ส่วนตำแหน่งองค์รัชทายาท เขาบอกว่าไม่เคยคิดว่านั่นคือของปลอม แต่เขารู้ภาระของตัวเอง หนึ่งประเทศให้เขาแบกรับไว้บนบ่า เขาจะรับไหวไหม? แต่ถ้าอ๋องจี้ได้รับอำนาจ ตัวเองจะสามารถสละตำแหน่งนี้ และเป็นท่านอ๋องทำตัวสบาย ๆ ได้อย่างสบายใจหรือไม่? ฉู่หมิงชุ่ยกล่าวต่อ “เพื่อตำแหน่งองค์รัชทายาท ทุกคนต่างมีเล่ห์เหลี่ยม แม้แต่หยวนชิงหลิงก็รู้ดีว่าเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจัง นี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อชิงอำนาจ แต่นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตาย ไม่ว่าเจ้าจะจบหรือไม่จบก็หนีไม่พ้น เพราะเจ้าคือลูกของพระสนม ต่อไปอ๋องจี้จะเอาชนะทุกคนได้ แต่เขาจะเอาชนะเจ้าหรือฮองไทเฮาไม่ได้” อ๋องฉีจับมือนาง “ข้าจะคิด ๆ ดู เจ้าอย่ากังวลเกินไป” อ๋องฉีอาจไม่ได้คิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ในใจ แต่เขาคิดเสมอว่ายังไม่ถึงจุด ๆ นั้น แต่วันนี้ เมื่อรู้ว่าอ๋องจี้สั่งให้ใครลอบสังหารพี่ห้า เขาก็ตระหนักได้ว่าไม่ใช่ว่ายังไม่ถึงจุด ๆ นั้น แต่เป็นเพราะเขากลัวและไม่กล้าไปแตะต้อง เหตุการณ์ของพระชายาทั้งสองตกลงไปในน้ำที่จวนอ๋องหวยในไม่ช้าก็แพร่กระจายออกไป คนที่โกรธที่สุดคือพระสนมหลู่เฟย อ๋องหวยป่วยหนัก ถึงขั้นสุดท้ายแล้ว แต่ก็ยั
เหลิงจิ้งเหยียนถอนหายใจออกมา บัณฑิตเจอทหาร มีเหตุผผลก็ใช้ไม่ได้“ฝ่าบาทในเมื่อทรงรับสั่งให้พระชายาฉู่เข้าวังหลวง ไม่ได้รับสั่งให้พระชายาฉีมาด้วยเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าในพระทัยของฝ่าบาทไม่ได้สนพระทัยว่าพระชายาทั้งสองใครถูกใครผิด เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ฝ่าบาททรงต้องไม่สนพระทัยเป็นแน่”“มีเหตุผลอยู่บ้าง พูดต่อไป ข้าเรียกพระชายาฉู่มามีเหตุผลอะไร?” จักรพรรดิหมิงหยวนดื่มชาด้วยท่าทางสบาย ๆ“ไม่มีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ การที่พระชายาฉู่เข้าวังมา ต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท นางได้กระทำผิดมหันต์ ที่มาของความผิดนั้น หากไม่สามารถโต้แย้งได้ ฝ่าบาทก็จะต้องลงโทษนาง”“นั้นเป็นความคิดของเจ้าหรือ?”“นั้นคือการคาดเดาของกระหม่อม”“งั้นคือความคิดของเจ้า!”“...งั้นคือความคิดของกระหม่อม”ทำไมความคิดเลวทรามนี่ต้องเป็นเขาที่เป็นคนคิดออกมาด้วย? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าฝ่าบาททรงคิดเองจักรพรรดิหมิงหยวนเอ่ยปากชมอย่างไม่ขาดปาก “ขุนนางที่รักของข้าความคิดดีจริงๆ ถามถึงความผิดนางก่อนแล้ว ต้องทำความดีความชอบชดใช้ความผิด ก็แค่ไปให้การรักษาอาการป่วยของอ๋องหวย รักษาหายแล้วจะอภัยโทษให้ รักษาไม่หาย ข้าก็จะเมตตาเป็นพิเศษ จะงดการอภัยโทษไว้
หยวนชิงหลิงค่อย ๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ โลกนี้ไม่มีความยุติธรรม!ออกจากวังมาแล้ว หยวนชิงหลิงถอนหายใจอย่างโล่งอกปัญหาเรื่องการรักษาของอ๋องหวยหรือไม่นั้น เธอเองยังคงลังเลอยู่แม้สุดท้ายจะไม่ลองเสี่ยงดูแน่ ๆ แต่ในใจรู้สึกไม่สงบ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ รู้สึกทรมานใจเหลือเกินวันนี้ไม่มีทางให้ถอย แต่ก็เป็นเรื่องดีเธอเชื่อว่าถ้าเธอไม่สามารถรักษาให้หายได้ ฝ่าบาทก็คงไม่ทำอะไรเธอจริง เพียงแต่เกรงว่าจะต้องรับความโกรธเกรี้ยวของสนมหลู่เฟยแล้วสนมหลู่เฟย... หยวนชิงหลิงรู้สึกปวดที่หัวขึ้นมากะทันหัน หลู่เฟยรับมือยากซะด้วยหยวนชิงหลิงไปที่พระตำหนักเฉียนคุนวันนี้ชายชราดูกระตือรือร้นมาก อยู่ในตำหนักทำงานไม้ตอนหยวนชิงหลิงเข้าไป ในมือฉางกงกงถือเลื่อยอันนึง ไท่ซ่างหวงกำลังถือไม้บรรทัดวัดแท่งไม้ขนาดเท่าหัวแม่มือ “ไท่ซ่างหวง พระองค์ทำอะไรอยู่เพคะ?” หยวนชิงหลิงเข้าไปถามด้วยความสงสัยไท่ซ่างหวงเงยหน้าขึ้น บนหน้ากมีเหงื่อใบหน้าแดงก่ำ และพูดออกมาอย่างค่อนข้างภูมิใจว่า “เจ้าเดาดูสิ!”“นี่ คือราวตากผ้าใช่ไหมเพคะ?” นี่มันก็ไม้ยาว ๆ ดูกลมมน ทำราวตาผ้าก็ไม่เลวเลยทีเดียว“ราวตากผ้ามันคืออะไร?” ไท่ซ่างหวงพ
“เช็ดเหงื่อ!” ไท่ซ่างหวงตะโกนเรียกหยวนชิงหลิงรีบนำผ้าขนหนูไปซับเหงื่อเขา “พักสักครู่เถอะเพคะ ดื่มน้ำก่อนค่อยทำต่อ”“ใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่แกะลายมังกรซ่อนปุ่มก็เรียบร้อย” ไท่ซ่างหวงหันมามองเธอ “เรื่องของฮู่ยติ่งโฮ่ว ในเมื่อเจ้าไม่สนใจชื่อเสียงตัวเอง นำตัวเองไปเสี่ยง ก็ไม่ควรแต่งตัวปลอมตัวเป็นชาย แต่ไปปรากฏตัวด้วยฐานะพระชายาต่อหน้า และดึงดูดความสนใจของเขา”หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม “แล้วมันมีอะไรแตกต่างกัน? เขาก็รู้ว่าหม่อมฉันคือพระชายาฉู่”ไท่ซ่างหวงกล่าวต่อ “เขาแค่แสร้งเป็นไม่รู้ มองย้อนกลับไปเรื่องนี้ ชีวิตคนหนึ่งชีวิต ใครจะไปรู้ว่าถ้าเจ้าตกอยู่นกำมือเขา? เจ้าก็ตายเปล่าแล้วหรือ? แต่ถ้าเจ้ากับฐานะพระชายาและเขาเทียวไปเทียวมาเช่นนี้ ก็จะมีพยานเพิ่มมากขึ้น ถ้าเจ้าตาย ถึงหาหลักฐานไม่ได้ว่าเขาเป็นคนทำ แต่ก็ยังสามารถยัดข้อหาให้เขาได้ แบบนี้สิเจ้าตายก็มีคุณค่า”หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดไท่ซ่างหวงแบบนี้ ก็อดชื่นชมไม่ได้ สมเป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆ“ก่อนจะลงมือทำอะไร ทางที่ดีเจ้าต้องคิดคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ แม้ตัวเองจะตายไปแล้ว ก็ไม่ให้อีกฝ่ายผ่านไปได้ด้วยดีกับเรื่องที่ทำ แบบนี้ที่ลงมือทำไปถึงจะเห็นผลไ
จักรพรรดิหมิงหยวนมองขันทีมู่หรูอย่างแฝงความนัยและส่ายหน้า “ชั่วชีวิตนี้ของเจ้าคงไม่มีทางเข้าใจหรอก”“กระหม่อมโง่เขลา ฝ่าบาทพูดถึงกระหม่อมจึงเข้าใจ” ขันทีมู่หรูพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนจักรพรรดิหมิงหยวนทรงเมินเฉยพูดเรื่องสตรีกับขันทีเฒ่า เสียเวลาอธิบายจวนอ๋องฉู่ อวี่เหวินห่าวรออย่างกระวนกระวายใจ หลังจากกลับจวนมา คนในจวนรายงานว่ากู้ซือพาหยวนชิงหลิงเข้าวัง บอกว่าเรื่องอาการป่วยของอ๋องหวย เขากำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าวังดีไหม ได้ยินคนบอกว่าพระชายากลับมาแล้วหยวนชิงหลิงเห็นเขาคำแรกที่พูดคือ “เสด็จพ่อให้ข้าไปรักษาอาการป่วยของอ๋องหวย” อวี่เหวินห่าวประหลาดใจเหนือความคาดหมาย “เจ้ามีความมั่นใจไหม?”หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่มี”“ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องไป” อวี่เหวินห่าวกล่าวหยวนชิงหลิงนั่งลงดื่มน้ำแก้วหนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ไปไม่ได้ เสด็จพ่อท่านอารมณ์แปรปรวนท่านก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ถ้าข้ากล้าขัดรับสั่ง พระองค์ต้องตัดหัวข้าแน่” “ไม่หรอก!” อวี่เหวินห่าวกล่าว“ไม่ขนาดนั้นหรอก” หยวนชิงหลิงมองใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความกังวล ในใจก็รู้สึกอบอุ่นเข้าใจคนอื่นขนาดนี้ “ท่านก็อย่ากังวลมากไป ถ้าข้ารักษาไม่ไ
ไม้เถียฮว๋านี่น่าจะเป็นไม้ที่แข็งที่สุดในโลกแล้ว? แข็งกว่าเหล็กธรรมดา ๆ ตั้งสองเท่าในยุคปัจจุบัน ไม้เถียฮว๋าเป็นพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ คนสมัยก่อนใช้ไม้เถียฮว๋าแทนโลหะ ส่วนประกอบในคอมอย่างวิดเจ็ตก็มีใช้ไม้เถียฮว๋า แต่ราคาเองก็ล้วนค่อนข้างแพงแต่วันนี้เธอเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไท่ซ่างหวงใช้เลื่อย เลื่อยมันให้สั้นลง อีกทั้งไม้ที่แข็งขนาดนี้ การแกะสลักต้องเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากแน่? ไม่ได้ใช้มีดแกะสลักเพชรมาแกะเหรอ?“ไท่ซ่างหวงทรงแกะสลักด้วยพระองค์เองแบบนี้ ไม่น่าใช่ไม้เถียฮว๋า!” หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่เชื่อนางข้าหลวงสี่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “นี่เป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงเท่านั้นที่ทรงแกะสลักได้ ทหารองค์รักษ์ธรรมดา ๆ ล้วนไม่อาจทำได้ ”“อาการประชวรของไท่ซ่างหวง เดินยังไม่ค่อยมีแรงเลย ทำไมถึงสามารถแกะสลักไม้ที่แข็งขนาดนี้ได้ล่ะ? ” หยวนชิงหลิงถามด้วยความสงสัย ได้ยินแบบนี้ดูเหมือนไท่ซ่างว่าจะทรงแข็งแกร่งเก่งกาจมาก“การที่เดินไม่ค่อยมีแรงเป็นเพราะอาการประชวร ตอนสมัยไท่ซ่างหวงหนุ่ม ๆ ถือได้ว่าเป็นนักรบผู้กล้ามีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเป่ยถัง พระองค์ทรงฝึกฝนทั้งกำลังภายนอกและภายใน ตอนนี้พระองค์อายุมาก
“ข้าฝึกดื่มเหล้ามาแล้ว มิฉะนั้นวันหลังจะลำบากมาก พรุ่งนี้ถึงแม้จะต้องไปจวนอ๋องหวย ท่านก็ดื่มกับข้าสักหน่อยแล้วกัน” หยวนชิงหลิงเชื้อเชิญด้วยความจริงใจทันใดนั้นอวี่เหวินห่าวพึ่งค้นพบว่าตัวเองไม่อาจต้านทานความจริงใจของนางได้เขายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ตามใจ ข้าเองก็อยากดื่มสักแก้ว” จะต้องหาข้ออ้างไม่ใช่หรือ? ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้นางคิดว่าพูดอะไรเขาก็ฟังทุกอย่างหยวนชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองคงต้องดื่มอีกหลายพันแก้วเพื่อไม่ให้เมา หลังจากจุดอ่อนถูกค้นพบอย่างน้อยหนึ่งจุด จุดอ่อนนี้นั้น อาจกลายเป็นภัยคุมคามใหญ่ได้ฝีมือของแม่นมฉี สามารถทำอาหารรสเลิศได้หลายประเภทวัตถุดิบที่ธรรมดาที่สุด เมื่ออยู่ในมือนาง ล้วนกลายเป็นของเลิศรสได้อย่างน่าอัศจรรย์ หยวนชิงหลิงกินแล้วก็ยิ้มไม่หยุดและพูดว่า “พี่รองพูดตลอดว่าพ่อครัวหลวงทำอาหารอร่อย เขายังไม่เคยกินกับข้าวที่แม่นมฉีทำเลย ถ้าได้กินแล้วละก็ เกรงว่าจะเก็บกระเป๋ารีบย้ายมาอยู่ยาวแน่”อวี่เหวินห่าวมองนาง “เจ้ากับพี่รองดูสนิทกันนะ”หยวนชิงหลิงรินเหล้าให้เขาและรินให้ตัวเองเต็มแก้ว แก้วเล็ก ๆ นี้ใส่เหล้าได้ประมาณคำนึง เหล้าสีใส กลิ่นหอมเตะจมูกหยวนชิงหลิ
ครึ่งชั่วยามต่อมา อวี่เหวินห่าวมองผู้หญิงไร้ยางอายที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยความรังเกียจเสื้อแขนกว้างตัวนั้นดึงออกไปแล้วครึ่งหนึ่ง สองมือที่วางบนช่วงคอ, ช่วงบ่าและไหปลาร้า..ออกแรงเกาบนใบหน้า, บนไหปลาร้า, บนคอล้วนเป็นรอยผื่นแดงและขึ้นตุ่มแดง ๆ เป็นเม็ด ๆ เต็มไปหมดบนพื้นเต็มไปด้วยตะเกียบข้าวปลาอาหารที่เลอะเทอะกระจัดกระจายไปหมด แม่นมฉีกับลวี่หยารีบพากันออกไป นางข้าหลวงสี่เองก็ฉลาด หลบออกไปเตรียมน้ำแกงสร่างเมาตัวเป่าเองก็รีบออกไปก่อนที่พายุฝนจะมาถึง ก่อนที่ชามใบแรกจะเขวี้ยงลงกับพื้น มันก็หนีเอาชีวิตรอดออกไปแล้วสุราหอมหมื่นหลี้ เขาสาบาน แก้วเดียวจริง ๆเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วถอยหลังออกไปหยวนชิงหลิงหยิบไม้เท้าทรงอำนาจนั้นขึ้นแล้วเคาะลงกับโต๊ะอย่างแรง พร้อมตะโกนอย่างสุดเสียง “เจ้าลองดูสิ?”อวี่เหวินห่าวรู้สึกอยากฆ่านางขึ้นมาชีวิตนี้ของเขาเกลียดที่สุดคือการถูกข่มขู่หยวนชิงหลิงคันไปหมดทั้งตัว ดื่มครั้งแรกไม่เห็นมีอาการแพ้เลยสักนิด แล้วทำไมครั้งนี้ถึงเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้?เธอยังมีสติรับรู้ แต่ก็ทนไม่ได้กับความคันไปถึงกระดูกนี่ราวกับอาการคันนี่มันมาจากเลือด เธอรื้อหายาในกล่องยา แต่ก็