Share

บทที่ 7

Author: มู่อันอัน
พี่สะใภ้ใหญ่สนิทสนมกับลุงรองขนาดนี้ ไม่กลัวว่าจะเป็นขี้ปากชาวบ้านบ้างเลย

ซางอู่พยายามจะขวางทางพ่อบ้าน แต่ก็พบว่าเสิ่นเหมียนที่นั่งอยู่เบาะหลังได้เปิดประตูลงจากรถไปแล้ว

เมื่อครู่ ตอนที่ได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านพูด เธอก็เดาได้ทันทีว่า ต้องเป็นเพราะการปรากฏตัวของเวินเจี่ยนที่ทำให้ผู้อาวุโสเจียงโกรธจนเป็นลม

ก่อนหน้านี้ เธอก็เคยเตือนเจียงฉีหานไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เชื่อเธอ

ตอนนี้คุณปู่เป็นลมไปแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เจียงฉีหานจะรู้สึกยังไง

หรือบางทีเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้

เพราะยังไงซะ นอกจากเวินเจี่ยน เขาก็ไม่เคยเป็นห่วงใครอยู่แล้ว

เมื่อพ่อบ้านเห็นเสิ่นเหมียน เขาก็ยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก จนพูดเสียงดังขึ้นอีกหลายระดับโดยไม่รู้ตัว “คุณผู้หญิง รีบตามผมมาเถอะ!”

เสิ่นเหมียนรีบก้าวเท้าไปข้างหน้า ขณะเดินก็เอ่ยถามขึ้น “โทรหาหมอประจำตระกูลหรือยัง?”

“โทรแล้วครับ น่าจะอีกยี่สิบนาทีกว่าจะมาถึง”

“เปิดหน้าต่างระบายอากาศหรือยัง?”

“เปิดหมดทุกบานแล้วครับ”

เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเพิ่มความเร็วในการก้าวเท้าเล็กน้อย

ทันทีที่เดินเข้าไปในโถงทางเข้า เสียงสะอื้นแผ่วเบาของเวินเจี่ยนก็ลอยเข้ามาข้างหูเธอ

เสิ่นเหมียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ลุงจง ไปเชิญให้คุณผู้หญิงใหญ่กลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะ อย่ารบกวนคุณปู่อีกเลย”

เดิมทีคุณปู่ก็เพิ่งจะเป็นลมเพราะโมโหเธอแท้ ๆ เธอยังจะมานั่งร้องไห้กระซิก ๆ แสร้งทำเป็นเสียใจอยู่อีก

น่ารำคาญจริง ๆ

“ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย!” ลุงจงรีบเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

เสิ่นเหมียนยืนเปลี่ยนรองเท้าที่โถงทางเข้า ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน

ในขณะนั้น ลุงจงยืนอยู่ตรงหน้าเวินเจี่ยน ก่อนจะกระซิบเธอ “คุณผู้หญิงใหญ่คงจะเหนื่อยแล้ว ให้ผมพาไปพักผ่อนนะครับ”

เขาไม่เคยชอบเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

ทั้งพูดจาออดอ้อนออเซาะ ทั้งชอบร้องไห้งอแง

เวินเจี่ยนเห็นเสิ่นเหมียนที่กำลังเดินเข้ามาจากหน้าประตู ท่วงท่าอ่อนช้อย ทำให้เธอดูงดงามเป็นพิเศษ ในตอนนั้นเอง เวินเจี่ยนก็เงยหน้าขึ้นมองเจียงฉีหาน และก็เห็นว่าเขาเองก็กำลังมองเสิ่นเหมียนอยู่เช่นกัน ความอิจฉาปะทุขึ้นมาในใจของเวินเจี่ยนโดยไม่รู้ตัว เธอกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ “เป็นเพราะฉันไม่ดีเอง ที่ทำให้คุณปู่เป็นลม ฉันขอตัวก่อนนะ”

ปากบอกว่าจะไป แต่กลับไม่มีท่าทีจะลุกขึ้นเลย

ลุงจงรู้สึกอึดอัดในใจ แต่ก็ไม่กล้าบังคับเธอ

เจียงฉีหานขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เธอขึ้นไปพักก่อนเถอะ รอให้คุณปู่ตื่นแล้วเธอค่อยลงมาก็ได้”

เวินเจี่ยนลุกขึ้นยืนอย่างเชื่อฟัง แต่ในวินาทีต่อมา ร่างกายของเธอกลับเอนล้มไปด้านหลัง

“ฉีหาน! ช่วยฉันด้วย!”

เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ

เจียงฉีหานพุ่งเข้าไปคว้ากอดเธอไว้ทันที ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “ทำไมไม่ระวังตัวเลย!”

“ก็นั่งนานไปหน่อย ขาก็เลยชาน่ะสิ” เธอเอื้อมมือไปโอบรอบคอของเจียงฉีหาน แต่ปากกลับพูดออกมาว่า “ปล่อยฉันลงก่อนเถอะ”

ลุงจงเบือนหน้าหนีไปเงียบ ๆ

พี่สะใภ้ใหญ่กับน้องสามีสนิทสนมกันขนาดนี้ ไม่กลัวคนอื่นจะเอาไปนินทาหรือยังไง!

ช่างเป็นยุคสมัยแห่งความเสื่อมทรามจริง ๆ

“ฉันพาเธอขึ้นไปเอง” แต่ทันทีที่เจียงฉีหานหันหลังไป ก็เห็นว่าเสิ่นเหมียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา สีหน้าของเธอแข็งกร้าวขึ้นในชั่วพริบตา “ทำไมเดินมาเงียบ ๆ แบบนี้ล่ะ!”

เสิ่นเหมียนขยับตัวไปด้านข้างสองก้าว เพื่อหลีกทางให้เขา “เป็นเพราะนายมีอะไรในใจ ก็เลยไม่ได้ยินเสียงฉันเดินต่างหาก”

หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ตอนที่เธอเห็นภาพนี้ เธอคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และอาจถึงขั้นสั่งให้เจียงฉีหานปล่อยเวินเจี่ยนลง

แต่ตอนนี้เธอตัดสินใจว่าจะหย่าแล้ว ต่อให้ในใจจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามการกระทำของเจียงฉีหานอีกต่อไป

“เสิ่นเหมียน เธออย่าเข้าใจผิดนะ เมื่อกี้ฉันแค่ขาชาจนเกือบจะล้มน่ะ ฉีหานก็แค่ช่วยพยุงฉันไว้เท่านั้น” เวินเจี่ยนรีบอธิบายอย่างร้อนรน ราวกับกลัวว่าเสิ่นเหมียนจะโกรธเธอ

เสิ่นเหมียนหรี่ดวงตาคู่สวยลงเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเบา ๆ “ฉันไม่ได้เข้าใจผิด เรื่องของพวกเธอ ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายให้ฉันฟัง”

น้ำเสียงของเธออ่อนโยน ราวกับกำลังพูดว่าวันนี้อากาศแจ่มใสดีให้เวินเจี่ยนฟัง

เวินเจี่ยนชะงักไปเล็กน้อย

เดิมทีเธอคิดว่าเสิ่นเหมียนจะต้องโกรธ แต่ไม่คิดเลยว่าเสิ่นเหมียนกลับพูดกับเธอด้วยท่าทีสงบนิ่งเช่นนี้

ทำไมจู่ๆ เสิ่นเหมียนถึงเปลี่ยนไป?

หรือว่าเพราะตาแก่นี้ฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอก็เลยแกล้งทำเป็นคนดีต่อหน้ามัน?

แต่ไม่นาน เวินเจี่ยนก็รีบเก็บความคิดของตัวเองแล้วพูดกระซิบเสียงเบา “ฉีหาน คุณปล่อยฉันลงเถอะ เสิ่นเหมียนเหมือนจะเข้าใจผิดจริง ๆ แล้ว”

เจียงฉีหานขมวดคิ้วแน่น “เสิ่นเหมียน เธอเลิกพูดจาประชดประชันสักที!”

พูดจบ เขาก็อุ้มเวินเจี่ยนแล้วเดินจากไปทันที

เสิ่นเหมียน “…”

เธอพูดอะไร? ทำไมถึงกลายเป็นการประชดประชันไปได้?

พ่อบ้านรู้สึกสงสารเธอเล็กน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปลอบใจ “คุณผู้หญิง อย่าเสียใจไปเลยครับ รีบไปดูคุณท่านเถอะ!”

เสิ่นเหมียนตอบรับ ก่อนจะเดินไปยังโซฟา

แต่ทันทีที่เสิ่นเหมียนเพิ่งจะเดินเข้าไปใกล้โซฟา ผู้อาวุโสที่เมื่อครู่ยังนอนนิ่งดูเหมือนไม่รู้สึกตัว กลับลุกขึ้นนั่งทันที

เสิ่นเหมียนตกใจจนสะดุ้งโหยง “คุณปู่…?”

ไม่ใช่ว่าเป็นลมไปเหรอ?

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“ยัยหนูเหมียน รีบมานั่งคุยกับฉันสิ! เหล่าจง ไปเร่งทางครัวหน่อย ให้พวกเขารีบเตรียมอาหาร ฉันกับยัยหนูหิวแล้ว จะกินข้าว!” คุณปู่ดูมีเรี่ยวแรงเป็นอย่างมาก ดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเป็นลมไปเลยแม้แต่นิดเดียว!

ลุงจงเห็นท่าทางของคุณปู่แล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เมื่อครู่นี้เขาตกใจจริง ๆ เพราะกลัวว่าคุณท่านจะเป็นอะไรไป

“ฉันไม่อยากเจอเธอ แต่เธอกลับดื้อดึงจะมาให้ได้ ฉันก็ทำได้แค่แกล้งเป็นลม!” ผู้อาวุโสไม่ปิดบังความรังเกียจที่มีต่อเวินเจี่ยน

เขาอายุปูนนี้แล้ว เขาเจอคนมาทุกรูปแบบ

กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเวินเจี่ยนน่ะ อาจจะหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกเขาไม่ได้แน่!

เขาไม่อยากเห็นหน้าเธอเลยจริง ๆ

เสิ่นเหมียนได้ยินที่เขาพูดแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “คุณปู่ ต่อไปห้ามทำเรื่องแบบนี้อีกนะ! หนูเป็นห่วงจริงๆ นะคะ!”

หินก้อนใหญ่ที่กดทับอยู่ในอกถูกยกออกไปแล้ว

คุณปู่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว

ลุงจงไปที่ครัว ไม่นานก็กลับมา “คุณท่าน คุณผู้หญิง อาหารพร้อมแล้วครับ”

ผู้อาวุโสรีบดึงมือของเสิ่นเหมียน “เหมียนเหมียน ไป! พวกเราไปกินข้าวกัน!”

เสิ่นเหมียนเดินตามไปอยู่ข้าง ๆ คุณปู่อย่างว่าง่าย พลางเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ช่วงนี้สุขภาพของคุณปู่เป็นยังไงบ้างคะ? ยาลดความดันทานตรงเวลาทุกวันไหม?”

คุณท่านยิ้มตาหยีก่อนจะตอบกลับ “เหมียนเหมียนไม่ต้องห่วง ถ้าฉันยังไม่ได้เห็นลูกของเธอกับฉีหานล่ะก็ ฉันไม่มีวันตายหรอก!”

เสิ่นเหมียนขมวดคิ้วทันที “คุณปู่ต้องอายุยืนยาวถึงร้อยปี ห้ามพูดเรื่องตายอีกนะคะ!”

คุณปู่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี “ขอแค่ฉันอยู่จนถึงวันที่หลานของฉันเกิดมาก็พอแล้ว อยู่นานเกินไปเดี๋ยวจะเป็นภาระให้คนอื่น!”

เสิ่นเหมียนจับมือคุณปู่ พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ถ้าคุณปู่จากไปแล้ว บนโลกนี้ก็คงไม่มีใครรักหนูอีกแล้ว”

เธอมีครอบครัว แต่พวกเขามีเพียงแค่ความเกลียดชังให้เธอ ไม่มีความรักเลยสักนิด

ผู้อาวุโสได้ยินดังนั้นแล้วก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะอายุยืนถึงร้อยปี!”

เจียงฉีหาน ไอ้เด็กนั่นเป็นคนที่ไม่รู้จักรักและทะนุถนอมภรรยา ครอบครัวของยัยหนูเหมียนเหมียนก็ไม่รักเธอเลย พอคิดแบบนี้ก็รู้สึกสงสารยัยหนูเหมียนเหมียนจับใจจริง ๆ

“เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณปู่ งั้นต่อไปนี้คุณปู่ต้องกินยาให้ตรงเวลา กินอาหารที่มีประโยชน์ และห้ามโมโหด้วยนะคะ” เสิ่นเหมียนพูดรวดเดียวจบ ก่อนจะดึงมือผู้อาวุโสให้ลุกขึ้น “ไปกัน กินข้าวกันก่อนเถอะค่ะ!”

ในขณะที่ทั้งสองคนเพิ่งจะนั่งลง เจียงฉีหานก็เดินเข้ามาพอดี

พอเห็นทั้งคู่กำลังพูดคุยหัวเราะกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น “คุณปู่ อายุมากขนาดนี้แล้วยังจะแกล้งเป็นลมอีกเหรอครับ?”

สุขภาพของผู้อาวุโสไม่ดี เมื่อกี้เขาคิดว่าท่านเป็นลมไปจริง ๆ อีกทั้งยังตกใจอยู่พักหนึ่ง

แต่สุดท้ายก็เป็นแค่การเสแสร้ง

ผู้อาวุโสเจียงถลึงตามองเขา ก่อนจะแค่นเสียงออกมา “รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่อยากเจอก็ยังจะพาเธอกลับมา ถ้าฉันไม่แกล้งเป็นลม ก็คงต้องมานั่งดูเธอแสร้งทำท่าทางน่ารำคาญอีก!”

เขาแสดงออกชัดเจนมาตลอดว่าไม่ชอบเวินเจี่ยน และห้ามไม่ให้เธอมาป้วนเปี้ยนตรงหน้าเขา แต่ทุกครั้งที่เขาเรียกเจียงฉีหานกับเสิ่นเหมียนสองสามีภรรยาคู่นี้กลับบ้านทีไร เวินเจี่ยนก็จะต้องตามมาทุกครั้ง

เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเวินเจี่ยนถึงหน้าด้านได้ขนาดนี้

“เวินเจี่ยนเองก็เป็นหลานสะใภ้ของคุณปู่เหมือนกัน เสิ่นเหมียนมาได้ ทำไมเธอจะมาไม่ได้” เจียงฉีหานพูดสวนกลับทันที

Related chapters

  • เสพติดรัก   บทที่ 8

    คุณท่านอาวุโสเจียงโมโหจนเกือบจะตายคาที่เจียงฉีหานเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจว่าเป็นคนฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแต่ทำไมทุกครั้งที่พูดถึงเวินเจี่ยน กลับรู้สึกว่าเขาดูเหมือนคนที่ไม่พกสมองออกจากบ้านมาด้วยเสิ่นเหมียนตักซุปมาหนึ่งถ้วย และวางลงตรงหน้าผู้อาวุโสด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณปู่ ทานซุปหน่อยนะคะ”ผู้อาวุโสเจียงยื่นมือออกมารับถ้วยซุป ก่อนจะยกขึ้นดื่มไปหนึ่งคำ ความหงุดหงิดในใจจึงคลายลงไปได้บ้าง เขาวางถ้วยลง ก่อนจะหันไปมองเจียงฉีหานด้วยสายตาจิกกัด แล้วพูดขึ้น “ในเมื่อแกถามมาขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็จะตอบให้แกฟัง”“ทุกครั้งที่ยัยหนูเหมียนเหมียนมาที่นี่ทีไร เธอก็จะลงมือเข้าครัวทำอาหารให้ฉันเองทุกครั้ง เธอยังรู้อีกว่าฉันชอบกินอะไร และถ้ากินปลากัน เธอก็จะยังบรรจงแกะก้างออกให้ฉันด้วย เธอใส่ใจดูแลฉันทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด!”“แล้วเธอล่ะ? ทุกครั้งที่มาถึงก็จะนั่งบนโซฟา ทำตัวเป็นคุณผู้หญิงใหญ่ของบ้าน สั่งให้พวกคนใช้คอยประคบประหงมตัวเอง พวกคนใช้ต้องวิ่งวุ่นกันทั้งบ้านเพื่อเอาใจเธอ แล้วใครล่ะที่จะมาดูแลฉัน!”พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสก็ดูแย่ลงเป็น

  • เสพติดรัก   บทที่ 9 

    เจียงฉีหานถูกเสียงหวานกระเซ่าของเธอยั่วจนใจสั่น สองมือโอบรัดเอวของเธอแน่นขึ้น เขากดเธอเข้ามาในอ้อมอก ราวกับต้องการจะกดเธอให้กลืนหายเข้าไปในร่างของเขา“เสิ่นเหมียน เธอเองก็คิดถึงฉันใช่ไหม? ไหน เรียกฉันว่าสามีให้ฟังหน่อย”สามปีที่ทั้งสองแต่งงานกัน พวกเขาแทบจะมีอะไรกันวันเว้นวัน จะปลุกเร้าเสิ่นเหมียนยังไง หรือจะทำยังไงให้เธอรู้สึกดีที่สุด เจียงฉีหานรู้แจ่มแจ้งอยู่แก่ใจเพราะแบบนี้ เขาจึงสามารถปลุกเร้าให้เธออ่อนไหวได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วทุกครั้ง และบางครั้งเธอถึงกับอดรนทนไม่ไหว ร้องขอให้เขามอบสัมผัสมากกว่านี้ด้วยตัวเองเขาไม่ได้แตะต้องเสิ่นเหมียนมาแล้วสองวัน แน่นอนว่าเขาอยากทำมากและตอนนี้ ผู้หญิงตัวนุ่มนิ่มกำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางคิดที่จะปล่อยเธอไปอีกอย่าง เขายังไม่เคยลองทำแบบกลางแจ้งเลย เขาอยากลองดูสักครั้งเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปากแน่น เพราะไม่อยากให้ตัวเองส่งเสียงที่น่าอายออกมาเจียงฉีหาน ชายหนุ่มที่ภายนอกดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง แต่กลับมีรสนิยมประหลาดตอนอยู่บนเตียงคือ เขาชอบจงใจแกล้งเธอ ชอบทำให้เธอไม่สุขสมดั่งปรารถนา และชอบบังคับให้เธอเรียกเขาว่าสามีที่บ้านไม่

  • เสพติดรัก   บทที่ 10

    เวินเจี่ยนโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า “เสิ่นเหมียนเรียกคุณนะ รีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน!”“ให้คนขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก่อน ไม่นานเดี๋ยวฉันจะตามไป” จากนั้นเจียงฉีหานก็อุ้มเวินเจี่ยนขึ้นรถ แล้วสั่งให้คนขับออกรถไปทันทีเวินเจี่ยนนั่งอยู่ในรถ มองร่างของเจียงฉีหานที่ค่อย ๆ ไกลออกไป สองมือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกันตาแก่ตายยากนั่น!ต้องมีสักวันที่ฉันจะเห็นแกตายไปต่อหน้ากับตาตัวเอง!หลังจากส่งเวินเจี่ยนขึ้นรถ เจียงฉีหานก็เดินกลับเข้าบ้านในห้องรับแขก เสิ่นเหมียนกำลังนั่งกินผลไม้อยู่บนโซฟา ขณะที่ลุงจงนั่งคุยกับเธออยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลายเจียงฉีหานหยุดฝีเท้าไปครู่หนึ่งเสิ่นเหมียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนในคฤหาสน์ประจำตระกูลหลังนี้ แต่ทำไมกลับเป็นศัตรูกับเวินเจี่ยนอยู่ตลอด?เมื่อเห็นเจียงฉีหาน เสิ่นเหมียนก็หยิบผลไม้เข้าปาก ก่อนจะชี้ไปที่ชั้นสอง “คุณปู่รอนายอยู่ในห้องหนังสือ”เธอไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกับเจียงฉีหานและเธอเองก็ไม่ได้สนใจลุงจงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าลงทันที ก่อนจะเดินไปอยู่ตรงหน้าเจียงฉีหาน “คุณชายรอง เชิญมากับผมครับ”คุณผู้หญิงทั้งอ่อน

  • เสพติดรัก   บทที่ 11

    ผู้อาวุโสเจียงส่งเสียงหึออกมา “ฉันไม่เดิมพันกับแกหรอก! ถ้ายัยหนูเสิ่นไม่ต้องการแกแล้ว ก็อย่าคิดกลับมาหาฉัน!​ มันขายหน้า!”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทางประตูเจียงฉีหานคิดเอาเองว่าเสิ่นเหมียนไม่มีทางไปไหน และไม่มีวันที่เขาจะเสียใจ!เจียงฉีหานเลิกคิ้วขึ้น หยิบซองเอกสาารขึ้นมาแล้วเดินตามออกไปเสิ่นเหมียนที่อยู่นอกประตูลงมาข้างล่างตั้งนานแล้วเมื่อลุงจงเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเธอก็กังวลเล็กน้อย “คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? สีหน้าดูไม่ดีเลย”เสิ่นเหมียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ถ้อยคำเหล่านั้นที่เจียงฉีหานพูดเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกถึงหัวใจ แล้วเธอจะมีสีหน้าดีได้อย่างไร“คุณนั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปรินน้ำมาให้” ลุงจงพูดจบก็รีบไปรินน้ำมาให้เธอผู้อาวุโสเจียงกับเจียงฉีหานลงมา เห็นเสิ่นเหมียนนั่งอยู่ตรงนั้น ผู้อาวุโสเจียงเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ข้างนอกอากาศเริ่มเย็น พวกแกไม่ต้องกลับหรอก อยู่ค้างที่นี่แหละ ทุกห้องทำความสะอาดไว้หมดแล้ว ผ้าห่มก็สะอาดเอี่ยมอ่อง รีบขึ้นไปพักข้างบนเถอะ”เขาคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนเผื่อนอนด้วยกันแล้วจะตั้งท้องขึ้นมา“พรุ่งนี้หน

  • เสพติดรัก   บทที่ 12

    คิ้วคมของเจียงฉีหานขมวดมุ่น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เกิดอะไรขึ้น!”“เสิ่นเหมียนซื้อฮอตเสิร์ชเขียนข่าวว่ารางวัลชนะการเต้นรำของฉันได้มาเพราะใช้เส้นสาย! แถมยังบอกอีกว่าฉันมีเสี่ยเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง!​ อีกอย่างเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเสี่ยคนนั้น! ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันฉาวโฉ่ไปหมดแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ยืนบนเวทีอีกต่อไป! อนาคตข้างหน้าของฉัน ชีวิตของฉัน ดับมืดไปหมด! ถ้าฉันยังมีชีวิตต่อไปยังจะมีค่าอะไร! ฉันอยากตาย!”เวินเจี่ยนตะคอกออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้สีหน้าของเจียงฉีหานเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที “ฮอตเสิร์ชอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย“นายถามเสิ่นเหมียนดูสิ! เธอเป็นคนทำ เธอต้องรู้แน่ๆ!​” เวินเจี่ยนตะคอก ฟังผ่านลำโพงโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของเธอ“เอาล่ะ เธออย่าเพิ่งอารมณ์ร้อน ฉันจะถามเธอเอง” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสายตอนแรกเสิ่นเหมียนว่าจะหลับตาพักผ่อนสักหน่อย แต่พอได้ยินบทสนทนาของเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยน ก็รู้สึกหนังตากระตุกอย่างรุนแรงเวินเจี่ยนเล่นพิเรนทร์อะไรอีกไม่แปลกที่เสิ่นเหมียนจะอ่อนไหวประเด็นคือเวินเจี่ยนทั้งชอบหาเรื่องและเสแสร้งเอะอะก็โทรมาฟ้องเจ

  • เสพติดรัก   บทที่ 13

    เสิ่นเหมี่ยนหันหน้าหลบมือของชายหนุ่ม กัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหาน ก่อนที่นายจะลงมือทำอะไรควรคิดว่าสามารถรับผลการกระทำหลังจากไปทำให้เจียงฉีหานไม่พอใจได้หรือเปล่า!”ในสถานที่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้แบบนี้ เธอทำได้เพียงอ้างชื่อเจียงฉีหานเจียงฉีหานเปรียบดั่งเจ้าแห่งความตายที่ผู้คนล้วนหวาดหวั่นในเมืองหลวงคนภายนอกล้วนพูดต่อ ๆ กันว่าเขาโหดร้ายทารุณ เลือดเย็นไร้ความปราณีคนกลุ่มนี้ต้องเกรงกลัวเขาแน่ ๆไม่แน่อาจจะปล่อยเธอไป“คนทั้งเมืองหลวงรู้กันหมดว่าเจียงฉีหานกับเวินเจี่ยนเป็นแฟนกัน ไม่ยักรู้เลยว่าเจียงฉีหานแต่งงานแล้ว! อย่ามาแต่งเรื่องโกหกพวกพี่ โอเคไหม?” ชายหนุ่มคว้าจับคางของเสิ่นเหมียน ออกแรงเชิดขึ้นสูง เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ที่เธอมัวแต่ลีลาอยู่ตรงนี้ เพราะรอให้ฉันอุ้มเธอขึ้นรถใช่ไหม?”เสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก “ฉันไม่ได้โกหก ฉันคือคุณผู้หญิงของเจียงฉีหานจริงๆ! ถ้าพวกนายไม่เชื่อ ฉันโทรหาเขาตอนนี้ก็ได้!”จริง ๆ แล้วในใจก็ค่อนข้างหวั่นเมื่อกี้เจียงฉีหานเพิ่งทะเลาะกับเธอเสร็จ อาจจะไม่ยอมรับสายเธอก็ได้!แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอต้องทนหน้าด้

  • เสพติดรัก   บทที่ 14

    ขณะที่มือของชายหนุ่มกำลังจะล้วงเข้าไปในกระโปรง ทันใดนั้นพลันมีเสียงร้องโอดโอยดังขึ้นมา ชายหนุ่มตกใจจนมือสั่นนัยน์ตาของเสิ่นเหมียนทอประกายดีใจ เค้นลำคอตะโกนออกไปว่า “ช่วยด้วย!”วินาทีต่อมา ชายหนุ่มที่คร่อมทับบนร่างก็ถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง เสื้อตัวนอกของผู้ชายถูกโยนมาคลุมร่างกายของเสิ่นเหมียนเอาไว้กลิ่นไม้เย็น ๆ พลันโชยเข้ามาในจมูก อารมณ์ตรึงเครียดของเสิ่นเหมียนพลันผ่อนคลายลง“หลับตาลง อย่ามอง!”เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มดังขึ้นมาข้างหูเสิ่นเหมียนอดมองชายหนุ่มไม่ได้“พี่ฟู่?”เธอไม่อยากจะเชื่อทำไมบังเอิญขนาดนี้“อืม ฉันเอง คนดี หลับตานะ ฉันจะอุ้มเธอไปที่รถฉัน” ดวงตาดำขลับของฟู่จือกุยอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวลเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปาก อยากพูดอะไรออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หลับตาลงแต่โดยดีข้างหูยังคงมีเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นมาเสิ่นเหมียนกำหมัดแน่นทันที พูดเสียงเบาว่า “พี่ฟู่ ช่วยฉันแจ้งความที ฉันจะแจ้งจับพวกมัน!”“เธอไม่ต้องออกโรงเองฉันก็จะส่งพวกมันเข้าคุกอยู่แล้ว!​ ไม่ต้องห่วงนะ” เสียงอ่อนโยนของฟู่จือกุยดังขึ้นข้างหู เสิ่นเหมียนซาบซึ้งในใจ จึงพูดขอบคุณเสียงเบา “พี่ฟู่ ขอบคุณนะ!

  • เสพติดรัก   บทที่ 15

    ช่วงหลายวันมานี้ได้ยินคนในสำนักกฎหมายพูดคุยถึงสำนักทนายความฉี่หมิงที่เพิ่งเปิดใหม่ แถมยังบอกว่าเจ้าของเป็นเด็กจบนอก เพราะงานยุ่งเธอจึงไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องนี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าของจะเป็นฟู่จือกุยขอบเขตธุรกิจของตระกูลฟู่คือสายการบินไม่ใช่เหรอ?ทำไมจู่ ๆ ถึงเปิดสำนักงานเกี่ยวกับกฎหมายได้ล่ะ?“ดูเหมือนเธอจะได้ยินมาแล้วสินะ! ใช่ ฉี่หมิงคือสำนักงานกฎหมายที่ฉันเปิดเอง”“ฉันจำได้ว่าพี่ฟู่เองก็เป็นนักศึกษาเรียนดีของสาขากฎหมายเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นพี่เป็นทนายความ ไม่แน่พวกเราอาจจะกลายเป็นคู่แข่งกันก็ได้!”“ต่อให้ฉันเป็นทนายจริง ๆ เราก็ไม่มีทางเป็นคู่แข่งกันหรอก!” ฟู่จือกุยแอบพูดในใจเงียบ ๆ ฉันมีแต่จะช่วยเธอ ทำให้เธอสมหวัง!ในตอนนี้เอง เสียงของเซิ่งเซี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน“เหมียนเหมียน เหมียนเหมียน เธออยู่ไหน!”อีกฝ่ายค่อนข้างควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสิ่นเหมียนซึ้งใจ จึงยกแขนขาว ๆ ขึ้นพยายามโบกไปมา “เสี่ยวเซี่ย ฉันอยู่นี่!”บริเวณไม่ไกล รถคันหนึ่งค่อย ๆ จอด กระจกรถลดลง เจียงฉีหานมองหญิงสาวในอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยใบหน้าเย็นชา บนนิ้วยังใส่แหวนแต่งงานของพวกเขาอยู่แท้ ๆเหอะ…ไฉนเลยที่เสิ่

Latest chapter

  • เสพติดรัก   บทที่ 40

    “ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก

  • เสพติดรัก   บทที่ 39

    ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น

  • เสพติดรัก   บทที่ 38

    ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

  • เสพติดรัก   บทที่ 37

    คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 36

    “คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 35

    ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ

  • เสพติดรัก   บทที่ 34

    ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื

  • เสพติดรัก   บทที่ 33

    “หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม

  • เสพติดรัก   บทที่ 32

    เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status