ไม่กี่วันต่อมาอ๋องหวยก็สามารถเข้าวังหลวงได้อย่างสงบจักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อมองดูบุตรชายที่เกือบตายผู้นี้ก็ตื่นเต้นมาก ต่อหน้าสนมหลู่เฟย เขาสั่งให้ขันทีมู่หรูมอบรางวัลให้หยวนชิงหลิงเป็นเงินรางวัลราว ๆ หนึ่งพันตำลึง ฝั่งหยวนชิงหลิงได้รับรางวัลนี้ แต่ฝั่งฉู่หมิงชุ่ยแทบกระอักเลือดออกมานอกจากต้องรับผิดชอบค่ารักษาและค่ายาของชาวบ้านที่บาดเจ็บแล้ว นางยังบริจาคเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นเกียรติแก่ราชสำนักใช้สำหรับโรงทานร้านโจ๊กที่นอกเมืองอีกหนึ่งเดือน จักรพรรดิหมิงหยางไม่พอใจเรื่องที่ฉู่หมิงชุ่ยกล่าวเท็จเรื่องตั้งครรภ์ถึงจะไม่ได้ดุด่า แต่เมื่อกลับถึงวังหลังแล้วก็เกรี้ยวกราดใส่ฮองเฮาฮองเฮาเรียกฉู่หมิงชุ่ยเข้ามาวังหลังและตำหนิ ถึงในใจฉู่หมิงชุ่ยจะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยขัด ทำได้เพียงรับคำตำหนิสิ่งที่ทำให้นางเศร้าใจที่สุดคือ ฮองเฮาตำหนินาง อ๋องฉีไม่ได้เอ่ยช่วยนางแม้แต่ครึ่งคำ ยืนรับฟังเงียบ ๆ เหมือนท่อนไม้สองวันถัดมา ฮ่องเฮาก็ได้จัดงานชมดอกไม้ขึ้นมาเชิญเหล่าคุณหนู คุณชายจากตระกูลขุนนางเข้าไปในวังเพื่อชมสวนดอกไม้ ทั้งองค์ชายและพระชายาจึงต้องไปร่วมงานหยวนชิงหลิงก็ต้
ซูยี่กุมหัวแล้วเดินออกไป หลังจากถูกทุบตี เขาต้องทำหน้าที่เป็นสารถีรถให้พระชายาหยวนชิงหลิงนั่งอยู่บนรถม้า เห็นซูจี่เดินออกมาสีหน้าไม่ค่อยดีกระโดดขึ้นมาบนรถม้า เธอก็พูดว่า "เจ้าจะพาข้าไป?""ท่านอ๋องให้ข้าน้อยเป็นคนขี่รถม้าพาพระชายาเข้าวังหลวงพ่ะย่ะค่ะ" ซูยี่กระซิบหยวนชิงหลิงยิ้ม "เป็นอย่างไร? เขาโกรธอีกแล้วรึ?"ซูยี่ไม่กล้าบ่นแล้ว "หม่อมฉันปากไม่ดี ชอบทำให้ท่านอ๋องโกรธเสมอพ่ะย่ะค่ะ"หยวนชิงหลิงลดม่านลงและยิ้ม ซูยี่เป็นถุงลมนิรภัยจริง ๆ ซูยี่แอบเปิดม่านแล้วมุดหัวเข้ามา "พระชายาที่ที่ท่านถามถึงนั้น ข้าน้อยจะพาไปอีกวันพ่ะย่ะค่ะ" ท่านอ๋องรับใช้ยาก แต่เขาควรจะเอาใจพระชายาให้มาก หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นในอนาคต พระชายาจะปกป้องเขาได้นางข้าหลวงสี่ยิ้มเยาะ "เห็นแล้วเจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่จริง ๆ พระชายาพูดแล้วหัวเราะ เจ้าจริงจังรึ? แต่อย่าเที่ยวเอาไปพูดไร้สาระ ข้าจะตัดลิ้นเจ้า ไม่แปลกที่ท่านอ๋องทุบตีเจ้าเสมอ เจ้าสมควรโดนแล้ว"ซูยี่ค่อย ๆ หดหัวกลับไป ภายในใจรู้สึกโศกเศร้าเมื่อเร็ว ๆ นี้จำ หากมีใครกลั่นแกล้งใคร? เขาก็จะโดนด่าตลอด!รถม้ากำลังขับอยู่บนถนนนชิงเนียว ล้อรถก็ส่งเสียงเอี๊
"ใช่เจ้าค่ะ ไม่พบกันนาน ท่านมหาเสนาบดีฉู่สบายดีหรือไม่เจ้าคะ?" นางข้าหลวงสี่กล่าว"ก็ดี ตอนนี้ท่านข้าหลวงทำงานรับใช้พระชายางั้นรึ?" มหาเสนาบดีฉู่เหมือนทักทาย แต่หยวนชิงหลิงกลับฟังเหมือนใส่อารมณ์ไปสิบส่วน "ใช่เจ้าค่ะ" นางข้าหลวงสี่ตอบ นางไม่ได้มองหน้าฉู๋โซ่วฝูโดยตรง แต่มหาเสนาบดีฉู่ยังคงจ้องไปที่นางหยวนชิงหลิงรู้สึกเป็นส่วนเกินเล็กน้อยจนถอยหลังลงมาเธอรู้ว่ามีบางอย่างระหว่างนางข้าหลวงสี่กับท่านมหาเสนาบดีฉู่… พัวพันกันแต่ไม่ชัดเจนอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เธอคิดว่า มันนานมาแล้วและคิดว่าสองคนนี้จะไม่สนใจกันอีกต่อไปแล้วโดยเฉพาะมหาเสนาบดีฉู่ที่ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่สูง เขาจะจำได้หรือว่าเคยถูกนางในวังหลวงทำให้หัวใจเต้น?อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเขากลับไม่เป็นเช่นนั้นคนขับรถม้าและซูยี่ช่วยกันนำรถม้าเคลื่อนออกไปจากการถนนได้แล้วคนขับรถเดินเข้ามาบอก "นายท่าน สามารถไปได้แล้วขอรับ"มหาเสนาบดีฉู่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันมาทางหยวนชิงหลิง "ข้าต้องขอตัวก่อนแล้ว""ใต้เท้าเดินทางปลอดภัย!" หยวนชิงหลิงกล่าวมหาเสนาบดีฉู่ไม่ได้หัวกลับมา แต่มองไปทางนางข้าหลวงสี่สายตาของเขาอ่อนลงอย่า
หลังจากที่คิดอยู่นานหยวนชิงหลิงก็ตอบว่า "ตอนนั้นข้าไม่กล้าทำ""ไม่กล้า? มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยจริง ๆ เพคะ" นางข้าหลวงสี่กล่าวหยวนชิงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า "ใช่ มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยจริง ๆ"อย่างไรก็ตามก็มีความคิดอย่างนั้นจริง มันเป็นสถานการณ์ที่จนมุม "แล้วอย่างไรเพคะ?" นางข้าหลวงสี่ถามต่อหยวนชิงหลิงถอนหายใจ "ไม่รู้ ชะตากรรมระหว่างผู้คนนั้นแปลกประหลาด ข้าอยู่ในวังหลวงร่างกายได้รับบาดเจ็บ ท่านเป็นคนเดียวที่ดีกับข้า ข้าจะจำความดีนี้ตลอดไป"คำพูดนี้หลังจากที่ถูกนางข้าหลวงสี่ทรยศหักหลัง ไม่มีความจริงเอาซะเลยอย่างไรก็ตามนางข้าหลวงสี่รู้สึกสะเทือนใจราวกับน้ำตาจะไหลออกมา"ตลอดไป" นางข้าหลวงสี่พึมพำด้วยรอยยิ้มเศร้า "เมื่อนานมาแล้วมีคนเคยบอกกับข้าว่าจะดีต่อข้าตลอดไป""เขาไม่ได้ทำเยี่ยงนั้นหรือ?" หยวชิงหลิงถาม นางสันนิษฐานว่าคนผู้นั้นคือมหาเสนาบดีฉู่ใช่หรือไม่นะ? ใช่แล้ว มหาเสนาบดีฉู่จะมาชอบนางกำนัลได้อย่างไร "ข้าไม่เชื่อ!" นางข้าหลวงสี่พูดด้วยสีหน้างุนงง "ใครจะเชื่อเล่า? เขาเป็นใคร ข้าเป็นใคร? ใครจะเชื่อ ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เยี่ยงนี้ดีที่สุดแล้ว"ทฤษฎีแมวของชโรดิงเงอร์หากไม่เชื่
มันไม่ใช่ตอนกลางวันแสก แต่งานกลับถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบเช่นนี้ จึงทำให้ผู้คนสงสัยในพระประสงค์ของฮองเฮาเมื่อหยวนชิงหลิงมาถึง พระชายาซุนก็มาถึงแล้วเช่นกัน นางจึงเดินเข้าไปทักทายหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงมองไปที่แสงไฟก็เห็นเหล่าคุณหนูแต่งตัวแต่งหน้ามาประชันความงามกัน นางก็เห็นฉู่หมิงชุยจากระยะไกล และน้องสาวของฉู่หมิงชุยก็อยู่ที่นั่นด้วย"คืนนี้ช่างมีชีวิตชีวานัก!" หยวนชิงหลิงกล่าวพระชายาซุนยิ้มและกล่าวว่า "แน่นอนว่าต้องมีชีวิตชีวา ฮองเฮาส่งเทียบเชิญเอง ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธ?""ยกไปจัดตอนกลางวันไม่ดีกว่าหรือ?" หยวนชิงหลิงกล่าวพระชายาซุนกล่าว "ได้ยินมาว่าสำนักดาราศาสตร์บอกว่าจะมีฝนตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเหล่าคุณหนูทั้งหลายจะเขินอายเมื่อต้องเปียกฝน นอกจากนี้ฮองเฮายังร้อนใจ อย่างไรก็ตามไม่จัดตอนกลางคืนแน่นอน"มันเป็นอย่างนี้นี่เองพระชายาซุนและหยวนชิงหลิงเดินไปข้างหน้า และเหล่าองค์หญิงเกือบทั้งหมดก็มาเข้าร่วมอวี่เหวินหลิงเห็นหยวนชิงหลิงก็ดีใจยิ่งนัก เขาแล้วจับมือนางไว้ "ไปกันเถอะ พวกเราไปเข้าเฝ้าฮองไทเฮาก่อน แล้วค่อยไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่”“ไทเฮาเสด็จมาหรือเพคะ? ไม่ควรไปเข้าเฝ้าไทเฮา
อวี่เหวินหลิงบอก "ข้ารู้ กับผู้อื่นข้าย่อมไม่กล้าพูดเช่นนี้ แต่ข้าวางใจพี่สะใภ้ห้า"หยวนชิงหลิงยิ้ม เด็กคนนี้ช่างไร้เดียงสาเสียจริง ระหว่างพวกเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันมากนัก การเชื่อใจผู้คนง่าย ๆ เกินไปเช่นนี้ไม่ค่อยดีนักอย่างไรก็ตาม นางประทับใจในความเรียบง่ายของเด็กคนหนึ่งความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนควรจะเรียบง่าย แต่การเติบโตในวังหลวง ความเงียบง่ายก็อาจทำอันตรายถึงแก่ชีวิตได้"พี่สะใภ้ห้า เสด็จแม่ไม่ชอบท่านมาก วันหลังข้าจะช่วยพูดให้ท่านสักสองสามคำ" อวี่เหวินหลิงกล่าวหยวนชิงหลิงยิ้มแล้วส่ายหัว "ไม่ต้องหรอก ความคิดของนางที่มีต่อข้านั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้ในชั่วระยะเวลาสั้น ๆ บางทีทั้งชีวิตนี้ก็ไม่อาจเปลี่ยนได้แล้ว""เพราะเหตุใด?" อวี่เหวินหลิงถามอย่างแปลกใจหยวนชิงหลิงกล่าว "ตั้งแต่ในสมัยโบราณ แม่สามีและลูกสะใภ้ล้วนไม่ชอบกัน เพราะพวกเรารักผู้ชายคนเดียวกัน"อวี่เหวินหลิงปิดปากแล้วหัวเราะ "เยี่ยงนั้นท่านก็ไม่ชอบเสด็จแม่ด้วยหรือ?""ใช่แล้ว ไม่ใช่ไม่น่ามอง แค่รำคาญเฉย ๆ”"จะเป็นไปได้เยี่ยงไร? มันสายไปแล้วที่ข้าจะทำให้นางพอใจ"เห็นได้ชัดว่าอวี่เหวินหลิงไม่ได้ให้สนใจกับคำถามนี้ เข
"จริงสิ งานชมดอกไม้ในคืนนี้ ความจริงแล้วกำลังมองหาพระชายารองให้พี่ชายข้า หย่งอี้ เจ้าชอบพี่ชายคนไหนของข้าล่ะ?" อวี่เหวินหลิงเอ่ยถามหยวนหย่งอี้หันไปมองหยวนชิงหลิงอย่างไร้เดียงสา "อ๋องฉู่"หยวนชิงหลิงตกใจ หันไปมองหญิงสาวที่น่ารักและมีเสน่ห์คนนี้ช่วยไม่ได้ที่เธอชอบเด็กสาวคนนี้ อวี่เหวินห่าว ลามกนั้นเห็นแล้วจะเป็นยังไง?อวี่เหวินหลิงเอ่ยอย่างมีความสุข "ดีเลย เจ้าแต่งเป็นพระชายารองให้กับพี่ห้าของข้า และเป็นสหายกับพี่สะใภ้ห้าของข้า""ใช่แล้ว!" หยวนชิงหลิงพยักหน้าอย่างตื่นเต้นดวงตากวางยังคงล่องลอยไปทางหยวนชิงหลิง "พี่สะใภ้ห้า ท่านว่าอย่างไร? ถึงเวลาเมื่อเสด็จแม่ถามว่าท่านชอบใคร ท่านก็บอกว่าชอบหลิงอี้" อวี่เหวินหลิงกล่าวอย่างมีความสุขหยวนชิงหลิงมองไปยังหย่งอี้ด้วยรอยยิ้ม และพยายามอดกลั้นแรงยั่วยุที่จะที้งศีรษะนางลงจากการยั่วโมโห "อย่างไร? วันนี้เพื่อหาพระชายารองให้อ๋องฉี หรือเพื่อท่านอ๋องคนอื่นอีกหรือ?""งานชมดอกไม้ก็แค่คำพูดที่ให้ดูเหมาะสม" อวี่เหวินหลิงกล่าวงานชมดอกไม้ไม่ใช้งานที่มีไว้เพื่อชมดอกไม้ในสวน แต่เป็นการชมดอกไม้ที่หมายถึงหญิงสาวที่บานสะพรั่งหยวนหย่งอี้กลับคิดว่าทั้ง
ก่อนสิ้นสุดงานชมดอกไม้ ฮองเฮาทรงเรียกหยวนชิงหลิงและพระชายาซุนเข้าไปถามว่า มีความรู้สึกที่ดีต่อคุณหนูตระกูลไหนเป็นพิเศษหรือไม่พระชายาซุนกล่าวบางอย่างแต่หยวนชิงหลิงกลับส่ายหัวแล้วตอบ "ไม่มีเพคะ"คำพูดนี้ดึงความสนใจจากฮองเฮาและเหล่าพระสนมทุกคนล้วนแอบพูดในใจว่า พระชายาฉู่ขี้อิจฉาดูเหมือนจะเป็นความจริงแต่ว่าต่อหน้าเสียนเฟย จึงไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาฮองเฮายิ้มอย่างไม่เต็มใจ "ในเมื่อไม่เป็นที่พอใจก็พอแค่นี้"หยวนชิงหลิงได้รับสายตาอันดุดันจากพระสนมเสียนเฟยเมื่อออกจากวังหลวงมานางข้าหลวงสี่กล่าวว่า "พระชายาควรพูดสักสองสามคน""กี่คน?" หยวนชิงหลิงรู้สึกหดหู่ใจ "ข้าไม่ได้อยากพูดแม้แต่คนเดียว ยังต้องพูดอีกสักกี่คนกัน?”ข้าหลวงสี่กล่าว "เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ยอมรับพระชายารองไม่ได้ งานชมดอกไม้นี้ฮองเฮาเป็นผู้จัดการ เอ่ยชมสักคนสองคนก็เหมือนเป็นการให้หน้าฮองเฮาแล้ว พระชายาดูเหมือนว่าพระชายาซุนจะชอบจริง ๆ หรือ? มันเป็นเพียงเรื่องของการพยายามรักษาหน้าพอเป็นพิธี ไม่ดื้อรั้นต่อหน้าฮองเฮาก็ไม่ทำลายชื่อเสียงของตัวเอง คืนนี้พระชายาคงถูกกล่าวหาว่าหึหวงแล้ว" หยวนชิงหลิงพูดไม่อ