Share

บทที่2.

บทที่2.

“โอ้โห น่ากินจังเลยแต่อร่อยรึเปล่านะหรือจะเค็มขี้มือ..” เขาแสร้งร้องขึ้นแล้วเดินไปชะโงกดูอาหารบนโต๊ะและทำท่าจะเอื้อมมือไปหยิบปลาที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำทอดเหลืองกรอบน่ากินแต่ไม่ทันที่มือเขาจะได้ยื่นไปถึงชิ้นปลาที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามในจานภาสกรก็สะดุ้งชักมือกลับแทบไม่ทันเมื่อมือเล็กๆ ของทิพย์ธาราตีเผี๊ยะลงมา...

“โอ๊ย..” ภาสกรร้องลั่นเลยทีเดียวเมื่อมือเรียวบางฟาดลงมาแบบไม่ออมแรง

“ไปล้างมือเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ใบหน้างามผุดผ่องด้วยวัยสาวบึ้งตึงดวงตากลมโตดำขลับวาววับราวแม่เสือ

“พี่ขอชิมแค่นิดเดียวเองทำหวงไปได้..”

“นิดเดียวก็ไม่ได้ค่ะเพราะพี่แสนยังไม่ล้างมือและการมาแอบหยิบอาหารในจานแบบนี้มันไม่ดีค่ะ เสียมารยาท”

“อะไรกันจ๊ะเด็กๆ เสียงดังไปถึงข้างนอกเลย” คุณย่าเล็กเดินเข้าเข้ามาพร้อมด้วยน้องชายน้องสาวฝาแฝดของภาสกร...

“น้องน้ำแข็งจัดการคนดื้อหรือจ๊ะ” เอกธนา หรือ เอ็ดดี้ เอ่ยถามทิพย์ธาราแล้วหันไปมองพี่ชายยิ้มๆ

“พี่แสนมาแกล้งอะไรน้องน้ำแข็งอีกคะเนี่ย” พิ้งกี้ หรือ อุษาพิไล หลิ่วตาให้พี่ชายแล้วนั่งลงข้างๆ ย่าเล็ก เอกธนาเลื่อนเก้าอี้ให้ผู้เป็นย่านั่งเรียบร้อยแล้วก็มานั่งข้างๆ พี่สาว

“ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย” ภาสกรตอบเสียงเบาแล้วมองหน้าสวยใสของทิพย์ธาราอย่างล้อเลียน

“แค่แม่แก่แถวๆ นี้ขี้หวง”

“พี่แสนว่าใครคะ..” ทิพย์ธาราหน้างอมองเขาตาขุ่น

“ก็ใครล่ะที่ขี้หวงแล้วก็ขี้บ่น..”

ภาสกรยื่นหน้ามาใกล้ทิพย์ธาราผงะหนีเล็กน้อยแล้วผลักอกกว้างของเขาอย่างฉุนเฉียว ภาสกรแสร้งเซน้อยๆ แล้วหัวเราะขบขัน

“พี่แสนคนบ้า ว่าน้ำแข็งเป็นยายแก่”

“แสนนี่ละก็ชอบแกล้งน้ำแข็งจริงๆ เลย ไปล้างมือไป แล้วรีบมากินข้าว..”

คุณย่าเล็กเอ็ดหลานชายเบาๆ ในใจของผู้เป็นย่านั้นรู้ดีว่าหลานชายตัวดีนั้นคิดอย่างไรกับทิพย์ธาราแต่พอเข้าใกล้สาวน้อยหน้าใสแสนสวยทีไรภาสกรก็มักจะกลั่นแกล้งให้ทิพย์ธาราโมโหฉุนเฉียวหรือไม่ก็ต้องหาเรื่องทะเลาะกับทิพย์ธาราเสมอ จนเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่พบกันทีไรก็มักจะมีปากเสียงกันตลอด จนบรรดาผู้ใหญ่ต่างก็เอือมระอาและมักจะต่อว่าภาสกรเสมอที่ชอบหาเรื่องทิพย์ธารา

“ก็ดูสิครับ หลานสาวที่รักของคุณย่าขี้บ่นขี้หวงเจ้าระเบียบชะมัด เหมือนคุณย่าไม่มีผิด ถ้าไม่เรียกว่ายายแก่จะเรียกอะไรล่ะครับ”

“ยังอีกแน่ะ เด็กคนนี้นี่..”

ภาสกรหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปล้างมือก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะอาหารซึ่งในวันนี้อยู่กันพร้อมหน้า เหมือนครอบครัวใหญ่สองครอบครัวมาเจอกัน บรรยากาศจึงอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

ภาสกรมองบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่มีคนในครอบครัวสิบเอ็ดชีวิตอย่างรู้สึกอบอุ่นและซึมซับบรรยากาศเช่นนี้ไว้ เขาชอบความรู้สึกที่อยู่ท่ามกลางคนในครอบครัวได้พุดคุยได้เห็นหน้ากันได้หัวเราะในเรื่องเฉิ่มๆ เปิ่นๆ เด๋อด๋าของกันและกัน ได้เห็นใบหน้าสวยละมุนรอยยิ้มหวานๆ และเสียงหัวเราะใสๆ ของทิพย์ธารา...

หากเขาจะแต่งงานมีครอบครัว หรือในอนาคตที่เขาจะได้เป็นปู่หรือตา เขาก็หวังจะได้เห็นบรรยากาศครอบครัวใหญ่ที่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้เช่นกัน...

ทิพย์ธาราเดินลงมาที่ห้องครัวของเรือนหลังใหญ่ที่มีห้องร่วมยี่สิบห้องเรียกได้ว่าเรือนหลังนี้เหมือนคฤหาสน์หลังใหญ่ๆ ที่เคยเห็นในภาพตามนิตยสารต่างๆ ซึ่งเรือนหลังนี้เป็นรูปทรงแบบยุโรปผสมผสานกับอาคารแบบไทยภาคเหนือมองเผินๆ จะเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่มีความงดงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และเธอก็ชอบที่นี่มากเวลาที่รวมญาติกันทุกคนมักจะเลือกที่นี่เป็นที่แรกแต่ก็มีบ้านพักอีกหลายแห่งที่คุณปู่โลแกนสร้างไว้ให้สำหรับลูกๆ หลานๆ เพื่อให้ทุกคนได้เที่ยวพักผ่อนอย่างสะสวกสบายไม่ต้องไปแย่งบ้านพักกับใครเพราะทั้งสองตระกูลนั้นมีสมาชิกหลายชีวิตดังนั้นการสร้างบ้านพักเพื่อรับรองคนในครอบครัวจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด คุณปู่จึงซื้อที่ไว้หลายแห่ง มีทั้งที่ติดทะเลติดภูเขารวมไปถึงเกาะส่วนตัวของคุณปู่โลแกนที่มีบ้านพักสำหรับทุกคนในครอบครัว

ทิพย์ธาราเดินไปที่ครัวกว้างใหญ่ทันสมัยที่เธอชอบมากเพราะเป็นคนชอบทำอาหาร ซึ่งครัวที่บ้านหลังนี้เป็นครัวที่ผสมผสานครัวไทยกับครัวแบบฝรั่งไว้ด้วยกันอย่าลงตัว ไม่ว่าจะทำอาหารไทยหรืออาหารฝรั่งก็สามารถทำได้โดยสะดวก และยังมีเครื่องมือเครื่องใช้ครับตามต้องการ สาวน้อยวัยสิบเจ็ดปีเศษเดินไปที่ตู้เย็นด้วยความหิวกระหาย คืนนี้เธอดูซีรี่ส์เกาหลีเสียดึกและเกิดหิวน้ำขึ้นมาและน้ำในตู้เย็นเล็กๆ ในห้องพักของเธอก็หมดพอดี

“หานมอุ่นๆ ดื่มหน่อยดีกว่าจะได้หลับสบาย”

ทิพย์ธาราพูดกับตัวเองแล้วหยิบนมสดใส่แก้วใบสวยที่สามารถใช้เวฟเครื่องดื่มได้แล้วนำไปใส่ในไมโครเวฟ ไม่นานเธอก็ได้นมอุ่นๆ ดื่ม ทิพย์ธาราดื่มนมเสร็จแล้วและจะหันเอาแก้วนมไปล้างแต่แล้วเธอก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพอขยับตัวแผ่นหลังบางก็ชนกับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่ง..

“กะ..” เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจไม่ทันได้ออกจากปากนุ่มร่างของเธอก็ถูกกอดรัดไว้จากด้านหลังและถูกมือใหญ่ของใครคนนั้นปิดไว้

“นี่พี่เอง..” เสียงนุ่มทุ้มและลมหายใจร้อนผ่าวที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เป่ารดแก้มสาวเพราะภาสกรโน้มตัวลงมาใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดระหว่างกัน...

“อื้อๆๆ” ทิพย์ธาราขยับตัวแล้วส่งเสียงประท้วงให้เขาเอามือออกจากปากและปล่อยเธอจากวงแขนแข็งแรงเสียทีแต่เหมือนภาสกรไม่ใส่ใจเขาเพียงแต่เอามือที่ปิดปากเธอออกแต่วงแขนแกร่งยังคงโอบรัดร่างบางไว้อย่างสนิทสนม

“พี่แสน ปล่อยน้ำแข็งนะคะ” ทิพย์ธาราพยายามแกะวงแขนแข็งแรงที่โอบรัดเอวคอดกิ่วออกแต่มันไม่ขยับแม้แต่น้อย

“อ้าว นี่พี่กอดน้ำแข็งไว้หรอกเหรอ..” ภาสกรหัวเราะเบาๆ แล้วเหมือนเขาแกล้งรัดวงแขนแน่นขึ้นอีก

“อ๊าย พี่แสน ปล่อยนะ..” ทิพย์ธาราโวยวายแต่ไม่ได้ส่งเสียงดังเพราะกลัวใครจะตื่นมาเห็นว่าเธอกับภาสกรอยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะเป็นเรื่องใหญ่ และเธอไม่อยากจะข้องเกี่ยวหรือวุ่นวายอะไรกับภาสกรนัก...

“หึหึ ปล่อยก็ได้ไม่เห็นอยากจะอยู่ใกล้เลยมีแต่กระดูก แค่โอบนิดเดียวกระดูกน้ำแข็งก็จะทิ่มพุงพี่จนไส้จะแตกแล้ว”

“พี่แสน คน.. คนนิสัยแย่ ผู้ชายอะไรปากไม่ดี..”

นี่คงเป็นคำหยาบที่สุดเท่าที่ทิพย์ธาราพูดออกมา คนนิสัยแย่นี่คงแย่มากๆ เพราะเธอไม่เคยว่าใครแบบนี้ คนปากไม่ดีก็เช่นกัน... ทิพย์ธาราหน้าดำหน้าแดงโกรธคนที่ว่าตนผอมมีแต่กระดูก

“พูดความจริงก็รับไม่ได้อีก น้ำแข็งน่ะผอมเกินไปไม่มีเนื้อหนัง ดูสิ แขนเท่ากิ่งไม้ ขาก็เหมือตะเกียบ นี่หากพี่เมาหนักๆ คงได้เอาขาน้ำแข็งมาทำตะเกียบแน่ๆ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status