก จึงมองไปที่พระชายาจี้ด้วยสายตาดำมืด “ข้ออ้าง!”“จะใช่ข้ออ้างหรือไม่ตรวจสอบดูก็รู้ พอดีเลยที่ผู้ว่าจวนจิ้งเป่าอยู่ที่นี่ด้วย” พระชายาจี้กล่าวฉู่หมิงหยางหัวเราะเยาะออกมา “ผู้ว่าจวนจิ้งเป่า? ต้องกลัวงั้นรึ เขาถูกปลดนานแล้ว”หยวนหยงอี้พูดอย่างเฉยชา ”นั้นมันเรื่องก่อนหน้า ตอนนี้ฝ่าบาทได้แต่งตั้งอ๋องฉู่ให้กลับไปดำรงตำแหน่ง เจ้าไม่รู้หรอกรึ? ตอนนี้เขายังเป็นผู้ว่าจวนจิ้งเป่าเหมือนเดิม”ฉู่หมิงหยางยิ้มเย้ยหยัน “งั้นรึ? กลับไปดำรงตำแหน่งเดิม? เจ้าบอกว่าเช่นนั้น? ไหนล่ะราชโองการ? ไหนล่ะหนังสือแต่งตั้ง?”อวี่เหวินห่าวสั่งการลงไปอย่างนิ่ง ๆ “ซูยี่เจ้าไปที่สำนักผู้ตรวจการถ่ายทอดคำสั่งข้า ไปเชิญเจ้าหน้าที่ฝูเฉิงมาและสั่งคนไปทั้โรงเรียนหลวงกั๋วจือเจียนเชิญใต้เท้าเหลิ่งจิ้งเหยียน ข้าอยากให้เขามาพิสูจน์อักษร”อ๋องจี้พูดอย่างโกรธเคือง “ช้าก่อน เจ้าห้าอย่าทำเกินไปนัก เรื่องภายในจวนข้า ไม่ต้องไปถึงสำนักผู้ตรวจการหรอก”อวี่เหวินห่าวเอ่ยอย่างเย็นชา “ในเมื่อพี่ใหญ่จะไปทูลเสด็จพ่อ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 811

    เขาใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกไป วาดกระบี่สลัดสองคนออกไปให้พ้นทาง เพื่อมาช่วยอาซื่ออาซื่อพูดออกมา “ขอบคุณท่านอ๋องมาก!”“ไปปกป้องพระชายา!” อวี่เหวินห่าวร่อนลงมาอย่างช้า ๆ และทะยานขึ้นไปต่อ แล้ววาดขาเตะทหารที่อยู่ตรงหน้าหยวนหยงอี้ออกไป และหันมาพูดกับอาซื่อแต่อาซื่อไม่ได้กลับไป ทางนั้นมีหมานเอ๋อร์ก็เกินพอแล้ว นางอยู่ช่วยอวี่เหวินห่าวและหยวนหยงอี้ต่อหยวนชิงหลิงรู้สึกจุกอยู่ในคอ ข้างนอกทหารมากมายเช่นนี้ อาการบาดเจ็บของเขาเพิ่งฟื้นตัว หากต่อสู้กันขึ้นมา แม้ทหารจะจำได้ว่าเขามีฐานะเป็นถึงท่านอ๋อง ไม่กล้าที่จะลงมือรุนแรง แต่ก็ต้องทรมานจากอาการบาดเจ็บอยู่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วรยุทธ์ของเขายังแย่นัก สู้กับกู้ซีทีไร ถูกเขาตีจนหน้าเขียวหน้าบวมไปหมดหมานเอ๋อร์พูดปลอบว่า “พระชายาวางใจเถอะเพคะ ท่านอ๋องต้องช่วยซูยี่ฝ่าออกไปได้แน่เพคะ”แต่เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวลงมืออย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว เขาวาดกระบี่เป็นวงกลมและรัวเตะคู่ต่อสู้ แต่ไม่ได้ลงมือหนัก แค่เตะผลักออกไปเท่านั้นประกายดาบที่ปะทะกัน เห็นเขายังรับมือได้ง่ายดาย ถึงจะถูกล้อมอยู่หลายครั้ง แต่ก็เห็นร่างสีขาวของเขาทะยานขึ้นมา และร่อนลงวาดกระบี่ หล

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 812

    นี่ทำให้ฉู่หมิงหยางโกรธเป็นอย่างมาก นางตะคอกเสียงดัง “หยวนชิงหลิง ข้าไม่ทำร้ายเจ้า แต่เจ้าทำร้ายข้ารึ?”นางยกมือสะบัดแส้เสียงดังราวกับฟ้าผ่า แส้สะบัดเสียงแหลมตรงไปจะฟาดเข้าที่ท้องของหยวนชิงหลิงหมานเอ๋อร์ตกใจมาก ไม่สนว่าตอนนี้จะกลัวอย่างไร นางคว้าแส้มือเปล่าและจับมันไว้แน่น ฉู่หมิงหยางแค่นหัวเราะ แล้วดึงแส้กลับ แส้นั้นมีหนามแหลม เมื่อดึงกลับก็ครูดมือหมานเอ๋อร์จนเลือดไหลนองไปหมดหยวนชิงหลิงที่เห็นก็โกรธจนปวดท้องไปหมด นางยกไม้เท้ากระหน่ำฟาดลงไป หมานเอ๋อร์ที่ปกป้องนางอยู่ ฉู่หมิงหยางก็ดึงแส้สู้กลับไม่ได้ จึงทิ้งแส้ในมือ และคู้ตัวหลบและตะโกนเสียงดังว่า “ท่านอ๋องช่วยข้าด้วย”อ๋องจี้หันกลับมาเห็นนางถูกหยวนชิงหลิงทุบตี จึงวิ่งกลับมาช่วย คาดไม่ถึงว่าพระชายาจี้จะออกมาขวางไว้ และเอ่ยย่างเย็นชาว่า “ท่านอ๋อง ละครของท่านวันนี้คงไม่คิดสินะว่าจะมีคนมาร่วมเยอะเช่นนี้? เพื่อหย่ากับข้า ท่านต้องลำบากมากจริง ๆ”“หญิงบ้า ไสหัวไป!” อ๋องจี้เป็นห่วงฉู่หมิงหยาง จึงยกมือตบลงไปเขาในตอนนี้เกลียดพระชายาจี้ยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อเห็นใบหน้าซูบเซียวของนางพระชายาจี้ร่างกายอ่อนแอ แค่ตบลงไปทีเดียวนางก็เกือบล้มพับ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 813

    อ๋องจี้จ้องมองเขาอย่างเย็นชา และมองไปทางอ๋องฉี “เจ้าเจ็ด ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม หากเสด็จพ่อถามขึ้นมา เจ้าก็เลี่ยงความผิดไม่ได้ ถ้าไม่อยากโดนลูกหลงแล้วล่ะก็ รีบพาชายารองของเจ้าไปซะ”อ๋องฉีไม่เคยก่อเรื่อง และด้วยนิสัยรักสงบของเขานั้น อีกทั้งยังเป็นบุตรของฮองเฮายิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาพี่น้อง เขาสนิทกับเจ้าห้าที่สุด แต่เรื่องเขาเองก็เป็นคนที่ไม่เคยล่วงเกินผู้อื่นโดยเฉพาะสำหรับพี่ใหญ่ ก็มีความยำเกรงอยู่ไม่น้อยอ๋องจี้แค่อยากไล่เขาไป เรื่องวันนี้หากไปถึงหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ ก็ค่อยอธิบาย ตราบใดที่เขาปฏิเสธอย่างหัวเด็ดตีนขาดเรื่องตุ๊กตาเล่นของ ก็เอาผิดเขาไม่ได้อ๋องฉียืนนิ่งท่าทางลังเลหยวนหยงอี้ก้าวมายืนหน้าอ๋องฉีและพูดว่า “พวกเราไม่ไป รอคนจากสำนักผู้ตรวจก่อนมาเถอะ เรื่องวันนี้พวกเราเห็นกับตา ล้วนเป็นพยานได้”อ๋องฉีพูดขึ้นมาทันที “ถูกต้อง พวกเราไม่ไป”อ๋องจี้โกรธมาก “เจ้า...”อวี่เหวินห่าวถือกระบี่และพูดเรียบเฉยว่า "พี่ใหญ่ ท่านอยากสู้จนถึงที่สุดหรือไม่? วันนี้ข้าจะสู้ตายกับท่าน"อ๋องจี้หน้าเขียวไปหมด เขาเงียบแล้วหันไปมองพระชายาจี้อย่างดุร้ายสถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ เขาไม่เคยคาด

    Last Updated : 2024-10-29
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 814

    อวี่เหวินห่าวที่ได้ยินก็ยิ้มอย่างเหย่อหยิ่ง "พี่ใหญ่ยอมรับเองเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ข้ากับน้องต้องออกไปต่อสู้ พี่ยอมรับเช่นนี้ ก็ดี ก่อนหน้าท่านบอกว่าจะให้คำอธิบายกับข้า ตอนนี้พี่ใหญ่จะให้คำอธิบายกับข้าว่าอย่างไร?”เขาโกรธจนแทบอกแตกตาย แต่ต้องทนข่มใจไว้ ไม่ได้พูดอะไรกับเขาทั้งนั้นอ๋องจี้ยกมือขึ้นเรียกพวกทหารมาขอโทษอวี่เหวินห่าวพวกทหารก้าวไปข้างหน้าคุกเข่าลงเพื่อขออภัยโทษอวี่เหวินห่าวจูงมือหยวนชิงหลิงนั่งลงด้วยท่าทีเย็นชา “พี่ใหญ่ อย่ามาทำเฉไฉไม่ยอมพูด ถ้าคำอธิบายของท่านคือให้พวกเขาคุกเข่าขอโทษ ก็ไม่จำเป็น”อ๋องจี้วันนี้ตกอยู่ในกำมือเขา แค้นจนกัดฟันแน่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “เจ้าต้องการอะไร? คิดจะให้เรื่องนี้ถึงเสด็จพ่องั้นรึ?” อวี่เหวินห่าวมองเขาอย่างเย็นชา “เสด็จพ่อเกลียดเรื่องพวกนี้ที่สุด ”"เจ้าต้องการอะไร?” อ๋องจี้แอบถอนหายใจ เรื่องไม่ถึงเสด็จพ่อก็ถือว่าเป็นเรื่องดีอวี่เหวินห่าวดูเหมือนว่าจะตัดสินใจได้นานแล้ว และกล่าวว่า "หนึ่งแสนตำลึง ข้าจะใช้มันไปทำบุญให้กับเหล่าหยวนของข้า เพื่อปัดเป่าคำสาปแช่งของท่าน"อ๋องจี้โกรธจนหน้าเขียว “หนึ่งแสนตำลึง เจ้าไม่ขโมยมันไปเลยล่ะ?”อ

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

DMCA.com Protection Status