ฉู่หมิงหยางรู้ว่าฝืนใช้แรงกับนางไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงชักมือกลับและเชอะใส่แล้วเงียบไม่พูดอะไรอีกพระชายาจี้ที่ได้ยินอวี่เหวินห่าวพูดก็ตกใจ และจ้องมองไปทางเขาในใจนางตอนนี้สับสนยิ่งนัก และขอบตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยนานมาแล้ว นานมากจริง ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นนางที่รับผิดชอบและจัดการเพียงคนเดียว ไม่เคยมีใครยื่นมือเข้าช่วย นอกจากบ้านแม่นางแล้ว นางก็พยายามด้วยตัวคนเดียวมาตลอดที่จริงนางให้เพ่ย์เอ๋อร์พาหยวนชิงหลิงมา ไม่ใช่เพื่อให้นางมาช่วย แค่อยากให้นางมาเป็นพยายาน ในขณะเดียวกัน เรื่องนี้ต้องถึงหูหยวนชิงหลิงไม่ช้าก็เร็ว นางหวังว่าหยวนชิงหลิงจะไม่เข้าใจผิดนางเท่านั้นดังนั้น เมื่อเห็นสีหน้าอ๋องจี้ซีดเผือดเช่นนั้น นางจึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมา “วันนี้ข้าว่าจะไปที่จวนอ๋องฉู่ แต่ถูกคนห้ามไว้ บอกว่าชายารองเข้าไปที่ห้องพระของข้า และเจ้าตุ๊กตานี่ซ่อนอยู่หลังพระพุทธรูป ท่านอ๋องสั่งให้ข้ากลับจวน ข้าไม่เคยเห็นตุ๊กตาตัวนี้มาก่อน และไม่รู้ยามตกฟากพระชายาฉู่ด้วย ดังนั้นย่อมไม่ใช่ข้า และข้าก็ไม่รู้จักการทำคุณไสย”อ๋องจี้ยิ้มเย้ยหยัน “มันเจอในห้องพระของเจ้า ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร?”พระชายาจี้มองไปที่เขาและ
พระชายาจี้พูดจบก็มองไปยังฉู่หมิงหยาง “ชายารองเจ้ามีอะไรจะแย้งข้าหรือไม่?”ฉู่หมิงหยางที่ได้ยินเช่นนั้น ไม่สนว่าจะถูกตบอีก จึงมองไปที่พระชายาจี้ด้วยสายตาดำมืด “ข้ออ้าง!”“จะใช่ข้ออ้างหรือไม่ตรวจสอบดูก็รู้ พอดีเลยที่ผู้ว่าจวนจิ้งเป่าอยู่ที่นี่ด้วย” พระชายาจี้กล่าวฉู่หมิงหยางหัวเราะเยาะออกมา “ผู้ว่าจวนจิ้งเป่า? ต้องกลัวงั้นรึ เขาถูกปลดนานแล้ว”หยวนหยงอี้พูดอย่างเฉยชา ”นั้นมันเรื่องก่อนหน้า ตอนนี้ฝ่าบาทได้แต่งตั้งอ๋องฉู่ให้กลับไปดำรงตำแหน่ง เจ้าไม่รู้หรอกรึ? ตอนนี้เขายังเป็นผู้ว่าจวนจิ้งเป่าเหมือนเดิม”ฉู่หมิงหยางยิ้มเย้ยหยัน “งั้นรึ? กลับไปดำรงตำแหน่งเดิม? เจ้าบอกว่าเช่นนั้น? ไหนล่ะราชโองการ? ไหนล่ะหนังสือแต่งตั้ง?”อวี่เหวินห่าวสั่งการลงไปอย่างนิ่ง ๆ “ซูยี่เจ้าไปที่สำนักผู้ตรวจการถ่ายทอดคำสั่งข้า ไปเชิญเจ้าหน้าที่ฝูเฉิงมาและสั่งคนไปทั้โรงเรียนหลวงกั๋วจือเจียนเชิญใต้เท้าเหลิ่งจิ้งเหยียน ข้าอยากให้เขามาพิสูจน์อักษร”อ๋องจี้พูดอย่างโกรธเคือง “ช้าก่อน เจ้าห้าอย่าทำเกินไปนัก เรื่องภายในจวนข้า ไม่ต้องไปถึงสำนักผู้ตรวจการหรอก”อวี่เหวินห่าวเอ่ยอย่างเย็นชา “ในเมื่อพี่ใหญ่จะไปทูลเสด็จพ่อ
เขาใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกไป วาดกระบี่สลัดสองคนออกไปให้พ้นทาง เพื่อมาช่วยอาซื่ออาซื่อพูดออกมา “ขอบคุณท่านอ๋องมาก!”“ไปปกป้องพระชายา!” อวี่เหวินห่าวร่อนลงมาอย่างช้า ๆ และทะยานขึ้นไปต่อ แล้ววาดขาเตะทหารที่อยู่ตรงหน้าหยวนหยงอี้ออกไป และหันมาพูดกับอาซื่อแต่อาซื่อไม่ได้กลับไป ทางนั้นมีหมานเอ๋อร์ก็เกินพอแล้ว นางอยู่ช่วยอวี่เหวินห่าวและหยวนหยงอี้ต่อหยวนชิงหลิงรู้สึกจุกอยู่ในคอ ข้างนอกทหารมากมายเช่นนี้ อาการบาดเจ็บของเขาเพิ่งฟื้นตัว หากต่อสู้กันขึ้นมา แม้ทหารจะจำได้ว่าเขามีฐานะเป็นถึงท่านอ๋อง ไม่กล้าที่จะลงมือรุนแรง แต่ก็ต้องทรมานจากอาการบาดเจ็บอยู่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วรยุทธ์ของเขายังแย่นัก สู้กับกู้ซีทีไร ถูกเขาตีจนหน้าเขียวหน้าบวมไปหมดหมานเอ๋อร์พูดปลอบว่า “พระชายาวางใจเถอะเพคะ ท่านอ๋องต้องช่วยซูยี่ฝ่าออกไปได้แน่เพคะ”แต่เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวลงมืออย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว เขาวาดกระบี่เป็นวงกลมและรัวเตะคู่ต่อสู้ แต่ไม่ได้ลงมือหนัก แค่เตะผลักออกไปเท่านั้นประกายดาบที่ปะทะกัน เห็นเขายังรับมือได้ง่ายดาย ถึงจะถูกล้อมอยู่หลายครั้ง แต่ก็เห็นร่างสีขาวของเขาทะยานขึ้นมา และร่อนลงวาดกระบี่ หล
นี่ทำให้ฉู่หมิงหยางโกรธเป็นอย่างมาก นางตะคอกเสียงดัง “หยวนชิงหลิง ข้าไม่ทำร้ายเจ้า แต่เจ้าทำร้ายข้ารึ?”นางยกมือสะบัดแส้เสียงดังราวกับฟ้าผ่า แส้สะบัดเสียงแหลมตรงไปจะฟาดเข้าที่ท้องของหยวนชิงหลิงหมานเอ๋อร์ตกใจมาก ไม่สนว่าตอนนี้จะกลัวอย่างไร นางคว้าแส้มือเปล่าและจับมันไว้แน่น ฉู่หมิงหยางแค่นหัวเราะ แล้วดึงแส้กลับ แส้นั้นมีหนามแหลม เมื่อดึงกลับก็ครูดมือหมานเอ๋อร์จนเลือดไหลนองไปหมดหยวนชิงหลิงที่เห็นก็โกรธจนปวดท้องไปหมด นางยกไม้เท้ากระหน่ำฟาดลงไป หมานเอ๋อร์ที่ปกป้องนางอยู่ ฉู่หมิงหยางก็ดึงแส้สู้กลับไม่ได้ จึงทิ้งแส้ในมือ และคู้ตัวหลบและตะโกนเสียงดังว่า “ท่านอ๋องช่วยข้าด้วย”อ๋องจี้หันกลับมาเห็นนางถูกหยวนชิงหลิงทุบตี จึงวิ่งกลับมาช่วย คาดไม่ถึงว่าพระชายาจี้จะออกมาขวางไว้ และเอ่ยย่างเย็นชาว่า “ท่านอ๋อง ละครของท่านวันนี้คงไม่คิดสินะว่าจะมีคนมาร่วมเยอะเช่นนี้? เพื่อหย่ากับข้า ท่านต้องลำบากมากจริง ๆ”“หญิงบ้า ไสหัวไป!” อ๋องจี้เป็นห่วงฉู่หมิงหยาง จึงยกมือตบลงไปเขาในตอนนี้เกลียดพระชายาจี้ยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อเห็นใบหน้าซูบเซียวของนางพระชายาจี้ร่างกายอ่อนแอ แค่ตบลงไปทีเดียวนางก็เกือบล้มพับ
อ๋องจี้จ้องมองเขาอย่างเย็นชา และมองไปทางอ๋องฉี “เจ้าเจ็ด ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม หากเสด็จพ่อถามขึ้นมา เจ้าก็เลี่ยงความผิดไม่ได้ ถ้าไม่อยากโดนลูกหลงแล้วล่ะก็ รีบพาชายารองของเจ้าไปซะ”อ๋องฉีไม่เคยก่อเรื่อง และด้วยนิสัยรักสงบของเขานั้น อีกทั้งยังเป็นบุตรของฮองเฮายิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาพี่น้อง เขาสนิทกับเจ้าห้าที่สุด แต่เรื่องเขาเองก็เป็นคนที่ไม่เคยล่วงเกินผู้อื่นโดยเฉพาะสำหรับพี่ใหญ่ ก็มีความยำเกรงอยู่ไม่น้อยอ๋องจี้แค่อยากไล่เขาไป เรื่องวันนี้หากไปถึงหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ ก็ค่อยอธิบาย ตราบใดที่เขาปฏิเสธอย่างหัวเด็ดตีนขาดเรื่องตุ๊กตาเล่นของ ก็เอาผิดเขาไม่ได้อ๋องฉียืนนิ่งท่าทางลังเลหยวนหยงอี้ก้าวมายืนหน้าอ๋องฉีและพูดว่า “พวกเราไม่ไป รอคนจากสำนักผู้ตรวจก่อนมาเถอะ เรื่องวันนี้พวกเราเห็นกับตา ล้วนเป็นพยานได้”อ๋องฉีพูดขึ้นมาทันที “ถูกต้อง พวกเราไม่ไป”อ๋องจี้โกรธมาก “เจ้า...”อวี่เหวินห่าวถือกระบี่และพูดเรียบเฉยว่า "พี่ใหญ่ ท่านอยากสู้จนถึงที่สุดหรือไม่? วันนี้ข้าจะสู้ตายกับท่าน"อ๋องจี้หน้าเขียวไปหมด เขาเงียบแล้วหันไปมองพระชายาจี้อย่างดุร้ายสถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ เขาไม่เคยคาด
อวี่เหวินห่าวที่ได้ยินก็ยิ้มอย่างเหย่อหยิ่ง "พี่ใหญ่ยอมรับเองเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ข้ากับน้องต้องออกไปต่อสู้ พี่ยอมรับเช่นนี้ ก็ดี ก่อนหน้าท่านบอกว่าจะให้คำอธิบายกับข้า ตอนนี้พี่ใหญ่จะให้คำอธิบายกับข้าว่าอย่างไร?”เขาโกรธจนแทบอกแตกตาย แต่ต้องทนข่มใจไว้ ไม่ได้พูดอะไรกับเขาทั้งนั้นอ๋องจี้ยกมือขึ้นเรียกพวกทหารมาขอโทษอวี่เหวินห่าวพวกทหารก้าวไปข้างหน้าคุกเข่าลงเพื่อขออภัยโทษอวี่เหวินห่าวจูงมือหยวนชิงหลิงนั่งลงด้วยท่าทีเย็นชา “พี่ใหญ่ อย่ามาทำเฉไฉไม่ยอมพูด ถ้าคำอธิบายของท่านคือให้พวกเขาคุกเข่าขอโทษ ก็ไม่จำเป็น”อ๋องจี้วันนี้ตกอยู่ในกำมือเขา แค้นจนกัดฟันแน่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “เจ้าต้องการอะไร? คิดจะให้เรื่องนี้ถึงเสด็จพ่องั้นรึ?” อวี่เหวินห่าวมองเขาอย่างเย็นชา “เสด็จพ่อเกลียดเรื่องพวกนี้ที่สุด ”"เจ้าต้องการอะไร?” อ๋องจี้แอบถอนหายใจ เรื่องไม่ถึงเสด็จพ่อก็ถือว่าเป็นเรื่องดีอวี่เหวินห่าวดูเหมือนว่าจะตัดสินใจได้นานแล้ว และกล่าวว่า "หนึ่งแสนตำลึง ข้าจะใช้มันไปทำบุญให้กับเหล่าหยวนของข้า เพื่อปัดเป่าคำสาปแช่งของท่าน"อ๋องจี้โกรธจนหน้าเขียว “หนึ่งแสนตำลึง เจ้าไม่ขโมยมันไปเลยล่ะ?”อ
เขาเช็ดน้ำตาให้ฉู่หมิงหยาง ยกมือลูบแผลบนหน้านาง และถามด้วยความสงสาร “เจ็บไหม?”ฉู่หมิงหยางร้องไห้ “เจ็บมากเลย แผลข้าจะเหลือรอยแผลเป็นไหม? ท่านอ๋อง ท่านต้องให้ความเป็นธรรมข้านะ”แววตาอ๋องจี้ดูอำมหิต “เจ้าวางใจเถอะ ไม่ว่าเรื่องอะไร ข้าต้องเรียกร้องให้เจ้าแน่”จู่ ๆ เขาก็หันมามองพระชายาจี้อย่างเย็นชา และพูดเสียงเข้มว่า “นังหญิงชั่ว เจ้าทำได้ดี”พระชายาจี้ยิ้มเย็นสายตาเต็มไปด้วยเย้ยหยัน “ท่านอ๋อง อยากหย่ากับข้าก็พูดตรง ๆ ใช้วิธีแบบนี้ไม่เป็นการทำร้ายชื่อเสียงท่านรึ? เรื่องนี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นอยู่กันอย่างสงบ วันนี้ท่านแตะต้องปลายเส้นผมข้า ข้าไม่ยอมเด็ดขาด ข้าเพิ่งให้เพ่ยเอ๋อร์ส่งสารให้พี่ใหญ่ข้าแล้ว ถ้าหากข้าอยู่ที่จวนอ๋องจี้แล้วเกิดเรื่องขึ้น หลักฐานทั้งหมดในมือข้าจะส่งให้เขา ให้เขาจัดการท่านซะ และยังมีอีกหนึ่งแสนตำลึงนั้น แน่ใจนะว่าตนเองมีพอ ไม่ต้องมาขอยืมข้าล่ะ มิฉะนั้น ทางที่ดีท่านคิดให้ดีก่อนทำเถอะ”พูดจบไม่รอให้เขาตอบอะไรกลับ นางเดินออกไปอย่างเย็นชาอ๋องจี้โกรธจนเตะโต๊ะ ทำคนตกใจ ต่างหนีไปซ่อนหมดฉู่หมิงหยางที่ได้ยินสิ่งที่อวี่เหวินห่าวต้องการ แต่นางคิดว่าจวนอ๋องจี้ออกจะใหญ่ จะ
หลังจากที่หยวนชิงหลิงออกมา นางรู้สึกแบบนี้จริง ๆ เพราะอ๋องจี้ที่ไม่มีพระชายาจี้แล้วนั้น ก็เป็นแค่เสือไร้เขี้ยวตัวหนึ่งเท่านั้น คนธรรมดา ไม่มีความสามารถ ช่างรนหาที่ตาย แต่ฝ่าบาทก็ยังคงปกป้องเขา และให้โอกาสเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะในฐานะลูกชายคนโตใช่หรือไม่? “นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านไม่นำเรื่องนี้เข้าไปกราบทูลวังใช่ไหม?” หยวนชิงหลิงถาม แววตาของอวี่เหวินห่าวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "ถูกต้อง เพราะไม่ว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตลุกลามแค่ไหน แม้ว่าเจ้าจะตายในจวนอ๋องจี้จริง เสด็จพ่อจะไม่ฆ่าเขา หรือแม้แต่จะถอดยศอ๋องออก" นี่สินะพลังแห่งความโปรดปราน ทำไมถึงไม่เท่าเทียมกันบ้าง? ไม่ปฏิเสธว่าเสด็จพ่อรักเหล่าหยวน แต่ความรักนี้มีขีดจำกัด เหล่าหยวนไม่อยากให้เขาแต่งชายารอง เสด็จพ่อหันหน้าหนีไปทันที แต่เรื่องที่พี่ใหญ่ทำ มันมากยิ่งกว่านี้อีก อวี่เหวินห่าวเองก็เห็นมาแต่แรกแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เศร้าเสียใจสักเท่าไหร่ แต่เรื่องในวันนี้มันเกี่ยวข้องกับเหล่าหยวน เขาไม่สามารถแม้แต่จะเข้าไปในวังอย่างมาดมั่น เพื่อร้องขอความเป็นธรรมจากเสด็จพ่อได้ เขาทั้งโกรธ และรู้สึกเสียใจกับเหล่าหยวน เขาถอนหายใจเบา