แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: มู่อันอัน
เจียงฉีหานเม้มปาก ดวงตาดำล้ำลึกมองเซิ่งเซี่ย “เธอเกิดอุบัติเหตุ?”

จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเมื่อคืนนี้ที่เสิ่นเหมียนโทรศัพท์มาหา

ถ้าเป็นเรื่องจริง...

ณ ตอนนี้ ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกผลัก เสิ่นเหมียนเดินเข้ามาจากด้านนอก ไอเย็นชโลมไปทั่วทั้งตัว

พอเวินเจี่ยนเห็นเสิ่นเหมียน ความเย็นชาพลันปรากฏอยู่ในดวงตา แต่ไม่นานนักก็หายไป เธอพูดขึ้นอย่างร้อนรน “เพิ่งได้ข่าวว่าเธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ รีบมาให้ฉันดูเร็วว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง หนักหรือเปล่า!” แสดงท่าทีราวกับว่าเธอเป็นห่วงเสิ่นเหมียนมากแค่ไหน

ดวงตาของเจียงฉีหานมืดครึ้ม

เสิ่นเหมียนถึงกับรวมหัวกับเพื่อนรักมาหลอกเขา

เสิ่นเหมียนเดินมาลากตัวเซิ่งเซี่ยไปด้านหลัง “เธอกลับไปก่อน ปล่อยให้ฉันจัดการที่นี่เอง!”

เซิ่งเซี่ยรีบพูดกับเธอ “ฉันไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ นะ เธอตบตัวเอง!”

เสิ่นเหมียนตัดบทคำพูดของเธอ “ฉันรู้แล้ว เธอไปก่อนเถอะ!”

ตอนนี้เธอไม่แน่ใจเลยว่าเจียงฉีหานอยู่ในสภาพอารมณ์แบบไหน เซิ่งเซี่ยอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์

เซิ่งเซี่ยกัดปาก เดินออกไปทั้งที่ขอบตาแดงก่ำ

ซางอู่มองเจียงฉีหานเล็กน้อย แล้วออกไปจากห้องพักผู้ป่วยเช่นกัน

ไม่นานนักภายในห้องพักผู้ป่วยจึงเหลือเพียงพวกเขาสามคน

เสิ่นเหมียนเดินมาตรงหน้าเตียงผู้ป่วย มองลงไปที่เวินเจี่ยน “ได้ข่าวว่าเธอถูกตบ แล้วเธอเจ็บหนักหรือเปล่า? ได้ไปตรวจเช็คแล้วหรือยัง?”

รอยมือประทับอยู่บนหน้าเวินเจี่ยน ซึ่งก็จางลงไปมากแล้ว ไม่เพียงพอให้ไปตรวจพิสูจน์

เวินเจี่ยนกัดปาก มองเสิ่นเหมียนด้วยใบหน้าน้อยใจ “แม่นั่นตบตรงที่มองไม่เห็น ไปตรวจพิสูจน์ไม่ได้หรอก! ถ้าเธอไม่เชื่อว่าแม่นั่นตบฉันก็ไม่ต้องเชื่อ!”

“นี่เธอทึ่มหรือไง? ยัยนั่นตีเธอที่อื่นด้วยแล้วทำไมไม่พูดออกมา! ถ้าเกิดว่าเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ?” เจียงฉีหานพูดจาโมโหใส่เวินเจี่ยนเสียงดัง

ขอบตาของเวินเจี่ยนแดงก่ำขึ้นมาทันที “ฉันไม่อยากให้นายกับเสิ่นเหมียนต้องทะเลาะกันเพราะฉัน คิดว่าร่างกายไม่มีส่วนไหนผิดปกติ ก็เลยไม่ได้บอก!”

เจียงฉีหานหน้าดำทะมึน “เรื่องของตัวเองยังจัดการไม่จบ ยังจะมาห่วงเรื่องของฉันกับเสิ่นเหมียนอีก สมองมีปัญหาหรือไง!”

แม้น้ำเสียงจะเย็นชา แต่ก็ฟังดูสนิทกันไม่น้อย

เสิ่นเหมียนยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งที่เธอกับเจียงฉีหานเป็นคนที่ใกล้ชิดกันที่สุด ทว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก สอดเข้าไประหว่างพวกเขาสองคนไม่ได้เลยสักนิดเดียว

ก็เหมือนเวลาที่เธออยู่ที่บ้านตระกูลเสิ่น เธอก็เป็นคนนอกคนหนึ่ง

รู้สึกทุกข์ใจอยู่บ้าง

เวินเจี่ยนถลึงตาใส่เขา กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับภรรยาของพวกนายไม่ดี อยู่ต่อหน้าฉันนายก็เอาแต่ทำหน้าตึงอยู่ทั้งวี่ทั้งวัน ทำเอาฉันยังอารมณ์ไม่ดีไปด้วย! ให้พูดก็คืออารมณ์ของนายกระทบต่อความรู้สึกของฉัน ฉันจะไม่เป็นห่วงได้ยังไง?”

“เถียงข้างๆ คูๆ!” เจียงฉีหานตำหนิด้วยใบหน้าดำทะมึน “เรื่องของฉัน ต่อไปเธอก็ไม่ต้องมายุ่งอีก!”

“ใครอยากจะยุ่งกัน! เหอะ!” เวินเจี่ยนร้องเฮอะอย่างยโส

เจียงฉีหานมองเธอเล็กน้อย “ฉันจะให้หมอมาตรวจเธอดู!”

พูดจบก็กดกริ่งเรียก

เสิ่นเหมียนลอบสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามระงับความเจ็บปวดในใจอย่างสุดชีวิต

เธอจำได้ดีเมื่อต้นปีของปีนี้ เธอเป็นไข้หนัก ต้องอยู่โรงพยาบาลถึงครึ่งเดือน แต่เจียงฉีหานก็ไม่เคยมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลสักครั้ง

ตอนนั้นเธอยังหลอกตนเองด้วยการบอกว่า เขายุ่ง ไม่มีเวลา

พอตอนนี้ได้เห็นฉากของทั้งสองคนตรงหน้านี้ เธอยังจะหลอกตัวเองได้อีกที่ไหนกัน

เจียงฉีหานไม่ได้ไม่มีเวลา เพียงแค่เพราะคนคนนั้นไม่ใช่เวินเจี่ยน เขาเลยไม่ให้ความเป็นห่วงเป็นใย

*

ตอนที่คุณหมอมาตรวจอาการให้เวินเจี่ยน เจียงฉีหานก็ลากเสิ่นเหมียนเดินออกไปด้านนอก

เวินเจี่ยนมองเงาหลังของคนทั้งคู่ มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มกำแน่น

พอออกมานอกประตู เสิ่นเหมียนก็สะบัดมือของเจียงฉีหานออก แล้วยืนประจันหน้ากับเขา “เจียงฉีหาน เรามาคุยกันหน่อย!”

“ได้ งั้นก็คุยเรื่องที่ขึ้นฮอตเสิรช์เมื่อวานก่อนแล้วกัน” สายตาที่เจียงฉีหานมองเธอไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิดเดียว

ที่เมื่อสามปีก่อนแต่งงานกับเสิ่นเหมียนก็เพราะถูกบังคับ

แม้จะนอนด้วยกันมาสามปี แต่เขากลับไม่เคยเกิดความรู้สึกอะไรต่อเธอสักนิดเดียว

เขายอมให้เสิ่นเหมียนหึงหวง แต่ไม่มีทางยอมให้เธอซื้อฮอตเสิร์ชใส่ร้ายเวินเจี่ยนเพราะหึงหวงอย่างบ้าคลั่ง!

เสิ่นเหมียนขมวดคิ้วงามแน่น กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันบอกไปแล้ว ฉันไม่ได้เป็นคนซื้อฮอตเสิร์ช! ฉันไม่มีทางยอมรับเรื่องที่ฉันไม่ได้เป็นคนทำ!”

ฮอตเสิร์ชถูกดันลงไปแล้ว ตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตจะเสิร์ชหาด้วยคำสำคัญไหนก็หาไม่เจอทั้งนั้น แล้วเจียงฉีหานก็ยังจะมาพูดเรื่องฮอตเสิร์ชกับเธออีก

นี่มันจะมากเกินไปหน่อยไหม!

“ฉันไม่มีทางเปลี่ยนเรื่องที่ฉันตัดสินใจไปแล้ว! ฉันให้เวลาเธอคิดครึ่งวัน ช้าที่สุดคือก่อนเลิกงานช่วงเย็น แล้วมาบอกฉันเรื่องผลลัพธ์ที่เธอคิดด้วย!” น้ำเสียงของเจียงฉีหานมีความเฉียบขาด ขณะเดียวกันเขาก็ส่งสัญญาณให้เสิ่นเหมียนว่า ต่อให้เธอไม่ตกลง ผลสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้

เสิ่นเหมียนมองดวงตาเย็นชาของเขา รู้สึกเย็นเยียบไปทั่วทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า

“นายตัดสินฉันทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานเลยสักอย่าง มันไม่เกินไปหน่อยหรือไง!”

เธอพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับสีหน้าอันเย็นชา

เจียงฉีหานจะโหดร้ายกับเธอเกินไปหน่อยหรือเปล่า!

“เวินเจี่ยนเพิ่งได้รับรางวัล ข่าวเสียหายอะไรก็แล้วแต่มันร้ายแรงกับเวินเจี่ยนทั้งนั้น! เรื่องนี้ก็เป็นอันตกลงตามนี้!”

จู่ ๆ เสิ่นเหมียนก็ยิ้มออกมา “ผลักฉันลงเหวลึกเพื่อช่วยฟอกขาวให้เวินเจี่ยน เจียงฉีหาน ตอนที่นายพูดแบบนั้นออกมาได้คิดถึงผลลัพธ์ที่ฉันต้องเจอไหม?”

แน่นอนว่าเขาไม่เคยคิดสินะ

ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พูดจาแบบนี้ออกมา

เจียงฉีหานเม้มปาก “เงินห้าแสนที่ฉันให้เธอทุกเดือนมันยังไม่พออีกหรือไง? เธอถึงต้องเอาหน้าไปโผล่ให้สังคมเห็น! ครั้งนี้ก็จะได้ลาออกไปพอดี กลับไปคอยปรนนิบัติฉันที่บ้านให้ดี!”

สีหน้าของเสิ่นเหมียนขาวซีดเล็กน้อย เธอกล่าวด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว “เงินห้าแสนที่นายให้ฉันน่ะ เอาไปใช้กับเรื่องในบ้านทั้งหมด ฉันไม่เคยใช้เงินของนายเลย! แล้วอีกอย่าง ฉันก็ชอบงานที่ฉันทำในตอนนี้ ไม่เคยคิดจะลาออกเลยสักครั้ง! ถ้านายคิดว่าเพราะฉันทำงานเลยไม่มีเวลาดูแลนายให้ดี งั้นก็หาคนรับใช้มาปรนนิบัตินายอีกหลาย ๆ คนสิ!”

เจียงฉีหานให้เงินเธอห้าแสนบาททุกเดือนนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ค่าใช้จ่ายในบ้านมีตั้งมากมายขนาดนั้น เงินห้าแสนบาทนี่ ในหนึ่งเดือนก็ไม่เหลือเลยด้วยซ้ำ

เงินเดือนส่วนใหญ่ของเธอล้วนเอาไปจ่ายค่ารักษากับค่าโรงพยาบาลของคุณยาย

ถ้าเธอลาออกไปอยู่ที่บ้าน แล้วอาศัยเงินสำหรับใช้ในบ้านเดือนละห้าแสนบาท คงจ่ายค่านอนโรงพยาบาลของคุณยายไม่ไหวแน่

แล้วเธอจะไปลาออกได้อย่างไร!

เจียงฉีหานกดเธอเข้ากับกำแพง ก้มหน้ามองเธอ แผ่กลิ่นอายอันตรายออกมาทั่วทั้งตัว “ฉันแต่งเธอเข้าบ้าน ก็เพื่อให้เธอมาใส่ใจดูแลฉัน ไม่ใช่แต่งเธอเข้าบ้านแล้วแต่กลับให้คนใช้มาทำทุกอย่างแทนเธอ! ถ้าเธอคิดว่าเงินห้าแสนมันไม่พอใช้ งั้นเดือนนี้ฉันจะให้เธอเพิ่มอีกห้าแสน!”

คำพูดนี้ของเขา พอเข้าหูเสิ่นเหมียนแล้วมันเหมือนกับการให้ทานมากกว่า

ความเศร้าโศกเกิดขึ้นในใจเสิ่นเหมียน

แต่งงานกันมาสามปี เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นภรรยา หรือเห็นเธอเป็นบ้านของเขาเลยสักครั้ง

เธอเป็นแค่ของของเขา

และเป็นคู่นอนที่เขามีไว้ระบายความใคร่

“ไว้พอเธอลาออกแล้ว เธอว่าง ๆ ก็ไปนัดเที่ยวเล่นกับพวกคุณหญิงคุณนายพวกนั้น คบหากับพวกเขา ต่อไปจะได้เจรจาธุรกิจกันง่ายขึ้น!” ในความคิดของเจียงฉีหาน พวกคุณหญิงคุณนายในสังคมชั้นสูงต่างก็ใช้ชีวิตกันแบบนี้ทั้งนั้น ในฐานะที่เสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา ก็ควรทำตัวเหมือนพวกหล่อน

เสิ่นเหมียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดออกไปอย่างเชื่องช้าว่า “ทำไมนายถึงไม่ให้เวินเจี่ยนอยู่บ้านแล้วทำตัวเป็นคุณผู้หญิงใหญ่ของตระกูลเจียงให้สบายล่ะ?”

ต่อให้เวินเจี่ยนจะแต่งงานกับพี่ชายของเจียงฉีหาน แต่หล่อนก็ยังคงไปแข่งขันอยู่ข้างนอกตลอด

บอกว่าออกหน้าออกตาอยู่ในสังคม ไม่ควรเป็นเวินเจี่ยนมากกว่าหรอกเหรอ?

“เธอไม่เหมือนเวินเจี่ยน! เวินเจี่ยนมีเวทีที่เป็นของตัวเอง เวินเจี่ยนมักเปล่งประกายเมื่อขึ้นเวที แต่เธอน่ะ ก็แค่งานงานหนึ่งเท่านั้น จะทำหรือไม่ทำก็ไม่เห็นจะต่างกันนัก สู้อยู่ที่บ้านทำตัวเป็นคุณผู้หญิงเจียงอย่างสบายใจไม่ดีกว่าหรือไง” เจียงฉีหานเชยคางเธอขึ้น ทั้งสองคนจ้องตากันและกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสพติดรัก   บทที่ 5

    เสิ่นเหมียนจ้องดวงตาของเจียงฉีหานอยู่พักใหญ่ แล้วจึงยิ้มออกมาพลางพูดว่า “เสียสละทุกอย่างของฉันเพื่อเธอ นายเลิกคิดไปได้เลย! แล้วอีกอย่างนะ สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกก็คือ เจียงฉีหาน ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะหย่า ถ้านายมีว่างแล้วก็ไปสำนักงานกิจการพลเรือน แลกหนังสือสำคัญกัน ก็ไม่ได้เสียเวลามากเท่าไร!”รอยยิ้มบนใบหน้าสวยงามแค่ไหน ในใจยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้นเธอรู้มาตลอดว่าเจียงฉีหานเข้าข้างเวินเจี่ยนเสมอ เพียงแต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะลำเอียงได้ขนาดนี้อยากให้เวินเจี่ยนเหยียบหัวเธอขึ้นไปอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!“อยากหย่า งั้นก็แก้ไขเรื่องฮอตเสิร์ชของเวินเจี่ยนซะก่อน แล้วฉันจะทำให้เธอสมปรารถนา! ถ้ารอให้ฉันลงมือก็คงไม่ง่ายดายอย่างให้เธอไปแก้ข่าวแล้วละ!” ความโกรธเกรี้ยวแล่นอยู่ในใจของเจียงฉีหาน เขาตอบกลับไปโต้ง ๆ โดยไม่เสียเวลาคิดสำหรับเขาแล้ว ที่เสิ่นเหมียนขอหย่าก็เป็นแค่อีกอุบายหนึ่งที่เธอเอามาเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้นเขาไม่เชื่อหรอกว่าเสิ่นเหมียนจะหย่ากับเขาจริงๆ!เพราะอย่างไรแล้ว ตอนนั้นเสิ่นเหมียนก็ใช้เล่ห์กลเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขาอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้น ตลอดสามปีที่แต่งงานกัน เสิ่นเหมี

  • เสพติดรัก   บทที่ 6

    เมื่อได้ยินเสียงนี้ ซางอู่ก็รีบเลื่อนกระจกกั้นกลางขึ้นทันทีเจียงฉีหานมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน ราวกับถูกมนต์สะกด เขาก้มลงประทับจูบที่ริมฝีปากของเธอภาพเหตุการณ์ในห้องผู้ป่วยวันนี้ที่เจียงฉีหานจูบเวินเจี่ยนแวบเข้ามาในหัวของเสิ่นเหมียนทันที ทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องผลักเจียงฉีหานออก ก่อนจะใช้มือปิดปากและทำท่าจะขย้อนออกมาเสียงราวกับคลื่นไส้ของเธอทำให้สีหน้าของเจียงฉีหานมืดมนลงทันที“เสิ่นเหมียน! นี่เธอหมายความว่าอะไร!”เขาจูบเธอ แต่เธอกลับจะอาเจียนออกมาอย่างนั้นเหรอ?เสิ่นเหมียนรีบหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่แดงก่ำของเธอจ้องมองไปทางเจียงฉีหาน “พวกเราจะหย่ากันแล้ว ทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม!”เจียงฉีหานยื่นมือไปเชยคางของเธอขึ้น ก่อนจะบังคับให้เธอจ้องตาเขา “เรื่องที่เธอสัญญายังทำไม่สำเร็จเลยไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ยังพูดเรื่องหย่าไม่ได้”เสิ่นเหมียนจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา แล้วแค่นยิ้มเบา ๆ “ก่อนฟ้าสางวันพรุ่งนี้ ฉันจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอน”ที่เจียงฉีหานรีบร้อนอยากจะล้างมลทินให้เวินเจี่ยน ก็เพราะเธอเคยได้รับรางวัล และยืนโดดเด่นบนเวทีจนเป็

  • เสพติดรัก   บทที่ 7

    พี่สะใภ้ใหญ่สนิทสนมกับลุงรองขนาดนี้ ไม่กลัวว่าจะเป็นขี้ปากชาวบ้านบ้างเลยซางอู่พยายามจะขวางทางพ่อบ้าน แต่ก็พบว่าเสิ่นเหมียนที่นั่งอยู่เบาะหลังได้เปิดประตูลงจากรถไปแล้วเมื่อครู่ ตอนที่ได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านพูด เธอก็เดาได้ทันทีว่า ต้องเป็นเพราะการปรากฏตัวของเวินเจี่ยนที่ทำให้ผู้อาวุโสเจียงโกรธจนเป็นลมก่อนหน้านี้ เธอก็เคยเตือนเจียงฉีหานไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เชื่อเธอตอนนี้คุณปู่เป็นลมไปแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เจียงฉีหานจะรู้สึกยังไงหรือบางทีเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้เพราะยังไงซะ นอกจากเวินเจี่ยน เขาก็ไม่เคยเป็นห่วงใครอยู่แล้วเมื่อพ่อบ้านเห็นเสิ่นเหมียน เขาก็ยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก จนพูดเสียงดังขึ้นอีกหลายระดับโดยไม่รู้ตัว “คุณผู้หญิง รีบตามผมมาเถอะ!”เสิ่นเหมียนรีบก้าวเท้าไปข้างหน้า ขณะเดินก็เอ่ยถามขึ้น “โทรหาหมอประจำตระกูลหรือยัง?”“โทรแล้วครับ น่าจะอีกยี่สิบนาทีกว่าจะมาถึง”“เปิดหน้าต่างระบายอากาศหรือยัง?”“เปิดหมดทุกบานแล้วครับ”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเพิ่มความเร็วในการก้าวเท้าเล็กน้อยทันทีที่เดินเข้าไปในโถงทางเข้า เสียงสะอื้นแผ่วเบาของเวินเจี่ยนก็ลอยเข้ามาข้างหูเธอเสิ

  • เสพติดรัก   บทที่ 8

    คุณท่านอาวุโสเจียงโมโหจนเกือบจะตายคาที่เจียงฉีหานเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจว่าเป็นคนฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแต่ทำไมทุกครั้งที่พูดถึงเวินเจี่ยน กลับรู้สึกว่าเขาดูเหมือนคนที่ไม่พกสมองออกจากบ้านมาด้วยเสิ่นเหมียนตักซุปมาหนึ่งถ้วย และวางลงตรงหน้าผู้อาวุโสด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณปู่ ทานซุปหน่อยนะคะ”ผู้อาวุโสเจียงยื่นมือออกมารับถ้วยซุป ก่อนจะยกขึ้นดื่มไปหนึ่งคำ ความหงุดหงิดในใจจึงคลายลงไปได้บ้าง เขาวางถ้วยลง ก่อนจะหันไปมองเจียงฉีหานด้วยสายตาจิกกัด แล้วพูดขึ้น “ในเมื่อแกถามมาขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็จะตอบให้แกฟัง”“ทุกครั้งที่ยัยหนูเหมียนเหมียนมาที่นี่ทีไร เธอก็จะลงมือเข้าครัวทำอาหารให้ฉันเองทุกครั้ง เธอยังรู้อีกว่าฉันชอบกินอะไร และถ้ากินปลากัน เธอก็จะยังบรรจงแกะก้างออกให้ฉันด้วย เธอใส่ใจดูแลฉันทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด!”“แล้วเธอล่ะ? ทุกครั้งที่มาถึงก็จะนั่งบนโซฟา ทำตัวเป็นคุณผู้หญิงใหญ่ของบ้าน สั่งให้พวกคนใช้คอยประคบประหงมตัวเอง พวกคนใช้ต้องวิ่งวุ่นกันทั้งบ้านเพื่อเอาใจเธอ แล้วใครล่ะที่จะมาดูแลฉัน!”พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสก็ดูแย่ลงเป็น

  • เสพติดรัก   บทที่ 9 

    เจียงฉีหานถูกเสียงหวานกระเซ่าของเธอยั่วจนใจสั่น สองมือโอบรัดเอวของเธอแน่นขึ้น เขากดเธอเข้ามาในอ้อมอก ราวกับต้องการจะกดเธอให้กลืนหายเข้าไปในร่างของเขา“เสิ่นเหมียน เธอเองก็คิดถึงฉันใช่ไหม? ไหน เรียกฉันว่าสามีให้ฟังหน่อย”สามปีที่ทั้งสองแต่งงานกัน พวกเขาแทบจะมีอะไรกันวันเว้นวัน จะปลุกเร้าเสิ่นเหมียนยังไง หรือจะทำยังไงให้เธอรู้สึกดีที่สุด เจียงฉีหานรู้แจ่มแจ้งอยู่แก่ใจเพราะแบบนี้ เขาจึงสามารถปลุกเร้าให้เธออ่อนไหวได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วทุกครั้ง และบางครั้งเธอถึงกับอดรนทนไม่ไหว ร้องขอให้เขามอบสัมผัสมากกว่านี้ด้วยตัวเองเขาไม่ได้แตะต้องเสิ่นเหมียนมาแล้วสองวัน แน่นอนว่าเขาอยากทำมากและตอนนี้ ผู้หญิงตัวนุ่มนิ่มกำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางคิดที่จะปล่อยเธอไปอีกอย่าง เขายังไม่เคยลองทำแบบกลางแจ้งเลย เขาอยากลองดูสักครั้งเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปากแน่น เพราะไม่อยากให้ตัวเองส่งเสียงที่น่าอายออกมาเจียงฉีหาน ชายหนุ่มที่ภายนอกดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง แต่กลับมีรสนิยมประหลาดตอนอยู่บนเตียงคือ เขาชอบจงใจแกล้งเธอ ชอบทำให้เธอไม่สุขสมดั่งปรารถนา และชอบบังคับให้เธอเรียกเขาว่าสามีที่บ้านไม่

  • เสพติดรัก   บทที่ 10

    เวินเจี่ยนโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า “เสิ่นเหมียนเรียกคุณนะ รีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน!”“ให้คนขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก่อน ไม่นานเดี๋ยวฉันจะตามไป” จากนั้นเจียงฉีหานก็อุ้มเวินเจี่ยนขึ้นรถ แล้วสั่งให้คนขับออกรถไปทันทีเวินเจี่ยนนั่งอยู่ในรถ มองร่างของเจียงฉีหานที่ค่อย ๆ ไกลออกไป สองมือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกันตาแก่ตายยากนั่น!ต้องมีสักวันที่ฉันจะเห็นแกตายไปต่อหน้ากับตาตัวเอง!หลังจากส่งเวินเจี่ยนขึ้นรถ เจียงฉีหานก็เดินกลับเข้าบ้านในห้องรับแขก เสิ่นเหมียนกำลังนั่งกินผลไม้อยู่บนโซฟา ขณะที่ลุงจงนั่งคุยกับเธออยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลายเจียงฉีหานหยุดฝีเท้าไปครู่หนึ่งเสิ่นเหมียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนในคฤหาสน์ประจำตระกูลหลังนี้ แต่ทำไมกลับเป็นศัตรูกับเวินเจี่ยนอยู่ตลอด?เมื่อเห็นเจียงฉีหาน เสิ่นเหมียนก็หยิบผลไม้เข้าปาก ก่อนจะชี้ไปที่ชั้นสอง “คุณปู่รอนายอยู่ในห้องหนังสือ”เธอไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกับเจียงฉีหานและเธอเองก็ไม่ได้สนใจลุงจงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าลงทันที ก่อนจะเดินไปอยู่ตรงหน้าเจียงฉีหาน “คุณชายรอง เชิญมากับผมครับ”คุณผู้หญิงทั้งอ่อน

  • เสพติดรัก   บทที่ 11

    ผู้อาวุโสเจียงส่งเสียงหึออกมา “ฉันไม่เดิมพันกับแกหรอก! ถ้ายัยหนูเสิ่นไม่ต้องการแกแล้ว ก็อย่าคิดกลับมาหาฉัน!​ มันขายหน้า!”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทางประตูเจียงฉีหานคิดเอาเองว่าเสิ่นเหมียนไม่มีทางไปไหน และไม่มีวันที่เขาจะเสียใจ!เจียงฉีหานเลิกคิ้วขึ้น หยิบซองเอกสาารขึ้นมาแล้วเดินตามออกไปเสิ่นเหมียนที่อยู่นอกประตูลงมาข้างล่างตั้งนานแล้วเมื่อลุงจงเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเธอก็กังวลเล็กน้อย “คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? สีหน้าดูไม่ดีเลย”เสิ่นเหมียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ถ้อยคำเหล่านั้นที่เจียงฉีหานพูดเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกถึงหัวใจ แล้วเธอจะมีสีหน้าดีได้อย่างไร“คุณนั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปรินน้ำมาให้” ลุงจงพูดจบก็รีบไปรินน้ำมาให้เธอผู้อาวุโสเจียงกับเจียงฉีหานลงมา เห็นเสิ่นเหมียนนั่งอยู่ตรงนั้น ผู้อาวุโสเจียงเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ข้างนอกอากาศเริ่มเย็น พวกแกไม่ต้องกลับหรอก อยู่ค้างที่นี่แหละ ทุกห้องทำความสะอาดไว้หมดแล้ว ผ้าห่มก็สะอาดเอี่ยมอ่อง รีบขึ้นไปพักข้างบนเถอะ”เขาคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนเผื่อนอนด้วยกันแล้วจะตั้งท้องขึ้นมา“พรุ่งนี้หน

  • เสพติดรัก   บทที่ 12

    คิ้วคมของเจียงฉีหานขมวดมุ่น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น!”“เสิ่นเหมียนซื้อฮอตเสิร์ชเขียนข่าวว่ารางวัลชนะการเต้นรำของฉันได้มาเพราะใช้เส้นสาย! แถมยังบอกอีกว่าฉันมีเสี่ยเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง!​ อีกอย่างเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเสี่ยคนนั้น! ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ยืนบนเวทีอีกต่อไป! อนาคตข้างหน้าของฉัน ชีวิตของฉัน ดับมืดไปหมด! ถ้าฉันยังมีชีวิตต่อไปยังจะมีค่าอะไร! ฉันอยากตาย!”เวินเจี่ยนตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้สีหน้าของเจียงฉีหานเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ฮอตเสิร์ชอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย“นายถามเสิ่นเหมียนดูสิ! เธอเป็นคนทำ เธอต้องรู้แน่ๆ!​” เวินเจี่ยนตะคอก ฟังผ่านลำโพงโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอ“เอาล่ะ เธออย่าเพิ่งอารมณ์ร้อน ฉันจะถามเธอเอง” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสายตอนแรกเสิ่นเหมียนว่าจะหลับตาพักผ่อนสักหน่อย แต่พอได้ยินบทสนทนาของเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยน ก็รู้สึกหนังตากระตุกอย่างรุนแรงเวินเจี่ยนเล่นพิเรนทร์อะไรอีกไม่แปลกที่เสิ่นเหมียนจะอ่อนไหวประเด็นคือเวินเจี่ยนทั้งชอบหาเรื่องและเสแสร้งเอะอะก็โทรมาฟ้องเจ

บทล่าสุด

  • เสพติดรัก   บทที่ 40

    “ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก

  • เสพติดรัก   บทที่ 39

    ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น

  • เสพติดรัก   บทที่ 38

    ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

  • เสพติดรัก   บทที่ 37

    คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 36

    “คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 35

    ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ

  • เสพติดรัก   บทที่ 34

    ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื

  • เสพติดรัก   บทที่ 33

    “หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม

  • เสพติดรัก   บทที่ 32

    เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status