Share

บทที่ 12

Author: มู่อันอัน
คิ้วคมของเจียงฉีหานขมวดมุ่น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น!”

“เสิ่นเหมียนซื้อฮอตเสิร์ชเขียนข่าวว่ารางวัลชนะการเต้นรำของฉันได้มาเพราะใช้เส้นสาย! แถมยังบอกอีกว่าฉันมีเสี่ยเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง!​ อีกอย่างเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเสี่ยคนนั้น! ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ยืนบนเวทีอีกต่อไป! อนาคตข้างหน้าของฉัน ชีวิตของฉัน ดับมืดไปหมด! ถ้าฉันยังมีชีวิตต่อไปยังจะมีค่าอะไร! ฉันอยากตาย!”

เวินเจี่ยนตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้

สีหน้าของเจียงฉีหานเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ฮอตเสิร์ชอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”

เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“นายถามเสิ่นเหมียนดูสิ! เธอเป็นคนทำ เธอต้องรู้แน่ๆ!​” เวินเจี่ยนตะคอก ฟังผ่านลำโพงโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอ

“เอาล่ะ เธออย่าเพิ่งอารมณ์ร้อน ฉันจะถามเธอเอง” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสาย

ตอนแรกเสิ่นเหมียนว่าจะหลับตาพักผ่อนสักหน่อย แต่พอได้ยินบทสนทนาของเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยน ก็รู้สึกหนังตากระตุกอย่างรุนแรง

เวินเจี่ยนเล่นพิเรนทร์อะไรอีก

ไม่แปลกที่เสิ่นเหมียนจะอ่อนไหว

ประเด็นคือเวินเจี่ยนทั้งชอบหาเรื่องและเสแสร้ง

เอะอะก็โทรมาฟ้องเจียงฉีหาน

ขณะที่เสิ่นเหมียนกำลังคิด เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นมา “เสิ่นเหมียน ทำไมต้องทำแบบนี้? การทำให้ชื่อเสียงของเวินเจี่ยนป่นปี้มันมีอะไรดีสำหรับเธอ!”

เสิ่นเหมียนตกผลึกครู่หนึ่งก็เข้าใจความหมายในคำพูดของชายหนุ่ม

ดูเหมือนว่าจะมีฮอตเสิร์ชอีกแล้วสินะ

มีเงินเยอะจนไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหนก็เอามาให้เธอสิ จะไปซื้อฮอตเสิร์ชทำไม!

ดูท่าแล้วคงจะสมองป่วยจริง ๆ

“เสิ่นเหมียน อย่าคิดว่ามีปู่คอยหนุนหลังแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ!” เจียงฉีหานโกรธมาก น้ำเสียงจึงไม่ดีไปด้วย

เสิ่นเหมียนรู้สึกรำคาญแปลก ๆ “นายมีหน่วยรายงานข่าวโดยเฉพาะไม่ใช่เหรอ? นายก็ให้พวกเขาไปสืบมาสิ เดี๋ยวก็รู้เองว่าฉันได้ทำหรือเปล่า!”

บางครั้งเธอก็ไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เจียงฉีหานเป็นคนฉลาดขนาดนั้น แต่บางทีเวลาเวินเจี่ยนพูดอะไรไม่มีตรรกะเขาก็ยอมเชื่อหมด

เธอเริ่มกังวลเรื่องสติปัญญาของเจียงฉีหานแล้วสิ

ถ้าเกิดมันส่งต่อทางพันธุกรรมล่ะ

เจียงฉีหานขับรถไปจอดบนทางฉุกเฉิน แล้วเปิดไฟกะพริบ

“เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ ถ้าเป็นเธอ ฉันจะไม่ออมมือด้วยเด็ดขาด!” เจียงฉีหานเองก็ไม่เข้าใจเหมือนเสิ่นเหมียน ไม่ว่าใครในตระกูลเจียงเสิ่นเหมียนก็มีความสัมพันธ์ดี ๆ ด้วย แล้วทำไมถึงเป็นศัตรูกับเวินเจี่ยน!

เธอกะเล่นงงานเวินเจี่ยนให้ถึงตาย ไม่คิดจะเห็นแก่ความเป็นครอบครัวเดียวกันออมมือให้เลยสักนิด

คำพูดแบบนี้เสิ่นเหมียนได้ยินมาไม่รู้ตั้งเท่าไร จึงขี้เกียจจะสนใจ “ถ้าสืบเจอว่าเวินเจี่ยนกลับขาวเป็นดำ นายก็จะจัดการเธอเหมือนที่จัดการฉันใช่ไหม?”

แน่นอนว่าเธอรู้ว่าไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่

เจียงฉีหานทะนุถนอมเวินเจี่ยนขนาดนั้น จะกล้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเส้นผมได้อย่างไร

“เวินเจี่ยนเป็นคนดีขนาดนั้น จะทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ออกมาได้ยังไง!” เจียงฉีหานไม่เคยคิดว่าเวินเจี่ยนเป็นคนทำเอง

เพราะในในของเขา เวินเจี่ยนยังคงเป็นเด็กผู้หญิงจิตใจดี ที่เสี่ยงอันตรายเอาซาลาเปาไส้เนื้อมายัดให้เขาในตอนนั้น

เธอเคยช่วยเขา

เขาทำดีกับเธอจึงเป็นเรื่องที่สมควรทำ

“ใช่ บนใบโลกนี้เธอดีที่สุดแล้ว!​ ส่วนคนอื่นคือคนเลวทั้งหมด!” เสิ่นเหมียนอารมณ์เสีย คำพูดจึงเต็มไปด้วยการทิ่มแทง “เธอถูกกระทำแบบนี้ นายรีบไปปลอบใจเธอสิ!”

เวินเจี่ยนพูดอะไรเจียงฉีหานก็เชื่อไปหมด ต่อให้เธออธิบาย เจียงฉีหานก็ไม่ฟังอยู่ดี

ไม่รู้จริง ๆ ว่าเวินเจี่ยนทำคุณไสยอะไรใส่เจียงฉีหาน

เจียงฉีหานถูกเธอแขวะจนหงุดหงิด พูดเสียงเย็นชาว่า “เธอลงไปจากรถ!”

เสิ่นเหมียนมองสายฝนนอกหน้าต่างรถ หัวใจพลันบีบรัดแน่น มือทั้งสองข้างกำแน่นโดยอัตโนมัติ “นายไปส่งฉันที่บ้านก่อน!”

นี่มันทางยกระดับนะ ถ้าเธอลงไปจากรถ แท็กซี่สักคันก็เรียกไม่ได้

ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมือง ต่อให้ใช้อินเตอร์เน็ตเรียกรถก็ต้องรอนานอยู่ดี ถนนเส้นนี้ไม่มีแม้แต่ที่ให้หลบฝน จะให้เธอไปยืนอยู่คนเดียวในสถานที่ทั้งหนาวและน่ากลัวได้ยังไงกัน!

“ฉันบอกให้เธอลงไป!” เจียงฉีหานตีหน้าเย็นชา เสียงเข้มขึ้น

ผู้หญิงอย่างเสิ่นเหมียนก่อนหน้านี้เคยเชื่อฟังเขาทุกอย่าง ไม่เคยคัดค้านคำพูดเขาสักครั้ง

แต่ตั้งแต่ที่เธอขอหย่าก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน

เอะอะก็ชวนเขาทะเลาะตลอด

เขาให้เธอลงรถไปสงบสติอารมณ์

“ฉันกลัวความมืด!​ ฉันไม่ลง!” เสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก ไม่ยอมลงจากรถ

ตอนอายุหกขวบ เธอทำน้องสาวหาย พอกลับบ้านไปก็ถูกขังไว้ในห้องมืด ๆ แคบ ๆ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็กลัวความมืดเป็นอย่างมาก

“เธอไม่ลงรถก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันไปขอโทษเวินเจี่ยนที่โรงพยาบาล!”

เสิ่นเหมียนเจ็บปวดหัวใจเหมือนถูกมีดกรีด เธอกัดริมฝีปาก เอ่ยปากอย่างเชื่องช้า “ได้ ฉันจะลงรถ!”

ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าไปขอโทษเวินเจี่ยน ก็เท่ากับยอมรับว่าเธอทำหรอกเหรอ?

เธอไม่ยอมรับความผิดนี้หรอกนะ!

หลังจากที่เสิ่นเหมียนลงไปจากรถ เจียงฉีหานก็เหลือบมองกระจกรถ แล้วเหยียบคันเร่งขับรถออกไป

รอจนกว่าเสิ่นเหมียนจะอารมณ์เย็นลงกว่านี้ คิดได้ว่าควรขอโทษเวินเจี่ยน เขาถึงจะกลับมารับเธอ

เสิ่นเหมียนยืนอยู่ข้างทาง ถึงจะถือร่ม แต่ก็รู้สึกได้ถึงลมหนาวที่มทะลวงเข้ามาในร่างกาย

เธอกระชับเสื้อ แล้วรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาเซิ่งเซี่ย

“เสี่ยวเซี่ย มารับฉันที่ทางยกระดับจิงซื่อที!”

“เหมียนเหมียน เธอเกิดอุบัติเหตุอีกแล้วเหรอ?”

อีกอย่างยังเป็นที่เดิมด้วย

ชักจะซวยเกินไปแล้ว!

“ไม่ใช่อุบัติเหตุ เจียงฉีหานเอาฉันมาทิ้งไว้ที่นี้!” เสิ่นเหมียนรีบอธิบาย

“ไอ้หมาบ้านั่นทิ้งเธอไว้แล้วไปรับนังแพศยาเวินเจี่ยนนั่นอีกแล้วใช่ไหม!” เซิ่งเซี่ยตะคอกด่าออกมา

เมื่อเช้าถูกเวินเจี่ยนใส่ร้ายมา ตอนนี้เธอจึงเกลียดเวินเจี่ยนมาก

ผู้หญิงที่ทำร้ายตัวเองเพื่อใส่ร้ายเธอ จะเป็นคนดีได้อย่างไร

ไอ้หมาบ้าเจียงฉีหานนั่นไม่ใช่แค่ตามีปัญหาอย่างเดียว สมองก็น่าจะมีปัญหาด้วย!

“เธอมารับฉันก่อน เรื่องอื่นไว้กลับไปค่อยคุยกัน!” ตอนนี้เวินเจี่ยนถูกความมืดล้อมรอบ ความหวาดกลัวเริ่มปกคลุมในใจ จึงอยากไปจากที่นี่เร็ว ๆ

“ได้ เธอรอก่อน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เมื่อวางสาย เสิ่นเหมียนก็นั่งยอง กอดตัวเองไว้แน่น

ยังคงหนาวเหมือนเดิม

ทันใดนั้น เสียงเบรกรถบาดหูก็ดังขึ้นมา

รถคันหนึ่งจอดลงตรงหน้าเสิ่นเหมียน

สิ่งแรกที่เสิ่นเหมียนจะทำหลังจากตั้งสติได้คือวิ่งหนี

ในตอนนี้เอง ประตูรถก็เปิดออกมา

ผู้ชายแต่งตัววัยรุ่นก็ทยอยลงมาจากรถ

เสิ่นเหมียนวิ่งได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกจับตัวกลับมา ร่มในมือตกลงบนพื้น หยาดฝนตกลงใส่หน้า ร่างกายของเสิ่นเหมียนสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้

“ว้าว! สาวสวยนี่หว่า!”

“ว้าว! เซ็กซี่ชะมัด!”

“สวยกว่าแฟนเก่าฉันอีก!”

“พี่ใหญ่ ผมอยากได้!”

เสียงน่ารังเกียจของชายหนุ่มดังขึ้นมาข้างหู ปลายจมูกได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุน ๆ เสิ่นเหมียนรู้เป็นอย่างดี ถ้าตกอยู่ในมือขี้เมาพวกนี้ เธอคงหนีไม่รอดแน่

จึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ข่มอารมณ์ข้างในไว้ พยายามทำให้ตัวเองสงบลง

ต้องรีบหาทางหนีจากเงื้อมมือของคนกลุ่มนี้ให้ได้

“คนสวย ไม่ต้องกลัว พวกฉันแค่ปล้นเซ็กส์ ไม่ปล้นเงิน ขอแค่เธอทำให้พวกฉันพอใจ พวกฉันก็จะไปส่งเธอที่บ้าน!” ตอนที่พูดเหมือนลิ้นของชายหนุ่มไม่ตรง ฟังดูแปลกประหลาดอย่างมาก

“ตอนนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่ ทุกการกระทำของพวกนายที่นี่ถูกถ่ายเก็บไว้หมดแล้ว บางทีพวกนายอาจยังทำไม่เสร็จตำรวจก็คงมาที่นี่เสียก่อน ฉันว่าตอนนี้พวกนายพาฉันไปโรงแรมไม่ดีกว่าเหรอ” เสิ่นเหมียนพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน

ขอแค่ไปโรงแรม เธอก็จะหาวิธีหนีเอาตัวรอดได้

“นี่ เห็นพวกฉันโง่หรือไง!​ ถ้าพาเธอไปโรงแรมจริง ๆ ถึงตอนนั้นเธอก็คงแจ้งตำรวจ พวกฉันได้ตายเร็วกกว่าเดิมน่ะสิ” ชายหนุ่มพูดพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยื่นมือมาลูบหน้าของเธอ “เธอทำตัวดี ๆ หน่อย จะได้ไม่ถูกลงโทษ! บอกมา จะขึ้นรถเองดี ๆ หรือจะให้ฉันอุ้มเธอขึ้นไป?” ตอนที่พูด ดวงตาคู่นั้นก็จ้องเสื้อที่เปียกชื้อตรงหน้าอกของเสิ่นเหมียนตาเป็นมัน

Related chapters

  • เสพติดรัก   บทที่ 13

    เสิ่นเหมี่ยนหันหน้าหลบมือของชายหนุ่ม กัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหาน ก่อนที่นายจะลงมือทำอะไรควรคิดว่าสามารถรับผลการกระทำหลังจากไปทำให้เจียงฉีหานไม่พอใจได้หรือเปล่า!”ในสถานที่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้แบบนี้ เธอทำได้เพียงอ้างชื่อเจียงฉีหานเจียงฉีหานเปรียบดั่งเจ้าแห่งความตายที่ผู้คนล้วนหวาดหวั่นในเมืองหลวงคนภายนอกล้วนพูดต่อ ๆ กันว่าเขาโหดร้ายทารุณ เลือดเย็นไร้ความปราณีคนกลุ่มนี้ต้องเกรงกลัวเขาแน่ ๆไม่แน่อาจจะปล่อยเธอไป“คนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมดว่าเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยนเป็นแฟนกัน ไม่ยักรู้เลยว่าเจียงฉีหานแต่งงานแล้ว! อย่ามาแต่งเรื่องโกหกพวกพี่ โอเคไหม?” ชายหนุ่มคว้าจับคางของเสิ่นเหมียน ออกแรงเชิดขึ้นสูง เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ที่เธอมัวแต่ลีลาอยู่ตรงนี้ เพราะรอให้ฉันอุ้มเธอขึ้นรถใช่ไหม?”เสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก “ฉันไม่ได้โกหก ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหานจริงๆ! ถ้าพวกนายไม่เชื่อ ฉันโทรหาเขาตอนนี้ก็ได้!”จริง ๆ แล้วในใจก็ค่อนข้างหวั่นเมื่อกี้เจียงฉีหานเพิ่งทะเลาะกับเธอเสร็จ อาจจะไม่ยอมรับสายเธอก็ได้!แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอต้องทนหน้าด้

  • เสพติดรัก   บทที่ 14

    ขณะที่มือของชายหนุ่มกำลังจะล้วงเข้าไปในกระโปรง ทันใดนั้นพลันมีเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นมา ชายหนุ่มตกใจจนมือสั่นนัยน์ตาของเสิ่นเหมียนทอประกายดีใจ เค้นลำคอตะโกนออกไปว่า “ช่วยด้วย!”วินาทีต่อมา ชายหนุ่มที่คร่อมทับบนร่างก็ถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง เสื้อตัวนอกของผู้ชายถูกโยนมาคลุมร่างกายของเสิ่นเหมียนเอาไว้กลิ่นไม้เย็น ๆ พลันโชยเข้ามาในจมูก อารมณ์ตรึงเครียดของเสิ่นเหมียนพลันผ่อนคลายลง“หลับตาลง อย่ามอง!”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มดังขึ้นมาข้างหูเสิ่นเหมียนอดมองชายหนุ่มไม่ได้“พี่ฟู่?”เธอไม่อยากจะเชื่อทำไมบังเอิญขนาดนี้“อืม ฉันเอง คนดี หลับตานะ ฉันจะอุ้มเธอไปที่รถฉัน” ดวงตาดำขลับของฟู่จือกุยอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวลเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก อยากพูดอะไรออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หลับตาลงแต่โดยดีข้างหูยังคงมีเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นมาเสิ่นเหมียนกำหมัดแน่นทันที พูดเสียงเบาว่า “พี่ฟู่ ช่วยฉันแจ้งความที ฉันจะแจ้งจับพวกมัน!”“เธอไม่ต้องออกโรงเองฉันก็จะส่งพวกมันเข้าคุกอยู่แล้ว!​ ไม่ต้องห่วงนะ” เสียงอ่อนโยนของฟู่จือกุยดังขึ้นข้างหู เสิ่นเหมียนซาบซึ้งในใจ จึงพูดขอบคุณเสียงเบา “พี่ฟู่ ขอบคุณนะ!

  • เสพติดรัก   บทที่ 15

    ช่วงหลายวันมานี้ได้ยินคนในสำนักกฎหมายพูดคุยถึงสำนักทนายความฉี่หมิงที่เพิ่งเปิดใหม่ แถมยังบอกว่าเจ้าของเป็นเด็กจบนอก เพราะงานยุ่งเธอจึงไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องนี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าของจะเป็นฟู่จือกุยขอบเขตธุรกิจของตระกูลฟู่คือสายการบินไม่ใช่เหรอ?ทำไมจู่ ๆ ถึงเปิดสำนักงานเกี่ยวกับกฎหมายได้ล่ะ?“ดูเหมือนเธอจะได้ยินมาแล้วสินะ! ใช่ ฉี่หมิงคือสำนักงานกฎหมายที่ฉันเปิดเอง”“ฉันจำได้ว่าพี่ฟู่เองก็เป็นนักศึกษาเรียนดีของสาขากฎหมายเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นพี่เป็นทนายความ ไม่แน่พวกเราอาจจะกลายเป็นคู่แข่งกันก็ได้!”“ต่อให้ฉันเป็นทนายจริง ๆ เราก็ไม่มีทางเป็นคู่แข่งกันหรอก!” ฟู่จือกุยแอบพูดในใจเงียบ ๆ ฉันมีแต่จะช่วยเธอ ทำให้เธอสมหวัง!ในตอนนี้เอง เสียงของเซิ่งเซี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน“เหมียนเหมียน เหมียนเหมียน เธออยู่ไหน!”อีกฝ่ายค่อนข้างควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสิ่นเหมียนซึ้งใจ จึงยกแขนขาว ๆ ขึ้นพยายามโบกไปมา “เสี่ยวเซี่ย ฉันอยู่นี่!”บริเวณไม่ไกล รถคันหนึ่งค่อย ๆ จอด กระจกรถลดลง เจียงฉีหานมองหญิงสาวในอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชา บนนิ้วยังใส่แหวนแต่งงานของพวกเขาอยู่แท้ ๆเหอะ…ไฉนเลยที่เสิ่

  • เสพติดรัก   บทที่ 16

    ตอนที่เสิ่นเหมียนเห็นพาดหัวข่าว สมองพลันขาวโพลนในชั่ววินาทีกำไลสืบทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลเจียงผู้อาวุโสเจียงบอกว่าฝากเจียงฉีหานเอามาให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอไม่ใช่เหรอ?เสิ่นเหมียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ข่มอารมณ์ความรู้สึกในใจเอาไว้ แล้วเปิดข่าวเวลาที่ลงข่าวคือครึ่งชั่วโมงที่แล้วหรือก็คือเที่ยงคืนที่ผ่านมาเมื่อครู่เธอจำได้ วันนี้คือวันเกิดของเวินเจี่ยนเธอเห็นผู้ชายในรูป เขานั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย สวมกำไลข้อมือให้หญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนหญิงสาวที่พิงหัวเตียงยิ้มหวานออกมา ท่าทางดูเหมือนสาวน้อยผู้มีความสุขล้นเปี่ยม เสิ่นเหมียนกำโทรศัพท์ เนื้อข่าวเขียนว่าอะไรบ้าง เธอเองก็ไม่ได้อ่านต่อ เพียงรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างกายเจียงฉีหานเอากำไลของเธอไปให้เวินเจี่ยน!และในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นมาเมื่อเปิดดู ก็พบว่าเป็นข้อความจากเบอร์แปลก...ในรูปคือมือข้างหนึ่ง มีกำไลสืบทอดจากบรรพบุรุษของตระกูลเจียงใส่อยู่บนข้อมือ ประกอบด้วยข้อความว่า กำไลสวยไหม?ใบหน้าของเสิ่นเหมียนซีดเผือดไร้สีเลือดเธอรู้ว่าเวินเจี่ยนเป็นคนส่งข้อความมา กำลังโอ้อวดเธอและยั่วยุอย่างไร้เสียงว

  • เสพติดรัก   บทที่ 17

    เธอตกใจรีบกดโทรเบอร์ฉุกเฉิน 120เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เสิ่นเหมียนก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินเซิ่งเซี่ยเดินวนไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน ทั้งกังวลและกลัวถ้าเสิ่นเหมียนเป็นอะไรไป จะทำยังไง!*ภายในห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลเหรินเหอในเครือของช่วงซื่อ เจียงฉีหานยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยด้วยไอเยือกเย็น ในมือถือโทรศัพท์ กำลังดุเวินเจี่ยน “เธอตั้งครรภ์อยู่ กลางคืนไม่หลับนอนมัวแต่ทะเลาะกับเสิ่นเหมียน ใช้ไม่ได้เลยนะ!”เวินเจี่ยนขอบตาแดงก่ำอย่างน้อยใจ “เมื่อกี้เสิ่นเหมียนโทรมา ฉันเห็นนายไม่อยู่ กลัวว่าเธอจะมีเรื่องด่วนเลยกดรับ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะด่าว่าฉันหน้าไม่อาย บอกว่าฉันแย่งกำไลสืบทอด แถมบอกว่าฉันแย่งสามีของเธอด้วย! ฉันทนไม่ได้เลยแขวะเธอกลับไป ใครจะไปรู้ว่าเธอจะบอกว่าจะแฉฉันบนอินเตอร์เน็ต! ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสได้ยืนอยู่บนเวทีอีกต่อไป!”“ฉีหาน ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอโทษนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่รับโทรศัพท์ของนายอีกแล้ว”“ฉันจะนอนเดี๋ยวนี้ นายอย่าโกรธเลยนะ”พูดจบก็ยื่นมือเช็ดน้ำตา ดึงมาห่มมาคลุมโปงเจียงฉีหานก้มลงไปดึงมุมผ้าห่มออก จนเผยให้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเวินเจี่ยน เขาจึงเสียงอ่อนลงในทันที “เธอท

  • เสพติดรัก   บทที่ 18

    “รีบนอนได้แล้ว ส่วนเรื่องเสิ่นเหมียนเธอคงตัดสินใจเอง เธอจะไปกังวลแทนเธอทำไม!” เจียงฉีหานยื่นมือออกไปห่มผ้าให้เธอ “ดึกมากแล้ว ฉันจะงีบบนโซฟาสักพัก”น้ำเสียงเรียบเฉยของชายหนุ่ม เวินเจี่ยนแทบจะแยกอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป“ถ้าอย่างนั้นนายรีบพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”พูดจบเธอก็หลับตาลงเจียงฉีหานยืนอยู่ข้างเตียงสักพัก จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยเขาเดินออกไปนอกประตูได้ไม่ทันไร เวินเจี่ยนก็ลืมตาขึ้นมาเสิ่นเหมียน เธอคอยดูเถอะ ฉันจะแย่งเจียงฉีหานกลับมาให้ได้นอกประตูห้องผู้ป่วย เจียงฉีหานกำลังโทรหาซางอู่*ตอนที่เสิ่นเหมียนฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย กลิ่นยาฆ่าเชื้อเข้มข้นตลบอบอวลกลางอากาศจนต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ทำไมมาที่โรงพยาบาลอีกแล้วล่ะ“เหมียนเหมียน ฟื้นแล้วเหรอ รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้ามองไปทางเซิ่งเซี่ยที่เดินเข้ามาทางประตู ในมือหิ้วถุงจากร้านโจ๊กสวีจี้ดูจากท่าทางแล้วคงไปซื้อโจ๊กมาให้เธอ“ฉันเป็นอะไรไป?” ถามจบ เธอก็ทวนความทรงจำอย่างอดไม่ได้ จำได้เพียงคำพูดเหล่านั้นที่เวินเจี่

  • เสพติดรัก   บทที่ 19

    เสิ่นเหมียนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนตอนที่กลับมาถึงบ้านของเซิ่งเซี่ย มีคนเอาโทรศัพท์มาให้เมื่อคิดออกแล้ว เธอก็กดรับสาย“ญาติของหยางชิงรีบมาที่โรงพบาบาลด่วน หยางชิงอยู่ในห้องฉุกเฉิน จำเป็นต้องให้คุณมาเซ็นรับรองค่ะ”เสียงของพยาบาลฟังดูเย็นชาหัวใจของเสิ่นเหมียนลนลาน รีบตอบกลับไป “ได้ค่ะ! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”หยางชิงคือยายของเธอตอนเด็กเธอเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณยาย ซึ่งคุณยายดีกับเธอมากไม่กี่ปีก่อนคุณยายล้มป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาล และต้องพึ่งยาบำรุงกับยาเฉพาะทางเพื่อประคองชีวิตเธอไปเยี่ยมคุณยายเมื่อไม่กี่วันก่อน รู้สึกว่าอาการของคุณยายไม่เลว เธอยังคิดว่าคุณยายดีขึ้นแล้ว อีกไม่นานก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลทำไมจู่ ๆ เข้าห้องฉุกเฉินอีกแล้วล่ะ?เซิ่งเซี่ยเห็นเธอรีบร้อนลงจากเตียง จึงเข้าไปกอดเธอไว้ “หมอบอกว่าเธอต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสองวันเพื่อดูอาการ เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”เสิ่นเหมียนก้มหน้ามองเซิ่งเซี่ย ขอบตาแดงเล็กน้อย “ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่ายายของฉันเข้าห้องฉุกเฉิน ให้ฉันไปเซ็นรับรอง”เซิ่งเซี่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็ต้องปล่อยมือออก “ถ้าอย่างนั้นเธอไม่ต้องรีบ รอฉันเก็บของก่อน ฉั

  • เสพติดรัก   บทที่ 20

    ร่างกายของเสิ่นเหมียนเสียการทรงตัวเซิ่งเซี่ยรีบเข้าไปประคองเธอไว้“เหมียนเหมียน เธอโอเคไหม?”เสิ่นเหมียนยิ้มให้เซิ่งเซี่ยเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า “หมอคะ เรื่องยาฉันจะพยายามหาวิธีดูอีกที ตอนนี้ฉันไปเยี่ยมคุณยายก่อน ขอตัวนะคะ”พูดจบเธอก็ลากเซิ่งเซี่ยออกไปหมอมองตามแผ่นหลังของเธอ แล้วถอนหายใจยาวออกมาทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเงินทำได้เพียงประคองชีวิตคุณยายและยื้อเวลาแค่เท่านั้น แต่กลับดึงดันไม่ยอมปล่อยชีวิตของเธอไป ทำให้ตัวเองลำบากถึงขนาดนี้ไปทำไมก็ไม่รู้!หมอไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เสิ่นเหมียนต้องการยื้อไว้ไม่ใช่แค่ชีวิตของคุณยายอย่างเดียว ยังมีคำว่าครอบครัวอยู่ด้วยหากคุณยายจากไป เธอก็จะไม่เหลือครอบครัวเลยใช้ชีวิตคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว มันน่าหดหู่ยิ่งกว่าภายในห้องผู้ป่วย คุณยายยังไม่ฟื้นขึ้นมา ยังนอนบนเตียง มีสายท่อระโยงระยางเสียบทั่วร่างกายหลายปีมานี้ อาการของเธอแย่ลงทุกครั้งจนผอมแห้งติดกระดูกเสิ่นเหมียนยืนอยู่ข้างเตียง ขอบตาแดงก่ำเซิ่งเซี่ยกอดเธอไว้ ปลอบใจเสียงเบา “เหมียนเหมียน เธออยู่คุยกับคุณยายนะ ฉันจะออกไปรอข้างนอก!”เสิ่นเหมียนขานรับ ก้มลงนั่งข้างเตียง กุมมือของคุณย

Latest chapter

  • เสพติดรัก   บทที่ 40

    “ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก

  • เสพติดรัก   บทที่ 39

    ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น

  • เสพติดรัก   บทที่ 38

    ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

  • เสพติดรัก   บทที่ 37

    คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 36

    “คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 35

    ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ

  • เสพติดรัก   บทที่ 34

    ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื

  • เสพติดรัก   บทที่ 33

    “หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม

  • เสพติดรัก   บทที่ 32

    เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status