Share

บทที่ 53

Penulis: สั่งไม่หยุด
ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า กลับกลายเป็นบุญวาสนาของตนไปเสียแล้ว

นางถานพ่นลมหายใจ “เจ้าต้องรู้จักรักษาเอาไว้ ปรนนิบัติลูกชายของข้าดี ๆ! ลูกชายของข้า ต้องนอนอยู่ที่ห้องหนังสือในเรือนของเขามาหลายวันแล้ว ถ้าหากเจ้ารู้ความ ก็ขอร้องเขาดี ๆ ให้เข้าไปนอนที่ห้องของเจ้า ทำเช่นนี้ก็ถือเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าด้วยเช่นกัน”

หรงจือจือไม่ต้องการหน้าตาแบบนี้เลยสักนิดเดียว

เมื่อนางถานเห็นว่าหรงจือจือไม่รีบรับปาก ก็พูดด้วยความไม่พอใจ “ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะว่าเจ้า อันที่จริงเจ้ามีชีวิตอยู่ในความสุขแต่ไม่เห็นค่าของความสุข เสน่ห์ของลูกชายข้า แม้แต่องค์หญิงแห่งแคว้นเจายังต้านไม่ได้”

“ไม่มีงานแต่งไม่มีสินสอด นางก็ยอมถวายตัวให้ลูกชายข้า สามีที่โดดเด่นเช่นนี้ ตอนนี้อยู่ตรงหน้าของเจ้าแล้ว เจ้ายัง

มีอะไรไม่พอใจอีกหรือ?”

ถึงอย่างไรฉีจื่อฟู่ก็อยากได้หน้า จึงกล่าวขึ้น “พอแล้ว ท่านแม่ คำพูดพวกนี้ไม่ต้องพูดอีก จือจือมาเพื่อจะขอโทษท่าน พวกเราพูดธุระกันเถอะ”

ไม่แต่งงานไม่มีสินสอด อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าโอ้อวดอะไร เขาก็ไม่อยากจะให้ใครพูดถึงบ่อย ๆ

ตอนนั้นที่อยู่กับอวี้ม่านหวา ฉีจื่อฟู่คิดเพียงแค่ตนเป็นบุรุษที่ประสบความส
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 54

    ตอนนี้นางถานคิดว่า นับตั้งแต่ที่ลูกชายของตนกลับมายังแคว้นต้าฉี ชีวิตของตนก็ทุกข์ทรมานขึ้นเรื่อย ๆ ถูกยั่วโมโหจนหัวใจจะวายทุกวัน ไม่มีวันไหนที่จะได้สบายใจ!แต่นางจะโทษลูกชายของตนเองได้อย่างไร แน่นอนว่าต้องนำเรื่องทั้งหมดนี้ ไปโยนให้ภรรยาแพศยาอย่างหรงจือจือนางถานในเวลานี้สั่นระริกไปทั่วทั้งตัว ด่าว่าต่อ “หากทำให้แม่สามีอย่างข้าต้องโมโหตาย ในใจของเจ้าคงจะมีความสุขมากใช่หรือไม่?”หรงจือจือเยาะหยัน “ท่านแม่ จือจือปฏิบัติตามเจตนาของท่านพี่ สารภาพความผิดของตนเอง อันที่จริงก็เพื่อปลอบโยนจิตใจของท่านแม่ มีความคิดที่อยากจะยั่วโมโหท่านแม่ที่ไหนกัน?”นางถานโมโห ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น “มีผู้ใดเขาปลอบใจเช่นเจ้าบ้าง? หากคำพูดเหล่านี้ ทำให้ข้ารู้สึกว่าเป็นการปลอบใจได้ เช่นนั้นหากหัวใจของข้าเป็นมหาสมุทร ก็คงจะกว้างเกินไป กว้างจนไปถึงแคว้นใกล้เคียงแล้ว!”หรงจือจือขมวดคิ้ว “แต่ท่านแม่ นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ลูกนึกความผิดเรื่องอื่นของตนเองไม่ออกแล้วจริง ๆ หรือว่าท่านแม่อยากจะฟังลูกพูดอะไรที่ขัดแย้งกับความตั้งใจอย่างนั้นหรือ? แต่คำขอโทษที่ไม่จริงใจ คิดว่าท่านแม่ก็คงจะไม่ต้องการเช่นกัน”นางถานกล่าวในใจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 55

    ตามหลักแล้ว ไม่ว่าผู้ใดได้ฟังคำพูดนี้ของนาง ย่อมรู้ว่านางกำลังไม่พอใจเดิมนางคิดว่าหรงจือจือฟังคำพูดเหล่านี้แล้ว จะยอมอ่อนข้อ ถึงอย่างไรก็อยู่ต่อหน้าของลูกชาย มีหรือที่นังแพศยาคนนี้จะไม่กลัวจริง ๆ ว่าตนจะไม่ยอมให้นางนวดศีรษะให้ จนทำให้ความประทับใจของลูกชายที่มีต่อนางแย่ลงยิ่งกว่าเดิม?แต่นางคิดไม่ถึงว่าเมื่อหรงจือจือฟังจบ ก็โค้งตัวทันที กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อท่านแม่ไม่ต้องการ ถ้าอย่างนั้นลูกขอตัวกลับก่อน”นางถาน “???”นางพูดว่าไม่ต้องการอย่างนั้นหรือ? เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่นางพูดคือ ถูกนังแพศยาคนนี้ทำให้โมโห หากฉลาดสักหน่อย สิ่งที่ควรทำคือขอโทษตน ง้อตนไม่ใช่หรือ?เมื่อเห็นหรงจือจือพูดจบ หันหลังแล้วเดินออกไปนางถานก็กล่าวด้วยความโมโห “หยุดเดี๋ยวนี้!”หรงจือจือชะงักฝีเท้า หันหน้ากลับไปมองนางถาน “ท่านแม่ มีอะไรหรือ?”เมื่อเห็นนางแสร้งโง่แบบนี้ ยังถามตนว่ามีอะไรอีก นางถานก็โมโหจนแทบอยากจะลุกขึ้นไป แล้วข่วนหน้าของหรงจือจือให้ลายแต่ฉีจื่อฟู่เกรงว่าหากมีเรื่องกันต่อไปแบบนี้ เรื่องที่จะนวดศีรษะให้ท่านแม่ ก็คงจะดำเนินต่อไปไม่ได้จริง ๆจึงกล่าว “พอแล้ว จือจือ! ท่านแม่พูดเพราะแค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 56

    ความเจ็บปวดประเภทนี้ ทำให้นางถานค่อย ๆ จำได้ว่า อันที่จริงตอนนั้นที่นางเริ่มสังเกตเห็นถึงอาการปวดหัวของนาง นอกจากเหมือนกับมีคนกระแทกที่บริเวณหัวภายนอกแล้ว ยังรู้สึกเหมือนมีพลั่ว มาคนอยู่ในหัวสมองของนางพร้อมกันเมื่อสามปีก่อน เป็นหรงจือจือที่คอยนวดและฝังเข็มให้ตนเป็นประจำทุกวัน ความเจ็บปวดภายในหัวถึงได้หายไปอย่างช้า ๆ เหลือไว้เพียงอาการปวดหัวด้านนอกเท่านั้นเพียงแต่บัดนี้ทันทีที่ถูกหรงจือจือนวดแบบนี้ ไม่รู้เป็นเพราะจินตนาการของนางหรือไม่ นางถึงรู้สึกว่าความรู้สึกปวดที่เหมือนกับถูกคนในหัวสมองที่คุ้นเคยก่อนหน้านี้ กลับมาอีกแล้วความเจ็บปวดจากแรงกดดันภายนอก ทำให้นางรู้สึกทรมานเป็นอย่างยิ่งหรงจือจือแสร้งทำเป็นสงสัย “ไม่น่าหรอกกระมัง? จะเจ็บกว่าเดิมได้อย่างไรกันนะ? เมื่อก่อนนี้ข้าก็นวดให้ท่านแม่แบบนี้นี่นา”แน่นอนว่าต้องเจ็บกว่าเดิม เพราะวิธีการของนาง กำลังช่วยนางถานฟื้นคืนความเจ็บปวดก่อนหน้านี้อย่างช้า ๆความรู้สึกที่ภายในหัวสมองถูกคน กว่าจะนวดให้นางถานหายดี นางใช้เวลาถึงสามปีเต็ม ๆ แต่หากคิดอยากจะทำให้อาการกำเริบอีกครั้ง ใช้เวลาสามวันก็เพียงพอแล้ว นี้เป็นการทำให้ป่วยหนักอย่างกะทันหั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 57

    เจาซี “คุณหนู เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”หรงจือจือ “ท่านพ่อกล่าวว่า เมื่อวานนี้ที่พาฉีจื่อฟู่กลับไปที่สกุลหรง มีประโยชน์จริง ๆ สุขภาพของท่านย่าดีขึ้นมาก อาจารย์หมอเทวดากล่าวว่า เขาจะฝังเข็มให้ท่านย่าด้วยตัวเองสามวัน ท่านย่าก็จะดีขึ้นมาก”เจาซีดีใจจนออกนอกหน้า “นั่นก็หมายความว่า หลังจากนี้สามวัน นายท่านก็จะสามารถบอกเรื่องที่ท่านจะหย่า ให้นายหญิงใหญ่ฟังได้แล้ว และมารับท่านกลับจวนใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ในที่สุดก็ใกล้จะได้เงยหน้าอ้าปากเสียที การใช้ชีวิตอยู่ที่สกุลฉีนี้ เจาซีไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้วทุกครั้งที่นางรู้สึกว่าคนสกุลฉีน่าขยะแขยงเต็มทน คนสกุลฉีมักจะใช้คำพูดและการกระทำของพวกเขา เพื่อทำให้เจาซีเข้าใจอย่างรวดเร็วว่า พวกเขามีความสามารถที่จะทำให้คนสะอิดสะเอียนได้ยิ่งกว่านี้หรงจือจือกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถูกต้อง!”เมื่อคิดว่าท่านย่าใกล้จะหายดีแล้ว และคิดว่าตนต้องอยู่ที่สกุลฉีอีกแค่สองสามวันเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้อยู่หลายวัน นางก็อารมณ์ดี เมื่อวานนี้ต้องอดทนต่อรังเกียจพาฉีจื่อฟู่กลับไปที่สกุลหรง แต่ผลลัพธ์กลับคุ้มค่าเจาซี “ยอดไปเลยเจ้าค่ะ!

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 58

    หรงจือจือไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่ยิ้มฉีอวี่เยียนเห็นรอยยิ้มของนาง ก็โมโหมาก “ท่านยิ้มอะไร?”นางถานกล่าวอย่างไม่พอใจเช่นกัน “นางหรง วันข้างหน้าลูกสาวของข้าจะเป็นฮูหยินแห่งจวนอ๋องแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าอาจเอื้อมไม่ถึง นางให้โอกาสเจ้าได้ใกล้ชิด เจ้ายังไม่รู้จักเห็นคุณค่าอีกหรือ?”หรงจือจือเหลือบตามองนางถานแวบหนึ่ง เกรงว่าแม่สามีคงจะเป็นโรคความจำเสื่อมหากจวนอ๋องเฉียนเป็นสิ่งที่ตนอาจเอื้อมไม่ถึง ก่อนหน้านี้ตนจะไปคุยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้กับพระชายาอ๋องเฉียนถึงที่จวนได้หรือ? ลูกสาวของนางอาศัยบารมีของตนทั้งนั้นตอนนี้กลับเริ่มถีบหัวส่ง และดูถูกตนแล้ว?นางวางแผนผลักจะฉีอวี่เยียนที่ข้ามแม่น้ำสำเร็จแล้ว กลับลงไปในแม่น้ำ จึงกล่าวช้า ๆ “ท่านแม่กล่าวถูกต้อง”นางถานไม่พอใจขึ้นมาทันที รู้สึกว่าช่วงนี้แค่เห็นหรงจือจือก็หงุดหงิดรถม้ามาถึงจวนอ๋องเฉียนแล้ว คนใช้ที่อยู่ด้านในพาพวกหรงจือจือทั้งสามคนเดินเข้าไปด้านใน ตอนนี้มีผู้หญิงมาถึงจำนวนไม่น้อยแล้วเมื่อเห็นว่าครอบครัวของนางมาถึง ก็พากันทำสีหน้าสอดรู้สอดเห็นเรื่องที่ฉีจื่อฟู่ลดตำแหน่งภรรยาเอกเป็นอนุครั้งก่อน ผู้ใดบ้างที่ไม่รู้?นางถานถูกมอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 59

    นางถานสีหน้าโกรธเคือง “เหลวไหล คนนอกกำลังใส่ร้ายข้า!”นางเซี่ย “ดี ถ้าอย่างนั้นท่านแม่ยายลองว่ามา สามพิธีการ ห้าคัมภีร์ แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง? ชวีหลี่กับจงยงอยู่ในเล่มใดของสามพิธีการ? แล้วอยู่บทที่เท่าไหร่ของหนังสือ?”สีหน้าของนางถานอึดอัดยิ่งกว่าเดิม “คือ คือ...ข้าจำไม่ได้แล้ว!”นางเซี่ยหัวเราะอย่างเย็นชา “เฮอะ เจ้าจำไม่ได้เสียที่ไหนกัน ข้าว่า เจ้าน่าจะไม่รู้ด้วยซ้ำ แม่ยายที่ไม่ได้เรียนหนังสือเช่นเจ้า จะสั่งสอนลูก ๆ ได้อย่างไร? เหตุใดลูกชายข้าถึงได้โชคร้ายขนาดนี้ ถึงต้องมาหมั้นหมายกับลูกสาวของสกุลเจ้า!”นางเซี่ยเกิดในตระกูลใหญ่ ข่าวสารรวดเร็ว รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านางถานไม่เรียนหนังสือ ถึงได้จงใจหาข้ออ้างนี้มาแสดงนางจึงพูดอย่างไม่เกรงใจ จนนางถานเก้อเขินฉีอวี่เยียนยิ่งอับอายหนัก ถึงขนาดมองนางถานด้วยสายตาดุร้ายแวบหนึ่ง แอบโทษที่ท่านแม่ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ สิ่งที่ทำให้นางสุดจะทนไหวก็คือ ตนก็จำไม่ได้ว่าอยู่ในบทที่เท่าไหร่ของจงยง ไม่อย่างนั้นยังพอแอบเตือนได้ในฐานะที่นางเจียงเป็นเพื่อนสนิทของนางเซี่ย รู้ถึงจุดประสงค์ในวันนี้ของนางเซี่ยตั้งแต่แรกแล้ว จึงกล่าวอย่างให้ความร่วมมือ “ก็ใช่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 60

    ถึงอย่างไรนางเซี่ยก็ไม่มีทางยอมให้ใครเป็นอะไรไปที่จวนของตนอย่างเด็ดขาด จึงบอกให้คนไปเรียกหมอประจำจวนมา ใช้การฝังเข็มที่บริเวณร่องตรงกลางริมฝีปากบนเพื่อปลุกฉีอวี่เยียนฉีอวี่เยียนที่ค่อย ๆ ได้สติ เมื่อเห็นว่าเรื่องทุกอย่างทำให้ตนยากที่จะยอมรับได้นั้น ไม่ใช่เพียงภาพมายาหรือความฝันชั่วขณะเมื่อเห็นบรรดาฮูหยินทั้งหลายที่อยู่ในงาน รวมถึงหญิงสาวจากตระกูลร่ำรวยบางคนที่นางคิดว่าอิจฉานาง ต่างก็พากันมองดูนางด้วยความสอดรู้สอดเห็นนางก็รู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง ร้องไห้กล่าวกับนางเซี่ย “พระชายาซื่อจื่อ ท่านจะยกเลิกงานแต่งงานได้อย่างไร! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด”นางเซี่ยเหลือบตา “น่าประหลาดใจจริง ๆ ข้าเพียงแค่เสนอให้เจ้าเป็นอนุ แต่แม่ของเจ้าต่างหากที่เป็นคนพูดว่าจะยกเลิกงานแต่งงาน เป็นอย่างที่คิดไว้แม่ที่ไม่รู้หนังสือของเจ้า ชอบทำอะไรแตกต่างจากชาวบ้านจริง ๆ ด้วย”“ข้ายังคิดว่า เจ้าจะแตกต่างกับแม่ของเจ้า คิดว่าเจ้าจะแตกต่างกับนาง เพราะว่าเจ้ารู้หนังสือ ให้ข้ารับเจ้าเป็นสะใภ้เช่นเดิม แต่ใครจะไปรู้ว่านางใช้เรื่องการยกเลิกงานแต่งงานมาข่มขู่ข้า ด้วยท่าทีร้อนตัวที่ไม่รู้หนังสือของพวกเจ้า“หรือว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 61

    นางเซี่ยยิ้มมองนางแวบหนึ่ง “เชื่อว่าเจ้าเข้าใจ ถึงเจตนาที่วันนี้ข้าทำแบบนี้”หรงจือจือวางตัวอย่างเหมาะสม “เข้าใจเจ้าค่ะ พระชายาซื่อจื่อวางใจได้”ทุกคนงุนงง แต่ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างรู้กันดี นางเซี่ยกำลังเตือนสติหรงจือจือ ‘เรื่องที่เจ้าให้ข้าช่วยจัดการ ข้าได้จัดการเรียบร้อยแล้ว อย่าได้คิดเรื่องที่อยากจะแต่งงานกับบุตรชายของข้าอีก’ถึงแม้หรงจือจือจะไม่ชอบคำพูดเหล่านั้นที่นางเซี่ยพูดกับนางในวันนั้น แต่ก็จำต้องยอมรับว่า นางเซี่ยตอบสนองคำขอของนางได้ดียิ่ง อีกทั้งเดิมทีนางไม่ได้คิดอยากจะแต่งงานกับจีอู๋เหิงเลยด้วยซ้ำถึงแม้นางเจียงจะไม่เข้าใจความลับระหว่างนางเซี่ยกับหรงจือจือแต่เมื่อมองหรงจือจือ ก็ถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง “น่าเสียดาย ที่เจ้าเป็นบุตรสาวของนาง ไม่อย่างนั้นข้าจะพูดเพื่อช่วยทวงความยุติธรรมให้เจ้า!”หรงจือจือมีหรือจะไม่เข้าใจ ว่านางเจียงกำลังหมายถึง เรื่องความไม่ลงรอยของอีกฝ่ายกับนางหวังมารดาของนางนางโค้งคำนับอีกครั้ง “เจตนาดีของท่าน ข้าได้จดจำเอาไว้ในใจแล้ว”นางเจียงเคยพูดแทนตนสองครั้งแล้ว มีหรือที่หรงจือจือจะไม่ซาบซึ้งใจ?นางเจียงยิ้ม “เป็นเรื่องสมควร”ไม่คิดสงสัยว่าตนมีคว

Bab terbaru

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status