ตอนที่ 2 อุปการะ
รถเก๋งคันใหญ่สีดำเงาวับ ถูกยุทธการขับเข้ามาจอดสนิทที่ลานจอดรถของบ้านตรงที่เดิม ซึ่งตอนนี้เจ้านายคนใหม่แกกำลังหลับปุ๋ยอยู่ที่เบาะด้านหลังกับคุณธานินทร์เจ้าของบ้าน
"น้ำหนึ่ง ตื่น...ถึงแล้ว" เสียงคุณอาหนุ่มปลุกหลานสาวตัวเล็กด้วยการจับแขนเขย่าเบาๆ ซึ่งตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เขาไม่อยากให้หลับยาว อาบน้ำอาบท่าทานข้าวเย็นให้เรียบร้อยก่อนเดี๋ยวค่อยนอนใหม่ก็ได้
"ถึงบ้านคุณอาแล้วเหรอคะ" เสียงเล็กๆเอ่ยถามในขณะที่น้ำหนึ่งค่อยๆลืมตาขึ้นท่าทางงัวเงีย
"อือ ลงจากรถได้แล้ว ยุทธ...เดี๋ยวนายยกของที่ท้ายรถเอาขึ้นไปให้คุณหนูด้านบนห้องด้วยนะ"
"ครับบอส" คุณอาหนุ่มเดินนำน้ำหนึ่งเข้าไปด้านในบ้าน ส่วนน้ำหนึ่งเธอก็เดินตามหลังคุณอาไปติดๆ
"ชบา...ไปเรียกทุกคนในบ้านมารวมกันที่ห้องนั่งเล่นตอนนี้เลย" เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านเอ่ยบอกชบา ชบาเป็นแม่บ้าน อีกทั้งยังเป็นภรรยาของยุทธ
"ค่ะคุณนิน" ทุกคนในบ้านหลังนี้จะเรียกคุณธานินทร์ว่าคุณนิน ยกเว้นยุทธที่เรียกบอสอยู่คนเดียว เนื่องจากยุทธทำงานที่บริษัทจำเป็นต้องเรียกให้เหมือนกับคนในบริษัทที่เขาเรียกกัน
ไม่นานทุกคนในบ้านก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นตามคำสั่งของเจ้าของบ้าน บ้านหลังนี้มีธานินทร์เป็นเจ้าของบ้านแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครอื่น ซึ่งต่อจากนี้เป็นต้นไป บ้านหลังนี้จะมีเจ้านายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ในฐานะหลานสาว
"เอาล่ะ ที่ผมเรียกทุกคนมารวมกันวันนี้อยากจะแนะนำน้ำหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก ต่อจากนี้ไปน้ำหนึ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะหลานสาวของผม ขอให้ทุกคนช่วยดูแลเธอแทนผมด้วย"
"ครับ/ค่ะ"
"คนนี้ชื่อป้าแก้ว คนนี้ชื่อชบา คนนั้นชื่อ..." ธานินทร์แนะนำคนในบ้านให้น้ำหนึ่งรู้จักทีละคน ซึ่งเธอก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนอย่างนอบน้อม ทำให้ทุกคนเอ็นดูเธอ และสงสารเธอ เนื่องจากทุกคนพอจะรู้มาบ้างแล้วว่าที่น้ำหนึ่งต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพราะอะไร
"เรียกแกว่า คุณหนูหนึ่งก็แล้วกัน" ประโยคนี้ธานินทร์เอ่ยบอกคนในบ้านของเขา เนื่องจากคนที่บ้านของเธอเรียกเธอว่าคุณหนูกันทุกคน เขาไม่อยากให้เธอต้องปรับตัวมาก เรียกเหมือนเดิมก็แล้วกัน คนถูกเรียกจะได้รู้สึกชินหูด้วย
"หนึ่ง...ถ้าขาดเหลืออะไรก็ไปบอกพี่ชบากับป้าแก้วได้เลยนะ" ป้าแก้วคือแม่บ้านเก่าแก่ ท่านอยู่มาตั้งแต่ธานินทร์เป็นเด็กหรือจะเรียกว่าเลี้ยงมาก็ย่อมได้ ธานินทร์จะให้ความเคารพป้าแก้วมากเป็นพิเศษ ธานินทร์มองป้าแก้วเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งของบ้าน ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นแค่แม่บ้านก็ตาม
"ค่ะ คุณอา..."
"บ้านหลังนี้อยู่กันหลายคน เพราะฉะนั้นก็ต้องมีกฎของการอยู่ร่วมกัน" ประโยคนี้ธานินทร์หันมาพูดกับน้ำหนึ่ง
"ข้อแรกเรื่องการรับประทานอาหาร มื้อเช้าเจ็ดโมงตรง มื้อเย็นหกโมงตรง ถ้าวันไหนเป็นวันหยุดมื้อเที่ยงก็คือเที่ยงตรง...เข้าใจมั้ย"
"ค่ะ" น้ำหนึ่งขานรับเสียงแผ่ว
"หนึ่งต้องย้ายโรงเรียน อาจะให้ลูกน้องของอาทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้" เนื่องจากโรงเรียนที่เก่าของน้ำหนึ่งอยู่ไกล ส่วนโรงเรียนที่คุณอาหนุ่มอยากให้เรียน เป็นโรงเรียนนานาชาติ น่าจะดีต่อเด็ก ซึ่งทั้งหมดนี้ธานินทร์คิดเอาเอง เขาหวังดีจึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้
"ค่ะ" น้ำหนึ่งขานรับเสียงแผ่วอีกครั้ง คุณอาหนุ่มหันไปมองสภาพของเด็กหญิงตรงหน้า อาการเสียใจของแกคงต้องใช้เวลารักษา ซึ่งอีกไม่นานก็คงดีขึ้น
"สี่โมงเย็นถึงห้าโมงเย็นของทุกวัน เจอกันที่ห้องฟิตเนส" ประโยคนี้คุณอาหนุ่มพูดกับหลานสาว เขาแค่ต้องการอยากหากิจกรรมให้เธอทำจะได้ไม่ต้องคิดมาก แต่น้ำเสียงของเขาที่พูดออกไปฟังดูเหมือนคำสั่ง
"ทำอะไรคะ"
"ออกกำลังกายไง"
"คือหนึ่ง..." น้ำหนึ่งกำลังเศร้าโศกเสียใจ คงไม่มีกะจิตกะใจไปเล่นเครื่องเล่นออกกำลังกาย น้ำหนึ่งกำลังจะปฏิเสธ แต่...
"ห้ามปฏิเสธ ไม่ออกกำลังกายแล้วจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ยังไง" คนไม่เคยมีลูก ไม่เคยมีหลาน ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ไม่รู้วิธีพูดดีๆ เขาเลือกใช้เป็นคำสั่งตามนิสัยที่เคยใช้กับลูกน้อง ในเมื่อมันเป็นคำสั่งน้ำหนึ่งจึงต้องยอมจำใจทำตามคำสั่งของคุณอาเจ้าของบ้าน
"ค่ะ" เด็กอย่างเธอจะไปกล้าขัดผู้ใหญ่อย่างเขาได้ยังไง แค่เขาเมตตาให้ที่อยู่ที่กินก็ดีมากแล้ว
"ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้ ชบา...พาคุณหนูหนึ่งไปพักที่ห้องด้วย อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยหกโมงตรงลงมาทานข้าวพร้อมอา" ประโยคหลังคุณอาหนุ่มพูดกับหลานสาว
"ค่ะ ไปค่ะคุณหนู" น้ำหนึ่งเดินตามหลังชบาขึ้นชั้นบนของบ้านไป
"ห้องของคุณหนู ห้องนี้นะคะ ส่วนห้องนั้นเป็นห้องของคุณนินค่ะ" ห้องของน้ำหนึ่งถึงก่อน ถัดไปทางตะวันออกห้องใหญ่ที่อยู่ติดกันเป็นห้องของธานินทร์
เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านในห้อง ภายในห้องเป็นโทนสีฟ้าอ่อนค่อนข้างกว้างขวางเตียงหกฟุตพร้อมกับชุดเครื่องนอนสีชมพูลายการ์ตูนเอาใจเด็กผู้หญิง เฟอร์นิเจอร์ครบชุด โต๊ะเขียนหนังสือลายน่ารัก สายตาของน้ำหนึ่งกวาดมองไปรอบๆห้องด้วยความพอใจ แล้วเอ่ยถามพี่ชบาว่า...
"พี่ชบาคะ...คุณอาใจดีมั้ยคะ" คุณอาใจดีหรือเปล่าน้ำหนึ่งไม่แน่ใจ แต่พี่ชบาคนนี้ใจดีแน่นอน ดูได้จากรอยยิ้ม น้ำหนึ่งรู้สึกแบบนั้น
"คำถามนี้ตอบยากค่ะ...แต่ถ้าถามพี่ พี่จะขอตอบในแบบของพี่นะคะ"
".........." น้ำหนึ่งรอฟัง
"ไม่ค่ะ..." น้ำหนึ่งกำลังคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง ต้องหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินคำตอบของพี่ชบา
"คุณอาเป็นคนยังไงเหรอคะ ดุมากมั้ย" หลายวันที่ผ่านมา น้ำหนึ่งมองไม่ออกเลย ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนมากคุณอาจะยุ่งอยู่กับงานศพของคุณพ่อมากกว่า
"อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รู้ค่ะ ถึงคุณนินจะไม่ใช่คนใจดี แต่เขาเป็นคนดีแน่นอนค่ะ เขาเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น ทุกคนเท่าเทียม ไม่ได้แย่อย่างที่คุณหนูกลัวหรอกค่ะ คุณหนูทำใจให้สบายๆเถอะนะคะ" เป็นจังหวะที่ยุทธยกกระเป๋าขึ้นมาให้น้ำหนึ่งถึงบนห้องพอดี ชบาหันไปช่วยสามีของเธอขนเข้ามาในห้องจนหมด
"พี่ยุทธ หมดหรือยังจ๊ะ"
"หมดแล้วมีแค่นี้แหละ"
"คุณหนู...อาบน้ำอาบท่าเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ชบาจะช่วยคุณหนูจัดของเก็บให้เอง หกโมงตรงคุณหนูต้องลงไปทานข้าวให้ตรงเวลาที่ห้องอาหารนะคะ"
"ค่ะ"
ตอนที่ 3 แมวน้อยน่าสงสารธานินทร์จัดการเรื่องโรงเรียนที่ใหม่ของน้ำหนึ่งเสร็จอย่างรวดเร็ว เช้าวันนี้น้ำหนึ่งเริ่มไปโรงเรียนที่ใหม่วันแรก บ้านใหม่ โรงเรียนใหม่ คุณครูใหม่ เพื่อนๆที่โรงเรียนก็ใหม่ ชีวิตของเธอพลิกผัน สภาพแวดล้อมรอบตัวของน้ำหนึ่งใหม่ทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวมาก น้ำหนึ่งยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก และแน่นอนว่าวันนี้เวลานี้เธอยังคงปรับตัวกับสิ่งที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ไม่ได้อย่างแน่นอนหลังเลิกเรียนน้ำหนึ่งลงจากรถรับส่งนักเรียน เธอกำลังเดินเข้าบ้านบังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นลูกแมวตัวเล็กเดินอยู่ตัวเดียว เหมือนมีคนเอามันมาปล่อยทิ้งไว้ จะไม่สนใจก็เป็นห่วงมัน น่าจะโดนรถทับตายวันนี้แน่ น้ำหนึ่งจึงตัดสินใจอุ้มลูกแมวตัวนี้กลับเข้าไปในบ้านด้วย"คุณหนู...แมวใครคะนั่น" เสียงพี่ชบาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงคล้ายกับว่ากลัวใครจะมาได้ยินเข้า"หนึ่งเจอมันที่ถนนทางเข้าหน้าบ้านเราค่ะ มันน่าสงสารเหมือนหนึ่งเลย" ลูกแมวตัวเล็กไม่มีทั้งพ่อและแม่ เดินเคว้งคว้างอยู่ตัวเดียว"สงสารยังไงก็เอามาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ไม่ได้นะคะ คุณนินไม่ให้เลี้ยงสัตว์ทุกชนิดค่ะ" น้ำหนึ่งมีสีหน้าเจื่อนไปทันทีอย่
ตอนที่ 4 โดดเรียนสามวันผ่านไป...ช่วงบ่ายของวัน ธานินทร์ได้รับโทรศัพท์จากคุณครูที่โรงเรียนบอกว่าวันนี้น้ำหนึ่งโดดเรียน ไม่ยอมเข้าเรียน สิ่งที่ได้ยินทำให้ธานินทร์รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก เขาไม่ค่อยชอบเด็กเกเร ไม่มีความรับผิดชอบหลังเลิกเรียน น้ำหนึ่งนั่งรถรับส่งกลับมาลงที่หน้าบ้านเหมือนทุกวัน เธอเดินเข้ามาในบ้าน เห็นคุณอานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ในมือคุณอาถือไม้เรียวอยู่ด้วย"น้ำหนึ่ง มานี่..." ประโยคคำสั่งดังขึ้นเรียกให้เธอเดินเข้าไปหา"............." น้ำหนึ่งเดินก้มหน้าเข้าไป ในใจเริ่มรู้แล้วว่าเรื่องอะไร"รู้มั้ยว่าวันนี้ตัวเองทำอะไรผิด""ไม่ทราบค่ะ" เธอทราบ แต่เธอแค่ไม่ยอมรับก็เท่านั้น"วันนี้โดดเรียนกี่วิชา" ธานินทร์เลือกที่จะถามออกไปตรงๆในสิ่งที่เขารู้มา"สามค่ะ" น้ำหนึ่งยอมรับสารภาพตามตรงเช่นกัน เธอมีปัญหาจึงเลือกหนีปัญหาด้วยการไม่เข้าเรียน"หันก้นมา" ไม้เรียวในมือของคุณอาทำให้น้ำหนึ่งรู้ว่าคุณอาจะทำอะไรกับเธอ เธอวางกระเป๋าหนังสือลงแล้วยอมหันก้นให้พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก"เฟี๊ยบ! เฟี๊ยบ! เฟี๊ยบ!" ไม้เรียวที่คุณอาถืออยู่ในมือถูกฟาดลงมาที่ก้นโดนกระโปรงนักเรียนสามทีแรงๆ ทำให้แก้มใสๆของน้ำหน
ตอนที่ 5 ไม่กลับบ้านภาพเด็กหญิงนั่งร้องไห้กอดลูกแมวตัวเล็กพูดระบายความในใจออกมาเมื่อช่วงเย็น มันรบกวนจิตใจเขาไม่ยอมเลิก นั่นจึงทำให้คุณอาหนุ่มเลือกที่จะเดินออกจากห้องไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องข้างๆ"ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น น้ำหนึ่งจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่แล้วเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อช่วงเย็นน้ำหนึ่งไม่ยอมมานั่งทานข้าวด้วยกัน ธานินทร์จึงยังไม่ได้มีช่วงเวลาปรับความเข้าใจ"คุณอา..." น้ำหนึ่งเดินออกมาเปิดประตูให้เห็นเป็นใบหน้าของคุณอายืนอยู่ที่หน้าห้อง เธอก็ได้แต่ทำหน้าเฉยๆ ไม่รู้ว่าเขาจะมาต่อว่าอะไรเธออีก"ทำไม...เห็นหน้าอาผิดหวังมากขนาดนี้เลยเหรอ" มันเป็นแววตาที่ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด"เปล่าค่ะ" ปากแข็ง!"เป็นยังไงบ้าง" น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามบ่งบอกถึงความห่วงใย"เรื่องอะไรคะ" ธานินทร์ผลักประตูห้องเปิดอ้าทิ้งเอาไว้แล้วเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาภายในห้อง ส่วนน้ำหนึ่งก็เดินตามคุณอาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า รอฟังสิ่งที่คุณอากำลังจะพูดในแบบไม่ได้คาดหวัง"โดนตีเมื่อเย็นไง" น้ำหนึ่งเบนหน้าหนี พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลลงมาอีก เธอค่อนข้างน้อย
ตอนที่ 6 ไร้เดียงสาเช้าวันรุ่งขึ้น ธานินทร์กลับมาถึงบ้านแต่เช้า เขาเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางปกติ"อ้าวบอส...กลับมาแล้วเหรอครับ" เสียงยุทธเอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอวดฟันขาวแต่เช้า"อือ...อาบน้ำก่อนเดี๋ยวลงมา ในครัวทำอะไรกินโคตรหิวเลย""มีหลายอย่างเลยครับ" ธานินทร์พยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไป ทำธุระส่วนตัวตามปกติทางด้านน้ำหนึ่ง เธอลงมารับประทานอาหารเช้าตามเวลาปกติ เห็นคุณอาหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้วถึงกับงง...กลับมาแล้วเหรอ? เธอคิดในใจน้ำหนึ่งมองหน้าคุณอานิ่งๆ ไม่ได้พูดหรือถามอะไร ถึงในใจจะอยากรู้ก็ตาม เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงที่เดิมที่เธอเคยนั่ง ตอนนี้อาหารบนโต๊ะยกมาเสิร์ฟให้ครบแล้วเรียบร้อย ข้าวก็ตักรอไว้แล้ว เหลือแค่ลงมือตักเข้าปาก ทั้งสองเริ่มลงมือรับประทานอาหาร...ยัยหลานสาวก็เอ่ยพูดกับคุณอาขึ้นมาว่า..."คุณอาขา...หนึ่งมีการบ้านที่ทำไม่ได้อยู่หลายข้อเลยค่ะ" น้ำเสียงของเธอค่อนข้างแผ่วเบา รู้สึกเกรงใจไม่รู้ว่าคุณอาทำงานมาเหนื่อยหรือเปล่า กลัวว่าจะไปรบกวนเขามากเกินไป แต่เธอเลือกที่จะบอกเอาไว้ก่อนไม่ได้รีบยังมีเวลาพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน"ช่วงบ่ายได้มั้ย อิ่ม
ตอนที่ 7 โตเป็นสาวแล้ว10 ปีผ่านไป...@ห้องทำงานชั้นล่างช่วงเย็น หลังจากที่ธานินทร์ออกกำลังกาย อาบน้ำอาบท่า และทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เขาก็มักจะมานั่งทำงานต่อในห้องทำงานของเขาธานินทร์หนุ่มใหญ่ปัจจุบันอายุ 42 ปี ยังไม่ยอมมีใคร เขายังคงครองความเป็นโสดมาอย่างยาวนาน และยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้สวมแว่นสายตา แต่แว่นสายตายาวที่เขาสวมใส่อยู่ไม่สามารถบดบังความหล่อเหลาของเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียวใบหน้าหล่อเข้ม คมคาย ออกแนวดุนิดๆ เสื้อผ้าหน้าผมสะอาดสะอ้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อสิบปีที่แล้วเนี๊ยบยังไง ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น เขากำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานท่าทางจริงจัง"คุณอาขา..." เสียงน้ำหนึ่งหลานสาวเพียงคนเดียวที่เขาอุปการะเลี้ยงดูเธอมาเป็นระยะเวลาสิบปีเต็ม วิ่งพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับเสียงหวานๆของเธอ เรียกคุณอาหนุ่มที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ณ ตอนนี้ ปัจจุบันน้ำหนึ่งมีอายุ 21 ปีย่างเข้า 22 ปี เรียนใกล้จะจบแล้ว"ยิ้มมาแต่ไกลขนาดนี้ จะขออะไรก็ว่ามา" เสียงทุ้มเอ่ยถามหลานสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย แค่เห็นหน้าเขาก็รู้แล้วว่าหลานสาวของเขาต้องการอะไร"หนึ่งอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆพรุ่งน
ตอนที่ 8 แมวไม่อยู่หลายวันต่อมา...ช่วงเย็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ธานินทร์มักจะออกไปหาความสุขนอกบ้านตามประสาคนโสดเหมือนอย่างเคย"คุณอาไม่กลับบ้านอีกแล้ว..." น้ำเสียงเซ็งๆของน้ำหนึ่งพูดขึ้นเหมือนบ่น เมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าคุณอาของเธอเขาไปไหน ไปทำอะไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วทุกครั้งที่คุณอาออกจากบ้านไปนอนค้างคืนที่อื่น ความรู้สึกของน้ำหนึ่งเธอมักจะแอบเศร้าอยู่ในใจลึกๆ หม่นหมองไม่ร่าเริง ซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร เธอรู้แค่ว่าเธอไม่ชอบให้คุณอาออกไปทำเรื่องแบบนั้น แต่เธอก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นเด็ก ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจเท่านั้น"พรุ่งนี้เช้าเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ" เสียงพี่ชบาเอ่ยขึ้น ทุกคนรู้กัน น้ำหนึ่งเองก็ด้วย"ป้าคะ ถ้าอย่างนั้น หนึ่งขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้นะคะ พอดีเพื่อนมันชวน" ไหนๆคืนนี้คุณอาก็ไม่กลับบ้านอยู่แล้ว เธอรู้สึกเบื่อๆอย่างบอกไม่ถูก จึงอยากออกไปเที่ยวตามคำชวนของเพื่อนบ้าง ซึ่งเมื่อก่อนเธอไม่เคยไป แต่ตอนนี้เธอนึกอย่าลองไปบ้าง ถ้าไม่มีใครบอกยังไงคุณอาของเธอก็ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน"คุณหนูโตเป็นสาวแล้ว ควรจะขออนุญาตคุณนินก่อนดีกว่
ตอนที่ 9 หนูร่าเริง"ไอ้นิน...มึงดูสาวโต๊ะนั้นสิ สวยว่ะ" เพื่อนที่พากันมานั่งดื่มชี้ไปทางเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่นั่งกันอยู่ประมาณหกคน หนึ่งในนั้นมีสาวสวยสะดุดตา หุ่นก็ดี๊ดี ท่าเต้นนี้ไม่ต้องพูดถึง สดใสน่ารักสุดๆ หญิงสาวคนนั้นก็คือ...น้ำหนึ่ง!ธานินทร์หันไปมองตามที่เพื่อนบอก สิ่งที่เขาเห็นทำเอาเขาต้องขยับแว่นอยู่หลายครั้ง เนื่องจากเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นนั่งถัดออกไปค่อนข้างไกลพอสมควร มองไม่ค่อยชัด แต่เมื่อรู้สึกว่าใช่แน่ๆ"เดี๋ยวกูมา..." ธานินทร์ขยับแว่นแล้วขยับแว่นอีก มองยังไงก็ใช่ เขารีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าเข้มจัดอย่างเห็นได้ชัด แล้วเดินออกไปจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ทันที เดินตรงไปที่โต๊ะของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นในแบบไม่พูดไม่จา"เฮ๊ย! ไอ้นิน ใจร้อนเหมือนเดิมตั้งแต่หนุ่มจนแก่เลยนะมึง" ธานินทร์ไม่ฟังเสียงใครหน้าไหนทั้งนั้น เขารีบเดินดุ่มๆไปหาเด็กวัยรุ่นโต๊ะนั้นทันที หนึ่งในนั้นแน่นอนว่ามีน้ำหนึ่งหลานสาววัยใสของเขานั่งอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเมาได้ที่พอสมควร จากที่ลุกยืนเต้น ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นนั่งขยับอยู่กับที่ เนื่องจากฤทธิ์น้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปมันออกฤทธิ์จนเธอทรงตัวยืนไม่ค่อยจะอยู่แล้ว
ตอนที่ 10 เถียงเก่งธานินทร์อุ้มหลานสาวของเขาขึ้นชั้นบนไป เมื่อเข้ามาถึงในห้อง เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ แต่...แขนของเธอที่กำลังคล้องอยู่ที่ต้นคอของเขา เธอไม่ยอมปล่อย แต่กลับรั้งเอาไว้แน่น เธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของคุณอาในระยะใกล้เพียงคืบ"คุณอาขา..." สายตาของเธอมองมาที่ใบหน้าของเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ ฝ่ามือเล็กเริ่มซุกซนเธอหยิบแว่นที่ธานินทร์สวมใส่อยู่ออกอย่างถือวิสาสะ แล้วยิ้มหวานให้เขา"หนึ่ง...ปล่อยอาก่อน" แขนอีกข้างรั้งอยู่ที่ต้นคอไม่ยอมปล่อย มืออีกข้างถอดแว่นคุณอาออก จากนั้นก็ยกขึ้นวางลงไปบนต้นคอของคุณอาเหมือนเดิม ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ"ไม่ปล่อย..." ธานินทร์รู้ดีว่าสิ่งที่น้ำหนึ่งกำลังแสดงออกอยู่ตอนนี้ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไป เขาพยายามแกะมือเล็กๆที่กำลังคล้องอยู่บนต้นคอของเขาออก แต่เธอไม่ยอมปล่อยออกให้ง่ายๆ"หนึ่งปล่อยอาเดี๋ยวนี้นะ""ไม่ปล่อย...หนึ่งขอกอดคุณอาแค่นิดๆหน่อยๆไม่ได้หรือไง ทีผู้หญิงอื่นคุณอายัง...""หนึ่ง!!" ธานินทร์ส่งเสียงดุ เขาไม่เคยได้ยินน้ำหนึ่งพูดแบบนี้มาก่อน ซึ่งสิ่งที่เขาทำมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก