ช่ วงสอบกลางภาคมาถึง และไทเกอร์ตั้งใจจะต้องทำคะแนนให้ดีเพื่อชดเชยเวลาที่เขาพลาดไปช่วงที่บาดเจ็บ แม้ขาข้างขวาจะยังไม่หายดีเต็มที่ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว
"เฮ้อ..." ไทเกอร์ถอนหายใจ เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง เกือบสามโมงแล้ว เลโอน่าจะมาถึงในอีกไม่นาน
สองสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่เลโอช่วยสอนเรื่อง strain energy ให้ไทเกอร์ การติวด้วยกันครั้งนั้นนำไปสู่การนัดพบกันอีกหลายครั้งเพื่อเตรียมตัวสอบ ไทเกอร์ยังรู้สึกแปลกๆ ที่เขากับเลโอกลายเป็นเพื่อนกันได้ หลังจากที่เคยเกลียดกันมาก่อน
เสียงกริ่งดังขึ้น ไทเกอร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าประตู เลโอยืนอยู่ตรงนั้น สวมเสื้อยืดสีเทาและกางเกงยีนส์สีซีด สะพายเป้ใบเก่า
"ขึ้นมาได้" ไทเกอร์กดปุ่มเปิดประตูลอบบี้ชั้นล่าง แล้ววางโทรศัพท์ลง เขาลุกขึ้นยืดตัว เดินไปเปิดประตูห้อง
ไม่นานนัก เสียงลิฟท์ดัง "ติ๊ง" ประตูเลื่อนเปิด เลโอก้าวออกมาพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่
"สวัสดี" เลโอทัก
"เฮ้ย นั่นอะไร?" ไทเกอร์ถาม ชี้ไปที่ถุงกระดาษในมือเลโอ
"ขนมจากทางใต้ แวะไปร้านขนมแถวบ้านเพื่อนกูมา " เลโอตอบ
"เข้ามาก่อน" ไทเกอร์ผายมือเชิญ ยิ้มกว้างขึ้น
"ไม่คิดว่ามึงจะซื้ออะไรมาฝากกูด้วย"
"ก็มึงเลี้ยงข้าวกูมาสองรอบแล้ว" เลโอตอบ ถอดรองเท้าวางไว้หน้าประตู แล้วเดินตามไทเกอร์เข้าไปในห้อง
เลโอมองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง มีโซฟาชุดใหญ่ โทรทัศน์จอใหญ่ และหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ ได้กว้างไกล เขาเคยได้ยินจากพีทว่าไทเกอร์อยู่เพนท์เฮาส์หรู แต่ไม่คิดว่าจะหรูขนาดนี้
"นั่งสิ" ไทเกอร์ชี้ไปที่โซฟา รีบเก็บเอกสารที่กระจัดกระจายให้เป็นระเบียบ "ขอโทษที่รก กำลังอ่านหนังสืออยู่พอดี"
"ไม่เป็นไร" เลโอนั่งลงที่ปลายโซฟา วางถุงขนมลงบนโต๊ะ
"อยากกินอะไรไหม กูมีน้ำผลไม้ น้ำอัดลม กาแฟ..." ?" ไทเกอร์ถามและบอกสิ่งที่มี
"น้ำเปล่าก็พอ" เลโอตอบ
ไทเกอร์พยักหน้า เดินไปที่ครัวเล็กๆ มุมห้อง หยิบแก้วสองใบและเหยือกน้ำกลับมา เทน้ำใส่แก้วและยื่นให้เลโอ
"ขอบคุณ" เลโอรับแก้วน้ำมา ดื่มอึกหนึ่ง
"เริ่มกันเลยไหม?" ไทเกอร์ถาม พลางหยิบหนังสือขึ้นมา "กูยังไม่เข้าใจเรื่อง Mohr's Circle เท่าไหร่"
"ได้" เลโอพยักหน้า วางแก้วน้ำลงและหยิบสมุดโน้ตออกจากกระเป๋า
ทั้งสองเริ่มติวหนังสือกัน เลโออธิบายทฤษฎีให้ไทเกอร์ฟังอย่างละเอียด ในขณะที่ไทเกอร์ฟังอย่างตั้งใจและจดโน้ตไปด้วย เป็นภาพที่แปลกตาสำหรับใครหลายคนที่รู้จักทั้งคู่ หากได้เห็นพวกเขานั่งเรียนด้วยกันอย่างเป็นมิตรเช่นนี้
"อ๋อ!" ไทเกอร์อุทานเมื่อในที่สุดก็เข้าใจ "ถ้าเรามองวงกลมแบบนี้ก็เข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลย"
"มันแค่เป็นวิธีการแสดงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ด้วยกราฟ ถ้ามึงมองเป็นภาพจะเข้าใจง่ายกว่า" เลโออธิบาย
"จริงด้วย มึงสอนเก่งว่ะ เคยคิดจะเป็นอาจารย์ไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า เขาเงยหน้าขึ้นมองเลโอ
"ไม่อ่ะ กูแค่อยากกลับไปทำงานที่บ้าน ดูแลธุรกิจครอบครัว" " เลโอตอบออกไป
"มึงชอบงานนั้นเหรอ?" ไทเกอร์ถาม
"ก็ชอบ ได้คิด ได้วางแผน ได้แก้ปัญหา" เลโอยักไหล่ตอบ
"เหมือนกับที่มึงชอบวิศวกรรมใช่ไหม? การคิดเชิงระบบ" ไทเกอร์สังเกต
"มึงสังเกตเก่งนี่" เลโอพยักหน้า
"กูอาจจะไม่เก่งวิชาการเท่ามึง แต่กูเข้าใจคน นั่นคือจุดแข็งของกู" " ไทเกอร์ยิ้ม
"จริง กูแย่เรื่องสังคมมาตลอด ไม่เหมือนมึง" เลโอยอมรับ
ทั้งสองกลับไปทบทวนเนื้อหาต่อ แต่หลังจากเรียนไปได้ประมาณชั่วโมงครึ่ง ไทเกอร์ก็เริ่มปวดขา
"พักก่อนดีไหม?" เลโอเสนอ เมื่อสังเกตเห็นไทเกอร์ขยับขาไปมาด้วยความไม่สบาย
"อืม ดีเหมือนกัน มีขนมอะไรบ้าง " ไทเกอร์พยักหน้า "
"ขนมเค้กสังขยาใบเตย ของขึ้นชื่อของร้านนี้" เลโอหยิบถุงขนมมาเปิด หยิบห่อขนมสีเหลืองทองออกมา
"โอ้โห ดูน่ากินว่ะ เดี๋ยวกูเอาจานกับส้อมมาก่อน" ไทเกอร์รับถุงขนมไปเปิดดู กลิ่นหอมของใบเตยและสังขยาลอยมาทันที
ไทเกอร์ลุกไปที่ครัว และกลับมาพร้อมจานเล็กๆ สองใบและส้อม เขาแบ่งขนมใส่จานและส่งให้เลโอหนึ่งจาน
"อร่อยจัง หวานกำลังดี ไม่เลี่ยนเลย" ไทเกอร์ชมหลังจากกินคำแรก
"ดีใจที่มึงชอบ" เลโอยิ้มบางๆ
"อืม..." ไทเกอร์เคี้ยวขนมช้าๆ "กูอยากถามอะไรมึงอย่างหนึ่ง ถามได้ไหม?"
"ถามมา" เลโอพยักหน้า
"ตอนที่กูเคยแกล้งมึงตอนปีหนึ่ง มึงรู้สึกยังไง?" ไทเกอร์เริ่มพูดอย่างระมัดระวัง
เลโอชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าไทเกอร์จะถามคำถามนี้
"ก็... รู้สึกแย่บ้าง แต่กูก็พยายามไม่ใส่ใจ คิดว่าเป็นเรื่องเด็กๆ" เลโอตอบตามตรง
"กูขอโทษนะ กูไม่น่าทำแบบนั้นเลย มันไร้สาระมาก" ไทเกอร์พูดอย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไร ทุกคนทำผิดพลาดได้" " เลโอพยักหน้า
"แต่ทำไมมึงยังช่วยกูตอนรถคว่ำ? ทั้งที่กูเคยทำกับมึงแบบนั้น" ไทเกอร์ถามต่อ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย
"ตอนนั้นกูไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นคนกำลังต้องการความช่วยเหลือ ก็ช่วยแค่นั้น ใครอยู่ในที่นั้นกูก็คงช่วย" เลโอนิ่งคิดสักพัก
"มึงเป็นคนดีกว่าที่กูคิดไว้มาก" ไทเกอร์มองเลโออย่างทึ่ง
"ไม่หรอก แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ" เลโอยักไหล่
ทั้งสองนั่งกินขนมต่อในความเงียบครู่หนึ่ง ไทเกอร์ดูครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"มึงรู้ไหม กูเคยคิดว่ามึงเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่เก่งแต่วิชาการ แต่ตอนนี้กูรู้แล้วว่ากูคิดผิดมาก" " ไทเกอร์เริ่มพูดสิ่งที่เขาคิดกับเลโอ
เลโอเงยหน้าขึ้น รอฟังต่อ
"มึงเป็นคนที่... มีมุมมองที่กว้างไกล มึงเข้าใจอะไรได้ลึกกว่าที่กูคิด เหมือนกับว่า... มึงเป็นผู้ใหญ่กว่ากูมากทั้งที่อายุเท่ากัน" ไทเกอร์พูดต่อ
"กูก็ไม่ได้เป็นอะไรพิเศษหรอก ทุกคนก็มีจุดแข็งจุดอ่อนต่างกัน" " เลโอพูดเบาๆ ไม่ชินกับการได้รับคำชม
"แต่มึงดูเหมือนจะมีแต่จุดแข็ง เรียนเก่ง คิดเป็นระบบ ใจเย็น มีความรับผิดชอบสูง แถมยังใจดี" ไทเกอร์ที่ยังชมเลโอไม่หยุด
"กูมีจุดอ่อนเยอะแยะ แค่ไม่แสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น" เลโอส่ายหน้า
"อย่างเช่น?" ไทเกอร์ถาม
"กูไม่เก่งเรื่องคน ไม่รู้จะคุยยังไงให้สนุก ไม่กล้าแสดงออก บางทีก็คิดมากเกินไป คิดเล็กคิดน้อย" เลโอตอบ
"แต่มึงดูมั่นใจออกจะตายไป"
"นั่นแค่เปลือกนอก ข้างในกูกังวลตลอดเวลาว่ากำลังทำถูกหรือผิด" เลโอบอกความเป็นตัวเองที่ไม่ได้มั่นใจในตัวเอง
"กูก็เหมือนกัน ที่กูดูมั่นใจ เพราะกูไม่อยากให้ใครเห็นว่ากูกลัว" ไทเกอร์ฟังด้วยความสนใจ
"กลัวอะไร?" เลโอถาม
"กลัวว่าจะไม่ดีพอ" ไทเกอร์ตอบเสียงแผ่ว
"พ่อกูคาดหวังกับกูสูงมาก ตอนเด็กๆ กูไม่เคยทำอะไรถูกใจเขาเลย ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน" ไทเกอร์บอกออกมาต่อเนื่อง
"แล้วทำไมมึงต้องพยายามเอาใจเขาด้วย? มันเป็นชีวิตของมึง" เลโอถาม
"มึงไม่เข้าใจหรอก ครอบครัวกูเป็นแบบนั้น... ทุกคนแข่งขันกัน ทุกคนต้องทำให้ดีที่สุด ต้องทำให้ตระกูลภูมิใจ" ไทเกอร์ส่ายหน้า
"ฟังดูเหนื่อยนะ" เลโอบอกอย่างเห็นใจ
"มากเลย กูเลยต้องสร้างภาพลักษณ์นี้ขึ้นมา... เด็กเปรี้ยว เด็กมีสตางค์ เด็กเที่ยว แต่ก็ยังเรียนได้... ทำให้พ่อภูมิใจ" ไทเกอร์ถอนหายใจ
"แต่มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของมึง?" เลโอถาม
"กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวตนที่แท้จริงของกูเป็นยังไง กูเล่นละครมานานจนลืมไปแล้ว" ไทเกอร์นิ่งไปครู่หนึ่งและเขาพูดออกมาอย่างยอมรับ
"มึงไม่จำเป็นต้องแสดงต่อหน้ากูนะ อยู่กับกู มึงเป็นตัวของมึงได้" เลโอบอกและมองเพื่อนด้วยความเห็นใจ
"ขอบคุณ คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจกู แต่มึงเข้าใจ" ไทเกอร์มองเลโอ อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มอย่างจริงใจ
"เพราะกูก็แสดงเหมือนกัน แค่คนละแบบกับมึง กูแสดงเป็นคนแข็งแกร่ง ไม่สนใจคำวิจารณ์ ไม่สนว่าจะมีเพื่อนหรือไม่... แต่จริงๆ แล้ว บางครั้งกูก็เหงา" " เลโอยอมรับ
"พวกเราแสดงเป็นคนตรงข้ามกับที่เราเป็นจริงๆ เลยนะ" ไทเกอร์หัวเราะเบาๆ "ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ"
ทั้งสองนั่งพูดคุยกันต่อ แชร์เรื่องราวในวัยเด็ก ความฝัน ความกลัว และความปรารถนา บรรยากาศผ่อนคลายและเป็นมิตรอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"มึงรู้ไหม กูเพิ่งรู้ตัวว่ากูไม่เคยมีเพื่อนแท้เลย" " ไทเกอร์พูดขึ้นหลังจากคุยกันไปหลายชั่วโมง "
"มึงมีเพื่อนเยอะออก" เลโอแย้ง
"มีแต่เพื่อนผิวเผิน คนที่คบกูเพราะกูรวย หรือหน้าตาดี หรือเพราะกูเป็นเดือนคณะ แต่ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของกู... ไม่มีใครที่กูกล้าเปิดใจคุยแบบนี้ด้วย"
"แม้แต่มาร์ค?" เลโอถาม
"มาร์คเป็นเพื่อนสนิท แต่เราก็ไม่เคยคุยกันลึกซึ้งขนาดนี้ แปลกดีนะ ที่คนที่กูเคยเกลียดกลับกลายเป็นคนที่กูไว้ใจมากที่สุด" ไทเกอร์ยอมรับ
"มันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละ" เลโอยิ้ม
นาฬิกาบนผนังบอกเวลาเกือบสามทุ่ม ทั้งสองคุยกันนานกว่าที่คิด
"เฮ้ย ดึกแล้ว กูว่ากูต้องกลับแล้วล่ะ" " เลโอบอกไทเกอร์เพื่อจะขอตัวกลับหอ
"มึงพักที่นี่ก็ได้นะ ห้องกูใหญ่ กูมีห้องเหลือ" ไทเกอร์เสนอทันที
"อยู่เถอะน่า" ไทเกอร์ยืนยัน "เรายังไม่ได้ดูเรื่อง stress concentration เลย พรุ่งนี้ติวต่อก็ได้"
"งั้น... ก็ได้" เลโอดูลังเลและก็ตอบในที่สุด
"เยี่ยม เราสั่งพิซซ่ากินกันไหม? กูหิวแล้ว" ไทเกอร์ยิ้มกว้าง
"ได้ ขอบคุณที่ชวนกูค้าง" เลโอพยักหน้า
"ขอบคุณที่มึงเป็นเพื่อนกู เพื่อนแท้คนแรกของกู" ไทเกอร์ตอบอย่างจริงใจ
เลโอสบตากับไทเกอร์ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านในอก เขาไม่เคยคิดว่าจะมีมิตรภาพกับคนที่เคยเป็นศัตรู แต่บางทีโชคชะตาก็นำพาคนสองคนมาพบกันในวิธีที่แปลกประหลาด
"มึงอยากกินพิซซ่าหน้าอะไร?" ไทเกอร์ถามพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
"อะไรก็ได้ที่ไม่ใส่สับปะรด" เลโอตอบ
"เหมือนกัน!" ไทเกอร์ร้อง
"มึงก็ไม่ชอบพิซซ่าฮาวายเหรอ?"
"เกลียดเลย" เลโอยิ้ม
"เฮ้ย เรามีอะไรเหมือนกันเยอะกว่าที่คิดแฮะ" ไทเกอร์หัวเราะ ก่อนจะสั่งพิซซ่าและนั่งลงข้างเลโออีกครั้ง
คืนนั้น พวกเขาดูหนังด้วยกัน กินพิซซ่า คุยเรื่องสัพเพเหระ และติวหนังสือต่อจนดึก มิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งสองเริ่มหยั่งรากลึกลงในจิตใจ ไม่มีใครรู้ว่าความสัมพันธ์นี้จะพัฒนาไปถึงไหน แต่อย่างน้อย ณ ช่วงเวลานี้ พวกเขาได้พบเพื่อนที่เข้าใจกัน และนั่นอาจเป็นสิ่งที่ทั้งสองต้องการมาตลอด
แสงไฟสีสันสดใสกระพริบไปมาในจังหวะเพลงที่ดังกระหึ่ม เสียงผู้คนพูดคุยหัวเราะและเสียงแก้วกระทบกันดังแทรกเป็นระยะ กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำหอมหลากหลายกลิ่นลอยอบอวลในอากาศ"จริงๆ แล้วกูไม่ค่อยชอบงานแบบนี้เท่าไหร่" เลโอตะโกนกลบเสียงเพลงที่ดังสนั่น"อะไรนะ?" ไทเกอร์เอียงหูเข้ามาใกล้"กูบอกว่า กูไม่ค่อยชอบงานแบบนี้!" เลโอตะโกนซ้ำอีกครั้ง"ลองดูสักครั้งเถอะ รับรองว่ามึงจะชอบ!"ไทเกอร์หัวเราะและตบไหล่เลโอเบาๆเลโอพยักหน้าแม้จะยังไม่ค่อยมั่นใจนัก เขามองไปรอบๆ ห้องสวีทของโรงแรมหรูที่เต็มไปด้วยนักศึกษาจากหลายคณะที่กำลังสนุกสนาน บางคนเต้นรำในพื้นที่ว่างกลางห้อง บางคนนั่งจิบเครื่องดื่มพูดคุยกันที่โซฟา บางคนกำลังเล่นเกมดื่มกันอย่างสนุกสนานงานปาร์ตี้ในคืนนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของมาร์ค เพื่อนสนิทของไทเกอร์ ซึ่งโดยปกติเลโอจะไม่มาร่วมงานแบบนี้ แต่ไทเกอร์ยืนยันที่จะพาเขามาด้วย"มาดื่มกัน!" ไทเกอร์ดึงมือเลโอให้เดินไปที่บาร์เล็กๆ มุมห้อง "มึงชอบดื่มอะไร?""กูไม่ค่อยดื่มเท่าไหร่..." เลโอตอบ"คืนนี้ดื่มให้สนุกเถอะน่า อายุก็เกิน 20 แล้ว " ไทเกอร์ยิ้ม "Whisky? Vodka? Tequila?""อะไรก็ได้ที่ไม่แร
แดดยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างกระจกของร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ดังแทรกเสียงพูดคุยของนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ ไทเกอร์นั่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน สายตาจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ แต่ความคิดลอยไปไกลหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากงานปาร์ตี้วันเกิดของมาร์ค ไทเกอร์พยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงการเจอกับเลโอ เขาเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน หลบมุมในโรงอาหาร และพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกมหาวิทยาลัยเมื่อไม่มีเรียน"เฮ้! นั่นบอสกับพี่แฮมไม่ใช่เหรอ?" เสียงมาร์คดังขึ้น พลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะไทเกอร์ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ ก่อนจะมองไปทางที่มาร์คพยักเพยิด เขาเห็นเพื่อนรุ่นพี่สองคนกำลังคุยกับสาวสวยกลุ่มหนึ่งที่โต๊ะใหญ่อีกฝั่งของร้าน"อือ" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ"มึงโอเคป่าววะ? ช่วงนี้ดูแปลกๆ " มาร์คถาม น้ำเสียงเจือความกังวล"กูสบายดี" ไทเกอร์ตอบเร็วเกินไปมาร์คเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร เขามองไทเกอร์อย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ"เรื่องนนนี่ เธอบอกกูว่าคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น" มาร์คเริ่มพูดถึงเรื่องวันนั้น"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้"แปลกน
หลังจากการสอบปลายภาคผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ก็ถึงช่วงปิดเทอมเพื่อจะขึ้นปี 3 แดดส่องแสงสีทองปรอยๆ เข้ามาตามซอกผ้าม่านของหอพัก เลโอนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพข้างนอกเป็นตึกหอพักอีกหลังที่เกือบจะว่างเปล่า เขาเพ่งสายตาไปยังกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่เตรียมไว้บนพื้น เสื้อผ้าพับเรียบร้อยรอที่จะถูกใส่ลงไป แต่อีเมลที่เพิ่งเข้ามาเมื่อชั่วโมงก่อนทำให้แผนการกลับบ้านต้องล้มเลิก"เฮ้อ" เขาถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความจากพี่ชายอีกรอบ"น้องชาย ต้องขอโทษจริงๆ แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะเข้าทางใต้ ทางจังหวัดสั่งอพยพคนจากบริเวณชายฝั่งทั้งหมด รีสอร์ทเรารองรับคนอพยพหมดแล้ว พ่อกับแม่ต้องช่วยดูแลสถานการณ์ด่วน พี่กับพี่มิ้นท์ก็ไม่ได้กลับเหมือนกัน เอาไว้ตอนที่สถานการณ์เข้าที่เข้าทางแล้วค่อยกลับนะ"พอวางแผนจะกลับไปช่วยที่รีสอร์ทบ้าง เล่นกับหมาที่ดูแลมาตั้งแต่มัธยม ก็มีจังหวะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อไทเกอร์ปรากฏบนหน้าจอ"ว่าไง" เลโอรับสาย["มึงกลับบ้านวันนี้ใช่มั้ย?"] น้ำเสียงไทเกอร์ฟังดูร่าเริงผิดปกติ"เออ... จริงๆ แผนเปลี่ยนแล้ว บ้านกูมีเรื่องด่วน พายุลูกใหญ่กำลังจะเข้า ทุกคนยุ่งหมด เลยไม่ไ
ชีวิตในมหาวิทยาลัยกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังช่วงปิดเทอม นักศึกษาหลายคนยังคงมีแสงแดดของการพักผ่อนติดอยู่บนผิว บางคนดูซีดลงจากการเรียนซัมเมอร์ ลานหญ้าหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์แน่นขนัดไปด้วยนักศึกษาทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เสียงพูดคุยหัวเราะดังระงมไปทั่ว ปีนี้เลโออยู่ปี 3 และไทเกอร์อยู่ปี 4 แต่คาดว่าไทเกอร์น่าจะจบพร้อมกับเลโอไทเกอร์จอดรถสปอร์ตสีดำในที่จอดประจำ เขาสวมแว่นกันแดดสีเข้ม เสื้อยืดแบรนด์เนมสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบราคาแพง ดูสดใสและมีเสน่ห์เหมือนเคย เขาก้าวลงจาแชมป์ถพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง"เฮ้ย! ไทเกอร์! มานี่เว้ย!" มาร์คโบกมือเรียกจากใต้ต้นไม้ใหญ่ เขานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกสามคน ไทเกอร์โบกมือตอบ แต่ไม่ได้เดินตรงไปที่กลุ่มเพื่อนทันที เขามองหาใครบางคนในฝูงชน เดินวนเล็กน้อยพลางมองไปรอบๆ"มองหาใครวะ?" มาร์คตะโกนถาม"เดี๋ยว" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ จู่ๆ ใบหน้าของไทเกอร์ก็สว่างขึ้น เมื่อเห็นร่างคุ้นเคยกำลังเดินขึ้นบันไดคณะ"เลโอ!" เขาเรียกเสียงดังเลโอชะงักและหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นไทเกอร์ เขาก็ยิ้มและโบกมือทักทาย ไทเกอร์เดินเข้าไปหา ทั้งสองจับมือกันฉันเพื่อนและตบไหล่ก
เสียงฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนักหน่วงบนหลังคาหอพักนักศึกษา ท้องฟ้ามืดครึ้มแม้จะเป็นเวลาเพียงบ่ายสามโมง เลโอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เบื้องหน้าคือหนังสือและโน้ตที่เขาใช้เตรียมตัวสอบกลางภาค แต่ความสนใจของเขากลับจดจ่อกับเสียงน้ำฝนที่รั่วหยดลงมาจากเพดานห้อง กระป๋องและถังที่เขาวางรองน้ำไว้ส่งเสียงดังเป็นจังหวะ ตุ๊บ... ตุ๊บ... ตุ๊บ...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลโอเอื้อมมือไปหยิบและยิ้มเมื่อเห็นชื่อผู้โทรเข้า"ว่าไง?" เลโอรับสาย"มึงอยู่ไหนวะ?" เสียงของไทเกอร์ดังมาพร้อมกับเสียงฝนตกหนักในสาย"อยู่ห้อง ฝนตกหนักขนาดนี้จะไปไหนได้""พร้อมรึยัง? เรามีนัดซ้อมบาสห้าโมงนะ""กูว่าวันนี้คงต้องหยุดซ้อมแล้วล่ะ ห้องกูน้ำรั่วหนักมาก ต้องอยู่เฝ้าของด้วย" เลโอถอนหายใจ มองไปที่เพดานที่น้ำรั่วไม่หยุด"เฮ้ย! น้ำรั่วเหรอ?" น้ำเสียงของไทเกอร์เปลี่ยนเป็นกังวลทันที "แย่ขนาดนั้นเลย?""อืม หลังคาหอรั่วตรงห้องกูพอดี นี่ต้องวางกระป๋องรองน้ำไว้สามจุดแล้ว ไอ้พีทมันโชคดีย้ายออกไปอยู่กับแฟน กูเลยต้องเก็บของคนเดียว ""เดี๋ยวกูไปหามึงเลย""ไม่ต้องหรอก ฝนตกหนักขนาดนี้ อันตราย""กูอยู่แถวนั้นแล้ว กำลังจะไปรับมึงไปซ้อมบาสพอดี"ก
เสียงเพลงดังก้องไปทั่วเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์ ควันจากเครื่องทำหมอกและแสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่วห้องนั่งเล่นที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ปาร์ตี้ นักศึกษาประมาณยี่สิบคนกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ บางกลุ่มเต้นรำอยู่กลางห้อง บางกลุ่มยืนคุยกันที่ระเบียง และบางคนก็นั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่โซฟาไทเกอร์เดินไปมาระหว่างแขก คอยดูแลให้ทุกคนมีเครื่องดื่มและอาหารว่างเพียงพอ เขายิ้มและทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง แต่สายตากลับมองหาใครบางคนตลอดเวลา"เลโอยู่ไหนวะ?" ไทเกอร์ถามมาร์คที่กำลังผสมเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์"น่าจะอยู่ในครัวมั้ง มึงตามหาเมียบ่อยเกินไปแล้วนะเว้ย" มาร์คตอบพลางยักคิ้ว"เมียอะไรของมึง? กูแค่ถามว่ามันอยู่ไหน" ไทเกอร์แย้ง แต่หูก็แดงขึ้นเล็กน้อย"เออๆ เชื่อมึงละกัน แต่กูเห็นมันอยู่กับไอ้แชมป์ที่ระเบียงนะเมื่อกี้"มาร์คยิ้มล้อ"ไอ้แชมป์? มาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ไทเกอร์ชะงัก"เมื่อกี้นี่เองแหละ มาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน"ไม่รอช้า ไทเกอร์เดินตรงไปที่ระเบียง ที่นั่นเขาเห็นเลโอยืนคุยกับแชมป์และเพื่อนอีกสองคน ทั้งสี่ดูสนุกกับการสนทนา เลโอยิ้มและหัวเราะกับเรื่องที่แชมป์เล่า"เฮ้ย ไทเกอร์! มาพอดีเลย พี่แชมป์
เสียงนาฬิกาปลุกดังกังวานทั่วห้องนอนของเลโอ ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวที่คุ้นเคย แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านม่านสีเทาเข้ามาในห้อง เขาเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาแล้วนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์เงียบผิดปกติในเช้าวันเสาร์นี้ ปกติเจ้าของห้องมักตื่นแต่เช้าและออกไปวิ่งทุกวันเสาร์ แต่วันนี้ไม่มีเสียงเจ้าของบ้านเดินไปมาหรือเปิดตู้เย็นเหมือนทุกวัน เลโอลุกจากเตียงเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่มีวี่แววของไทเกอร์"แปลกแฮะ" เลโอพึมพำกับตัวเอง เขามองนาฬิกาบนผนัง เวลา 7.30 น. ไทเกอร์ไม่เคยออกไปวิ่งเร็วขนาดนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค พบข้อความจากไทเกอร์ที่ส่งมาเมื่อตอนตี 5[ไทเกอร์ 05:13]: มีธุระด่วนต้องออกไปแต่เช้า อาจจะกลับดึกนิดนึง กินข้าวเองนะเลโอขมวดคิ้ว นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับไทเกอร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกไปแต่เช้าโดยไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้ แต่เขาก็ไม่คิดมาก ธุระของแต่ละคนก็เป็นเรื่องส่วนตัวเลโอเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเดินไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นหาอะไรกิน พบขนมปังและไข่ที่เหลืออยู่ เขาตัดสินใจทำไข่ดาวง่ายๆ กับขนมปังปิ้ง กิน
เลโอยืนฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างอึดอัด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นไทเกอร์คุยกับพิม"รู้สึกหงุดหงิดล่ะสิ?" แอนเดินมาถามเบาๆ ขณะยื่นป๊อปคอร์นมาให้เลโอ"หา? อะไรนะ?" เลโอเลิกคิ้ว ทำเป็นไม่เข้าใจ"ไม่ต้องปากแข็งหรอก กูเห็นมึงมองไทเกอร์กับพิมแบบไม่พอใจ" แอนพูดยิ้มๆ"กูไม่ได้..." เลโอเริ่มปฏิเสธ"เฮ้ย พวกเรา ตั๋วได้แล้ว" มาร์คเดินมาขัดจังหวะพอดี เขาแจกตั๋วให้ทุกคน "เข้าไปกันเถอะ หนังกำลังจะเริ่มแล้ว"ทุกคนเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ที่นั่งถูกจัดให้นั่งติดกันเป็นกลุ่ม เลโอนั่งอยู่ระหว่างไทเกอร์กับมาร์ค ส่วนพิมนั่งอีกด้านของไทเกอร์ ตามด้วยแอน จิม และหนุ่มไฟในโรงภาพยนตร์ค่อยๆ หรี่ลง และหนังเริ่มฉาย เลโอพยายามตั้งใจดูหนัง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าพิมพยายามชวนไทเกอร์คุยเป็นระยะๆ ประมาณครึ่งทางของหนัง มีฉากตื่นเต้น ไทเกอร์เอื้อมมือมาจับแขนเลโอโดยไม่รู้ตัว เลโอรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก ปล่อยให้ไทเกอร์จับแขนเขาไว้สักพักหนึ่ง"เฮ้ย ตกใจชิบหาย" ไทเกอร์กระซิบ ก่อนจะปล่อยมือออกเลโอพยักหน้า แล้วกลับมาตั้งใจดูหนังต่อ แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ว่าพิมเอนตัวมาใกล้ไทเกอร์มากขึ
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่
ไทเกอร์หยุดอยู่ที่ประตูห้อง หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง ยังรู้สึกถึงรสจูบของเลโอติดอยู่ ส่วนหนึ่งของเขาอยากวิ่งกลับเข้าไปหาเลโอ แต่อีกส่วนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"พรุ่งนี้...กูต้องรอพรุ่งนี้" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากห้องไทเกอร์ถูกสวมกอดจากด้านหลังโดยเลโอ ตอนนี้เขาไม่มัวรีรอแล้ว เขาจะทำตามหัวใจตัวเองพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไทเกอร์รั้งร่างของเลโอเข้ามาในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะลงบนซอกคอ เลโอสะดุ้ง แต่ไม่ผลักไส ความร้อนจากร่างกายของไทเกอร์แผ่ซ่านผ่านเสื้อผ้า ปลุกความรู้สึกที่ถูกฝังลึกในใจให้ตื่นขึ้น"ไม่ทันได้บอกลากันเลย คิดถึงกูบ้างไหม" ไทเกอร์กระซิบข้างหู ลิ้นร้อนแตะแผ่วเบาที่ติ่งหู"อื้มม...มึง...มึงทำอะไรเนี่ย..."เลโอครางแผ่ว ร่างเขาสั่นสะท้านเมื่อไทเกอร์ดูดติ่งหูไทเกอร์ไม่ตอบ เขาหมุนร่างเลโอให้หันมาเผชิญหน้า ประกบริมฝีปากลงแรงๆ ลิ้นร้อนดุนดันผ่านริมฝีปากที่เผยอ เลโอโอบแขนรอบคอไทเกอร์ทันที ไม่มีความลังเล ไม่มีการผลักไส มีเพียงความกระหายที่ถูกกดทับมานานแสนนาน"กูคิดถึงมึง..." เลโอละริมฝีปากออกพร่ำบอก
แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกในห้องประชุมของโรงแรมริมทะเลในสุราษฎร์ธานี ไทเกอร์กำลังนำเสนอความคืบหน้าของโปรเจครีสอร์ทหรูให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ เขาอธิบายถึงแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานธรรมชาติกับความหรูหราได้อย่างลงตัว พร้อมฉายสไลด์แบบจำลอง 3 มิติที่สวยงาม"และนี่คือแนวคิดห้องพักวิลล่าริมทะเลที่เราวางแผนจะสร้างในเฟสแรก โดยออกแบบให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก และใช้วัสดุท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ไทเกอร์อธิบายอย่างมั่นใจเลโอนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะประชุมด้านขวามือของผู้บริหารทวีวงศ์กรุ๊ป เขามองไทเกอร์อย่างชื่นชมโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มตรงหน้าช่าง... เปลี่ยนไปจากที่เคยรู้จักเมื่อห้าปีก่อน ไม่มีท่าทีหยิ่งยโส ไม่มีคำพูดเหยียดหยาม มีแต่ความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพ"ขอบคุณคุณภูริสำหรับการนำเสนอที่น่าประทับใจ" ประธานบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปกล่าว "ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเราควรฟังความเห็นจากทีมงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเราบ้าง คุณกัณต์ดนัย?"เลโอสะดุ้งเล็กน้อย รีบลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ด้านหน้าห้องประชุม เขาและไทเกอร์สบตากันชั่วครู่ ไทเกอร์ยิ้มและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งในที่ของเลโอ"ขอบคุณครับ" เลโอเปิ
แสงแดดสาดส่องลงมาบนแบบจำลองอาคารขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องประชุม ทีมงานจากสองบริษัทยืนล้อมรอบโต๊ะ ทุกคนก้มมองแบบจำลองด้วยความตื่นเต้น โปรเจคนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ หลังจากใช้เวลาวางแผนมาสองเดือนเต็ม"ผมคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนตำแหน่งสระว่ายน้ำมาตรงนี้" ไทเกอร์ชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของแบบจำลอง "จะให้มุมมองที่สวยกว่า และลดผลกระทบต่อต้นไม้ใหญ่ด้วย"ไทเกอร์ยังต้องใช้สายซัพพอร์ตแขน แต่ความเจ็บปวดลดลงมากแล้ว การทำงานช่วงนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดถึงความเจ็บ"เป็นความคิดที่ดี การออกแบบแบบนี้ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น" เลโอพิจารณาแบบจำลองอย่างละเอียด สายตาของทั้งสองสบกันชั่วครู่ ก่อนที่เลโอจะหันไปคุยกับวิศวกรคนอื่นๆ ต่อสามสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่ไทเกอร์ออกจากโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลโอเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังคงห่างเหินและเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีความเย็นชาหรือความขัดแย้งเหมือนช่วงแรกอีกต่อไป"มีอะไรอีกไหมครับสำหรับวันนี้?" ไทเกอร์ถามทีมงาน"ผมคิดว่าเรามาถึงจุดที่ต้องเริ่มพูดถึงวัสดุที่จะใช้แล้วครับ" วิศวกรคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เรื่องนี้ทีมอิงทวีกรุ๊ปมีความเชี่ยวช
แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านสีขาวของห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ไทเกอร์นั่งพิงหมอนบนเตียง แขนซ้ายถูกยกสูงด้วยอุปกรณ์พยุง มีเหล็กดามกระดูกพันด้วยผ้าพันแผลสะอาด บนโต๊ะข้างเตียงมีแจกันดอกไม้และผลไม้ที่เพื่อนร่วมงานส่งมาให้ ไทเกอร์วางไอแพดที่กำลังใช้ทำงานลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ประตูเปิดออก มาร์คโผล่หน้าเข้ามาก่อน ตามด้วยช่อดอกไม้ใหญ่"เข้ามาได้ครับ" เขาตอบ"ไง ไอ้แขนเดี้ยง ดูท่าจะสบายดีนี่หว่า" มาร์คทัก พลางเดินเข้ามาในห้อง"ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ยังดีที่แขนขวาใช้งานได้ปกติ" ไทเกอร์ยิ้ม มาร์ควางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ หย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง"เฮ้ย นี่มึงยังทำงานอีกเหรอ?" เขาชี้ไปที่ไอแพดและเอกสารกองเล็กๆ บนเตียง"ทำไปเรื่อยๆ ดีกว่านอนเฉยๆ" ไทเกอร์ตอบ "โปรเจคยังต้องเดินหน้าต่อ""กูว่าเจ้าคุณมึงน่าจะเข้าใจนะถ้ามึงพักสักหน่อย""พ่อเข้าใจ แต่กูไม่อยากพักยาว" ไทเกอร์เอ่ย ตาจ้องมองไปที่หน้าต่าง "มีอะไรบางอย่างที่กูต้องพิสูจน์""มันเกี่ยวกับเลโอใช่ไหม?" มาร์คมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณาไทเกอร์ไม่ตอบ แต่สีหน้าบอกคำตอบได้ชัดเจน"เลโอช่วยชีวิตมึงเหรอจริงๆ?" มาร์คถาม"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า "ถ้าไม่ได้เ