Share

บทที่ 10

Author: มู่อันอัน
เวินเจี่ยนโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า “เสิ่นเหมียนเรียกคุณนะ รีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน!”

“ให้คนขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก่อน ไม่นานเดี๋ยวฉันจะตามไป” จากนั้นเจียงฉีหานก็อุ้มเวินเจี่ยนขึ้นรถ แล้วสั่งให้คนขับออกรถไปทันที

เวินเจี่ยนนั่งอยู่ในรถ มองร่างของเจียงฉีหานที่ค่อย ๆ ไกลออกไป สองมือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกัน

ตาแก่ตายยากนั่น!

ต้องมีสักวันที่ฉันจะเห็นแกตายไปต่อหน้ากับตาตัวเอง!

หลังจากส่งเวินเจี่ยนขึ้นรถ เจียงฉีหานก็เดินกลับเข้าบ้าน

ในห้องรับแขก เสิ่นเหมียนกำลังนั่งกินผลไม้อยู่บนโซฟา ขณะที่ลุงจงนั่งคุยกับเธออยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย

เจียงฉีหานหยุดฝีเท้าไปครู่หนึ่ง

เสิ่นเหมียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนในคฤหาสน์ประจำตระกูลหลังนี้ แต่ทำไมกลับเป็นศัตรูกับเวินเจี่ยนอยู่ตลอด?

เมื่อเห็นเจียงฉีหาน เสิ่นเหมียนก็หยิบผลไม้เข้าปาก ก่อนจะชี้ไปที่ชั้นสอง “คุณปู่รอนายอยู่ในห้องหนังสือ”

เธอไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกับเจียงฉีหาน

และเธอเองก็ไม่ได้สนใจ

ลุงจงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าลงทันที ก่อนจะเดินไปอยู่ตรงหน้าเจียงฉีหาน “คุณชายรอง เชิญมากับผมครับ”

คุณผู้หญิงทั้งอ่อนโยนและจิตใจดีขนาดนี้ แต่คุณชายรองกลับเย็นชาและไร้หัวใจ

เขาเป็นห่วงเหลือเกินว่าสักวันหนึ่งคุณผู้หญิงจะทนนิสัยเย็นชาของคุณชายรองไม่ไหวจริง ๆ แล้วขอหย่าขึ้นมา แบบนั้นคงจะวุ่นวายไม่น้อย

เจียงฉีหานตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ระหว่างที่ขึ้นไปชั้นบน เขาก็ถามลุงจง “ทำไมถึงเรียกเวินเจี่ยนว่าคุณผู้หญิงใหญ่ แต่กลับเรียกเสิ่นเหมียนว่าคุณผู้หญิง?”

เขาเป็นลูกชายคนรอง เสิ่นเหมียนก็ควรเป็นคุณผู้หญิงรองสิ

“คุณท่านเคยพูดเอาไว้ว่า หลานสะใภ้เพียงคนเดียวที่เขายอมรับคือคุณผู้หญิง เพราะแบบนี้ แน่นอนว่าคำเรียกของเธอก็จะต้องไม่เหมือนใคร”

เจียงฉีหานขมวดคิ้ว “งั้นลุงจงรู้ไหมว่าทำไมคุณปู่ถึงไม่ชอบเวินเจี่ยน?”

ลุงจงหัวเราะ “ความคิดของคุณท่าน ผมไม่กล้าเดาอะไรหรอกครับ ถ้าคุณชายรองอยากรู้ ก็ไปถามคุณท่านเองดีกว่า”

ใคร ๆ ก็มองออกว่าคุณผู้หญิงใหญ่เป็นเอาแต่ใจ ชอบกลั่นแกล้ง และยังเจ้าเล่ห์ ถ้ามีคนชอบสิแปลก

เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณชายรองถึงได้เอาใจเวินเจี่ยนขนาดนั้น

นี่มันเกินขอบเขตความสัมพันธ์ระหว่างพี่สะใภ้ใหญ่กับน้องสามีแล้ว!

มันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายๆ!

เจียงฉีหานเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไรอีก

ถึงเขาจะถามจริง ๆ ผู้อาวุโสก็คงไม่บอกเขาอยู่ดี

ลุงจงส่งเขาจนถึงหน้าห้องหนังสือก่อนจะเดินกลับไป

เจียงฉีหานผลักประตูเข้าไปข้างใน ก่อนจะเห็นว่าผู้อาวุโสกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่าง แผ่นหลังโค้งงอลงเล็กน้อย

ในตอนนี้จู่ ๆ เขาก็ตระหนักขึ้นมาว่า ผู้อาวุโสแก่ลงไปมากแล้วจริง ๆ

“แกเข้ามาแล้วปิดประตูซะ” ผู้อาวุโสหันกลับมา จ้องเขาด้วยแววตาคมกริบ และพูดขึ้นเสียงดัง

ตั้งแต่วันที่เจียงฉีหานถูกตระกูลเจียงพาตัวกลับมา เขาก็อยู่เคียงข้างผู้อาวุโสมาโดยตลอด เขาให้ความเคารพผู้อาวุโสอยู่เสมอ

เจียงฉีหานเดินเข้าไปในห้องหนังสือ ก่อนจะปิดประตูลง

ผู้อาวุโสชี้ไปที่แฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ “ข้างในเป็นสัญญากรรมสิทธิ์การโอนหุ้น 5% ของช่วงซื่อและกำไลหยกที่สืบทอดของบรรพบุรุษตระกูลเจียง แกเอาไปให้ยัยหนูเหมียนเหมียนซะ“

เจียงฉีหานขมวดคิ้ว “เวินเจี่ยนเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ กำไลหยกตระกูลเจียงควรให้เธอไม่ใช่เหรอครับ?”

สีหน้าของคุณปู่แข็งกร้าวลงทันที “แค่ของไร้ค่าไร้ราคาชิ้นหนึ่งก็กล้าหวังจะได้ครอบครองกำไลหยกของตระกูลเจียง! เจียงฉีหาน แกต้องจำไว้ให้ดี ภรรยาของแกคือเหมียนเหมียน! แกกับเวินเจี่ยนเป็นแค่พี่สะใภ้กับน้องสามีเท่านั้น! พวกแกจะต้องรักษาระยะห่างเอาไว้!”

มีบางเรื่องที่เขาไม่ได้พูดออกมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้

“เธอท้องแล้วนะครับ อีกหน่อยถ้าลูกของเธอคลอดออกมาก็จะกลายเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเจียง อีกอย่าง เสิ่นเหมียนเองก็ไม่ชอบใส่เครื่องประดับอยู่แล้ว ดังนั้นกำไลหยกประจำตระกูลควรที่จะให้เวินเจี่ยน!” เขาจำได้ว่าเวินเจี่ยนเคยพูดถึงเรื่องกำไลหยกของตระกูลเจียงให้เขาฟังอยู่หลายครั้งว่าเธออยากได้มันมาก

“ที่เหมียนเหมียนไม่ชอบใส่เครื่องประดับ นั่นก็เพราะแกไม่เคยซื้อให้เธอ! ถ้าแกซื้อให้เธอบ่อย ๆ เธอจะไม่ใส่ได้ยังไง?!” คุณท่านอาวุโสเจียงถลึงตามองเขา "สุดสัปดาห์หน้าเป็นวันเกิดของเหมียนเหมียน หุ้นพวกนี้เป็นของขวัญวันเกิดที่ฉันมอบให้เธอ แกให้ผู้ช่วยไปจัดการเรื่องโอนหุ้นซะ! ส่วนกำไลหยกนี่ แกจะต้องเอาไปให้เธอเองกับมือ!”

เจียงฉีหานรับแฟ้มเอกสารมา “ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ”

“แกแต่งงานกับยัยหนูเหมียนเหมียนมาสามปีแล้ว คิดจะมีลูกเมื่อไหร่?” ตั้งแต่ที่ได้เห็นข่าวที่ติดเทรนด์การค้นหาเกี่ยวกับเวินเจี่ยนแล้ว ผู้อาวุโสเจียงก็เริ่มไม่มั่นใจ

ผู้อาวุโสเจียงรู้จักนิสัยของเจียงฉีหานดี เขาไม่มีวันนอกลู่นอกทางแน่นอน แต่คนอื่นมองแค่เปลือกนอกของเรื่องนี้ พวกเขาจะคิดว่าระหว่างเขากับเวินเจี่ยนต้องมีอะไรบางอย่างแน่

ยิ่งเจียงฉีหานเป็นคนที่นิสัยเย็นชา เขาไม่เคยอธิบายอะไร และยิ่งไม่เคยเอาใจภรรยา พอเสิ่นเหมียนเห็นข่าวพวกนี้ เธอคงเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัย

และเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เธอจะค่อย ๆ หมดหวังกับเจียงฉีหาน

และเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งตัดใจจากผู้ชายได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ก็ไม่มีทางดึงเธอกลับมาได้อีก

แต่ถ้าทั้งสองมีลูก ระหว่างพวกเขาก็จะมีสิ่งที่ผูกมัดพวกเขาเข้าด้วยกัน

เขารู้ดีว่าแม้ภายนอกเสิ่นเหมียนจะดูเป็นคนเข้มแข็ง แต่แท้จริงแล้วหัวใจของเธออ่อนโยนมาก หากมีลูก เธอจะไม่มีวันจากไปง่าย ๆ และตราบใดที่เธอยังอยู่ต่อ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะสามารถอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า

“ผมไม่เคยคิดอยากมีลูก!” เจียงฉีหานพูดออกมาโดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ

เขาไม่ได้รักเสิ่นเหมียน เขาย่อมไม่คิดจะมีลูกกับเธอแน่นอน

คุณท่านอาวุโสเจียงโมโหจนคว้าที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะหนังสือขึ้นมาแล้วขว้างใส่เขา พร้อมตะโกนลั่น “ไอ้เด็กเวร!”

เขาทุ่มเททำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเจียงฉีหานดึงรั้งเสิ่นเหมียนไว้ แต่เจียงฉีหานกลับเป็นตัวถ่วงเสียเอง!

เจียงฉีหานหลบไม่พ้น ทำให้ที่เขี่ยบุหรี่ลอยเฉียดผ่านหน้าผากของเขาไป หน้าผากของเขาถูกกระแทก

จนเลือดไหลซึมออกมาเป็นทางยาว

“ไสหัวไปซะ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก! ต่อไปนี้แกก็อย่ากลับมาให้เกะกะลูกตาฉันอีก!”คุณท่านอาวุโสเจียงโมโหจนหอบหายใจ “ถ้าวันไหนเหมียนเหมียนอยู่กับแกไม่ได้แล้วขอหย่าขึ้นมา ก็อย่ากลับมาขอให้ฉันช่วยก็แล้วกัน!”

ตั้งแต่วันที่เจียงฉีหานถูกพากลับมา เขาก็เป็นคนเย็นชามาโดยตลอด

ผู้อาวุโสเคยกังวลว่าเขาอาจจะต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวไปจนตาย

จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับเสิ่นเหมียน ผู้หญิงที่เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้

เสิ่นเหมียนไม่เพียงแต่จะมีหน้าตาที่สะสวย นิสัยดี เป็นตัวของตัวเอง และจบจากคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจิงต้า ผู้หญิงแบบนี้ ทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาไม่เจอเป็นคนที่สองอีกแล้ว การที่เธอยอมแต่งงานกับเจียงฉีหาน นับว่าเป็นเกียรติของตระกูลเจียง

ดังนั้น ผู้อาวุโสเจียงจึงทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ทั้งสองได้แต่งงานกัน

เขานึกว่าถ้าหากทั้งสองได้ใช้ชีวิตร่วมกันไปนาน ๆ เจียงฉีหานจะต้องมองเห็นข้อดีของเสิ่นเหมียน และตกหลุมรักเธอในที่สุด

แต่สุดท้าย เวลาสามปีผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ยังคงไม่คืบหน้าไปไหน

เขาเห็นมันกับตา และร้อนรนในใจเหลือเกิน

เขากลัวว่าเสิ่นเหมียนจะหมดความอดทนและเลือกเดินจากเจียงฉีหานไป

ก็เจียงฉีหานมีนิสัยแย่แบบนั้น ใครก็อยู่กับเขาไม่ได้นานหรอก!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็อยากจะต่อยเจียงฉีหานให้หายแค้นสักหมัด!

เจียงฉีหานใช้มือกุมบาดแผลที่หน้าผาก มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ “ถ้าเสิ่นเหมียนหย่ากับผม แล้วใครจะดูแลเรื่องเน่าเฟะในตระกูลเสิ่น! ใครจะจัดหายาพิเศษเฉพาะทางให้คุณยายของเธอ? เงินเดือนแค่ไม่กี่บาทของเธอสามารถซื้อเสื้อผ้าที่เธอใส่ตอนนี้ได้สักชุดงั้นเหรอ? คุณปู่ไม่ต้องห่วง เธอไม่มีทางทำแบบนั้น และก็คงไม่กล้าขอหย่ากับผมหรอก!”

เขามั่นใจเต็มร้อยว่า เสิ่นเหมียนไม่มีทางจากเขาไป!

เสิ่นเหมียนได้ยินเสียงดังมาจากชั้นบน จึงรีบขึ้นไปดู และเธอก็บังเอิญได้ยินคำพูดของเจียงฉีหานพอดี ชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกเหมือนเลือดทั้งร่างถูกแช่แข็งทันที

ที่แท้ ในสายตาของเจียงฉีหาน เธอช่างไร้ค่าและต่ำต้อยถึงเพียงนี้

ช่างแตกต่างจากความรักที่เธอใฝ่ฝันถึงโดยสิ้นเชิง

มันช่างน่าขันจริง ๆ

“ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! ฉันไม่อยากเห็นหน้าแกอีก!” ผู้อาวุโสเจียงโมโหจนปวดหัว ปวดตับ ปวดทั้งร่างกาย “ใจของคนล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ! ไม่มีใครที่จะรักแกได้ตลอดชีวิตหรอก! เจียงฉีหาน แกเตรียมตัวไว้เถอะ!”

ในเมื่อเจียงฉีหานมั่นใจนักว่าเสิ่นเหมียนจะอยู่กับเขาตลอดไป จะให้เปลี่ยนแปลงความคิดของเขาก็คงยาก งั้นผู้อาวุโสเจียงก็จะนั่งรอดูเขาถูกตบหน้าให้ตาสว่างก็แล้วกัน!

“สู้เรามาเดิมพันกันดีไหม? มาดูกันว่าเสิ่นเหมียนจะกล้าไปจากผมจริง ๆ หรือเปล่า!” เจียงฉีหานพูดออกมาอย่างมั่นใจ

Related chapters

  • เสพติดรัก   บทที่ 11

    ผู้อาวุโสเจียงส่งเสียงหึออกมา “ฉันไม่เดิมพันกับแกหรอก! ถ้ายัยหนูเสิ่นไม่ต้องการแกแล้ว ก็อย่าคิดกลับมาหาฉัน!​ มันขายหน้า!”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทางประตูเจียงฉีหานคิดเอาเองว่าเสิ่นเหมียนไม่มีทางไปไหน และไม่มีวันที่เขาจะเสียใจ!เจียงฉีหานเลิกคิ้วขึ้น หยิบซองเอกสาารขึ้นมาแล้วเดินตามออกไปเสิ่นเหมียนที่อยู่นอกประตูลงมาข้างล่างตั้งนานแล้วเมื่อลุงจงเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเธอก็กังวลเล็กน้อย “คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? สีหน้าดูไม่ดีเลย”เสิ่นเหมียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ถ้อยคำเหล่านั้นที่เจียงฉีหานพูดเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกถึงหัวใจ แล้วเธอจะมีสีหน้าดีได้อย่างไร“คุณนั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปรินน้ำมาให้” ลุงจงพูดจบก็รีบไปรินน้ำมาให้เธอผู้อาวุโสเจียงกับเจียงฉีหานลงมา เห็นเสิ่นเหมียนนั่งอยู่ตรงนั้น ผู้อาวุโสเจียงเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ข้างนอกอากาศเริ่มเย็น พวกแกไม่ต้องกลับหรอก อยู่ค้างที่นี่แหละ ทุกห้องทำความสะอาดไว้หมดแล้ว ผ้าห่มก็สะอาดเอี่ยมอ่อง รีบขึ้นไปพักข้างบนเถอะ”เขาคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนเผื่อนอนด้วยกันแล้วจะตั้งท้องขึ้นมา“พรุ่งนี้หน

  • เสพติดรัก   บทที่ 12

    คิ้วคมของเจียงฉีหานขมวดมุ่น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น!”“เสิ่นเหมียนซื้อฮอตเสิร์ชเขียนข่าวว่ารางวัลชนะการเต้นรำของฉันได้มาเพราะใช้เส้นสาย! แถมยังบอกอีกว่าฉันมีเสี่ยเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง!​ อีกอย่างเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเสี่ยคนนั้น! ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ยืนบนเวทีอีกต่อไป! อนาคตข้างหน้าของฉัน ชีวิตของฉัน ดับมืดไปหมด! ถ้าฉันยังมีชีวิตต่อไปยังจะมีค่าอะไร! ฉันอยากตาย!”เวินเจี่ยนตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้สีหน้าของเจียงฉีหานเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ฮอตเสิร์ชอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย“นายถามเสิ่นเหมียนดูสิ! เธอเป็นคนทำ เธอต้องรู้แน่ๆ!​” เวินเจี่ยนตะคอก ฟังผ่านลำโพงโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอ“เอาล่ะ เธออย่าเพิ่งอารมณ์ร้อน ฉันจะถามเธอเอง” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสายตอนแรกเสิ่นเหมียนว่าจะหลับตาพักผ่อนสักหน่อย แต่พอได้ยินบทสนทนาของเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยน ก็รู้สึกหนังตากระตุกอย่างรุนแรงเวินเจี่ยนเล่นพิเรนทร์อะไรอีกไม่แปลกที่เสิ่นเหมียนจะอ่อนไหวประเด็นคือเวินเจี่ยนทั้งชอบหาเรื่องและเสแสร้งเอะอะก็โทรมาฟ้องเจ

  • เสพติดรัก   บทที่ 13

    เสิ่นเหมี่ยนหันหน้าหลบมือของชายหนุ่ม กัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหาน ก่อนที่นายจะลงมือทำอะไรควรคิดว่าสามารถรับผลการกระทำหลังจากไปทำให้เจียงฉีหานไม่พอใจได้หรือเปล่า!”ในสถานที่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้แบบนี้ เธอทำได้เพียงอ้างชื่อเจียงฉีหานเจียงฉีหานเปรียบดั่งเจ้าแห่งความตายที่ผู้คนล้วนหวาดหวั่นในเมืองหลวงคนภายนอกล้วนพูดต่อ ๆ กันว่าเขาโหดร้ายทารุณ เลือดเย็นไร้ความปราณีคนกลุ่มนี้ต้องเกรงกลัวเขาแน่ ๆไม่แน่อาจจะปล่อยเธอไป“คนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมดว่าเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยนเป็นแฟนกัน ไม่ยักรู้เลยว่าเจียงฉีหานแต่งงานแล้ว! อย่ามาแต่งเรื่องโกหกพวกพี่ โอเคไหม?” ชายหนุ่มคว้าจับคางของเสิ่นเหมียน ออกแรงเชิดขึ้นสูง เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ที่เธอมัวแต่ลีลาอยู่ตรงนี้ เพราะรอให้ฉันอุ้มเธอขึ้นรถใช่ไหม?”เสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก “ฉันไม่ได้โกหก ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหานจริงๆ! ถ้าพวกนายไม่เชื่อ ฉันโทรหาเขาตอนนี้ก็ได้!”จริง ๆ แล้วในใจก็ค่อนข้างหวั่นเมื่อกี้เจียงฉีหานเพิ่งทะเลาะกับเธอเสร็จ อาจจะไม่ยอมรับสายเธอก็ได้!แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอต้องทนหน้าด้

  • เสพติดรัก   บทที่ 14

    ขณะที่มือของชายหนุ่มกำลังจะล้วงเข้าไปในกระโปรง ทันใดนั้นพลันมีเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นมา ชายหนุ่มตกใจจนมือสั่นนัยน์ตาของเสิ่นเหมียนทอประกายดีใจ เค้นลำคอตะโกนออกไปว่า “ช่วยด้วย!”วินาทีต่อมา ชายหนุ่มที่คร่อมทับบนร่างก็ถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง เสื้อตัวนอกของผู้ชายถูกโยนมาคลุมร่างกายของเสิ่นเหมียนเอาไว้กลิ่นไม้เย็น ๆ พลันโชยเข้ามาในจมูก อารมณ์ตรึงเครียดของเสิ่นเหมียนพลันผ่อนคลายลง“หลับตาลง อย่ามอง!”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มดังขึ้นมาข้างหูเสิ่นเหมียนอดมองชายหนุ่มไม่ได้“พี่ฟู่?”เธอไม่อยากจะเชื่อทำไมบังเอิญขนาดนี้“อืม ฉันเอง คนดี หลับตานะ ฉันจะอุ้มเธอไปที่รถฉัน” ดวงตาดำขลับของฟู่จือกุยอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวลเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก อยากพูดอะไรออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หลับตาลงแต่โดยดีข้างหูยังคงมีเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นมาเสิ่นเหมียนกำหมัดแน่นทันที พูดเสียงเบาว่า “พี่ฟู่ ช่วยฉันแจ้งความที ฉันจะแจ้งจับพวกมัน!”“เธอไม่ต้องออกโรงเองฉันก็จะส่งพวกมันเข้าคุกอยู่แล้ว!​ ไม่ต้องห่วงนะ” เสียงอ่อนโยนของฟู่จือกุยดังขึ้นข้างหู เสิ่นเหมียนซาบซึ้งในใจ จึงพูดขอบคุณเสียงเบา “พี่ฟู่ ขอบคุณนะ!

  • เสพติดรัก   บทที่ 15

    ช่วงหลายวันมานี้ได้ยินคนในสำนักกฎหมายพูดคุยถึงสำนักทนายความฉี่หมิงที่เพิ่งเปิดใหม่ แถมยังบอกว่าเจ้าของเป็นเด็กจบนอก เพราะงานยุ่งเธอจึงไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องนี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าของจะเป็นฟู่จือกุยขอบเขตธุรกิจของตระกูลฟู่คือสายการบินไม่ใช่เหรอ?ทำไมจู่ ๆ ถึงเปิดสำนักงานเกี่ยวกับกฎหมายได้ล่ะ?“ดูเหมือนเธอจะได้ยินมาแล้วสินะ! ใช่ ฉี่หมิงคือสำนักงานกฎหมายที่ฉันเปิดเอง”“ฉันจำได้ว่าพี่ฟู่เองก็เป็นนักศึกษาเรียนดีของสาขากฎหมายเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นพี่เป็นทนายความ ไม่แน่พวกเราอาจจะกลายเป็นคู่แข่งกันก็ได้!”“ต่อให้ฉันเป็นทนายจริง ๆ เราก็ไม่มีทางเป็นคู่แข่งกันหรอก!” ฟู่จือกุยแอบพูดในใจเงียบ ๆ ฉันมีแต่จะช่วยเธอ ทำให้เธอสมหวัง!ในตอนนี้เอง เสียงของเซิ่งเซี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน“เหมียนเหมียน เหมียนเหมียน เธออยู่ไหน!”อีกฝ่ายค่อนข้างควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสิ่นเหมียนซึ้งใจ จึงยกแขนขาว ๆ ขึ้นพยายามโบกไปมา “เสี่ยวเซี่ย ฉันอยู่นี่!”บริเวณไม่ไกล รถคันหนึ่งค่อย ๆ จอด กระจกรถลดลง เจียงฉีหานมองหญิงสาวในอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชา บนนิ้วยังใส่แหวนแต่งงานของพวกเขาอยู่แท้ ๆเหอะ…ไฉนเลยที่เสิ่

  • เสพติดรัก   บทที่ 16

    ตอนที่เสิ่นเหมียนเห็นพาดหัวข่าว สมองพลันขาวโพลนในชั่ววินาทีกำไลสืบทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลเจียงผู้อาวุโสเจียงบอกว่าฝากเจียงฉีหานเอามาให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอไม่ใช่เหรอ?เสิ่นเหมียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ข่มอารมณ์ความรู้สึกในใจเอาไว้ แล้วเปิดข่าวเวลาที่ลงข่าวคือครึ่งชั่วโมงที่แล้วหรือก็คือเที่ยงคืนที่ผ่านมาเมื่อครู่เธอจำได้ วันนี้คือวันเกิดของเวินเจี่ยนเธอเห็นผู้ชายในรูป เขานั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย สวมกำไลข้อมือให้หญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนหญิงสาวที่พิงหัวเตียงยิ้มหวานออกมา ท่าทางดูเหมือนสาวน้อยผู้มีความสุขล้นเปี่ยม เสิ่นเหมียนกำโทรศัพท์ เนื้อข่าวเขียนว่าอะไรบ้าง เธอเองก็ไม่ได้อ่านต่อ เพียงรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างกายเจียงฉีหานเอากำไลของเธอไปให้เวินเจี่ยน!และในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นมาเมื่อเปิดดู ก็พบว่าเป็นข้อความจากเบอร์แปลก...ในรูปคือมือข้างหนึ่ง มีกำไลสืบทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลเจียงใส่อยู่บนข้อมือ ประกอบด้วยข้อความว่า กำไลสวยไหม?ใบหน้าของเสิ่นเหมียนซีดเผือดไร้สีเลือดเธอรู้ว่าเวินเจี่ยนเป็นคนส่งข้อความมา กำลังโอ้อวดเธอและยั่วยุอย่างไร้เสียงว

  • เสพติดรัก   บทที่ 17

    เธอตกใจรีบกดโทรเบอร์ฉุกเฉิน 120เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เสิ่นเหมียนก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินเซิ่งเซี่ยเดินวนไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน ทั้งกังวลและกลัวถ้าเสิ่นเหมียนเป็นอะไรไป จะทำยังไง!*ภายในห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลเหรินเหอในเครือของช่วงซื่อ เจียงฉีหานยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยด้วยไอเยือกเย็น ในมือถือโทรศัพท์ กำลังดุเวินเจี่ยน “เธอตั้งครรภ์อยู่ กลางคืนไม่หลับนอนมัวแต่ทะเลาะกับเสิ่นเหมียน ใช้ไม่ได้เลยนะ!”เวินเจี่ยนขอบตาแดงก่ำอย่างน้อยใจ “เมื่อกี้เสิ่นเหมียนโทรมา ฉันเห็นนายไม่อยู่ กลัวว่าเธอจะมีเรื่องด่วนเลยกดรับ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะด่าว่าฉันหน้าไม่อาย บอกว่าฉันแย่งกำไลสืบทอด แถมบอกว่าฉันแย่งสามีของเธอด้วย! ฉันทนไม่ได้เลยแขวะเธอกลับไป ใครจะไปรู้ว่าเธอจะบอกว่าจะแฉฉันบนอินเตอร์เน็ต! ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสได้ยืนอยู่บนเวทีอีกต่อไป!”“ฉีหาน ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอโทษนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่รับโทรศัพท์ของนายอีกแล้ว”“ฉันจะนอนเดี๋ยวนี้ นายอย่าโกรธเลยนะ”พูดจบก็ยื่นมือเช็ดน้ำตา ดึงมาห่มมาคลุมโปงเจียงฉีหานก้มลงไปดึงมุมผ้าห่มออก จนเผยให้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเวินเจี่ยน เขาจึงเสียงอ่อนลงในทันที “เธอท

  • เสพติดรัก   บทที่ 18

    “รีบนอนได้แล้ว ส่วนเรื่องเสิ่นเหมียนเธอคงตัดสินใจเอง เธอจะไปกังวลแทนเธอทำไม!” เจียงฉีหานยื่นมือออกไปห่มผ้าให้เธอ “ดึกมากแล้ว ฉันจะงีบบนโซฟาสักพัก”น้ำเสียงเรียบเฉยของชายหนุ่ม เวินเจี่ยนแทบจะแยกอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป“ถ้าอย่างนั้นนายรีบพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”พูดจบเธอก็หลับตาลงเจียงฉีหานยืนอยู่ข้างเตียงสักพัก จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยเขาเดินออกไปนอกประตูได้ไม่ทันไร เวินเจี่ยนก็ลืมตาขึ้นมาเสิ่นเหมียน เธอคอยดูเถอะ ฉันจะแย่งเจียงฉีหานกลับมาให้ได้นอกประตูห้องผู้ป่วย เจียงฉีหานกำลังโทรหาซางอู่*ตอนที่เสิ่นเหมียนฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย กลิ่นยาฆ่าเชื้อเข้มข้นตลบอบอวลกลางอากาศจนต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ทำไมมาที่โรงพยาบาลอีกแล้วล่ะ“เหมียนเหมียน ฟื้นแล้วเหรอ รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้ามองไปทางเซิ่งเซี่ยที่เดินเข้ามาทางประตู ในมือหิ้วถุงจากร้านโจ๊กสวีจี้ดูจากท่าทางแล้วคงไปซื้อโจ๊กมาให้เธอ“ฉันเป็นอะไรไป?” ถามจบ เธอก็ทวนความทรงจำอย่างอดไม่ได้ จำได้เพียงคำพูดเหล่านั้นที่เวินเจี่

Latest chapter

  • เสพติดรัก   บทที่ 40

    “ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก

  • เสพติดรัก   บทที่ 39

    ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น

  • เสพติดรัก   บทที่ 38

    ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

  • เสพติดรัก   บทที่ 37

    คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 36

    “คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 35

    ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ

  • เสพติดรัก   บทที่ 34

    ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื

  • เสพติดรัก   บทที่ 33

    “หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม

  • เสพติดรัก   บทที่ 32

    เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status