แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: มู่อันอัน
ผู้อาวุโสเจียงส่งเสียงหึออกมา “ฉันไม่เดิมพันกับแกหรอก! ถ้ายัยหนูเสิ่นไม่ต้องการแกแล้ว ก็อย่าคิดกลับมาหาฉัน!​ มันขายหน้า!”

พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทางประตู

เจียงฉีหานคิดเอาเองว่าเสิ่นเหมียนไม่มีทางไปไหน และไม่มีวันที่เขาจะเสียใจ!

เจียงฉีหานเลิกคิ้วขึ้น หยิบซองเอกสาารขึ้นมาแล้วเดินตามออกไป

เสิ่นเหมียนที่อยู่นอกประตูลงมาข้างล่างตั้งนานแล้ว

เมื่อลุงจงเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเธอก็กังวลเล็กน้อย “คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? สีหน้าดูไม่ดีเลย”

เสิ่นเหมียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

ถ้อยคำเหล่านั้นที่เจียงฉีหานพูดเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกถึงหัวใจ แล้วเธอจะมีสีหน้าดีได้อย่างไร

“คุณนั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปรินน้ำมาให้” ลุงจงพูดจบก็รีบไปรินน้ำมาให้เธอ

ผู้อาวุโสเจียงกับเจียงฉีหานลงมา เห็นเสิ่นเหมียนนั่งอยู่ตรงนั้น ผู้อาวุโสเจียงเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ข้างนอกอากาศเริ่มเย็น พวกแกไม่ต้องกลับหรอก อยู่ค้างที่นี่แหละ ทุกห้องทำความสะอาดไว้หมดแล้ว ผ้าห่มก็สะอาดเอี่ยมอ่อง รีบขึ้นไปพักข้างบนเถอะ”

เขาคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ทั้งสองคน

เผื่อนอนด้วยกันแล้วจะตั้งท้องขึ้นมา

“พรุ่งนี้หนูต้องไปขึ้นศาล ยังไม่ได้เตรียมเอกสารข้อมูลอะไรเลยค่ะ คืนนี้คงอยู่ค้างที่นี่ไม่ได้” เสิ่นเหมียนมองมาที่ผู้อาวุโสเจียงด้วยสายตาอบอุ่นอ่อนโยน กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

เจียงฉีหานเหลือบมองเธอ พร้อมขบเม้มริมฝีปาก

เมื่อก่อนเวลากลับมาบ้านใหญ่เธอมีแต่อยากอยู่ค้างหลาย ๆ วันไม่ใช่เหรอ วันนี้รีบกลับขนาดนั้นเลย?

ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่?

“เรื่องงานสำคัญ ร่างกายก็สำคัญ ต้องรักษาสุขภาพดูแลร่างกายให้ดี แต่ก็ได้ ในเมื่อเธอมีธุระ ฉันไม่รั้งพวกเธอไว้ก็ได้” ผู้อาวุโสเจียงพูดจบก็หันไปมองเจียงฉีหาน ทั้งยังใช้นิ้วชี้ซองเอกสารในมือของเขา เพื่อให้เขารีบส่งให้เสิ่นเหมียน

เสิ่นเหมียนบอกลาผู้อาวุโสเจียง “คุณปู่ หนูกลับก่อนนะคะ คุณปู่เองก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”

เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ดีกับเธอ เธอจึงหวังว่าเขาจะมีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ถูกโรคภัยไข้เจ็บทำให้ทรมาน

“เอาล่ะ ๆ รีบกลับไปเถอะ”

เสิ่นเหมียนลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก

เจียงฉีหานยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ผู้อาวุโสเจียงเดินเจ้าไปถีบเขาหนึ่งที “รีบไปช่วยถือร่มให้ยัยหนูเหมียนสิ!”

ช่างแข็งทื่อไม่ต่างอะไรกับท่อนไม้ ทำอะไรก็ไม่เป็น

มีแต่ยัยหนูเหมียนนั่นแหละที่ไม่ยอมแพ้ เต็มใจอยู่กับเขา

เจียงฉีหานมุ่นคิ้ว “เธอถือของเธอเองได้ ไม่ต้องให้ผมช่วยหรอก”

ในความคิดของเขา เสิ่นเหมียนเป็นคนเก่งรอบด้าน ทำเป็นทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องให้เขาช่วย

เมื่อผู้อาวุโสเจียงได้ยินคำพูดนี้ ก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบนทันที

หากพูดต่อไปเขาอาจจะหัวใจกำเริบ

เมื่อเห็นผู้อาวุโสเจียงไปแล้ว เจียงฉีหานก็เดินถือเอกสารออกไปเช่นกัน

ข้างนอกฝนกำลังตก

เสิ่นเหมียนกางร่ม ยกกระโปรงเดินลงขั้นบันไดช้า ๆ

ตอนนี้เธอตั้งครรภ์อยู่ ทำอะไรก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

หากเผลอสะดุดล้มขึ้นมา ลูกในท้องก็คงไม่รอด

เจียงฉีหานยืนมองแผ่นหลังของเธออยู่หน้าประตู ความคิดตีกันยุ่งเหยิง

ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดึงความคิดของเขากลับมา เขาล้วงโทรศัพท์มาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของเวินเจี่ยน จากนั้นจึงกดรับสาย

“ฉีหาน ฉันตกเลือด! หมอบอกว่า อาจจะแท้ง! ฉันกลัวมากเลย ทำยังไงดี?”

เวินเจี่ยนร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ

พอจะฟังออกว่าไม่ใช่การเสแสร้ง

นัยน์ตาของเจียงฉีหานลุ่มลึก “ฉันจะให้ซางอู่ติดต่อหมอไปตรวจให้ ฉันจะไปอยู่กับเธอเดี๋ยวนี้!”

เด็กคนนั้นเวินเจี่ยนทนลำบากอุ้มท้องมา หากสูญเสียไป เธอต้องเสียใจแน่ ๆ

“งั้นนายรีบมานะ!” เวินเจี่ยนเอ่ยเร่งด้วยเสียงสั่นระริก

เมื่อวางสายเสร็จ เจียงฉีหานก็หยิบร่มจากที่วางมากางออก แล้วเดินเข้าไปท่ามกลางสายฝนอย่างรีบเร่ง

เสิ่นเหมียนยืนอยู่ข้างรถ ร่มที่ถืออยู่ในมือเอนเอียง เม็ดฝนหยดลงมาตามร่ม แสงไฟข้างทางสลัว ๆ สาดส่องใบหน้าเล็ก ๆ สวยหมดจดของเธอ

โผล่วับ ๆ แวม ๆ ในเงามืด

เจียงฉีหานเงยหน้ามอง คนตรงหน้ากับทัศยนียภาพรอบกายงดงามเหมือนภาพวาด

เขานิ่งงัน

เสิ่นเหมียนเห็นเขาเดินเข้ามา ก็ดึงกระโปรงที่เปียกขึ้น เอ่ยพูดอย่างนุ่มนวล “เปิดประตูรถสิ”

เธอใส่เสื้อบาง ฝนตกอุณหภูมิลดลง พอยืนอยู่ตรงนี้สักพักเธอก็เริ่มตั่วสั่น

เจียงฉีหานเดินเข้าไปเปิดประตูรถ มองมาที่เธออย่างเรียบนิ่ง “ฉันจะไปโรงพยาบาล เดี๋ยวเธอคงต้องเรียกรถกลับ”

เสิ่นเหมียนโน้มตัวเตรียมเข้าไปนั่งในรถ พอได้ยินคำพูดของเขา ร่างกายของเธอก็นิ่งค้าง “นายไม่ใช่หมอ ต่อให้ไปโรงพยาบาลช้าสักหน่อยก็คงไม่มีผลอะไรกับเธอสักนิด”

อากาศหนาว ๆ แบบนี้ เขายังจะให้เธอเรียกรถกลับเองอีกเหรอ

แบบนี้มันชักจะเกินไปหน่อยแล้ว

“เสิ่นเหมียน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหึงหวง สภาวะครรภ์ของเธอไม่คงที่ แถมยังตกเลือด มีความเสี่ยงแท้งลูก เธอกลัว ฉันก็แค่ไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ รอให้อาการของเธอดีขึ้นฉันก็จะกลับบ้าน” เจียงฉีหานขมวดคิ้ว ความไม่พอใจฉายชัดบนใบหน้า

ในความคิดของเขา ไม่ว่าเรื่องอะไรเสินเหมียนก็อยากแย่งชิงกับเวินเจี่ยนไปเสียหมด

ทันใดนั้นเสิ่นเหมียนก็นึกถึงคำพูดที่เขาพูดกับผู้อาวุโสเจียงในห้องหนังสือ ความเศร้าพลันพวยพุ่งในใจ เสียงเริ่มเฉยชาหลายส่วน “ถ้านายตัดใจจากเธอไม่ได้จริง ๆ ก็รีบตกลงหย่าซะ แล้วแต่งเธอเข้ามาในตระกูลเร็ว ๆ แบบนี้นายก็จะสามารถอยู่กับเธอได้ตลอดเวลา”

เวินเจี่ยนสูญเสียสามีไป เธอสามารถแต่งงานใหม่ได้ แต่เธอกลับมีความสัมพันธ์คลุมเคลือกับเจียงฉีหานในตระกูลเจียง

ส่วนเจียงฉีหานก็ตามใจถึงขั้นที่เธออยากได้อะไรก็ยอมให้ทุกอย่าง

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เสิ่นเหมียนจึงไม่เคยมีความคิดอยากแย่งชิงกับเวินเจี่ยน

แต่ท่าทีของเจียงฉีหานทำให้เธอเจ็บปวดหัวใจ

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…

บีบให้เธออับจนหนทางครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว เธออยากหย่าไปมีชีวิตใหม่!

เจียงฉีหานหรี่ตาลง สีหน้าเย็นชา “เธออยากรีบไปอยู่กับฟู่จือกุยขนาดนั้นเลยเหรอ? เอะอะก็ขอหย่าทุกวันอยู่ได้” ไอเย็นที่แผ่ซ่านออกจากร่างกายชวนให้หวาดกลัว

เสิ่นเหมียนโน้มลงไปนั่งในรถ หุบร่มวางเก็บไว้ จากนั้นก็ปิดประตูลง ทอดสายตามองเม็ดฝนที่ตกกระทบหน้าต่างรถ มุมปากยกโค้งในองศาเฉยชา “ถ้านายคิดแบบนี้ เอาเป็นแบบนั้นก็ได้”

หมอบอกว่าอารมณ์ของคนท้องไม่ควรแปรปรวนมากเกินไป ไม่ว่าเมื่อไรเธอก็ต้องรักษาสภาวะอารมณ์ให้สงบเอาไว้

แต่งงานมาสามปี ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจียงฉีหานพูดจาทำร้ายจิตใจเธอ

ชินเสียแล้วล่ะ

เจียงฉีหานแสยะยิ้ม จากนั้นก็สตาร์ทรถ เงยหน้ามองกระจกหลัง

หญิงสาวกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง ขนตาโค้งงอน ถึงจะหันข้างก็ดูสวยชวนตะลึงอยู่ดี

ทั่วทั้งเมืองหลวง มีแค่เธอที่ไม่ได้สวยดึงดูดเพียงหน้าตา แต่รูปร่างก็ดีมากเช่นเดียวกัน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทุกครั้งที่เห็นเธอ ร่างกายของเขามักจะมีปฏิกิริยาเสมอ

เขาชอบเธอ แต่จำกัดอยู่แค่ความเข้ากันได้ในชีวิตสามีภรรยาเท่านั้น ไม่ผสมความรู้สึกอื่นใด

เขาอยากให้สองคนใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไป

แต่ว่าตอนนี้ จู่ ๆ เสิ่นเหมียนก็ขอหย่า

มันทำให้เขารับไม่ได้

เพราะยังไงเขาก็จะไม่ยอมหย่า!

จะไม่ปล่อยโอกาสให้ผู้ชายคนอื่นเด็ดขาด!

ชั่วขณะนั้น ทั้งสองคนต่างไม่พูดจา ภายในรถจึงเงียบมาก

รถเพิ่งขึ้นทางยกระดับ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเจียงฉีหานก็ดังขึ้นมา เมื่อกดรับก็ได้ยินเสียงร้องไห้ฟูมฟายของเวินเจี่ยนดังออกมา “ฉีหาน ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ฉันอยากตาย!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสพติดรัก   บทที่ 12

    คิ้วคมของเจียงฉีหานขมวดมุ่น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น!”“เสิ่นเหมียนซื้อฮอตเสิร์ชเขียนข่าวว่ารางวัลชนะการเต้นรำของฉันได้มาเพราะใช้เส้นสาย! แถมยังบอกอีกว่าฉันมีเสี่ยเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง!​ อีกอย่างเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเสี่ยคนนั้น! ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ยืนบนเวทีอีกต่อไป! อนาคตข้างหน้าของฉัน ชีวิตของฉัน ดับมืดไปหมด! ถ้าฉันยังมีชีวิตต่อไปยังจะมีค่าอะไร! ฉันอยากตาย!”เวินเจี่ยนตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้สีหน้าของเจียงฉีหานเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ฮอตเสิร์ชอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย“นายถามเสิ่นเหมียนดูสิ! เธอเป็นคนทำ เธอต้องรู้แน่ๆ!​” เวินเจี่ยนตะคอก ฟังผ่านลำโพงโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอ“เอาล่ะ เธออย่าเพิ่งอารมณ์ร้อน ฉันจะถามเธอเอง” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสายตอนแรกเสิ่นเหมียนว่าจะหลับตาพักผ่อนสักหน่อย แต่พอได้ยินบทสนทนาของเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยน ก็รู้สึกหนังตากระตุกอย่างรุนแรงเวินเจี่ยนเล่นพิเรนทร์อะไรอีกไม่แปลกที่เสิ่นเหมียนจะอ่อนไหวประเด็นคือเวินเจี่ยนทั้งชอบหาเรื่องและเสแสร้งเอะอะก็โทรมาฟ้องเจ

  • เสพติดรัก   บทที่ 13

    เสิ่นเหมี่ยนหันหน้าหลบมือของชายหนุ่ม กัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหาน ก่อนที่นายจะลงมือทำอะไรควรคิดว่าสามารถรับผลการกระทำหลังจากไปทำให้เจียงฉีหานไม่พอใจได้หรือเปล่า!”ในสถานที่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้แบบนี้ เธอทำได้เพียงอ้างชื่อเจียงฉีหานเจียงฉีหานเปรียบดั่งเจ้าแห่งความตายที่ผู้คนล้วนหวาดหวั่นในเมืองหลวงคนภายนอกล้วนพูดต่อ ๆ กันว่าเขาโหดร้ายทารุณ เลือดเย็นไร้ความปราณีคนกลุ่มนี้ต้องเกรงกลัวเขาแน่ ๆไม่แน่อาจจะปล่อยเธอไป“คนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมดว่าเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยนเป็นแฟนกัน ไม่ยักรู้เลยว่าเจียงฉีหานแต่งงานแล้ว! อย่ามาแต่งเรื่องโกหกพวกพี่ โอเคไหม?” ชายหนุ่มคว้าจับคางของเสิ่นเหมียน ออกแรงเชิดขึ้นสูง เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ที่เธอมัวแต่ลีลาอยู่ตรงนี้ เพราะรอให้ฉันอุ้มเธอขึ้นรถใช่ไหม?”เสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก “ฉันไม่ได้โกหก ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหานจริงๆ! ถ้าพวกนายไม่เชื่อ ฉันโทรหาเขาตอนนี้ก็ได้!”จริง ๆ แล้วในใจก็ค่อนข้างหวั่นเมื่อกี้เจียงฉีหานเพิ่งทะเลาะกับเธอเสร็จ อาจจะไม่ยอมรับสายเธอก็ได้!แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอต้องทนหน้าด้

  • เสพติดรัก   บทที่ 14

    ขณะที่มือของชายหนุ่มกำลังจะล้วงเข้าไปในกระโปรง ทันใดนั้นพลันมีเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นมา ชายหนุ่มตกใจจนมือสั่นนัยน์ตาของเสิ่นเหมียนทอประกายดีใจ เค้นลำคอตะโกนออกไปว่า “ช่วยด้วย!”วินาทีต่อมา ชายหนุ่มที่คร่อมทับบนร่างก็ถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง เสื้อตัวนอกของผู้ชายถูกโยนมาคลุมร่างกายของเสิ่นเหมียนเอาไว้กลิ่นไม้เย็น ๆ พลันโชยเข้ามาในจมูก อารมณ์ตรึงเครียดของเสิ่นเหมียนพลันผ่อนคลายลง“หลับตาลง อย่ามอง!”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มดังขึ้นมาข้างหูเสิ่นเหมียนอดมองชายหนุ่มไม่ได้“พี่ฟู่?”เธอไม่อยากจะเชื่อทำไมบังเอิญขนาดนี้“อืม ฉันเอง คนดี หลับตานะ ฉันจะอุ้มเธอไปที่รถฉัน” ดวงตาดำขลับของฟู่จือกุยอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวลเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก อยากพูดอะไรออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หลับตาลงแต่โดยดีข้างหูยังคงมีเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นมาเสิ่นเหมียนกำหมัดแน่นทันที พูดเสียงเบาว่า “พี่ฟู่ ช่วยฉันแจ้งความที ฉันจะแจ้งจับพวกมัน!”“เธอไม่ต้องออกโรงเองฉันก็จะส่งพวกมันเข้าคุกอยู่แล้ว!​ ไม่ต้องห่วงนะ” เสียงอ่อนโยนของฟู่จือกุยดังขึ้นข้างหู เสิ่นเหมียนซาบซึ้งในใจ จึงพูดขอบคุณเสียงเบา “พี่ฟู่ ขอบคุณนะ!

  • เสพติดรัก   บทที่ 15

    ช่วงหลายวันมานี้ได้ยินคนในสำนักกฎหมายพูดคุยถึงสำนักทนายความฉี่หมิงที่เพิ่งเปิดใหม่ แถมยังบอกว่าเจ้าของเป็นเด็กจบนอก เพราะงานยุ่งเธอจึงไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องนี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าของจะเป็นฟู่จือกุยขอบเขตธุรกิจของตระกูลฟู่คือสายการบินไม่ใช่เหรอ?ทำไมจู่ ๆ ถึงเปิดสำนักงานเกี่ยวกับกฎหมายได้ล่ะ?“ดูเหมือนเธอจะได้ยินมาแล้วสินะ! ใช่ ฉี่หมิงคือสำนักงานกฎหมายที่ฉันเปิดเอง”“ฉันจำได้ว่าพี่ฟู่เองก็เป็นนักศึกษาเรียนดีของสาขากฎหมายเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นพี่เป็นทนายความ ไม่แน่พวกเราอาจจะกลายเป็นคู่แข่งกันก็ได้!”“ต่อให้ฉันเป็นทนายจริง ๆ เราก็ไม่มีทางเป็นคู่แข่งกันหรอก!” ฟู่จือกุยแอบพูดในใจเงียบ ๆ ฉันมีแต่จะช่วยเธอ ทำให้เธอสมหวัง!ในตอนนี้เอง เสียงของเซิ่งเซี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน“เหมียนเหมียน เหมียนเหมียน เธออยู่ไหน!”อีกฝ่ายค่อนข้างควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสิ่นเหมียนซึ้งใจ จึงยกแขนขาว ๆ ขึ้นพยายามโบกไปมา “เสี่ยวเซี่ย ฉันอยู่นี่!”บริเวณไม่ไกล รถคันหนึ่งค่อย ๆ จอด กระจกรถลดลง เจียงฉีหานมองหญิงสาวในอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชา บนนิ้วยังใส่แหวนแต่งงานของพวกเขาอยู่แท้ ๆเหอะ…ไฉนเลยที่เสิ่

  • เสพติดรัก   บทที่ 16

    ตอนที่เสิ่นเหมียนเห็นพาดหัวข่าว สมองพลันขาวโพลนในชั่ววินาทีกำไลสืบทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลเจียงผู้อาวุโสเจียงบอกว่าฝากเจียงฉีหานเอามาให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอไม่ใช่เหรอ?เสิ่นเหมียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ข่มอารมณ์ความรู้สึกในใจเอาไว้ แล้วเปิดข่าวเวลาที่ลงข่าวคือครึ่งชั่วโมงที่แล้วหรือก็คือเที่ยงคืนที่ผ่านมาเมื่อครู่เธอจำได้ วันนี้คือวันเกิดของเวินเจี่ยนเธอเห็นผู้ชายในรูป เขานั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย สวมกำไลข้อมือให้หญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนหญิงสาวที่พิงหัวเตียงยิ้มหวานออกมา ท่าทางดูเหมือนสาวน้อยผู้มีความสุขล้นเปี่ยม เสิ่นเหมียนกำโทรศัพท์ เนื้อข่าวเขียนว่าอะไรบ้าง เธอเองก็ไม่ได้อ่านต่อ เพียงรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างกายเจียงฉีหานเอากำไลของเธอไปให้เวินเจี่ยน!และในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นมาเมื่อเปิดดู ก็พบว่าเป็นข้อความจากเบอร์แปลก...ในรูปคือมือข้างหนึ่ง มีกำไลสืบทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลเจียงใส่อยู่บนข้อมือ ประกอบด้วยข้อความว่า กำไลสวยไหม?ใบหน้าของเสิ่นเหมียนซีดเผือดไร้สีเลือดเธอรู้ว่าเวินเจี่ยนเป็นคนส่งข้อความมา กำลังโอ้อวดเธอและยั่วยุอย่างไร้เสียงว

  • เสพติดรัก   บทที่ 17

    เธอตกใจรีบกดโทรเบอร์ฉุกเฉิน 120เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เสิ่นเหมียนก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินเซิ่งเซี่ยเดินวนไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน ทั้งกังวลและกลัวถ้าเสิ่นเหมียนเป็นอะไรไป จะทำยังไง!*ภายในห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลเหรินเหอในเครือของช่วงซื่อ เจียงฉีหานยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยด้วยไอเยือกเย็น ในมือถือโทรศัพท์ กำลังดุเวินเจี่ยน “เธอตั้งครรภ์อยู่ กลางคืนไม่หลับนอนมัวแต่ทะเลาะกับเสิ่นเหมียน ใช้ไม่ได้เลยนะ!”เวินเจี่ยนขอบตาแดงก่ำอย่างน้อยใจ “เมื่อกี้เสิ่นเหมียนโทรมา ฉันเห็นนายไม่อยู่ กลัวว่าเธอจะมีเรื่องด่วนเลยกดรับ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะด่าว่าฉันหน้าไม่อาย บอกว่าฉันแย่งกำไลสืบทอด แถมบอกว่าฉันแย่งสามีของเธอด้วย! ฉันทนไม่ได้เลยแขวะเธอกลับไป ใครจะไปรู้ว่าเธอจะบอกว่าจะแฉฉันบนอินเตอร์เน็ต! ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสได้ยืนอยู่บนเวทีอีกต่อไป!”“ฉีหาน ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอโทษนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่รับโทรศัพท์ของนายอีกแล้ว”“ฉันจะนอนเดี๋ยวนี้ นายอย่าโกรธเลยนะ”พูดจบก็ยื่นมือเช็ดน้ำตา ดึงมาห่มมาคลุมโปงเจียงฉีหานก้มลงไปดึงมุมผ้าห่มออก จนเผยให้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเวินเจี่ยน เขาจึงเสียงอ่อนลงในทันที “เธอท

  • เสพติดรัก   บทที่ 18

    “รีบนอนได้แล้ว ส่วนเรื่องเสิ่นเหมียนเธอคงตัดสินใจเอง เธอจะไปกังวลแทนเธอทำไม!” เจียงฉีหานยื่นมือออกไปห่มผ้าให้เธอ “ดึกมากแล้ว ฉันจะงีบบนโซฟาสักพัก”น้ำเสียงเรียบเฉยของชายหนุ่ม เวินเจี่ยนแทบจะแยกอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป“ถ้าอย่างนั้นนายรีบพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”พูดจบเธอก็หลับตาลงเจียงฉีหานยืนอยู่ข้างเตียงสักพัก จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยเขาเดินออกไปนอกประตูได้ไม่ทันไร เวินเจี่ยนก็ลืมตาขึ้นมาเสิ่นเหมียน เธอคอยดูเถอะ ฉันจะแย่งเจียงฉีหานกลับมาให้ได้นอกประตูห้องผู้ป่วย เจียงฉีหานกำลังโทรหาซางอู่*ตอนที่เสิ่นเหมียนฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย กลิ่นยาฆ่าเชื้อเข้มข้นตลบอบอวลกลางอากาศจนต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ทำไมมาที่โรงพยาบาลอีกแล้วล่ะ“เหมียนเหมียน ฟื้นแล้วเหรอ รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้ามองไปทางเซิ่งเซี่ยที่เดินเข้ามาทางประตู ในมือหิ้วถุงจากร้านโจ๊กสวีจี้ดูจากท่าทางแล้วคงไปซื้อโจ๊กมาให้เธอ“ฉันเป็นอะไรไป?” ถามจบ เธอก็ทวนความทรงจำอย่างอดไม่ได้ จำได้เพียงคำพูดเหล่านั้นที่เวินเจี่

  • เสพติดรัก   บทที่ 19

    เสิ่นเหมียนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนตอนที่กลับมาถึงบ้านของเซิ่งเซี่ย มีคนเอาโทรศัพท์มาให้เมื่อคิดออกแล้ว เธอก็กดรับสาย“ญาติของหยางชิงรีบมาที่โรงพบาบาลด่วน หยางชิงอยู่ในห้องฉุกเฉิน จำเป็นต้องให้คุณมาเซ็นรับรองค่ะ”เสียงของพยาบาลฟังดูเย็นชาหัวใจของเสิ่นเหมียนลนลาน รีบตอบกลับไป “ได้ค่ะ! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”หยางชิงคือยายของเธอตอนเด็กเธอเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณยาย ซึ่งคุณยายดีกับเธอมากไม่กี่ปีก่อนคุณยายล้มป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาล และต้องพึ่งยาบำรุงกับยาเฉพาะทางเพื่อประคองชีวิตเธอไปเยี่ยมคุณยายเมื่อไม่กี่วันก่อน รู้สึกว่าอาการของคุณยายไม่เลว เธอยังคิดว่าคุณยายดีขึ้นแล้ว อีกไม่นานก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลทำไมจู่ ๆ เข้าห้องฉุกเฉินอีกแล้วล่ะ?เซิ่งเซี่ยเห็นเธอรีบร้อนลงจากเตียง จึงเข้าไปกอดเธอไว้ “หมอบอกว่าเธอต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสองวันเพื่อดูอาการ เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”เสิ่นเหมียนก้มหน้ามองเซิ่งเซี่ย ขอบตาแดงเล็กน้อย “ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่ายายของฉันเข้าห้องฉุกเฉิน ให้ฉันไปเซ็นรับรอง”เซิ่งเซี่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็ต้องปล่อยมือออก “ถ้าอย่างนั้นเธอไม่ต้องรีบ รอฉันเก็บของก่อน ฉั

บทล่าสุด

  • เสพติดรัก   บทที่ 40

    “ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก

  • เสพติดรัก   บทที่ 39

    ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น

  • เสพติดรัก   บทที่ 38

    ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

  • เสพติดรัก   บทที่ 37

    คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 36

    “คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 35

    ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ

  • เสพติดรัก   บทที่ 34

    ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื

  • เสพติดรัก   บทที่ 33

    “หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม

  • เสพติดรัก   บทที่ 32

    เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status