“พรุ่งนี้แนนจะไปหาเขาน่ะค่ะป้า...แนนรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในฐานะที่ต่ำต้อย เทียบกันไม่ได้เลยกับเขา แต่แนนก็แค่อยากรู้ว่า...เมื่อห้าปีที่แล้วเขาไปไหน”
ณชนกแทบไม่ได้สังเกตเลยว่ามือของวิไลที่จับมือของเธอไว้แน่นคลายลงในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของแม่บ้านวัยกลางคนก็เปลี่ยนไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่นางไม่สามารถพูดออกมาได้วิไลแค่นยิ้มกลบความรู้สึกบางอย่างที่กำลังแล่นปรี่ขึ้นมา
“คุณแนนไปพักผ่อนเถอะนะคะ ดึกแล้ว...พรุ่งนี้คุณแนนต้องไปทำงานแต่เช้านี่ไม่ใช่เหรอคะ”
“ค่ะ...ป้าคะ...แนนอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดอะไรขึ้นกับเฮ็คเตอร์ เขาคงจะไม่โกหกแนนหรอกนะคะ ว่าเขาไปไหนมา”
วิไลยิ้มกับร่างบางที่ลุกขึ้นและเดินกลับเข้าห้อง นางมองเห็นความสับสนและหวั่นกลัวฉายออกมาจากแววตาคู่นั้นซึ่งมันทำให้ตัวนางเองก็รู้สึกสะท้อนสะเทือนใจเช่นเดียวกัน วิไลเผลอหลั่งน้ำตาและรำพึงกับตัวเองเบา ๆ
“คุณแนน...ป้าขอโทษนะคะ...ป้าขอโทษ”
เช้าวันใหม่ณชนกพาหนูน้อยคลีโอไปฝากไว้ที่เนอร์สเซอรรี่เป็นปกติ แต่วันนี้หญิงสาวสังเกตเห็นแม่หนูน้อยมีสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนถึงสถานเลี้ยงเด็กเธอจึงหยุดเดินและย่อตัวลงนั่งขณะหนูน้อยก็หยุดเดินตามและมองหน้ามารดาด้วยแววตาไร้เดียงสาตามประสาของเด็กวัยย่างเข้าขวบที่ห้า
“ว่าไงคะ คลีโอของคุณแม่...คุณแม่ว่าหนูมีอะไรอยากคุยกับคุณแม่นะคะ”
“คุณแม่ขา...วันนี้คุณแม่กลับเร็วไหมคะ?”
“คุณแม่ก็กลับเป็นปกตินะคะ คลีโอมีอะไรหรือเปล่าคะ...คงอยากไปเที่ยวแล้วละซี”
“ม่ายช่ายค่ะ” คลีโอส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มแป้นบนใบหน้ากลมเล็ก “คุณแม่กลับมา...แล้วช่วย...คลีโอ...วาดรูปคุณพ่อนะคะ”
น้ำเสียงเล็ก ๆ ของคลีโอทำให้หญิงสาวชะงัก ณชนกทำหน้าแทบไม่ถูกเลยทีเดียวเมื่อลูกสาวตัวน้อยบอกเช่นนั้น
“คลีโอ...ม่ายเคยเห็นคุณพ่อเลยค่ะ คลีโอนึกม่ายออก”
ณชนกฝืนยิ้ม “ได้ซีคะ...วันนี้คุณแม่จะรีบกลับ แล้วจะมาช่วยวาดรูปคุณพ่อนะคะ”
“คลีโอรักคุณแม่...ที่สุดเลยค่ะ” หนูน้อยกอดและจูบแก้มมารดาก่อนที่หญิงสาวจะลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือหนูน้อยไปส่งที่เนอร์สเซอรรี่ตามปกติ ทุกอย่างดูเหมือนเป็นไปอย่างเช่นทุกวัน ณชนกส่งหนูน้อยแล้วก็ยืนเฝ้าดูกระทั่งลูกรักเดินเข้าไปด้านในพร้อมพี่เลี้ยง แต่แล้วเมื่อเธอหันกลับไปก็พบกับชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ขอโทษนะครับ...คุณเฮ็คเตอร์ให้ผมมารับคุณลีแอนไปพบท่านครับ”
ณชนกเลิกคิ้วสูงและมองชายผู้นั้นด้วยความฉงน “มารับฉันอย่างนั้นเหรอคะ...เอ้อ...แต่ฉันต้องไปทำงานตอนนี้”
“คุณเฮ็คเตอร์อยากคุยกับคุณครับ” เหมือนเขากลัวว่าเธอจะไม่เชื่อจึงส่งโทรศัพท์มือถือให้ณชนกที่ยังอยู่ในความงุนงง หญิงสาวรับโทรศัพท์จากมือของชายแปลกหน้าไปแนบหูซึ่งเธอได้ยินเสียงตามสายดังมาแทบจะทันที
“ลีแอน...ผมให้คนของผมไปรับ คุณต้องมากับเขาเดี๋ยวนี้”
“แต่ฉันต้องทำงานนะคะ...และนี่ก็ใกล้เวลาทำงานของฉันแล้วด้วย เราเจอกันที่โรงแรมก็...”
“นี่เป็นคำสั่งของผู้บริหารสูงสุด! คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...ขึ้นรถ...แล้วคนของผมจะพาคุณไปส่ง”
“แต่ว่าฉัน...” หญิงสาวแทบลืมหายใจเมื่อสัญญาณอีกฝั่งถูกตัดไปเสียเฉย ๆ ณชนกอยู่ในความลังเล เธอส่งโทรศัพท์คืนให้ชายผู้นั้นและยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ
“ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณเฮ็คเตอร์อยู่ที่ไหน?” “ผมจะพาคุณไปพบท่านครับ” ชายผู้นั้นยังตอบเสียงเย็นในขณะที่หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่มและหวาดหวั่น เธอจำต้องเดินตามไปที่รถเก๋งสีดำเป็นมันปลาบคันใหญ่และขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังพร้อมชายคนเดิม สักครู่คนขับจึงออกรถ ณชนกหันกลับไปมมองเนอร์สเซอร์รี่แล้วน้ำตาก็หยดเผาะลงบนแก้มโดยแทบไม่รู้ตัว คนขับใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงซึ่งสำหรับหญิงสาวที่นั่งมาด้วยรู้สึกเหมือนมันนานชั่วชีวิตของเธอก่อนจะพารถเก๋งคันหรูลัดเลาะไปตามถนนเลียบชายฝั่ง กระทั่งรถไปหยุดลงที่บ้านพักหลังหนึ่งบนเชิงเขาและหญิงสาวรู้ว่ามันห่างจากโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ไกลโขเลยทีเดียว
“เชิญคุณลีแอนครับ” คนของเฮ็คเตอร์เปิดประตูให้หญิงสาวก้าวลงไป ณชนกย่างก้าวด้วยความหวาดหวั่น หญิงสาวซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของโรงแรมเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหญ่ท่ามกลางหมู่ไม้ซึ่งห่างไกลออกมาจากย่านชุมชน มันเป็นสถานที่ที่สงบเงียบอย่างมาก ไม่ได้ยินเสียงรถแล่นผ่าน นั่นยิ่งทำให้หญิงสาววังเวงหัวใจ เธอเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น และเมื่อบานประตูถูกเปิดออกเธอก็เห็นร่างสูงใหญ่นั่งไขว่ห้างจิบไวน์อยู่ที่เก้าอี้รับแขก หญิงสาวยังยืนชิดบานประตูที่ปิดลงเหมือนเธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาในตอนนี้“นั่งสิ” เฮ็คเตอร์กล่าวขึ้นในความเงียบสงบ แม้จะเป็นเวลากลางวันที่แสงแดดส่องเข้ามาถึงแต่หญิงสาวกลับรู้สึกหนาวเยือกเหมือนอยู่กลางห้วงทะเลลึก“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...คุณมีธุระอะไรก็พูดกับฉันเลยก็ได้ เพราะเดี๋ยวฉันต้องรีบกลับไปทำงานที่โรงแรม”“ถึงไม่ไปวันนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้หรอกลีแอน” หญิงสาวเม้มปากสนิท ดูเหมือนผู้บริหารสูงสุดของบีช เบย์ คลับในเวลานี้จะเยือกเย็นเหมือนน้ำนิ่งสนิท เฮ็คเตอร์อยู่ในเชิ้ตขาวกางเกงแสล็คสีเทาดำ ใบหน้าคมคายหล่อเหลาที่เธอจดจำได้นั้นยังคงเหมือนเดิม แต่นัยน์ตาสีฟ้าประกายมรกตคู่นั้นลุ่มล
“คุณนั่นแหละที่ต้องฟังผม!” เฮ็คเตอร์ส่งเสียงคำรามลั่นเหมือนจอมซาตานที่ไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสวิญญาณของเธอหลุดรอดไปได้อีกครั้ง“ตอนนั้นผมมันเป็นแค่ไอ้งี่เง่าที่คิดว่ารักแท้มีจริง ก็คิดดูว่าผู้หญิงฐานะสูงส่งคนนั้นเคยลดตัวมาเกลือกกลั้วอยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือน แล้วสุดท้ายเธอก็คงได้คำตอบว่ารักแท้มันไม่มีความหมาย มันเทียบไม่ได้กับคนที่มีฐานะทัดเทียมกัน...คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกลีแอน!”มือหนาหนักข้างหนึ่งจับคางเรียวของหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากพูดแล้วบีบกรามเล็กไว้แน่น เรียวปากของณชนกสั่นระริกขณะน้ำตาหยดไหลเป็นทาง ทำยังไงเธอถึงจะได้มีโอกาสอธิบายให้เขาเข้าใจสักครั้ง เธอยังจำเหตุการณ์คืนนั้นได้แต่...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หญิงสาวนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นชนวนเหตุให้ต้องสูญเสียผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด เฮ็คเตอร์ก้มหน้าลงไปจนเกือบชิดใบหน้าหวาน เสียงขบกรามดังชัดเจนในหูของหญิงสาวก่อนที่เขาจะเปล่งเสียงลอดไรฟันออกมา“ผมจะไม่ฟังคำแก้ตัวของผู้หญิงใจโลเลอย่างคุณ ถึงแม้ว่าผมจะเคยเป็นผู้ชายคนแรกของคุณก็ตามทีเถอะ... ผมแค่อยากให้บทเรียนผู้หญิงร่านรักอย่างคุณ ให้รู้ว่าการที่ต้องอยู่กับการลวงหลอกและเจ็บปวดมันเป็นย
“ได้ความสะใจ!” คำตอบนั้นทำให้ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเฮ็คเตอร์จะตอบเธอได้อย่างไม่ยี่หระแม้แต่น้อย หญิงสาวเผลอสะอื้นไห้ออกมพร้อมด้วยน้ำตาที่จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากให้เขาเห็นด้วยซ้ำ“เฮ็คเตอร์...คุณไม่เหมือนเดิมเลย...ทำไม”“ผมบอกคุณไปแล้วไง เราแลกกัน ความเจ็บปวดของผมกับผู้หญิงต่ำช้าคนหนึ่งที่หลอกให้ผมทั้งรักทั้งคลั่ง...แค่ครั้งละสองแสน หรือว่าจะเป็นร้อยล้านพันล้าน ผมไม่แคร์ถ้าจะใช้มันเพื่อความพอใจของตัวเอง ในเมื่อตัวคุณมันมีค่าแค่เศษเงินของผมเท่านั้น!”“เศษเงิน...” คำพูดเบาหวิวลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผากพร้อมเสียงสะอื้นไห้ ณชนกเหมือนถูกฉุดขึ้นมาจากความตายตอนที่ได้เห็นหน้าเขาครั้งแรก แต่แล้วเธอกลับถูกเขาเหวี่ยงลงไปในเหวลึก ให้เธอตายทั้งเป็นอยู่ในนั้น มันทรมานราวกับได้ขึ้นสวรรค์ก่อนพลัดหล่นลงไปในนรกขุมสุดท้าย“เฮ็คเตอร์...คุณจะไม่ฟังฉัน...สักนิดเลยหรือคะ” เขาส่ายหน้า แววตาคู่นั้นอาบความชิงชังอย่างเหลือแสน เขาก้มลงมาใกล้อีก ริมฝีปากของเขาอยู่เกือบชิดกลีบปากแห้งผากของหญิงสาว ณชนกไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อน เธองดงามอย่างที่ผู้ชายคนไหนก็ไม่อาจห้ามใจ ใบหน้าแสนหวานของ
เฮ็คเตอร์ยักไหล่ “ผมไม่ทำอะไร...ถ้าคุณไม่บิดพลิ้วสัญญาที่ให้ไว้กับผม”“แต่คุณเป็นคนบังคับฉัน” เขาเอียงหน้า เสียงหัวเราะของชายหนุ่มดังลึกอยู่ในลำคอก่อนจะพูดออกมาราวกับไม่สนใจทุกอย่างในโลก“พรุ่งนี้ผมจะให้คนไปรับคุณที่เนอร์สเซอรี่...ส่งลูกสาวแล้วคุณต้องมาหาผม ถ้าผิดสัญญาอย่าหาว่าผมไม่เตือน!” ณชนกไม่ยอมโต้ตอบกลับไปอีก เธอหันหลังให้แล้วรีบก้าวออกไปหยุดยืนที่ระเบียงบ้าน หญิงสาวแทบไม่อยากหันกลับไปมองข้างหลังราวกับอยากลืมเลือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ หากก็ทำใจได้ยากเหลือเกิน ทั้งที่เธอรักและคิดถึงเขานับจากวันที่เขาหายไปจากชีวิตของเธอเป็นเวลากว่าห้าปี เธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย วาดหวังไว้ว่าสักวันเธอจะได้เจอเฮ็คเตอร์อีกครั้ง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับสลายกลายเป็นอากาศธาตุ เธอรู้สึกเคว้งคว้างราวกับถูกเหวี่ยงออกไปนอกอวกาศอย่างไรอย่างนั้น“คลีโอ...ยังไม่นอนอีกเหรอคะลูก?” ณชนกต้องประหลาดใจเมื่อกลับถึงบ้านตอนดึกแล้วแต่ยังเห็นแม่หนูน้อยในชุดนอนลายการ์ตูนนั่งอยู่บนพื้นภายในห้องนอนที่เปิดไฟสว่างจ้า เธอรีบวางกระเป๋าสะพายบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วปรี่เข้าไปกอดลูกน้อย“คุณแม่...ทำไมคุณแม่...กลับดึกคะ”“ช่วงนี
“สวัสดีครับคุณลีแอน...ผมมารับคุณไปพบคุณเฮ็คเตอร์ครับ” ณชนกเย็นเยียบไปทั้งตัวเมื่อชายผู้นั้นกล่าวทักทาย ใบหน้าคมสันนั้นเหมือนเดิมไม่แตกต่าง นั่นคือเรียบเฉยและพร้อมทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด หญิงสาวลังเลและในที่สุดจึงตอบกลับไปว่า“ถ้าฉันไม่ไปล่ะ”“ผมคิดว่าคงไม่ได้ครับ”“ถ้าฉันไม่ไปพบเขา...จะเกิดอะไรขึ้น...อย่างนั้นเหรอ” เสียงนั้นสั่นเล็กน้อย ณชนกแข็งใจที่จะปฏิเสธ แต่แล้วเธอกลับได้รับคำตอบที่ไม่ใช่คำพูดจากชายผู้นั้น หากแต่เป็นสายตาที่มองจ้องไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก“คุณเฮ็คเตอร์แค่บอกว่า ถ้าคุณไม่ไปกับผมตอนนี้...วันนี้คุณอาจไม่ได้กลับมาที่นี่อีก” ณชนกขบกรามแน่น ความรวดร้าวจากหัวใจแล่นไหลเข้าไปในสายเลือด นี่เขากำลังขู่บังคับและคุกคามเธอกับลูก ถึงจะอยากดื้อรั้นหากแต่ท่าทีของเฮ็คเตอร์เมื่อวานนี้ก็ทำให้หญิงสาวหวั่นกลัวเกินกว่าจะดึงดัน“เชิญครับคุณลีแอน” ชายผู้นั้นกล่าวเพราะเขาเดาออกจากแววตาของหญิงสาวที่สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธ ในท้ายที่สุดหญิงสาวก็ต้องจำนนต่ออิทธิพลของผู้ที่ออกคำสั่งแก่ชายตรงหน้าด้วยการเดินตามไปที่รถเก๋งคันหรูซึ่งจอดรออยู่และพาเธอไปยังสถานที่ที่พาเธอไปเมื่อวานนี
เวลาไม่ถึงห้านาทีที่หญิงสาวเปลี่ยนจากชุดพนักงานสาวเสิร์ฟเป็นชุดชั้นในลูกไม้สีชมพูหวาน เธอตัดสินใจแค่ชั่วครู่ก่อนจะออกจากห้องน้ำและเดินตามเข้าไปในห้องของเขา มันเป็นห้องนอนอและตอนนี้ร่างสูงใหญ่ก็รอเธออยู่ก่อนแล้วบนเตียงกว้าง เขาอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนโดยยันข้อศอกไว้บนเตียงหนา ห้องนั้นกว้างขวางหากก็แคบลงถนัดตาเมื่อณชนกก้าวเข้าไป เธอรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่คล่องที่ต้องอยู่ในสภาพเกือบเปลือยต่อหน้าเขา หญิงสาวแทบไม่กล้าสบนัยน์ตาเป็นประกายกล้าคู่นั้น เฮ็คเตอร์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเรือนร่างที่เขาก็เคยเห็นเธอหมดทุกตารางนิ้ว ความทรงจำบางอย่างผุดพรายขึ้นมาเพียงชั่วปัจจุบันขณะ ณชนกไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิม ร่างเล็กบอบบางที่ยืนตรงหน้ายังงดงามหมดจดทุกสัดส่วน ผิวขาวอมชมพูและเนื้อนุ่มเรียบเนียนราวพอร์ชเลน หน้าอกอวบอิ่มใต้บราเซียไหวกระเพื่อมขึ้นลงยังคงดึงดูดสายตา หน้าท้องแบนราบแทบไม่เห็นร่องรอยตำหนิใด ๆ แม้จะผ่านการมีลูกมาแล้ว เรียวขางามทั้งสองเบียดชิดติดกัน เธอเหมือนเมื่อก่อนซึ่งในเวลานั้นเขาเคยมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรักและชื่นชม ทว่าเมื่อเขาหลับตาลงภาพอันพร่าพรายของชายอีกคนกลับแจ่มชัดขึ้นมาเพียง
“ลีแอน...ตอบสนองผมสิ...” ชายหนุ่มครางอยู่กับริมฝีปากอิ่มสวยที่สั่นระริกไม่แพ้กัน เขาฉกลิ้นกลับเข้าไปแต่ณชนกก็ยังคงแสร้งทำเหมือนเดิม นิ่งเฉยทั้ง ๆ ที่กำลังร้อนรุ่มเหมือนถูกสุมด้วยกองไฟ เขาไม่ได้จูบหนักหน่วงแต่ยังเลื่อนไล้ฝ่ามือสากหนาไปตามผิวเนียนขาวบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า ปากหนาที่ประกบกลีบปากนุ่มจ้วงลึกเรียวลิ้นเข้าสู่ความชุ่มฉ่ำแม้จะรู้สึกถึงความหวานล้ำที่เขารอคอยทว่ามันเหมือนโตรกธารท่ามกลางทะเลทรายที่แล้งไร้ชีวาอย่างน่าใจหาย“ลีแอน...จูบผม...นี่เป็นคำสั่ง” เขาเค้นเสียงเข้มกระซิบข้างริมฝีปากของหญิงสาว“คุณจูบฉันอยู่นี่คะ”“คุณต้องตอบสนองผม” ณชนกเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เฮ็คเตอร์ยิ่งงุ่นง่านเมื่อหญิงสาวแสดงท่าทีเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต เขาผลักร่างแน่งน้อยลงไปนอนบนเตียงและทาบทับตัวเธอไว้ด้วยร่างใหญ่โตของเขา ไหล่บางถูกมือหนากดไว้ ดวงหน้างามกำลังเผชิญกับจอมมารร้ายในคราบเทพบุตรผู้หล่อเหลา“ลีแอน...ผมรู้ว่าคุณกลัว...ทำไมต้องกลัว...ในเมื่อครั้งหนึ่งเราก็เคยทำแบบนี้”“ครั้งหนึ่งอย่างนั้นเหรอคะ” ณชนกเผลอน้ำตาไหล หยดน้ำตาของเธอทำให้ชั่ววูบในใจของเฮ็คเตอร์ถูกสั่นสะเทือนรุนแรง“ถ้าคุณยังจำได้...แล้วทำไมค
“ลีแอน...บอกสิว่าคุณรอคอยเวลานี้...บอกผมสิ...ว่าคุณรอคอย”“ไม่...เฮ็คเตอร์...ไม่...” ณชนกหอบหายใจอย่างสั่นสะท้าน เสียงกระซิบของเขาราวกับเสียงของซาตานที่กำลังจะกระชากวิญญาณของเธอลงสู่เหวลึก แล้วเขาก็บีบบังคับให้เธอรับความเจ็บปวดอีกครั้งด้วยการแทรกความแข็งแกร่งลงไปในร่องหลืบฉ่ำอย่างไร้ปราณี“ฮึก!”บทที่ 8เสียงครางลึกของณชนกพร้อมร่างที่กดเกร็งทำให้เขาเกิดความตระหนกขึ้นมาในชั่ววูบ เขารับรู้ถึงการบีบรัดที่ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงมากขนาดนี้ ผู้หญิงที่จากกันนานถึงห้าปีและก่อนหน้านี้เธอก็เคยมีสามีมาก่อนไม่น่าจะยังรัดรึงจนเขาเองแทบจะทนไม่ไหว มันเร็วเกินไปสำหรับเขาหากจะสิ้นสุดทุกอย่าง แม้เป็นเรื่องน่าตกใจที่ณชนกแทบไม่ต่างจากสาวบริสุทธิ์ แต่คนที่ทรมานกลายเป็นเขาไม่ใช่เธอ“พอแล้ว...เฮ็คเตอร์...พอแล้ว” ณชนกพยายามดันไหล่กว้างและขยับสะโพกเพื่อให้เขาออกห่างแต่เขากลับยิ่งกอดรัดและฝังตัวเองลงไปมากเท่าที่จะมากได้ ความอ่อนนุ่มแต่ทรงพลังของหญิงสาวที่ยิ่งรัดรึงทำให้เขาหยุดตัวเองลงได้ยากลำบาก ถึงจะเต็มไปด้วยความสงสัยแต่เขาก็ยังทำตามความตั้งใจนั่นคือยัดเยียดความกระหายใคร่ลงบนเรือนกายที่รองรับอยู่เบื้องล่าง สำหร