“ผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณคิด”“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” หญิงสาวตวาดกลับทั้งน้ำตาเมื่อชายหนุ่มยื่นมือทำท่าเหมือนจะแตะแขนเรียว เธอก้าวออกห่างและมองเขาด้วยความเจ็บปวด“จริง ๆ แล้วคุณควรจะกลับไป...ขอร้องเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากได้อยู่กับลูก ส่วนคุณก็กลับไปอยู่ในโลกของคุณ อยู่กับผู้หญิงที่คุณรักและคู่ควรกับคุณ...ฉันรู้ว่าฉันทำผิดสัญญาแต่ฉันแค่ขอร้องคุณเท่านั้น”เฮ็คเตอร์ไม่กล่าวอะไร เขาได้แต่จ้องมองดวงตาคู่งามที่มีหยาดน้ำหลั่งไหล เธอจะรู้หรือไม่ว่าน้ำตาที่ไหลบนใบหน้านั้นกำลังหลั่งลงไปท่วมหัวใจของเขาด้วย ชายหนุ่มเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดว่า“ผมพักอยู่ที่ในวิลล่าหลังที่อยู่ใกล้กันนี้...คืนนี้ผมจะไม่รบกวนคุณ...แต่พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับคุณกับลูกออกไปข้างนอก บางทีคลีโออาจยังอยากเที่ยวให้รอบเกาะอีกหลาย ๆ รอบ”บทที่ 28 จริง ๆ แล้วเขาอยากพูดอะไรอีกหลายอย่างหากแต่ก็เลือกที่จะเดินออกไปจากที่นั้นปล่อยให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กับความคิดอันสับสน พรุ่งนี้เขาจะมารับเธอกับลูกอย่างนั้นหรือ...เธอจะรอเขาอย่างนั้นหรือ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกบ้างหรือไม่ อาจเป็นอารมณ์ปรวนแปรข
“เฮ็คเตอร์!” ณชนกอุทานออกมา ทั้งตกใจและหวาดหวั่นเมื่อรู้ว่าใครอยู่ในที่นั้นหากทว่าร่างสูงใหญ่ที่วิ่งตามลงมาอย่างกระชั้นชิดกลับช้อนร่างของเธอไว้ในอ้อมแขน“ลีแอน...เจ็บตรงไหนบ้าง”“คุณแม่ขา...คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์มาช่วยแล้วค่ะ...คุณลุงมาช่วยแล้ว” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นใกล้ ๆ ณชนกอยากจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก หนำซ้ำเฮ็คเตอร์ยังจับตัวเธอไว้ได้ ถึงแม้เขาจะอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนและถามด้วยน้ำเสียงเจือความห่วงใยแต่สำหรับหญิงสาวแล้วเธอก็ยังไม่เลิกแคลงใจในตัวเขาเลยสักที“คลีโอ...คลีโอ...” ณชนกร้องเรียกลูกสาวเบาแสนเบาขณะที่ร่างสูงใหญ่พาตัวเธอกลับไปยังวิลล่าพร้อมแม่หนูน้อยที่ยังกอดตุ๊กตาและดึงชายเสื้อของเฮ็คเตอร์ไว้ตลอดเวลาเหมือนกลัวจะหลงทาง เมื่อกลับไปถึงวิลล่าหญิงสาวถึงได้รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลฉกรรจ์ที่ข้อเท้า แผลลึกและเนื้อฉีกขาดจนเลือดไหลออกมามากอย่างน่าตกใจ คลีโอร้องไห้ตลอดเวลากระทั่งหมอที่เฮ็คเตอร์โทรเรียกเดินทางมาถึงและทำแผลให้อย่างเร่งด่วนเพราะหญิงสาวปฏิเสธไม่ยอมให้เขาพาเธอไปโรงพยาบาล กว่าหมอจะทำแผลเสร็จและกลับไปก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน คลีโอหลับไปแล้วขณะที่ณชนกท
“เฮ็คเตอร์...คุณหมายถึงอะไร” มุมปากหนาได้รูปเลิกขึ้น “คนที่คุณรักมากที่สุด มันสะท้อนอยู่ในนี้ ในดวงตาของผม คุณเห็นมันตลอดเวลา...แต่...พระเจ้า...คุณไม่เคยบอกอะไรผม” เท่านั้นเองณชนกถึงกับสะอื้นเบา ๆ เธอรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไรแต่หัวใจของเธอต่างหากที่ยังขลาดกลัว หญิงสาวอ่อนยวบลงพร้อมกับทิฐิกล้าแข็งที่กำลังถูกหลอมละลาย เฮ็คเตอร์ก้มหน้าลงไปหาและแนบแก้มกับแก้มนวลของหญิงสาว ณชนกไม่ได้คิดไปเอง เธอรู้สึกถึงรอยเปียกชื้นบนใบหน้าของเขา“ลีแอน...ทำไมคุณไม่บอกอะไรผม...คุณปล่อยให้ผมเป็นคนบ้า ปล่อยให้ผมคลั่ง หลงอยู่กับความเจ็บปวดจนมันกลายเป็นเกลียดชังและผมก็ทำทุกอย่างที่ผมไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเลวร้ายได้ขนาดนั้น”ณชนกสะอื้นไห้ “ฉันไม่สามารถบอกอะไรคุณได้หรอกค่ะ...เฮ็คเตอร์...ในเมื่อคุณเกลียดฉันมากขนาดนั้น คุณไม่รู้หรอกว่าฉันกลัวมากแค่ไหน เพราะถ้าหากฉันพูดอะไรผิดไป บางที...มันอาจหมายถึงชีวิตของคนที่ฉันรัก”หญิงสาวอ่อนยวบในอ้อมกอดของเฮ็คเตอร์ เขากอดเธอแน่นยิ่งกว่าครั้งไหน แนบแน่นจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจดวงนั้น “ถ้าฉันบอกคุณแล้วคุณ...ยังจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเหรอคะ ฉันแน่ใจว่าคุณไม่มีวันเชื่อคำพูดของโสเ
“ป้าวิไลบอกผม” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดถึงความผิดพลาดที่แม่บ้านของณชนกได้กระทำลงไป เขาอยากให้เธอรับรู้เพียงสิ่งดี ๆ ที่คนชิดใกล้ที่สุดมอบให้และสิ่งที่เขากำลังจะทำมันนับจากนี้ ลมหายใจอุ่นระบายออกมาจากใบหน้าคร้ามเข้ม เฮ็คเตอร์ก้มลงไปหาดวงหน้าหวานจนปลายจมูกชนปลายจมูกโด่งเล็ก“เกือบห้าปีแล้วสินะ...นั่นเป็นอายุของคลีโอพอดี ทำไมผมไม่เคยนึกถึง ผมยังจำได้ที่คุณบอกผมครั้งแรกว่า...พ่อของเด็กตายไปแล้ว ผมเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เชื่อในสิ่งที่คุณหลอกผม เชื่อตัวเองว่าคุณเคยรังเกียจผู้ชายต่ำต้อยอย่างที่ผมเป็นเมื่อก่อนนี้”“ถึงตอนนี้คุณก็ยังเชื่ออย่างนั้น”“ตอนนี้ผมได้ค้นพบอะไรหลาย ๆ อย่างที่เชื่อมโยงระหว่างเรื่องของเรา ผมได้พบป้าวิไลและได้พบโคลวิซ”ณชนกไม่กล้าพูดว่าเธอพบผู้ชายที่เคยขอเธอหมั้นหมายที่นี่เมื่อวานนี้กระทั่งชายหนุ่มพูดขึ้น“คุณได้พบเขาแล้วใช่มั้ย ลีแอน”“คะ...เอ้อ...เอ้อ...”“ผมเป็นคนชวนเขามาที่นี่เอง ก่อนเดินทางมาบาหลีผมคุยกับเขาหลายเรื่อง เขาเป็นคนบอกผมเองว่าเขารักคุณเสมอ”“คุณไม่โกรธเขาหรอกหรือคะ”“ผมน่าจะโกรธถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยคุณวันนั้น วันที่แจนทำร้ายคุณ” พอได้ยินชื่อนั้นความเจ็
“คลีโอ...ลูกแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ?” เสียงเรียกที่ดังขึ้นขณะบานประตูในห้องนอนถูกเปิดออกทำให้เด็กหญิงวัยสี่ขวบเศษในชุดกระโปรงบานฟูฟ่องและผมสีน้ำตาลทองถูกถักเป็นเปียเล็ก ๆ สองข้างดูราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยหันขวับไปมอง รอยยิ้มอันแสนน่ารักน่าชังระบายเต็มใบหน้าที่แก้มยุ้ยออกมาจนน่าหยิก “เสร็จแล้วค่ะคุณแม่” หนูน้อยตอบด้วยเสียงเล็ก ๆ ขณะผละจากหญิงวัยกลางคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นห้องและมองเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเข้าไปกอดหญิงสาวร่างบอบบางในชุดฟอร์มเตรียมพร้อมออกไปทำงาน “คุณแนนจะไปทำงานแล้วหรือคะ...วันนี้แต่งตัวเสร็จเร็วจังเลยนะคะ” วิไลกล่าวกับณชนกที่กำลังกอดจูบลูกสาวตัวน้อยของเธออย่างรักใคร่ หญิงสาวหันมายิ้มก่อนกล่าว “ค่ะป้าไล...วันนี้แนนต้องไปที่ทำงานเร็วหน่อยเพราะมีงานใหญ่ที่โรงแรม เลยว่าจะพาคลีโอไปส่งที่เนอร์สเซอรี่ให้เร็วหน่อยน่ะค่ะ” “ช่วงนี้คุณแนนทำงานหนักนะคะ ป้าเห็นคุณแนนกลับดึก ๆ...พักผ่อนบ้างก็ได้ค่ะ” วิไลกล่าวอย่างเป็นห่วง ณชนกถอนหายใจขณะมองไปรอบ ๆ ห้องเช่าขนาดเล็กที่เธอเช่าอาศัยอยู่กับลูกสาวคนเด
จากหญิงสาวที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งหน้าตาอันสะสวยอ่อนหวานเหมือนนางในวรรณคดี ทรัพย์สินเงินทองและชีวิตที่เคยสบายมาก่อนเก่า ณชนกกลับกลายเป็นคนที่แทบไม่เหลืออะไรเลย เพราะหนี้สินก้อนโตที่บิดามารดาทิ้งไว้ให้ทำให้หญิงสาวต้องขายทุกอย่างที่เคยเป็นสมบัติของตระกูล ทั้งที่ดิน บ้าน และทรัพย์สินที่มีจนเกือบหมดเพื่อนำไปหักลบกลบหนี้กับธนาคารและเจ้าหนี้ที่เข้ามากลืนกิจการโรงแรมของครอบครัวจนสิ้น ตอนนี้เธอไม่มีหนี้ใด ๆ อีกต่อไป หากแต่หญิงสาวกลับไม่รู้สึกเสียดายต่อการสูญเสียทรัพย์สินและหน้าตาในวงสังคมแม้จะถูกนินทาจากคนรอบข้างถึงความตกต่ำอย่างที่สุดในชีวิต แต่เธอก็ยังคงหลงเหลือสมบัติอีกอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองใด ๆ นั่นคือหัวใจดวงน้อยที่เธอเฝ้าถนอมฟูมฟักมาโดยที่แม้แต่บิดามารดาก็ไม่ระแคะระคายถึงเรื่องนี้ก่อนจะเสียชีวิต เธอตั้งครรภ์หนูน้อยคลีโอได้สามเดือนก่อนบุพการีทั้งสองจะประสบอุบัติเหตุ และเมื่อสะสางหนี้จนหมดหญิงสาวจึงตัดสินใจเดินทางลงใต้เพื่อมาพำนักที่จังหวัดภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามันที่เธอเคยใฝ่ฝันอยากมาอยู่ที่นี่ ณชนกใช้เงินเหลือเก็บที่มี
ณชนกเคยรู้ว่า บีช เบย์ คลับ มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติสายเลือดอเมริกัน ยูเครน นั่นคือ แพทริก แม็คเคนน่า ซึ่งอายุอานามใกล้เลขหก เขาอาจต้องการเกษียณตัวเองเพื่อส่งต่อกิจการโรงแรมและรีสอร์ทในเครือที่มีอยู่ทั่วโลกให้คนหนุ่มบริหารต่อไปจวบจนกระทั่งถึงเวลาเกือบสองทุ่มหลังจากที่ณชนกทำงานของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้วและต้องอยู่คอยช่วยพรเทพในการจัดเตรียมต้อนรับคณะผู้บริหารที่กำลังเดินทางจากสนามบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่บินตรงจากสหรัฐมาที่นี่ หญิงสาวแทบไม่ได้สนใจหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเหล่าพนักงานต่างเซ็งแซ่ถึงการมาของคณะผู้บริหารซึ่งหนึ่งในนั้นคือลูกชายบุญธรรมของเจ้าของโรงแรมคนเก่าที่ทำให้ทั้งพรเทพและใครหลาย ๆ คนต่างตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน เธอแค่รอเวลาที่พรเทพจะเข้ามาสั่งงานแล้วก็ได้ยินเสียงของเขาในที่สุด“แนนนี่...ผู้บริหารคนใหม่มาถึงแล้วนะจ๊ะ ตอนนี้เขาอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม เดี๋ยวเธอเข้าไปคอยต้อนรับในห้องอาหารพิเศษของโรงแรมก็แล้วกัน”“ค่ะ..พอลลี่”ณชนกรับปากพรเทพ แต่ในใจของเธอไม่ได้ตื่นเต้นกับการเตรียมการต้อนรับผู้บริหารโรงแรมคนใหม่แม้แต่น้อย ตอนนี้เธอกำลังพะวงถึงแม่หนูน้อยคลีโอ ลูกสาวตัวน้อยจะงอแง
ณชนกละล่ำละลักด้วยความตระหนกและทำถาดเล็กในมือตกลงพื้นไปเสียด้วย ทุกคนในที่นั้นมองมาที่หญิงสาว ทุกอย่างเงียบกริบจนพรเทพที่ยืนมองอยู่รีบเข้ามาดู“ตายละ...ขอโทษด้วยครับคุณเฮ็คเตอร์...ต้องขอโทษด้วยที่พนักงานเสิร์ฟ...”“ไม่เป็นไร”เฮ็คเตอร์ตอบกลับไปสั้น ๆ ขณะนัยน์ตาคู่นั้นจ้องมองร่างของพนักงานเสิร์ฟสาวที่ยืนกุมมืออันสั่นเทาทั้งสองไว้ด้านหน้า ใบหน้าสวยใต้กรอบเรือนผมเป็นลอนอ่อนสีน้ำตาลประกายซึ่งถูกรวบไว้ด้านหลังซีดขาวลงถนัดตา ชายหนุ่มปัดรอยน้ำที่หกเลอะบนเสื้อสูทราคาแพงระยับเบา ๆ แม้ใบหน้าของเขาจะไม่สำแดงความโกรธเกรี้ยวทว่าณชนกก็เห็นประกายบางอย่างวาบขึ้นมาในดวงตาสีฟ้าอมเขียวคู่นั้น “ดิฉันขอโทษด้วยค่ะ...ท่านประธาน...ดิฉันขอโทษ”ณชนกรีบยกมือไหว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ พรเทพรีบพูดขึ้นว่า“เดี๋ยวจะให้พนักงานมาเสิร์ฟน้ำแก้วใหม่ ให้นะครับคุณเฮ็คเตอร์”“คงไม่ต้อง” เฮ็คเตอร์กล่าวกับพรเทพแต่ดวงตาคู่นั้นยังไม่ละไปจากพนักงานสาวเสิร์ฟที่ซุ่มซ่ามทำน้ำหกใส่เสื้อสูทราคาแพงของเขา“ผมขอเป็นไวน์แดงแทนก็แล้วกัน แต่อยากจะบอกคุณว่า ช่วยอบรมเรื่องมารยาทการทำงานแบบเข้มให้กับพนักงานที่นี่หน่อย ผมไม่รู้ว่าพ่อของผมท่านบริหาร