Share

ตอนที่ 2 อุปการะ

ตอนที่ 2 อุปการะ

รถเก๋งคันใหญ่สีดำเงาวับ ถูกยุทธการขับเข้ามาจอดสนิทที่ลานจอดรถของบ้านตรงที่เดิม ซึ่งตอนนี้เจ้านายคนใหม่แกกำลังหลับปุ๋ยอยู่ที่เบาะด้านหลังกับคุณธานินทร์เจ้าของบ้าน

"น้ำหนึ่ง ตื่น...ถึงแล้ว" เสียงคุณอาหนุ่มปลุกหลานสาวตัวเล็กด้วยการจับแขนเขย่าเบาๆ ซึ่งตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เขาไม่อยากให้หลับยาว อาบน้ำอาบท่าทานข้าวเย็นให้เรียบร้อยก่อนเดี๋ยวค่อยนอนใหม่ก็ได้

"ถึงบ้านคุณอาแล้วเหรอคะ" เสียงเล็กๆเอ่ยถามในขณะที่น้ำหนึ่งค่อยๆลืมตาขึ้นท่าทางงัวเงีย

"อือ ลงจากรถได้แล้ว ยุทธ...เดี๋ยวนายยกของที่ท้ายรถเอาขึ้นไปให้คุณหนูด้านบนห้องด้วยนะ"

"ครับบอส" คุณอาหนุ่มเดินนำน้ำหนึ่งเข้าไปด้านในบ้าน ส่วนน้ำหนึ่งเธอก็เดินตามหลังคุณอาไปติดๆ

"ชบา...ไปเรียกทุกคนในบ้านมารวมกันที่ห้องนั่งเล่นตอนนี้เลย" เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านเอ่ยบอกชบา ชบาเป็นแม่บ้าน อีกทั้งยังเป็นภรรยาของยุทธ

"ค่ะคุณนิน" ทุกคนในบ้านหลังนี้จะเรียกคุณธานินทร์ว่าคุณนิน ยกเว้นยุทธที่เรียกบอสอยู่คนเดียว เนื่องจากยุทธทำงานที่บริษัทจำเป็นต้องเรียกให้เหมือนกับคนในบริษัทที่เขาเรียกกัน

ไม่นานทุกคนในบ้านก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นตามคำสั่งของเจ้าของบ้าน บ้านหลังนี้มีธานินทร์เป็นเจ้าของบ้านแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครอื่น ซึ่งต่อจากนี้เป็นต้นไป บ้านหลังนี้จะมีเจ้านายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ในฐานะหลานสาว

"เอาล่ะ ที่ผมเรียกทุกคนมารวมกันวันนี้อยากจะแนะนำน้ำหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก ต่อจากนี้ไปน้ำหนึ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะหลานสาวของผม ขอให้ทุกคนช่วยดูแลเธอแทนผมด้วย"

"ครับ/ค่ะ"

"คนนี้ชื่อป้าแก้ว คนนี้ชื่อชบา คนนั้นชื่อ..." ธานินทร์แนะนำคนในบ้านให้น้ำหนึ่งรู้จักทีละคน ซึ่งเธอก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนอย่างนอบน้อม ทำให้ทุกคนเอ็นดูเธอ และสงสารเธอ เนื่องจากทุกคนพอจะรู้มาบ้างแล้วว่าที่น้ำหนึ่งต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพราะอะไร

"เรียกแกว่า คุณหนูหนึ่งก็แล้วกัน" ประโยคนี้ธานินทร์เอ่ยบอกคนในบ้านของเขา เนื่องจากคนที่บ้านของเธอเรียกเธอว่าคุณหนูกันทุกคน เขาไม่อยากให้เธอต้องปรับตัวมาก เรียกเหมือนเดิมก็แล้วกัน คนถูกเรียกจะได้รู้สึกชินหูด้วย

"หนึ่ง...ถ้าขาดเหลืออะไรก็ไปบอกพี่ชบากับป้าแก้วได้เลยนะ" ป้าแก้วคือแม่บ้านเก่าแก่ ท่านอยู่มาตั้งแต่ธานินทร์เป็นเด็กหรือจะเรียกว่าเลี้ยงมาก็ย่อมได้ ธานินทร์จะให้ความเคารพป้าแก้วมากเป็นพิเศษ ธานินทร์มองป้าแก้วเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งของบ้าน ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นแค่แม่บ้านก็ตาม

"ค่ะ คุณอา..."

"บ้านหลังนี้อยู่กันหลายคน เพราะฉะนั้นก็ต้องมีกฎของการอยู่ร่วมกัน" ประโยคนี้ธานินทร์หันมาพูดกับน้ำหนึ่ง

"ข้อแรกเรื่องการรับประทานอาหาร มื้อเช้าเจ็ดโมงตรง มื้อเย็นหกโมงตรง ถ้าวันไหนเป็นวันหยุดมื้อเที่ยงก็คือเที่ยงตรง...เข้าใจมั้ย"

"ค่ะ" น้ำหนึ่งขานรับเสียงแผ่ว

"หนึ่งต้องย้ายโรงเรียน อาจะให้ลูกน้องของอาทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้" เนื่องจากโรงเรียนที่เก่าของน้ำหนึ่งอยู่ไกล ส่วนโรงเรียนที่คุณอาหนุ่มอยากให้เรียน เป็นโรงเรียนนานาชาติ น่าจะดีต่อเด็ก ซึ่งทั้งหมดนี้ธานินทร์คิดเอาเอง เขาหวังดีจึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้

"ค่ะ" น้ำหนึ่งขานรับเสียงแผ่วอีกครั้ง คุณอาหนุ่มหันไปมองสภาพของเด็กหญิงตรงหน้า อาการเสียใจของแกคงต้องใช้เวลารักษา ซึ่งอีกไม่นานก็คงดีขึ้น

"สี่โมงเย็นถึงห้าโมงเย็นของทุกวัน เจอกันที่ห้องฟิตเนส" ประโยคนี้คุณอาหนุ่มพูดกับหลานสาว เขาแค่ต้องการอยากหากิจกรรมให้เธอทำจะได้ไม่ต้องคิดมาก แต่น้ำเสียงของเขาที่พูดออกไปฟังดูเหมือนคำสั่ง

"ทำอะไรคะ"

"ออกกำลังกายไง"

"คือหนึ่ง..." น้ำหนึ่งกำลังเศร้าโศกเสียใจ คงไม่มีกะจิตกะใจไปเล่นเครื่องเล่นออกกำลังกาย น้ำหนึ่งกำลังจะปฏิเสธ แต่...

"ห้ามปฏิเสธ ไม่ออกกำลังกายแล้วจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ยังไง" คนไม่เคยมีลูก ไม่เคยมีหลาน ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ไม่รู้วิธีพูดดีๆ เขาเลือกใช้เป็นคำสั่งตามนิสัยที่เคยใช้กับลูกน้อง ในเมื่อมันเป็นคำสั่งน้ำหนึ่งจึงต้องยอมจำใจทำตามคำสั่งของคุณอาเจ้าของบ้าน

"ค่ะ" เด็กอย่างเธอจะไปกล้าขัดผู้ใหญ่อย่างเขาได้ยังไง แค่เขาเมตตาให้ที่อยู่ที่กินก็ดีมากแล้ว

"ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้ ชบา...พาคุณหนูหนึ่งไปพักที่ห้องด้วย อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยหกโมงตรงลงมาทานข้าวพร้อมอา" ประโยคหลังคุณอาหนุ่มพูดกับหลานสาว

"ค่ะ ไปค่ะคุณหนู" น้ำหนึ่งเดินตามหลังชบาขึ้นชั้นบนของบ้านไป

"ห้องของคุณหนู ห้องนี้นะคะ ส่วนห้องนั้นเป็นห้องของคุณนินค่ะ" ห้องของน้ำหนึ่งถึงก่อน ถัดไปทางตะวันออกห้องใหญ่ที่อยู่ติดกันเป็นห้องของธานินทร์

เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านในห้อง ภายในห้องเป็นโทนสีฟ้าอ่อนค่อนข้างกว้างขวางเตียงหกฟุตพร้อมกับชุดเครื่องนอนสีชมพูลายการ์ตูนเอาใจเด็กผู้หญิง เฟอร์นิเจอร์ครบชุด โต๊ะเขียนหนังสือลายน่ารัก สายตาของน้ำหนึ่งกวาดมองไปรอบๆห้องด้วยความพอใจ แล้วเอ่ยถามพี่ชบาว่า...

"พี่ชบาคะ...คุณอาใจดีมั้ยคะ" คุณอาใจดีหรือเปล่าน้ำหนึ่งไม่แน่ใจ แต่พี่ชบาคนนี้ใจดีแน่นอน ดูได้จากรอยยิ้ม น้ำหนึ่งรู้สึกแบบนั้น

"คำถามนี้ตอบยากค่ะ...แต่ถ้าถามพี่ พี่จะขอตอบในแบบของพี่นะคะ"

".........." น้ำหนึ่งรอฟัง

"ไม่ค่ะ..." น้ำหนึ่งกำลังคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง ต้องหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินคำตอบของพี่ชบา

"คุณอาเป็นคนยังไงเหรอคะ ดุมากมั้ย" หลายวันที่ผ่านมา น้ำหนึ่งมองไม่ออกเลย ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนมากคุณอาจะยุ่งอยู่กับงานศพของคุณพ่อมากกว่า

"อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รู้ค่ะ ถึงคุณนินจะไม่ใช่คนใจดี แต่เขาเป็นคนดีแน่นอนค่ะ เขาเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น ทุกคนเท่าเทียม ไม่ได้แย่อย่างที่คุณหนูกลัวหรอกค่ะ คุณหนูทำใจให้สบายๆเถอะนะคะ" เป็นจังหวะที่ยุทธยกกระเป๋าขึ้นมาให้น้ำหนึ่งถึงบนห้องพอดี ชบาหันไปช่วยสามีของเธอขนเข้ามาในห้องจนหมด

"พี่ยุทธ หมดหรือยังจ๊ะ"

"หมดแล้วมีแค่นี้แหละ"

"คุณหนู...อาบน้ำอาบท่าเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ชบาจะช่วยคุณหนูจัดของเก็บให้เอง หกโมงตรงคุณหนูต้องลงไปทานข้าวให้ตรงเวลาที่ห้องอาหารนะคะ"

"ค่ะ"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status