ณชนกละล่ำละลักด้วยความตระหนกและทำถาดเล็กในมือตกลงพื้นไปเสียด้วย ทุกคนในที่นั้นมองมาที่หญิงสาว ทุกอย่างเงียบกริบจนพรเทพที่ยืนมองอยู่รีบเข้ามาดู
“ตายละ...ขอโทษด้วยครับคุณเฮ็คเตอร์...ต้องขอโทษด้วยที่พนักงานเสิร์ฟ...”
“ไม่เป็นไร”
เฮ็คเตอร์ตอบกลับไปสั้น ๆ ขณะนัยน์ตาคู่นั้นจ้องมองร่างของพนักงานเสิร์ฟสาวที่ยืนกุมมืออันสั่นเทาทั้งสองไว้ด้านหน้า ใบหน้าสวยใต้กรอบเรือนผมเป็นลอนอ่อนสีน้ำตาลประกายซึ่งถูกรวบไว้ด้านหลังซีดขาวลงถนัดตา ชายหนุ่มปัดรอยน้ำที่หกเลอะบนเสื้อสูทราคาแพงระยับเบา ๆ แม้ใบหน้าของเขาจะไม่สำแดงความโกรธเกรี้ยวทว่าณชนกก็เห็นประกายบางอย่างวาบขึ้นมาในดวงตาสีฟ้าอมเขียวคู่นั้น
“ดิฉันขอโทษด้วยค่ะ...ท่านประธาน...ดิฉันขอโทษ”
ณชนกรีบยกมือไหว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ พรเทพรีบพูดขึ้นว่า
“เดี๋ยวจะให้พนักงานมาเสิร์ฟน้ำแก้วใหม่ ให้นะครับคุณเฮ็คเตอร์”
“คงไม่ต้อง” เฮ็คเตอร์กล่าวกับพรเทพแต่ดวงตาคู่นั้นยังไม่ละไปจากพนักงานสาวเสิร์ฟที่ซุ่มซ่ามทำน้ำหกใส่เสื้อสูทราคาแพงของเขา
“ผมขอเป็นไวน์แดงแทนก็แล้วกัน แต่อยากจะบอกคุณว่า ช่วยอบรมเรื่องมารยาทการทำงานแบบเข้มให้กับพนักงานที่นี่หน่อย ผมไม่รู้ว่าพ่อของผมท่านบริหารงานที่นี่ยังไง แต่ถ้าผมเข้ามาอยู่ บีช เบย์ คลับ นี่เมื่อไหร่...ทุกอย่าง...จะไม่เหมือนเดิม”
น้ำเสียงหนัก ๆ ในตอนท้ายทำให้พรเทพถึงกับเสียววาบ แต่คนที่ตกอยู่ในสภาวะของความกดดันยิ่งกว่าผู้จัดการห้องอาหารคือณชนก หญิงสาวกลืนก้อนแข็งในคอกลับเข้าไป ตีบตันจนแทบจะลืมหายใจในวินาทีนั้น เธอกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่ได้ แต่จะร้องไห้ต่อหน้าทุกคนก็คงไม่มีใครเห็นใจในความซุ่มซ่ามของพนักงานเสิร์ฟที่มีตำแหน่งเพียงต่ำต้อย หญิงสาวค่อย ๆ ถอยห่างออกมาและกลับออกไปจากห้องนั้นอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นที่พรเทพเรียกให้เข้าไปช่วยแทนเธอ ณชนกนั่งทำใจและคิดวนไปเวียนมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานนับชั่วโมง หญิงสาวน้ำตาซึมตลอดเวลาและคิดว่าการกระทำของเธอคงจะทำให้พรเทพถูกตำหนิอย่างมาก ผู้บริหารคนใหม่ท่าทางจะเอาจริงเอาจังจนน่าหวั่นกลัว เธอตัดสินใจในท้ายที่สุดว่าจะกลับเสียก่อนเพื่อที่พรุ่งนี้จะกลับมาโรงแรมและคงได้รับข่าวร้ายว่าต้องหางานทำที่ใหม่ หญิงสาวเดินกลับออกไปทางสวนดอกไม้หลังโรงแรมหากแต่ไม่ทันจะก้าวพ้นออกไปก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง
“ลีแอน...”
ณชนกหันกลับไปเพื่อที่จะพบว่าใครยืนอยู่ที่นั่น
“เฮ็คเตอร์!”
ร่างบอบบางซึ่งยังอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟถึงกับนิ่งอึ้ง มือเรียวบางที่กุมสายสะพายกรเป๋าเย็นเยียบขึ้นมาอีกครั้ง แต่ร่างกายของณชนกไม่สั่นเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าผู้บริหารสูงสุดของ บีช เบย์ คลับ
“เฮ็คเตอร์...”
เสียงอุทานเบาหวิวหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวยที่ตอนนี้ซีดลง ใบหน้าสวยหวานจับใจของหญิงสาวชาวไทยเหมือนกระดาษขาวบางขณะร่างสูงใหญ่ของหนุ่มเชื้อชาติอเมริกันก้าวเข้ามา ทว่าเขาก็หยุดยืนห่างจากร่างแน่งน้อยหลายก้าว เป็นระยะห่างเหมือนความรู้สึกของณชนกในตอนนี้ เธอเหมือนตกอยู่ในหลุมมืดที่ก้นเหวและมองเห็นเขาอยู่ในที่อันไกลแสนไกล รอยปากหยักบนใบหน้าคร้ามคมเหยียดออก
“ลีแอน...ไม่นึกเลยว่า เรา จะมาเจอกันที่นี่”
เขากล่าวเสียงเย็น ณชนกทำสีหน้าแทบไม่ถูก ตอนนี้ในส่วนลึกมีทั้งความรู้สึกดีใจอย่างที่สุดและหวั่นกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนปนเปอยู่ด้วยกันจนยากจะแยกแยะ บุรุษร่างสูงสง่าในชุดสูทหรูระยับตรงหน้าหาได้มีสิ่งใดแตกต่างไปจากที่เธอเคยเห็นเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว ทั้งใบหน้าคมคาย นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายมรกตคู่นั้น จมูกโด่งยาวและริมฝีปากหนารูป ผิวสีแทนทอง ผิดกันก็เพียงสถานะระหว่างเธอและเขาตอนนี้ที่มันเปลี่ยนไปราวพลิกฝ่ามือ
“ค่ะ...ฉันก็ไม่นึกว่า...จะได้...เจอคุณ”
“เป็นไง...สบายดีมั้ย?” ถามสั้น ๆ แต่น้ำเสียงนั้นยังเยือกเย็นจับหัวใจ
“ค่ะ...ฉันสบายดีค่ะ”
“หึ...คุณก็ต้องสบายดี...อยู่แล้ว”
เฮ็คเตอร์กล่าวเสียงเยือกขณะเดินเฉียดไหล่บางไปหยุดที่ด้านหลังของหญิงสาวก่อนที่เขาจะหันกลับมา นัยน์ตาสีฟ้าอมเขียวเป็นประกายจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของร่างเล็ก ณชนกตัวเล็กมากเมื่อเทียบสัดส่วนความสูงกับเขา แต่ผู้หญิงคนนี้กลับมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อความรู้สึกของชายหนุ่มที่กำลังกระเพื่อมไหวด้วยแรงอารมณ์
“คุณยังสบายดีอยู่เสมอ ผมรู้...ลูกสาวเจ้าของโรงแรมใหญ่แล้วทำไมตอนนี้ตกต่ำจนต้องบากหน้ามาเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟอยู่ที่นี่ล่ะ”
ร่างบางหันกลับมาเผชิญหน้ากับร่างสูงที่ยืนอยู่เกือบชิด ณชนกกลั้นน้ำรื้นที่มันกำลังจะไหลร่นลงมาจากเบ้าตา
“เฮ็คเตอร์...ตอนนี้พ่อกับแม่ของฉันไม่อยู่แล้วนะคะ ท่านเสียชีวิตไปเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว และตอนนี้ฉันก็ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงแรมที่เคยเป็นของพวกท่านด้วย”
ทันทีที่คำพูดนั้นจบลงณชนกก็ต้องตระหนกต่อเสียงหัวเราะของเฮ็คเตอร์ที่ดังขึ้นราวกับว่าเขามีความสุขอย่างล้นเหลือต่อความทุกข์ที่กำลังทับถมตัวตนของเธออยู่ตอนนี้ ร่างเล็กยืนตัวแข็ง เหมือนมีบางอย่างกระแทกหัวใจดวงนั้นจนรวดร้าว ความรู้สึกของหญิงสาวกำลังดิ่งลงก่อนที่มันจะถูกกระชากกลับมาด้วยมือหนาหนักที่ดึงข้อมือบางไปกุมไว้จนเจ็บ
“เฮ็คเตอร์...”
“คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างนั้นหรือ...เกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว ก่อนนี้ผมยังเห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม ซึ่งมันเทียบไม่ได้เลยกับคนที่ต่ำต้อยอย่างผม”
“เฮ็คเตอร์...ทำไมคุณพูดอย่างนี้ล่ะคะ”
“หรือว่าไม่จริง!...คุณมีพร้อมทุกสิ่ง ผมเห็น...เห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์และทรัพย์สมบัติ แต่สิ่งที่ผมมองไม่เห็น คือสันดานโสเภณีของคุณ...ลีแอน!”เสียงคำรามเสียดแทงเข้าไปในหัวใจปวดร้าวของณชนก ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยไม่คิดว่าจะได้ยินคำบริภาษร้ายแรงจาก เฮ็คเตอร์ ...ผู้ชายที่เธอเคยรักมากที่สุดและเขาคือบุรุษผู้ยังอยู่ในความทรงจำของเธอเสมอมาโดยที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาแทนที่ได้ หญิงสาวพยายามบิดข้อมือจากมือหนาใหญ่ที่กุมมือเรียวบางเอาไว้ขณะนัยนย์ตาสีฟ้าอมมรกตคมปลาบสาดประกายความเกลียดชังเสมือนเหล็กแหลมนับพันเล่มทิ่มทะลุเข้าไปในร่างกายของเธอ“เฮ็คเตอร์...ปล่อยค่ะ...ฉันจะกลับ”“ผมยังไม่อนุญาตให้คุณกลับ! ไม่รู้รึยังไงว่าตอนนี้ใครมีอำนาจสั่งการได้ที่นี่”“ถ้าอย่างนั้นกรุณาไล่ฉันออก!”ณชนกพยายามสะบัดข้อมือข้างที่ถูกกุมไว้แน่นแต่ไม่เป็นผลซ้ำข้อมืออีกข้างยังถูกฉวยเอาไว้ได้ เฮ็คเตอร์ดึงร่างเล็กเข้าไปชิดตัวเขาแล้วโน้มใบหน้าคมคายที่ในดวงตาทั้งคู่มีแต่ประกายความเคียดแค้นลงมาหาหญิงสาว“ผมจะไม่ไล่คุณออกหรอกนะลีแอน...มองหน้าผมสิ! เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแล้วนี่ คุณไม่คิดถึงผมเลยอย่
“ทำไมคุณอยากจะให้ทุกอย่างระหว่างเราจบลงง่าย ๆ ล่ะ ในเมื่อนี่มันแค่เริ่มต้น!”“คุณพูดเรื่องอะไร...เฮ็คเตอร์...ปล่อยนะคะ” เรียวปากอิ่มที่ยังเป็นรอยบวมเจ่อสั่นระริก ความกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแทรกซึมขึ้นมาและแผ่ไปทั่วร่างจนทำให้ณชนกเหมือนถูกยาชาจากมือแกร่งที่กำลังบีบแขนเธอไว้แน่น ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาราดรดลงบนแก้มซีดขาว“ผมกำลังพูดเรื่องระหว่างเรา...ฟังไว้นะลีแอน เรื่องระหว่างผมกับคุณมันจะไม่มีวันจบลงง่าย ๆ ผมมันเจ็บจำแล้วฝังใจ แต่ก็รอได้เสมอสำหรับการเอาคืน!”“เฮ็คเตอร์...ฉันเจ็บนะคะ...”“พรุ่งนี้คุณต้องกลับมา!” เขาผลักเธอออกห่างอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นขณะเอามือลูบที่แขนและนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ รอยปากหยักบนใบหน้าคร้ามเข้มเหยียดออก แววตาคู่นั้นหยามเยาะอย่างไม่คิดสงสารคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย“ห้ามลาออกจากบีช เบย์ คลับ...ถ้าคุณคิดจะทำ บอกได้เลยว่าคุณลำบากแน่!”“เฮ็คเตอร์...ฉันไม่เข้าใจคุณเลย...มีอะไรตั้งหลายอย่างที่ฉันอยากจะถามคุณ คุณหายไปไหนเมื่อห้าปีก่อน...คุณหายไปไหน”“ถ้าอยากรู้...พรุ่งนี้...คุณต้องกลับมา” ชายหนุ่มเอามือทั้งสองล้วงกระเป๋า แต่ท่าทีของเขาไม่ได้ลด
“พรุ่งนี้แนนจะไปหาเขาน่ะค่ะป้า...แนนรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในฐานะที่ต่ำต้อย เทียบกันไม่ได้เลยกับเขา แต่แนนก็แค่อยากรู้ว่า...เมื่อห้าปีที่แล้วเขาไปไหน”ณชนกแทบไม่ได้สังเกตเลยว่ามือของวิไลที่จับมือของเธอไว้แน่นคลายลงในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของแม่บ้านวัยกลางคนก็เปลี่ยนไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่นางไม่สามารถพูดออกมาได้วิไลแค่นยิ้มกลบความรู้สึกบางอย่างที่กำลังแล่นปรี่ขึ้นมา“คุณแนนไปพักผ่อนเถอะนะคะ ดึกแล้ว...พรุ่งนี้คุณแนนต้องไปทำงานแต่เช้านี่ไม่ใช่เหรอคะ”“ค่ะ...ป้าคะ...แนนอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดอะไรขึ้นกับเฮ็คเตอร์ เขาคงจะไม่โกหกแนนหรอกนะคะ ว่าเขาไปไหนมา”วิไลยิ้มกับร่างบางที่ลุกขึ้นและเดินกลับเข้าห้อง นางมองเห็นความสับสนและหวั่นกลัวฉายออกมาจากแววตาคู่นั้นซึ่งมันทำให้ตัวนางเองก็รู้สึกสะท้อนสะเทือนใจเช่นเดียวกัน วิไลเผลอหลั่งน้ำตาและรำพึงกับตัวเองเบา ๆ“คุณแนน...ป้าขอโทษนะคะ...ป้าขอโทษ”เช้าวันใหม่ณชนกพาหนูน้อยคลีโอไปฝากไว้ที่เนอร์สเซอรรี่เป็นปกติ แต่วันนี้หญิงสาวสังเกตเห็นแม่หนูน้อยมีสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนถึงสถานเลี้ยงเด็กเธอจึงหยุ
“เชิญคุณลีแอนครับ” คนของเฮ็คเตอร์เปิดประตูให้หญิงสาวก้าวลงไป ณชนกย่างก้าวด้วยความหวาดหวั่น หญิงสาวซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของโรงแรมเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหญ่ท่ามกลางหมู่ไม้ซึ่งห่างไกลออกมาจากย่านชุมชน มันเป็นสถานที่ที่สงบเงียบอย่างมาก ไม่ได้ยินเสียงรถแล่นผ่าน นั่นยิ่งทำให้หญิงสาววังเวงหัวใจ เธอเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น และเมื่อบานประตูถูกเปิดออกเธอก็เห็นร่างสูงใหญ่นั่งไขว่ห้างจิบไวน์อยู่ที่เก้าอี้รับแขก หญิงสาวยังยืนชิดบานประตูที่ปิดลงเหมือนเธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาในตอนนี้“นั่งสิ” เฮ็คเตอร์กล่าวขึ้นในความเงียบสงบ แม้จะเป็นเวลากลางวันที่แสงแดดส่องเข้ามาถึงแต่หญิงสาวกลับรู้สึกหนาวเยือกเหมือนอยู่กลางห้วงทะเลลึก“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...คุณมีธุระอะไรก็พูดกับฉันเลยก็ได้ เพราะเดี๋ยวฉันต้องรีบกลับไปทำงานที่โรงแรม”“ถึงไม่ไปวันนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้หรอกลีแอน” หญิงสาวเม้มปากสนิท ดูเหมือนผู้บริหารสูงสุดของบีช เบย์ คลับในเวลานี้จะเยือกเย็นเหมือนน้ำนิ่งสนิท เฮ็คเตอร์อยู่ในเชิ้ตขาวกางเกงแสล็คสีเทาดำ ใบหน้าคมคายหล่อเหลาที่เธอจดจำได้นั้นยังคงเหมือนเดิม แต่นัยน์ตาสีฟ้าประกายมรกตคู่นั้นลุ่มล
“คุณนั่นแหละที่ต้องฟังผม!” เฮ็คเตอร์ส่งเสียงคำรามลั่นเหมือนจอมซาตานที่ไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสวิญญาณของเธอหลุดรอดไปได้อีกครั้ง“ตอนนั้นผมมันเป็นแค่ไอ้งี่เง่าที่คิดว่ารักแท้มีจริง ก็คิดดูว่าผู้หญิงฐานะสูงส่งคนนั้นเคยลดตัวมาเกลือกกลั้วอยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือน แล้วสุดท้ายเธอก็คงได้คำตอบว่ารักแท้มันไม่มีความหมาย มันเทียบไม่ได้กับคนที่มีฐานะทัดเทียมกัน...คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกลีแอน!”มือหนาหนักข้างหนึ่งจับคางเรียวของหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากพูดแล้วบีบกรามเล็กไว้แน่น เรียวปากของณชนกสั่นระริกขณะน้ำตาหยดไหลเป็นทาง ทำยังไงเธอถึงจะได้มีโอกาสอธิบายให้เขาเข้าใจสักครั้ง เธอยังจำเหตุการณ์คืนนั้นได้แต่...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หญิงสาวนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นชนวนเหตุให้ต้องสูญเสียผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด เฮ็คเตอร์ก้มหน้าลงไปจนเกือบชิดใบหน้าหวาน เสียงขบกรามดังชัดเจนในหูของหญิงสาวก่อนที่เขาจะเปล่งเสียงลอดไรฟันออกมา“ผมจะไม่ฟังคำแก้ตัวของผู้หญิงใจโลเลอย่างคุณ ถึงแม้ว่าผมจะเคยเป็นผู้ชายคนแรกของคุณก็ตามทีเถอะ... ผมแค่อยากให้บทเรียนผู้หญิงร่านรักอย่างคุณ ให้รู้ว่าการที่ต้องอยู่กับการลวงหลอกและเจ็บปวดมันเป็นย
“ได้ความสะใจ!” คำตอบนั้นทำให้ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเฮ็คเตอร์จะตอบเธอได้อย่างไม่ยี่หระแม้แต่น้อย หญิงสาวเผลอสะอื้นไห้ออกมพร้อมด้วยน้ำตาที่จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากให้เขาเห็นด้วยซ้ำ“เฮ็คเตอร์...คุณไม่เหมือนเดิมเลย...ทำไม”“ผมบอกคุณไปแล้วไง เราแลกกัน ความเจ็บปวดของผมกับผู้หญิงต่ำช้าคนหนึ่งที่หลอกให้ผมทั้งรักทั้งคลั่ง...แค่ครั้งละสองแสน หรือว่าจะเป็นร้อยล้านพันล้าน ผมไม่แคร์ถ้าจะใช้มันเพื่อความพอใจของตัวเอง ในเมื่อตัวคุณมันมีค่าแค่เศษเงินของผมเท่านั้น!”“เศษเงิน...” คำพูดเบาหวิวลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผากพร้อมเสียงสะอื้นไห้ ณชนกเหมือนถูกฉุดขึ้นมาจากความตายตอนที่ได้เห็นหน้าเขาครั้งแรก แต่แล้วเธอกลับถูกเขาเหวี่ยงลงไปในเหวลึก ให้เธอตายทั้งเป็นอยู่ในนั้น มันทรมานราวกับได้ขึ้นสวรรค์ก่อนพลัดหล่นลงไปในนรกขุมสุดท้าย“เฮ็คเตอร์...คุณจะไม่ฟังฉัน...สักนิดเลยหรือคะ” เขาส่ายหน้า แววตาคู่นั้นอาบความชิงชังอย่างเหลือแสน เขาก้มลงมาใกล้อีก ริมฝีปากของเขาอยู่เกือบชิดกลีบปากแห้งผากของหญิงสาว ณชนกไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อน เธองดงามอย่างที่ผู้ชายคนไหนก็ไม่อาจห้ามใจ ใบหน้าแสนหวานของ
เฮ็คเตอร์ยักไหล่ “ผมไม่ทำอะไร...ถ้าคุณไม่บิดพลิ้วสัญญาที่ให้ไว้กับผม”“แต่คุณเป็นคนบังคับฉัน” เขาเอียงหน้า เสียงหัวเราะของชายหนุ่มดังลึกอยู่ในลำคอก่อนจะพูดออกมาราวกับไม่สนใจทุกอย่างในโลก“พรุ่งนี้ผมจะให้คนไปรับคุณที่เนอร์สเซอรี่...ส่งลูกสาวแล้วคุณต้องมาหาผม ถ้าผิดสัญญาอย่าหาว่าผมไม่เตือน!” ณชนกไม่ยอมโต้ตอบกลับไปอีก เธอหันหลังให้แล้วรีบก้าวออกไปหยุดยืนที่ระเบียงบ้าน หญิงสาวแทบไม่อยากหันกลับไปมองข้างหลังราวกับอยากลืมเลือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ หากก็ทำใจได้ยากเหลือเกิน ทั้งที่เธอรักและคิดถึงเขานับจากวันที่เขาหายไปจากชีวิตของเธอเป็นเวลากว่าห้าปี เธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย วาดหวังไว้ว่าสักวันเธอจะได้เจอเฮ็คเตอร์อีกครั้ง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับสลายกลายเป็นอากาศธาตุ เธอรู้สึกเคว้งคว้างราวกับถูกเหวี่ยงออกไปนอกอวกาศอย่างไรอย่างนั้น“คลีโอ...ยังไม่นอนอีกเหรอคะลูก?” ณชนกต้องประหลาดใจเมื่อกลับถึงบ้านตอนดึกแล้วแต่ยังเห็นแม่หนูน้อยในชุดนอนลายการ์ตูนนั่งอยู่บนพื้นภายในห้องนอนที่เปิดไฟสว่างจ้า เธอรีบวางกระเป๋าสะพายบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วปรี่เข้าไปกอดลูกน้อย“คุณแม่...ทำไมคุณแม่...กลับดึกคะ”“ช่วงนี
“สวัสดีครับคุณลีแอน...ผมมารับคุณไปพบคุณเฮ็คเตอร์ครับ” ณชนกเย็นเยียบไปทั้งตัวเมื่อชายผู้นั้นกล่าวทักทาย ใบหน้าคมสันนั้นเหมือนเดิมไม่แตกต่าง นั่นคือเรียบเฉยและพร้อมทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด หญิงสาวลังเลและในที่สุดจึงตอบกลับไปว่า“ถ้าฉันไม่ไปล่ะ”“ผมคิดว่าคงไม่ได้ครับ”“ถ้าฉันไม่ไปพบเขา...จะเกิดอะไรขึ้น...อย่างนั้นเหรอ” เสียงนั้นสั่นเล็กน้อย ณชนกแข็งใจที่จะปฏิเสธ แต่แล้วเธอกลับได้รับคำตอบที่ไม่ใช่คำพูดจากชายผู้นั้น หากแต่เป็นสายตาที่มองจ้องไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก“คุณเฮ็คเตอร์แค่บอกว่า ถ้าคุณไม่ไปกับผมตอนนี้...วันนี้คุณอาจไม่ได้กลับมาที่นี่อีก” ณชนกขบกรามแน่น ความรวดร้าวจากหัวใจแล่นไหลเข้าไปในสายเลือด นี่เขากำลังขู่บังคับและคุกคามเธอกับลูก ถึงจะอยากดื้อรั้นหากแต่ท่าทีของเฮ็คเตอร์เมื่อวานนี้ก็ทำให้หญิงสาวหวั่นกลัวเกินกว่าจะดึงดัน“เชิญครับคุณลีแอน” ชายผู้นั้นกล่าวเพราะเขาเดาออกจากแววตาของหญิงสาวที่สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธ ในท้ายที่สุดหญิงสาวก็ต้องจำนนต่ออิทธิพลของผู้ที่ออกคำสั่งแก่ชายตรงหน้าด้วยการเดินตามไปที่รถเก๋งคันหรูซึ่งจอดรออยู่และพาเธอไปยังสถานที่ที่พาเธอไปเมื่อวานนี