ตอนที่ 3 แมวน้อยน่าสงสาร
ธานินทร์จัดการเรื่องโรงเรียนที่ใหม่ของน้ำหนึ่งเสร็จอย่างรวดเร็ว เช้าวันนี้น้ำหนึ่งเริ่มไปโรงเรียนที่ใหม่วันแรก บ้านใหม่ โรงเรียนใหม่ คุณครูใหม่ เพื่อนๆที่โรงเรียนก็ใหม่ ชีวิตของเธอพลิกผัน สภาพแวดล้อมรอบตัวของน้ำหนึ่งใหม่ทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวมาก น้ำหนึ่งยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก และแน่นอนว่าวันนี้เวลานี้เธอยังคงปรับตัวกับสิ่งที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
หลังเลิกเรียนน้ำหนึ่งลงจากรถรับส่งนักเรียน เธอกำลังเดินเข้าบ้านบังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นลูกแมวตัวเล็กเดินอยู่ตัวเดียว เหมือนมีคนเอามันมาปล่อยทิ้งไว้ จะไม่สนใจก็เป็นห่วงมัน น่าจะโดนรถทับตายวันนี้แน่ น้ำหนึ่งจึงตัดสินใจอุ้มลูกแมวตัวนี้กลับเข้าไปในบ้านด้วย
"คุณหนู...แมวใครคะนั่น" เสียงพี่ชบาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงคล้ายกับว่ากลัวใครจะมาได้ยินเข้า
"หนึ่งเจอมันที่ถนนทางเข้าหน้าบ้านเราค่ะ มันน่าสงสารเหมือนหนึ่งเลย" ลูกแมวตัวเล็กไม่มีทั้งพ่อและแม่ เดินเคว้งคว้างอยู่ตัวเดียว
"สงสารยังไงก็เอามาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ไม่ได้นะคะ คุณนินไม่ให้เลี้ยงสัตว์ทุกชนิดค่ะ" น้ำหนึ่งมีสีหน้าเจื่อนไปทันทีอย่างเห็นได้ชัด
"แต่หนึ่งสงสารมัน นะคะป้าแก้ว นะคะพี่ชบา หนึ่งอยากเลี้ยงมันค่ะ" ป้าแก้วกับชบามองหน้ากัน...
"ถ้าอย่างนั้นคุณหนูลองไปขออนุญาตคุณนินก่อนดีกว่ามั้ยคะ" พี่ชบาแนะนำ แต่น้ำหนึ่งกลับไม่กล้า ที่จะเข้าไปขออนุญาต
"หนึ่งขอเลี้ยงมันแค่สามวันก็ได้" น้ำหนึ่งต่อรอง...ขอเก็บลูกแมวตัวนี้ไว้คุยเล่นแก้เหงาสักสามวันก็ยังดี
"คุณหนู...จะดีเหรอคะ"
"นะคะป้า นะคะพี่ชบา" น้ำหนึ่งอ้อน สีหน้าน่าสงสาร
"สามวันแน่นะคะ" เป็นเสียงของป้าแก้ว ทุกคนที่ได้เห็นใบหน้าของน้ำหนึ่งตอนนี้เป็นใครก็ต้องสงสารกันทั้งนั้น ความสุขเล็กๆน้อยๆของเด็กที่เพิ่งจะเสียคุณพ่อไป ทุกคนจึงยอมช่วยคุณหนูปกปิด
"แน่ค่ะ"
"เอาแมวตัวนี้ส่งมาให้พี่ชบาก่อนค่ะ ใกล้จะได้เวลาเข้าห้องฟิตเนสแล้วนะคะ" มาถึงยังไม่ทันไร น้ำหนึ่งก็ต้องเข้าห้องฟิตเนสไปออกกำลังกายตามคำสั่งที่คุณอาได้บอกเอาไว้
"คุณอากลับมาแล้วเหรอคะ" พี่ชบาพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ส่วนน้ำหนึ่งกลับคิดในใจว่า...ทำไมกลับมาเร็วจัง!
"เข้าไปออกกำลังกายได้สักพักแล้วค่ะ คุณหนูรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะค่ะ"
"หนึ่งฝากเจ้า...เจ้า...เจ้าข้าวกล้องด้วยนะคะ" น้ำหนึ่งตั้งชื่อให้ลูกแมวตัวที่อุ้มอยู่ ก่อนที่จะส่งให้พี่ชบาเอาไปช่วยดูแลให้
"รีบไปค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงแมว" น้ำหนึ่งเดินคอตกขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนชุด เพื่อที่จะไปออกกำลังกายตามคำสั่งของคุณอา
"ป้าจ๊ะ...เจ้าลูกแมวตัวนี้กับคุณหนูหนึ่งจะรอดมั้ยจ๊ะ" ชบาหันไปถามป้าแก้ว
"ข้าก็ไม่รู้ เอาไปเลี้ยงหลังบ้านเลย ห้ามให้เสียงร้องของมันดังเข้าหูคุณนินเด็ดขาด" ชบารีบหาอาหารให้ลูกแมวกินให้อิ่ม อิ่มแล้วจะได้ไม่ส่งเสียงร้อง
@ห้องฟิตเนส
"ให้ไว...เลยเวลาไปห้านาทีแล้ว" เสียงเข้มๆของคุณอาพูดขึ้นทันทีที่น้ำหนึ่งเดินเข้าไปในห้องฟิตเนส ซึ่งตอนนี้คุณอาหนุ่มกำลังยกดัมเบลโชว์กล้ามอยู่ ณ ตอนนี้ เขาสวมเสื้อกล้ามเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"ทำไมต้องบังคับด้วย" น้ำหนึ่งบ่นมุบมิบเบาๆได้ยินคนเดียว
"อยากเล่นเครื่องไหนตามสบายเลยนะ" เครื่องออกกำลังกายในห้องนี้มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่ละเครื่องราคาคงไม่เบาอย่างแน่นอน แต่สำหรับน้ำหนึ่งเธอไม่ได้สนใจเลยสักนิด ที่บ้านของเธอก็มีเยอะแยะแบบนี้ คุณพ่อของเธอชอบออกกำลังกายเป็นประจำเหมือนคุณอาเลย เครื่องเล่นแต่ละชนิดเธอพอได้สัมผัสมันมาบ้าง วิธีเล่นเธอก็พอรู้มาบ้างแต่ไม่ได้ถึงกับเชี่ยวชาญหรอก แค่เคยนั่งดูคุณพ่อเล่น
"ไม่เห็นจะอยากเล่นเครื่องไหนสักอัน เฮ่อ..." ถอนหายใจดังเฮือกแล้วเดินไปที่ลู่วิ่งตัวใหญ่...น่าจะเบาแรงที่สุด เธอคิดเอาเอง
"ก่อนขึ้นเครื่องวอร์มร่างกายก่อนสักห้านาที" เสียงของคุณอาดังเข้าหู น้ำหนึ่งเคยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจมาตลอดเริ่มรู้สึกอึดอัดและเบื่อ แต่เธอก็ยอมวอร์มร่างกายตามที่คุณอาบอก โดยไม่ได้หันหน้าไปมองเขาเลยสักนิด
"ขึ้นได้แล้ว" เสียงของคุณอาดังเข้าหูอีกครั้ง เธอเลือกเดินสบายๆ อยู่นานสองนาน จนคุณอาหนุ่มที่กำลังยกดัมเบลอยู่ส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดขึ้นว่า...
"ปรับความเร็วอีกหน่อย" น้ำหนึ่งได้ยินดังนั้นก็ยอมปรับให้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป คิดในใจว่าเมื่อไหร่จะหมดเวลาสักที
"หลังตรง สายตามองไปข้างหน้า" เสียงของคุณอาที่ดังอยู่ข้างหลังทำให้น้ำหนึ่งหน้าบึ้งตึงในแบบเซ็งๆ
หลังจากออกกำลังกายเสร็จ น้ำหนึ่งก็รีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วลงมานั่งเล่นกับเจ้าข้าวกล้องที่ฝากให้พี่ชบาดูไว้ให้
"ข้าวกล้อง...แกปลอบใจฉันหน่อยสิ ไปเรียนก็เหนื่อยจะแย่ กลับมายังต้องมาออกกำลังกายอีก คอยดูเถอะเย็นนี้ฉันจะกินข้าวสามจานเลยคอยดู" น้ำหนึ่งนั่งลูบศีรษะข้าวกล้องพลางพูดกับมันไปเรื่อยๆคล้ายกับอยากหาเพื่อนคุย
"พี่ชบาเอาอะไรให้แกกินเนี่ย อิ่มแล้วหลับสบายเลยนะ" ในขณะที่น้ำหนึ่งกำลังนั่งคุยกับเจ้าข้าวกล้องไปเรื่อยๆเสียงพี่ชบาก็ดังขึ้น คล้ายกับส่งสัญญาณ
"คุณหนู...คุณนินมาแล้วค่ะ"
"มาเร็วจังยังไม่ถึงเวลามื้อเย็นเลย"
"ถ้าเขาเสร็จเร็วเขาจะมาก่อนเวลาค่ะ กินอิ่มแล้วป้าแก้วกับพี่จะได้พักผ่อนเร็ว แต่จะไม่มาช้ากว่าเวลาที่ตั้งไว้ค่ะ" สิ่งที่ธานินทร์ทำมันคือการเห็นอกเห็นใจ ถ้าเจ้านายอิ่มเร็ว คนงานในบ้านที่มีหน้าที่เก็บล้างก็จะได้พักผ่อนได้เร็ว ถ้าทิ้งจานชามไว้เก็บล้างตอนเช้า ในบ้านอาจจะมีสัตว์เข้ามาเช่น มด หนู แมลงสาบ ซึ่งธานินทร์ไม่ชอบเอามากๆ ลูกน้องในบ้านจึงต้องดูแลเรื่องความสะอาดในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด
"ไปทำอะไรในครัวมา" น้ำหนึ่งเดินออกมาจากประตูห้องครัวพอดี คำถามของคุณอาทำเอาทุกๆคนที่รู้เห็นเป็นใจหลบหน้าหลบตากันเป็นแถว
"เปล่าค่ะ" น้ำหนึ่งก้มหน้าตอบ
"นั่งลงสิ"
"ค่ะ" อาหารค่อยๆถูกยกทยอยเอาเข้ามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ พร้อมกับตักข้าวสวยร้อนๆใส่จานให้ทั้งสองคนคุณอากับคุณหลาน ในขณะที่นั่งรับประทานอาหารกันไป คุณอาหนุ่มก็เริ่มชวนหลานสาวคุย
"วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย"
"ไม่ค่อยโอเค...เท่าไหร่ค่ะ" ประโยคหลังน้ำเสียงแผ่วเบามากๆ เสียงที่เปล่งออกมาแทบจะถูกกลืนหายลงคอไป
"ค่อยๆปรับตัวไปก็แล้วกัน อาโอนเงินเข้าบัตรของโรงเรียนให้แล้วนะ ถ้าไม่พอก็มาขอเพิ่มได้ ส่วนเงินสดอาจะให้ต่างหาก" ทางโรงเรียนเวลาซื้อของจะใช้บัตรรูดเอา ส่วนเงินสดเอาไว้ใช้ด้านนอกโรงเรียน เผื่ออยากจะกินน้ำกินขนมหน้าโรงเรียนจะได้มีซื้อ
"ขอบคุณค่ะ" น้ำหนึ่งยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณคุณอา จากนั้นเธอก็นั่งทานข้าวต่อเงียบๆ ถามคำตอบคำ
ปกติแล้วน้ำหนึ่งเป็นเด็กพูดเก่ง คุยเก่ง ร่าเริง แจ่มใส แต่ตอนนี้เธอแค่ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆก็เท่านั้น
ตอนที่ 4 โดดเรียนสามวันผ่านไป...ช่วงบ่ายของวัน ธานินทร์ได้รับโทรศัพท์จากคุณครูที่โรงเรียนบอกว่าวันนี้น้ำหนึ่งโดดเรียน ไม่ยอมเข้าเรียน สิ่งที่ได้ยินทำให้ธานินทร์รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก เขาไม่ค่อยชอบเด็กเกเร ไม่มีความรับผิดชอบหลังเลิกเรียน น้ำหนึ่งนั่งรถรับส่งกลับมาลงที่หน้าบ้านเหมือนทุกวัน เธอเดินเข้ามาในบ้าน เห็นคุณอานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ในมือคุณอาถือไม้เรียวอยู่ด้วย"น้ำหนึ่ง มานี่..." ประโยคคำสั่งดังขึ้นเรียกให้เธอเดินเข้าไปหา"............." น้ำหนึ่งเดินก้มหน้าเข้าไป ในใจเริ่มรู้แล้วว่าเรื่องอะไร"รู้มั้ยว่าวันนี้ตัวเองทำอะไรผิด""ไม่ทราบค่ะ" เธอทราบ แต่เธอแค่ไม่ยอมรับก็เท่านั้น"วันนี้โดดเรียนกี่วิชา" ธานินทร์เลือกที่จะถามออกไปตรงๆในสิ่งที่เขารู้มา"สามค่ะ" น้ำหนึ่งยอมรับสารภาพตามตรงเช่นกัน เธอมีปัญหาจึงเลือกหนีปัญหาด้วยการไม่เข้าเรียน"หันก้นมา" ไม้เรียวในมือของคุณอาทำให้น้ำหนึ่งรู้ว่าคุณอาจะทำอะไรกับเธอ เธอวางกระเป๋าหนังสือลงแล้วยอมหันก้นให้พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก"เฟี๊ยบ! เฟี๊ยบ! เฟี๊ยบ!" ไม้เรียวที่คุณอาถืออยู่ในมือถูกฟาดลงมาที่ก้นโดนกระโปรงนักเรียนสามทีแรงๆ ทำให้แก้มใสๆของน้ำหน
ตอนที่ 5 ไม่กลับบ้านภาพเด็กหญิงนั่งร้องไห้กอดลูกแมวตัวเล็กพูดระบายความในใจออกมาเมื่อช่วงเย็น มันรบกวนจิตใจเขาไม่ยอมเลิก นั่นจึงทำให้คุณอาหนุ่มเลือกที่จะเดินออกจากห้องไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องข้างๆ"ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น น้ำหนึ่งจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่แล้วเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อช่วงเย็นน้ำหนึ่งไม่ยอมมานั่งทานข้าวด้วยกัน ธานินทร์จึงยังไม่ได้มีช่วงเวลาปรับความเข้าใจ"คุณอา..." น้ำหนึ่งเดินออกมาเปิดประตูให้เห็นเป็นใบหน้าของคุณอายืนอยู่ที่หน้าห้อง เธอก็ได้แต่ทำหน้าเฉยๆ ไม่รู้ว่าเขาจะมาต่อว่าอะไรเธออีก"ทำไม...เห็นหน้าอาผิดหวังมากขนาดนี้เลยเหรอ" มันเป็นแววตาที่ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด"เปล่าค่ะ" ปากแข็ง!"เป็นยังไงบ้าง" น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามบ่งบอกถึงความห่วงใย"เรื่องอะไรคะ" ธานินทร์ผลักประตูห้องเปิดอ้าทิ้งเอาไว้แล้วเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาภายในห้อง ส่วนน้ำหนึ่งก็เดินตามคุณอาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า รอฟังสิ่งที่คุณอากำลังจะพูดในแบบไม่ได้คาดหวัง"โดนตีเมื่อเย็นไง" น้ำหนึ่งเบนหน้าหนี พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลลงมาอีก เธอค่อนข้างน้อย
ตอนที่ 6 ไร้เดียงสาเช้าวันรุ่งขึ้น ธานินทร์กลับมาถึงบ้านแต่เช้า เขาเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางปกติ"อ้าวบอส...กลับมาแล้วเหรอครับ" เสียงยุทธเอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอวดฟันขาวแต่เช้า"อือ...อาบน้ำก่อนเดี๋ยวลงมา ในครัวทำอะไรกินโคตรหิวเลย""มีหลายอย่างเลยครับ" ธานินทร์พยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไป ทำธุระส่วนตัวตามปกติทางด้านน้ำหนึ่ง เธอลงมารับประทานอาหารเช้าตามเวลาปกติ เห็นคุณอาหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้วถึงกับงง...กลับมาแล้วเหรอ? เธอคิดในใจน้ำหนึ่งมองหน้าคุณอานิ่งๆ ไม่ได้พูดหรือถามอะไร ถึงในใจจะอยากรู้ก็ตาม เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงที่เดิมที่เธอเคยนั่ง ตอนนี้อาหารบนโต๊ะยกมาเสิร์ฟให้ครบแล้วเรียบร้อย ข้าวก็ตักรอไว้แล้ว เหลือแค่ลงมือตักเข้าปาก ทั้งสองเริ่มลงมือรับประทานอาหาร...ยัยหลานสาวก็เอ่ยพูดกับคุณอาขึ้นมาว่า..."คุณอาขา...หนึ่งมีการบ้านที่ทำไม่ได้อยู่หลายข้อเลยค่ะ" น้ำเสียงของเธอค่อนข้างแผ่วเบา รู้สึกเกรงใจไม่รู้ว่าคุณอาทำงานมาเหนื่อยหรือเปล่า กลัวว่าจะไปรบกวนเขามากเกินไป แต่เธอเลือกที่จะบอกเอาไว้ก่อนไม่ได้รีบยังมีเวลาพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน"ช่วงบ่ายได้มั้ย อิ่ม
ตอนที่ 7 โตเป็นสาวแล้ว10 ปีผ่านไป...@ห้องทำงานชั้นล่างช่วงเย็น หลังจากที่ธานินทร์ออกกำลังกาย อาบน้ำอาบท่า และทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เขาก็มักจะมานั่งทำงานต่อในห้องทำงานของเขาธานินทร์หนุ่มใหญ่ปัจจุบันอายุ 42 ปี ยังไม่ยอมมีใคร เขายังคงครองความเป็นโสดมาอย่างยาวนาน และยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้สวมแว่นสายตา แต่แว่นสายตายาวที่เขาสวมใส่อยู่ไม่สามารถบดบังความหล่อเหลาของเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียวใบหน้าหล่อเข้ม คมคาย ออกแนวดุนิดๆ เสื้อผ้าหน้าผมสะอาดสะอ้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อสิบปีที่แล้วเนี๊ยบยังไง ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น เขากำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานท่าทางจริงจัง"คุณอาขา..." เสียงน้ำหนึ่งหลานสาวเพียงคนเดียวที่เขาอุปการะเลี้ยงดูเธอมาเป็นระยะเวลาสิบปีเต็ม วิ่งพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับเสียงหวานๆของเธอ เรียกคุณอาหนุ่มที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ณ ตอนนี้ ปัจจุบันน้ำหนึ่งมีอายุ 21 ปีย่างเข้า 22 ปี เรียนใกล้จะจบแล้ว"ยิ้มมาแต่ไกลขนาดนี้ จะขออะไรก็ว่ามา" เสียงทุ้มเอ่ยถามหลานสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย แค่เห็นหน้าเขาก็รู้แล้วว่าหลานสาวของเขาต้องการอะไร"หนึ่งอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆพรุ่งน
ตอนที่ 8 แมวไม่อยู่หลายวันต่อมา...ช่วงเย็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ธานินทร์มักจะออกไปหาความสุขนอกบ้านตามประสาคนโสดเหมือนอย่างเคย"คุณอาไม่กลับบ้านอีกแล้ว..." น้ำเสียงเซ็งๆของน้ำหนึ่งพูดขึ้นเหมือนบ่น เมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าคุณอาของเธอเขาไปไหน ไปทำอะไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วทุกครั้งที่คุณอาออกจากบ้านไปนอนค้างคืนที่อื่น ความรู้สึกของน้ำหนึ่งเธอมักจะแอบเศร้าอยู่ในใจลึกๆ หม่นหมองไม่ร่าเริง ซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร เธอรู้แค่ว่าเธอไม่ชอบให้คุณอาออกไปทำเรื่องแบบนั้น แต่เธอก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นเด็ก ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจเท่านั้น"พรุ่งนี้เช้าเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ" เสียงพี่ชบาเอ่ยขึ้น ทุกคนรู้กัน น้ำหนึ่งเองก็ด้วย"ป้าคะ ถ้าอย่างนั้น หนึ่งขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้นะคะ พอดีเพื่อนมันชวน" ไหนๆคืนนี้คุณอาก็ไม่กลับบ้านอยู่แล้ว เธอรู้สึกเบื่อๆอย่างบอกไม่ถูก จึงอยากออกไปเที่ยวตามคำชวนของเพื่อนบ้าง ซึ่งเมื่อก่อนเธอไม่เคยไป แต่ตอนนี้เธอนึกอย่าลองไปบ้าง ถ้าไม่มีใครบอกยังไงคุณอาของเธอก็ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน"คุณหนูโตเป็นสาวแล้ว ควรจะขออนุญาตคุณนินก่อนดีกว่
ตอนที่ 9 หนูร่าเริง"ไอ้นิน...มึงดูสาวโต๊ะนั้นสิ สวยว่ะ" เพื่อนที่พากันมานั่งดื่มชี้ไปทางเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่นั่งกันอยู่ประมาณหกคน หนึ่งในนั้นมีสาวสวยสะดุดตา หุ่นก็ดี๊ดี ท่าเต้นนี้ไม่ต้องพูดถึง สดใสน่ารักสุดๆ หญิงสาวคนนั้นก็คือ...น้ำหนึ่ง!ธานินทร์หันไปมองตามที่เพื่อนบอก สิ่งที่เขาเห็นทำเอาเขาต้องขยับแว่นอยู่หลายครั้ง เนื่องจากเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นนั่งถัดออกไปค่อนข้างไกลพอสมควร มองไม่ค่อยชัด แต่เมื่อรู้สึกว่าใช่แน่ๆ"เดี๋ยวกูมา..." ธานินทร์ขยับแว่นแล้วขยับแว่นอีก มองยังไงก็ใช่ เขารีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าเข้มจัดอย่างเห็นได้ชัด แล้วเดินออกไปจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ทันที เดินตรงไปที่โต๊ะของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นในแบบไม่พูดไม่จา"เฮ๊ย! ไอ้นิน ใจร้อนเหมือนเดิมตั้งแต่หนุ่มจนแก่เลยนะมึง" ธานินทร์ไม่ฟังเสียงใครหน้าไหนทั้งนั้น เขารีบเดินดุ่มๆไปหาเด็กวัยรุ่นโต๊ะนั้นทันที หนึ่งในนั้นแน่นอนว่ามีน้ำหนึ่งหลานสาววัยใสของเขานั่งอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเมาได้ที่พอสมควร จากที่ลุกยืนเต้น ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นนั่งขยับอยู่กับที่ เนื่องจากฤทธิ์น้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปมันออกฤทธิ์จนเธอทรงตัวยืนไม่ค่อยจะอยู่แล้ว
ตอนที่ 10 เถียงเก่งธานินทร์อุ้มหลานสาวของเขาขึ้นชั้นบนไป เมื่อเข้ามาถึงในห้อง เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ แต่...แขนของเธอที่กำลังคล้องอยู่ที่ต้นคอของเขา เธอไม่ยอมปล่อย แต่กลับรั้งเอาไว้แน่น เธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของคุณอาในระยะใกล้เพียงคืบ"คุณอาขา..." สายตาของเธอมองมาที่ใบหน้าของเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ ฝ่ามือเล็กเริ่มซุกซนเธอหยิบแว่นที่ธานินทร์สวมใส่อยู่ออกอย่างถือวิสาสะ แล้วยิ้มหวานให้เขา"หนึ่ง...ปล่อยอาก่อน" แขนอีกข้างรั้งอยู่ที่ต้นคอไม่ยอมปล่อย มืออีกข้างถอดแว่นคุณอาออก จากนั้นก็ยกขึ้นวางลงไปบนต้นคอของคุณอาเหมือนเดิม ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ"ไม่ปล่อย..." ธานินทร์รู้ดีว่าสิ่งที่น้ำหนึ่งกำลังแสดงออกอยู่ตอนนี้ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไป เขาพยายามแกะมือเล็กๆที่กำลังคล้องอยู่บนต้นคอของเขาออก แต่เธอไม่ยอมปล่อยออกให้ง่ายๆ"หนึ่งปล่อยอาเดี๋ยวนี้นะ""ไม่ปล่อย...หนึ่งขอกอดคุณอาแค่นิดๆหน่อยๆไม่ได้หรือไง ทีผู้หญิงอื่นคุณอายัง...""หนึ่ง!!" ธานินทร์ส่งเสียงดุ เขาไม่เคยได้ยินน้ำหนึ่งพูดแบบนี้มาก่อน ซึ่งสิ่งที่เขาทำมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก
ตอนที่ 11 ขอโทษหลังจากที่ธานินทร์เดินหนีออกไป น้ำหนึ่งจึงเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น"คุณหนู..." เสียงป้าแก้วร้องเรียก เมื่อท่านเห็นน้ำหนึ่งเดินคอตกเข้ามาหา"ฮึก!" ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาโดนแก้มนวลทั้งสองข้างของเธอ"ป้าบอกแล้วไงว่าอย่าออกไป ทำไมคุณหนูถึงไม่เชื่อป้า แล้วเป็นยังไงบ้าง โดนคุณอาตีมาหรือเปล่าคะ" พี่ชบาเดินเข้ามาลูบแผ่นหลังให้น้ำหนึ่งเบาๆเป็นการปลอบ"เปล่าค่ะ แต่คุณอาน่าจะโกรธหนึ่งมาก หนึ่งควรจะทำยังไงดีคะป้า" สีหน้าของคุณอาตอนที่เดินหนีเธอไป น้ำหนึ่งรู้สึกใจหายวาบ ในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาไม่แม้แต่สบตากับเธอเลยแม้แต่น้อย ซึ่งที่ผ่านๆมาธานินทร์ไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ใส่น้ำหนึ่งมาก่อน"คุณหนูเป็นเด็กต้องเข้าไปขอโทษคุณอาก่อนนะคะ ยังไงเขาก็เลี้ยงคุณหนูมา" ใบหน้าสวยตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เธอเสียใจ..."หนึ่งขอโทษคุณอาแล้วค่ะ แต่คุณอา...ฮึก! ไม่สนใจหนึ่งเลย...ฮึก!""รอให้คุณนินอารมณ์ดีกว่านี้หน่อยแล้วค่อยไปขอโทษใหม่ดีมั้ยคะ""ค่ะ หนึ่งไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย" น้ำหนึ่งปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวกๆ ยุทธที่กำลังนั่งมองดูอยู่ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป"มาทานข้าวก