เสียงฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนักหน่วงบนหลังคาหอพักนักศึกษา ท้องฟ้ามืดครึ้มแม้จะเป็นเวลาเพียงบ่ายสามโมง เลโอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เบื้องหน้าคือหนังสือและโน้ตที่เขาใช้เตรียมตัวสอบกลางภาค แต่ความสนใจของเขากลับจดจ่อกับเสียงน้ำฝนที่รั่วหยดลงมาจากเพดานห้อง กระป๋องและถังที่เขาวางรองน้ำไว้ส่งเสียงดังเป็นจังหวะ ตุ๊บ... ตุ๊บ... ตุ๊บ...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลโอเอื้อมมือไปหยิบและยิ้มเมื่อเห็นชื่อผู้โทรเข้า
"ว่าไง?" เลโอรับสาย
"มึงอยู่ไหนวะ?" เสียงของไทเกอร์ดังมาพร้อมกับเสียงฝนตกหนักในสาย
"อยู่ห้อง ฝนตกหนักขนาดนี้จะไปไหนได้"
"พร้อมรึยัง? เรามีนัดซ้อมบาสห้าโมงนะ"
"กูว่าวันนี้คงต้องหยุดซ้อมแล้วล่ะ ห้องกูน้ำรั่วหนักมาก ต้องอยู่เฝ้าของด้วย" เลโอถอนหายใจ มองไปที่เพดานที่น้ำรั่วไม่หยุด
"เฮ้ย! น้ำรั่วเหรอ?" น้ำเสียงของไทเกอร์เปลี่ยนเป็นกังวลทันที "แย่ขนาดนั้นเลย?"
"อืม หลังคาหอรั่วตรงห้องกูพอดี นี่ต้องวางกระป๋องรองน้ำไว้สามจุดแล้ว ไอ้พีทมันโชคดีย้ายออกไปอยู่กับแฟน กูเลยต้องเก็บของคนเดียว "
"เดี๋ยวกูไปหามึงเลย"
"ไม่ต้องหรอก ฝนตกหนักขนาดนี้ อันตราย"
"กูอยู่แถวนั้นแล้ว กำลังจะไปรับมึงไปซ้อมบาสพอดี"
ก่อนที่เลโอจะทันทัดทาน สายก็ตัดไป ประมาณสิบห้านาทีต่อมา เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เลโอเปิดประตูพบไทเกอร์ยืนอยู่ด้านนอก ตัวเปียกปอนจากฝน
"มึงบ้าเหรอ? ทำไมไม่ใช้ร่ม?" เลโอดุ พลางดึงไทเกอร์เข้ามาในห้อง
"ลืมไว้ในรถ เฮ้ย... แย่จริงๆ ด้วย" ไทเกอร์ตอบ พลางเหลือบมองไปที่เพดานห้องและกระป๋องที่รองน้ำอยู่
"บอกแล้วไง กูเลยต้องยกของหนีน้ำทั้งคืน"
ไทเกอร์เดินสำรวจห้องไปรอบๆ สังเกตเห็นหนังสือเรียนและเอกสารสำคัญที่เลโอพยายามกองไว้ตรงมุมห้องที่แห้งที่สุด กับผนังที่เริ่มมีคราบน้ำและเชื้อรา
"แจ้งผู้จัดการหอหรือยัง?"
"แจ้งแล้ว บอกว่าจะมาดูให้ แต่ก็หายเงียบ" เลโอถอนหายใจ "คงรอให้ฝนหยุดก่อนมั้ง"
ไทเกอร์ขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง ก่อนจะพูดขึ้น
"ย้ายออกมาอยู่กับกูมั้ย?"
"อะไรนะ?" เลโอชะงัก หันมามองหน้าไทเกอร์
"กูมีเพนท์เฮาส์ขนาดใหญ่ มีห้องว่างเยอะแยะ กว้างกว่านี้เป็นสิบเท่า ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ"
"ค่าเช่าเท่าไหร่..."
"จะค่าเช่าอะไรวะ มึงไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น" " ไทเกอร์โบกมือไปมา
"มึงจะให้กูอยู่ฟรีเหรอ ไม่ได้หรอก มันไม่ยุติธรรมกับมึง"
"งั้นมึงก็ช่วยกูเรื่องเรียนแทนก็ได้" ไทเกอร์เสนอด้วยรอยยิ้ม "กูอยากได้เกรดดีๆ เทอมนี้ มึงเก่งออกอยู่แล้ว ช่วยกูติวหน่อยก็พอ"
เลโอมองไทเกอร์อย่างลังเล เขารู้ดีว่านี่เป็นแค่ข้ออ้าง ไทเกอร์ช่วยเขาเพราะเห็นว่าเขาลำบาก แต่การย้ายไปอยู่ด้วยกันมันเป็นเรื่องใหญ่
"กูไม่รู้ว่ะ..." เลโอลังเล "แต่ที่หอมึงคงหรูมาก กูจะเข้ากับสิ่งแวดล้อมตรงนั้นได้เหรอ?"
"เฮ้ย กูอยู่คนเดียวตั้งแต่เข้ามหาลัย น่าเบื่อจะตาย ถ้ามีมึงอยู่ด้วยคงสนุกขึ้นเยอะ" ไทเกอร์รบเร้า
"นะๆ ย้ายมาเถอะ อย่างน้อยก็แค่ช่วงฝนนี้ก็ได้ รอให้หอซ่อมหลังคาเสร็จค่อยตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายกลับ"
เลโอมองไปที่กองหนังสือที่เขาพยายามเก็บให้พ้นน้ำ แล้วมองไปที่เพดานที่ยังคงหยดน้ำลงมาไม่หยุด ในใจก็รู้ว่าการอยู่ที่นี่ต่อไปในช่วงหน้าฝนคงเป็นเรื่องยาก
"เออ... เอาก็ได้ แต่ขอแค่ช่วงฝนนี้นะ พอหอซ่อมเสร็จกูจะย้ายกลับ"
"เยี่ยมเลย! มา เก็บของกันเลย วันนี้ย้ายเลย" ใบหน้าของไทเกอร์เปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม
"วันนี้เลยเหรอ?"
"อืม กูเอารถมา เอาของจำเป็นไปก่อน ที่เหลือค่อยมาเอาทีหลัง"
แล้ว "เออ งั้นกูเก็บของแป๊บนึง" เลโอรู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน แต่เขาก็ตัดสินใจไปอยู่กับไทเกอร์ซะแล้ว
เพนท์เฮาส์ของไทเกอร์ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของคอนโดหรูย่านใจกลางกรุง ภายในกว้างขวางเกินกว่าที่เลโอจะจินตนาการได้ มีห้องนั่งเล่นโอ่โถง ระเบียงกว้างที่มองเห็นวิวเมือง ห้องครัวทันสมัย และห้องนอนอีกสามห้อง
"นี่ห้องกู" ไทเกอร์ชี้ไปที่ห้องสุดทางด้านซ้าย
"และนี่จะเป็นห้องมึง" เขาเปิดประตูห้องฝั่งตรงข้าม
เลโอเดินเข้าไปในห้องที่จะเป็นของเขา ภายในมีเตียงขนาด Queen size โต๊ะทำงานไม้สีเข้ม ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และหน้าต่างบานกว้างที่มองเห็นวิวเมืองในมุมที่สวยงาม
"เฮ้ย... นี่มันใหญ่กว่าห้องกูที่หอตั้งสามเท่า"
"บอกแล้วไง" ไทเกอร์ยิ้มภูมิใจ "มีห้องน้ำในตัวด้วยนะ ตรงนั้น"
เลโอเดินสำรวจห้องน้ำที่ปูด้วยหินอ่อน มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกส่วน
"จริงด้วย เดี๋ยวกูอาบน้ำก่อน มึงจัดของตามสบายเลยนะ" ไทเกอร์มองตัวเองที่ยังเปียกน้ำฝนและพยักหน้า
เมื่อไทเกอร์ออกไปแล้ว เลโอก็เริ่มจัดของที่นำมา เขาไม่ได้เอาอะไรมามากนัก แค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุด หนังสือเรียนที่จำเป็น และของใช้ส่วนตัว เขาวางรูปครอบครัวที่ถ่ายร่วมกันไว้บนโต๊ะข้างเตียง และจัดหนังสือเรียงบนชั้นหนังสือที่มีอยู่แล้วในห้อง
ไม่นานไทเกอร์ก็กลับมาพร้อมกับผมเปียกหมาดๆ และกลิ่นแชมพูหอมๆ
"จัดเสร็จแล้ว?" เขาถาม พลางเดินเข้ามาในห้อง
"อืม ของกูไม่เยอะเท่าไหร่" เลโอตอบ
"ห้องนี้เป็นของมึงแล้วนะ จะตกแต่งยังไงก็ได้ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็บอก"
"ขอบใจมากนะ"
"ไม่เป็นไร ไปซื้อของกันเถอะ ตู้เย็นกูว่างเปล่า" ไทเกอร์ยิ้ม
ทั้งสองลงไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ด้วยกัน ซื้ออาหารและของใช้จำเป็นกลับมาเต็มรถ พวกเขาช่วยกันจัดของเข้าตู้เย็นและตู้เก็บของในครัว บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน ตอนเย็น พวกเขานั่งกินพิซซ่าที่สั่งมาด้วยกันที่โซฟาในห้องนั่งเล่น พร้อมกับดูหนังในทีวีจอใหญ่
"กูขอบใจจริงๆ นะ ที่ช่วยกูตอนลำบาก" เลโอขอบใจไทเกออร์
"เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ กูแค่อยากช่วย" ? ไทเกอร์ตอบ พลางยิ้ม
สองสัปดาห์ผ่านไป เลโอเริ่มปรับตัวเข้ากับการอยู่ที่เพนท์เฮาส์กับไทเกอร์ได้ดีขึ้น แม้ในตอนแรกเขาจะรู้สึกเกร็งกับการอยู่ร่วมกัน แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น
เช้าวันเสาร์ เลโอตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นกาแฟหอมๆ เขาเดินออกมาจากห้องและพบว่าไทเกอร์อยู่ในครัว กำลังทำอาหารเช้า
"ตื่นแล้วเหรอ? กูทำแซนด์วิชกับไข่ดาว" ไทเกอร์ทัก
"ไม่นึกว่ามึงจะทำอาหารเป็น" เลโอแซว พลางเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์
"อย่างกูเนี่ยนะ อยู่คนเดียวมาหลายปีแล้ว ต้องทำเป็นบ้างสิวะ" ไทเกอร์ตอบ พลางวางจานอาหารเช้าตรงหน้าเลโอ
"กาแฟไหม?"
"ขอด้วย"
ทั้งสองนั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน พูดคุยถึงแผนในวันหยุด ไทเกอร์เสนอให้ไปซื้อของเพิ่มเติมสำหรับห้องของเลโอและซื้อเสื้อผ้าใหม่บ้าง
"ผู้จัดการหอโทรมาหรือยัง?" ไทเกอร์ถาม
"โทรมาเมื่อวาน บอกว่าซ่อมหลังคาเสร็จแล้ว"
"แล้วมึงจะย้ายกลับเมื่อไหร่?"
"กู... ยังไม่ได้คิดเลย"
"อยู่ต่อก็ได้นะ" ไทเกอร์เสนออย่างเร็ว "
"กูรู้สึกเกรงใจ..."
"อย่าคิดมาก มึงช่วยกูเรื่องเรียนเยอะแยะ ช่วยกูฝึกซ้อมบาส เป็นเพื่อนกูมาดูหนัง... มันคุ้มกว่าที่มึงคิดอีก"
"งั้นกูขอคิดดูอีกสักพักนะ"เลโอยิ้ม คอนโดที่พ่อซื้อไว้เลโอเพิ่งปล่อยเช่าให้ผู้เช่าคนใหม่ไปเมื่อสามเดือนก่อนเพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้อยู่เลย จริงๆแล้วเขาสามารถหาคอนโดเช่าได้ง่ายดายแต่ทำไมถึงตัดสินใจตามคำชวนของไทเกอร์ เลโอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
"ตกลง แต่รู้ไว้เลยว่ากูอยากให้มึงอยู่ต่อ" ไทเกอร์พูดตรงๆ
ตกเย็นทั้งสองกลับมาที่เพนท์เฮาส์พร้อมถุงช้อปปิ้งหลายใบ พวกเขาซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เลโอ รวมถึงของตกแต่งห้องเล็กๆ น้อยๆ
"ไทเกอร์" เลโอเรียก ขณะกำลังช่วยกันเก็บของ
"หืม?"
"กูตัดสินใจแล้ว... กูจะอยู่ต่อแต่กูจะจ่ายค่าอาหารกับค่าน้ำค่าไฟด้วย” " เลโอพูดพลางยิ้ม "
"จริงดิ? มึงจะอยู่ต่อจริงๆ เหรอ?" ใบหน้าของไทเกอร์สว่างขึ้นทันที
"อืม ที่นี่สะดวกกว่า ใกล้มหาลัยกว่า แล้ว... กูก็ชอบอยู่กับมึงเหมือนกัน"
"เยี่ยมมาก! เดี๋ยวเราฉลองกัน กูจะโทรสั่งอาหารพิเศษ" ไทเกอร์ยิ้มกว้าง
คืนนั้น พวกเขาฉลองด้วยอาหารญี่ปุ่นจากร้านดังและไวน์หนึ่งขวด นั่งคุยกันยาวนานบนระเบียง ท่ามกลางแสงไฟเมืองยามค่ำคืน
"กูไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมาเป็นเพื่อนกันได้ขนาดนี้" เลโอเอ่ยขึ้น หลังจากจิบไวน์ไปหนึ่งแก้ว
"กูก็เหมือนกัน" ไทเกอร์พยักหน้า "ชีวิตบางทีก็แปลกดีเนอะ"
"มึงจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้มั้ย? ตอนลงทะเบียน"
"อย่าพูดถึงเลยเว้ย กูอายจะตายอยู่แล้ว กูทำตัวเหี้ยมาก"
" แต่มึงเปลี่ยนไปเยอะนะ"
"กูพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นเพราะมึงด้วย" ไทเกอร์จ้องตาเลโอ
"เพราะกู?" เลโอทำหน้างง
"มึงทำให้กูเห็นว่าการเป็นตัวของตัวเองมันโอเคกว่าการสร้างภาพ มึงเป็นคนจริงๆ เลโอ ไม่เคยแสแสร้ง ไม่เคยสนใจสายตาคนอื่น กูชื่นชมมึงมากเรื่องนี้"
"กูก็แค่เป็นตัวเอง มันง่ายกว่า"
"แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้" ไทเกอร์ยักไหล่
พวกเขานั่งมองวิวเมืองต่อไปอีกพักใหญ่ ความเงียบที่สบายใจปกคลุมอยู่
"รู้อะไรมั้ย? ถ้ามีอะไรที่กูเสียใจ มันคือการที่กูเสียเวลาไปเป็นปีกับการไม่ได้เป็นเพื่อนกับมึง" ไทเกอร์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
เลโอหันมามองไทเกอร์ด้วยความประหลาดใจ
"แต่ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้วและจะเป็นเพื่อนกันต่อไปเรื่อยๆ" เลโอตอบ
"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า แม้ในแววตาจะมีบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในช่วงสัปดาห์ต่อๆ มา ทั้งสองเริ่มปรับตัวเข้ากับการอยู่ร่วมกัน พวกเขาตกลงกฎเกณฑ์พื้นฐาน แบ่งหน้าที่ในบ้าน และสร้างกิจวัตรประจำวันที่ลงตัว
วันจันทร์ที่มหาวิทยาลัย ความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่พวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น ไทเกอร์และเลโอมาเรียนด้วยกัน กลับด้วยกัน และใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยกัน เพื่อนๆ เริ่มสังเกตเห็นความใกล้ชิดที่มากขึ้น
"เฮ้ย ไทเกอร์! มานี่สิ พวกกูนั่งอยู่ตรงนี้" มาร์คเรียกเมื่อเห็นไทเกอร์และเลโอเดินเข้ามาในโรงอาหาร
ทั้งสองเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับมาร์ค เบนซ์ แบงค์ และแอน ทุกคนทักทายกันอย่างเป็นกันเอง
"เฮ้ย พวกมึงรู้แล้วใช่มั้ย ไอ้เลโอย้ายไปอยู่กับไทเกอร์แล้วเหรอวะ?" ?" มาร์คถามเพื่อนๆ แล้วหันมาที่ไทเกอร์กับเลโอ
"อืม ห้องกูน้ำรั่ว เลยต้องย้ายออก" เลโอพยักหน้า
"นานแค่ไหนแล้ว?" แอนถาม
"สองอาทิตย์กว่าๆและจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันสะดวกกว่าเยอะ" ไทเกอร์ตอบ
"เห็นมั้ย กูบอกแล้วไง ไทเกอร์มันรู้จักเลือกคนอยู่ด้วย มึงเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ดีกว่ากูแน่นอน ตอนมัธยมกูเคยอยู่ห้องเดียวกับมันตอนไปค่าย โคตรจู้จี้เลยเว้ย" มาร์คมองหน้าไทเกอร์แล้วยิ้มกริ่ม
"กูไม่ได้จู้จี้!" ไทเกอร์โต้ทันที
"อันนี้จริง มันชอบตามเก็บของที่กูวางไม่เป็นที่" เลโอบอกทุกคนและทุกคนก็หัวเราะ รวมทั้งเลโอ
"เห็นมั้ย!" มาร์คชี้หน้าไทเกอร์
"ถ้ากูไม่เก็บ บ้านกูจะรกเหมือนรังหนูเลยกว่าแม่บ้านจะมาก้อีกวัน" ไทเกอร์ทำหน้ามุ่ย
"แต่มันก็มีข้อดีนะ บ้านสะอาดเรียบร้อยตลอด"" เลโอแก้ต่าง
การสนทนาดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน พวกเขาคุยเรื่องงานปาร์ตี้ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าที่บ้านไทเกอร์ และความคืบหน้าในการเตรียมงาน
"มึงสบายแล้วสิเลโอ ได้อยู่คอนโดหรู มีคนขับรถไปส่ง" แบงค์แซว
"กูโชคดีมากที่มีเพื่อนดีๆ แบบนี้" เลโอตอบอย่างจริงใจ
"คนที่โชคดีคือกูต่างหากที่ได้มึงไปอยู่ด้วย ช่วยกูเรื่องเรียนเยอะแยะ" ไทเกอร์พูดขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมอง
มาร์คมองไทเกอร์อย่างแปลกใจ ไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทพูดอะไรแบบนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
"เรารู้จักกันดีกว่าที่ผ่านมาละมั้ง?" ไทเกอร์ถามเลโอขณะขับรถกลับบ้าน
"อืม ดีกว่าเดิมเยอะ จากเดิมที่คิดว่ามึงเป็นไอ้เด็กเอาแต่ใจที่ชอบกดข่มคนอื่น" " เลโอพยักหน้า
"แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?" ไทเกอร์หัวเราะ
"มึงก็รู้ว่าตัวเองทำตัวยังไงตอนปีหนึ่ง"
"เออ... นั่นเป็นช่วงที่กูแย่ที่สุดในชีวิตเลย บางทีกูก็สงสัยว่าถ้ากูไม่ได้เจออุบัติเหตุรถบัสตอนนั้น ชีวิตกูจะเป็นยังไง คงไม่มีวันได้รู้จักมึงอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่ๆ" ไทเกอร์ยอมรับ
"ชีวิตมันมีอะไรให้แปลกใจเสมอ ใครจะคิดว่าศัตรูอย่างมึงจะกลายเป็นเพื่อนร่วมบ้านกู"" เลโอตอบ
ไทเกอร์ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแต่เปิดเพลงและขับรถกลับไปที่เพนท์เฮาส์ที่ตอนนี้กลายเป็นบ้านของพวกเขาทั้งคู่
"เฮ้ย! ไทเกอร์! มาช่วยกูหน่อย กูทำนมหก" เลโอตะโกนจากห้องครัว
ไทเกอร์วิ่งมาจากห้องนั่งเล่น เห็นเลโอกำลังพยายามเช็ดนมที่หกบนพื้น
"มึงทำยังไงวะ?" ไทเกอร์ถามพลางหยิบผ้ามาช่วย
"กูแค่จะชงนมร้อน แล้วมันลื่นหลุดมือ ขอโทษนะ" เลโออธิบาย สีหน้าละอายใจ
"ไม่เป็นไรหรอก แค่นมหก เดี๋ยวก็เช็ดแห้ง" ไทเกอร์มองหน้าเลโอที่ดูรู้สึกผิด แล้วอดหัวเราะไม่ได้ ทั้งสองช่วยกันเช็ดพื้นจนสะอาด ก่อนที่ไทเกอร์จะชงนมร้อนใหม่ให้เลโอ
"นี่ ครั้งนี้จับให้ดีๆ ล่ะ" ไทเกอร์ยื่นแก้วนมให้
"ขอบใจ กูไม่คิดว่ามึงจะใจเย็นขนาดนี้ จากที่มาร์คเล่า กูนึกว่ามึงจะโกรธที่กูทำบ้านมึงเลอะ" เลโอรับแก้วมา
"มันเป็นบ้านเราแล้วไง จำไม่ได้เหรอ?" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม
"แล้วกูก็เปลี่ยนไปแล้วด้วย... กูเริ่มเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดกับอะไรมากเกินไป"
"มึงเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ นะ" เลโอมองไทเกอร์ด้วยสายตาชื่นชม
"เพราะมึงไง" ไทเกอร์ตอบเบาๆ
บรรยากาศระหว่างทั้งสองอบอุ่นขึ้นทุกวัน พวกเขาเรียนรู้นิสัยกันและกัน ปรับตัวเข้าหากัน และสร้างพื้นที่ที่ทั้งคู่รู้สึกสบายใจ เป็นบ้านที่ทั้งสองต่างรู้สึกว่าเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ในที่สุด การย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่เริ่มต้นจากความจำเป็นชั่วคราว ก็กลายเป็นการตัดสินใจที่ทั้งคู่ไม่เคยเสียใจ ทั้งไทเกอร์และเลโอต่างพบว่าชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น โดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
เสียงเพลงดังก้องไปทั่วเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์ ควันจากเครื่องทำหมอกและแสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่วห้องนั่งเล่นที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ปาร์ตี้ นักศึกษาประมาณยี่สิบคนกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ บางกลุ่มเต้นรำอยู่กลางห้อง บางกลุ่มยืนคุยกันที่ระเบียง และบางคนก็นั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่โซฟาไทเกอร์เดินไปมาระหว่างแขก คอยดูแลให้ทุกคนมีเครื่องดื่มและอาหารว่างเพียงพอ เขายิ้มและทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง แต่สายตากลับมองหาใครบางคนตลอดเวลา"เลโอยู่ไหนวะ?" ไทเกอร์ถามมาร์คที่กำลังผสมเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์"น่าจะอยู่ในครัวมั้ง มึงตามหาเมียบ่อยเกินไปแล้วนะเว้ย" มาร์คตอบพลางยักคิ้ว"เมียอะไรของมึง? กูแค่ถามว่ามันอยู่ไหน" ไทเกอร์แย้ง แต่หูก็แดงขึ้นเล็กน้อย"เออๆ เชื่อมึงละกัน แต่กูเห็นมันอยู่กับไอ้แชมป์ที่ระเบียงนะเมื่อกี้"มาร์คยิ้มล้อ"ไอ้แชมป์? มาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ไทเกอร์ชะงัก"เมื่อกี้นี่เองแหละ มาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน"ไม่รอช้า ไทเกอร์เดินตรงไปที่ระเบียง ที่นั่นเขาเห็นเลโอยืนคุยกับแชมป์และเพื่อนอีกสองคน ทั้งสี่ดูสนุกกับการสนทนา เลโอยิ้มและหัวเราะกับเรื่องที่แชมป์เล่า"เฮ้ย ไทเกอร์! มาพอดีเลย พี่แชมป์
เสียงนาฬิกาปลุกดังกังวานทั่วห้องนอนของเลโอ ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวที่คุ้นเคย แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านม่านสีเทาเข้ามาในห้อง เขาเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาแล้วนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์เงียบผิดปกติในเช้าวันเสาร์นี้ ปกติเจ้าของห้องมักตื่นแต่เช้าและออกไปวิ่งทุกวันเสาร์ แต่วันนี้ไม่มีเสียงเจ้าของบ้านเดินไปมาหรือเปิดตู้เย็นเหมือนทุกวัน เลโอลุกจากเตียงเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่มีวี่แววของไทเกอร์"แปลกแฮะ" เลโอพึมพำกับตัวเอง เขามองนาฬิกาบนผนัง เวลา 7.30 น. ไทเกอร์ไม่เคยออกไปวิ่งเร็วขนาดนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค พบข้อความจากไทเกอร์ที่ส่งมาเมื่อตอนตี 5[ไทเกอร์ 05:13]: มีธุระด่วนต้องออกไปแต่เช้า อาจจะกลับดึกนิดนึง กินข้าวเองนะเลโอขมวดคิ้ว นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับไทเกอร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกไปแต่เช้าโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้ แต่เขาก็ไม่คิดมาก ธุระของแต่ละคนก็เป็นเรื่องส่วนตัวเลโอเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเดินไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นหาอะไรกิน พบขนมปังและไข่ที่เหลืออยู่ เขาตัดสินใจทำไข่ดาวง่ายๆ กับขนมปังปิ้ง กิน
เลโอยืนฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างอึดอัด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นไทเกอร์คุยกับพิม"รู้สึกหงุดหงิดล่ะสิ?" แอนเดินมาถามเบาๆ ขณะยื่นป๊อปคอร์นมาให้เลโอ"หา? อะไรนะ?" เลโอเลิกคิ้ว ทำเป็นไม่เข้าใจ"ไม่ต้องปากแข็งหรอก กูเห็นมึงมองไทเกอร์กับพิมแบบไม่พอใจ" แอนพูดยิ้มๆ"กูไม่ได้..." เลโอเริ่มปฏิเสธ"เฮ้ย พวกเรา ตั๋วได้แล้ว" มาร์คเดินมาขัดจังหวะพอดี เขาแจกตั๋วให้ทุกคน "เข้าไปกันเถอะ หนังกำลังจะเริ่มแล้ว"ทุกคนเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ที่นั่งถูกจัดให้นั่งติดกันเป็นกลุ่ม เลโอนั่งอยู่ระหว่างไทเกอร์กับมาร์ค ส่วนพิมนั่งอีกด้านของไทเกอร์ ตามด้วยแอน จิม และหนุ่มไฟในโรงภาพยนตร์ค่อยๆ หรี่ลง และหนังเริ่มฉาย เลโอพยายามตั้งใจดูหนัง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าพิมพยายามชวนไทเกอร์คุยเป็นระยะๆ ประมาณครึ่งทางของหนัง มีฉากตื่นเต้น ไทเกอร์เอื้อมมือมาจับแขนเลโอโดยไม่รู้ตัว เลโอรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก ปล่อยให้ไทเกอร์จับแขนเขาไว้สักพักหนึ่ง"เฮ้ย ตกใจชิบหาย" ไทเกอร์กระซิบ ก่อนจะปล่อยมือออกเลโอพยักหน้า แล้วกลับมาตั้งใจดูหนังต่อ แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ว่าพิมเอนตัวมาใกล้ไทเกอร์มากขึ
"มึงจะไม่ไปจริงๆ เหรอวะ?" มาร์คถามไทเกอร์ที่กำลังพิมพ์อะไรบางอย่างในโทรศัพท์ บรรยากาศในร้านกาแฟของมหาวิทยาลัยเริ่มจะวุ่นวายมากขึ้นเมื่อช่วงเวลาหลังเลิกเรียนมาถึง"เรื่องอะไร?" ไทเกอร์ละสายตาจากโทรศัพท์ เขาหยิบกาแฟลาเต้ขึ้นมาจิบ พยายามทำตัวเฉยชาทั้งที่รู้ว่ามาร์คกำลังจะพูดถึงอะไร"ปาร์ตี้ฉลองวันเกิดกูไง เฮ้ย นี่มึงลืมแล้วจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย?" มาร์คถามด้วยสีหน้าระคนขำและรำคาญ"ปกติมึงเป็นคนแรกที่ตอบรับเรื่องปาร์ตี้ทุกที" มาร์คแกล้งถามไทเกอร์ถอนหายใจ เขามองไปที่ตารางเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะ ด้านบนสุดเต็มไปด้วยกำหนดส่งงานหลายชิ้นที่เขายังไม่ได้เริ่มทำ แม้ว่าเขาจะพยายามตั้งใจเรียนมากขึ้นตามคำแนะนำของเลโอ แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับเขา"กูมีงานเยอะอะ มึงรู้ว่ากูต้องส่งพรีเซนเทชั่นงานวิจัยให้อาจารย์ภพวันจันทร์ แล้วกูยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย" ไทเกอร์พยายามอ้างเหตุผล"ไทเกอร์ ภูริ กำลังจะพลาดปาร์ตี้คืนวันศุกร์เพราะงานเรียน? กูฟังแล้วไม่อยากเชื่อเลยว่ะ ใครๆ ก็รู้ว่ามึงทำงานวันสุดท้ายพอดีเดดไลน์ได้เสมอแหละ" "กูพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างอะไรบ้าง"ไทเกอร์ทำหน้าเซ็ง"แกล้งทำงานเพื่ออยู่บ้านกับเลโอ
ประตูเพนท์เฮาส์ปิดลงเบาๆ ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่แทรกตัวอยู่ระหว่างสองร่างในความมืด ไทเกอร์ยังคงพยุงเลโอที่เดินโซเซ ร่างกายของเขาร้อนผ่าวจนไทเกอร์รู้สึกได้ผ่านเสื้อผ้า"กูอยากไปโรงแรม ปล่อยกูไปสิ อะไรของมึงเนี่ย" เลโอพึมพำ พยายามขยับตัวออกจากไทเกอร์ไทเกอร์เปิดไฟในห้องนั่งเล่น แสงสว่างนวลๆ ทำให้เขาได้เห็นใบหน้าของเลโอชัดเจน ผิวที่แดงก่ำ ดวงตาที่เริ่มมีหมอกคลุม และเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก ไทเกอร์รู้สึกหวิวในอก เมื่อเห็นเลโอในสภาพนี้"ใจเย็นๆ ก่อน" ไทเกอร์พูดเสียงนุ่ม พาเลโอไปนั่งที่โซฟา "มึงถูกใส่ยา สติมึงไม่ได้อยู่กับตัวเต็มร้อย""กูรู้! แต่ร่างกายกูมันทนไม่ไหว มึงไม่เข้าใจหรอก มันเหมือน... เหมือนจะระเบิด ไอ้เหี้ยบอส มันต้องเป็นคนทำแน่ๆ" เลโอตอบเสียงดังไทเกอร์นั่งลงข้างๆ เลโอ เขารู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกคำพูดที่จะหลุดออกจากปากตอนนี้ มันอาจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นเลโอทรมานแบบนี้ได้"กูเข้าใจ และกูจะช่วยมึงเอง" ไทเกอร์พูดเสียงแผ่ว มองตาเลโอโดยตรง"มึงจะช่วยยังไง? เพ้อเจ้อน่า" เลโอหัวเราะแห้งๆ“กูบอกว่าจะช่วยมึงเอง ให้กูช่วยมึงนะ”ไทเกอร์ไม่ตอ
"หายใจลึกๆ นะ อาจจะเจ็บนิดหน่อยตอนแรก" ไทเกอร์บอก เลโอพยักหน้า หายใจเข้าลึกๆ ไทเกอร์ค่อยๆ ดันตัวเข้าไปอย่างช้าๆ ตาจับจ้องใบหน้าของเลโอไม่วางตา สังเกตทุกปฏิกิริยา"อ๊ะ! เจ็บ เบาๆ ไอ้เหี้ย" " เลโอร้องออกมา รู้สึกถึงความกดดันและความเจ็บปวดเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในตอนนี้"อดทนหน่อย " ไทเกอร์ตอบ เขาหยุดชั่วครู่ให้เลโอปรับตัว ก่อนจะค่อยๆ ดันเข้าไปอีก ความเจ็บค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่เลโอไม่เคยสัมผัสมาก่อน เมื่อไทเกอร์เข้ามาเต็มที่แล้ว เขาก็หยุดนิ่ง ให้เวลาเลโอปรับตัว"กูอยู่ในตัวมึงแล้วนะ รู้สึกยังไงบ้าง?" ไทเกอร์กระซิบ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความปรารถนา"แปลก... แต่ก็ดี..." เลโอตอบเสียงสั่น มือของเขาจับแขนของไทเกอร์ไว้แน่น"กูจะขยับละนะ" ไทเกอร์บอก แล้วเริ่มถอนตัวออกช้าๆ ก่อนจะดันกลับเข้าไปใหม่"อื้อ..." เลโอครางในลำคอ ความเจ็บหายไปหมดแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของไทเกอร์ส่งความรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างไทเกอร์เริ่มเพิ่มจังหวะการเคลื่อนไหว ค่อยๆ เร็วขึ้นและแรงขึ้น เขาปรับมุมเพื่อให้ทุกครั้งที่เขาดันเข้าไป จะไปกระทบจุดที่ทำให้เลโอสั่นสะท้าน"ตรงนั้น... อ๊ะ... ใช่...ซี้ด " เลโอครางออกม
แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ เข้ามาในห้องนอน เลโอรู้สึกถึงความเจ็บปวดตามร่างกายขณะที่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ โดยเฉพาะบริเวณสะโพกและส่วนล่าง เขาพยายามขยับตัว แต่ความเจ็บทำให้ต้องสะดุ้ง เขามองรอบตัว สมองยังคงงุนงงเล็กน้อย แต่ภาพความทรงจำเมื่อคืนกำลังหวนกลับมา เขาอยู่ในห้องนอนของไทเกอร์เลโอกวาดตามองไปรอบห้อง ไม่มีวี่แววของไทเกอร์ เขาได้ยินเพียงเสียงน้ำไหลจากห้องอาบน้ำที่อยู่ติดกัน เลโอพยายามลุกขึ้นนั่ง ความเจ็บปวดจากกิจกรรมเมื่อคืนยังคงอยู่ แต่ไม่ได้แย่เหมือนที่คิด"มึงตื่นแล้วเหรอ?"เสียงของไทเกอร์ดังมาจากประตูห้องน้ำ เขายืนอยู่ที่นั่น ใส่เพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว น้ำยังคงหยดจากเส้นผมเปียกๆ ลงมาตามลำคอและแผ่นอกที่แข็งแกร่ง ภาพนี้ทำให้เลโอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้ง เขารู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า"อืม กี่โมงแล้ว?" เลโอตอบเสียงแผ่ว พยายามตั้งสติ"เก้าโมงเช้า มึงอาบน้ำก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูไปทำอาหารเช้ารอ " ไทเกอร์ตอบ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หลีกเลี่ยงการสบตากับเลโอ ไทเกอร์ยอมรับว่าตัวเองก็ทำตัวไม่ถูกเลยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์มื่อคืนที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเสียอาการเลยทีเดียวเลโอพยักหน้า รู้สึกขอบคุณที
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ไทเกอร์และเลโอตกลงทำข้อตกลง FWB กัน ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปตามปกติ ทั้งสองไปเรียน ทำงานกลุ่ม กลับมาทำการบ้าน ทานอาหารด้วยกัน ดูหนัง เล่นเกม และใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนร่วมห้องทั่วไปแต่เมื่อประตูห้องนอนปิดลง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปคืนนี้เองก็เช่นกัน ไทเกอร์นั่งอ่านหนังสือบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ขณะที่เลโอกำลังทำงานวิจัยกลุ่มอยู่ที่โต๊ะทำงาน ทั้งคู่จมอยู่กับงานของตัวเองมาตั้งแต่กลับจากมหาวิทยาลัย" อีกกี่หน้าแล้วมึง?" ไทเกอร์พูดขึ้น วางหนังสือลงและยืดตัว"อีกนิดเดียว เหลือสรุปผลการทดลอง" เลโอไม่ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ไทเกอร์มองนาฬิกา เวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เขาลุกจากโซฟา เดินไปที่โต๊ะทำงานของเลโอ ยืนอยู่ข้างหลัง มองผ่านไหล่ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์"มึงทำตั้งแต่บ่ายสามเลยนะ พักบ้างก็ได้" ไทเกอร์พูด มือวางบนบ่าของเลโอเบาๆ"อยากให้มันเสร็จวันนี้ อีกนิดก้เสร็จแล้ว" เลโอตอบ ยังคงพิมพ์ต่อ"ไม่รู้สึกเมื่อยเหรอ?" ไทเกอร์ถาม เสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือที่วางบนบ่าเริ่มนวดเลโอรู้สึกถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของไทเกอร์ เขาหยุดพิมพ์ชั่วขณะ แต่ยังไม่หันไปมอง ไทเกอร
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่
ไทเกอร์หยุดอยู่ที่ประตูห้อง หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง ยังรู้สึกถึงรสจูบของเลโอติดอยู่ ส่วนหนึ่งของเขาอยากวิ่งกลับเข้าไปหาเลโอ แต่อีกส่วนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"พรุ่งนี้...กูต้องรอพรุ่งนี้" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากห้องไทเกอร์ถูกสวมกอดจากด้านหลังโดยเลโอ ตอนนี้เขาไม่มัวรีรอแล้ว เขาจะทำตามหัวใจตัวเองพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไทเกอร์รั้งร่างของเลโอเข้ามาในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะลงบนซอกคอ เลโอสะดุ้ง แต่ไม่ผลักไส ความร้อนจากร่างกายของไทเกอร์แผ่ซ่านผ่านเสื้อผ้า ปลุกความรู้สึกที่ถูกฝังลึกในใจให้ตื่นขึ้น"ไม่ทันได้บอกลากันเลย คิดถึงกูบ้างไหม" ไทเกอร์กระซิบข้างหู ลิ้นร้อนแตะแผ่วเบาที่ติ่งหู"อื้มม...มึง...มึงทำอะไรเนี่ย..."เลโอครางแผ่ว ร่างเขาสั่นสะท้านเมื่อไทเกอร์ดูดติ่งหูไทเกอร์ไม่ตอบ เขาหมุนร่างเลโอให้หันมาเผชิญหน้า ประกบริมฝีปากลงแรงๆ ลิ้นร้อนดุนดันผ่านริมฝีปากที่เผยอ เลโอโอบแขนรอบคอไทเกอร์ทันที ไม่มีความลังเล ไม่มีการผลักไส มีเพียงความกระหายที่ถูกกดทับมานานแสนนาน"กูคิดถึงมึง..." เลโอละริมฝีปากออกพร่ำบอก
แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกในห้องประชุมของโรงแรมริมทะเลในสุราษฎร์ธานี ไทเกอร์กำลังนำเสนอความคืบหน้าของโปรเจครีสอร์ทหรูให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ เขาอธิบายถึงแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานธรรมชาติกับความหรูหราได้อย่างลงตัว พร้อมฉายสไลด์แบบจำลอง 3 มิติที่สวยงาม"และนี่คือแนวคิดห้องพักวิลล่าริมทะเลที่เราวางแผนจะสร้างในเฟสแรก โดยออกแบบให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก และใช้วัสดุท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ไทเกอร์อธิบายอย่างมั่นใจเลโอนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะประชุมด้านขวามือของผู้บริหารทวีวงศ์กรุ๊ป เขามองไทเกอร์อย่างชื่นชมโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มตรงหน้าช่าง... เปลี่ยนไปจากที่เคยรู้จักเมื่อห้าปีก่อน ไม่มีท่าทีหยิ่งยโส ไม่มีคำพูดเหยียดหยาม มีแต่ความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพ"ขอบคุณคุณภูริสำหรับการนำเสนอที่น่าประทับใจ" ประธานบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปกล่าว "ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเราควรฟังความเห็นจากทีมงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเราบ้าง คุณกัณต์ดนัย?"เลโอสะดุ้งเล็กน้อย รีบลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ด้านหน้าห้องประชุม เขาและไทเกอร์สบตากันชั่วครู่ ไทเกอร์ยิ้มและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งในที่ของเลโอ"ขอบคุณครับ" เลโอเปิ
แสงแดดสาดส่องลงมาบนแบบจำลองอาคารขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องประชุม ทีมงานจากสองบริษัทยืนล้อมรอบโต๊ะ ทุกคนก้มมองแบบจำลองด้วยความตื่นเต้น โปรเจคนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ หลังจากใช้เวลาวางแผนมาสองเดือนเต็ม"ผมคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนตำแหน่งสระว่ายน้ำมาตรงนี้" ไทเกอร์ชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของแบบจำลอง "จะให้มุมมองที่สวยกว่า และลดผลกระทบต่อต้นไม้ใหญ่ด้วย"ไทเกอร์ยังต้องใช้สายซัพพอร์ตแขน แต่ความเจ็บปวดลดลงมากแล้ว การทำงานช่วงนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดถึงความเจ็บ"เป็นความคิดที่ดี การออกแบบแบบนี้ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น" เลโอพิจารณาแบบจำลองอย่างละเอียด สายตาของทั้งสองสบกันชั่วครู่ ก่อนที่เลโอจะหันไปคุยกับวิศวกรคนอื่นๆ ต่อสามสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่ไทเกอร์ออกจากโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลโอเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังคงห่างเหินและเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีความเย็นชาหรือความขัดแย้งเหมือนช่วงแรกอีกต่อไป"มีอะไรอีกไหมครับสำหรับวันนี้?" ไทเกอร์ถามทีมงาน"ผมคิดว่าเรามาถึงจุดที่ต้องเริ่มพูดถึงวัสดุที่จะใช้แล้วครับ" วิศวกรคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เรื่องนี้ทีมอิงทวีกรุ๊ปมีความเชี่ยวช
แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านสีขาวของห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ไทเกอร์นั่งพิงหมอนบนเตียง แขนซ้ายถูกยกสูงด้วยอุปกรณ์พยุง มีเหล็กดามกระดูกพันด้วยผ้าพันแผลสะอาด บนโต๊ะข้างเตียงมีแจกันดอกไม้และผลไม้ที่เพื่อนร่วมงานส่งมาให้ ไทเกอร์วางไอแพดที่กำลังใช้ทำงานลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ประตูเปิดออก มาร์คโผล่หน้าเข้ามาก่อน ตามด้วยช่อดอกไม้ใหญ่"เข้ามาได้ครับ" เขาตอบ"ไง ไอ้แขนเดี้ยง ดูท่าจะสบายดีนี่หว่า" มาร์คทัก พลางเดินเข้ามาในห้อง"ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ยังดีที่แขนขวาใช้งานได้ปกติ" ไทเกอร์ยิ้ม มาร์ควางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ หย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง"เฮ้ย นี่มึงยังทำงานอีกเหรอ?" เขาชี้ไปที่ไอแพดและเอกสารกองเล็กๆ บนเตียง"ทำไปเรื่อยๆ ดีกว่านอนเฉยๆ" ไทเกอร์ตอบ "โปรเจคยังต้องเดินหน้าต่อ""กูว่าเจ้าคุณมึงน่าจะเข้าใจนะถ้ามึงพักสักหน่อย""พ่อเข้าใจ แต่กูไม่อยากพักยาว" ไทเกอร์เอ่ย ตาจ้องมองไปที่หน้าต่าง "มีอะไรบางอย่างที่กูต้องพิสูจน์""มันเกี่ยวกับเลโอใช่ไหม?" มาร์คมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณาไทเกอร์ไม่ตอบ แต่สีหน้าบอกคำตอบได้ชัดเจน"เลโอช่วยชีวิตมึงเหรอจริงๆ?" มาร์คถาม"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า "ถ้าไม่ได้เ