ตอนที่ 7 โตเป็นสาวแล้ว
10 ปีผ่านไป...
@ห้องทำงานชั้นล่าง
ช่วงเย็น หลังจากที่ธานินทร์ออกกำลังกาย อาบน้ำอาบท่า และทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เขาก็มักจะมานั่งทำงานต่อในห้องทำงานของเขา
ธานินทร์หนุ่มใหญ่ปัจจุบันอายุ 42 ปี ยังไม่ยอมมีใคร เขายังคงครองความเป็นโสดมาอย่างยาวนาน และยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้สวมแว่นสายตา แต่แว่นสายตายาวที่เขาสวมใส่อยู่ไม่สามารถบดบังความหล่อเหลาของเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ใบหน้าหล่อเข้ม คมคาย ออกแนวดุนิดๆ เสื้อผ้าหน้าผมสะอาดสะอ้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อสิบปีที่แล้วเนี๊ยบยังไง ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น เขากำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานท่าทางจริงจัง
"คุณอาขา..." เสียงน้ำหนึ่งหลานสาวเพียงคนเดียวที่เขาอุปการะเลี้ยงดูเธอมาเป็นระยะเวลาสิบปีเต็ม วิ่งพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับเสียงหวานๆของเธอ เรียกคุณอาหนุ่มที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ณ ตอนนี้ ปัจจุบันน้ำหนึ่งมีอายุ 21 ปีย่างเข้า 22 ปี เรียนใกล้จะจบแล้ว
"ยิ้มมาแต่ไกลขนาดนี้ จะขออะไรก็ว่ามา" เสียงทุ้มเอ่ยถามหลานสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย แค่เห็นหน้าเขาก็รู้แล้วว่าหลานสาวของเขาต้องการอะไร
"หนึ่งอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆพรุ่งนี้ค่ะ" นั่นไง! เลี้ยงมากับมือเขาย่อมรู้ทันเธอดีกว่าใคร ช่วงเวลาสิบปีเต็มที่อยู่ด้วยกันมา ทำให้คุณอากับคุณหลานทั้งสอง เริ่มรู้ใจกันมากขึ้น
"เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย"
"มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ"
"ที่ไหน" กฏของการออกนอกบ้านของน้ำหนึ่งที่คุณอาตั้งเอาไว้ ก็คือ...ห้ามเที่ยวกลางคืนและห้ามค้างคืนที่อื่น นอกเหนือจากนี้ส่วนมากเขาจะอนุญาตตลอด สาเหตุก็เพราะเธอเป็นผู้หญิง เขาเองก็เป็นห่วงเธอมาก
"นครนายกค่ะ เพื่อนๆของหนึ่งจะไปเที่ยวน้ำตกกัน" สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าอยากไปด้วยมาก...
"รู้ใช่มั้ยว่าอาไม่ให้ค้างคืน ไปแล้วต้องกลับบ้าน" น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยบอก ในใจไม่อยากให้ไปเลย เพราะอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ถ้าไม่ให้ไปก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย
"ทราบค่ะ ไปเช้าเย็นกลับค่ะ ไม่ได้ค้าง" น้ำหนึ่งทราบดี คุณอาเป็นห่วง ทุกๆครั้งที่เธอขอไปเที่ยวกับเพื่อนๆ คุณอามักจะอนุญาตให้เธอไปเที่ยวกับเพื่อนได้แต่ต้องกลับมานอนที่บ้าน
"จะเอาเท่าไหร่" ข้อนี้แหละเป็นประโยคที่น้ำหนึ่งอยากได้ยิน ไปเที่ยวก็ต้องมีตัง
"สองพันก็พอค่ะ" เธอขอแค่นี้
น้ำหนึ่งทราบดีว่าค่าใช้จ่ายตลอดสิบปีที่ผ่านมาคุณอาไม่เคยแม้แต่เอาเงินของเธอออกมาใช้แม้แต่บาทเดียว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ คุณอาเป็นคนออกให้ทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายของข้าวกล้องด้วย ตอนนี้ข้าวกล้องได้อยู่อย่างสุขสบาย อ้วนตัวกลม ขนนุ่ม ตัวหอม น่ากอดมากๆ
"เอาติดตัวไว้เหลือดีกว่าขาด ใช้ไม่หมดก็เก็บเอาไว้" คุณอาขยับแว่นที่สวมอยู่เล็กน้อยแล้วหยิบแบงค์พันจากกระเป๋าสตางค์ให้หลานสาวห้าใบ ทำเอาใบหน้าของน้ำหนึ่งคลี่ยิ้มกว้างมากกว่าเดิม คุณอามักจะใจดีกับเธอแบบนี้เสมอ
"ขอบคุณค่ะ หนึ่งรักคุณอาที่สุ๊ด..." ฝ่ามือเรียวสวยยกขึ้นไหว้ขอบคุณตามปกติ แถมป้อนคำหวานส่งไปให้อีกด้วย ทำเอาคุณอาหนุ่มอยากจะหยิบแบงค์พันให้อีกสักห้าใบ
"ออกไปได้แล้วอาจะทำงาน" น้ำหนึ่งได้รับอนุญาตและเงินจำนวนหนึ่งอย่างพอใจ เธอจึงรีบออกจากห้องทำงานของคุณอาทันที ปล่อยให้เขาทำงานไป
"คุณหนู...ยิ้มหน้าบานเลยนะคะ" เสียงพี่ชบาเอ่ยแซว เมื่อเห็นรอยยิ้มของคุณหนู ที่ชบาช่วยดูแลมาตลอดระยะเวลาสิบปี ตอนนี้เธอโตเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว แถมยังสวยมากอีกด้วย
"พรุ่งนี้หนึ่งจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆค่ะ หนึ่งไปขอตังคุณอามา หนึ่งขอแค่สองพัน แต่คุณอาใจดีให้หนึ่งมาตั้งห้าพัน บอกว่าเหลือดีกว่าขาด" นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณอาใจดีแบบนี้ เขาให้เยอะเพราะกลัวหลานจะไม่พอใช้ อีกอย่างน้ำหนึ่งก็ไม่ใช่เด็กใช้เงินเก่ง ลูกเต้าก็ไม่มี แถมยังมีกันอยู่แค่นี้ ถ้าเขาไม่ให้น้ำหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปให้ใคร
"ได้ไปเยอะขนาดนี้ ซื้อขนมมาฝากพี่ชบาด้วยนะคะ" ชบาพูดยิ้มๆ น้ำหนึ่งเป็นเด็กน่ารัก แถมเธอยังเรียนเก่ง เพราะมีคุณครูที่บ้านช่วยสอนพิเศษให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะเรียนจบแล้วด้วย
"ซื้ออยู่แล้วค่ะ หนึ่งใช้เงินเป็น จะใช้ให้หมดนี่แหละ ว่าแต่พี่ชบาอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ"
"ไม่ค่ะ เจออะไรน่ากินคุณหนูก็ซื้อมาเถอะ พี่ชบากินได้หมดแหละค่ะ"
"ค่ะ หนึ่งจะซื้อมาฝากทุกคนเลย"
เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนๆของน้ำหนึ่งขับรถมารับเธอที่บ้านแต่เช้า มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายประมาณห้าหกคนเห็นจะได้ จากนั้นก็พากันออกจากบ้านไป ปล่อยให้คุณอาหนุ่มยืนมองหลานสาวที่เลี้ยงมากับมือด้วยสายตาเป็นห่วง...
"ไอ้ยุทธ มึงว่าน้ำหนึ่งมีแฟนหรือยัง"
"เท่าที่ผมเห็น ในสายตาของคุณหนูก็ไม่เห็นมีใครพิเศษสำหรับคุณหนูนะครับ บอสเป็นห่วงคุณหนูเหรอครับ"
"อือ...เพื่อนที่เห็นเมื่อกี้แต่ละคน ไม่เข้าตาสักคน" พูดถึงเรื่องนี้แล้วอดเป็นห่วงไม่ได้
"บอสคิดมากไปหรือเปล่าครับ" ธานินทร์รู้ดีว่าชีวิตน้ำหนึ่งไม่มีใคร ความเป็นห่วงที่เกิดขึ้นจึงมีมากเป็นพิเศษ
"ช่วงเที่ยงนัดลูกค้าไว้ เตรียมเอกสารเรียบร้อยหรือยัง" ธานินทร์เปลี่ยนเรื่องคุย วันนี้เขานัดกับลูกค้าคุยเรื่องงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ" ในขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น เสียงข้าวกล้อง ลูกแมวตัวนั้นที่น้ำหนึ่งเก็บมาเลี้ยง บัดนี้ตัวโตแล้ว มันเดินเข้ามาส่งเสียงร้อง อยู่ข้างๆธานินทร์ มันคงเดินมาถามหาหม่ามี๊ของมัน
"เมี๊ยว..."
"ไงข้าวกล้อง โดนทิ้งล่ะสิสมน้ำหน้า" ธานินทร์หันไปพูดกับข้าวกล้องด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
"เมี๊ยว...เมี๊ยว..."
"มานอนบนนี้มา..." ธานินทร์หันไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาใกล้ๆ เขาเคาะมือเรียกให้ข้าวกล้องขึ้นมานอนลงที่โซฟาตัวเดียวกัน ข้าวกล้องเป็นแมวขี้อ้อน ตอนแรกธานินทร์ก็ไม่ค่อยชอบ แต่พอเลี้ยงไปเลี้ยงมาตกหลุมรักแมวซะอย่างนั้น ทุกวันนี้นอกจากเขาจะเลี้ยงคนแล้ว ยังต้องเลี้ยงแมวอีกด้วย
"เมี๊ยว..." ข้าวกล้องเอาคางหนุนไปที่ขาของธานินทร์ด้วยท่าทางออดอ้อน ในใจยังคงนึกเป็นห่วงเจ้าของแมวไม่หาย ยิ่งโตขึ้นยิ่งเป็นห่วงมาก
"เครื่องเป่าขนที่ซื้อให้อันใหม่วันก่อนชอบมั้ย" นอกจากจะเปย์หลานสาวแล้ว แมวตัวนี้ก็ไม่รู้ว่าหมดไปเท่าไหร่แล้ว ล่าสุดเครื่องเป่าขนควักเงินจากกระเป๋าหมดไปหลายหมื่น
"เมี๊ยว..."
"ชอบก็ดี...ทำตัวดีๆล่ะ ฝากบอกหม่ามี๊ของแกด้วย พักนี้เที่ยวเก่งจัง" ขอไปทุกครั้ง คุณอาอย่างเขาก็ไม่เคยขัด อยากไปก็ให้ไป ตามใจตลอด แต่ขออย่างเดียวเที่ยวเสร็จต้องกลับบ้าน ห้ามค้างคืนที่อื่นและห้ามเที่ยวกลางคืน
ธานินทร์ลุกขึ้นจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ พร้อมกับตบไปที่หัวข้าวกล้องหนึ่งทีจนมันหลับตาปี๋ เขาชอบแกล้งมันตอนที่น้ำหนึ่งไม่อยู่แบบนี้เป็นประจำ
ตอนที่ 8 แมวไม่อยู่หลายวันต่อมา...ช่วงเย็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ธานินทร์มักจะออกไปหาความสุขนอกบ้านตามประสาคนโสดเหมือนอย่างเคย"คุณอาไม่กลับบ้านอีกแล้ว..." น้ำเสียงเซ็งๆของน้ำหนึ่งพูดขึ้นเหมือนบ่น เมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าคุณอาของเธอเขาไปไหน ไปทำอะไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วทุกครั้งที่คุณอาออกจากบ้านไปนอนค้างคืนที่อื่น ความรู้สึกของน้ำหนึ่งเธอมักจะแอบเศร้าอยู่ในใจลึกๆ หม่นหมองไม่ร่าเริง ซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร เธอรู้แค่ว่าเธอไม่ชอบให้คุณอาออกไปทำเรื่องแบบนั้น แต่เธอก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นเด็ก ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจเท่านั้น"พรุ่งนี้เช้าเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ" เสียงพี่ชบาเอ่ยขึ้น ทุกคนรู้กัน น้ำหนึ่งเองก็ด้วย"ป้าคะ ถ้าอย่างนั้น หนึ่งขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้นะคะ พอดีเพื่อนมันชวน" ไหนๆคืนนี้คุณอาก็ไม่กลับบ้านอยู่แล้ว เธอรู้สึกเบื่อๆอย่างบอกไม่ถูก จึงอยากออกไปเที่ยวตามคำชวนของเพื่อนบ้าง ซึ่งเมื่อก่อนเธอไม่เคยไป แต่ตอนนี้เธอนึกอย่าลองไปบ้าง ถ้าไม่มีใครบอกยังไงคุณอาของเธอก็ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน"คุณหนูโตเป็นสาวแล้ว ควรจะขออนุญาตคุณนินก่อนดีกว่
ตอนที่ 9 หนูร่าเริง"ไอ้นิน...มึงดูสาวโต๊ะนั้นสิ สวยว่ะ" เพื่อนที่พากันมานั่งดื่มชี้ไปทางเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่นั่งกันอยู่ประมาณหกคน หนึ่งในนั้นมีสาวสวยสะดุดตา หุ่นก็ดี๊ดี ท่าเต้นนี้ไม่ต้องพูดถึง สดใสน่ารักสุดๆ หญิงสาวคนนั้นก็คือ...น้ำหนึ่ง!ธานินทร์หันไปมองตามที่เพื่อนบอก สิ่งที่เขาเห็นทำเอาเขาต้องขยับแว่นอยู่หลายครั้ง เนื่องจากเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นนั่งถัดออกไปค่อนข้างไกลพอสมควร มองไม่ค่อยชัด แต่เมื่อรู้สึกว่าใช่แน่ๆ"เดี๋ยวกูมา..." ธานินทร์ขยับแว่นแล้วขยับแว่นอีก มองยังไงก็ใช่ เขารีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าเข้มจัดอย่างเห็นได้ชัด แล้วเดินออกไปจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ทันที เดินตรงไปที่โต๊ะของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นในแบบไม่พูดไม่จา"เฮ๊ย! ไอ้นิน ใจร้อนเหมือนเดิมตั้งแต่หนุ่มจนแก่เลยนะมึง" ธานินทร์ไม่ฟังเสียงใครหน้าไหนทั้งนั้น เขารีบเดินดุ่มๆไปหาเด็กวัยรุ่นโต๊ะนั้นทันที หนึ่งในนั้นแน่นอนว่ามีน้ำหนึ่งหลานสาววัยใสของเขานั่งอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเมาได้ที่พอสมควร จากที่ลุกยืนเต้น ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นนั่งขยับอยู่กับที่ เนื่องจากฤทธิ์น้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปมันออกฤทธิ์จนเธอทรงตัวยืนไม่ค่อยจะอยู่แล้ว
ตอนที่ 10 เถียงเก่งธานินทร์อุ้มหลานสาวของเขาขึ้นชั้นบนไป เมื่อเข้ามาถึงในห้อง เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ แต่...แขนของเธอที่กำลังคล้องอยู่ที่ต้นคอของเขา เธอไม่ยอมปล่อย แต่กลับรั้งเอาไว้แน่น เธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของคุณอาในระยะใกล้เพียงคืบ"คุณอาขา..." สายตาของเธอมองมาที่ใบหน้าของเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ ฝ่ามือเล็กเริ่มซุกซนเธอหยิบแว่นที่ธานินทร์สวมใส่อยู่ออกอย่างถือวิสาสะ แล้วยิ้มหวานให้เขา"หนึ่ง...ปล่อยอาก่อน" แขนอีกข้างรั้งอยู่ที่ต้นคอไม่ยอมปล่อย มืออีกข้างถอดแว่นคุณอาออก จากนั้นก็ยกขึ้นวางลงไปบนต้นคอของคุณอาเหมือนเดิม ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ"ไม่ปล่อย..." ธานินทร์รู้ดีว่าสิ่งที่น้ำหนึ่งกำลังแสดงออกอยู่ตอนนี้ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไป เขาพยายามแกะมือเล็กๆที่กำลังคล้องอยู่บนต้นคอของเขาออก แต่เธอไม่ยอมปล่อยออกให้ง่ายๆ"หนึ่งปล่อยอาเดี๋ยวนี้นะ""ไม่ปล่อย...หนึ่งขอกอดคุณอาแค่นิดๆหน่อยๆไม่ได้หรือไง ทีผู้หญิงอื่นคุณอายัง...""หนึ่ง!!" ธานินทร์ส่งเสียงดุ เขาไม่เคยได้ยินน้ำหนึ่งพูดแบบนี้มาก่อน ซึ่งสิ่งที่เขาทำมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก
ตอนที่ 11 ขอโทษหลังจากที่ธานินทร์เดินหนีออกไป น้ำหนึ่งจึงเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น"คุณหนู..." เสียงป้าแก้วร้องเรียก เมื่อท่านเห็นน้ำหนึ่งเดินคอตกเข้ามาหา"ฮึก!" ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาโดนแก้มนวลทั้งสองข้างของเธอ"ป้าบอกแล้วไงว่าอย่าออกไป ทำไมคุณหนูถึงไม่เชื่อป้า แล้วเป็นยังไงบ้าง โดนคุณอาตีมาหรือเปล่าคะ" พี่ชบาเดินเข้ามาลูบแผ่นหลังให้น้ำหนึ่งเบาๆเป็นการปลอบ"เปล่าค่ะ แต่คุณอาน่าจะโกรธหนึ่งมาก หนึ่งควรจะทำยังไงดีคะป้า" สีหน้าของคุณอาตอนที่เดินหนีเธอไป น้ำหนึ่งรู้สึกใจหายวาบ ในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาไม่แม้แต่สบตากับเธอเลยแม้แต่น้อย ซึ่งที่ผ่านๆมาธานินทร์ไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ใส่น้ำหนึ่งมาก่อน"คุณหนูเป็นเด็กต้องเข้าไปขอโทษคุณอาก่อนนะคะ ยังไงเขาก็เลี้ยงคุณหนูมา" ใบหน้าสวยตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เธอเสียใจ..."หนึ่งขอโทษคุณอาแล้วค่ะ แต่คุณอา...ฮึก! ไม่สนใจหนึ่งเลย...ฮึก!""รอให้คุณนินอารมณ์ดีกว่านี้หน่อยแล้วค่อยไปขอโทษใหม่ดีมั้ยคะ""ค่ะ หนึ่งไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย" น้ำหนึ่งปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวกๆ ยุทธที่กำลังนั่งมองดูอยู่ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป"มาทานข้าวก
ตอนที่ 12 หวั่นไหวธานินทร์เดินสวนเข้าไป ไม่แม้แต่จะมองหน้าหรือสบตากับน้ำหนึ่ง นั่นก็แสดงว่าเขายังโกรธเธออยู่ สิ่งที่ธานินทร์แสดงออกมาอย่างชัดเจนทำให้น้ำหนึ่งมีสีหน้าเศร้าลงทันที"คุณหนูคะ...พี่ชบาขี้เกียจเอายาขึ้นไปให้คุณนิน พี่ฝากคุณหนูเอาขึ้นไปให้หน่อยได้มั้ยคะ" สีหน้าของน้ำหนึ่งตอนนี้ทำให้ชบารู้สึกสงสาร ชบาจึงแสร้งทำเป็นไม่อยากขึ้นไป โดยให้น้ำหนึ่งเป็นคนเอายาขึ้นไปให้ธานินทร์แทน"ถ้าคุณอาไม่ยอมกินยาที่หนึ่งเอาขึ้นไปให้ล่ะคะ""คุณนินรักคุณหนูจะตาย เขาก็แค่งอน ง้อนิดง้อหน่อยเดี๋ยวเขาก็หายโกรธ เชื่อพี่ชบานะคะ" ชบาส่งยิ้มให้น้ำหนึ่งเป็นกำลังใจ"ก็ได้ค่ะ""สู้ๆนะคะ" น้ำหนึ่งรับเอายาพาราแก้ปวดและแก้วน้ำมาถือเอาไว้ในมือ จากนั้นเธอก็เดินขึ้นชั้นบนไป"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง ธานินทร์ถอดเสื้อเตรียมที่จะอาบน้ำ เขาจึงเดินออกมาเปิดประตูให้ เพื่อที่จะรับเอาแค่ยาเพราะคิดว่าเป็นชบา แต่คนที่เอายาขึ้นมาให้กลับเป็นน้ำหนึ่งทันทีที่ธานินทร์เห็นใบหน้าของน้ำหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าห้องของเขา เขาจึงหันหลังให้แล้วเดินหนีเข้าไปด้านในห้องทันที นั่นจึงทำให้น้ำหนึ่งต้องก้าวขาเดินตามเข้าไปในห้องแ
ตอนที่ 13 แกล้งหลับเช้าวันรุ่งขึ้น ธานินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนน้ำหนึ่ง เขาเห็นว่าเธอกำลังนอนกอดเขาอยู่ แน่นอนว่าเธอคงไม่รู้ตัว ทั้งขาทั้งแขนของเธอพาดอยู่บนตัวเขาอย่างเหนียวแน่น เธอคงคิดว่ากำลังนอนกอดหมอนข้างอยู่แน่ๆ ธานินทร์จะลุกออกไปก็ทำไม่ได้ จะปลุกให้เธอตื่นก็ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไงดีและแล้วฮอร์โมนเพศชายก็เริ่มทำงานแต่เช้า นกเขาใหญ่ที่กำลังนอนหลับอยู่ในกางเกงค่อยๆพองตัวขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายในช่วงเช้าๆแบบนี้ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ มีขาของใครบางคนมันกำลังกดทับเจ้านกเขาใหญ่ของเขาเอาไว้จนเริ่มรู้สึกอึดอัดธานินทร์ค่อยๆขยับขาของตัวเองออกเบาๆช้าๆ เพื่อให้ขาเล็กที่กำลังก่ายเขาอยู่ ให้เธอยกขาออกไปให้พ้นจากนกเขาใหญ่ของเขาที่มันกำลังโก่งคอขันยามเช้าทันใดนั้นน้ำหนึ่งก็เริ่มรู้สึกตัว เธอขยับตัวเล็กน้อย แล้วค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ส่วนคนที่ตื่นก่อนตอนนี้แกล้งหลับ ในใจนึกต่อว่าตัวเองเสียงดัง...นี่เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆขนาดนี้เลยเหรอ แถมเธอยังเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงมาไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนซึ่งความเป็นจริงเขาควรจะลุกขึ้นมาแล้วดุเธอสิถึงจะถูกต้อง เป็นผู้หญิงเข
ตอนที่ 14 วางแผน@มหาวิทยาลัยช่วงเช้าก่อนออกจากบ้าน น้ำหนึ่งได้ยินคุณอาบอกกับป้าแก้วว่าเย็นนี้ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อ สิ่งที่น้ำหนึ่งได้ยินทำให้เธอเข้าใจเอาเองว่า คืนนี้คุณอาของเธอคงจะไม่กลับมานอนที่บ้านอีกตามเคย"หนึ่งเป็นอะไร นั่งหน้าหงอยเชียว" เมล์เพื่อนในกลุ่มเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง วันนี้เพื่อนๆทุกคนรู้สึกว่าน้ำหนึ่งดูผิดปกติไป"เย็นนี้คุณอาไม่กลับบ้านอีกแล้ว..." พูดจบก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือก รู้สึกไม่ชอบ เวลาที่คุณอาไปนอนค้างที่อื่น วันนี้น้ำหนึ่งนั่งเรียนเหมือนมานั่งเล่น อาจารย์พูดอะไร ไม่ได้เข้าหูเลย จิตใจของเธอตอนนี้ จินตนาการไปไกล...ในหัวคิดไปต่างๆนานา ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า"แล้วยังไง..." น้ำหนึ่งมักจะมาบ่นเรื่องคุณอาไม่กลับบ้านให้เพื่อนๆฟังเป็นประจำ จนเพื่อนๆทุกคนรู้สึกชินหูแล้ว...ก็ปกตินี่! ถ้าคุณอาพาผู้หญิงเข้าบ้านสิถึงจะเรียกว่าผิดปกติ"กูแค่ไม่ชอบ..." น้ำหนึ่งมักจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่รู้ว่าคุณอาออกไปเที่ยว เพราะทุกการออกไปของเขา ไม่ยอมกลับบ้าน ซึ่งเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว น่าจะเป็นก่อนที่เธอได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเขาด้วยซ้ำ"ไม่ชอบแล้วมึงจะไปทำอะไรได้ ม
ตอนที่ 15 ไม่ยอมรับช่วงบ่ายๆ ธานินทร์หยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนดูไปเรื่อยๆ อยู่ๆสายตาก็เกิดสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง มองเผินๆดูเหมือนไม่มีอะไร แต่สำหรับธานินทร์สิ่งที่เขาเห็นทำเอามือไม้สั่นไปหมด หัวใจกระตุกวูบ เขายกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู ปรากฏว่าอีกนานเลยกว่าเขาจะได้กลับบ้านรูปที่เห็นมันคือรูปหลานสาวของเขานั่งอ่านหนังสือ โดยมีผู้ชายคนหนึ่งนอนหนุนตักท่าทางมีความสุข ซึ่งธานินทร์ก็มองไม่ออกว่าผู้ชายในรูปนั้นเป็นใคร เพราะช่วงใบหน้ามีหนังสือเล่มใหญ่ปิดบังเอาไว้ช่วงเย็นของวันเดียวกัน ธานินทร์นัดลูกค้าคุยเรื่องงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายใจเป็นที่สุด แต่งานก็สำคัญ เขาเลือกทำงานให้เสร็จก่อน กลับไปถึงบ้านคงต้องมีเรื่องคุยกับยัยหลานสาวยาว...@บ้านช่วงเย็น น้ำหนึ่งนั่งทานข้าวคนเดียวอย่างเหงาๆ ในใจนึกน้อยใจคุณอา ป่านนี้เขาคงไปนั่งไปนอนมีความสุขอยู่ที่ไหนสักที สายตาของเธอมองไปรอบๆวันนี้ไม่เห็นพี่ยุทธ นึกตงิดใจแต่ก็ไม่ได้ถามถึง สักครู่เสียงรถของคุณอาธานินทร์ก็ขับเข้ามาจอด'สงสัยจะเป็นพี่ยุทธ' น้ำหนึ่งคิดในใจ สักครู่น้ำหนึ่งก็เห็นร่างสูงของคุณอาเดินเข้ามาในห้องอาหารที่เธอกำลังนั่