คุณท่านอาวุโสเจียงโมโหจนเกือบจะตายคาที่เจียงฉีหานเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจว่าเป็นคนฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแต่ทำไมทุกครั้งที่พูดถึงเวินเจี่ยน กลับรู้สึกว่าเขาดูเหมือนคนที่ไม่พกสมองออกจากบ้านมาด้วยเสิ่นเหมียนตักซุปมาหนึ่งถ้วย และวางลงตรงหน้าผู้อาวุโสด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณปู่ ทานซุปหน่อยนะคะ”ผู้อาวุโสเจียงยื่นมือออกมารับถ้วยซุป ก่อนจะยกขึ้นดื่มไปหนึ่งคำ ความหงุดหงิดในใจจึงคลายลงไปได้บ้าง เขาวางถ้วยลง ก่อนจะหันไปมองเจียงฉีหานด้วยสายตาจิกกัด แล้วพูดขึ้น “ในเมื่อแกถามมาขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็จะตอบให้แกฟัง”“ทุกครั้งที่ยัยหนูเหมียนเหมียนมาที่นี่ทีไร เธอก็จะลงมือเข้าครัวทำอาหารให้ฉันเองทุกครั้ง เธอยังรู้อีกว่าฉันชอบกินอะไร และถ้ากินปลากัน เธอก็จะยังบรรจงแกะก้างออกให้ฉันด้วย เธอใส่ใจดูแลฉันทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด!”“แล้วเธอล่ะ? ทุกครั้งที่มาถึงก็จะนั่งบนโซฟา ทำตัวเป็นคุณผู้หญิงใหญ่ของบ้าน สั่งให้พวกคนใช้คอยประคบประหงมตัวเอง พวกคนใช้ต้องวิ่งวุ่นกันทั้งบ้านเพื่อเอาใจเธอ แล้วใครล่ะที่จะมาดูแลฉัน!”พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสก็ดูแย่ลงเป็น
เจียงฉีหานถูกเสียงหวานกระเซ่าของเธอยั่วจนใจสั่น สองมือโอบรัดเอวของเธอแน่นขึ้น เขากดเธอเข้ามาในอ้อมอก ราวกับต้องการจะกดเธอให้กลืนหายเข้าไปในร่างของเขา“เสิ่นเหมียน เธอเองก็คิดถึงฉันใช่ไหม? ไหน เรียกฉันว่าสามีให้ฟังหน่อย”สามปีที่ทั้งสองแต่งงานกัน พวกเขาแทบจะมีอะไรกันวันเว้นวัน จะปลุกเร้าเสิ่นเหมียนยังไง หรือจะทำยังไงให้เธอรู้สึกดีที่สุด เจียงฉีหานรู้แจ่มแจ้งอยู่แก่ใจเพราะแบบนี้ เขาจึงสามารถปลุกเร้าให้เธออ่อนไหวได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วทุกครั้ง และบางครั้งเธอถึงกับอดรนทนไม่ไหว ร้องขอให้เขามอบสัมผัสมากกว่านี้ด้วยตัวเองเขาไม่ได้แตะต้องเสิ่นเหมียนมาแล้วสองวัน แน่นอนว่าเขาอยากทำมากและตอนนี้ ผู้หญิงตัวนุ่มนิ่มกำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางคิดที่จะปล่อยเธอไปอีกอย่าง เขายังไม่เคยลองทำแบบกลางแจ้งเลย เขาอยากลองดูสักครั้งเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปากแน่น เพราะไม่อยากให้ตัวเองส่งเสียงที่น่าอายออกมาเจียงฉีหาน ชายหนุ่มที่ภายนอกดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง แต่กลับมีรสนิยมประหลาดตอนอยู่บนเตียงคือ เขาชอบจงใจแกล้งเธอ ชอบทำให้เธอไม่สุขสมดั่งปรารถนา และชอบบังคับให้เธอเรียกเขาว่าสามีที่บ้านไม่
เวินเจี่ยนโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า “เสิ่นเหมียนเรียกคุณนะ รีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน!”“ให้คนขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก่อน ไม่นานเดี๋ยวฉันจะตามไป” จากนั้นเจียงฉีหานก็อุ้มเวินเจี่ยนขึ้นรถ แล้วสั่งให้คนขับออกรถไปทันทีเวินเจี่ยนนั่งอยู่ในรถ มองร่างของเจียงฉีหานที่ค่อย ๆ ไกลออกไป สองมือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกันตาแก่ตายยากนั่น!ต้องมีสักวันที่ฉันจะเห็นแกตายไปต่อหน้ากับตาตัวเอง!หลังจากส่งเวินเจี่ยนขึ้นรถ เจียงฉีหานก็เดินกลับเข้าบ้านในห้องรับแขก เสิ่นเหมียนกำลังนั่งกินผลไม้อยู่บนโซฟา ขณะที่ลุงจงนั่งคุยกับเธออยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลายเจียงฉีหานหยุดฝีเท้าไปครู่หนึ่งเสิ่นเหมียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนในคฤหาสน์ประจำตระกูลหลังนี้ แต่ทำไมกลับเป็นศัตรูกับเวินเจี่ยนอยู่ตลอด?เมื่อเห็นเจียงฉีหาน เสิ่นเหมียนก็หยิบผลไม้เข้าปาก ก่อนจะชี้ไปที่ชั้นสอง “คุณปู่รอนายอยู่ในห้องหนังสือ”เธอไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกับเจียงฉีหานและเธอเองก็ไม่ได้สนใจลุงจงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าลงทันที ก่อนจะเดินไปอยู่ตรงหน้าเจียงฉีหาน “คุณชายรอง เชิญมากับผมครับ”คุณผู้หญิงทั้งอ่อน
ผู้อาวุโสเจียงส่งเสียงหึออกมา “ฉันไม่เดิมพันกับแกหรอก! ถ้ายัยหนูเสิ่นไม่ต้องการแกแล้ว ก็อย่าคิดกลับมาหาฉัน! มันขายหน้า!”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทางประตูเจียงฉีหานคิดเอาเองว่าเสิ่นเหมียนไม่มีทางไปไหน และไม่มีวันที่เขาจะเสียใจ!เจียงฉีหานเลิกคิ้วขึ้น หยิบซองเอกสาารขึ้นมาแล้วเดินตามออกไปเสิ่นเหมียนที่อยู่นอกประตูลงมาข้างล่างตั้งนานแล้วเมื่อลุงจงเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเธอก็กังวลเล็กน้อย “คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? สีหน้าดูไม่ดีเลย”เสิ่นเหมียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ถ้อยคำเหล่านั้นที่เจียงฉีหานพูดเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกถึงหัวใจ แล้วเธอจะมีสีหน้าดีได้อย่างไร“คุณนั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปรินน้ำมาให้” ลุงจงพูดจบก็รีบไปรินน้ำมาให้เธอผู้อาวุโสเจียงกับเจียงฉีหานลงมา เห็นเสิ่นเหมียนนั่งอยู่ตรงนั้น ผู้อาวุโสเจียงเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ข้างนอกอากาศเริ่มเย็น พวกแกไม่ต้องกลับหรอก อยู่ค้างที่นี่แหละ ทุกห้องทำความสะอาดไว้หมดแล้ว ผ้าห่มก็สะอาดเอี่ยมอ่อง รีบขึ้นไปพักข้างบนเถอะ”เขาคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนเผื่อนอนด้วยกันแล้วจะตั้งท้องขึ้นมา“พรุ่งนี้หน
คิ้วคมของเจียงฉีหานขมวดมุ่น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น!”“เสิ่นเหมียนซื้อฮอตเสิร์ชเขียนข่าวว่ารางวัลชนะการเต้นรำของฉันได้มาเพราะใช้เส้นสาย! แถมยังบอกอีกว่าฉันมีเสี่ยเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง! อีกอย่างเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเสี่ยคนนั้น! ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ยืนบนเวทีอีกต่อไป! อนาคตข้างหน้าของฉัน ชีวิตของฉัน ดับมืดไปหมด! ถ้าฉันยังมีชีวิตต่อไปยังจะมีค่าอะไร! ฉันอยากตาย!”เวินเจี่ยนตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้สีหน้าของเจียงฉีหานเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ฮอตเสิร์ชอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย“นายถามเสิ่นเหมียนดูสิ! เธอเป็นคนทำ เธอต้องรู้แน่ๆ!” เวินเจี่ยนตะคอก ฟังผ่านลำโพงโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอ“เอาล่ะ เธออย่าเพิ่งอารมณ์ร้อน ฉันจะถามเธอเอง” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสายตอนแรกเสิ่นเหมียนว่าจะหลับตาพักผ่อนสักหน่อย แต่พอได้ยินบทสนทนาของเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยน ก็รู้สึกหนังตากระตุกอย่างรุนแรงเวินเจี่ยนเล่นพิเรนทร์อะไรอีกไม่แปลกที่เสิ่นเหมียนจะอ่อนไหวประเด็นคือเวินเจี่ยนทั้งชอบหาเรื่องและเสแสร้งเอะอะก็โทรมาฟ้องเจ
เสิ่นเหมี่ยนหันหน้าหลบมือของชายหนุ่ม กัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหาน ก่อนที่นายจะลงมือทำอะไรควรคิดว่าสามารถรับผลการกระทำหลังจากไปทำให้เจียงฉีหานไม่พอใจได้หรือเปล่า!”ในสถานที่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้แบบนี้ เธอทำได้เพียงอ้างชื่อเจียงฉีหานเจียงฉีหานเปรียบดั่งเจ้าแห่งความตายที่ผู้คนล้วนหวาดหวั่นในเมืองหลวงคนภายนอกล้วนพูดต่อ ๆ กันว่าเขาโหดร้ายทารุณ เลือดเย็นไร้ความปราณีคนกลุ่มนี้ต้องเกรงกลัวเขาแน่ ๆไม่แน่อาจจะปล่อยเธอไป“คนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมดว่าเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยนเป็นแฟนกัน ไม่ยักรู้เลยว่าเจียงฉีหานแต่งงานแล้ว! อย่ามาแต่งเรื่องโกหกพวกพี่ โอเคไหม?” ชายหนุ่มคว้าจับคางของเสิ่นเหมียน ออกแรงเชิดขึ้นสูง เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ที่เธอมัวแต่ลีลาอยู่ตรงนี้ เพราะรอให้ฉันอุ้มเธอขึ้นรถใช่ไหม?”เสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก “ฉันไม่ได้โกหก ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหานจริงๆ! ถ้าพวกนายไม่เชื่อ ฉันโทรหาเขาตอนนี้ก็ได้!”จริง ๆ แล้วในใจก็ค่อนข้างหวั่นเมื่อกี้เจียงฉีหานเพิ่งทะเลาะกับเธอเสร็จ อาจจะไม่ยอมรับสายเธอก็ได้!แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอต้องทนหน้าด้
ขณะที่มือของชายหนุ่มกำลังจะล้วงเข้าไปในกระโปรง ทันใดนั้นพลันมีเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นมา ชายหนุ่มตกใจจนมือสั่นนัยน์ตาของเสิ่นเหมียนทอประกายดีใจ เค้นลำคอตะโกนออกไปว่า “ช่วยด้วย!”วินาทีต่อมา ชายหนุ่มที่คร่อมทับบนร่างก็ถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง เสื้อตัวนอกของผู้ชายถูกโยนมาคลุมร่างกายของเสิ่นเหมียนเอาไว้กลิ่นไม้เย็น ๆ พลันโชยเข้ามาในจมูก อารมณ์ตรึงเครียดของเสิ่นเหมียนพลันผ่อนคลายลง“หลับตาลง อย่ามอง!”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มดังขึ้นมาข้างหูเสิ่นเหมียนอดมองชายหนุ่มไม่ได้“พี่ฟู่?”เธอไม่อยากจะเชื่อทำไมบังเอิญขนาดนี้“อืม ฉันเอง คนดี หลับตานะ ฉันจะอุ้มเธอไปที่รถฉัน” ดวงตาดำขลับของฟู่จือกุยอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวลเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก อยากพูดอะไรออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หลับตาลงแต่โดยดีข้างหูยังคงมีเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นมาเสิ่นเหมียนกำหมัดแน่นทันที พูดเสียงเบาว่า “พี่ฟู่ ช่วยฉันแจ้งความที ฉันจะแจ้งจับพวกมัน!”“เธอไม่ต้องออกโรงเองฉันก็จะส่งพวกมันเข้าคุกอยู่แล้ว! ไม่ต้องห่วงนะ” เสียงอ่อนโยนของฟู่จือกุยดังขึ้นข้างหู เสิ่นเหมียนซาบซึ้งในใจ จึงพูดขอบคุณเสียงเบา “พี่ฟู่ ขอบคุณนะ!
ช่วงหลายวันมานี้ได้ยินคนในสำนักกฎหมายพูดคุยถึงสำนักทนายความฉี่หมิงที่เพิ่งเปิดใหม่ แถมยังบอกว่าเจ้าของเป็นเด็กจบนอก เพราะงานยุ่งเธอจึงไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องนี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าของจะเป็นฟู่จือกุยขอบเขตธุรกิจของตระกูลฟู่คือสายการบินไม่ใช่เหรอ?ทำไมจู่ ๆ ถึงเปิดสำนักงานเกี่ยวกับกฎหมายได้ล่ะ?“ดูเหมือนเธอจะได้ยินมาแล้วสินะ! ใช่ ฉี่หมิงคือสำนักงานกฎหมายที่ฉันเปิดเอง”“ฉันจำได้ว่าพี่ฟู่เองก็เป็นนักศึกษาเรียนดีของสาขากฎหมายเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นพี่เป็นทนายความ ไม่แน่พวกเราอาจจะกลายเป็นคู่แข่งกันก็ได้!”“ต่อให้ฉันเป็นทนายจริง ๆ เราก็ไม่มีทางเป็นคู่แข่งกันหรอก!” ฟู่จือกุยแอบพูดในใจเงียบ ๆ ฉันมีแต่จะช่วยเธอ ทำให้เธอสมหวัง!ในตอนนี้เอง เสียงของเซิ่งเซี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน“เหมียนเหมียน เหมียนเหมียน เธออยู่ไหน!”อีกฝ่ายค่อนข้างควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสิ่นเหมียนซึ้งใจ จึงยกแขนขาว ๆ ขึ้นพยายามโบกไปมา “เสี่ยวเซี่ย ฉันอยู่นี่!”บริเวณไม่ไกล รถคันหนึ่งค่อย ๆ จอด กระจกรถลดลง เจียงฉีหานมองหญิงสาวในอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชา บนนิ้วยังใส่แหวนแต่งงานของพวกเขาอยู่แท้ ๆเหอะ…ไฉนเลยที่เสิ่
“ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก
ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น
ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา
คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี
“คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี
ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ
ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื
“หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม
เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา