ชายฉกรรจ์เจ็ดแปดคนถือทัพพีและตะหลิวในมือ พลางจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่เป็นมิตร“ไอ้หนุ่ม แกนี่ใจกล้าไม่เบา ถึงกล้ามาก่อเรื่องที่นี่ได้!”“รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่จะโดนฉันสั่งสอนให้เข็ด!”……ชายหนุ่มมั่นใจเต็มที่ คิดว่าเย่ซิวจะต้องเจอจุดจบอย่างแน่นอน แต่เพียงวินาทีต่อมา ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึงเขาเห็นลูกน้องของตัวเองแต่ละคนถูกเหวี่ยงขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะร่วงลงมากระแทกพื้นอย่างแรงจู่ ๆ เขารู้สึกว่าหายใจไม่ออก เพราะถูกเย่ซิวคว้าคอเขาไว้และยกตัวขึ้นเขาถูกเย่ซิวหิ้วเหมือนลูกไก่ไปจนถึงหน้าประตูห้องส่วนตัว จากนั้นเย่ซิวก็ถีบประตูเปิดอย่างแรงเขาเดินเข้าไปด้านในพนักงานหญิงที่อยู่ในห้องส่วนตัวสะดุ้งตกใจสุดขีด เมื่อเห็นคนที่ตัวเองพึ่งพามาตลอดอยู่ในสภาพแบบนั้น ก็กรีดร้องออกมาทันทีชายหนุ่มดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่สามารถหลุดจากเงื้อมมือของเย่ซิวได้ด้านนอก ลูกค้าหลายคนแอบมองเข้ามา เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า พวกเขาต่างก็ตะลึง“โอ้พระเจ้า มีผู้หญิงสลบอยู่ในนั้น”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”……ใบหน้าของพนักงานหญิงซีดเผือดทันที เธอไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน หากถูกจับได้
เย่ซิววางหลัวอีอีลงบนโซฟาอย่างเบามือ จากนั้นจึงเทน้ำใส่แก้วพร้อมใส่พลังวิญญาณลงไปเล็กน้อย เขาพยุงเธอขึ้นมาเพื่อป้อนน้ำให้ดื่มแต่เนื่องจากเธอยังคงหมดสติอยู่ น้ำจึงไม่สามารถไหลลงลำคอได้ เย่ซิวจึงไม่มีทางเลือก ต้องอมเอาน้ำไว้ในปากก่อน จากนั้นจึงค่อยเปิดปากของหลัวอีอีแล้วป้อนน้ำให้เธอดื่มจนหมดแก้วไม่นานนัก หลัวอีอีก็ส่งเสียงครางเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ“อย่านะ ปล่อยฉัน ไอ้คนชั่ว คนสารเลว!” เธอกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวเย่ซิวกอดร่างนุ่มนิ่มของเธอไว้แน่น “ใจเย็น ๆ ผมเอง ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว”ดวงตาของหลัวอีอียังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความทรงจำของเธอหยุดอยู่ที่ช่วงเวลาก่อนหมดสติ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเย่ซิว เธอจึงค่อย ๆ สงบลงและหันไปมองเขาด้วยความคุ้นเคย“เย่ซิว เป็นนายจริง ๆ ใช่ไหม? ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?” เย่ซิวยิ้มพลางเอ่ย “ไม่ใช่ฝันหรอก ผมเอง”“ฮือ ๆ ๆ” หลัวอีอีร้องไห้ฟูมฟาย “เย่ซิว ศักดิ์ศรีฉันถูกทำลายไปแล้ว ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ปล่อยให้ฉันตายเถอะ”เย่ซิวยิ้มแห้ง “คุณไม่ได้ถูกทำลายอะไรเลย ทุกอย่างปลอดภัยดี”“ฮือ ๆ ๆ นายอย่
เย่ซิวเลิกคิ้วขึ้น “จริงเหรอ?” หลัวอีอียืดอกอย่างมั่นใจ “แน่นอนสิ แต่นายก็คงแค่มีเงินบ้างนิดหน่อย ไม่ต้องถึงกับเป็นมหาเศรษฐีหรอก”เย่ซิวไม่ได้คิดอะไรกับเธอเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะปู่ของเธอเป็นถึงผู้ว่าการเมือง ไม่มีทางที่จะยอมให้หลานสาวไปเป็นภรรยาน้อยใครเด็ดขาด แต่เขาก็อยากแกล้งเธอเล่น จึงพูดขึ้นว่า “คุณรู้จักครีมผิวหยกไหม?”“รู้จักสิ” หลัวอีอีตอบด้วยความตื่นเต้น “มันเป็นสินค้าชื่อดังของประเทศหลงเถิงเลยนะ เพื่อน ๆ ในห้องเรียนไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใช้กันหมด”“ครีมผิวหยกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผมเป็นคนคิดค้นขึ้นเอง”หลัวอีอีหัวเราะ “เย่ซิวน้อย นี่แค่ไม่ได้เจอกันไม่นาน นายขี้โม้ขึ้นเยอะเลยนะ”เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เย่ซิวพูดมันเหลือเชื่อเกินไปจนหลัวอีอีไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยเย่ซิวไหวไหล่ “ผมพาคุณไปดูที่บริษัทก็ได้นะ”หลัวอีอีกลอกตาใส่เขา ทำหน้าตาราวกับอ่านใจเขาออก “ถ้านายอยากได้ฉันก็พูดมาตรง ๆ ไม่ต้องพูดอ้อมค้อมหรอก ถ้านายตามจีบฉันอย่างจริงใจ ฉันอาจจะยอมเป็นแฟนนายก็ได้นะ”เย่ซิวคร้านจะอธิบายต่อ จึงลุกขึ้นแล้วเอ่ย “คุณคงหิวแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมพาไปหาอะไรกินก่อน แล้วค่อยไปที่บริษัท”
แต่ทันใดนั้น หลัวอีอีก็เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา เธอหันไปมองเย่ซิว “พอแล้ว เราไปกันเถอะ ที่แบบนี้ไม่ใช่ที่ที่เราควรมาหรอก”ตอนนี้บริษัทสตาร์รี่สกายกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีคนอยากเข้าทำงานมากที่สุด หลัวอีอีเองก็เป็นหนึ่งในนั้น บริษัทนี้เหมือนอยู่บนหอคอยสูงที่คนธรรมดาอย่างเธอทำได้แค่เงยหน้ามองอย่างเคารพเย่ซิวเดินนำหน้าไป “ถ้าคุณไม่ตามมา ระวังจะเสียใจทีหลังนะ”“นี่ นาย…” หลัวอีอีเรียกเขาพลางย่ำเท้าลงกับพื้นด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะลังเลเล็กน้อยแล้วตัดสินใจวิ่งตามเขาไป“สวัสดีครับ คุณเย่”ยามที่แต่งตัวเรียบร้อยตรงทางเข้าต่างพากันโค้งให้เขาอย่างสุภาพหลัวอีอีที่วิ่งตามมาถึงหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกระซิบข้างหูเย่ซิว “นี่มันเรื่องอะไรกัน นายจ้างยามที่นี่มาเล่นละครกับนายเหรอ?”เย่ซิวไม่รู้ว่าต้องทำหน้ายังไงดี “ใช่ ๆ ๆ”หลัวอีอีตกตะลึงก่อนจะบ่น “ฉันรู้แล้วล่ะว่านายต้องการอะไร ไว้ฉันจะพิจารณาอีกทีนะว่าจะเป็นแฟนนายดีไหม”เย่ซิว “???”เขาทำหน้าสงสัย ไม่เข้าใจเลยว่าสาวน้อยคนนี้คิดไปถึงไหนแล้วทั้งสองเดินเข้าไปในบริษัท พนักงานที่พบเห็นเย่ซิวต่างพากันทักทายอย่างนอบน้อมทันใดนั้นเอง
สามวันก่อน ครีมผิวหยกและยามังกรพยัคฆ์จำนวนมากถูกส่งไปยังกว่าห้าสิบประเทศที่พัฒนาแล้วผ่านการขนส่งทางอากาศและทางเรือ ทุกขั้นตอนดำเนินการเสร็จสิ้น โฆษณาก็ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อย รอเพียงคำสั่งจากเย่ซิว ก็สามารถทำให้ผู้คนจากทั่วโลกได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศหลงเถิงได้แล้วเมื่อเย่ซิวออกคำสั่ง ช่องทางต่าง ๆ ก็เริ่มดำเนินการทันที ชาวเน็ตต่างประเทศจำนวนมากก็สังเกตเห็นว่ามีโฆษณาตัวหนึ่งกำลังแพร่หลายอย่างกว้างขวางเนื้อหาโฆษณาช่างแสนจะโอ้อวดเช่น ‘แค่เม็ดเดียวก็ทำให้คุณแข็งแกร่งดุจพยัคฆ์’ ‘สินค้าที่ทำให้ภรรยาของคุณทั้งรักทั้งเกลียด’ และอื่น ๆ ในทำนองนี้อีกไม่น้อยตอนแรกไม่ค่อยมีใครเชื่อ เพราะโฆษณาดูโอ้อวดเกินไป แต่ด้วยการยิงโฆษณาอย่างต่อเนื่องเลยมีผู้ชายบางกลุ่มที่รู้สึกไม่พอใจกับชีวิตเริ่มสนใจและตัดสินใจลองซื้อดู แม้ว่ายามังกรพยัคฆ์จะมีราคาสูงถึงสองแสนห้าหมื่นบาทต่อเม็ด แต่สำหรับผู้ชายที่ไปหาหมอมาหลายแห่งแล้วแต่ก็ยังไม่หาย พวกเขามองว่านี่อาจเป็นความหวังสุดท้ายแล้วเมื่อพวกเขาได้รับสินค้าแล้ว ก็รีบลองทานเข้าไปทันทีด้วยความรู้สึกกังวลปนมีหวัง ผลลัพธ์ก็ปรากฏอย่างรวดเร็ว ภายในไม
หลังจากสั่งการเรื่องต่าง ๆ เสร็จ เย่ซิวจึงถามขึ้นว่า “ยามังกรพยัคฆ์ที่ขายในประเทศเป็นยังไงบ้าง?” ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งตอบว่า “ถือว่าพอใช้ได้ครับ แต่ไม่ฮิตเหมือนในต่างประเทศ กำไรก็ไม่มากเท่าไหร่”ยามังกรพยัคฆ์ที่ขายในต่างประเทศมีต้นทุนไม่ถึงสองพันห้า แต่สามารถขายได้ถึงสองแสนห้าหมื่น แต่ของที่ขายในประเทศ ต้นทุนอยู่ที่หนึ่งหมื่น แต่ขายได้เพียงหนึ่งหมื่นเก้าพันบาทนอกจากนี้ โฆษณาของสินค้าภายในประเทศก็ไม่ได้เน้นความอลังการ จะขายในรูปแบบอาหารเสริมสุขภาพมากกว่าแต่ด้วยการรับรองจากครีมผิวหยก ยามังกรพยัคฆ์ก็ยังคงขายได้ดีไม่น้อยเย่ซิวพยักหน้ารับหลังจากนี้บริษัทก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาดูแลมากแล้ว เพียงแค่ทำตามแผนงานที่วางไว้ก็เพียงพอเมื่ออุดช่องโหว่ที่หอการค้าไป๋ชวนทิ้งไว้เรียบร้อยแล้ว เย่ซิวก็ตั้งใจจะเดินทางไปประเทศคาบูเพื่อชำระแค้นให้สิ้นซากประมาณบ่ายสองกว่า เย่ซิวออกจากบริษัทก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัวไปเยี่ยมหลัวอีอีที่มหาวิทยาลัย เพื่อดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างเขาโทรแจ้งครอบครัวของหลัวอีอีล่วงหน้าแล้ว ซึ่งพอพ่อแม่เธอรู้เรื่องก็สบายใจขึ้นมากถึงขนาดพูดเป็นนัย ๆ ว่าอยากจะจับคู่เขากับ
“ที่รัก ทำไมถึงมาช้าจัง ฉันรอตั้งนานแล้วนะ”หลัวอีอีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนจะควงแขนเย่ซิวพร้อมขยิบตาให้เขาเย่ซิวเอ่ยเสียงเบาให้มีแค่เธอเท่านั้นที่ได้ยิน “ค่าตัวผมแพงมากเลยนะ”หลัวอีอีตอบกลับทันควัน “นายอยากได้อะไรล่ะ ฉันไม่มีเงินหรอก...”“งั้นคุณต้องจ่ายด้วยเลือดแล้วล่ะ”หลัวอีอีชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเพิ่งเข้าใจความหมายสองแง่สองง่ามนี้ “คนลามก”บทสนทนาสั้น ๆ ของพวกเขา หากมองจากภายนอกก็ดูเหมือนคู่รักที่หยอกล้อกันอย่างหวานชื่นเฉินหย่งฮ่าวอิจฉาตาร้อน เขาลุกขึ้นทันที ก่อนจะเดินเข้ามาหาหลัวอีอี พร้อมกับกัดฟันเอ่ย “อีอี เธอยอมจ้างคนมาแสดงแทนที่จะมาเป็นแฟนฉันอย่างนั้นเหรอ!”หลัวอีอีส่งเสียงหึ “ใครบอกว่าฉันแสดง เขาเป็นแฟนของฉันจริง ๆ ต่างหาก”เธอเอ่ยพร้อมกับกอดแขนของเย่ซิวแน่นขึ้นเฉินหย่งฮ่าวตะโกนด้วยความโมโห “ฉันไม่เชื่อ เธอหลอกฉัน!”หลัวอีอีทั้งโกรธทั้งเหนื่อยใจ คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ต่างอะไรกับหมาที่คอยตามพันแข้งพันขาไม่มีวันเลิกราหลัวอีอีจึงยืนเขย่งปลายเท้าแล้วหอมแก้มเย่ซิวเพื่อสลัดเขาออกไปเสีย ก่อนจะหันไปมองเฉินหย่งฮ่าว “ตอนนี้นายเชื่อหรือยัง นายก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนยอม
เฉินหย่งฮ่าวเป็นคนที่รู้จักแพ้ชนะ จึงโอนเงินให้ในทันทีหลัวอีอีได้รับข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าภายในไม่ถึงนาที เธอกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ว้าว สิบล้าน ฉันกลายเป็นเศรษฐีตัวน้อยไปแล้ว”เย่ซิวจูงมือหลัวอีอี “ไปเถอะ วันนี้คุณเลี้ยงข้าวผมนะ”หลัวอีอียิ้มหวาน “ได้เลยค่ะ ที่รัก”ทั้งคู่เดินคุยไปหัวเราะไปด้วยกันอย่างมีความสุขเฉินหย่งฮ่าวที่ก่อนหน้านี้ดูมีท่าทีสิ้นหวัง จู่ ๆ ก็เผยสีหน้าเย็นชาออกมา “เป็นไปตามข่าวลือจริง ๆ ผู้หญิงรายล้อมไม่ขาด ถ้างั้นก็ถึงเวลาใช้แผนนั้นแล้ว!”หลังจากทานข้าวเสร็จ หลัวอีอีก็ชวนเย่ซิวไปดูหนัง กว่าจะดูจบก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้วหลัวอีอีดูตื่นเต้นทั้งวี่ทั้งวันอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเธอดูสดใสเปล่งประกายกลางดึก ทั้งสองคนเดินเล่นไปตามถนน หลัวอีอีหมุนตัวไปรอบ ๆ เย่ซิวเหมือนนกน้อย “วันนี้ฉันมีความสุขมากเลย อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเศรษฐีไปซะแล้ว”แม้บ้านเธอจะมีฐานะร่ำรวย แต่พ่อแม่ก็เข้มงวดมาก เดือนหนึ่งให้เงินใช้แค่ไม่กี่หมื่นเท่านั้นเมื่อก่อนเธอได้แต่มองเพื่อน ๆ ซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ กระเป๋า และเครื่องสำอางด้วยความอิจฉาเย่ซิวเตือน “อย่าเอาเงินไปใช้ฟุ่มเฟือยล่ะ”
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค