แววตาคู่สวยมีรอยเศร้า “ฉันไม่ได้ทำงานที่นั่นอีกแล้วล่ะค่ะ...ฉันถูกไล่ออก”“ผมตามหาคุณไปทั่วเลยนะ ถามตามโรงแรมทุกแห่งในภูเก็ตแต่ก็ไม่เจอคุณ”“คุณก็เห็นแล้วนี่คะโคลวิซว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน...ฉันกลับบ้านและตัดสินใจได้ว่าฉันคงจะทำงานที่นั่นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”“คุณ...ไม่ได้คิดถึงผู้ชายคนนั้นอีกแล้วเหรอ...เฮ็คเตอร์ แมคเคนนา เจ้าของบีช เบย์ คลับ...โรงแรมที่หรูที่สุดของภูเก็ต”“มันไม่สำคัญสำหรับฉันอีกแล้วล่ะค่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้เขาคงอยู่กับผู้หญิงที่คู่ควร อย่างน้อยที่สุดมันก็เหมาะสมแล้ว”“แนน” โคลวิซก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าและจับมือทั้งสองของหญิงสาวไว้ เขาบีบมันเบา ๆ และก้มลงพินิจใบหน้าสวยหวานที่ไม่ว่ากี่ปีณชนกก็ยังเป็นผู้หญิงที่งดงามสำหรับเขาเสมอ“แนน...ลืมเขาได้ไหม”“คะ”“ลืมผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวน้ำตาร่วงหล่นโดยไม่รู้ตัว โคลวิซยังคงมองเธอด้วยแววตาแห่งความอาทรเสมอ เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับจากวันนั้น“ลืมเขา...และ...ลองเปิดใจรับคนอื่น อย่างน้อยมันอาจทำให้คุณหลุดพ้นจากความเศร้าที่ต้องเผชิญ”“โคลวิซ”“ผมรู้ว่าคุณอาจลืมเขาไม่ได้ คุณอาจจะรักเขามาก...มากกว่าที่ผมเข้าใจ แต่ผมก็อยากให้คุณลองเปิดใจมองคนอ
“คลีโอ...คลีโอ...ลูกอยู่ไหน” ร่างบอบบางรีบเดินกลับไปยังวิลล่าของเธอซึ่งเป็นที่พักรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบบ้านชวาหลังคาทำด้วยไม้ไผ่หันออกด้านนอกอันเป็นเทคนิคเก่าแก่ในการสร้างบ้านที่หายากเต็มทีแล้ว ณชนกเริ่มยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ น่ารักของเด็กดังอยู่ข้างใน เธอเดินเข้าไปแต่แล้วกลับต้องผงะงัน ริมฝีปากที่แย้มยิ้มเมื่อครู่คลายลงเป็นราบเรียบและหัวใจเต้นเร็วยิ่งกว่ากลองรัว คลีโออยู่ในห้องนั่งเล่นของวิลล่าแต่ไม่ได้อยู่คนเดียว“คุณแม่ขา...คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์...มาหาคลีโอค่ะ” เด็กน้อยยืนกระโดดโลดเต้นอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวใหญ่ที่นั่งบนโซฟา ร่างสูงสง่าอยู่ในเสื้อโปโลและกางเกงยีนส์สีเข้ม ใบหน้าหล่อเหลาเอียงกลับมายังหญิงสาวที่ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นที่ประตู แม้จะเห็นแววตระหนกฉายเต็มหน้าหญิงสาวหากรอยยิ้มกลับจุดขึ้นบนใบหน้าของผู้ชายหล่อเหลาที่เขาสร้างทั้งความประหลาดใจและความหวั่นกลัวในหัวใจของณชนก“ลีแอน” เฮ็คเตอร์เรียกเธอหากแต่น้ำเสียงนั้นรื่นหู ณชนกมือเย็นเฉียบ ร่างกายของเธอราวกับถูกฝังทั้งเป็นลงในหุบเขาน้ำแข็งอีกครั้งและเธอไม่แน่ใจว่าครั้งนี้เธอจะรอดจากที่อันหนาวเหน็บนี้ไปได้หรืออาจจะตายอยู่ที
“ผมให้คนของผมแกะรอยการเดินทางของคุณจากธุรกรรมธนาคาร...มันง่ายออกจะตายเพราะคุณยังเดินทางโดยไม่ได้หายไปไหน“ฉันรู้นะคะว่าคุณตั้งใจมาที่นี่...คุณตั้งใจ” ณชนกกัดฟันเสียงดังกรอดขณะพูดเสียงลอดไรฟัน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นซึ่งบัดนี้มันเป็นเหมือนเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทงลงบนหัวใจของชายหนุ่ม หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพของคนสิ้นไร้หนทางและหลังชนฝา หากทว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเป็นตรงข้ามเมื่อเขาได้พบเธออีกครั้งในวันที่หัวใจของเขาหลุดจากข้อโซ่แห่งความพยาบาทที่พันธนาการไว้แน่นหนา เขาอยากดึงร่างเล็กเข้ามากอด จูบและร่วมรักกับเธอเสียเดี๋ยวนั้นหากชายหนุ่มไม่ต้องการเก็บความปรารถนาบางอย่างไว้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้พบเธอแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้เห็นหน้าคลีโออีกครั้ง ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปหา“ใช่...ผมตั้งใจ...และคราวนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณกับ...คลีโอ...ไปไหนอีกแล้ว” กล่าวจบก็เดินผ่านร่างเล็กออกไปด้านนอก ณชนกได้แต่ยืนนิ่งและประสานมือทั้งสองด้วยความรู้สึกตึงเครียดที่กำลังบีบคั้นเต็มที่ เธอจะทำอย่างไรดี...เธอคงต้องหาทางหนีเขาไปอีกครั้งและคราวนี้จะไปในที่ที่เขาไม่มีวันหาเจอ ณชนกต้องทำใจอ
“ผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณคิด”“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” หญิงสาวตวาดกลับทั้งน้ำตาเมื่อชายหนุ่มยื่นมือทำท่าเหมือนจะแตะแขนเรียว เธอก้าวออกห่างและมองเขาด้วยความเจ็บปวด“จริง ๆ แล้วคุณควรจะกลับไป...ขอร้องเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากได้อยู่กับลูก ส่วนคุณก็กลับไปอยู่ในโลกของคุณ อยู่กับผู้หญิงที่คุณรักและคู่ควรกับคุณ...ฉันรู้ว่าฉันทำผิดสัญญาแต่ฉันแค่ขอร้องคุณเท่านั้น”เฮ็คเตอร์ไม่กล่าวอะไร เขาได้แต่จ้องมองดวงตาคู่งามที่มีหยาดน้ำหลั่งไหล เธอจะรู้หรือไม่ว่าน้ำตาที่ไหลบนใบหน้านั้นกำลังหลั่งลงไปท่วมหัวใจของเขาด้วย ชายหนุ่มเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดว่า“ผมพักอยู่ที่ในวิลล่าหลังที่อยู่ใกล้กันนี้...คืนนี้ผมจะไม่รบกวนคุณ...แต่พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับคุณกับลูกออกไปข้างนอก บางทีคลีโออาจยังอยากเที่ยวให้รอบเกาะอีกหลาย ๆ รอบ”บทที่ 28 จริง ๆ แล้วเขาอยากพูดอะไรอีกหลายอย่างหากแต่ก็เลือกที่จะเดินออกไปจากที่นั้นปล่อยให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กับความคิดอันสับสน พรุ่งนี้เขาจะมารับเธอกับลูกอย่างนั้นหรือ...เธอจะรอเขาอย่างนั้นหรือ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกบ้างหรือไม่ อาจเป็นอารมณ์ปรวนแปรข
“เฮ็คเตอร์!” ณชนกอุทานออกมา ทั้งตกใจและหวาดหวั่นเมื่อรู้ว่าใครอยู่ในที่นั้นหากทว่าร่างสูงใหญ่ที่วิ่งตามลงมาอย่างกระชั้นชิดกลับช้อนร่างของเธอไว้ในอ้อมแขน“ลีแอน...เจ็บตรงไหนบ้าง”“คุณแม่ขา...คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์มาช่วยแล้วค่ะ...คุณลุงมาช่วยแล้ว” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นใกล้ ๆ ณชนกอยากจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก หนำซ้ำเฮ็คเตอร์ยังจับตัวเธอไว้ได้ ถึงแม้เขาจะอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนและถามด้วยน้ำเสียงเจือความห่วงใยแต่สำหรับหญิงสาวแล้วเธอก็ยังไม่เลิกแคลงใจในตัวเขาเลยสักที“คลีโอ...คลีโอ...” ณชนกร้องเรียกลูกสาวเบาแสนเบาขณะที่ร่างสูงใหญ่พาตัวเธอกลับไปยังวิลล่าพร้อมแม่หนูน้อยที่ยังกอดตุ๊กตาและดึงชายเสื้อของเฮ็คเตอร์ไว้ตลอดเวลาเหมือนกลัวจะหลงทาง เมื่อกลับไปถึงวิลล่าหญิงสาวถึงได้รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลฉกรรจ์ที่ข้อเท้า แผลลึกและเนื้อฉีกขาดจนเลือดไหลออกมามากอย่างน่าตกใจ คลีโอร้องไห้ตลอดเวลากระทั่งหมอที่เฮ็คเตอร์โทรเรียกเดินทางมาถึงและทำแผลให้อย่างเร่งด่วนเพราะหญิงสาวปฏิเสธไม่ยอมให้เขาพาเธอไปโรงพยาบาล กว่าหมอจะทำแผลเสร็จและกลับไปก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน คลีโอหลับไปแล้วขณะที่ณชนกท
“เฮ็คเตอร์...คุณหมายถึงอะไร” มุมปากหนาได้รูปเลิกขึ้น “คนที่คุณรักมากที่สุด มันสะท้อนอยู่ในนี้ ในดวงตาของผม คุณเห็นมันตลอดเวลา...แต่...พระเจ้า...คุณไม่เคยบอกอะไรผม” เท่านั้นเองณชนกถึงกับสะอื้นเบา ๆ เธอรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไรแต่หัวใจของเธอต่างหากที่ยังขลาดกลัว หญิงสาวอ่อนยวบลงพร้อมกับทิฐิกล้าแข็งที่กำลังถูกหลอมละลาย เฮ็คเตอร์ก้มหน้าลงไปหาและแนบแก้มกับแก้มนวลของหญิงสาว ณชนกไม่ได้คิดไปเอง เธอรู้สึกถึงรอยเปียกชื้นบนใบหน้าของเขา“ลีแอน...ทำไมคุณไม่บอกอะไรผม...คุณปล่อยให้ผมเป็นคนบ้า ปล่อยให้ผมคลั่ง หลงอยู่กับความเจ็บปวดจนมันกลายเป็นเกลียดชังและผมก็ทำทุกอย่างที่ผมไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเลวร้ายได้ขนาดนั้น”ณชนกสะอื้นไห้ “ฉันไม่สามารถบอกอะไรคุณได้หรอกค่ะ...เฮ็คเตอร์...ในเมื่อคุณเกลียดฉันมากขนาดนั้น คุณไม่รู้หรอกว่าฉันกลัวมากแค่ไหน เพราะถ้าหากฉันพูดอะไรผิดไป บางที...มันอาจหมายถึงชีวิตของคนที่ฉันรัก”หญิงสาวอ่อนยวบในอ้อมกอดของเฮ็คเตอร์ เขากอดเธอแน่นยิ่งกว่าครั้งไหน แนบแน่นจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจดวงนั้น “ถ้าฉันบอกคุณแล้วคุณ...ยังจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเหรอคะ ฉันแน่ใจว่าคุณไม่มีวันเชื่อคำพูดของโสเ
“ป้าวิไลบอกผม” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดถึงความผิดพลาดที่แม่บ้านของณชนกได้กระทำลงไป เขาอยากให้เธอรับรู้เพียงสิ่งดี ๆ ที่คนชิดใกล้ที่สุดมอบให้และสิ่งที่เขากำลังจะทำมันนับจากนี้ ลมหายใจอุ่นระบายออกมาจากใบหน้าคร้ามเข้ม เฮ็คเตอร์ก้มลงไปหาดวงหน้าหวานจนปลายจมูกชนปลายจมูกโด่งเล็ก“เกือบห้าปีแล้วสินะ...นั่นเป็นอายุของคลีโอพอดี ทำไมผมไม่เคยนึกถึง ผมยังจำได้ที่คุณบอกผมครั้งแรกว่า...พ่อของเด็กตายไปแล้ว ผมเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เชื่อในสิ่งที่คุณหลอกผม เชื่อตัวเองว่าคุณเคยรังเกียจผู้ชายต่ำต้อยอย่างที่ผมเป็นเมื่อก่อนนี้”“ถึงตอนนี้คุณก็ยังเชื่ออย่างนั้น”“ตอนนี้ผมได้ค้นพบอะไรหลาย ๆ อย่างที่เชื่อมโยงระหว่างเรื่องของเรา ผมได้พบป้าวิไลและได้พบโคลวิซ”ณชนกไม่กล้าพูดว่าเธอพบผู้ชายที่เคยขอเธอหมั้นหมายที่นี่เมื่อวานนี้กระทั่งชายหนุ่มพูดขึ้น“คุณได้พบเขาแล้วใช่มั้ย ลีแอน”“คะ...เอ้อ...เอ้อ...”“ผมเป็นคนชวนเขามาที่นี่เอง ก่อนเดินทางมาบาหลีผมคุยกับเขาหลายเรื่อง เขาเป็นคนบอกผมเองว่าเขารักคุณเสมอ”“คุณไม่โกรธเขาหรอกหรือคะ”“ผมน่าจะโกรธถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยคุณวันนั้น วันที่แจนทำร้ายคุณ” พอได้ยินชื่อนั้นความเจ็
“คลีโอ...ลูกแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ?” เสียงเรียกที่ดังขึ้นขณะบานประตูในห้องนอนถูกเปิดออกทำให้เด็กหญิงวัยสี่ขวบเศษในชุดกระโปรงบานฟูฟ่องและผมสีน้ำตาลทองถูกถักเป็นเปียเล็ก ๆ สองข้างดูราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยหันขวับไปมอง รอยยิ้มอันแสนน่ารักน่าชังระบายเต็มใบหน้าที่แก้มยุ้ยออกมาจนน่าหยิก “เสร็จแล้วค่ะคุณแม่” หนูน้อยตอบด้วยเสียงเล็ก ๆ ขณะผละจากหญิงวัยกลางคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นห้องและมองเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเข้าไปกอดหญิงสาวร่างบอบบางในชุดฟอร์มเตรียมพร้อมออกไปทำงาน “คุณแนนจะไปทำงานแล้วหรือคะ...วันนี้แต่งตัวเสร็จเร็วจังเลยนะคะ” วิไลกล่าวกับณชนกที่กำลังกอดจูบลูกสาวตัวน้อยของเธออย่างรักใคร่ หญิงสาวหันมายิ้มก่อนกล่าว “ค่ะป้าไล...วันนี้แนนต้องไปที่ทำงานเร็วหน่อยเพราะมีงานใหญ่ที่โรงแรม เลยว่าจะพาคลีโอไปส่งที่เนอร์สเซอรี่ให้เร็วหน่อยน่ะค่ะ” “ช่วงนี้คุณแนนทำงานหนักนะคะ ป้าเห็นคุณแนนกลับดึก ๆ...พักผ่อนบ้างก็ได้ค่ะ” วิไลกล่าวอย่างเป็นห่วง ณชนกถอนหายใจขณะมองไปรอบ ๆ ห้องเช่าขนาดเล็กที่เธอเช่าอาศัยอยู่กับลูกสาวคนเด