“โอ้โห น่ากินจังเลยแต่อร่อยรึเปล่านะหรือจะเค็มขี้มือ..” เขาแสร้งร้องขึ้นแล้วเดินไปชะโงกดูอาหารบนโต๊ะและทำท่าจะเอื้อมมือไปหยิบปลาที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำทอดเหลืองกรอบน่ากินแต่ไม่ทันที่มือเขาจะได้ยื่นไปถึงชิ้นปลาที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามในจานภาสกรก็สะดุ้งชักมือกลับแทบไม่ทันเมื่อมือเล็กๆ ของทิพย์ธาราตีเผี๊ยะลงมา...
“โอ๊ย..” ภาสกรร้องลั่นเลยทีเดียวเมื่อมือเรียวบางฟาดลงมาแบบไม่ออมแรง
“ไปล้างมือเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ใบหน้างามผุดผ่องด้วยวัยสาวบึ้งตึงดวงตากลมโตดำขลับวาววับราวแม่เสือ
“พี่ขอชิมแค่นิดเดียวเองทำหวงไปได้..”
“นิดเดียวก็ไม่ได้ค่ะเพราะพี่แสนยังไม่ล้างมือและการมาแอบหยิบอาหารในจานแบบนี้มันไม่ดีค่ะ เสียมารยาท”
“อะไรกันจ๊ะเด็กๆ เสียงดังไปถึงข้างนอกเลย” คุณย่าเล็กเดินเข้าเข้ามาพร้อมด้วยน้องชายน้องสาวฝาแฝดของภาสกร...
“น้องน้ำแข็งจัดการคนดื้อหรือจ๊ะ” เอกธนา หรือ เอ็ดดี้ เอ่ยถามทิพย์ธาราแล้วหันไปมองพี่ชายยิ้มๆ
“พี่แสนมาแกล้งอะไรน้องน้ำแข็งอีกคะเนี่ย” พิ้งกี้ หรือ อุษาพิไล หลิ่วตาให้พี่ชายแล้วนั่งลงข้างๆ ย่าเล็ก เอกธนาเลื่อนเก้าอี้ให้ผู้เป็นย่านั่งเรียบร้อยแล้วก็มานั่งข้างๆ พี่สาว
“ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย” ภาสกรตอบเสียงเบาแล้วมองหน้าสวยใสของทิพย์ธาราอย่างล้อเลียน
“แค่แม่แก่แถวๆ นี้ขี้หวง”
“พี่แสนว่าใครคะ..” ทิพย์ธาราหน้างอมองเขาตาขุ่น
“ก็ใครล่ะที่ขี้หวงแล้วก็ขี้บ่น..”
ภาสกรยื่นหน้ามาใกล้ทิพย์ธาราผงะหนีเล็กน้อยแล้วผลักอกกว้างของเขาอย่างฉุนเฉียว ภาสกรแสร้งเซน้อยๆ แล้วหัวเราะขบขัน
“พี่แสนคนบ้า ว่าน้ำแข็งเป็นยายแก่”
“แสนนี่ละก็ชอบแกล้งน้ำแข็งจริงๆ เลย ไปล้างมือไป แล้วรีบมากินข้าว..”
คุณย่าเล็กเอ็ดหลานชายเบาๆ ในใจของผู้เป็นย่านั้นรู้ดีว่าหลานชายตัวดีนั้นคิดอย่างไรกับทิพย์ธาราแต่พอเข้าใกล้สาวน้อยหน้าใสแสนสวยทีไรภาสกรก็มักจะกลั่นแกล้งให้ทิพย์ธาราโมโหฉุนเฉียวหรือไม่ก็ต้องหาเรื่องทะเลาะกับทิพย์ธาราเสมอ จนเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่พบกันทีไรก็มักจะมีปากเสียงกันตลอด จนบรรดาผู้ใหญ่ต่างก็เอือมระอาและมักจะต่อว่าภาสกรเสมอที่ชอบหาเรื่องทิพย์ธารา
“ก็ดูสิครับ หลานสาวที่รักของคุณย่าขี้บ่นขี้หวงเจ้าระเบียบชะมัด เหมือนคุณย่าไม่มีผิด ถ้าไม่เรียกว่ายายแก่จะเรียกอะไรล่ะครับ”
“ยังอีกแน่ะ เด็กคนนี้นี่..”
ภาสกรหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปล้างมือก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะอาหารซึ่งในวันนี้อยู่กันพร้อมหน้า เหมือนครอบครัวใหญ่สองครอบครัวมาเจอกัน บรรยากาศจึงอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ภาสกรมองบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่มีคนในครอบครัวสิบเอ็ดชีวิตอย่างรู้สึกอบอุ่นและซึมซับบรรยากาศเช่นนี้ไว้ เขาชอบความรู้สึกที่อยู่ท่ามกลางคนในครอบครัวได้พุดคุยได้เห็นหน้ากันได้หัวเราะในเรื่องเฉิ่มๆ เปิ่นๆ เด๋อด๋าของกันและกัน ได้เห็นใบหน้าสวยละมุนรอยยิ้มหวานๆ และเสียงหัวเราะใสๆ ของทิพย์ธารา...
หากเขาจะแต่งงานมีครอบครัว หรือในอนาคตที่เขาจะได้เป็นปู่หรือตา เขาก็หวังจะได้เห็นบรรยากาศครอบครัวใหญ่ที่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้เช่นกัน...
ทิพย์ธาราเดินลงมาที่ห้องครัวของเรือนหลังใหญ่ที่มีห้องร่วมยี่สิบห้องเรียกได้ว่าเรือนหลังนี้เหมือนคฤหาสน์หลังใหญ่ๆ ที่เคยเห็นในภาพตามนิตยสารต่างๆ ซึ่งเรือนหลังนี้เป็นรูปทรงแบบยุโรปผสมผสานกับอาคารแบบไทยภาคเหนือมองเผินๆ จะเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่มีความงดงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และเธอก็ชอบที่นี่มากเวลาที่รวมญาติกันทุกคนมักจะเลือกที่นี่เป็นที่แรกแต่ก็มีบ้านพักอีกหลายแห่งที่คุณปู่โลแกนสร้างไว้ให้สำหรับลูกๆ หลานๆ เพื่อให้ทุกคนได้เที่ยวพักผ่อนอย่างสะสวกสบายไม่ต้องไปแย่งบ้านพักกับใครเพราะทั้งสองตระกูลนั้นมีสมาชิกหลายชีวิตดังนั้นการสร้างบ้านพักเพื่อรับรองคนในครอบครัวจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด คุณปู่จึงซื้อที่ไว้หลายแห่ง มีทั้งที่ติดทะเลติดภูเขารวมไปถึงเกาะส่วนตัวของคุณปู่โลแกนที่มีบ้านพักสำหรับทุกคนในครอบครัว
ทิพย์ธาราเดินไปที่ครัวกว้างใหญ่ทันสมัยที่เธอชอบมากเพราะเป็นคนชอบทำอาหาร ซึ่งครัวที่บ้านหลังนี้เป็นครัวที่ผสมผสานครัวไทยกับครัวแบบฝรั่งไว้ด้วยกันอย่าลงตัว ไม่ว่าจะทำอาหารไทยหรืออาหารฝรั่งก็สามารถทำได้โดยสะดวก และยังมีเครื่องมือเครื่องใช้ครับตามต้องการ สาวน้อยวัยสิบเจ็ดปีเศษเดินไปที่ตู้เย็นด้วยความหิวกระหาย คืนนี้เธอดูซีรี่ส์เกาหลีเสียดึกและเกิดหิวน้ำขึ้นมาและน้ำในตู้เย็นเล็กๆ ในห้องพักของเธอก็หมดพอดี
“หานมอุ่นๆ ดื่มหน่อยดีกว่าจะได้หลับสบาย”
ทิพย์ธาราพูดกับตัวเองแล้วหยิบนมสดใส่แก้วใบสวยที่สามารถใช้เวฟเครื่องดื่มได้แล้วนำไปใส่ในไมโครเวฟ ไม่นานเธอก็ได้นมอุ่นๆ ดื่ม ทิพย์ธาราดื่มนมเสร็จแล้วและจะหันเอาแก้วนมไปล้างแต่แล้วเธอก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพอขยับตัวแผ่นหลังบางก็ชนกับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่ง..
“กะ..” เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจไม่ทันได้ออกจากปากนุ่มร่างของเธอก็ถูกกอดรัดไว้จากด้านหลังและถูกมือใหญ่ของใครคนนั้นปิดไว้
“นี่พี่เอง..” เสียงนุ่มทุ้มและลมหายใจร้อนผ่าวที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เป่ารดแก้มสาวเพราะภาสกรโน้มตัวลงมาใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดระหว่างกัน...
“อื้อๆๆ” ทิพย์ธาราขยับตัวแล้วส่งเสียงประท้วงให้เขาเอามือออกจากปากและปล่อยเธอจากวงแขนแข็งแรงเสียทีแต่เหมือนภาสกรไม่ใส่ใจเขาเพียงแต่เอามือที่ปิดปากเธอออกแต่วงแขนแกร่งยังคงโอบรัดร่างบางไว้อย่างสนิทสนม
“พี่แสน ปล่อยน้ำแข็งนะคะ” ทิพย์ธาราพยายามแกะวงแขนแข็งแรงที่โอบรัดเอวคอดกิ่วออกแต่มันไม่ขยับแม้แต่น้อย
“อ้าว นี่พี่กอดน้ำแข็งไว้หรอกเหรอ..” ภาสกรหัวเราะเบาๆ แล้วเหมือนเขาแกล้งรัดวงแขนแน่นขึ้นอีก
“อ๊าย พี่แสน ปล่อยนะ..” ทิพย์ธาราโวยวายแต่ไม่ได้ส่งเสียงดังเพราะกลัวใครจะตื่นมาเห็นว่าเธอกับภาสกรอยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะเป็นเรื่องใหญ่ และเธอไม่อยากจะข้องเกี่ยวหรือวุ่นวายอะไรกับภาสกรนัก...
“หึหึ ปล่อยก็ได้ไม่เห็นอยากจะอยู่ใกล้เลยมีแต่กระดูก แค่โอบนิดเดียวกระดูกน้ำแข็งก็จะทิ่มพุงพี่จนไส้จะแตกแล้ว”
“พี่แสน คน.. คนนิสัยแย่ ผู้ชายอะไรปากไม่ดี..”
นี่คงเป็นคำหยาบที่สุดเท่าที่ทิพย์ธาราพูดออกมา คนนิสัยแย่นี่คงแย่มากๆ เพราะเธอไม่เคยว่าใครแบบนี้ คนปากไม่ดีก็เช่นกัน... ทิพย์ธาราหน้าดำหน้าแดงโกรธคนที่ว่าตนผอมมีแต่กระดูก
“พูดความจริงก็รับไม่ได้อีก น้ำแข็งน่ะผอมเกินไปไม่มีเนื้อหนัง ดูสิ แขนเท่ากิ่งไม้ ขาก็เหมือตะเกียบ นี่หากพี่เมาหนักๆ คงได้เอาขาน้ำแข็งมาทำตะเกียบแน่ๆ”
บทที่3.ภาสกรยังคงพูดว่าเธอด้วยสีหน้ายียวน ทิพย์ธาราอดไม่ได้ที่จะยกแขนตัวเองขึ้นมาดูแล้วก้มมองขาตัวเองที่โผล่พ้นชุดนอนกระโปรงยาวแค่เข่าแขนตุ๊กตาลายการ์ตูนเจ้าหญิงแสนน่ารักอย่างกังวลกับคำพูดกล่าวหาของเขาภาสกรมองคนที่กำลังสำรวจตัวเองอย่างร้อนรนแล้วอมยิ้มน้อยๆ ทิพย์ธาราเป็นเด็กสาวที่สวยน่ารักใครๆ ก็อยากพบพูดคุยกับเธอ ด้วยรูปลักษณ์สวยใสสะอาดสะอ้าน ใบหน้าเรียวรูปไข่ขาวนวลเนียนแก้มสาวแดงเปล่งเป็นสีชมพูน่ามอง ดวงตากลมโตดำขลับแวววาวสดใส จมูกโด่งเรียวเล็กรับกับริมฝีปากหยักสวยได้รูปสีชมพูระเรื่อน่าจูบ..เฮ้ย ไม่ได้สิ ห้ามคิดแบบนี้… ภาสกรรีบห้ามความคิดของตนเอง“ไม่ต้องมาว่าเขาเลยตัวเองดีตายแหละ เพลย์บอยชัดๆ นิสัยไม่ดีด้วยชอบว่าคนอื่น” ทิพย์ธาราหน้าแดงก่ำฉุนเฉียว ภาสกรหัวเราะเบาๆ อย่างขบขันแกมเอ็นดู“ก็จริงนี่แล้วน้ำแข็งไม่ต้องห่วงหรอก ถึงพี่จะชอบผู้หญิงชอบเซ็กซ์ร้อนๆ แต่น้ำแข็งไม่อยู่ในสายตาพี่หรอก” ทิพย์ธาราอ้าปากหวอมองเขาตาโต ภาสกรจึงพูดต่อ“แต่ก็ไม่แน่หากน้ำแข็งสวยขึ้น อึ๋มขึ้นเหมือนสาวๆ ของพี่ก็ไม่แน่.. หึหึ” ภาสกรพูดจบก็เดินจากไป“อ๊าย แสน.. คนบ้า หึ คิดเหรอว่าน้ำแข็งอยากไปเป็นผู้หญิงของพี
บทที่4.ทิพย์ธาราชอบที่จะอยู่เงียบๆ และอยู่ในครัวมากกว่าจะออกงานสังคมเหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในวงสังคมเดียวกัน ซึ่งการที่ทิพย์ธาราไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่เคยสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนไหน ทำให้คนทั่วไปต่างก็มองว่าเธอเย่อหยิ่ง เย็นชาเหมือนน้ำแข็งชื่อเล่นของเธอ จนได้รับฉายาว่า เจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งวงการเชฟ“พี่แสนคะ..” หญิงสาวเคาะประตูอีกรอบเพราะไม่มีเสียงตอบจากภาสกรซึ่งเธอแน่ใจว่าเขาอยู่ในห้องพักแน่นอน ทิพย์ธาราถอนใจให้กับคนเอาแต่ใจไม่เคยเปลี่ยนแล้วตัดสินใจลองเปิดประตูเข้าไปข้างใน“พี่แสน..” ทิพย์ธาราหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังตามหาอยู่นั้นนอนนิ่งอยู่บนเตียงใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียวเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ..“พี่แสนไม่สบายนี่คะ พี่แสน ได้ยินน้ำแข็งไหมคะ” ทิพย์ธารารีบถลาไปนั่งข้างเตียงกว้างแล้วยกมืออังหน้าผากเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล“หือออ.. หนาว น้ำแข็งหรือ.. พี่อยากได้น้ำสักแก้ว” เสียงห้าวแหบแห้งริมฝีปากหยักสวยราวสนตรีนั้นดูแห้งผาก“พี่แสนต้องทานยาค่ะ เดี๋ยวน้ำแข็งมานะคะ”“ไม่ๆ อย่าทิ้งพี่ไป อยู่กับพี่ก่อน” ภาสกรดึงข้อมือเล็กไว้ด้วยท่าทางดื้อดึงแววตาคมกล้าฉายแววออดอ้อนจนเ
บทนำ“คุณปู่มาที่นี่ทำไมครับ..” แสน หรือ เด็กชายภาสกร ไทเลอร์ เกรย์ เด็กชายวัยเก้าขวบ ถาม คุณโลแกน ผู้เป็นปู่อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมคุณปู่ของตนต้องพาเขามาที่บ้านหลังเล็กจ้อยแบบนี้ บ้านหลังเล็กจ้อยแต่น่ารักร่มรื่นน่าอยู่ สำหรับภาสกรบ้านของคนอื่นเล็กหมดนั่นล่ะ เพราะเขาเติบโตมาในคฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่าพื้นที่กว้างขวาง บ้านใครที่เล็กกว่าคฤหาสน์ของเขาคือเล็กกระจ้อยร่อยทั้งนั้น“มาเยี่ยมน้องไงล่ะ” ผู้เป็นผู้ตอบยิ้มๆ ท่าทางของคุณปู่มีความสุขมาก มากกว่าตอนที่น้องๆ เขาเกิดเสียอีกคุณอาภาค หรือ ทวิภาค เป็นน้องชายต่างแม่ของ คุณลูอิส ไทเลอร์ เกรย์ ผู้เป็นบิดาของเขา“แต่ผมมีน้องแล้ว”“นี่ก็เป็นน้องอีกคน น้องเล็กสุดของเราไง..” เด็กชายนึกถึงทารกตัวแดงๆ เหมือนน้องๆ ฝาแฝดของตนแล้วก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่มีเด็กคนไหนน่ารักเท่ากับน้องๆ ของตนแน่นอน...“อี๋ ท่าทางจะไม่น่ารักเหมือนน้องของผมหรอก”“ฮ่าๆ ใครจะน่ารักไปกว่าไอ้สองแสบของหลานล่ะ” คุณโลแกนหัวเราะหลานชายที่ทั้งรักและหวงน้องๆ ทั้งสองของตนมาก ใครก็น่ารักสู้สองแสบน้องชายน้องสาวฝาแฝดของตนไม่ได้ซึ่งภาสกรนั้นทั้งโอ้อวดทั้งรักน้องทั้งสองยิ่งกว่าอะไรเอกธนา กับ อ
บทที่ 1.ภาสกร ไทเลอร์ เกรย์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกปีมองสาวน้อยวัยสิบเจ็ดที่กำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่กับ แม่ชื่น แม่บ้านวัยชราของตนอย่างเบื่อหน่ายและไม่ชอบใจเลยที่สาวน้อยหน้าตาหมดจดผิวขาวผ่องน่ามองไม่เคยหันมาสนใจเขาเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ และมักจะทำหน้าบึ้งใส่เขาตลอดซ้ำยังเชิดใส่อีกด้วยซึ่งสำหรับภาสกรแล้วเคยชินแต่มีหญิงสาวพุ่งเข้าหาเข้ามาสานไมตรีด้วย แน่ล่ะ ชายหนุ่มรูปหล่อเก่งฉลาดและร่ำรวยระดับโลก ผู้หญิงที่ไหนก็สนใจเขา แต่มีแค่ทิพย์ธาราเท่านั้นที่ไม่เคยให้ความสนใจเขาเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ ขนาดมาเที่ยวพักผ่อนเจ้าหล่อนยังจะมานั่งร้อยมาลัยมาทำขนมไทย ทำตัวเหมือนหลุดออกมาจากวรรณคดีไทยตั้งแต่เด็กๆ หาก เด็กหญิงทิพย์ธารา มาบ้านเขาที่เมืองไทยทีไรเด็กหญิงก็จะรีบเข้าไปออดอ้อนบิดามารดาของเขา หรือไม่ก็ไปเรือน คุณย่าเล็ก คุณย่าของเขาเพื่อหัดร้อยมาลัย ทำขนมทำของหวานและอาหารต่างๆ โดยไม่คิดจะสนใจเขาซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้านเลยสักนิด แต่พอเห็นน้องๆ ของเขา เด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มจะยิ้มร่าวิ่งไปหาไปเล่นด้วย โดยเฉพาะกับน้องชายของเขานั้นทิพย์ธารา จะยิ้มหวานให้เป็นพิเศษทั้งพูดจาหวานหู คะ ขา ออดอ้อนมีขนมหรือไม่ก็มาลั