แชร์

เหมันต์ไม่ช่วยอะไร

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-21 10:07:15

แต่ตอนนี้เขาพอจะลำดับเรื่องราวได้ เข่อชิงชื่อที่นางในห้องเครื่องนามอี้เอ่อร์เอ่ยถึงในวันนั้น

“ก็จริงนะทุกวันนี้ต้องปรุงให้คนแก่เรื่องมากคนนั้นกินคนเดียว ไม่รู้ว่าเรียกว่าเซฟได้หรือเปล่า”

หนิงหลงยังรุกไม่หยุดสะดุดหูกับคำว่าคนแก่เรื่องมาก

“คนแก่เรื่องมาก คนนั้นเจ้าหมายถึงใคร”

น้ำเสียงแกว่งๆ ในตอนท้าย

หากเป็นเวลาปกติเขาคงตวาดนางดังลั่น

“ก็คนแก่ที่เรื่องมากปัญหาเยอะ ช่างเถอะอย่ารู้เลยว่าแต่จะกินอะไรประเดี๋ยวเตาไฟมอดเสียหมด”

“อากาศหนาว คงต้องกินอะไรร้อนๆ”วางโถขนมลง

“อืมมมมข้ากำลังจะหมักหมูพอดี เรามากินชาบูกันดีไหม”

“ชาบู”

หนิงหลงขมวดคิ้ว ทวนคำพูดของศรีไพรไอ้เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร

ศรีไพรยกหม้อใบไม่ใหญ่นักวางบนเตาที่เตี้ยสุด เติมน้ำซุปไก่ เทพริกหมาล่าหรือชวงเจียลงไปรอเดือด

“มาเถอะ ข้าโขลกพริกหมาล่าไว้เมื่อวานจากชวงเจียสดๆ หอมมากพอดีเลยในหม้อมีน้ำซุปไก่เหลือเราแค่เอา พริกหมาล่าที่ข้าโขลกใส่ลงไปรอเดือด ท่านไปหยิบผักที่ท่านชอบกินและอยากกินมาหั่นเสีย แล้ววางไว้ส่วนข้าจะไปหั่นหมูให้บางเฉียบ เสียดายไม่มีอย่างอื่นเอาไว้วันหลังพี่สาวจะทำลูกชิ้นและเลือกเนื้อวัวสวยๆ ไว้กินชาบูกัน”

ยังจะมีวันหลังอีกหรือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   รอยยิ้มยามอิ่มหนำ

    นับหนึ่งถึงสิบยกถ้วยน้ำจิ้มส่วนตัว ที่แบ่งไปวางตรงหน้าหนิงหลงแล้วหนึ่งชุดขึ้นมาจุ่มหมูที่จุ่มลงไปในระยะเวลา10วินาทีโดยประมาณเวลาขนาดนี้จึงเหมาะแก่การจุ่มเนื้อสัตว์ลงไปให้หวานนุ่มพอดีไม่สุกจนเหนียวหรือไม่ดิบจนเกินไปอ้าปากสีแดงระเรื่อกว้างสุดกว้างยัดหมูร้อนๆ ที่มีไอร้อนลอยเข้าปาก รสเปลี่ยวเผ็ดของน้ำจิ้มและความร้อนทำเอาศรีไพรต้องยกมือขึ้นป้องปาก เคี้ยวงับๆ ซู๊ดปากไปพราง“อือออออร่อยจัง ตาท่านแล้วน้องชาย”แววตาแห่งความสุขที่หนิงหลงเห็นสัมผัสได้ เกือบทำให้หนิงหลงยิ้มยาม เมื่อเห็นศรีไพรมีความสุขกับการกินหนิงหลงใช้ตะเกียบในมือช้อนแผ่นเนื้อหมูขึ้นมาบ้างแล้วเองลงไปจุ่มในน้ำ“หากอยากให้สุกน้อยแกว่งไปมาแล้วนับแต่ถ้าอยากสุกมากจุ่มไว้นิ่งๆ”ศรีไพรคีบหมูมาอีกสลับกับคีบผักไปจิ้มกับน้ำจิ้มหนิงหลงนับจนครบสิบ แล้วยกเนื้อหมูขึ้นจุ่มลงไปในน้ำจิ้มศรีไพรใช้ช้อนตักน้ำจิ้มโปะลงบนเนื้อหมูของหนิงหลง“ไม่เผ็ดหรือ”ศรีไพรอมยิ้ม“คำแรกต้องจัดหนัก แล้วคำต่อไปจึงค่อยเบาลงนี่คือสูตรของข้าเอง รับรองเด็ดจนต้องร้องขอชีวิต”หนิงหลงคีบหมูยัดเข้าไปในปากศรีไพรคีบผักกาดขาวที่ลวกจนได้ที่วางในถ้วยให้พยักหน้ารัวรัว หนิงหลงม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   นี่คือศรีไพร

    “ท่านยังไม่บอกข้าเลยว่าท่านชื่ออะไรน้องชาย”หรวนหนิงหลงมีสีหน้าครุ่นคิดไม่คิดว่านางจะอยากทราบชื่อเขาด้วยซ้ำ“ขะขะข้าชื่อหนิงเอ่อร์”ศรีไพรยิ้ม“อี้เอ่อร์ หนิงเอ่อร์ทำไมพวกเจ้าต้องมีคำว่าเอ่อร์ รู้ไหมคำว่า เอ่อ สำหรับข้า มันฟังแปลกแต่ช่างเถอะจำง่ายดี ไว้พบกันใหม่…อือ ยินดีที่รู้จักด้วยเกือบลืมไป”หนิงหลงยิ้มน้อยๆ ศรีไพรโบกมือลาราวกับว่าจะไม่ได้พบกันอีกหนิงหลงหายไปในความมืด“ใกล้จะเที่ยงคืน”ศรีไพรพุ่งตัวเข้าไปในห้องเครื่องวิ่งไปที่กองขิงและกองมันฝรั่ง ที่ที่จำได้ว่าเห็นแสงหลากสีตรงนั้น“ใกล้แล้วใกล้แล้วสิ ขอให้เป็นอย่างที่คิดด้วยเถิด สาธุ”เที่ยงคืนของในทุกวัน แสงหลากสีจะต้องปรากฏและพาคนบางคนข้ามผ่านกาลเวลา หลับตาลงช้าๆ นับถอยหลังดังๆ“4….3….2….1”ลืมตาขึ้นไม่มีแสงไม่มีอะไรมีเพียงความว่างเปล่าและหนาวเหน็บเสียงนกเค้าแมวร้องอยู่บนหลังคา ห้องเครื่อง คล้ายกับเย้ยหยันศรีไพรศรีไพรน้ำตาร่วงเผาะ“ไม่ใช่เที่ยงคืนแล้วยังมีเงื่อนไขอะไรอีกที่จะพาฉันกลับไป”เช้าวันใหม่ที่ไก่ป่าขันเจื้อยแจ๊ว ศรีไพรนอนซุกตัวในผ้าห่มหนา มือขวายังกำมีดมือซ้ายยังกำห่อผ้าที่มีลูกฟักทองที่คว้านเอาเมล็ดออก แกะสลักด้วยมีดท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   สิ่งนี้คือของหวาน

    อี้เอ่อร์อมยิ้มอดขำป้าตื้อเสียไม่ได้“พี่เขาแกะสลักแตงโมตั้งแต่เมื่อวานแต่ เฟยฟางกลับรับเอาของกำนัลไปเพียงลำพังข้าได้ยินลุงซุนบอกว่าไทเฮาเองก็อยากพบนาง นางก็คงได้ของกำนัลจากไทเฮาเพราะฝีมือของพี่เข่อชิง”ศรีไพรขมวดคิ้วส่ายหน้าไปมาห้ามอี้เอ่อร์ไม่ให้พูดเรื่องนี้“ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้ เจ้าทำเรื่องยิ่งใหญ่เพียงนี้ แต่ตาแก่นั่นกลับเอาใจเฟยฟาง”“ป้าตื้อ ข้าจะต้องรีบทำเครื่องเสวย ท่านป้าขอเวลาข้าก่อน”ป้าตื้อถอนหายใจ“เข่อชิงเรื่องนี้เจ้ายอมได้ข้ายอมไม่ได้”ลุกจากเก้าอี้เดินจากไปเพื่อจะไปพูดเรื่องนี้กับสามีหรือลุงซุนนั่นเองศรีไพรส่ายหน้าไปมาศรีไพรนำฟักทองไปล้างน้ำจนสะอาด กรอกส่วนผสมทั้งหมดลงไปในผลฟักทองที่แกะสลักสองในสามสวน มองไปที่ซึ้งที่ยกขึ้นตั้งไฟไว้ไอน้ำลอยขึ้นมาให้เห็นพอดี ศรีไพรนำฟักทองไปนึ่ง ปิดฝาซึ้งให้มิด“พี่เข่อชิงมันจะออกมาหน้าตาแบบไหนแล้วจะอร่อยไหม”อี้เออ่ร์ถามด้วยนิสัยช่างสงสัยของนาง“รับรองว่า คนกินจะต้องชอบ หากเจ้าอยากกินไว้เสร็จจากทำเครื่องเสวยถวายฝ่าบาทแล้วพี่เข่อชิงจะทำให้เจ้าได้ชิมอีกลูกหนึ่ง อือข้าคิดออกแล้วเจ้าจะต้องลงมือด้วยตัวเอง ข้าจะคอยสอนเจ้าอยู่ใกล้ๆ ดีไหมจะได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   ข้าวเหนียวหมูปิ้งร้อนๆไหมคะ

    เปิดฝาครอบฟักทองสังขยาออก ใช้มีดหั่นฟักทองเป็นชิ้นเล็กหนึ่งซีกใช้มีดสอดไปใต้ชิ้นฟักทองที่หั่นออกมามืออีกข้างประคองชิ้นที่หั่นไว้ ดึงขยับออกมาเพียงนิดให้เห็นว่ามาจากฟักทองทั้งลูก สีเหลืองใสของฟักทองกับสีครีมของสังขยาช่างน่ามองอีกทั้งยังมีลวดลายของเนื้อฟักทองที่แกะสลักนั่นอีก“ข้าหั่นไว้แล้วหากฝ่าบาทเสวยหมดแล้วเจ้าก็แค่หั่นตามแบบของข้า”อธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบๆเฟยฟางกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ อี้เอ่อร์ยิ้มสังเกตอากัปกิริยาของเฟยฟางไม่วางตา“อีกสิบปีเจ้าก็ไม่มีทางเทียบพี่เข่อชิงของข้าได้”กระซิบที่เฟยฟางเบาๆเฟยฟางก้มหน้าซ่อนยิ้มมุมปาก ยกถาดเครื่องเสวยไปพร้อมกับนางในห้องเครื่องอีกสองคน“ฝ่าบาทเมื่อคืนเอ่อ…”หรวนหนิงหลงเงยหน้าขึ้นดวงตาสดใส“เมื่อคืนชาบูอร่อยมาก รสดีที่สุด ลงตัวที่สุด”เป่ยกงกงเลิกคิ้วสูง อมยิ้ม“ชาบู คือสิ่งใด”“ชาบูก็คือ เครื่องเสวยที่เหมาะกับอากาศหนาว และหากได้นั่งกินไปพร้อมกับใครสักคนที่เรามีเรื่องคุยกับเขาช่วงเวลานั้น…นับว่าเหมาะกับการกินเครื่องเสวยชนิดนี้”เป่ยกงกงทำสีหน้าจริงจัง“ฝ่าบาททรงเอ่ยปากกับนางเรื่องที่ฝ่าบาทอยากจะได้คำตอบหรือยังพ่ะย่ะค่ะ”“ความจริงหากเอ่ยปากกับนางเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   เจ็บแทน

    เฟยฟางยกถาดหมูปิ้งไปวางตรงหน้าหนิงหลงเปิดฝาครอบหมูปิ้งออกกลิ่นหอมยังอบอวลเข้าจมูก“ฝ่าบาทยังไม่ทันได้ทดสอบพิษในเครื่องเสวย”เป่ยกงกงประสานมือ“ไม่ต้อง”เป่ยกงกงขมวดคิ้ว“ฝ่าบาทจะต้องเสวยด้วยมือเพคะ”หรวนหนิงหลง หยิบหมูปิ้งขึ้นมากัด ยังไม่ทันที่เป่ยกงกงจะทันได้ห้าม“ฝ่าบาทได้โปรดไตร่ตรองหากมีพิษ หากมีใครใส่ยาพิษไว้ในเครื่องเสวย”หนิงหลงเคี้ยวหมูปิ้งงับๆ จกข้าวเหนียวมาใส่ปากแล้วก็หยิบผักมากัดตามไปติดๆ“อืออ รสดีจริงๆ แล้วนี่คืออะไร”เฟยฟางยิ้มเลื่อนถ้วยจิ้มแจ่วไปตรงหน้า“นี่คือน้ำจิ้มแจ่ว หากหมูปิ้งที่กินรสไม่จัดจานพอก็ให้กินกับของสิ่งนี้”หนิงหลงใช้ช้อนตักน้ำจิ้มแจ่วราดไปบนหมูปิ้งเหมือนที่ศรีไพรราดน้ำจิ้มลงบนหมูแกว่งในชาบู“ฝ่าบาท รสจะเผ็ดเกินไปพ่ะย่ะค่ะเห็นได้ชัดว่า พริกแดงจนน่ากลัวเกรงว่าพระนาภี (ท้อง) จะมีปัญหา”เป่ยกงกงร้องเสียงหลง“ก้มลงมา เป่ยกงกงท่านก้มลงมา”เป่ยกงกงเลิกคิ้วสูง แต่ก็ยอมก้มลงไปโดยดี“อ้าปาก”เป่ยกงกงอ้าปาก หรวนหนิงหลงยัดหมูปิ้งที่มีน้ำจิ้มแจ่ว ราดจนฉ่ำเข้าไปในปากเป่ยกงกง เฟยฟางเดินถอยออกไป“ขะขอบพระทัยฝ่าบาท”เคี้ยวหมูปิ้งที่เหลือครึ่งไม้สีหน้าบ่งบอกว่าประหลาดใจ“อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   เชฟใหญ่แหละ

    “เฟยฟางแค่เพียงจะบอกว่าที่ทำทั้งหมดล้วนเพราะความใส่ใจ”น้ำเสียงสั่นเครือหนิงหลงยิ้มหยันในเวลาที่นางนอนหลับไหลแต่เป็นศรีไพรที่ไปหมักหมูแช่ข้าวเหนียวและหากเขาเดาไม่ผิดนางจะต้องแกะสลักแตงโมตั้งแต่เมื่อคืนเหมือนที่เฟยฟางแอบอ้าง“ฝ่าบาทโปรดถนอมพระวรกายด้วย นางอาจพูดไปเพราะทันคิด”หรวนหนิงหลงกัดฟันจนเป็นสันนูน“ดี หากคิดว่าไม่ทันคิดข้าก็ย่อมอภัยให้เจ้า มื้อกลางวันข้าจะกินของที่ทำให้สมองโล่งและลดความขุ่นเคืองเพราะคำพูดของเจ้า”เฟยฟางก้มหน้าสะอื้นอย่างหนัก เป่ยกงกงถอนหายใจจะทำอะไรแบบไหนคนที่ต้องวิ่งวุ่นคือเข่อชิงคนนั้น ผิดแต่ตอนนี้พระทัยของฝ่าบาทเอนเอียงไปทางแม่นางเข่อชิงคนนั้นแม้มีบัญชาให้ยุ่งยากแต่ถึงเวลาก็ไม่ปฏิเสธเครื่องเสวยฝีมือแม่นางเข่อชิงอยู่ดี“ได้ยินชัดไหมสิ่งที่เจ้าต้องทำ ก็คือปรุงเครื่องเสวยให้ถูกใจข้า”คิดหาวิธีให้พวกเขายอมแพ้แล้วยอมรับผิดเสีย เฟยฟางลุกขึ้นย่อกายลงช้าๆก้มหน้าก้าวเดินจากไป“เป่ยกงกง ข้าชักจะหมดความอดทนกับนาง”“กระหม่อมเข้าใจดีพ่ะย่ะค่ะ ความจริงปรากฎแล้วสิ่งที่จะได้ชมต่อจากนี้ก็คือ ความเสแสร้งและการหลอกลวง”หรวนหนิงหลงถอนหายใจ“วานกงกง ไปที่ห้องเครื่องข้าอยากให้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   ทำหน้าที่เชฟ

    “ฝ่าบาททรงมีบัญชาว่าต่อไปนี้เครื่องเสวยของสิบสองตำหนักจะต้องทำเครื่องเสวยเพียงชุดเดียวคือเครื่องเสวยที่เหมือนกันกับที่ฝ่าบาทเสวยในทุกมื้อ และหากใครอยากจะกินนอกเหนือจากนั้นก็ได้ไม่เกินตำหนักละหนึ่งอย่างต่อมื้อข้าละปวดหัวจริงๆต่อไป เจ้าจะต้องวิ่งวุ่นใครกันที่บังอาจไปพูดเรื่องที่ตำหนักต่างๆสั่งเครื่องสวยจนเกินตัว และเสวยไม่หมดฝ่าบาทรู้เข้าจึง ตั้งกฎขึ้นมาเสียใหม่ เพราะฝ่าบาทเป็นคนที่เคร่งครัดกับกฎระเบียบยิ่งนัก”นี่ ถึงคราวซวยหรือว่าโอกาสนะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาอยากจะรับตำแหน่งเซฟ มาบัดนี้สมใจไหมเล่า ต่อไปจะต้องคอยบอกคอยสอนคนอื่นให้ทำตามที่ตัวเองทำมาตลอด จะว่างานเข้าก็ไม่ถูกฮ่องเต้คนนี้ตั้งใจทำอะไรกันแน่“เข้าใจแล้วแล้วมีอะไรที่หนักกว่านี้อีกไหม”“อีกไม่กี่วันจะถึง วันคล้ายวันพระราชสมภพของฝ่าบาทไอี้เออ่ร์พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่แห้งแล้ง ป้าตื้อเป่าลมหายใจออกจากปาก“จริงด้วยข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เจ้าคิดว่างานวันคล้ายวันพระราชสมภพ ทั้งขุนนางและองค์หญิงองค์ชายจนไปถึงฮ่องเต้ ท่านอ๋อง ของแคว้นต่างๆที่ตกเป็นเมืองขึ้นละที่สวามิภักดิ์กับแคว้นของเราต่างหลั่งไหลมาอวยพระพรเราจะต้องทำอาหารมากมายเพีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   ความวุ่นวาย

    ชะโงกมองกระทะที่นำมันเริ่มเดือด พอเสียงเดือดสงบลงจนเงียบงันนั่นเท่ากับ กระทะร้อนเต็มที่แล้วศรีไพรใช้ทัพตักส่วนผสมหย่อนลงไปในกระทะให้ลักษณะเป็นก้อนกลมๆ สวยงาม หลายก้อนแต่ไม่ให้วางติดกันจนเกินไป เสียงน้ำมันกำลังเดือดเพื่อดึงเอาน้ำในแป้งที่ผสมไว้ออกมา“ตาเจ้าแล้วอี้เอ่อร์”อี้เอ่อร์ที่จับตามองตามสิ่งที่ศรีไพรทำ จึงเริ่มคนและตักและหย่อนแป้งที่ผสมไว้ลงในกระทะบ้าง เสี่ยวลี่กับเสี่ยวหยาก็กำลังเฝ้ามองวิธีการทอดข้าวโพดศรีไพรหันไปใช้ทัพพีสะกิดข้าวโพดในกระทะลูกแรกให้ลอยขึ้นมาด้านบนเป็นการพลิกไปในตัวแป้งทั้งก้อนเริ่มเหลืองสวย เสี่ยวลี่กับเสี่ยวหยายิ้มใช้กระชอนช้อนเอาก้อนแป้งที่สุกเหลืองสวยมายังกระชอนตาห่างอีกอันที่สำหรับพักน้ำมันแล้วใช้กระชอนตาถี่อีกอันช้อนเอาเศษแป้งสีเหลืองขึ้นมาจนหมดเหลือแต่น้ำมันใสๆ“ก่อนจะเอาของใหม่ลงพวกเจ้าจะต้องช้อนเอากากหรือเศษของเแป้งออกให้หมด เพื่อเศษแป้งพวกนี้จะได้ไม่เกาะกับก้อนแป้งใหม่ที่เรานำลงไปทอดครั้งต่อไปแต่หากพวกเจ้าลืมเศษแป้งพวกนี้จะไหม้และเกาะของใหม่จนกลายเป็นสีดำคล้ำ นี่คือเคล็ดลับของการทอดที่ต้องใช้แป้ง”ทั้งสี่คนพยักหน้าเดินมาชะโงกก้อนข้าวโพดที่ทอดจนเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22

บทล่าสุด

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   หอมหวาน

    ไทเฮาน้ำตาปริ่มขอบตารับเอาร่างกระจ้อยที่นอนนิ่งเปิดโอกาสให้ใครต่อใครได้ชื่นชม อี้เอ่อร์ยืนเขย่งตัวอยากจะเห็นองค์ชายน้อยเช่นกัน"อี้เอ่อร์ มาชื่นชมองค์ชายน้อยเสียด้วยกัน"ศรีไพรพูดขึ้นยิ้มๆ"ขอบพระทัยฮองเฮา"อี้เอ่อร์ยื่นหน้าไปดูร่างกระจ้อยในอ้อมแขนไทเฮา พร้อมกับรอยน้ำตา"เจ้าว่าเหมือนฝ่าบาทหรือฮองเฮา"ไทเฮาเอ่ยปาก"เหมือนทั้งสองพระองค์ และน่าเอ็นดูที่สุด"อี้เอ่อร์พูดไปยิ้มไปป้าตื้อเดินมาทรุดกายลงข้างหน้าศรีไพร"ป้าตื้อเล่าได้เห็นหน้าองค์ชายหรือยัง อ่อจริงสิได้เห็นก่อนข้าเสียอีก"ศรีไพรพูดไปยิ้มไป"ตาแก่ซุนมอบสิ่งนี้มาให้ข้าช่วยรับขวัญองค์ชายน้อย"วางตุ๊กตาแกะสลักลงข้างแท่นนอนศรีไพรถอนหายใจ"ไม่รับ"หรวนหนิงหลงเลิกคิ้วสูงกับท่าทีของศรีไพรป้าตื้อเช็ดน้ำตารู้สึกเจ็บปวดในใจ"ข้าน้อยเข้าใจตาแก่ทำกับฮองมากไปแค่นี้ก็ถือว่าเมตตามากแล้วกับคนแก่อย่างเรา"ศรีไพรยิ้ม"ที่ไม่รับเพราะอยากให้ท่านลุงซุนมอบมันให้กับองค์ชายน้อยกับตัวเอง ข้าให้ออกจากห้องขังก็ไม่ออกมาฉะนั้น ต้องออกมาไม่อย่างนั้นข้าไม่รับ"หรวนหนิงลงหัวเราะในลำคอ"ตามนั้นข้าบัญชาให้ซุนเต๋อไฉ่มามอบของกำนัลรับขวัญองค์ชายน้อยด้วยตัวเองไม่เช่นนั้

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   ความสุขกำลังมา

    ป้าตื้อที่มาถึงในยามสายก็พูดขึ้นก่อนจะหย่อนตูดลงนั่งด้วยซ้ำไป“ข้าละอายใจเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้ฮองเฮาไม่เคยถือโทษ ฝ่าบาทแม้ลงโทษก็โทษสถานเบาด้วยอ้างคำพูดของฮองเฮา"ป้าตื้อกอดเข่า"ฮองเฮากลับมาหลายอย่างดีขึ้นแม้แต่ข้าเองยังกลับมาเป็นข้าเช่นเดิมส่วนฝ่าบาทก็ไม่ฉุนเฉียวเศร้าสร้อยนับว่าสวรรค์ส่งฮองเฮามาเพื่อพวกเราจริงๆ""ข้าซาบซึ้งน้ำพระทัยฮองเฮายิ่งนักที่ไม่กล่าวโทษข้าแล้วยังให้ข้าออกจากคุกคุมขังไปใช้ชีวิตสงบข้างนอกได้อีก วันก่อนไทเฮามีราชเสาวนีย์ให้ข้าไปพำนักที่ตำหนักพระพันปีในตำแหน่งคนดูแลอุทยานส่วนพระองค์ข้าน้ำตาแทบไหลแต่ละพระองค์ล้วน ดีกับข้าเหลือเกิน""เฮ้อ อย่างนั้นก็รีบออกมาเสีย ขืนชักช้าจะไม่ทันได้เห็นองค์ชายน้อยถือกำเนิดหมอหลวงบอกว่าไม่เกินวันสองวันนี้ฝ่าบาททรงดีพระทัยจัดให้มีการสร้างตำหนักใหม่ให้กับองค์ชายเสียใหม่แล้วยัง สั่งผ้าเนื้อเกณฑ์นางในหลายสิบคนช่วยกันตัดเย็บอาภรณ์สำหรับเด็กอ่อน ฮองเฮาเองจะเดินจะนั่งจะไปไหนฝ่าบาทก็คอยประคองด้วยองค์เองไม่ห่าง อี้เอ่อร์กลายเป็นนางกำนัลข้างกาย เสี่ยวถาน เสี่ยวหยาจำต้องรับหน้าที่ปรุงอาหารแทน มีแต่แกนั่นล่ะตาแก่ที่สบายอยู่ในนี้"ป้าตื้อร่ายยาว"

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   ตอนพิเศษ

    “หลายวันมานี้นอนอยู่แต่ในแท่นนอน ฝ่าบาทควรจะออกไปสูดอากาศเสียบ้าง”หรวนหนิงหลงถอนหายใจ แต่ก็ยอมลุกไปโดยดี“กลิ่นอะไร”หรวนหนิงหลงได้กลิ่นน้ำชุปหมาล่าเตะจมูกหอมจนทำให้นึกถึงเรื่องราวในวันเก่าในห้องเครนื่องคืนวันนั้นกับศรีไพรเป่ยกงกงไปแล้ว ภาพตรงหน้า ที่เขาเห็นคือศรีไพรที่นั่งถือพัดพัดไฟในเตาให้โหมกระพือเพื่อให้หม้อชาบูเดือด“ชาบูเยียวยาทุกอย่าง”ใบหน้างดงามหันมายิ้มให้เขา หรวนหนิงหลงถลาเข้าไปกอดรวบร่างบางไว้แนบอก น้ำตาไหลริน“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาการรอคอยของข้าไม่สูญเปล่า ข้าคิดถึง คิดถึงเจ้าที่สุด”“เบาๆเพคะ อือช้ำหมดแล้วรู้ไหมทำไมกลับมา”ศรีไพรลูบที่หน้าท้องเบาๆ“อย่าบอกนะว่า เจ้า ตั้งครรภ์ลูกของข้า”ศรีไพรพยักหน้าขึ้นลงอายๆ“กลัวแทบตายว่าจะกลับมาไม่ได้ แต่ข้าก็มั่นใจว่าจะต้องกลับมาในเมื่อข้าฝันถึงท่านในทุกคืน ท่านเล่าฝันถึงข้าบ้างไหม”หรวนหนิงหลงยิ้มทั้งน้ำตา“ไม่ว่าจะหลับหรือตื่นล่วนมีเจ้าทุกเวลา อย่าจากข้าไปไหนอีกได้ไหมอยุ่ที่ด้วยกันอยู่กับข้าไปจนแก่เฒ่า”ศรีไพรพยักหน้าขึ้นลง“กลับไปไม่ได้แล้วในเมื่อซินแซที่วัดข้างบ้านที่ทำพิธีให้กับข้าเพื่อกลับมาที่นี่ขอคำยืนยันกลับข้าว่าหากข้ามาข้

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   จบบริบูรณ์

    ฉับพลันนั้นเองแสงหลายสีก็ปรากฎขึ้นที่รอบๆร่างบางของศรีไพร หรวนหนิงลุกทะลึ่งพรวดลุกขึ้นจากแท่นนอน แม้จะไม่เข้าใจว่าแสงนั้นคือสิ่งใดแต่เขากลับดึงร่างบางให้ถอยจากลำแสงหลากสีนั้น กอดรวบร่างบางของศรีไพรไว้แน่นศรีไพรรู้สึกถึงแรงดึงมหาศาลที่ฉุดดึงร่างของเธอทั้งลากทั้งดึงแสงหลากสีห่อหุ้มร่างบางไว้ทั้งๆที่หรวนหนิงหฟลงกอดไว้แต่แสงก็ไม่ได้แตะต้องหรวนหนิงหลงแต่อย่างใด แสงหลากสีตามาถึงนี่ ตามมารับตัวศรีไพรถึงที่นี่ ไม่สิไม่ว่าศรนีไพีจะอยู่ที่ไหนแสงหลากสีนี้ก็จะหาจนเจอเสียมากกว่าศรีไพรนึกขำที่ตัวเองไปเฝ้ารอแสงนี้ในทุกค่ำคืนที่ห้องเครื่อง คงจะต้องไปจริงๆแล้วสินะ ว่าแต่ทำไมต้องเป้นตอนนี้ในเมื่อทุกอย่างกำลังจะดีแล้วเชียวศรีไพรกำลังจะพบกับความสุขแล้วเชียว ศรีไพรรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วสรรพร่าง มึนงงและตื่นตระหนกพยายามฝืนใจบอกลาหรวงหนิงหลง“คงต้องไปแล้ว ข้าไม่อาจฝืนต่ออะไรบางอย่างในตอนนี้ ฝ่าบาทปล่อยข้าเถอะข้าเจ็บปวดเพราะแรงฉุดดึงจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว”หรวนหนิงหลงหน้าเสีย แต่ยังไม่ยอมปล่อยอ้อมแขน“เจ้าไปข้าไป”“ฝ่าบาทไม่มีประโยชน์ ข้าคงต้องลาแล้ว บางทีข้าจะหาโอกาสกลับมาที่นี่ให้ได้อีกสักครั้ง”“ไม่ไม่ไม่ข้าไ

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   กลับ

    หรวนหนิงหลงถอนหายใจยาวเจินอ๋องส่ายหน้าไปมา ดึงตัวหยิงเชียวให้ตามเขากลับตำหนักจันทราหรวนหนิงหลงเองก็ดึงมือศรีไพรออกจากลานพิธีไปยังส่วนในของตำหนักใหญ่“กลัวไหม”ศรีไพรส่ายหน้า“ไม่กลัวแต่สงสาร มากกว่าท่านจะไม่ใจร้ายกับนางไปหน่อยหรือ”หรวนหนิงหลงส่ายหน้าไปมา“ข้าไม่เคยรักใคร..นอกจาก เจ้าเข่อชิงเช่นนั้นการแสดงออกจึงต่างออกไป”ยิ้มตาหวานฉ่ำ“ปากหวานจริงเชียว เอาจริงๆ สักวันจะต้องเบื่อข้าหรือเปล่า แล้วการแสดงออกก็คงจะต้องต่างออกไป”“ไม่มีทาง ข้าจะไม่มีใครนอกจากเจ้ากับเจ้าการแสดงเดียวที่จะแสดงออกคือ”โน้มตัวลงช้าๆ จุมพิตที่ริมฝีปากของศรีไพรหวานฉ่ำ“อือ เอาเปรียบกันอีกแล้วเราสองคนไปรักกันตอนไหน ฝ่าบาทถึงฉวยโอกาสแบบนี้”หรวงนหนิงหลงโอบแขนแข็งแรงรอบเอวบาง“ไม่รักข้าหรือ ข้ารักเจ้าทุกตอนยิ่งตอนนี้ยิ่งรัก”ศรีไพรยิ้มเอียงอาย“อะ ไม่ได้การแล้วลุงซุนจะต้องหนีไปแน่ๆ ฝ่าบาทส่งคนจับตัวลุงซุนไว้เดี๋ยวนี้เถอะ”หรวนหนนิงหลงถอนหายใจ“บ่ายเบี่ยงตลอดบ่ายเบี่ยงประจำ เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจข้าส่งคนคุมตัวซุนเต๋อไฉ่ไว้แล้ว”ศรีไพรถอนหายใจ“แล้วฝ่าบาทรู้ได้อย่างไรว่าาเป็นลุงซุน”“ข้าคือฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทำได้หลายอย่างและฮ

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   แล้วเราก็เข้าใจกัน

    จุมพิตที่หลังมือของศรีไพรเบาๆ ท่ามกลางหลากหลายสายตาที่ร่วมยินดี“ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี เก้อซูเฟยทรงพระเจริญร้อยปี”เสียงโห่ร้องโดยการนำของเป่ยกงกงป้าตื้อและนางในห้องเครื่อง ต่างวิ่งมาดูความสำเร็จน่าชื่นชมของศรีไพร อี้เอ่อร์ยิ้มกว้าง อยากจะเข้าไปเขย่ามือแสดงความยินดีกับศรีไพร แม้จะสงสัยนักหนาว่า ทั้งสองคนไปรักกันตอนไหน ซึ่งความสงสัยนี้ก็ไม่ต่างจากเฟยฟางที่แทบจะแทรกแผ่นดินหนี แผนทั้งหมดพังลงแล้วหรือ นางกับฝ่าบาทไปรักกันตอนไหนหรือว่ามีบางอย่างที่เฟยฟางไม่รู้“ไหนดูสิ เจ้าทำอะไรให้ข้า”หรวนหนิงหลงหันไปจ้องมอง เค้กก้อนโตที่ตกแต่งสวยงามอย่างที่สุดศรีไพรสะดุ้งเล็กน้อยหันไปยิ้มกับหรวนหนิงหลง“เจ้าตั้งใจทำมันเพื่อข้า อย่างนั้นหรือ”ศรีไพรส่ายศีรษะไปมา“สำหรับฝ่าบาท อธิษฐานแล้วเป่าเทียนเสีย”หรวนหนิงหลงหลับตาลงอธิษฐานบางอย่างในใจ พ่นลมเป่าเทียนจนดับ“สุขสันต์วันเกิดขอให้มีความสุขสมหวัง”ศรีไพรอวยพรเบาๆ อยากจะอวยพรให้อลังการกว่านั้นแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะสรรหาคำพูดแบบไหน ให้อย่างที่ใจต้องการหรวนหนิงหลงยิ้มบางๆ แววตาเต็มเปี่ยมด้วยความรักลุงซุนใจเต้นไม่เป็นจังหวะศรีไพรกำมือหรวนหนิงหลงที่ในนั้น

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   เปิด

    ลุงซุนยิ้มสาสมใจ เพิ่งจะโรยยาพิษบนเค้กก้อนนั้นไป คิดไปช่างง่ายดายยิ่งนัก เข่อชิงนางคงต้องการให้ตัวเองโดดเด่น ดีเสียจริงคนแบบนี้ที่เหมาะกับงานนี้ ที่จะต้องรับโทษประหารข้อหาปลงพระชนม์หรวนหนิงหลงเป็นนางอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง โชคเข้าข้างเมื่ออยู่ๆ อี้เอ่อร์ก็มาบอกว่า เข่อชิงนางทำของหวานชนิดพิเศษสำหรับฝ่าบาทเมื่อทั้งสองคนเผลอไผลลุงซุนก็นำ มัจจุราชแห่งความตายมอบให้หรวนหนิงหลงในทันที โดยหารยืมมือของนางโง่นั่น แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ทำไมฝ่าบาทให้ความสำคัญกับนางเพียงนั้นหยินเจินเชียวกับหยินหยิงเชียว ทั้งสองจ้องมองใบหน้างดงามกับอาภรณ์เนื้อดี แต่ความคิดต่างกัน หยินหยิงเชียวกับคิดว่านางมีสิทธิ์สวมใส่อาภรณ์เนื้อดีราวกับฮองเฮาด้วยหรือไร หยินหยิงเชียวกัดฟันจนเป็นสันนูนส่วนหยินเจินเชียวกลับรู้สึกว่าหญิงงามคนนี้ช่างเหมาะกับอาภรณ์งดงามนี้และเป็นหรวนหนิงหลงที่ให้ความสำคัญนางเกินใคร“ใครให้เจ้าเข้ามาในนี้ แค่เพียงผู้ช่วยคนปรุงอาหารมีสิทธิ์อะไรเข้ามาในนี้ แล้วอาภรณ์ที่เจ้าสวมใส่ เจ้าแอบยักยอกมาจากตำหนักไหน จากสนมคนใด”หยินหยิงเชียวส่งเสียงดังลั่นท่ามกลางสายตานับพันคู่นางหายีหระไม่ ก็บิดาเป็นถึงอ๋องเยี่ย ของต

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   เค้กหวาน

    “เรียบร้อยแล้วจ้ะพี่ ข้าเห็นว่าลุงซุนยอมใจดีให้พี่ยกของสิ่งนี้ออกไปด้วยตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าลุงซุนจะยอมง่ายดาย”ศรีไพรกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เรื่องนี้จำต้องลงมือด้วยตัวเองหากพลาดเดาทางผิดนั่นเท่ากับฮ่องเต้จะต้อง ต้องพิษอย่างแน่นอน แต่หากพลาดอีกก็คือโทษตาย ในเมื่อคนที่คิดทำเค้กก็คือศรีไพรคนที่ยกไปก็คือศรีไพร เรื่องนี้หากจะมีใครสักคนโยนงานให้ก็เหมาะเจาะเหลือเกิน แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อศรีไพร ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ให้ทุกอย่างมาลงที่เค้กชิ้นนี้เพื่อควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง“ไปได้แล้วตอนนี้งานเลี้ยงกำลังจะจบลงแล้ว เจ้ารีบยกของหวานที่เจ้าตั้งใจมอบให้ฝ่าบาทออกไปได้แล้ว อย่ามัวแต่ชักช้างานเลี้ยงใกล้จะจบลงเต็มทนแล้ว”เสียงลุงซุนดังมาจากข้างหลัง อี้เอ่อร์เบ้ปากศรีไพรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นหันไปมองถาดใส่เค้กที่มีฝาปิดไว้มิดชิดสูดลมหายใจเข้าลึกๆตื่นเต้นอย่างที่สุดที่จะต้องอยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก และจะต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ นั่นไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่จะบังอาจทำต่อจากนี้ บังอาจยกเครื่องเสวยโดยไม่ต้องหลบในเงาของเฟยฟางอีกต่อไปอี้เอ่อร์มาช่วยจัดแจงอาภรณ์ของศรีไพรให้เข้าที่“ไปกันเถิดอี้เอ่อร์”พูดด้วยน้ำเสี

  • เหมันต์ไม่ช่วยอะไร วันนี้จะกินอะไรดีเพคะฝ่าบาท   เซอร์ไพรส์

    เฟยฟางในอาภรณ์งดงามราวกับสนมคนหนึ่งก็ไม่ปานยืนยิ้มที่หน้ากระจก“หากฝ่าบาทจะชื่นชมใครสักคน คนคนนั้นจะต้องเป็นข้าที่แบกรับทุกอย่างมาตั้งนานไม่ใช่เจ้าเข่อชิง”พร่ำพูดกับตัวเองด้วยสีหน้าและดวงตามุ่งหวังที่แฝงไปด้วยความริษยามือบางกำบางอย่างไว้แน่น“จะไม่มีเข่อชิงอีกต่อไปแล้วต่อไปจะมีเพียงเฟยฟาง เพียงคนเดียว”ที่ลานกว้าง“ฮ่องเต้เสด็จๆๆๆๆๆๆ”ผู้คนที่นั่งอยู่ต่าง ลุกขึ้นยกมือขึ้นประสานพร้อมเพรียงกันตรงหน้า“ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”หรวนหนิงหลงยิ้ม“เพียงกล่าวคำขอบคุณก็ไม่อาจเอื่อนเอ่ยบรรยายได้หมดในความรู้สึกขอบคุณที่ทุกท่านมาในครั้งนี้ข้า จึงหวังสิ่งตอบแทนเดียวที่มีคือการกินดื่มจนหนำใจ”“ทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นๆ ปี”ขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งยกจอกสุราตรงหน้าให้ผู้คนได้ร่วมดื่มอวยพร เป่ยกงกงรินสุราลงในจอกให้กับหรวนหนิงหลงไทเฮาและหยินหยิงเชียวต่างยกสุราชูขึ้นตรงหน้า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองหรวนหนิงหลงชูสุราตรงหน้าแล้วกระดกลงคอในทันทีราวกับคำกล่าวเปิดงาน เหล่านางในต่างยกถาดอาหารนับร้อยนับพันมาเสริ์ฟในแต่ละโต๊ะเฟยฟางในอาภรณ์สะดุดตาต่างจากนางในคนอื่นที่เดินนวยนาดยกถาดเครื่องเสวยสำหรับหรวนหนิงหลงเข

DMCA.com Protection Status