“ทำไมคุณอยากจะให้ทุกอย่างระหว่างเราจบลงง่าย ๆ ล่ะ ในเมื่อนี่มันแค่เริ่มต้น!”
“คุณพูดเรื่องอะไร...เฮ็คเตอร์...ปล่อยนะคะ” เรียวปากอิ่มที่ยังเป็นรอยบวมเจ่อสั่นระริก ความกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแทรกซึมขึ้นมาและแผ่ไปทั่วร่างจนทำให้ณชนกเหมือนถูกยาชาจากมือแกร่งที่กำลังบีบแขนเธอไว้แน่น ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาราดรดลงบนแก้มซีดขาว
“ผมกำลังพูดเรื่องระหว่างเรา...ฟังไว้นะลีแอน เรื่องระหว่างผมกับคุณมันจะไม่มีวันจบลงง่าย ๆ ผมมันเจ็บจำแล้วฝังใจ แต่ก็รอได้เสมอสำหรับการเอาคืน!”
“เฮ็คเตอร์...ฉันเจ็บนะคะ...”
“พรุ่งนี้คุณต้องกลับมา!” เขาผลักเธอออกห่างอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นขณะเอามือลูบที่แขนและนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ รอยปากหยักบนใบหน้าคร้ามเข้มเหยียดออก แววตาคู่นั้นหยามเยาะอย่างไม่คิดสงสารคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“ห้ามลาออกจากบีช เบย์ คลับ...ถ้าคุณคิดจะทำ บอกได้เลยว่าคุณลำบากแน่!”
“เฮ็คเตอร์...ฉันไม่เข้าใจคุณเลย...มีอะไรตั้งหลายอย่างที่ฉันอยากจะถามคุณ คุณหายไปไหนเมื่อห้าปีก่อน...คุณหายไปไหน”
“ถ้าอยากรู้...พรุ่งนี้...คุณต้องกลับมา” ชายหนุ่มเอามือทั้งสองล้วงกระเป๋า แต่ท่าทีของเขาไม่ได้ลดทอนความร้ายกาจอย่างที่เธอไม่เคยเห็นลงเลยแม้แต่น้อย แม้เขาจะแสดงท่าทีหยามหมิ่นเธอมากแค่ไหน แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดณชนกก็ใจชื้นขึ้นมา หญิงสาวฝืนพูดกับเขาอีกครั้ง
“พรุ่งนี้คุณจะบอกฉันใช่มั้ยคะ เฮ็คเตอร์...ว่าห้าปีที่แล้วที่คุณหายไป...คุณไปไหนมา” ไม่มีคำตอบใดหลุดลอดออกมาจากปากของเขา เฮ็คเตอร์หันหลังให้ก่อนจะเดินจากไปราวกับไม่แยแส ทิ้งไว้แต่ความฉงน แปลกประหลาดใจให้แก่หญิงสาวที่ยืนมองเบื้องหลังของเขากับความหวังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด หากเธอรู้ว่าเขาไปไหนและทำอะไร บางที...เธออาจจะบอกเขาถึงสิ่งที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอ
“กลับมาแล้วเหรอคะคุณแนน” ป้าวิไลถามขึ้นทันทีที่ประตูห้องเปิดออกและร่างบอบบางของณชนกก้าวเข้ามาภายในห้องเช่า ของอพาร์ทเมนท์ตอนเวลาเกือบสี่ทุ่ม หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาและรับกระเป๋าสะพายจากหญิงสาวโดยไม่ทันสังเกตเห็นใบอันอิดโรยของอีกฝ่าย ณชนกชะเง้อมองเข้าไปในห้องของเธอก็เห็นว่าหนูน้อยคลีโอนอนหลับอยู่บนเตียง ภาพนั้นทำให้หัวใจที่แห้งโหยชุ่มฉ่ำขึ้นมาและจุดรอยยิ้มบนใบหน้าซีดยามเมื่อได้เห็น
“คลีโอหลับนานแล้วเหรอคะ”
“พึ่งหลับค่ะคุณแนน” ป้าวิไลกล่าวพลางเอากระเป๋าสะพายเข้าไปวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องของณชนกซึ่งเป็นสิ่งที่นางทำให้หญิงสาวจนเคยชินตั้งแต่เป็นแม่บ้านรับใช้บิดามารดาของเธอมาเกือบสามสิบปี ร่างบอบบางเดินตามเข้าไปและอดที่จะมองร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววัยกำลังซนที่นอนหลับปุ๋ยใต้ผ้าห่มไม่ได้ ยิ่งเห็นคลีโอในยามนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกตีบตันเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำ
“วันนี้กลับดึกนะคะ งานยุ่งเหรอคะคุณแนน”
“ค่ะ...งานค่อนข้างจะยุ่ง ป้าวิไลรู้ไหมคะว่าวันนี้แนนได้เจอใคร”
“ใครเหรอคะคุณแนน”
“เฮ็คเตอร์ค่ะ...แนนเจอเฮ็คเตอร์” คำบอกเล่าทำให้หญิงวัยกลางคนชะงักไป ชื่อนั้นทำให้วิไลแทบไม่ต้องครุ่นคิดเพราะนางเองก็ยังจำชายหนุ่มผู้นั้นได้เสมอ
“จริงเหรอคะคุณแนน” เสียงของวิไลลดต่ำลงขณะจูงมือหญิงสาวออกมายังห้องรับแขกเพราะกลัวว่าเสียงพูดคุยจะรบกวนการหลับของแม่หนูน้อย
“คุณแนน...เจอเขาที่ไหนเหรอคะ”
“แนนเจอเขาที่โรงแรมค่ะ”
“เขาไปทำอะไรที่นั่นเหรอคะ...แล้ว...คุณแนนเจอเขาได้ยังไง”
บทที่ 4
ณชนกพยายามสกัดน้ำรื้นบนขอบตา ทุกครั้งที่พูดถึง เขา คนนั้นต่อหน้าแม่บ้านคนเก่าแก่เธอมักจะควบคุมความรู้สึกไม่ได้ทุกครั้ง
“บอกป้ามาสิคะว่าคุณแนนเจอเขาได้ยังไง” ป้าวิไลที่จับมือหญิงสาวไว้แน่นดึงข้อมือบางให้ร่างนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องรับแขก
“เขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่แนนทำอยู่ค่ะ”
“ห๊า!...อะไรนะคะ จริงเหรอคะคุณแนน” วิไลมีอาการตกใจซึ่งไม่ต่างไปจากหญิงสาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน หวาดหวั่นแม้จะดีใจอย่างที่สุด
“แล้วเขา..เป็นยังไงบ้างคะคุณแนน” ณชนกเงียบไปกระทั่งแม่บ้านเห็นน้ำตาหยดไหลลงบนแก้มของหญิงสาวเป็นทาง แทบไม่มีเรื่องใดเกี่ยวกับณชนกที่วิไลไม่รู้ นางรู้ทุกอย่างแม้แต่เรื่องคนรักซึ่งเป็นอดีตอันเจ็บปวดของหญิงสาวที่มีความรักมั่นคงจวบจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาแทนที่ผู้ชายคนนั้นได้
“คุณแนนคุยอะไรกับเขาบ้างไหมคะ หรือไม่...เขาได้คุยอะไรกับคุณแนนบ้างไหม”
“เราคุยกันไม่มากค่ะป้าวิไล ตอนนี้เฮ็คเตอร์เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ระดับพันล้าน มันไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะป้า” น้ำเสียงนั้นไม่บ่งบอกความตื่นเต้น มันเลื่อนลอยเสมือนไม่อาจจับต้องได้
“ค่ะ...ไม่น่าเชื่อ ป้าเองก็คิดว่าคุณแนนคงไม่ได้เจอกับเขาอีกแล้ว”
“พรุ่งนี้แนนจะไปหาเขาน่ะค่ะป้า...แนนรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในฐานะที่ต่ำต้อย เทียบกันไม่ได้เลยกับเขา แต่แนนก็แค่อยากรู้ว่า...เมื่อห้าปีที่แล้วเขาไปไหน”ณชนกแทบไม่ได้สังเกตเลยว่ามือของวิไลที่จับมือของเธอไว้แน่นคลายลงในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของแม่บ้านวัยกลางคนก็เปลี่ยนไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่นางไม่สามารถพูดออกมาได้วิไลแค่นยิ้มกลบความรู้สึกบางอย่างที่กำลังแล่นปรี่ขึ้นมา“คุณแนนไปพักผ่อนเถอะนะคะ ดึกแล้ว...พรุ่งนี้คุณแนนต้องไปทำงานแต่เช้านี่ไม่ใช่เหรอคะ”“ค่ะ...ป้าคะ...แนนอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดอะไรขึ้นกับเฮ็คเตอร์ เขาคงจะไม่โกหกแนนหรอกนะคะ ว่าเขาไปไหนมา”วิไลยิ้มกับร่างบางที่ลุกขึ้นและเดินกลับเข้าห้อง นางมองเห็นความสับสนและหวั่นกลัวฉายออกมาจากแววตาคู่นั้นซึ่งมันทำให้ตัวนางเองก็รู้สึกสะท้อนสะเทือนใจเช่นเดียวกัน วิไลเผลอหลั่งน้ำตาและรำพึงกับตัวเองเบา ๆ“คุณแนน...ป้าขอโทษนะคะ...ป้าขอโทษ”เช้าวันใหม่ณชนกพาหนูน้อยคลีโอไปฝากไว้ที่เนอร์สเซอรรี่เป็นปกติ แต่วันนี้หญิงสาวสังเกตเห็นแม่หนูน้อยมีสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนถึงสถานเลี้ยงเด็กเธอจึงหยุ
“เชิญคุณลีแอนครับ” คนของเฮ็คเตอร์เปิดประตูให้หญิงสาวก้าวลงไป ณชนกย่างก้าวด้วยความหวาดหวั่น หญิงสาวซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของโรงแรมเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหญ่ท่ามกลางหมู่ไม้ซึ่งห่างไกลออกมาจากย่านชุมชน มันเป็นสถานที่ที่สงบเงียบอย่างมาก ไม่ได้ยินเสียงรถแล่นผ่าน นั่นยิ่งทำให้หญิงสาววังเวงหัวใจ เธอเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น และเมื่อบานประตูถูกเปิดออกเธอก็เห็นร่างสูงใหญ่นั่งไขว่ห้างจิบไวน์อยู่ที่เก้าอี้รับแขก หญิงสาวยังยืนชิดบานประตูที่ปิดลงเหมือนเธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาในตอนนี้“นั่งสิ” เฮ็คเตอร์กล่าวขึ้นในความเงียบสงบ แม้จะเป็นเวลากลางวันที่แสงแดดส่องเข้ามาถึงแต่หญิงสาวกลับรู้สึกหนาวเยือกเหมือนอยู่กลางห้วงทะเลลึก“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...คุณมีธุระอะไรก็พูดกับฉันเลยก็ได้ เพราะเดี๋ยวฉันต้องรีบกลับไปทำงานที่โรงแรม”“ถึงไม่ไปวันนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณได้หรอกลีแอน” หญิงสาวเม้มปากสนิท ดูเหมือนผู้บริหารสูงสุดของบีช เบย์ คลับในเวลานี้จะเยือกเย็นเหมือนน้ำนิ่งสนิท เฮ็คเตอร์อยู่ในเชิ้ตขาวกางเกงแสล็คสีเทาดำ ใบหน้าคมคายหล่อเหลาที่เธอจดจำได้นั้นยังคงเหมือนเดิม แต่นัยน์ตาสีฟ้าประกายมรกตคู่นั้นลุ่มล
“คุณนั่นแหละที่ต้องฟังผม!” เฮ็คเตอร์ส่งเสียงคำรามลั่นเหมือนจอมซาตานที่ไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสวิญญาณของเธอหลุดรอดไปได้อีกครั้ง“ตอนนั้นผมมันเป็นแค่ไอ้งี่เง่าที่คิดว่ารักแท้มีจริง ก็คิดดูว่าผู้หญิงฐานะสูงส่งคนนั้นเคยลดตัวมาเกลือกกลั้วอยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือน แล้วสุดท้ายเธอก็คงได้คำตอบว่ารักแท้มันไม่มีความหมาย มันเทียบไม่ได้กับคนที่มีฐานะทัดเทียมกัน...คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกลีแอน!”มือหนาหนักข้างหนึ่งจับคางเรียวของหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากพูดแล้วบีบกรามเล็กไว้แน่น เรียวปากของณชนกสั่นระริกขณะน้ำตาหยดไหลเป็นทาง ทำยังไงเธอถึงจะได้มีโอกาสอธิบายให้เขาเข้าใจสักครั้ง เธอยังจำเหตุการณ์คืนนั้นได้แต่...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หญิงสาวนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นชนวนเหตุให้ต้องสูญเสียผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด เฮ็คเตอร์ก้มหน้าลงไปจนเกือบชิดใบหน้าหวาน เสียงขบกรามดังชัดเจนในหูของหญิงสาวก่อนที่เขาจะเปล่งเสียงลอดไรฟันออกมา“ผมจะไม่ฟังคำแก้ตัวของผู้หญิงใจโลเลอย่างคุณ ถึงแม้ว่าผมจะเคยเป็นผู้ชายคนแรกของคุณก็ตามทีเถอะ... ผมแค่อยากให้บทเรียนผู้หญิงร่านรักอย่างคุณ ให้รู้ว่าการที่ต้องอยู่กับการลวงหลอกและเจ็บปวดมันเป็นย
“ได้ความสะใจ!” คำตอบนั้นทำให้ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเฮ็คเตอร์จะตอบเธอได้อย่างไม่ยี่หระแม้แต่น้อย หญิงสาวเผลอสะอื้นไห้ออกมพร้อมด้วยน้ำตาที่จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากให้เขาเห็นด้วยซ้ำ“เฮ็คเตอร์...คุณไม่เหมือนเดิมเลย...ทำไม”“ผมบอกคุณไปแล้วไง เราแลกกัน ความเจ็บปวดของผมกับผู้หญิงต่ำช้าคนหนึ่งที่หลอกให้ผมทั้งรักทั้งคลั่ง...แค่ครั้งละสองแสน หรือว่าจะเป็นร้อยล้านพันล้าน ผมไม่แคร์ถ้าจะใช้มันเพื่อความพอใจของตัวเอง ในเมื่อตัวคุณมันมีค่าแค่เศษเงินของผมเท่านั้น!”“เศษเงิน...” คำพูดเบาหวิวลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผากพร้อมเสียงสะอื้นไห้ ณชนกเหมือนถูกฉุดขึ้นมาจากความตายตอนที่ได้เห็นหน้าเขาครั้งแรก แต่แล้วเธอกลับถูกเขาเหวี่ยงลงไปในเหวลึก ให้เธอตายทั้งเป็นอยู่ในนั้น มันทรมานราวกับได้ขึ้นสวรรค์ก่อนพลัดหล่นลงไปในนรกขุมสุดท้าย“เฮ็คเตอร์...คุณจะไม่ฟังฉัน...สักนิดเลยหรือคะ” เขาส่ายหน้า แววตาคู่นั้นอาบความชิงชังอย่างเหลือแสน เขาก้มลงมาใกล้อีก ริมฝีปากของเขาอยู่เกือบชิดกลีบปากแห้งผากของหญิงสาว ณชนกไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อน เธองดงามอย่างที่ผู้ชายคนไหนก็ไม่อาจห้ามใจ ใบหน้าแสนหวานของ
เฮ็คเตอร์ยักไหล่ “ผมไม่ทำอะไร...ถ้าคุณไม่บิดพลิ้วสัญญาที่ให้ไว้กับผม”“แต่คุณเป็นคนบังคับฉัน” เขาเอียงหน้า เสียงหัวเราะของชายหนุ่มดังลึกอยู่ในลำคอก่อนจะพูดออกมาราวกับไม่สนใจทุกอย่างในโลก“พรุ่งนี้ผมจะให้คนไปรับคุณที่เนอร์สเซอรี่...ส่งลูกสาวแล้วคุณต้องมาหาผม ถ้าผิดสัญญาอย่าหาว่าผมไม่เตือน!” ณชนกไม่ยอมโต้ตอบกลับไปอีก เธอหันหลังให้แล้วรีบก้าวออกไปหยุดยืนที่ระเบียงบ้าน หญิงสาวแทบไม่อยากหันกลับไปมองข้างหลังราวกับอยากลืมเลือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ หากก็ทำใจได้ยากเหลือเกิน ทั้งที่เธอรักและคิดถึงเขานับจากวันที่เขาหายไปจากชีวิตของเธอเป็นเวลากว่าห้าปี เธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย วาดหวังไว้ว่าสักวันเธอจะได้เจอเฮ็คเตอร์อีกครั้ง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับสลายกลายเป็นอากาศธาตุ เธอรู้สึกเคว้งคว้างราวกับถูกเหวี่ยงออกไปนอกอวกาศอย่างไรอย่างนั้น“คลีโอ...ยังไม่นอนอีกเหรอคะลูก?” ณชนกต้องประหลาดใจเมื่อกลับถึงบ้านตอนดึกแล้วแต่ยังเห็นแม่หนูน้อยในชุดนอนลายการ์ตูนนั่งอยู่บนพื้นภายในห้องนอนที่เปิดไฟสว่างจ้า เธอรีบวางกระเป๋าสะพายบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วปรี่เข้าไปกอดลูกน้อย“คุณแม่...ทำไมคุณแม่...กลับดึกคะ”“ช่วงนี
“สวัสดีครับคุณลีแอน...ผมมารับคุณไปพบคุณเฮ็คเตอร์ครับ” ณชนกเย็นเยียบไปทั้งตัวเมื่อชายผู้นั้นกล่าวทักทาย ใบหน้าคมสันนั้นเหมือนเดิมไม่แตกต่าง นั่นคือเรียบเฉยและพร้อมทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด หญิงสาวลังเลและในที่สุดจึงตอบกลับไปว่า“ถ้าฉันไม่ไปล่ะ”“ผมคิดว่าคงไม่ได้ครับ”“ถ้าฉันไม่ไปพบเขา...จะเกิดอะไรขึ้น...อย่างนั้นเหรอ” เสียงนั้นสั่นเล็กน้อย ณชนกแข็งใจที่จะปฏิเสธ แต่แล้วเธอกลับได้รับคำตอบที่ไม่ใช่คำพูดจากชายผู้นั้น หากแต่เป็นสายตาที่มองจ้องไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก“คุณเฮ็คเตอร์แค่บอกว่า ถ้าคุณไม่ไปกับผมตอนนี้...วันนี้คุณอาจไม่ได้กลับมาที่นี่อีก” ณชนกขบกรามแน่น ความรวดร้าวจากหัวใจแล่นไหลเข้าไปในสายเลือด นี่เขากำลังขู่บังคับและคุกคามเธอกับลูก ถึงจะอยากดื้อรั้นหากแต่ท่าทีของเฮ็คเตอร์เมื่อวานนี้ก็ทำให้หญิงสาวหวั่นกลัวเกินกว่าจะดึงดัน“เชิญครับคุณลีแอน” ชายผู้นั้นกล่าวเพราะเขาเดาออกจากแววตาของหญิงสาวที่สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธ ในท้ายที่สุดหญิงสาวก็ต้องจำนนต่ออิทธิพลของผู้ที่ออกคำสั่งแก่ชายตรงหน้าด้วยการเดินตามไปที่รถเก๋งคันหรูซึ่งจอดรออยู่และพาเธอไปยังสถานที่ที่พาเธอไปเมื่อวานนี
เวลาไม่ถึงห้านาทีที่หญิงสาวเปลี่ยนจากชุดพนักงานสาวเสิร์ฟเป็นชุดชั้นในลูกไม้สีชมพูหวาน เธอตัดสินใจแค่ชั่วครู่ก่อนจะออกจากห้องน้ำและเดินตามเข้าไปในห้องของเขา มันเป็นห้องนอนอและตอนนี้ร่างสูงใหญ่ก็รอเธออยู่ก่อนแล้วบนเตียงกว้าง เขาอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนโดยยันข้อศอกไว้บนเตียงหนา ห้องนั้นกว้างขวางหากก็แคบลงถนัดตาเมื่อณชนกก้าวเข้าไป เธอรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่คล่องที่ต้องอยู่ในสภาพเกือบเปลือยต่อหน้าเขา หญิงสาวแทบไม่กล้าสบนัยน์ตาเป็นประกายกล้าคู่นั้น เฮ็คเตอร์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเรือนร่างที่เขาก็เคยเห็นเธอหมดทุกตารางนิ้ว ความทรงจำบางอย่างผุดพรายขึ้นมาเพียงชั่วปัจจุบันขณะ ณชนกไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิม ร่างเล็กบอบบางที่ยืนตรงหน้ายังงดงามหมดจดทุกสัดส่วน ผิวขาวอมชมพูและเนื้อนุ่มเรียบเนียนราวพอร์ชเลน หน้าอกอวบอิ่มใต้บราเซียไหวกระเพื่อมขึ้นลงยังคงดึงดูดสายตา หน้าท้องแบนราบแทบไม่เห็นร่องรอยตำหนิใด ๆ แม้จะผ่านการมีลูกมาแล้ว เรียวขางามทั้งสองเบียดชิดติดกัน เธอเหมือนเมื่อก่อนซึ่งในเวลานั้นเขาเคยมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรักและชื่นชม ทว่าเมื่อเขาหลับตาลงภาพอันพร่าพรายของชายอีกคนกลับแจ่มชัดขึ้นมาเพียง
“ลีแอน...ตอบสนองผมสิ...” ชายหนุ่มครางอยู่กับริมฝีปากอิ่มสวยที่สั่นระริกไม่แพ้กัน เขาฉกลิ้นกลับเข้าไปแต่ณชนกก็ยังคงแสร้งทำเหมือนเดิม นิ่งเฉยทั้ง ๆ ที่กำลังร้อนรุ่มเหมือนถูกสุมด้วยกองไฟ เขาไม่ได้จูบหนักหน่วงแต่ยังเลื่อนไล้ฝ่ามือสากหนาไปตามผิวเนียนขาวบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า ปากหนาที่ประกบกลีบปากนุ่มจ้วงลึกเรียวลิ้นเข้าสู่ความชุ่มฉ่ำแม้จะรู้สึกถึงความหวานล้ำที่เขารอคอยทว่ามันเหมือนโตรกธารท่ามกลางทะเลทรายที่แล้งไร้ชีวาอย่างน่าใจหาย“ลีแอน...จูบผม...นี่เป็นคำสั่ง” เขาเค้นเสียงเข้มกระซิบข้างริมฝีปากของหญิงสาว“คุณจูบฉันอยู่นี่คะ”“คุณต้องตอบสนองผม” ณชนกเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เฮ็คเตอร์ยิ่งงุ่นง่านเมื่อหญิงสาวแสดงท่าทีเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต เขาผลักร่างแน่งน้อยลงไปนอนบนเตียงและทาบทับตัวเธอไว้ด้วยร่างใหญ่โตของเขา ไหล่บางถูกมือหนากดไว้ ดวงหน้างามกำลังเผชิญกับจอมมารร้ายในคราบเทพบุตรผู้หล่อเหลา“ลีแอน...ผมรู้ว่าคุณกลัว...ทำไมต้องกลัว...ในเมื่อครั้งหนึ่งเราก็เคยทำแบบนี้”“ครั้งหนึ่งอย่างนั้นเหรอคะ” ณชนกเผลอน้ำตาไหล หยดน้ำตาของเธอทำให้ชั่ววูบในใจของเฮ็คเตอร์ถูกสั่นสะเทือนรุนแรง“ถ้าคุณยังจำได้...แล้วทำไมค