หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากอุบัติเหตุ ไทเกอร์หายดีพอที่จะกลับมาเรียนได้แล้ว แม้ร่างกายจะยังไม่แข็งแรงเต็มที่
"ไทเกอร์ กลับมาแล้วเหรอวะ!" มาร์ค เพื่อนสนิทของไทเกอร์ร้องทัก พร้อมรีบวิ่งเข้ามาหา
"เออ ก็พอเดินได้แล้ว แต่ยังต้องใช้ไม้เท้าไปอีกซักพัก" ไทเกอร์ยิ้มบางๆ
"เฮ้ย ไทเกอร์กลับมาแล้ว!" หนุ่ม เพื่อนอีกคนตะโกน ทำให้กลุ่มเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันมามุงล้อมรอบไทเกอร์
"เป็นไงบ้างวะ?" "หายดีแล้วเหรอ?" "เจ็บมากไหม?" "มีแผลเป็นรึเปล่า?"
คำถามมากมายถาโถมเข้ามา ไทเกอร์ยิ้มรับอย่างภาคภูมิ ชินกับการเป็นจุดสนใจ แต่มาร์คสังเกตเห็นว่าเพื่อนของเขายืนได้ไม่นานนัก
"เฮ้ยๆ พอก่อน ไทเกอร์ยังไม่แข็งแรงเต็มที่ ไปนั่งคุยกันที่โต๊ะดีกว่า" มาร์คตะโกนกลบเสียงเพื่อนๆ
กลุ่มเพื่อนพากันเดินไปที่โต๊ะไม้ตัวยาวด้านนอกอาคาร มาร์คช่วยพยุงไทเกอร์อย่างระมัดระวัง
"หายดีจริงๆ เหรอวะ?" มาร์คถามเบาๆ ขณะที่เพื่อนคนอื่นเดินนำไปข้างหน้า
"ก็ยังเจ็บๆ อยู่ แต่ทนอยู่บ้านไม่ไหวแล้ว อีกอย่าง พลาดเรียนมาเยอะแล้ว" ไทเกอร์ตอบเสียงเบา พยายามซ่อนความเจ็บปวด
"เรียนกี่วันก็ได้วะมึง สุขภาพสำคัญกว่าแต่เออ ดีที่มึงกลับมา เบื่อที่ไม่มีมึงว่ะ" มาร์คบอกไทเกอร์ในสิ่งที่คิด ไทเกอร์ยิ้ม รู้สึกอบอุ่นใจที่เพื่อนๆ ยังคงต้อนรับเขากลับมาอย่างดี
"เมื่อเช้ามีเรียนอะไรบ้างวะ?" ไทเกอร์ถาม เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว
"Mechanics of Materials (กลศาสตร์ของวัสดุ) อาจารย์ภพให้งานอีกแล้วด้วย ส่งศุกร์หน้า" หนุ่มตอบพร้อมกับหยิบขนมออกมากิน
"เหี้ย กูพลาดไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?" ไทเกอร์ถอนใจ
"อาจารย์บอกว่ามึงไม่ต้องกังวลนะ ท่านเข้าใจสถานการณ์ แต่ถ้าอยากได้เกรดดีๆ ก็ต้องตามให้ทัน"" แอน เพื่อนสาวในกลุ่มบอกกับไทเกอร์
"มีใครจดโน้ตไว้บ้างไหม? กูต้องอ่านตามให้ทัน ปลายเทอมนี้มีสอบใหญ่ด้วย" ไทเกอร์ถาม สีหน้าเริ่มกังวล เพื่อนๆ มองหน้ากัน ก่อนที่มาร์คจะพูดขึ้น
"กูมีโน้ตนะ แต่อาจจะไม่ค่อยละเอียด..." เขาหยิบสมุดออกมา แสดงให้ไทเกอร์ดู
ไทเกอร์มองโน้ตของมาร์คที่มีแค่หัวข้อหลักๆ กับสูตรไม่กี่สูตร
"ของกูก็คล้ายๆ กัน กูไม่ค่อยได้จดรายละเอียดเท่าไหร่" แอนบอก
"พี่ไทเกอร์! หายดีแล้วเหรอคะ?" เสียงเรียกจากอีกฟากของลานทำให้ทุกคนหันไปมอง น้ำตาล รุ่นน้องสาวที่ชื่นชอบไทเกอร์กำลังโบกมือและเดินตรงมา
"อืม ก็ดีขึ้นมากแล้ว" ไทเกอร์ตอบ
"หนูดีใจจัง พี่หายไปนาน โอ๊ย! นั่นพี่เลโอนี่คะ" น้ำตาลยิ้มหวานและชี้ไปยังร่างสูงที่เดินห่างออกไปไม่ไกล
ไทเกอร์หันไปมอง เลโอกำลังเดินถือสมุดหนาๆ มุ่งหน้าไปทางห้องสมุดคณะ
"ไปเรียกมาสิ ไทเกอร์อาจจะอยากขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขา" มาร์คกระซิบบอกน้ำตาล
น้ำตาลพยักหน้าและวิ่งไปเรียกเลโอ เลโอชะงักเล็กน้อย แต่แล้วก็เดินตามน้ำตาลมา เขาสวมแว่นกรอบดำหนา ท่าทางเรียบๆ เหมือนทุกครั้ง
"สวัสดี" เลโอทักทายเรียบๆ เมื่อมาถึงโต๊ะ
"เฮ้ย วีรบุรุษมาแล้ว" หนุ่มร้องตะโกน
"ใช่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าพอเข้าไปในรถที่จะระเบิด" มาร์คว่า
ไทเกอร์และเลโอสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนที่ไทเกอร์จะพยักหน้าให้เล็กน้อย
"เป็นไงบ้าง? กลับมาเรียนแล้วเหรอ?" เลโอถามไทเกอร์
"อือเพิ่งกลับมาวันนี้" " ไทเกอร์ตอบเลโอ
บรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ เพื่อนๆ มองหน้ากันอย่างงุนงง รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างทั้งคู่
"พี่ไทเกอร์กำลังหาโน้ตเรียนอยู่พอดีค่ะ พี่เลโอมีไหมคะ?" น้ำตาลช่วยทำลายความเงียบ
เลโอมองไปที่สมุดในมือตัวเอง แล้วมองกลับไปที่ไทเกอร์
"มี" เขาตอบสั้นๆ
"โอ้โห ช่วยพี่ไทเกอร์หน่อยนะคะ พี่ไทเกอร์พลาดเรียนไปเยอะมาก ต้องตามให้ทัน" น้ำตาลร้องอย่างตื่นเต้น
ไทเกอร์ดูอึดอัดเล็กน้อย เป็นคนที่ไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใคร โดยเฉพาะคนที่เคยมีปัญหากัน
"กู..." ไทเกอร์เริ่มพูด แต่เลโอขัดขึ้นมาก่อน
"ได้ กูจดค่อนข้างละเอียด เอาไปถ่ายเอกสารก็ได้" เลโอพูด พร้อมยื่นสมุดในมือให้ไทเกอร์
ไทเกอร์มองสมุดของเลโอด้วยความประหลาดใจ มันเต็มไปด้วยโน้ตที่เขียนอย่างเป็นระเบียบ มีหัวข้อชัดเจน แผนภาพประกอบสวยงาม และสูตรต่างๆ ที่เขียนอย่างละเอียด
"แน่ใจเหรอ?" ไทเกอร์ถาม
"อืม รีบคืนกูภายในวันนี้ก็พอ" เลโอพยักหน้า
"เยี่ยมไปเลย! มึงรอดแล้วไทเกอร์!" มาร์คร้องอย่างตื่นเต้น
"ขอบใจนะ" ไทเกอร์พูดด้วยความจริงใจ ห่างไกลจากน้ำเสียงเย่อหยิ่งที่เคยใช้กับเลโอ
"มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามได้" เลโอเพียงพยักหน้า
"มึงจะไปไหนต่อ?" ไทเกอร์ถาม
"ห้องสมุด มีงานต้องทำ" เลโอตอบ
"งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่คลาสบ่ายสองล่ะกัน" ไทเกอร์บอกเลโอ
เลโอพยักหน้าแล้วเดินจากไป ทิ้งให้เพื่อนๆ ของไทเกอร์มองตามด้วยความงุนงง
"เฮ้ย นี่มึงสนิทกับไอ้เลโอตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนหน้านี้มึงกับมันยังเหมือนจะฆ่ากันอยู่เลย" หนุ่มถามอย่างสงสัย
"มันมาเยี่ยมกูที่โรงพยาบาล แล้วก็คุยกันรู้เรื่องขึ้น" ไทเกอร์ยักไหล่ตอบออกไป
"โอ้โห ถึงขั้นไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเลยเหรอ?" แอนถามพรางทำตาโต
"ก็แค่มาเยี่ยม" ไทเกอร์ทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
"เอาล่ะ ใครอยากไปห้องพักนักศึกษาไหม? กูจะไปถ่ายเอกสารโน้ตนี่" ไทเกอร์ถามเพื่อนๆออกไป
สามวันต่อมา ในห้องเรียน
อาจารย์ภพกำลังอธิบายเนื้อหาอย่างกระตือรือร้น มือข้างหนึ่งเขียนสูตรบนกระดาน อีกข้างจับชอล์กแตะเป็นจุดๆ บนแผนภาพที่วาดไว้แล้ว ไทเกอร์นั่งแถวกลางๆ ห้อง พยายามจดตามอาจารย์อย่างละเอียด ใบหน้าขมวดคิ้วด้วยความพยายามเข้าใจเนื้อหา
"...ดังนั้น ค่า maximum shear stress ในแกน circular จะเท่ากับ..." อาจารย์ภพหยุดพูดกลางคัน และหันไปมองนักศึกษา "คุณไทเกอร์ คุณจะช่วยบอกสูตรนี้ได้ไหม?"
ไทเกอร์ชะงัก อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มมองโน้ตของเลโอที่เขาถ่ายเอกสารมา
"ค่า maximum shear stress เท่ากับ..." ไทเกอร์เริ่มตอบช้าๆ พยายามอ่านจากโน้ต "T×r หารด้วย J ครับ โดย T คือ torque, r คือ radius และ J คือ polar moment of inertia"
"ถูกต้องครับ" อาจารย์ภพพยักหน้าด้วยความพอใจ "ดีใจที่เห็นคุณตามเนื้อหาทัน แม้จะหยุดพักไปนาน"
ไทเกอร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเหลือบมองไปทางเลโอที่นั่งอยู่อีกฝั่งของห้อง เลโอกำลังจดโน้ตอย่างตั้งใจ ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนร่วมชั้นกำลังมองเขาอยู่
หลังเลิกคลาส ไทเกอร์พยายามเดินไปหาเลโอที่กำลังเก็บหนังสือใส่กระเป๋า
"เฮ้ ขอบคุณนะ โน้ตของมึงช่วยกูได้มากเลย" ไทเกอร์ทัก
"ไม่เป็นไร" เลโอตอบสั้นๆ
"กูยังไม่เข้าใจเรื่อง strain energy เท่าไหร่ มึงพอมีเวลาอธิบายให้กูฟังหน่อยไหม?" " ไทเกอร์ยอมรับตรงและอยากขอความช่วยเหลือจากเลโอ
"ได้ มึงว่างตอนไหน? " เลโออึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่คาดคิดว่าไทเกอร์จะขอความช่วยเหลือแบบนี้ และเลโอตอบหลังจากคิดสักพัก
"เย็นนี้มีเวลาไหม? กูอยากทำความเข้าใจก่อนที่จะมีคลาสต่อไป" ไทเกอร์ถาม
"ได้ หกโมงที่ห้องสมุดคณะก็แล้วกัน" เลโอพยักหน้า
"ตกลง เจอกันที่นั่น" ไทเกอร์พยักหน้า
มาร์คที่ยืนคอยไทเกอร์อยู่ไม่ไกลเดินเข้ามาด้วยความสงสัย
"มึงขอให้เลโอสอนเหรอ?" มาร์คถาม เมื่อเลโอเดินห่างไปแล้ว
" อืม มันเก่งออกจะตาย ถ้าใครจะช่วยกูให้ตามทัน ก็คงเป็นมัน" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ
"แต่ก่อนหน้านี้มึงยังพูดเหยียดๆ มันอยู่เลยนะ ว่ามันบ้านนอก ไม่ทันสมัย อะไรต่อมิอะไร" มาร์คทำหน้างง
"คนเราก็เปลี่ยนไปได้ว่ะ" ไทเกอร์นิ่งไปพักหนึ่งและเขาตอบเรียบๆ
มาร์คมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยความประหลาดใจ แต่เลือกที่จะไม่ซักไซ้ต่อ
หกโมงตรง ไทเกอร์มาถึงห้องสมุดคณะ เขาเห็นเลโอนั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งพร้อมกับหนังสือและโน้ตที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบ
"มาแล้ว" ไทเกอร์ทัก พลางนั่งลงฝั่งตรงข้าม
"เริ่มกันเลยไหม? เนื้อหาเยอะอยู่" เลโอถาม
"เริ่มเลย" ไทเกอร์พยักหน้า
เลโอเริ่มอธิบายเรื่อง strain energy อย่างใจเย็น วาดแผนภาพประกอบ และเขียนสูตรอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไทเกอร์ฟังอย่างตั้งใจ ถามคำถามเป็นระยะเมื่อไม่เข้าใจ เลโอตอบทุกคำถามอย่างละเอียดและใจเย็น ใช้วิธีอธิบายที่ทำให้เข้าใจง่าย
"อ๋อ...ถ้าอธิบายแบบนี้กูเข้าใจเลย" ไทเกอร์พยักหน้าเมื่อเริ่มเข้าใจ
"มึงเริ่มต้นดูสมการแล้วรู้สึกงงใช่ไหม? ต้องเริ่มจากภาพก่อน วิศวกรต้องเห็นภาพให้ออก" เลโอถาม
"ใช่ อาจารย์สอนเร็วไป กูตามไม่ทัน" ไทเกอร์พยักหน้า
"เพราะมึงเป็นคนชอบภาพมากกว่าสมการน่ะ กูเห็นมึงชอบวาดรูปตอนเรียนตลอด" "เลโอสังเกต
"มึงสังเกตกูด้วยเหรอ?" ไทเกอร์แปลกใจที่เลโอสังเกตเห็น
"ก็... นั่งใกล้ๆ กันมาตลอด " เลโออธิบาย หูเริ่มแดงเล็กน้อย
บรรยากาศเงียบลงชั่วครู่ ก่อนที่ไทเกอร์จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ทำไมเพิ่งมาลงปีนี้” เลดอแปลกใจที่เห็นไทเกอร์มาเรียนวิชาพร้อมกับปี 1
“ปีที่แล้วไปต่างประเทศ ขี้เกียจด้วย” ไทเกอร์บอกไปอย่างไม่ได้สนใจเพราะเขาดรอปไปเทอมนึงเพื่อไปอยู่ต่างประเทศจริงๆ
“ อืม เข้าใจแล้ว” เลโอพนักหน้าเข้าใจคำตอบของไทเกอร์
"ขอบคุณอีกครั้งนะ สำหรับโน้ตและการอธิบาย" ไทเกอร์พูด
"ไม่เป็นไร ใครๆ ก็ช่วยเพื่อนได้" เลโอตอบ
"เพื่อน ? กูนึกว่ามึงบอกว่าเราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน" ไทเกอร์ทวนคำพร้อมยกคิ้ว
"ก็... ตอนนี้ก็คงเรียกว่าเพื่อนได้แล้วมั้ง" เลโอตอบ ปกติเขาไม่ใช่คนพูดมาก แต่วันนี้เขารู้สึกสบายใจที่จะคุยกับไทเกอร์มากขึ้น
"เหรอ? งั้นเรามาทำความเข้าใจ strain energy ต่อดีกว่า เพื่อน" ไทเกอร์ยิ้มมุมปาก
เลโอพยักหน้าและเริ่มอธิบายต่อ สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคุยกันเรื่องเรียนตลอด แต่บรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้นเรื่อยๆ
"พอแล้วสำหรับวันนี้ มึงเข้าใจมากขึ้นหรือยัง?" เลโอปิดหนังสือเมื่อถึงแปดโมง
"อือ ถ้ากูไม่มีมึงช่วย กูคงสอบตกแน่ๆ" ไทเกอร์พยักหน้า
"ไม่หรอก มึงฉลาดอยู่แล้ว ถ้ามึงวางแผนอ่านดีๆ มึงทำได้" เลโอพูด น้ำเสียงเรียบแต่จริงใจ
ไทเกอร์มองหน้าเลโอด้วยความประหลาดใจ ไม่เคยมีใครชมว่าเขาฉลาดมาก่อน
ไทเกอร์มองหน้าเลโอด้วยความประหลาดใจ ไม่เคยมีใครชมว่าเขาฉลาดมาก่อน ส่วนใหญ่ผู้คนจะมองเขาเป็นแค่เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มีฐานะร่ำรวยเท่านั้น"มึงหิวไหม ?ไปกินอะไรกันไหม?" ไทเกอร์ถามขึ้น"ได้ มีร้านไหนดีๆ แนะนำไหม?" เลโอคิดสักครู่ แล้วพยักหน้า"กูรู้จักร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนึงใกล้ๆ นี่กูเลี้ยงดีกว่า ถือว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยกูวันนี้" ไทเกอร์บอก"โอเค" เลโอเก็บหนังสือใส่กระเป๋าทั้งสองเดินออกจากห้องสมุดด้วยกัน ไทเกอร์ยังคงต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง แต่ดูเหมือนเขาจะเดินได้คล่องขึ้นแล้ว"ขับรถมาไหม?" ไทเกอร์ถาม"เปล่า นั่งรถเมล์มา" " เลโอตอบ"งั้นนั่งรถกูไปกัน" ไทเกอร์เสนอ ชี้ไปที่รถสปอร์ตสีดำคันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล"มึงขับแทนกูได้ไหม? ขากูยังไม่ค่อยดี" ไทเกอร์บอกเลโอ"มึงแน่ใจเหรอ? รถมึงราคาแพงขนาดนั้น..."เลโอมองรถสปอร์ตราคาแพงด้วยความลังเลเพราะมันเป็นรถของคนอื่น หากเป็นรถของที่บ้านเขาจะไม่ถามออกไปแบบนั้นเลย"ไว้ใจกูสิ กูรู้ว่ามึงขับรถดี" ไทเกอร์ยิ้ม ส่งกุญแจให้เลโอ"รู้ได้ไง?" เลโอประหลาดใจ"เคยเห็นมึงขับรถพี่มึงมาส่งที่มหาวิทยาลัยครั้งนึง มึงเป็นคนขับรถระมัดระวัง แค่ดูก็รู้" ไทเกอร์ตอบเลโออึ้ง
เสียงเพลงคลาสสิคแผ่วเบาดังมาจากลำโพงขนาดเล็กบนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่นของเพนท์เฮาส์หรู ไทเกอร์นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว เอกสารและหนังสือกองสุมอยู่รอบตัว สมุดโน้ตเปิดอยู่บนตัก ปากกาในมือเคาะเบาๆ ลงบนกระดาษขณะที่เขาครุ่นคิดช่ วงสอบกลางภาคมาถึง และไทเกอร์ตั้งใจจะต้องทำคะแนนให้ดีเพื่อชดเชยเวลาที่เขาพลาดไปช่วงที่บาดเจ็บ แม้ขาข้างขวาจะยังไม่หายดีเต็มที่ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว"เฮ้อ..." ไทเกอร์ถอนหายใจ เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง เกือบสามโมงแล้ว เลโอน่าจะมาถึงในอีกไม่นานสองสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่เลโอช่วยสอนเรื่อง strain energy ให้ไทเกอร์ การติวด้วยกันครั้งนั้นนำไปสู่การนัดพบกันอีกหลายครั้งเพื่อเตรียมตัวสอบ ไทเกอร์ยังรู้สึกแปลกๆ ที่เขากับเลโอกลายเป็นเพื่อนกันได้ หลังจากที่เคยเกลียดกันมาก่อนเสียงกริ่งดังขึ้น ไทเกอร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าประตู เลโอยืนอยู่ตรงนั้น สวมเสื้อยืดสีเทาและกางเกงยีนส์สีซีด สะพายเป้ใบเก่า"ขึ้นมาได้" ไทเกอร์กดปุ่มเปิดประตูลอบบี้ชั้นล่าง แล้ววางโทรศัพท์ลง เขาลุกขึ้นยืดตัว เดินไปเปิดประตูห้องไม่นานนัก เสียงลิฟท์ดัง "ติ๊ง" ประตูเลื
แสงไฟสีสันสดใสกระพริบไปมาในจังหวะเพลงที่ดังกระหึ่ม เสียงผู้คนพูดคุยหัวเราะและเสียงแก้วกระทบกันดังแทรกเป็นระยะ กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำหอมหลากหลายกลิ่นลอยอบอวลในอากาศ"จริงๆ แล้วกูไม่ค่อยชอบงานแบบนี้เท่าไหร่" เลโอตะโกนกลบเสียงเพลงที่ดังสนั่น"อะไรนะ?" ไทเกอร์เอียงหูเข้ามาใกล้"กูบอกว่า กูไม่ค่อยชอบงานแบบนี้!" เลโอตะโกนซ้ำอีกครั้ง"ลองดูสักครั้งเถอะ รับรองว่ามึงจะชอบ!"ไทเกอร์หัวเราะและตบไหล่เลโอเบาๆเลโอพยักหน้าแม้จะยังไม่ค่อยมั่นใจนัก เขามองไปรอบๆ ห้องสวีทของโรงแรมหรูที่เต็มไปด้วยนักศึกษาจากหลายคณะที่กำลังสนุกสนาน บางคนเต้นรำในพื้นที่ว่างกลางห้อง บางคนนั่งจิบเครื่องดื่มพูดคุยกันที่โซฟา บางคนกำลังเล่นเกมดื่มกันอย่างสนุกสนานงานปาร์ตี้ในคืนนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของมาร์ค เพื่อนสนิทของไทเกอร์ ซึ่งโดยปกติเลโอจะไม่มาร่วมงานแบบนี้ แต่ไทเกอร์ยืนยันที่จะพาเขามาด้วย"มาดื่มกัน!" ไทเกอร์ดึงมือเลโอให้เดินไปที่บาร์เล็กๆ มุมห้อง "มึงชอบดื่มอะไร?""กูไม่ค่อยดื่มเท่าไหร่..." เลโอตอบ"คืนนี้ดื่มให้สนุกเถอะน่า อายุก็เกิน 20 แล้ว " ไทเกอร์ยิ้ม "Whisky? Vodka? Tequila?""อะไรก็ได้ที่ไม่แร
แดดยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างกระจกของร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ดังแทรกเสียงพูดคุยของนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ ไทเกอร์นั่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน สายตาจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ แต่ความคิดลอยไปไกลหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากงานปาร์ตี้วันเกิดของมาร์ค ไทเกอร์พยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงการเจอกับเลโอ เขาเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน หลบมุมในโรงอาหาร และพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกมหาวิทยาลัยเมื่อไม่มีเรียน"เฮ้! นั่นบอสกับพี่แฮมไม่ใช่เหรอ?" เสียงมาร์คดังขึ้น พลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะไทเกอร์ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ ก่อนจะมองไปทางที่มาร์คพยักเพยิด เขาเห็นเพื่อนรุ่นพี่สองคนกำลังคุยกับสาวสวยกลุ่มหนึ่งที่โต๊ะใหญ่อีกฝั่งของร้าน"อือ" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ"มึงโอเคป่าววะ? ช่วงนี้ดูแปลกๆ " มาร์คถาม น้ำเสียงเจือความกังวล"กูสบายดี" ไทเกอร์ตอบเร็วเกินไปมาร์คเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร เขามองไทเกอร์อย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ"เรื่องนนนี่ เธอบอกกูว่าคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น" มาร์คเริ่มพูดถึงเรื่องวันนั้น"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้"แปลกน
หลังจากการสอบปลายภาคผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ก็ถึงช่วงปิดเทอมเพื่อจะขึ้นปี 3 แดดส่องแสงสีทองปรอยๆ เข้ามาตามซอกผ้าม่านของหอพัก เลโอนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพข้างนอกเป็นตึกหอพักอีกหลังที่เกือบจะว่างเปล่า เขาเพ่งสายตาไปยังกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่เตรียมไว้บนพื้น เสื้อผ้าพับเรียบร้อยรอที่จะถูกใส่ลงไป แต่อีเมลที่เพิ่งเข้ามาเมื่อชั่วโมงก่อนทำให้แผนการกลับบ้านต้องล้มเลิก"เฮ้อ" เขาถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความจากพี่ชายอีกรอบ"น้องชาย ต้องขอโทษจริงๆ แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะเข้าทางใต้ ทางจังหวัดสั่งอพยพคนจากบริเวณชายฝั่งทั้งหมด รีสอร์ทเรารองรับคนอพยพหมดแล้ว พ่อกับแม่ต้องช่วยดูแลสถานการณ์ด่วน พี่กับพี่มิ้นท์ก็ไม่ได้กลับเหมือนกัน เอาไว้ตอนที่สถานการณ์เข้าที่เข้าทางแล้วค่อยกลับนะ"พอวางแผนจะกลับไปช่วยที่รีสอร์ทบ้าง เล่นกับหมาที่ดูแลมาตั้งแต่มัธยม ก็มีจังหวะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อไทเกอร์ปรากฏบนหน้าจอ"ว่าไง" เลโอรับสาย["มึงกลับบ้านวันนี้ใช่มั้ย?"] น้ำเสียงไทเกอร์ฟังดูร่าเริงผิดปกติ"เออ... จริงๆ แผนเปลี่ยนแล้ว บ้านกูมีเรื่องด่วน พายุลูกใหญ่กำลังจะเข้า ทุกคนยุ่งหมด เลยไม่ไ
ชีวิตในมหาวิทยาลัยกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังช่วงปิดเทอม นักศึกษาหลายคนยังคงมีแสงแดดของการพักผ่อนติดอยู่บนผิว บางคนดูซีดลงจากการเรียนซัมเมอร์ ลานหญ้าหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์แน่นขนัดไปด้วยนักศึกษาทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เสียงพูดคุยหัวเราะดังระงมไปทั่ว ปีนี้เลโออยู่ปี 3 และไทเกอร์อยู่ปี 4 แต่คาดว่าไทเกอร์น่าจะจบพร้อมกับเลโอไทเกอร์จอดรถสปอร์ตสีดำในที่จอดประจำ เขาสวมแว่นกันแดดสีเข้ม เสื้อยืดแบรนด์เนมสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบราคาแพง ดูสดใสและมีเสน่ห์เหมือนเคย เขาก้าวลงจาแชมป์ถพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง"เฮ้ย! ไทเกอร์! มานี่เว้ย!" มาร์คโบกมือเรียกจากใต้ต้นไม้ใหญ่ เขานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกสามคน ไทเกอร์โบกมือตอบ แต่ไม่ได้เดินตรงไปที่กลุ่มเพื่อนทันที เขามองหาใครบางคนในฝูงชน เดินวนเล็กน้อยพลางมองไปรอบๆ"มองหาใครวะ?" มาร์คตะโกนถาม"เดี๋ยว" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ จู่ๆ ใบหน้าของไทเกอร์ก็สว่างขึ้น เมื่อเห็นร่างคุ้นเคยกำลังเดินขึ้นบันไดคณะ"เลโอ!" เขาเรียกเสียงดังเลโอชะงักและหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นไทเกอร์ เขาก็ยิ้มและโบกมือทักทาย ไทเกอร์เดินเข้าไปหา ทั้งสองจับมือกันฉันเพื่อนและตบไหล่ก
เสียงฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนักหน่วงบนหลังคาหอพักนักศึกษา ท้องฟ้ามืดครึ้มแม้จะเป็นเวลาเพียงบ่ายสามโมง เลโอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เบื้องหน้าคือหนังสือและโน้ตที่เขาใช้เตรียมตัวสอบกลางภาค แต่ความสนใจของเขากลับจดจ่อกับเสียงน้ำฝนที่รั่วหยดลงมาจากเพดานห้อง กระป๋องและถังที่เขาวางรองน้ำไว้ส่งเสียงดังเป็นจังหวะ ตุ๊บ... ตุ๊บ... ตุ๊บ...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลโอเอื้อมมือไปหยิบและยิ้มเมื่อเห็นชื่อผู้โทรเข้า"ว่าไง?" เลโอรับสาย"มึงอยู่ไหนวะ?" เสียงของไทเกอร์ดังมาพร้อมกับเสียงฝนตกหนักในสาย"อยู่ห้อง ฝนตกหนักขนาดนี้จะไปไหนได้""พร้อมรึยัง? เรามีนัดซ้อมบาสห้าโมงนะ""กูว่าวันนี้คงต้องหยุดซ้อมแล้วล่ะ ห้องกูน้ำรั่วหนักมาก ต้องอยู่เฝ้าของด้วย" เลโอถอนหายใจ มองไปที่เพดานที่น้ำรั่วไม่หยุด"เฮ้ย! น้ำรั่วเหรอ?" น้ำเสียงของไทเกอร์เปลี่ยนเป็นกังวลทันที "แย่ขนาดนั้นเลย?""อืม หลังคาหอรั่วตรงห้องกูพอดี นี่ต้องวางกระป๋องรองน้ำไว้สามจุดแล้ว ไอ้พีทมันโชคดีย้ายออกไปอยู่กับแฟน กูเลยต้องเก็บของคนเดียว ""เดี๋ยวกูไปหามึงเลย""ไม่ต้องหรอก ฝนตกหนักขนาดนี้ อันตราย""กูอยู่แถวนั้นแล้ว กำลังจะไปรับมึงไปซ้อมบาสพอดี"ก
เสียงเพลงดังก้องไปทั่วเพนท์เฮาส์ของไทเกอร์ ควันจากเครื่องทำหมอกและแสงไฟหลากสีสาดส่องไปทั่วห้องนั่งเล่นที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ปาร์ตี้ นักศึกษาประมาณยี่สิบคนกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ บางกลุ่มเต้นรำอยู่กลางห้อง บางกลุ่มยืนคุยกันที่ระเบียง และบางคนก็นั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่โซฟาไทเกอร์เดินไปมาระหว่างแขก คอยดูแลให้ทุกคนมีเครื่องดื่มและอาหารว่างเพียงพอ เขายิ้มและทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง แต่สายตากลับมองหาใครบางคนตลอดเวลา"เลโอยู่ไหนวะ?" ไทเกอร์ถามมาร์คที่กำลังผสมเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์"น่าจะอยู่ในครัวมั้ง มึงตามหาเมียบ่อยเกินไปแล้วนะเว้ย" มาร์คตอบพลางยักคิ้ว"เมียอะไรของมึง? กูแค่ถามว่ามันอยู่ไหน" ไทเกอร์แย้ง แต่หูก็แดงขึ้นเล็กน้อย"เออๆ เชื่อมึงละกัน แต่กูเห็นมันอยู่กับไอ้แชมป์ที่ระเบียงนะเมื่อกี้"มาร์คยิ้มล้อ"ไอ้แชมป์? มาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ไทเกอร์ชะงัก"เมื่อกี้นี่เองแหละ มาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน"ไม่รอช้า ไทเกอร์เดินตรงไปที่ระเบียง ที่นั่นเขาเห็นเลโอยืนคุยกับแชมป์และเพื่อนอีกสองคน ทั้งสี่ดูสนุกกับการสนทนา เลโอยิ้มและหัวเราะกับเรื่องที่แชมป์เล่า"เฮ้ย ไทเกอร์! มาพอดีเลย พี่แชมป์
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่
ไทเกอร์หยุดอยู่ที่ประตูห้อง หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง ยังรู้สึกถึงรสจูบของเลโอติดอยู่ ส่วนหนึ่งของเขาอยากวิ่งกลับเข้าไปหาเลโอ แต่อีกส่วนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง"พรุ่งนี้...กูต้องรอพรุ่งนี้" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากห้องไทเกอร์ถูกสวมกอดจากด้านหลังโดยเลโอ ตอนนี้เขาไม่มัวรีรอแล้ว เขาจะทำตามหัวใจตัวเองพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไทเกอร์รั้งร่างของเลโอเข้ามาในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะลงบนซอกคอ เลโอสะดุ้ง แต่ไม่ผลักไส ความร้อนจากร่างกายของไทเกอร์แผ่ซ่านผ่านเสื้อผ้า ปลุกความรู้สึกที่ถูกฝังลึกในใจให้ตื่นขึ้น"ไม่ทันได้บอกลากันเลย คิดถึงกูบ้างไหม" ไทเกอร์กระซิบข้างหู ลิ้นร้อนแตะแผ่วเบาที่ติ่งหู"อื้มม...มึง...มึงทำอะไรเนี่ย..."เลโอครางแผ่ว ร่างเขาสั่นสะท้านเมื่อไทเกอร์ดูดติ่งหูไทเกอร์ไม่ตอบ เขาหมุนร่างเลโอให้หันมาเผชิญหน้า ประกบริมฝีปากลงแรงๆ ลิ้นร้อนดุนดันผ่านริมฝีปากที่เผยอ เลโอโอบแขนรอบคอไทเกอร์ทันที ไม่มีความลังเล ไม่มีการผลักไส มีเพียงความกระหายที่ถูกกดทับมานานแสนนาน"กูคิดถึงมึง..." เลโอละริมฝีปากออกพร่ำบอก
แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกในห้องประชุมของโรงแรมริมทะเลในสุราษฎร์ธานี ไทเกอร์กำลังนำเสนอความคืบหน้าของโปรเจครีสอร์ทหรูให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ เขาอธิบายถึงแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานธรรมชาติกับความหรูหราได้อย่างลงตัว พร้อมฉายสไลด์แบบจำลอง 3 มิติที่สวยงาม"และนี่คือแนวคิดห้องพักวิลล่าริมทะเลที่เราวางแผนจะสร้างในเฟสแรก โดยออกแบบให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก และใช้วัสดุท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ไทเกอร์อธิบายอย่างมั่นใจเลโอนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะประชุมด้านขวามือของผู้บริหารทวีวงศ์กรุ๊ป เขามองไทเกอร์อย่างชื่นชมโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มตรงหน้าช่าง... เปลี่ยนไปจากที่เคยรู้จักเมื่อห้าปีก่อน ไม่มีท่าทีหยิ่งยโส ไม่มีคำพูดเหยียดหยาม มีแต่ความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพ"ขอบคุณคุณภูริสำหรับการนำเสนอที่น่าประทับใจ" ประธานบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปกล่าว "ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเราควรฟังความเห็นจากทีมงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเราบ้าง คุณกัณต์ดนัย?"เลโอสะดุ้งเล็กน้อย รีบลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ด้านหน้าห้องประชุม เขาและไทเกอร์สบตากันชั่วครู่ ไทเกอร์ยิ้มและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งในที่ของเลโอ"ขอบคุณครับ" เลโอเปิ
แสงแดดสาดส่องลงมาบนแบบจำลองอาคารขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องประชุม ทีมงานจากสองบริษัทยืนล้อมรอบโต๊ะ ทุกคนก้มมองแบบจำลองด้วยความตื่นเต้น โปรเจคนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ หลังจากใช้เวลาวางแผนมาสองเดือนเต็ม"ผมคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนตำแหน่งสระว่ายน้ำมาตรงนี้" ไทเกอร์ชี้ไปที่ส่วนหนึ่งของแบบจำลอง "จะให้มุมมองที่สวยกว่า และลดผลกระทบต่อต้นไม้ใหญ่ด้วย"ไทเกอร์ยังต้องใช้สายซัพพอร์ตแขน แต่ความเจ็บปวดลดลงมากแล้ว การทำงานช่วงนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดถึงความเจ็บ"เป็นความคิดที่ดี การออกแบบแบบนี้ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น" เลโอพิจารณาแบบจำลองอย่างละเอียด สายตาของทั้งสองสบกันชั่วครู่ ก่อนที่เลโอจะหันไปคุยกับวิศวกรคนอื่นๆ ต่อสามสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่ไทเกอร์ออกจากโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลโอเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังคงห่างเหินและเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีความเย็นชาหรือความขัดแย้งเหมือนช่วงแรกอีกต่อไป"มีอะไรอีกไหมครับสำหรับวันนี้?" ไทเกอร์ถามทีมงาน"ผมคิดว่าเรามาถึงจุดที่ต้องเริ่มพูดถึงวัสดุที่จะใช้แล้วครับ" วิศวกรคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เรื่องนี้ทีมอิงทวีกรุ๊ปมีความเชี่ยวช
แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านสีขาวของห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ไทเกอร์นั่งพิงหมอนบนเตียง แขนซ้ายถูกยกสูงด้วยอุปกรณ์พยุง มีเหล็กดามกระดูกพันด้วยผ้าพันแผลสะอาด บนโต๊ะข้างเตียงมีแจกันดอกไม้และผลไม้ที่เพื่อนร่วมงานส่งมาให้ ไทเกอร์วางไอแพดที่กำลังใช้ทำงานลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ประตูเปิดออก มาร์คโผล่หน้าเข้ามาก่อน ตามด้วยช่อดอกไม้ใหญ่"เข้ามาได้ครับ" เขาตอบ"ไง ไอ้แขนเดี้ยง ดูท่าจะสบายดีนี่หว่า" มาร์คทัก พลางเดินเข้ามาในห้อง"ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ยังดีที่แขนขวาใช้งานได้ปกติ" ไทเกอร์ยิ้ม มาร์ควางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ หย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง"เฮ้ย นี่มึงยังทำงานอีกเหรอ?" เขาชี้ไปที่ไอแพดและเอกสารกองเล็กๆ บนเตียง"ทำไปเรื่อยๆ ดีกว่านอนเฉยๆ" ไทเกอร์ตอบ "โปรเจคยังต้องเดินหน้าต่อ""กูว่าเจ้าคุณมึงน่าจะเข้าใจนะถ้ามึงพักสักหน่อย""พ่อเข้าใจ แต่กูไม่อยากพักยาว" ไทเกอร์เอ่ย ตาจ้องมองไปที่หน้าต่าง "มีอะไรบางอย่างที่กูต้องพิสูจน์""มันเกี่ยวกับเลโอใช่ไหม?" มาร์คมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณาไทเกอร์ไม่ตอบ แต่สีหน้าบอกคำตอบได้ชัดเจน"เลโอช่วยชีวิตมึงเหรอจริงๆ?" มาร์คถาม"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า "ถ้าไม่ได้เ