ฮู้กวงติงจะยอมไปที่ไหน? ไม่ได้คำตอบ นางจะไม่ไปไหนทั้งนั้น นางเองอาจจะไม่มีความกล้าที่จะพูดความในใจกับเขาได้อีกเป็นครั้งที่สองดังนั้นนางจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ และมองตรงไปที่เขา “ผู้ชายในใต้หล้า นอกจากพระองค์แล้ว หม่อมฉันไม่ชอบทั้งนั้น พระองค์ไม่ต้องลำบากเลือกให้หม่อนฉันหรอกเพคะ หากพระองค์ไม่ชอบหม่อมฉัน หม่อมฉันก็พร้อมที่จะตายที่นี่วันนี้ และจะไม่ให้พวกท่านมาบงการวางแผนชีวิตของหม่อมฉัน พระองค์พูด หม่อมฉันไม่เข้าใจทั้งนั้น การเข้าไปในวังก็เป็นหนทางที่ไม่มีทางหวนกลับ แม้ว่าหม่อมฉันจะทำเช่นนั้น นั่นก็เป็นทางเลือกที่หม่อมฉันเลือกเอง เช่นเดียวกับการให้หม่อมฉันแต่งกับคนที่หม่อมฉันไม่มีทางรักได้ไปชั่วชีวิต นั่นก็เป็นเช่นเดียวกับทางที่ไม่อาจหวนกลับ แต่พวกท่านเลือกมันเพื่อหม่อมฉัน หม่อมฉันจะเกลียดพวกท่านไปจนตาย"จักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกจนมุม และเขาพูดออกมาเพียงเล็กน้อย "หมายความว่าอย่างไร จะไม่ชอบไปชั่วชีวิต? เมื่อเจ้าแต่งงานแล้ว เจ้าจะชอบพอไปเอง ผู้หญิงทุกคนในโลกล้วนเป็นเช่นนี้ มีใครก่อนแต่งงานแล้วชอบพอกันบ้าง?”ฮู้กวงติงก็พูดขึ้นมาทันทีว่า "ผู้หญิงคนอื่นก่อนที่จะแต่งงาน พวกนางไม่มีใครที
เวรกรรม!เจ้าเมืองจิ้งเป่ยคร่ำครวญจากก้นบึ้งของหัวใจ หลังจากเห็นลูกสาวของเขากลับห้องมาประกาศข่าวดีกระโดดโล้ดเต้นยกใหญ่เขาเป็นเหมือนเสือที่ลงมาจากภูเขา เข้ามาอย่างดุร้ายและสง่างาม แต่เขากลับสะดุดและกลิ้งลงไปในคูน้ำพร้อมกับเสียงดังตึงไม่ต้องพูดถึงการเสียหน้า มันทำร้ายศักดิ์ศรีที่เขาสร้างมาอย่างยากลำบากอีกด้วยราชโองการของจักรพรรดิหมิงหยวนมาถึงล่าช้า คงจะมาถึงจวนของเจ้าเมืองจิ้งเป่ยในวันพรุ่งนี้ได้รับตำแหน่งนางสนมชั้นเฟย แต่ไม่ได้รู้สึกอยากให้ตำแหน่งนี้ แต่การมอบตำแหน่งให้เป็นหูเฟยนั้นก็ดูเหมือนว่าจะทำแบบขอไปทีอย่างไรก็ตาม ฮู้กวงติงมีความสุขมาก นางบอกหูเฟยนั้นดีที่สุดเจ้าเมืองจิ้งเป่ยเห็นลูกสาวของเขามีความสุข ความทุกข์ในใจเขาก็เบาบางลงมาก เขาพึมพำว่า "ไม่ได้เป็นฮองเฮาเสียหน่อย จะมีความสุขอะไรขนาดนั้น?"ฮู้กวงติงกล่าวว่า "ไม่ใช่ปลา จะรู้ถึงความสุขของปลาได้อย่างไร?"เจ้าเมืองจิ้งเป่ยถอนหายใจ "ไม่ใช่ปลา จะรู้ว่าความเจ็บปวดของปลาเป็นอย่างไร ในอนาคตเจ้าก็จะรู้ ผู้หญิงในวังหลังคงเกลียดจนอยากจะบีบคอเจ้าให้ตาย มีแค่ฐานะในวังหลังเท่านั้น ที่จะให้เจ้าอยู่ได้มั่นคงปลอดภัย”"ท่านพ่อ ท่
"ไร้ยางอาย!" เจ้าเมืองจิ้งเป่ยตะโกนด่าออกมาตรง ๆฮู้กวงติงดีใจจนกระโดดโล้ดเต้นออกไปแล้วราชโองการแต่งตั้งสนมได้ประกาศลงไปแล้ว วังหลังย่อมต้องรู้เรื่องนี้ฮองเฮาตกตะลึงก่อนใครนางไม่เคยได้ยินฝ่าบาทพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน การแต่งตั้งสนมเป็นเรื่องที่ฝ่าบาทไม่มาปรึกษาฮองเฮาอย่างนางเลยสักนิดฮองเฮากริ้วจนเกือบตายอย่างไรก็ตาม นางก็แค่โกรธ พวกนางสนมต่างพากันมาถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังบอกว่านางปิดเรื่องนี้เป็นความลับ จึงไม่เปิดเผยข่าวให้ทุกคนทราบล่วงหน้าฮองเฮาแสร้งทำสีหน้าสง่างาม และพูดเกลี้ยกล่อมว่า วังหลังไม่ได้รับสนมมาห้าปี เมื่อห้าปีก่อนก็รับสามคนเข้าวังมา หลังจากนั้นซู่ผินก็ตายไปแล้ว หากว่ากันอย่างจริงจัง วังหลังเองก็ไม่ได้มีคนใหม่มานานแล้ว อยากหาคนใหม่สักคนมาเปลี่ยนอะไรบ้างนางสนมโกรธมาก ใครอยากได้มาใหม่? หากอยากได้มาใหม่ วังหลังใช้เวลาตั้งหลายปีในฮาเร็มกว่าจะทำให้ทุกคนหายเลิกขมวดคิ้วและอยู่ด้วยกันอย่างสันติ ตอนนี้มีเด็กสาวหน้าตาเกลี้ยงเกลาเข้ามา แล้วพวกนางที่แก่เฒ่าอย่างนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ได้อย่างไร?ในพระทัยฮองเฮาร้อนรุมอย่างไฟสุมทรวง แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม “เข้าวังมาแล
ช่างเถิด อยู่วังมาหลายปี ไม่เคยเห็นคนมาใหม่ที่ไหนกันนางแค่เสียดายที่ฮู้กวงติงที่เหมือนผักกาดขาวหัวใหญ่แบบนี้ ถ้าเจ้าห้าแต่งได้แล้วล่ะก็ จะช่วยเป็นกำลังสนับสนุนให้เขาได้มากขนาดไหน?แต่ตอนนี้ฝ่าบาทได้มา ฝ่าบาทได้ไปจะมีประโยชน์อะไร? น่าโมโหให้ตายเสียจริงยังมีเจ้าลูกห้าซื้อบื้อ ที่คอยเอาแต่ปกป้องหยวนซืออยู่ตลอดถ้าลูกของหยวนซือเป็นผู้ชายก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเป็นผู้หญิง มาดูกันสิว่าเขาจะทำอย่างไรคนในวังคนที่ดูเฉยชาที่สุดก็คือกุ้ยเฟยวันนี้อ๋องอันเข้าวังมาตั้งแต่เช้า เพื่อถวายพระพรกุ้ยเฟย สองแม่ลูกจึงอยู่ในวังพูดคุยกันสักพักกุ้ยเฟยยิ้มและมองลูกชายอย่างนิ่งเฉย "ตอนนี้เจ้าดูไม่กังวลเลยนะ? ตอนแรกกลัวว่าเจ้าห้าจะแต่งกับฮู้กวงติง คาดไม่ถึงว่านางจะปรารถนาอยากเข้าวังเป็นพระสนม ทำให้เสียนเฟยฝันสลาย ไม่รู้ว่าตอนนี้เสียนเฟยนางจะโกรธขนาดไหน ฮู้กวงติงกลับมาไม่นาน เสียนเฟยก็เรียกนางเข้าวัง วางแผนอะไรมีหรือจะไม่รู้?”ท่าทีอ๋องอันดูสบายใจและเอ่ยว่า “เจ้าเมืองจิ้งเป่ยชื่นชมเจ้าห้า ถ้าให้เจ้าห้าแต่งกับฮู้กวงติง คงไม่เป็นประโยชน์กับพวกเรา แต่ตอนนี้ไม่อาจเบาใจเช่นนั้น ทางด้านเจ้าเมืองจิ้งเป่ยคงต้องไ
“ลูกทราบแล้ว” อ๋องอันครุ่นคิดแล้วเลิกคิ้วขึ้น แล้วถามว่า “ตอนนี้ได้สะสางคดีตระกูลหลัวแล้ว ได้ยินว่าเขาจะกลับเข้าสู่ทหารองค์รักษ์เงา ไม่รู้ว่าท่านตาที่อยู่ในกองทหารองค์รักษ์เงาจะได้รับผลกระทบหรือไม่”กุ้ยเฟยเอ่ยว่า “ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล ปู่เจ้าเป็นครูฝึกทหารองค์รักษ์เงามานาน ตราบใดที่ไม่มีเรื่องผิดพลาด ไท่ซ่างหวงก็จะไม่ปลดเขา ดังนั้นเจ้าต้องระวังอย่าทำให้ตาเจ้าเดือดร้อน”“ข้าทราบแล้ว” อ๋องอันพูดจบ เสด็จพ่อลุกขึ้นและทูลลากลับไปทางด้านจวนอ๋องฉู่ทุกคนต่างตกใจเมื่อรู้เรื่องของหูเฟยแม้ว่าหยวนชิงหลิงจะคาดเดาเช่นนี้ แต่เมื่อมันกลายเป็นจริง มันค่อนข้างน่าตกใจมากทีเดียวอวี่เหวินห่าวหัวเราะอย่างเป็นเอาตาย ตั้งแต่ที่เขาได้ยินเรื่องนี้ เขาก็หัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า หัวเราะอย่างหนักจนแผลปริ เจ็บจนน้ำตาไหลออกมาแต่เจ็บก็ส่วนเจ็บ แต่อยากขำก็ส่วนอยากขำ“ครั้งนี้เสด็จพ่ออยากจะผลักปัญหามาให้ข้า แต่ไม่คิดว่าจะขุดหลุมฝังตัว...ฮ่า ๆ สะใจจริง ๆ!””หยวนชิงหลิงทำแผลให้เขาและกล่าวว่า “ท่านหัวเราะมาครึ่งวันแล้ว อย่าหัวเราะเลย มีอะไรน่าหัวเราะกัน? ท่านควรจะเศร้าสิ”อวี่เหวินห่าวหันมามองนาง "เศร้าทำ
สามวันต่อมา อ๋องเว่ยมาหาหยวนชิงหลิงตอนที่หยวนชิงหลิงได้ยินซูยี่เล่าให้ฟัง ปฏิกิริยาแรกคือทำไมเขายังไม่รีบไสหัวออกจากเมืองหลวงสักทีคนบ้าแบบนั้น นางไม่อยากคุยกับเขา แต่ก็ทำไม่ได้ดังนั้นนางจึงให้ซูยี่เชิญเขาไปที่ห้องโถงด้านข้างหลังจากที่นางออกไปแล้วนั้น นางแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อได้เห็นอ๋องเว่ยเขาสวมชุดสีเทาบาง ๆ ในวันที่อากาศหนาวจัด และตัวสั่นด้วยความหนาวเย็นเขาผอมลงไปมาก ใบหน้าซูบตอบ ขอบตาของเขาดำคล้ำยิ่งนัก และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำ เขาไม่โกนหนวดเคราที่ขึ้นรกรุงรัง โทรมจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนตามลำคอใบหน้าของเขาสกปรกราวกับถูกคนเอาหน้าเขาไปถูพื้นเขานั่งหลังงอท่าทางดูละอายใจ และประสานมือไว้ในแขนเสื้อตรงนั้นหยวนชิงหลิงค่อย ๆ เดินเข้าไปมองอยู่นาน ถึงจะพอจำได้ว่าเขานั้นคืออ๋องเว่ยจริง ๆแค่ไม่กี่วัน เขาก็ผอมลงไปเยอะถึงขนาดนี้หยวนชิงหลิงนั่งลงมองดูเขา เขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยแววตาที่ดูสับสนไร้สติริมฝีปากเขากระตุก ไม่รู้ว่าจะแสดงสีหน้าอย่างไรดี หยวนชิงหลิงเห็นเขาเหมือนจะร้องไห้อารมณ์ของมนุษย์เป็นสิ่งแปลกนางเกลียดอ๋องเว่ย เพราะความสงสัยของเขา จึงทำเรื่องเ
ใบหน้าเขาซีดขาวขึ้นมา ไม่พูดอะไรอีก และเอามือถูหัวเข่า หยวนชิงหลิงมองมือเขาที่เต็มไปด้วยรอยถลอก คงจะใช้กำปั้นทุบชกอะไรมาสักอย่าง มองไกล ๆ ยังเห็นรอยช้ำอยู่เลย“เจ้ายังไม่บอกเลยนะว่ามาหาข้าทำไม” หยวนชิงหลิงหลบตากลับเข้าประเด็น เพื่อไม่ให้ตัวเองเห็นใจเขาขึ้นมา อ๋องเว่ยพูดเสียงเบา “พรุ่งนี้ข้าจะไปค่ายทหารทางตอนเหนือ แต่ก่อนไปข้าอยากพูดกับนาง”"ข้าไม่ให้เจ้าไปพบนาง” หยวนชิงหลิงที่ได้ยินก็เอ่ยพูดอย่างระมัดระวังทันทีอ๋องเว่ยส่ายหน้า “ข้าไม่ไปหานาง ข้าแค่อยากมาคุยกับเจ้า เจ้าช่วยบอกนางได้เวลาที่เหมาะสมด้วย”หยวนชิงหลิงมองเขาเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า "ว่ามา"นางอยากฟังความในใจของเขาจริง ๆ ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาทำแบบนี้มันโหดร้ายมากกับการฆ่าคนได้โดยที่ไม่ต้องพยักหน้าเช่นนี้ริมฝากเขาสั่นและเอ่ยว่า “ขอน้ำให้ข้าสักแก้วได้ไหม?”หยวนชิงหลิงพยักให้หมานเอ๋อร์ยกน้ำชามาให้เขาหมานเอ๋อร์ออกไปสักพัก และยกน้ำชาร้อน ๆ เข้ามา “ท่านอ๋องเชิญ!”หลังจากพูดจบ อาซื่อก็เดินไปยืนข้าง ๆ ปกป้องหยวนชิงหลิงน้ำร้อนมาก อ๋องเว่ยค่อย ๆ จิบ หยวนชิงหลิงดูเขาดื่ม ราวกับว่าเขาไม่ได้ดื่มน้ำเป็นเว
เขาหัวเราะขึ้นมา รอยยิ้มนั้นทั้งมืดมนและสิ้นหวัง แววตาของเขาแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ หยวนชิงหลิงรู้สึกปวดใจเล็กน้อย นี่คือสาเหตุของเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดคนป่วยไม่ใช่แค่จิ้งเหอจวิ้นจู่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเขาด้วยความสงสัย หวาดระแวง ความหลงผิด ความคิดถึงเขาค่อย ๆ ยืดคอขึ้นเหมือนเต่าที่ยืดออกจากกระดอง “แต่ข้าก็คิดวิธีที่ดีที่สุดออกก็คือ ให้นางและลูกของอ๋องชิงหยางในท้องนางตายไปด้วยกัน ข้าใส่ยาขนานแรงลงไป ข้าคิดว่าบางทีนางอาจจะตายก็ได้ แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่หรือ? นางจะได้เจอหน้าอ๋องชิงหยางไม่ได้อีก”แผ่นหลังเขาค่อย ๆ งุ้มลง และไม่พูดอะไรอีกหยวนชิงหลิงรออยู่นาน เขาก็ไม่ได้พูดถึงส่วนที่เหลืออีกสำหรับเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงที่นี่อย่างกะทันหันหรือว่าบางทีส่วนที่เหลือเขาคงไม่กล้าเผชิญหน้า หรือไปแตะต้องมันหยวนชิงหลิงจึงเปิดปากพูดขึ้นว่า “คำพูดพวกนี้ ข้าคงบอกให้นางไม่ได้ ข้าบอกแทนเจ้าได้คำเดียวว่าขอโทษ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ถ้าเจ้าพูดจบแล้วก็กลับซะเถอะ”แม้ว่าจะมีปัญหาใหญ่หลวง และเหตุผลยิ่งใหญ่คับฟ้า แต่สิ่งที่เขาได้กระทำนั้นอุกอาจ และไม่อาจให้อภัยได้เข