แดดยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างกระจกของร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ดังแทรกเสียงพูดคุยของนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ ไทเกอร์นั่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน สายตาจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ แต่ความคิดลอยไปไกล
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากงานปาร์ตี้วันเกิดของมาร์ค ไทเกอร์พยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงการเจอกับเลโอ เขาเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน หลบมุมในโรงอาหาร และพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกมหาวิทยาลัยเมื่อไม่มีเรียน
"เฮ้! นั่นบอสกับพี่แฮมไม่ใช่เหรอ?" เสียงมาร์คดังขึ้น พลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะไทเกอร์
ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ ก่อนจะมองไปทางที่มาร์คพยักเพยิด เขาเห็นเพื่อนรุ่นพี่สองคนกำลังคุยกับสาวสวยกลุ่มหนึ่งที่โต๊ะใหญ่อีกฝั่งของร้าน
"อือ" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ
"มึงโอเคป่าววะ? ช่วงนี้ดูแปลกๆ " มาร์คถาม น้ำเสียงเจือความกังวล
"กูสบายดี" ไทเกอร์ตอบเร็วเกินไป
มาร์คเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร เขามองไทเกอร์อย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
"เรื่องนนนี่ เธอบอกกูว่าคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น" มาร์คเริ่มพูดถึงเรื่องวันนั้น
"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้
"แปลกนะเพราะปกติมึงไม่เคยปล่อยโอกาสดีๆ แบบนั้นหลุดมือไปเลย" " มาร์คบอกกับเสื้อผู้หญิงตัวพ่อที่ไม่เคยพลาด
ไทเกอร์ไม่ตอบ เขาจิบกาแฟและมองออกไปนอกหน้าต่าง
"หรือว่ามึงไปสนใจใครอื่นอยู่?" มาร์คหรี่ตาลง
"ไม่มี" เขาปฏิเสธ ไทเกอร์รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที
"แล้วที่มึงหายหัวไปหลายวัน แล้วก่อนหน้านั้นดันสนิทกับไอ้เลโอขึ้นมาทันที..." มาร์คพูดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหยุดกลางคัน ตาเบิกกว้างเหมือนมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา
"เฮ้ย..."
"อย่าคิดมาก กูแค่ไม่ค่อยสบาย เลยไม่ค่อยออกไปไหน" ไทเกอร์ตัดบท
"วันเสาร์นี้บอสจัดปาร์ตี้ที่บ้าน" เขาเปลี่ยนเรื่อง "เขาชวนมึงด้วย มึงไปมั้ย?" มาร์คยังคงมองเพื่อนด้วยสายตาสงสัย แต่ไม่ซักไซ้ต่อได้แต่ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย
"กูว่า คงไม่ไปว่ะ" ไทเกอร์ไปอย่างไม่ลังเล
"อะไรวะ มึงไม่เคยพลาดงานปาร์ตี้ของบอสนะ! มึงเป็นไรไหมนี่ " มาร์คทักท้วง
"กูแค่อยากอยู่เงียบๆ ช่วงนี้" ไทเกอร์ถอนหายใจ
"มีอะไรก็บอกกูได้นะเว้ย กูเป็นห่วงมึง" มาร์คพูดอย่างจริงจัง
"ไม่มีอะไรหรอก" ไทเกอร์ยืนยัน
ขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น ประตูร้านกาแฟเปิดออก และเลโอเดินเข้ามาพร้อมกับพีทเพื่อนสนิท สายตาของเลโอกวาดมองไปรอบร้านจนมาหยุดที่โต๊ะของไทเกอร์ ทั้งสองสบตากันชั่วขณะ ก่อนที่ไทเกอร์จะรีบหลบสายตา
"เฮ้ย นั่นไม่ใช่เลโอเหรอ?" มาร์คชี้ไป
"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า แกล้งยุ่งกับโทรศัพท์ของตัวเอง
"มึงไม่ทักเขาเหรอ? กูนึกว่าพวกมึงสนิทกัน" " มาร์คถาม
"ไม่เป็นไร เขากำลังคุยกับเพื่อนอยู่" ไทเกอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งที่ใจเต้นแรง
มาร์คมองไทเกอร์อย่างสงสัย แต่ไม่พูดอะไรอีก
ตอนเย็นวันเดียวกัน ที่ผับหรูย่านทองหล่อ ไทเกอร์นั่งอยู่ในบูธวีไอพีกับหญิงสาวผมบลอนด์ที่แนะนำตัวว่าชื่อแอมเบอร์ เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง
"คุณดื่มอะไรดีคะ?" แอมเบอร์ถาม ยิ้มหวาน
"วิสกี้โซดาครับ" ไทเกอร์ตอบ
แอมเบอร์หันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกรที่เข้ามาในบูธ ก่อนจะหันกลับมาหาไทเกอร์ด้วยรอยยิ้มเย้ายวน
"คุณเป็นเดือนคณะวิศวะนี่ใช่ไหมคะ? ฉันเคยเห็นรูปคุณในอินสตาแกรมของเพื่อน"
"ครับ" ไทเกอร์ตอบ พยายามยิ้มตอบ แต่ใจกลับไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หลังจากเหตุการณ์กับนนนี่ในคืนงานปาร์ตี้ ไทเกอร์ตัดสินใจที่จะออกเดทกับผู้หญิงให้มากขึ้น เพื่อพิสูจน์กับตัวเองว่าสิ่งที่เขารู้สึกกับเลโอเป็นเพียงความเข้าใจผิดชั่วขณะจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เท่านั้น นี่เป็นสาวคนที่สามในสัปดาห์นี้ที่เขาพาออกมาเดท แต่ไม่ว่าจะอยู่กับใคร ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม... ว่างเปล่าและขาดบางสิ่ง
แอมเบอร์คุยเก่งและน่าสนใจ แต่ไทเกอร์กลับไม่สามารถโฟกัสกับบทสนทนาได้ เขาฝืนยิ้มและพยักหน้าเป็นพักๆ แต่ความคิดของเขากลับลอยไปหาใบหน้าของเลโอที่เขาเห็นในร้านกาแฟวันนี้ ดวงตาเรียวคมที่มองเขาด้วยความสงสัยและเจือความผิดหวัง
"คุณกำลังฟังฉันอยู่รึเปล่าคะ?" แอมเบอร์ถาม น้ำเสียงเจือความน้อยใจ
"อ่า... ครับ ขอโทษครับ" ไทเกอร์รีบตอบ
"ฉันรู้สึกเหมือนคุณกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ คุณมีแฟนอยู่แล้วใช่ไหมคะ?" "แอมเบอร์พูด น้ำเสียงจริงจัง
"เปล่าครับ ผมไม่มีแฟน" ไทเกอร์ปฏิเสธ
"แต่มีคนที่คุณกำลังคิดถึงใช่ไหม?" แอมเบอร์ถามต่อ
ไทเกอร์ไม่ตอบ เขาจิบเครื่องดื่มแก้ปากแทน
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ... แต่น่าเสียดายนะ ฉันคิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้ดี" แอมเบอร์ถอนหายใจเบาๆ
"ผมขอโทษจริงๆ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยและฉลาดมาก แต่..." ไทเกอร์พูดอย่างจริงใจ
"แต่ใจคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันว่าคุณควรไปคุยกับคนที่คุณคิดถึงมากกว่านะคะ" แอมเบอร์ต่อให้ พร้อมยิ้มเศร้าๆ
ไทเกอร์ได้แต่นิ่งเงียบ คำพูดของแอมเบอร์ดังก้องในหัวของเขา
"ฉันว่าฉันจะกลับแล้วดีกว่า" แอมเบอร์ตัดสินใจ "ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่มนะคะ"
"ให้ผมไปส่งไหมครับ?" ไทเกอร์เสนอ
"ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนฉันอยู่อีกบูธหนึ่ง ฉันจะกลับกับเขา" " แอมเบอร์ส่ายหน้าและบอกไทเกอร์
หลังจากแอมเบอร์จากไป ไทเกอร์นั่งอยู่คนเดียวในบูธวีไอพี เขาถอนหายใจยาวและดื่มวิสกี้ที่เหลืออยู่ในแก้วหมดในอึกเดียว ความรู้สึกสับสนและข้องใจยังคงวนเวียนอยู่ในใจ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดแอพไลน์และเลื่อนหาชื่อเลโอ ข้อความล่าสุดที่พวกเขาคุยกันเป็นเพียงนัดหมายเรื่องการติวหนังสือเมื่อสองสัปดาห์ก่อน นิ้วของไทเกอร์ลังเลอยู่เหนือแป้นพิมพ์ เขาอยากส่งข้อความไปหาเลโอ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร จะบอกว่าขอโทษที่หลบหน้าเหรอ? หรือจะแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
"เฮ้อ..." ไทเกอร์ถอนหายใจ เก็บโทรศัพท์และเรียกบริกรมาคิดเงิน
วันต่อมา ที่โรงยิมของมหาวิทยาลัย ไทเกอร์กำลังเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อนอีกสองสามคน เขาเล่นอย่างเอาเป็นเอาตาย วิ่งไล่บอล กระโดดชู้ต และเบียดแย่งบอลอย่างไม่กลัวเหนื่อย ราวกับต้องการระบายอารมณ์บางอย่างออกมา
"เฮ้ย ไทเกอร์! เบาหน่อยวะ นี่แค่เล่นเพื่อความสนุกนะเว้ย"
มาร์คเอ่ยขึ้น หลังจากที่ไทเกอร์เบียดเขาอย่างแรงเพื่อแย่งบอล
"ขอโทษ" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ เหงื่อไหลโซมใบหน้า
"เป็นอะไรของมึงเนี่ย?" มาร์คถาม
"ไม่มีอะไร" ไทเกอร์ปฏิเสธ
"ไปพักกันดีกว่า" หนุ่มเสนอ พลางโยนบอลให้รุ่นน้องอีกกลุ่มที่รออยู่
พวกเขาเดินไปนั่งที่ม้านั่งริมสนาม ไทเกอร์ดื่มน้ำอึกใหญ่และเทน้ำราดศีรษะเพื่อให้เย็นลง
"อีกเดี๋ยวกูมีคลาสเลคเชอร์ รูมเมทมึงอยู่ในคลาสด้วย" มาร์คบอกพลางดูนาฬิกาข้อมือ
"รูมเมท?" ไทเกอร์ทวนคำ "กูไม่มีรูมเมทนะ"
"เปล่า กูหมายถึงเลโอ มึงเคยบอกว่าเขาไปค้างที่ห้องมึงบ่อยๆ ตอนมึงเพิ่งกลับมาเรียนใหม่ๆ" มาร์คอธิบาย
"เขาไม่ใช่รูมเมทกู" ไทเกอร์รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อเลโอ
"แล้วช่วงนี้เขาไม่ได้มาค้างที่ห้องมึงแล้วเหรอ?" มาร์คถามต่อ
"ไม่" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ
"แปลกจังวะ ช่วงนี้กูไม่ค่อยเห็นพวกมึงอยู่ด้วยกันเลย ทะเลาะกันรึเปล่า?" มาร์คทำหน้างง
"ไม่ได้ทะเลาะ แค่ต่างคนต่างยุ่ง" ไทเกอร์ปฏิเสธ
"เออ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย ทุกคนก็คงยุ่ง" มาร์คมองเพื่อนด้วยความสงสัย แต่ไม่ซักไซ้ต่อ
ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกโล่งอกที่มาร์คไม่ถามต่อ แต่ความจริงคือเขาเลือกที่จะไปห้องสมุดเพราะรู้ว่าเลโอกำลังจะเข้าคลาสเลคเชอร์ นั่นหมายความว่าเขาจะไม่เจอเลโอที่ห้องสมุดแน่นอน
ห้องสมุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์เงียบสงบในช่วงบ่ายแก่ มีนักศึกษาไม่กี่คนนั่งอ่านหนังสืออยู่กระจัดกระจาย ไทเกอร์เลือกมุมเงียบๆ ในสุด ห่างไกลจากทุกคน เขาวางกระเป๋าลงและหยิบหนังสือแคลคูลัสออกมา
แม้จะพยายามอ่านหนังสือ แต่สมาธิของเขากลับไม่อยู่กับเนื้อหาตรงหน้า ความคิดของเขาวนเวียนกลับไปที่คืนนั้นบนระเบียงของงานปาร์ตี้ ภาพของเลโอที่เปิดปากรับควันบุหรี่จากเขา ภาพที่เลโอป้อนวิสกี้ ความรู้สึกเมื่อริมฝีปากของพวกเขาเกือบสัมผัสกัน
"นี่มึงเป็นอะไรของมึงวะ!" ไทเกอร์บ่นกับตัวเองเบาๆ พยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปเขาพยายามอ่านหนังสือต่อ และในที่สุดก็สามารถจดจ่อกับเนื้อหาได้บ้าง แต่แล้วเสียงกระเป๋าวางลงบนโต๊ะฝั่งตรงข้ามก็ทำให้เขาเงยหน้าขึ้น
ไทเกอร์แทบหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าคนที่มานั่งตรงข้ามเขาคือเลโอ
"เฮ้" เลโอทัก เสียงเรียบ ใบหน้าไร้อารมณ์
"เฮ้ คลาสเลิกแล้วเหรอ?" ไทเกอร์ตอบกลับ พยายามทำเป็นปกติ
"อาจารย์ไม่มา เลยมาอ่านหนังสือแทน" เลโอตอบสั้นๆ
ไทเกอร์พยักหน้า ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ บรรยากาศระหว่างทั้งสองเต็มไปด้วยความอึดอัด
"ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้ามึงเลย" เลโอพูดขึ้น
"กู... ยุ่งน่ะ" ไทเกอร์แก้ตัว
"อืม" เลโอตอบรับ แต่สายตาบ่งบอกว่าเขาไม่เชื่อ
ความเงียบอึดอัดกลับมาอีกครั้ง เลโอหยิบหนังสือออกมาเปิดอ่าน ไทเกอร์ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือของตัวเอง แต่ไม่สามารถจดจ่อได้เลย ใจของเขาเต้นแรงและเร็ว เหมือนจะทะลุออกมาจากอก
"ถ้ากูทำอะไรให้มึงไม่พอใจก็บอกกูตรงๆ จะได้จบๆ กันไป" เลโอพูดขึ้นเบาๆ โดยไม่เงยหน้าจากหนังสือ
"มึงไม่ได้ทำอะไรผิด" ไทเกอร์รีบปฏิเสธและเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
"แล้วทำไมมึงถึงหลบหน้ากู?" เลโอถามตรงๆ สายตาจ้องมาที่ไทเกอร์อย่างจริงจัง
ไทเกอร์อ้าปากจะตอบ แต่กลับไม่มีคำพูดใดออกมา เขาไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะเขาเองก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง
"ถ้ามึงไม่อยากคบกับกูแล้ว ก็บอกมากูเข้าใจได้ " เลโอพูดต่อ น้ำเสียงเรียบแต่แฝงความเจ็บปวด
"ไม่ใช่แบบนั้น มันแค่... ซับซ้อนไทเกอร์ตอบเสียงสั่นเครือ
"ซับซ้อนยังไง?" เลโอถาม
"กูยังอธิบายไม่ได้" ไทเกอร์ส่ายหน้า
"ก็ได้ แต่ถ้ามึงพร้อมจะคุย กูอยู่ตรงนี้" เลโอถอนหายใจ
ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกแย่ที่ทำให้เลโอรู้สึกสับสน แต่เขาเองก็ยังสับสนไม่แพ้กัน
"ว่าแต่ มึงอ่านถึงไหนแล้ว? ใกล้สอบแล้ว" เลโอเปลี่ยนเรื่อง
"เพิ่งเริ่มอ่านเรื่อง Integrals" ไทเกอร์ตอบ ดีใจที่บทสนทนาเปลี่ยนไปเรื่องเรียน
บทสนทนาดำเนินต่อไปอย่างเนิบช้า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเรียน แม้บรรยากาศจะยังอึดอัด แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยพวกเขาก็ยังคุยกันได้ เมื่อถึงเวลาที่ห้องสมุดใกล้ปิด ทั้งสองเก็บของและเดินออกมาด้วยกัน
"มึงกลับยังไง?" เลโอถาม
"ขับรถ มึงล่ะ?" ไทเกอร์ตอบ
"รถเมล์" เลโอตอบ
"ให้กูไปส่งไหม?" ไทเกอร์เสนอ แม้จะกลัวที่จะอยู่ใกล้เลโอนานๆ แต่เขาก็ยังห่วง
"มึงแน่ใจเหรอ?" เลโอมองหน้าไทเกอร์อยู่ครู่หนึ่ง
"อืม มืดแล้วด้วย" ไทเกอร์พยักหน้า
"งั้น... ก็ได้" เลโอตอบรับ
ทั้งสองเดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน บรรยากาศระหว่างพวกเขายังคงตึงเครียด แต่ไม่มากเท่าก่อนหน้านี้ ไทเกอร์รู้สึกว่าอย่างน้อยวันนี้เขาก็ได้คุยกับเลโออีกครั้ง แม้จะยังไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงได้ ระหว่างขับรถส่งเลโอที่หอพัก ทั้งสองแทบไม่ได้พูดคุยกันเลย มีเพียงเสียงวิทยุเบาๆ และเสียงเครื่องยนต์รถเท่านั้นที่แทรกความเงียบ ไทเกอร์จอดรถหน้าหอพักของเลโอ ดับเครื่องยนต์ ความเงียบปกคลุมรถทันที
"ขอบคุณนะ" เลโอพูดขึ้น ขณะที่เริ่มเก็บของใส่กระเป๋า
"ไม่เป็นไร" ไทเกอร์ตอบ
เลโอจับประตูรถจะเปิด แต่แล้วก็ชะงัก เขาหันกลับมามองไทเกอร์ ดวงตาจ้องนิ่ง
"ถ้าวันนั้น... ที่งานปาร์ตี้ ถ้ากูทำอะไรเกินเลยไป กูขอโทษ" เลโอเริ่มพูดเสียงแผ่วเบา
"มึงไม่ได้ทำอะไรผิดกูนั่นแหละที่..." ไทเกอร์รู้สึกใจเต้นแรงและเขาตอบเสียงสั่นเครือ
"ที่อะไร?" เลโอถาม
"กูไม่รู้ กูสับสน กูไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกันแน่" ไทเกอร์ส่ายหน้า
"มึงรู้ไหม... บางทีการหลีกหนีความรู้สึกก็ไม่ได้ช่วยให้มันหายไป" เลโอมองไทเกอร์อย่างเข้าใจ นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดขึ้น
"ฝันดีนะ" เลโอพูดทิ้งท้าย ก่อนเปิดประตูรถและก้าวลงไป
ไทเกอร์ได้แต่นิ่งเงียบ คำพูดของเลโอเหมือนคมมีดที่กรีดลงบนหัวใจเขา
ไทเกอร์มองตามร่างของเลโอที่เดินเข้าไปในหอพัก ความรู้สึกหลากหลายแล่นปะทะกันในอก ทั้งความสับสน ความกลัว ความโหยหา และอีกมากมายที่เขาไม่อาจบรรยายได้
ไทเกอร์สตาร์ทรถและขับออกไป แต่แทนที่จะขับกลับเพนท์เฮาส์ของเขา เขากลับขับวนไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมาย ความคิดวนเวียนในหัวไม่จบสิ้น เขาเคยคิดว่าตัวเองรู้จักตัวเองดี รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ชอบอะไร และต้องการอะไร แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับพังทลายลงตรงหน้าเขา สิ่งที่เคยมั่นใจกลับกลายเป็นความสงสัย สิ่งที่เคยชัดเจนกลับพร่าเลือน
"กูจะทำยังไงดีวะ.." ไทเกอร์ถามตัวเองเบาๆ ขณะที่ขับรถผ่านถนนที่แสงไฟกำลังเริ่มสว่างในยามค่ำคืน ลึกๆ ในใจ
เขารู้คำตอบดีแต่การยอมรับมันอาจเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิตเขา
หลังจากการสอบปลายภาคผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ก็ถึงช่วงปิดเทอมเพื่อจะขึ้นปี 3 แดดส่องแสงสีทองปรอยๆ เข้ามาตามซอกผ้าม่านของหอพัก เลโอนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพข้างนอกเป็นตึกหอพักอีกหลังที่เกือบจะว่างเปล่า เขาเพ่งสายตาไปยังกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่เตรียมไว้บนพื้น เสื้อผ้าพับเรียบร้อยรอที่จะถูกใส่ลงไป แต่อีเมลที่เพิ่งเข้ามาเมื่อชั่วโมงก่อนทำให้แผนการกลับบ้านต้องล้มเลิก"เฮ้อ" เขาถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความจากพี่ชายอีกรอบ"น้องชาย ต้องขอโทษจริงๆ แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะเข้าทางใต้ ทางจังหวัดสั่งอพยพคนจากบริเวณชายฝั่งทั้งหมด รีสอร์ทเรารองรับคนอพยพหมดแล้ว พ่อกับแม่ต้องช่วยดูแลสถานการณ์ด่วน พี่กับพี่มิ้นท์ก็ไม่ได้กลับเหมือนกัน เอาไว้ตอนที่สถานการณ์เข้าที่เข้าทางแล้วค่อยกลับนะ"พอวางแผนจะกลับไปช่วยที่รีสอร์ทบ้าง เล่นกับหมาที่ดูแลมาตั้งแต่มัธยม ก็มีจังหวะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อไทเกอร์ปรากฏบนหน้าจอ"ว่าไง" เลโอรับสาย["มึงกลับบ้านวันนี้ใช่มั้ย?"] น้ำเสียงไทเกอร์ฟังดูร่าเริงผิดปกติ"เออ... จริงๆ แผนเปลี่ยนแล้ว บ้านกูมีเรื่องด่วน พายุลูกใหญ่กำลังจะเข้า ทุกคนยุ่งหมด เลยไม่ไ
ชีวิตในมหาวิทยาลัยกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังช่วงปิดเทอม นักศึกษาหลายคนยังคงมีแสงแดดของการพักผ่อนติดอยู่บนผิว บางคนดูซีดลงจากการเรียนซัมเมอร์ ลานหญ้าหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์แน่นขนัดไปด้วยนักศึกษาทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เสียงพูดคุยหัวเราะดังระงมไปทั่ว ปีนี้เลโออยู่ปี 3 และไทเกอร์อยู่ปี 4 แต่คาดว่าไทเกอร์น่าจะจบพร้อมกับเลโอไทเกอร์จอดรถสปอร์ตสีดำในที่จอดประจำ เขาสวมแว่นกันแดดสีเข้ม เสื้อยืดแบรนด์เนมสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบราคาแพง ดูสดใสและมีเสน่ห์เหมือนเคย เขาก้าวลงจาแชมป์ถพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง"เฮ้ย! ไทเกอร์! มานี่เว้ย!" มาร์คโบกมือเรียกจากใต้ต้นไม้ใหญ่ เขานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกสามคน ไทเกอร์โบกมือตอบ แต่ไม่ได้เดินตรงไปที่กลุ่มเพื่อนทันที เขามองหาใครบางคนในฝูงชน เดินวนเล็กน้อยพลางมองไปรอบๆ"มองหาใครวะ?" มาร์คตะโกนถาม"เดี๋ยว" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ จู่ๆ ใบหน้าของไทเกอร์ก็สว่างขึ้น เมื่อเห็นร่างคุ้นเคยกำลังเดินขึ้นบันไดคณะ"เลโอ!" เขาเรียกเสียงดังเลโอชะงักและหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นไทเกอร์ เขาก็ยิ้มและโบกมือทักทาย ไทเกอร์เดินเข้าไปหา ทั้งสองจับมือกันฉันเพื่อนและตบไหล่ก
เสียงฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนักหน่วงบนหลังคาหอพักนักศึกษา ท้องฟ้ามืดครึ้มแม้จะเป็นเวลาเพียงบ่ายสามโมง เลโอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เบื้องหน้าคือหนังสือและโน้ตที่เขาใช้เตรียมตัวสอบกลางภาค แต่ความสนใจของเขากลับจดจ่อกับเสียงน้ำฝนที่รั่วหยดลงมาจากเพดานห้อง กระป๋องและถังที่เขาวางรองน้ำไว้ส่งเสียงดังเป็นจังหวะ ตุ๊บ... ตุ๊บ... ตุ๊บ...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลโอเอื้อมมือไปหยิบและยิ้มเมื่อเห็นชื่อผู้โทรเข้า"ว่าไง?" เลโอรับสาย"มึงอยู่ไหนวะ?" เสียงของไทเกอร์ดังมาพร้อมกับเสียงฝนตกหนักในสาย"อยู่ห้อง ฝนตกหนักขนาดนี้จะไปไหนได้""พร้อมรึยัง? เรามีนัดซ้อมบาสห้าโมงนะ""กูว่าวันนี้คงต้องหยุดซ้อมแล้วล่ะ ห้องกูน้ำรั่วหนักมาก ต้องอยู่เฝ้าของด้วย" เลโอถอนหายใจ มองไปที่เพดานที่น้ำรั่วไม่หยุด"เฮ้ย! น้ำรั่วเหรอ?" น้ำเสียงของไทเกอร์เปลี่ยนเป็นกังวลทันที "แย่ขนาดนั้นเลย?""อืม หลังคาหอรั่วตรงห้องกูพอดี นี่ต้องวางกระป๋องรองน้ำไว้สามจุดแล้ว ไอ้พีทมันโชคดีย้ายออกไปอยู่กับแฟน กูเลยต้องเก็บของคนเดียว ""เดี๋ยวกูไปหามึงเลย""ไม่ต้องหรอก ฝนตกหนักขนาดนี้ อันตราย""กูอยู่แถวนั้นแล้ว กำลังจะไปรับมึงไปซ้อมบาสพอดี"ก
เสียงเพลงดังก้องไปทั่วเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์ ควันจากเครื่องทำหมอกและแสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่วห้องนั่งเล่นที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ปาร์ตี้ นักศึกษาประมาณยี่สิบคนกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ บางกลุ่มเต้นรำอยู่กลางห้อง บางกลุ่มยืนคุยกันที่ระเบียง และบางคนก็นั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่โซฟาไทเกอร์เดินไปมาระหว่างแขก คอยดูแลให้ทุกคนมีเครื่องดื่มและอาหารว่างเพียงพอ เขายิ้มและทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง แต่สายตากลับมองหาใครบางคนตลอดเวลา"เลโอยู่ไหนวะ?" ไทเกอร์ถามมาร์คที่กำลังผสมเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์"น่าจะอยู่ในครัวมั้ง มึงตามหาเมียบ่อยเกินไปแล้วนะเว้ย" มาร์คตอบพลางยักคิ้ว"เมียอะไรของมึง? กูแค่ถามว่ามันอยู่ไหน" ไทเกอร์แย้ง แต่หูก็แดงขึ้นเล็กน้อย"เออๆ เชื่อมึงละกัน แต่กูเห็นมันอยู่กับไอ้แชมป์ที่ระเบียงนะเมื่อกี้"มาร์คยิ้มล้อ"ไอ้แชมป์? มาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ไทเกอร์ชะงัก"เมื่อกี้นี่เองแหละ มาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน"ไม่รอช้า ไทเกอร์เดินตรงไปที่ระเบียง ที่นั่นเขาเห็นเลโอยืนคุยกับแชมป์และเพื่อนอีกสองคน ทั้งสี่ดูสนุกกับการสนทนา เลโอยิ้มและหัวเราะกับเรื่องที่แชมป์เล่า"เฮ้ย ไทเกอร์! มาพอดีเลย พี่แชมป์
เสียงนาฬิกาปลุกดังกังวานทั่วห้องนอนของเลโอ ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวที่คุ้นเคย แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านม่านสีเทาเข้ามาในห้อง เขาเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาแล้วนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์เงียบผิดปกติในเช้าวันเสาร์นี้ ปกติเจ้าของห้องมักตื่นแต่เช้าและออกไปวิ่งทุกวันเสาร์ แต่วันนี้ไม่มีเสียงเจ้าของบ้านเดินไปมาหรือเปิดตู้เย็นเหมือนทุกวัน เลโอลุกจากเตียงเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่มีวี่แววของไทเกอร์"แปลกแฮะ" เลโอพึมพำกับตัวเอง เขามองนาฬิกาบนผนัง เวลา 7.30 น. ไทเกอร์ไม่เคยออกไปวิ่งเร็วขนาดนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค พบข้อความจากไทเกอร์ที่ส่งมาเมื่อตอนตี 5[ไทเกอร์ 05:13]: มีธุระด่วนต้องออกไปแต่เช้า อาจจะกลับดึกนิดนึง กินข้าวเองนะเลโอขมวดคิ้ว นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับไทเกอร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกไปแต่เช้าโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้ แต่เขาก็ไม่คิดมาก ธุระของแต่ละคนก็เป็นเรื่องส่วนตัวเลโอเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเดินไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นหาอะไรกิน พบขนมปังและไข่ที่เหลืออยู่ เขาตัดสินใจทำไข่ดาวง่ายๆ กับขนมปังปิ้ง กิน
เลโอยืนฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างอึดอัด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นไทเกอร์คุยกับพิม"รู้สึกหงุดหงิดล่ะสิ?" แอนเดินมาถามเบาๆ ขณะยื่นป๊อปคอร์นมาให้เลโอ"หา? อะไรนะ?" เลโอเลิกคิ้ว ทำเป็นไม่เข้าใจ"ไม่ต้องปากแข็งหรอก กูเห็นมึงมองไทเกอร์กับพิมแบบไม่พอใจ" แอนพูดยิ้มๆ"กูไม่ได้..." เลโอเริ่มปฏิเสธ"เฮ้ย พวกเรา ตั๋วได้แล้ว" มาร์คเดินมาขัดจังหวะพอดี เขาแจกตั๋วให้ทุกคน "เข้าไปกันเถอะ หนังกำลังจะเริ่มแล้ว"ทุกคนเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ที่นั่งถูกจัดให้นั่งติดกันเป็นกลุ่ม เลโอนั่งอยู่ระหว่างไทเกอร์กับมาร์ค ส่วนพิมนั่งอีกด้านของไทเกอร์ ตามด้วยแอน จิม และหนุ่มไฟในโรงภาพยนตร์ค่อยๆ หรี่ลง และหนังเริ่มฉาย เลโอพยายามตั้งใจดูหนัง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าพิมพยายามชวนไทเกอร์คุยเป็นระยะๆ ประมาณครึ่งทางของหนัง มีฉากตื่นเต้น ไทเกอร์เอื้อมมือมาจับแขนเลโอโดยไม่รู้ตัว เลโอรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก ปล่อยให้ไทเกอร์จับแขนเขาไว้สักพักหนึ่ง"เฮ้ย ตกใจชิบหาย" ไทเกอร์กระซิบ ก่อนจะปล่อยมือออกเลโอพยักหน้า แล้วกลับมาตั้งใจดูหนังต่อ แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ว่าพิมเอนตัวมาใกล้ไทเกอร์มากขึ
"มึงจะไม่ไปจริงๆ เหรอวะ?" มาร์คถามไทเกอร์ที่กำลังพิมพ์อะไรบางอย่างในโทรศัพท์ บรรยากาศในร้านกาแฟของมหาวิทยาลัยเริ่มจะวุ่นวายมากขึ้นเมื่อช่วงเวลาหลังเลิกเรียนมาถึง"เรื่องอะไร?" ไทเกอร์ละสายตาจากโทรศัพท์ เขาหยิบกาแฟลาเต้ขึ้นมาจิบ พยายามทำตัวเฉยชาทั้งที่รู้ว่ามาร์คกำลังจะพูดถึงอะไร"ปาร์ตี้ฉลองวันเกิดกูไง เฮ้ย นี่มึงลืมแล้วจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย?" มาร์คถามด้วยสีหน้าระคนขำและรำคาญ"ปกติมึงเป็นคนแรกที่ตอบรับเรื่องปาร์ตี้ทุกที" มาร์คแกล้งถามไทเกอร์ถอนหายใจ เขามองไปที่ตารางเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะ ด้านบนสุดเต็มไปด้วยกำหนดส่งงานหลายชิ้นที่เขายังไม่ได้เริ่มทำ แม้ว่าเขาจะพยายามตั้งใจเรียนมากขึ้นตามคำแนะนำของเลโอ แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับเขา"กูมีงานเยอะอะ มึงรู้ว่ากูต้องส่งพรีเซนเทชั่นงานวิจัยให้อาจารย์ภพวันจันทร์ แล้วกูยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย" ไทเกอร์พยายามอ้างเหตุผล"ไทเกอร์ ภูริ กำลังจะพลาดปาร์ตี้คืนวันศุกร์เพราะงานเรียน? กูฟังแล้วไม่อยากเชื่อเลยว่ะ ใครๆ ก็รู้ว่ามึงทำงานวันสุดท้ายพอดีเดดไลน์ได้เสมอแหละ" "กูพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างอะไรบ้าง"ไทเกอร์ทำหน้าเซ็ง"แกล้งทำงานเพื่ออยู่บ้านกับเลโอ
ประตูเพนท์เฮาส์ปิดลงเบาๆ ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่แทรกตัวอยู่ระหว่างสองร่างในความมืด ไทเกอร์ยังคงพยุงเลโอที่เดินโซเซ ร่างกายของเขาร้อนผ่าวจนไทเกอร์รู้สึกได้ผ่านเสื้อผ้า"กูอยากไปโรงแรม ปล่อยกูไปสิ อะไรของมึงเนี่ย" เลโอพึมพำ พยายามขยับตัวออกจากไทเกอร์ไทเกอร์เปิดไฟในห้องนั่งเล่น แสงสว่างนวลๆ ทำให้เขาได้เห็นใบหน้าของเลโอชัดเจน ผิวที่แดงก่ำ ดวงตาที่เริ่มมีหมอกคลุม และเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก ไทเกอร์รู้สึกหวิวในอก เมื่อเห็นเลโอในสภาพนี้"ใจเย็นๆ ก่อน" ไทเกอร์พูดเสียงนุ่ม พาเลโอไปนั่งที่โซฟา "มึงถูกใส่ยา สติมึงไม่ได้อยู่กับตัวเต็มร้อย""กูรู้! แต่ร่างกายกูมันทนไม่ไหว มึงไม่เข้าใจหรอก มันเหมือน... เหมือนจะระเบิด ไอ้เหี้ยบอส มันต้องเป็นคนทำแน่ๆ" เลโอตอบเสียงดังไทเกอร์นั่งลงข้างๆ เลโอ เขารู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกคำพูดที่จะหลุดออกจากปากตอนนี้ มันอาจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นเลโอทรมานแบบนี้ได้"กูเข้าใจ และกูจะช่วยมึงเอง" ไทเกอร์พูดเสียงแผ่ว มองตาเลโอโดยตรง"มึงจะช่วยยังไง? เพ้อเจ้อน่า" เลโอหัวเราะแห้งๆ“กูบอกว่าจะช่วยมึงเอง ให้กูช่วยมึงนะ”ไทเกอร์ไม่ตอ
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่
ไทเกอร์หยุดอยู่ที่ประตูห้อง หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง ยังรู้สึกถึงรสจูบของเลโอติดอยู่ ส่วนหนึ่งของเขาอยากวิ่งกลับเข้าไปหาเลโอ แต่อีกส่วนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"พรุ่งนี้...กูต้องรอพรุ่งนี้" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากห้องไทเกอร์ถูกสวมกอดจากด้านหลังโดยเลโอ ตอนนี้เขาไม่มัวรีรอแล้ว เขาจะทำตามหัวใจตัวเองพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไทเกอร์รั้งร่างของเลโอเข้ามาในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะลงบนซอกคอ เลโอสะดุ้ง แต่ไม่ผลักไส ความร้อนจากร่างกายของไทเกอร์แผ่ซ่านผ่านเสื้อผ้า ปลุกความรู้สึกที่ถูกฝังลึกในใจให้ตื่นขึ้น"ไม่ทันได้บอกลากันเลย คิดถึงกูบ้างไหม" ไทเกอร์กระซิบข้างหู ลิ้นร้อนแตะแผ่วเบาที่ติ่งหู"อื้มม...มึง...มึงทำอะไรเนี่ย..."เลโอครางแผ่ว ร่างเขาสั่นสะท้านเมื่อไทเกอร์ดูดติ่งหูไทเกอร์ไม่ตอบ เขาหมุนร่างเลโอให้หันมาเผชิญหน้า ประกบริมฝีปากลงแรงๆ ลิ้นร้อนดุนดันผ่านริมฝีปากที่เผยอ เลโอโอบแขนรอบคอไทเกอร์ทันที ไม่มีความลังเล ไม่มีการผลักไส มีเพียงความกระหายที่ถูกกดทับมานานแสนนาน"กูคิดถึงมึง..." เลโอละริมฝีปากออกพร่ำบอก
แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกในห้องประชุมของโรงแรมริมทะเลในสุราษฎร์ธานี ไทเกอร์กำลังนำเสนอความคืบหน้าของโปรเจครีสอร์ทหรูให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ เขาอธิบายถึงแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานธรรมชาติกับความหรูหราได้อย่างลงตัว พร้อมฉายสไลด์แบบจำลอง 3 มิติที่สวยงาม"และนี่คือแนวคิดห้องพักวิลล่าริมทะเลที่เราวางแผนจะสร้างในเฟสแรก โดยออกแบบให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก และใช้วัสดุท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ไทเกอร์อธิบายอย่างมั่นใจเลโอนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะประชุมด้านขวามือของผู้บริหารทวีวงศ์กรุ๊ป เขามองไทเกอร์อย่างชื่นชมโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มตรงหน้าช่าง... เปลี่ยนไปจากที่เคยรู้จักเมื่อห้าปีก่อน ไม่มีท่าทีหยิ่งยโส ไม่มีคำพูดเหยียดหยาม มีแต่ความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพ"ขอบคุณคุณภูริสำหรับการนำเสนอที่น่าประทับใจ" ประธานบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปกล่าว "ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเราควรฟังความเห็นจากทีมงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเราบ้าง คุณกัณต์ดนัย?"เลโอสะดุ้งเล็กน้อย รีบลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ด้านหน้าห้องประชุม เขาและไทเกอร์สบตากันชั่วครู่ ไทเกอร์ยิ้มและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งในที่ของเลโอ"ขอบคุณครับ" เลโอเปิ
แสงแดดสาดส่องลงมาบนแบบจำลองอาคารขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องประชุม ทีมงานจากสองบริษัทยืนล้อมรอบโต๊ะ ทุกคนก้มมองแบบจำลองด้วยความตื่นเต้น โปรเจคนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ หลังจากใช้เวลาวางแผนมาสองเดือนเต็ม"ผมคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนตำแหน่งสระว่ายน้ำมาตรงนี้" ไทเกอร์ชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของแบบจำลอง "จะให้มุมมองที่สวยกว่า และลดผลกระทบต่อต้นไม้ใหญ่ด้วย"ไทเกอร์ยังต้องใช้สายซัพพอร์ตแขน แต่ความเจ็บปวดลดลงมากแล้ว การทำงานช่วงนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดถึงความเจ็บ"เป็นความคิดที่ดี การออกแบบแบบนี้ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น" เลโอพิจารณาแบบจำลองอย่างละเอียด สายตาของทั้งสองสบกันชั่วครู่ ก่อนที่เลโอจะหันไปคุยกับวิศวกรคนอื่นๆ ต่อสามสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่ไทเกอร์ออกจากโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลโอเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังคงห่างเหินและเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีความเย็นชาหรือความขัดแย้งเหมือนช่วงแรกอีกต่อไป"มีอะไรอีกไหมครับสำหรับวันนี้?" ไทเกอร์ถามทีมงาน"ผมคิดว่าเรามาถึงจุดที่ต้องเริ่มพูดถึงวัสดุที่จะใช้แล้วครับ" วิศวกรคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เรื่องนี้ทีมอิงทวีกรุ๊ปมีความเชี่ยวช
แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านสีขาวของห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ไทเกอร์นั่งพิงหมอนบนเตียง แขนซ้ายถูกยกสูงด้วยอุปกรณ์พยุง มีเหล็กดามกระดูกพันด้วยผ้าพันแผลสะอาด บนโต๊ะข้างเตียงมีแจกันดอกไม้และผลไม้ที่เพื่อนร่วมงานส่งมาให้ ไทเกอร์วางไอแพดที่กำลังใช้ทำงานลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ประตูเปิดออก มาร์คโผล่หน้าเข้ามาก่อน ตามด้วยช่อดอกไม้ใหญ่"เข้ามาได้ครับ" เขาตอบ"ไง ไอ้แขนเดี้ยง ดูท่าจะสบายดีนี่หว่า" มาร์คทัก พลางเดินเข้ามาในห้อง"ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ยังดีที่แขนขวาใช้งานได้ปกติ" ไทเกอร์ยิ้ม มาร์ควางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ หย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง"เฮ้ย นี่มึงยังทำงานอีกเหรอ?" เขาชี้ไปที่ไอแพดและเอกสารกองเล็กๆ บนเตียง"ทำไปเรื่อยๆ ดีกว่านอนเฉยๆ" ไทเกอร์ตอบ "โปรเจคยังต้องเดินหน้าต่อ""กูว่าเจ้าคุณมึงน่าจะเข้าใจนะถ้ามึงพักสักหน่อย""พ่อเข้าใจ แต่กูไม่อยากพักยาว" ไทเกอร์เอ่ย ตาจ้องมองไปที่หน้าต่าง "มีอะไรบางอย่างที่กูต้องพิสูจน์""มันเกี่ยวกับเลโอใช่ไหม?" มาร์คมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณาไทเกอร์ไม่ตอบ แต่สีหน้าบอกคำตอบได้ชัดเจน"เลโอช่วยชีวิตมึงเหรอจริงๆ?" มาร์คถาม"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า "ถ้าไม่ได้เ