ตอนที่ 5 ไม่กลับบ้าน
ภาพเด็กหญิงนั่งร้องไห้กอดลูกแมวตัวเล็กพูดระบายความในใจออกมาเมื่อช่วงเย็น มันรบกวนจิตใจเขาไม่ยอมเลิก นั่นจึงทำให้คุณอาหนุ่มเลือกที่จะเดินออกจากห้องไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องข้างๆ
"ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น น้ำหนึ่งจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่แล้วเดินมาเปิดประตูห้อง
เมื่อช่วงเย็นน้ำหนึ่งไม่ยอมมานั่งทานข้าวด้วยกัน ธานินทร์จึงยังไม่ได้มีช่วงเวลาปรับความเข้าใจ
"คุณอา..." น้ำหนึ่งเดินออกมาเปิดประตูให้เห็นเป็นใบหน้าของคุณอายืนอยู่ที่หน้าห้อง เธอก็ได้แต่ทำหน้าเฉยๆ ไม่รู้ว่าเขาจะมาต่อว่าอะไรเธออีก
"ทำไม...เห็นหน้าอาผิดหวังมากขนาดนี้เลยเหรอ" มันเป็นแววตาที่ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด
"เปล่าค่ะ" ปากแข็ง!
"เป็นยังไงบ้าง" น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามบ่งบอกถึงความห่วงใย
"เรื่องอะไรคะ" ธานินทร์ผลักประตูห้องเปิดอ้าทิ้งเอาไว้แล้วเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาภายในห้อง ส่วนน้ำหนึ่งก็เดินตามคุณอาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า รอฟังสิ่งที่คุณอากำลังจะพูดในแบบไม่ได้คาดหวัง
"โดนตีเมื่อเย็นไง" น้ำหนึ่งเบนหน้าหนี พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลลงมาอีก เธอค่อนข้างน้อยใจเขา คิดถึงคุณพ่อที่สุด
"ถ้าคุณอายังตีหนึ่งไม่พอ อยากจะตีหนึ่งอีกก็ตีเลยค่ะ" เธอประชด!
"เรียนยากขนาดนั้นเลยเหรอ" ปกติเธอก็เรียนโรงเรียนเอกชนอยู่แล้ว เปลี่ยนมาเรียนนานาชาติก็น่าจะพอไปได้
".........." น้ำหนึ่งเลือกที่จะเงียบ...พูดไปคุณอาก็คงไม่เข้าใจ เมื่อสักครู่เธอก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ
"พูดสิ ไม่พูดแล้วอาจะรู้ได้ยังไง" น้ำเสียงของคุณอาเบาลง เขาเองก็อยากพยายามเข้าใจน้ำหนึ่งเหมือนกัน
"ยากค่ะ...หนึ่งไม่เข้าใจเลย" ที่สุดคือเรื่องภาษาที่ดูจะล้ำหน้ามากกว่าที่เธอเคยเรียนมามาก
"อยากเรียนพิเศษมั้ย"
"หนึ่งต้องรีบกลับบ้านมาออกกำลังกายอีก" เธอประชดคุณอาอีกครั้ง ในใจก็ไม่ได้อยากเรียนเพราะเธอไม่มีเพื่อน อยู่ที่โรงเรียนแค่เวลาเรียนก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
"ถ้าอย่างนั้นอาจะช่วยสอนให้หลังอาหารเย็นทุกวัน เอามั้ย" ข้อเสนอนี้น้ำหนึ่งเห็นด้วย
"จริงเหรอคะ"
"จริงสิ ตกลงจะเรียนกับอามั้ย"
"ดุหรือเปล่า" เธอขอถามก่อน...ทำเอาคุณอาหนุ่มนึกขำตัวเองในใจ นี่เขาทำให้เด็กกลัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ
"จะพยายามเป็นคุณครูใจดีให้ก็แล้วกัน" ต่อจากนี้ไปเขาคงต้องปรับตัวเข้าหาเด็กเยอะๆหน่อย เห็นตอนนั่งร้องไห้กอดลูกแมวยิ่งนึกสงสาร
"เรียนก็ได้ค่ะ" อยู่ๆเขาก็ทักขึ้นมาว่า...
"นี่มันชุดนอนตัวเมื่อวานนี่" น้ำหนึ่งก้มมองดูเสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่...ก็ใช่!
"ค่ะ ยังหอมอยู่เลย" ใส่แค่นอนเอง...เธอคิดในใจ
"ห้ามใส่เสื้อผ้าซ้ำมันสกปรกมีแต่เชื้อโรค แล้วอย่าให้อาเห็นอีกล่ะ" ห๊า...แค่เสื้อผ้าก็ยังบงการ...น้ำหนึ่งคิดในใจ
"อีกครึ่งชั่วโมงหยิบวิชาที่ต้องการจะให้อาช่วย ลงไปเจอกันที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง" พูดจบเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องของเธอไป
"จะบงการชีวิตอะไรกันนักกันหนา น่าเบื่อชะมัด" น้ำหนึ่งก้มมองชุดนอนตัวเองแล้วบ่นออกมาคนเดียวแบบเซ็งๆ เธอไม่ยอมเปลี่ยนแต่เลือกที่จะหยิบหนังสือแล้วลงไปรอคุณอาที่ชั้นล่างเลย
วันต่อๆมา...หลังอาหารมื้อเย็นในทุกๆวัน ธานินทร์ช่วยสอนการบ้านให้น้ำหนึ่งทุกวัน ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณอากับคุณหลานเริ่มดีขึ้น...
เช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์ บนโต๊ะรับประทานอาหารเช้า
"ป้าครับ คืนนี้ผมไม่กลับบ้านนะครับ อาหารเย็นเตรียมไว้ให้คุณหนูของป้าแค่ที่เดียวพอ" ธานินทร์เดินเข้ามานั่งลงบนโต๊ะรับประทานอาหารเหมือนทุกวัน เขาเอ่ยบอกป้าแก้ว คล้ายกับว่าสิ่งที่พูดออกไปเมื่อสักครู่มันคือเรื่องธรรมดาสำหรับเขา
"คุณอาจะไปไหนเหรอคะ" น้ำหนึ่งเอ่ยถามคุณอาด้วยความอยากรู้...แอบคิดในใจว่าแล้วเย็นนี้ใครจะช่วยเธอทำการบ้าน
"............" ธานินทร์มองหน้าน้ำหนึ่งนิ่งๆแต่ไม่ยอมตอบ น้ำหนึ่งจึงก้มหน้าลงแล้วรีบตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ แต่ในใจก็ยังอยากรู้อยู่
ช่วงเย็นหลังจากที่น้ำหนึ่งกลับมาจากที่โรงเรียน ความสงสัยเรื่องที่คุณอาไม่กลับบ้านก็ยังคงอยู่ เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงบอกไม่ได้ วันนี้เธอไม่ออกกำลังกาย แต่เลือกที่จะอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมาทานอาหารมื้อเย็นเลย
"พี่ชบาคะ เย็นนี้คุณอาไปไหนเหรอค่ะ ทำไมถึงไม่กลับบ้าน แล้วทำไมเมื่อเช้าหนึ่งถามเขาถึงไม่ยอมตอบ" สีหน้าของชบาอึกอัก มองยุทธที มองป้าแก้วที
"เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่ควรรู้ค่ะ" ชบาตอบยิ้มๆ ซึ่งคำตอบที่ได้น้ำหนึ่งก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
"เรื่องอะไรเหรอคะ" เธอถามต่อ...คำตอบที่ได้เมื่อสักครู่ รู้สึกงงกว่าเดิมอีก
"เรื่องของผู้ใหญ่ค่ะ" เรื่องของผู้ใหญ่อีกและ แล้วตกลงมันเรื่องอะไรกันนะ
"แล้วเรื่องอะไรล่ะคะ หนึ่งไม่เข้าใจ" ทุกคนมองหน้ากัน ไม่คิดว่าน้ำหนึ่งจะเป็นเด็กขี้สงสัยขนาดนี้
"บอสไปทำงานครับ" เป็นยุทธที่ช่วยตอบให้
"ทำงานที่ไหนคะ ไปไกลถึงขนาดต้องนอนค้างที่อื่นเลยเหรอคะ แล้วพรุ่งนี้คุณอาจะกลับมามั้ย" เธอแค่เป็นห่วงการบ้านตัวเอง การบ้านที่ได้มาวันนี้ที่ทำได้ก็ทำไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่ยังทำไม่ได้
"คิกคิก" ชบาหัวเราะ ไม่รู้จะตอบยังไงดี
"พี่ชบาหัวเราะอะไรคะ" เด็กขี้สงสัย!
"ป้า...ชบาคันปากจัง"
"ไปล้างจานไป คุณหนูยังเด็กไม่ต้องรู้เรื่องพวกนี้หรอกค่ะ" คำพูดของป้าแก้วทำให้น้ำหนึ่งงุนงงเข้าไปอีก...ตกลงไปทำงานอะไรกันแน่
"คุณอาไม่อยู่ก็ดีค่ะ หนึ่งไปคุยกับข้าวกล้องที่หลังบ้านดีกว่า" ตอนนี้น้ำหนึ่งยังไม่รู้ว่าคุณอาอนุญาตให้สามารถเลี้ยงแมวได้แล้ว เธอลุกขึ้นไปจากโต๊ะพร้อมกับถือจานข้าวที่กำลังกินอยู่ถือติดมือเอาไปด้วย ไปนั่งกินกับข้าวกล้องที่ด้านหลังบ้าน พื้นที่ตรงนั้นมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีโต๊ะสำหรับนั่งเล่นบรรยากาศดี ทันทีที่น้ำหนึ่งให้หลังไป...
"โอ๊ย!! ป้า...หยิกมาได้" ชบาบ่น...
"ห้ามพูดให้คุณหนูรู้เด็ดขาด แกยังเด็ก!"
"รู้แล้วน่าป้า ชบาก็ไม่ได้พูดสักหน่อย" ชบาหันไปมองหน้าพี่ยุทธสามีของเธอ ส่วนยุทธก็ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ
สักพักด้านนอกบ้านก็เริ่มมืดยุงก็เริ่มมาตอม
"คุณหนู...เข้ามานั่งในบ้านดีกว่าค่ะ วันนี้คุณอาไม่อยู่" จริงด้วย!
"จริงด้วย...ถ้าอย่างนั้นวันนี้หนึ่งจะเอาข้าวกล้องไปนอนกับหนึ่งที่บนห้องด้วยนะคะ" เธอคิดว่าเขาคงไปทำงานที่ไกลๆ คงยังไม่กลับมาง่ายๆหรอก
"ไม่ได้ค่ะ คุณนินจะกลับมาตอนช่วงเช้ามืด เจอข้าวกล้องแน่นอน เอาไว้ให้พี่เลี้ยงให้ดีกว่าค่ะ" กลับเช้ามืดเลยเหรอ สงสัยจะทำงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน...น้ำหนึ่งคิดในใจ อดเอาข้าวกล้องไปนอนด้วยเลย
"อื้อ...ถ้าอย่างนั้น หนึ่งขอนอนกอดมันดูทีวีกับป้าแก้วกับพี่ชบาที่หน้าทีวีตรงนี้นะคะ"
"ได้ค่ะ..." หลังอาหารเย็นเก็บจานชามล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ประจำของทุกคนก็คือหน้าทีวีดูละครกัน...
ตอนที่ 6 ไร้เดียงสาเช้าวันรุ่งขึ้น ธานินทร์กลับมาถึงบ้านแต่เช้า เขาเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางปกติ"อ้าวบอส...กลับมาแล้วเหรอครับ" เสียงยุทธเอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอวดฟันขาวแต่เช้า"อือ...อาบน้ำก่อนเดี๋ยวลงมา ในครัวทำอะไรกินโคตรหิวเลย""มีหลายอย่างเลยครับ" ธานินทร์พยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไป ทำธุระส่วนตัวตามปกติทางด้านน้ำหนึ่ง เธอลงมารับประทานอาหารเช้าตามเวลาปกติ เห็นคุณอาหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้วถึงกับงง...กลับมาแล้วเหรอ? เธอคิดในใจน้ำหนึ่งมองหน้าคุณอานิ่งๆ ไม่ได้พูดหรือถามอะไร ถึงในใจจะอยากรู้ก็ตาม เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงที่เดิมที่เธอเคยนั่ง ตอนนี้อาหารบนโต๊ะยกมาเสิร์ฟให้ครบแล้วเรียบร้อย ข้าวก็ตักรอไว้แล้ว เหลือแค่ลงมือตักเข้าปาก ทั้งสองเริ่มลงมือรับประทานอาหาร...ยัยหลานสาวก็เอ่ยพูดกับคุณอาขึ้นมาว่า..."คุณอาขา...หนึ่งมีการบ้านที่ทำไม่ได้อยู่หลายข้อเลยค่ะ" น้ำเสียงของเธอค่อนข้างแผ่วเบา รู้สึกเกรงใจไม่รู้ว่าคุณอาทำงานมาเหนื่อยหรือเปล่า กลัวว่าจะไปรบกวนเขามากเกินไป แต่เธอเลือกที่จะบอกเอาไว้ก่อนไม่ได้รีบยังมีเวลาพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน"ช่วงบ่ายได้มั้ย อิ่ม
ตอนที่ 7 โตเป็นสาวแล้ว10 ปีผ่านไป...@ห้องทำงานชั้นล่างช่วงเย็น หลังจากที่ธานินทร์ออกกำลังกาย อาบน้ำอาบท่า และทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ เขาก็มักจะมานั่งทำงานต่อในห้องทำงานของเขาธานินทร์หนุ่มใหญ่ปัจจุบันอายุ 42 ปี ยังไม่ยอมมีใคร เขายังคงครองความเป็นโสดมาอย่างยาวนาน และยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้สวมแว่นสายตา แต่แว่นสายตายาวที่เขาสวมใส่อยู่ไม่สามารถบดบังความหล่อเหลาของเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียวใบหน้าหล่อเข้ม คมคาย ออกแนวดุนิดๆ เสื้อผ้าหน้าผมสะอาดสะอ้านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อสิบปีที่แล้วเนี๊ยบยังไง ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น เขากำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานท่าทางจริงจัง"คุณอาขา..." เสียงน้ำหนึ่งหลานสาวเพียงคนเดียวที่เขาอุปการะเลี้ยงดูเธอมาเป็นระยะเวลาสิบปีเต็ม วิ่งพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับเสียงหวานๆของเธอ เรียกคุณอาหนุ่มที่กำลังนั่งทำงานอยู่ ณ ตอนนี้ ปัจจุบันน้ำหนึ่งมีอายุ 21 ปีย่างเข้า 22 ปี เรียนใกล้จะจบแล้ว"ยิ้มมาแต่ไกลขนาดนี้ จะขออะไรก็ว่ามา" เสียงทุ้มเอ่ยถามหลานสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย แค่เห็นหน้าเขาก็รู้แล้วว่าหลานสาวของเขาต้องการอะไร"หนึ่งอยากไปเที่ยวกับเพื่อนๆพรุ่งน
ตอนที่ 8 แมวไม่อยู่หลายวันต่อมา...ช่วงเย็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ธานินทร์มักจะออกไปหาความสุขนอกบ้านตามประสาคนโสดเหมือนอย่างเคย"คุณอาไม่กลับบ้านอีกแล้ว..." น้ำเสียงเซ็งๆของน้ำหนึ่งพูดขึ้นเหมือนบ่น เมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าคุณอาของเธอเขาไปไหน ไปทำอะไร แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วทุกครั้งที่คุณอาออกจากบ้านไปนอนค้างคืนที่อื่น ความรู้สึกของน้ำหนึ่งเธอมักจะแอบเศร้าอยู่ในใจลึกๆ หม่นหมองไม่ร่าเริง ซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร เธอรู้แค่ว่าเธอไม่ชอบให้คุณอาออกไปทำเรื่องแบบนั้น แต่เธอก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นเด็ก ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจเท่านั้น"พรุ่งนี้เช้าเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ" เสียงพี่ชบาเอ่ยขึ้น ทุกคนรู้กัน น้ำหนึ่งเองก็ด้วย"ป้าคะ ถ้าอย่างนั้น หนึ่งขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้นะคะ พอดีเพื่อนมันชวน" ไหนๆคืนนี้คุณอาก็ไม่กลับบ้านอยู่แล้ว เธอรู้สึกเบื่อๆอย่างบอกไม่ถูก จึงอยากออกไปเที่ยวตามคำชวนของเพื่อนบ้าง ซึ่งเมื่อก่อนเธอไม่เคยไป แต่ตอนนี้เธอนึกอย่าลองไปบ้าง ถ้าไม่มีใครบอกยังไงคุณอาของเธอก็ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน"คุณหนูโตเป็นสาวแล้ว ควรจะขออนุญาตคุณนินก่อนดีกว่
ตอนที่ 9 หนูร่าเริง"ไอ้นิน...มึงดูสาวโต๊ะนั้นสิ สวยว่ะ" เพื่อนที่พากันมานั่งดื่มชี้ไปทางเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่นั่งกันอยู่ประมาณหกคน หนึ่งในนั้นมีสาวสวยสะดุดตา หุ่นก็ดี๊ดี ท่าเต้นนี้ไม่ต้องพูดถึง สดใสน่ารักสุดๆ หญิงสาวคนนั้นก็คือ...น้ำหนึ่ง!ธานินทร์หันไปมองตามที่เพื่อนบอก สิ่งที่เขาเห็นทำเอาเขาต้องขยับแว่นอยู่หลายครั้ง เนื่องจากเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นนั่งถัดออกไปค่อนข้างไกลพอสมควร มองไม่ค่อยชัด แต่เมื่อรู้สึกว่าใช่แน่ๆ"เดี๋ยวกูมา..." ธานินทร์ขยับแว่นแล้วขยับแว่นอีก มองยังไงก็ใช่ เขารีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าเข้มจัดอย่างเห็นได้ชัด แล้วเดินออกไปจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่ทันที เดินตรงไปที่โต๊ะของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นในแบบไม่พูดไม่จา"เฮ๊ย! ไอ้นิน ใจร้อนเหมือนเดิมตั้งแต่หนุ่มจนแก่เลยนะมึง" ธานินทร์ไม่ฟังเสียงใครหน้าไหนทั้งนั้น เขารีบเดินดุ่มๆไปหาเด็กวัยรุ่นโต๊ะนั้นทันที หนึ่งในนั้นแน่นอนว่ามีน้ำหนึ่งหลานสาววัยใสของเขานั่งอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเมาได้ที่พอสมควร จากที่ลุกยืนเต้น ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นนั่งขยับอยู่กับที่ เนื่องจากฤทธิ์น้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปมันออกฤทธิ์จนเธอทรงตัวยืนไม่ค่อยจะอยู่แล้ว
ตอนที่ 10 เถียงเก่งธานินทร์อุ้มหลานสาวของเขาขึ้นชั้นบนไป เมื่อเข้ามาถึงในห้อง เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ แต่...แขนของเธอที่กำลังคล้องอยู่ที่ต้นคอของเขา เธอไม่ยอมปล่อย แต่กลับรั้งเอาไว้แน่น เธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของคุณอาในระยะใกล้เพียงคืบ"คุณอาขา..." สายตาของเธอมองมาที่ใบหน้าของเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ ฝ่ามือเล็กเริ่มซุกซนเธอหยิบแว่นที่ธานินทร์สวมใส่อยู่ออกอย่างถือวิสาสะ แล้วยิ้มหวานให้เขา"หนึ่ง...ปล่อยอาก่อน" แขนอีกข้างรั้งอยู่ที่ต้นคอไม่ยอมปล่อย มืออีกข้างถอดแว่นคุณอาออก จากนั้นก็ยกขึ้นวางลงไปบนต้นคอของคุณอาเหมือนเดิม ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ"ไม่ปล่อย..." ธานินทร์รู้ดีว่าสิ่งที่น้ำหนึ่งกำลังแสดงออกอยู่ตอนนี้ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไป เขาพยายามแกะมือเล็กๆที่กำลังคล้องอยู่บนต้นคอของเขาออก แต่เธอไม่ยอมปล่อยออกให้ง่ายๆ"หนึ่งปล่อยอาเดี๋ยวนี้นะ""ไม่ปล่อย...หนึ่งขอกอดคุณอาแค่นิดๆหน่อยๆไม่ได้หรือไง ทีผู้หญิงอื่นคุณอายัง...""หนึ่ง!!" ธานินทร์ส่งเสียงดุ เขาไม่เคยได้ยินน้ำหนึ่งพูดแบบนี้มาก่อน ซึ่งสิ่งที่เขาทำมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก
ตอนที่ 11 ขอโทษหลังจากที่ธานินทร์เดินหนีออกไป น้ำหนึ่งจึงเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น"คุณหนู..." เสียงป้าแก้วร้องเรียก เมื่อท่านเห็นน้ำหนึ่งเดินคอตกเข้ามาหา"ฮึก!" ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาโดนแก้มนวลทั้งสองข้างของเธอ"ป้าบอกแล้วไงว่าอย่าออกไป ทำไมคุณหนูถึงไม่เชื่อป้า แล้วเป็นยังไงบ้าง โดนคุณอาตีมาหรือเปล่าคะ" พี่ชบาเดินเข้ามาลูบแผ่นหลังให้น้ำหนึ่งเบาๆเป็นการปลอบ"เปล่าค่ะ แต่คุณอาน่าจะโกรธหนึ่งมาก หนึ่งควรจะทำยังไงดีคะป้า" สีหน้าของคุณอาตอนที่เดินหนีเธอไป น้ำหนึ่งรู้สึกใจหายวาบ ในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาไม่แม้แต่สบตากับเธอเลยแม้แต่น้อย ซึ่งที่ผ่านๆมาธานินทร์ไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ใส่น้ำหนึ่งมาก่อน"คุณหนูเป็นเด็กต้องเข้าไปขอโทษคุณอาก่อนนะคะ ยังไงเขาก็เลี้ยงคุณหนูมา" ใบหน้าสวยตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เธอเสียใจ..."หนึ่งขอโทษคุณอาแล้วค่ะ แต่คุณอา...ฮึก! ไม่สนใจหนึ่งเลย...ฮึก!""รอให้คุณนินอารมณ์ดีกว่านี้หน่อยแล้วค่อยไปขอโทษใหม่ดีมั้ยคะ""ค่ะ หนึ่งไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย" น้ำหนึ่งปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวกๆ ยุทธที่กำลังนั่งมองดูอยู่ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป"มาทานข้าวก
ตอนที่ 12 หวั่นไหวธานินทร์เดินสวนเข้าไป ไม่แม้แต่จะมองหน้าหรือสบตากับน้ำหนึ่ง นั่นก็แสดงว่าเขายังโกรธเธออยู่ สิ่งที่ธานินทร์แสดงออกมาอย่างชัดเจนทำให้น้ำหนึ่งมีสีหน้าเศร้าลงทันที"คุณหนูคะ...พี่ชบาขี้เกียจเอายาขึ้นไปให้คุณนิน พี่ฝากคุณหนูเอาขึ้นไปให้หน่อยได้มั้ยคะ" สีหน้าของน้ำหนึ่งตอนนี้ทำให้ชบารู้สึกสงสาร ชบาจึงแสร้งทำเป็นไม่อยากขึ้นไป โดยให้น้ำหนึ่งเป็นคนเอายาขึ้นไปให้ธานินทร์แทน"ถ้าคุณอาไม่ยอมกินยาที่หนึ่งเอาขึ้นไปให้ล่ะคะ""คุณนินรักคุณหนูจะตาย เขาก็แค่งอน ง้อนิดง้อหน่อยเดี๋ยวเขาก็หายโกรธ เชื่อพี่ชบานะคะ" ชบาส่งยิ้มให้น้ำหนึ่งเป็นกำลังใจ"ก็ได้ค่ะ""สู้ๆนะคะ" น้ำหนึ่งรับเอายาพาราแก้ปวดและแก้วน้ำมาถือเอาไว้ในมือ จากนั้นเธอก็เดินขึ้นชั้นบนไป"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง ธานินทร์ถอดเสื้อเตรียมที่จะอาบน้ำ เขาจึงเดินออกมาเปิดประตูให้ เพื่อที่จะรับเอาแค่ยาเพราะคิดว่าเป็นชบา แต่คนที่เอายาขึ้นมาให้กลับเป็นน้ำหนึ่งทันทีที่ธานินทร์เห็นใบหน้าของน้ำหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าห้องของเขา เขาจึงหันหลังให้แล้วเดินหนีเข้าไปด้านในห้องทันที นั่นจึงทำให้น้ำหนึ่งต้องก้าวขาเดินตามเข้าไปในห้องแ
ตอนที่ 13 แกล้งหลับเช้าวันรุ่งขึ้น ธานินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนน้ำหนึ่ง เขาเห็นว่าเธอกำลังนอนกอดเขาอยู่ แน่นอนว่าเธอคงไม่รู้ตัว ทั้งขาทั้งแขนของเธอพาดอยู่บนตัวเขาอย่างเหนียวแน่น เธอคงคิดว่ากำลังนอนกอดหมอนข้างอยู่แน่ๆ ธานินทร์จะลุกออกไปก็ทำไม่ได้ จะปลุกให้เธอตื่นก็ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไงดีและแล้วฮอร์โมนเพศชายก็เริ่มทำงานแต่เช้า นกเขาใหญ่ที่กำลังนอนหลับอยู่ในกางเกงค่อยๆพองตัวขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายในช่วงเช้าๆแบบนี้ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ มีขาของใครบางคนมันกำลังกดทับเจ้านกเขาใหญ่ของเขาเอาไว้จนเริ่มรู้สึกอึดอัดธานินทร์ค่อยๆขยับขาของตัวเองออกเบาๆช้าๆ เพื่อให้ขาเล็กที่กำลังก่ายเขาอยู่ ให้เธอยกขาออกไปให้พ้นจากนกเขาใหญ่ของเขาที่มันกำลังโก่งคอขันยามเช้าทันใดนั้นน้ำหนึ่งก็เริ่มรู้สึกตัว เธอขยับตัวเล็กน้อย แล้วค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ส่วนคนที่ตื่นก่อนตอนนี้แกล้งหลับ ในใจนึกต่อว่าตัวเองเสียงดัง...นี่เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆขนาดนี้เลยเหรอ แถมเธอยังเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงมาไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนซึ่งความเป็นจริงเขาควรจะลุกขึ้นมาแล้วดุเธอสิถึงจะถูกต้อง เป็นผู้หญิงเข