Share

บทที่ 51

Penulis: สั่งไม่หยุด
...

บนรถม้า

ฉีจื่อฟู่สีหน้าเย็นยะเยือก กำลังรอให้หรงจือจือปลอบโยนตนเองสักสองสามประโยค พ่อตาทำแบบนี้กับตน นางไม่โอ๋ตนเอง หรือไม่กลัวว่าตนจะปฏิเสธต่อนางอย่างเย็นชา?

แต่ทว่าผ่านไปครู่ใหญ่ หรงจือจือไม่ได้ส่งเสียงเช่นกัน

เหมือนกับว่าไม่ใส่ใจในอารมณ์ของเขาเลยสักนิด เหมือนกับว่าต่อให้เขาโมโหจนอกแตกตาย ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง

ทั้งหมดนี้ทำให้เขาไม่พอใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ไม่นาน ตอนที่อยู่ต่อหน้านายหญิงใหญ่ถึงจะปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยน ตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทำให้เขายากที่จะยอมรับได้

ตอนที่เขากำลังจะหมดความอดทน

จู่ ๆ หรงจือจือเอ่ยปากพูดขึ้น “ท่านพี่!”

ฉีจื่อฟู่เผลอยิ้มออกมาทันที สุดท้ายนางก็ยังสนใจตนอยู่ จะไม่เป็นห่วงตนที่ไหนกัน?

เขาเหลือบตามองนาง กล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง “มีเรื่องอะไรหรือ?”

หรงจือจือจ้องตาของฉีจื่อฟู่ กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “อาการป่วยของท่านย่า หวังว่าท่านพี่จะไม่นำไปพูดกับคนอื่น”

นางไม่อยากมีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามา ก่อเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นอีก

ฉีจื่อฟู่ไม่ได้ลังเล ก็ตอบรับทันที “ได้”

ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด เพียงเพราะเขามองออกถึง ความสำคัญของนายหญิงผู
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 52

    หรงจือจือค่อย ๆ ยิ้มออกมา นางกล้าที่จะพูดถึง ‘ความผิด’ของตนเองต่อหน้าของนางถาน แต่ไม่รู้ว่านางถานจะยินดีฟังหรือไม่ตลอดทางที่กลับถึงจวนโหว ฉีจื่อฟู่เหมือนกับนกหัวขวานที่ปากยื่นยาว พูดมาก ถึงขนาดพูด‘เหตุผล’มากมาย แต่ไม่มีสักประโยคที่หรงจือจือรู้สึกเข้าหูล้วนเป็นคำพูดที่ไร้จิตใจ เนรคุณ แต่กลับยังพูดออกมาได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ฟังแล้วไม่น่าพอใจสักนิดหรงจือจือจึงผล็อยหลับไปเสียเลยในขณะที่ฉีจื่อฟู่พูดอยู่ ก็เห็นหรงจือจือหลับไปแล้ว ใบหน้าที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ เพียงแค่เห็นใบหน้าของนางที่ผล็อยหลับไป หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัวใบหน้าที่งามล่มเมืองเช่นนี้ นางไม่จำเป็นต้องอวดโอ้ความงาม เพียงแค่นั่งหลับตาเงียบ ๆ ก็ทำให้คนจิตใจฟุ้งซ่านได้แล้วเขายื่นมือออกไปลูบใบหน้าของหรงจือจืออย่างอดไม่ได้ในเวลานี้รถม้าก็หยุดลงอย่างกะทันหัน หรงจือจือได้สติกลับมาคนบังคับรถม้าด้านนอกกล่าว “ซื่อจื่อ ฮูหยินซื่อจื่อ ถึงแล้วขอรับ”หรงจือจือมองฉีจื่อฟู่ที่มือยื่นอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าประหลาดใจ กล่าวเสียงเรียบ “ท่านพี่กำลังทำอะไรหรือ?”ฉีจื่อฟู่รีบหดมือกลับทันที เขาจะให้หรงจือจือรู้ถึง ความใส่ใ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 53

    ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า กลับกลายเป็นบุญวาสนาของตนไปเสียแล้วนางถานพ่นลมหายใจ “เจ้าต้องรู้จักรักษาเอาไว้ ปรนนิบัติลูกชายของข้าดี ๆ! ลูกชายของข้า ต้องนอนอยู่ที่ห้องหนังสือในเรือนของเขามาหลายวันแล้ว ถ้าหากเจ้ารู้ความ ก็ขอร้องเขาดี ๆ ให้เข้าไปนอนที่ห้องของเจ้า ทำเช่นนี้ก็ถือเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าด้วยเช่นกัน”หรงจือจือไม่ต้องการหน้าตาแบบนี้เลยสักนิดเดียวเมื่อนางถานเห็นว่าหรงจือจือไม่รีบรับปาก ก็พูดด้วยความไม่พอใจ “ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะว่าเจ้า อันที่จริงเจ้ามีชีวิตอยู่ในความสุขแต่ไม่เห็นค่าของความสุข เสน่ห์ของลูกชายข้า แม้แต่องค์หญิงแห่งแคว้นเจายังต้านไม่ได้”“ไม่มีงานแต่งไม่มีสินสอด นางก็ยอมถวายตัวให้ลูกชายข้า สามีที่โดดเด่นเช่นนี้ ตอนนี้อยู่ตรงหน้าของเจ้าแล้ว เจ้ายังมีอะไรไม่พอใจอีกหรือ?”ถึงอย่างไรฉีจื่อฟู่ก็อยากได้หน้า จึงกล่าวขึ้น “พอแล้ว ท่านแม่ คำพูดพวกนี้ไม่ต้องพูดอีก จือจือมาเพื่อจะขอโทษท่าน พวกเราพูดธุระกันเถอะ”ไม่แต่งงานไม่มีสินสอด อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าโอ้อวดอะไร เขาก็ไม่อยากจะให้ใครพูดถึงบ่อย ๆตอนนั้นที่อยู่กับอวี้ม่านหวา ฉีจื่อฟู่คิดเพียงแค่ตนเป็นบุรุษที่ประสบความส

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 54

    ตอนนี้นางถานคิดว่า นับตั้งแต่ที่ลูกชายของตนกลับมายังแคว้นต้าฉี ชีวิตของตนก็ทุกข์ทรมานขึ้นเรื่อย ๆ ถูกยั่วโมโหจนหัวใจจะวายทุกวัน ไม่มีวันไหนที่จะได้สบายใจ!แต่นางจะโทษลูกชายของตนเองได้อย่างไร แน่นอนว่าต้องนำเรื่องทั้งหมดนี้ ไปโยนให้ภรรยาแพศยาอย่างหรงจือจือนางถานในเวลานี้สั่นระริกไปทั่วทั้งตัว ด่าว่าต่อ “หากทำให้แม่สามีอย่างข้าต้องโมโหตาย ในใจของเจ้าคงจะมีความสุขมากใช่หรือไม่?”หรงจือจือเยาะหยัน “ท่านแม่ จือจือปฏิบัติตามเจตนาของท่านพี่ สารภาพความผิดของตนเอง อันที่จริงก็เพื่อปลอบโยนจิตใจของท่านแม่ มีความคิดที่อยากจะยั่วโมโหท่านแม่ที่ไหนกัน?”นางถานโมโห ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น “มีผู้ใดเขาปลอบใจเช่นเจ้าบ้าง? หากคำพูดเหล่านี้ ทำให้ข้ารู้สึกว่าเป็นการปลอบใจได้ เช่นนั้นหากหัวใจของข้าเป็นมหาสมุทร ก็คงจะกว้างเกินไป กว้างจนไปถึงแคว้นใกล้เคียงแล้ว!”หรงจือจือขมวดคิ้ว “แต่ท่านแม่ นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ลูกนึกความผิดเรื่องอื่นของตนเองไม่ออกแล้วจริง ๆ หรือว่าท่านแม่อยากจะฟังลูกพูดอะไรที่ขัดแย้งกับความตั้งใจอย่างนั้นหรือ? แต่คำขอโทษที่ไม่จริงใจ คิดว่าท่านแม่ก็คงจะไม่ต้องการเช่นกัน”นางถานกล่าวในใจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 55

    ตามหลักแล้ว ไม่ว่าผู้ใดได้ฟังคำพูดนี้ของนาง ย่อมรู้ว่านางกำลังไม่พอใจเดิมนางคิดว่าหรงจือจือฟังคำพูดเหล่านี้แล้ว จะยอมอ่อนข้อ ถึงอย่างไรก็อยู่ต่อหน้าของลูกชาย มีหรือที่นังแพศยาคนนี้จะไม่กลัวจริง ๆ ว่าตนจะไม่ยอมให้นางนวดศีรษะให้ จนทำให้ความประทับใจของลูกชายที่มีต่อนางแย่ลงยิ่งกว่าเดิม?แต่นางคิดไม่ถึงว่าเมื่อหรงจือจือฟังจบ ก็โค้งตัวทันที กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อท่านแม่ไม่ต้องการ ถ้าอย่างนั้นลูกขอตัวกลับก่อน”นางถาน “???”นางพูดว่าไม่ต้องการอย่างนั้นหรือ? เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่นางพูดคือ ถูกนังแพศยาคนนี้ทำให้โมโห หากฉลาดสักหน่อย สิ่งที่ควรทำคือขอโทษตน ง้อตนไม่ใช่หรือ?เมื่อเห็นหรงจือจือพูดจบ หันหลังแล้วเดินออกไปนางถานก็กล่าวด้วยความโมโห “หยุดเดี๋ยวนี้!”หรงจือจือชะงักฝีเท้า หันหน้ากลับไปมองนางถาน “ท่านแม่ มีอะไรหรือ?”เมื่อเห็นนางแสร้งโง่แบบนี้ ยังถามตนว่ามีอะไรอีก นางถานก็โมโหจนแทบอยากจะลุกขึ้นไป แล้วข่วนหน้าของหรงจือจือให้ลายแต่ฉีจื่อฟู่เกรงว่าหากมีเรื่องกันต่อไปแบบนี้ เรื่องที่จะนวดศีรษะให้ท่านแม่ ก็คงจะดำเนินต่อไปไม่ได้จริง ๆจึงกล่าว “พอแล้ว จือจือ! ท่านแม่พูดเพราะแค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 56

    ความเจ็บปวดประเภทนี้ ทำให้นางถานค่อย ๆ จำได้ว่า อันที่จริงตอนนั้นที่นางเริ่มสังเกตเห็นถึงอาการปวดหัวของนาง นอกจากเหมือนกับมีคนกระแทกที่บริเวณหัวภายนอกแล้ว ยังรู้สึกเหมือนมีพลั่ว มาคนอยู่ในหัวสมองของนางพร้อมกันเมื่อสามปีก่อน เป็นหรงจือจือที่คอยนวดและฝังเข็มให้ตนเป็นประจำทุกวัน ความเจ็บปวดภายในหัวถึงได้หายไปอย่างช้า ๆ เหลือไว้เพียงอาการปวดหัวด้านนอกเท่านั้นเพียงแต่บัดนี้ทันทีที่ถูกหรงจือจือนวดแบบนี้ ไม่รู้เป็นเพราะจินตนาการของนางหรือไม่ นางถึงรู้สึกว่าความรู้สึกปวดที่เหมือนกับถูกคนในหัวสมองที่คุ้นเคยก่อนหน้านี้ กลับมาอีกแล้วความเจ็บปวดจากแรงกดดันภายนอก ทำให้นางรู้สึกทรมานเป็นอย่างยิ่งหรงจือจือแสร้งทำเป็นสงสัย “ไม่น่าหรอกกระมัง? จะเจ็บกว่าเดิมได้อย่างไรกันนะ? เมื่อก่อนนี้ข้าก็นวดให้ท่านแม่แบบนี้นี่นา”แน่นอนว่าต้องเจ็บกว่าเดิม เพราะวิธีการของนาง กำลังช่วยนางถานฟื้นคืนความเจ็บปวดก่อนหน้านี้อย่างช้า ๆความรู้สึกที่ภายในหัวสมองถูกคน กว่าจะนวดให้นางถานหายดี นางใช้เวลาถึงสามปีเต็ม ๆ แต่หากคิดอยากจะทำให้อาการกำเริบอีกครั้ง ใช้เวลาสามวันก็เพียงพอแล้ว นี้เป็นการทำให้ป่วยหนักอย่างกะทันหั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 57

    เจาซี “คุณหนู เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”หรงจือจือ “ท่านพ่อกล่าวว่า เมื่อวานนี้ที่พาฉีจื่อฟู่กลับไปที่สกุลหรง มีประโยชน์จริง ๆ สุขภาพของท่านย่าดีขึ้นมาก อาจารย์หมอเทวดากล่าวว่า เขาจะฝังเข็มให้ท่านย่าด้วยตัวเองสามวัน ท่านย่าก็จะดีขึ้นมาก”เจาซีดีใจจนออกนอกหน้า “นั่นก็หมายความว่า หลังจากนี้สามวัน นายท่านก็จะสามารถบอกเรื่องที่ท่านจะหย่า ให้นายหญิงใหญ่ฟังได้แล้ว และมารับท่านกลับจวนใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ในที่สุดก็ใกล้จะได้เงยหน้าอ้าปากเสียที การใช้ชีวิตอยู่ที่สกุลฉีนี้ เจาซีไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้วทุกครั้งที่นางรู้สึกว่าคนสกุลฉีน่าขยะแขยงเต็มทน คนสกุลฉีมักจะใช้คำพูดและการกระทำของพวกเขา เพื่อทำให้เจาซีเข้าใจอย่างรวดเร็วว่า พวกเขามีความสามารถที่จะทำให้คนสะอิดสะเอียนได้ยิ่งกว่านี้หรงจือจือกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถูกต้อง!”เมื่อคิดว่าท่านย่าใกล้จะหายดีแล้ว และคิดว่าตนต้องอยู่ที่สกุลฉีอีกแค่สองสามวันเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้อยู่หลายวัน นางก็อารมณ์ดี เมื่อวานนี้ต้องอดทนต่อรังเกียจพาฉีจื่อฟู่กลับไปที่สกุลหรง แต่ผลลัพธ์กลับคุ้มค่าเจาซี “ยอดไปเลยเจ้าค่ะ!

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 58

    หรงจือจือไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่ยิ้มฉีอวี่เยียนเห็นรอยยิ้มของนาง ก็โมโหมาก “ท่านยิ้มอะไร?”นางถานกล่าวอย่างไม่พอใจเช่นกัน “นางหรง วันข้างหน้าลูกสาวของข้าจะเป็นฮูหยินแห่งจวนอ๋องแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าอาจเอื้อมไม่ถึง นางให้โอกาสเจ้าได้ใกล้ชิด เจ้ายังไม่รู้จักเห็นคุณค่าอีกหรือ?”หรงจือจือเหลือบตามองนางถานแวบหนึ่ง เกรงว่าแม่สามีคงจะเป็นโรคความจำเสื่อมหากจวนอ๋องเฉียนเป็นสิ่งที่ตนอาจเอื้อมไม่ถึง ก่อนหน้านี้ตนจะไปคุยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้กับพระชายาอ๋องเฉียนถึงที่จวนได้หรือ? ลูกสาวของนางอาศัยบารมีของตนทั้งนั้นตอนนี้กลับเริ่มถีบหัวส่ง และดูถูกตนแล้ว?นางวางแผนผลักจะฉีอวี่เยียนที่ข้ามแม่น้ำสำเร็จแล้ว กลับลงไปในแม่น้ำ จึงกล่าวช้า ๆ “ท่านแม่กล่าวถูกต้อง”นางถานไม่พอใจขึ้นมาทันที รู้สึกว่าช่วงนี้แค่เห็นหรงจือจือก็หงุดหงิดรถม้ามาถึงจวนอ๋องเฉียนแล้ว คนใช้ที่อยู่ด้านในพาพวกหรงจือจือทั้งสามคนเดินเข้าไปด้านใน ตอนนี้มีผู้หญิงมาถึงจำนวนไม่น้อยแล้วเมื่อเห็นว่าครอบครัวของนางมาถึง ก็พากันทำสีหน้าสอดรู้สอดเห็นเรื่องที่ฉีจื่อฟู่ลดตำแหน่งภรรยาเอกเป็นอนุครั้งก่อน ผู้ใดบ้างที่ไม่รู้?นางถานถูกมอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 59

    นางถานสีหน้าโกรธเคือง “เหลวไหล คนนอกกำลังใส่ร้ายข้า!”นางเซี่ย “ดี ถ้าอย่างนั้นท่านแม่ยายลองว่ามา สามพิธีการ ห้าคัมภีร์ แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง? ชวีหลี่กับจงยงอยู่ในเล่มใดของสามพิธีการ? แล้วอยู่บทที่เท่าไหร่ของหนังสือ?”สีหน้าของนางถานอึดอัดยิ่งกว่าเดิม “คือ คือ...ข้าจำไม่ได้แล้ว!”นางเซี่ยหัวเราะอย่างเย็นชา “เฮอะ เจ้าจำไม่ได้เสียที่ไหนกัน ข้าว่า เจ้าน่าจะไม่รู้ด้วยซ้ำ แม่ยายที่ไม่ได้เรียนหนังสือเช่นเจ้า จะสั่งสอนลูก ๆ ได้อย่างไร? เหตุใดลูกชายข้าถึงได้โชคร้ายขนาดนี้ ถึงต้องมาหมั้นหมายกับลูกสาวของสกุลเจ้า!”นางเซี่ยเกิดในตระกูลใหญ่ ข่าวสารรวดเร็ว รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านางถานไม่เรียนหนังสือ ถึงได้จงใจหาข้ออ้างนี้มาแสดงนางจึงพูดอย่างไม่เกรงใจ จนนางถานเก้อเขินฉีอวี่เยียนยิ่งอับอายหนัก ถึงขนาดมองนางถานด้วยสายตาดุร้ายแวบหนึ่ง แอบโทษที่ท่านแม่ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ สิ่งที่ทำให้นางสุดจะทนไหวก็คือ ตนก็จำไม่ได้ว่าอยู่ในบทที่เท่าไหร่ของจงยง ไม่อย่างนั้นยังพอแอบเตือนได้ในฐานะที่นางเจียงเป็นเพื่อนสนิทของนางเซี่ย รู้ถึงจุดประสงค์ในวันนี้ของนางเซี่ยตั้งแต่แรกแล้ว จึงกล่าวอย่างให้ความร่วมมือ “ก็ใช่

Bab terbaru

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status