แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: มู่อันอัน
“เธอบอกว่ามีคนจะฆ่าเธอไม่ใช่หรือไง? ฉันเลยมาดูให้แน่ใจว่าเธอตายหรือยัง” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียเย้ยหยัน

เสิ่นเหมียนกำโทรศัพท์ในมือแน่น พูดทีละคำออกไปอย่างชัดเจน “ฉันดวงแข็ง ไม่ตายง่าย ๆ หรอก!”

เธอกดวางสาย บล็อกเบอร์ของเขาต่อทันที

*

ขณะนี้ ณ ห้องพักผู้ป่วยวีไอพี ในโรงพยาบาลใต้สังกัดช่วงซื่อกรุ๊ป เวินเจี่ยนกำลังนั่งเอนหลังอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าของเธอซีดขาว ท่าทางดูอ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงราวกับว่าแค่ถูกลมพัดเธอก็ปลิวได้แล้ว

เจียงฉีหานกำโทรศัพท์ไว้ในมือ สีหน้าดูคลุมเครือยากจะคาดเดา

เวินเจี่ยนกระวนกระวายใจ เอ่ยปากออกไปอย่างระแวดระวัง “ฉีหาน เสิ่นเหมียน เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เจียงฉีหานเก็บโทรศัพท์ “เธอไม่เป็นอะไรหรอก!”

เวินเจี่ยนแอบด่าเสิ่นเหมียนอยู่หลายคำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นายกลับไปอยู่กับเธอเถอะ ที่นี่มีทั้งหมอทั้งพยาบาลอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”

เจียงฉีหานมีสีหน้าราบเรียบ “นอนเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะนอนเฝ้าไข้เธออยู่ที่นี่เอง”

เวินเจี่ยนลอบปลื้มปีติอยู่ในใจ แต่กลับทำสีหน้าลำบากใจ “ถ้าคืนนี้นายไม่กลับไปละก็ พรุ่งนี้เสิ่นเหมียนต้องไปฟ้องคุณปู่แน่ ๆ คุณปู่สุขภาพไม่ค่อยดี จะให้ท่านโกรธไม่ได้นะ!”

“เลิกพูดได้แล้ว รีบนอนซะ!”

วินเจี่ยนกัดปากเล็กน้อย จ้องมองเขา “นายจะอยู่กับฉันจริง ๆ เหรอ?”

“อืม! นอนเถอะ!”

*

เช้าวันต่อมา เสิ่นเหมียนลืมตาตื่นก็พบเข้ากับสีหน้าโกรธเคืองของเซิ่งเซี่ย เลยอดแปลกใจไม่ได้ “ทำไมเธอถึงได้โมโหอะไรแต่เช้าขนาดนี้ล่ะ!”

เซิ่งเซี่ยยื่นโทรศัพท์ให้ “เหอะ! ยัยเวินเจี่ยนหน้าด้านนัก ถึงกับซื้อฮอตเสิร์ชเชียว”

เสิ่นเหมียนมองหน้าจอโทรศัพท์ หัวข้อก็คือ ‘ช็อก! ดูเหมือนว่านักเต้นชื่อดังจะท้อง หน้าคู่หมั้นปรากฏตัวแล้ว’

พอกดหัวข้อดู ก็เห็นใบอัลตร้าซาวด์ใบหนึ่งพร้อมกับรูปที่เจียงฉีหานอุ้มเวินเจี่ยนออกจากเสี่ยวเจียงหนาน

นาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์บนข้อมือของชายคนนั้นมันช่างทิ่มแทงตาเหลือเกิน

ทั่วทั้งเมืองหลวง มีแค่เจียงฉีหานคนเดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครอง

ขอบตาของเสิ่นเหมียนร้อนผะผ่าวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เหมือนมีคนเอามีดมาคว้านหัวใจออกไปทีละนิด ๆ เจ็บปวดแทบขาดใจ

ต่อให้ตัดสินใจแล้วว่าจะหย่าขาดกับเจียงฉีหาน แต่สุดท้ายแล้วก็รักเขามาตั้งเก้าปีเต็ม จะเก็บความรู้สึกนี้ไปทันทีได้อย่างไร

เซิ่งเซี่ยเห็นเธอมีท่าทางเจ็บปวด เลยตีตัวเองอย่างแรง “ขอโทษนะเหมียนเหมียน ฉันลืมไปเลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ไม่ควรบอกเธอเลย!”

ยังไม่ทันที่เสิ่นเหมียนจะพูดอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

เห็นเบอร์โทรศัพท์ไม่คุ้นตา เสิ่นเหมียนคิดอยากจะตัดสาย แต่ก็กลัวว่าจะเป็นลูกความที่โทรเข้ามา เลยได้แต่กดรับสาย

สุดท้ายเพิ่งรับสายโทรศัพท์ก็ได้ยินเจียงฉีหานแผดเสียงใส่ “เสิ่นเหมียน เป็นเพราะเมื่อคืนนี้ฉันอยู่เฝ้าเวินเจี่ยนที่โรงพยาบาลทั้งคืน เธอเลยซื้อฮอตเสิร์ชใส่ร้ายเวินเจี่ยนสินะ? จะมากเกินไปหรือเปล่า!”

เสิ่นเหมียนกดความรู้สึกของตัวเองไว้ แล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันไม่ได้ทำ!” เธอไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปใช้วิธีต่ำช้าทำลายเวินเจี่ยน

“เธอไปแก้ข่าวเดี๋ยวนี้เลยนะ บอกว่าเธอทะเลาะมีปากเสียงกับฉันเลยจงใจซื้อฮอตเสิร์ชใส่ร้ายเวินเจี่ยน! ไว้เธอแก้ข่าวแล้ว ฉันจะตกลงยอมหย่ากับเธอ!” ชายคนนั้นพูดออกมาโดยไม่มีเยื่อใยเลยแม้แต่คำเดียว

เสิ่นเหมียนขอบตาแดงก่ำ พยายามระงับความรู้สึกของตัวเองเอาไว้สุดชีวิต “เจียงฉีหาน นี่นายบ้าหรือไง! ไม่ถามอะไรสักคำก็ให้ฉันไปแก้ข่าวแล้ว นายอยากจะทำลายฉันใช่ไหม!”

ถ้าเธอยอมรับว่าซื้อฮอตเสิร์ชเพื่อสร้างข่าวลือเรื่องเวินเจี่ยน ที่เธอจะต้องเจอไม่ใช่แค่เพียงถูกไล่ออกจากสำนักกฎหมายเท่านั้น แต่เธอจะต้องเผชิญกับเวินเจี่ยนที่กล่าวหาว่าเธอสร้างข่าวลือด้วย

ไม่พ้นวันนี้ เธอจะต้องกลายเป็นคนชั่วช้าที่ทุกคนตะโกนด่าแน่นอน

ทนายฟ้องหย่ามือทองแห่งเมืองหลวง จะต้องกลายเป็นขี้ปากให้คนอื่นหัวเราะแน่!

เจียงฉีหานโหดเหี้ยมนัก!

“มีแค่เธอที่รู้เรื่องเวินเจี่ยนท้อง พอเช้าวันนี้ก็มีใบอัลตร้าซาวด์ของเวินเจี่ยนว่อนไปทั่วแล้ว ถ้าไม่ใช่เธอแล้วมันจะใคร!” เจียงฉีหานแค่นหัวเราะเย็นชาพลางถามกลับ

เสิ่นเหมียนฝืนอดทนต่อความเจ็บปวด กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องที่เธอท้องมีกี่คนที่รู้ มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ เจียงฉีหาน ฉันไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้! คิดจะให้ฉันเป็นแพะรับบาปงั้นเหรอ ไม่มีทาง!”

เมื่อคืนมีเรื่องอุบัติเหตุทางรถ เช้านี้มีเรื่องขึ้นฮอตเสิร์ช เธอกล้าพูดเลยว่าเป็นเวินเจี่ยนที่ลงมือทำทั้งนั้น!

คิดจะให้เธอเป็นแพะรับบาปงั้นเหรอ? ฝันหวานไปเถอะ!

“เสิ่นเหมียน ทางที่ดีเธอไปทำตามอย่างที่ฉันบอกซะ ไม่งั้นสตูดิโอของเพื่อนรักเธอได้พังแน่ ยายของเธอก็จะถูกตัดขาดการรักษาทันที!” คำพูดของเจียงฉีหานช่างโหดร้ายสิ้นดี

เสิ่นเหมียนรู้สึกเหมือนหัวใจถูกมีดแทง

เรื่องฆ่าคนแล้วทำร้ายจิตใจซ้ำเติม!

เจียงฉีหานทำมันได้จริงๆ!

“ฉันให้เวลาเธอคิดแค่ช่วงเช้าเท่านั้น!” เจียงฉีหานพูดจบก็วางสายไป

เสิ่นเหมียนกำโทรศัพท์แน่น น้ำตาคลอเคล้าอยู่ในกระบอกตา

เซิ่งเซี่ยมองเธอที่ทำตัวเข้มแข็งแล้ว เจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน เซิ่งเซี่ยอ้าแขนกอดเธอไว้ ยิ้มไปยิ้มมาน้ำตาก็ไหลออกมา แอบตัดสินใจครั้งใหญ่อยู่ในใจ

เมื่อระงับอารมณ์แล้ว เซิ่งเซี่ยก็ดันตัวเธอออกเบา ๆ แล้วพูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เหมียนเหมียน เธอไปล้างหน้าล้างตาก่อน ฉันจะกลับไปสตูดิโอสักหน่อย”

เสิ่นเหมียนมองเธอแล้วพยักหน้าให้ “เธอไปเถอะ ถ้ายุ่งก็ไม่ต้องมานะ”

เซิ่งเซี่ยเปิดสตูดิโอออกแบบเครื่องประดับ ช่วงนี้ได้รับคำสั่งซื้อมาหลายชุด ต้องยุ่งมากแน่นอน เธอไม่อยากให้เซิ่งเซี่ยเสียเวลาทำงาน

“งั้นฉันไปนะ” เซิ่งเซี่ยกอดเสิ่นเหมียนอีกครั้งแล้วจึงออกไป

เสิ่นเหมียนเพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของซางอู่ จู่ ๆ หนังตาเธอก็กระตุกถี่ยิบ

สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกดรับสาย เสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดของเซิ่งเซี่ยดังลอดเข้ามา

“เจียงฉีหาน นายมันผู้ชายเฮงซวยหน้าไม่อาย อยากจะฆ่าจะแกงกันก็มาหาฉันสิ! ไปลงที่เหมียนเหมียนทำไม! เมื่อคืนวานเหมียนเหมียนเกือบจะ...” เสิ่นเหมียนตกตะลึง รีบพูดออกไปทันที “ให้เจียงฉีหานมารับสายเดี๋ยวนี้!”

“รอสักครู่นะครับ!” ซางอู่เพิ่งพูดจบ น้ำเสียงเย็นชาของผู้ชายก็ดังลอดเข้ามา “คุณผู้หญิงเจียงบงการให้เพื่อนสนิททำร้ายเวินเจี่ยน ฉันแจ้งความไปแล้ว ถ้าคุณผู้หญิงเจียงมีอะไรจะพูดถึงตอนนั้นก็ค่อยไปพูดกับตำรวจแล้วกัน!”

เสิ่นเหมียนได้ยินเจียงฉีหานบอกว่าแจ้งความแล้ว ก็ตกใจจนอกสั่นขวัญหาย เธอระงับอารมณ์ไว้แล้วถึงเอ่ยปากไปว่า “ในเมื่อนายบอกว่าฉันเป็นคนบงการ งั้นก็ปล่อยเซิ่งเซี่ยซะ ฉันจะไปสถานีตำรวจกับนาย”

เธอรู้ดี บทจะโหดเจียงฉีหานก็ทำตัวได้โหดเหี้ยมจริงๆ

เธอยอมรับผิดชอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ขอแค่ทำให้เซิ่งเซี่ยหนีออกมาจากตรงนั้นได้ก็พอ ไม่อย่างนั้นสตูดิโอเล็ก ๆ ของเซิ่งเซี่ยได้ถูกเจียงฉีหานทำลายทิ้งแน่

นั่นน่ะเป็นน้ำพักน้ำแรงของเซิ่งเซี่ย

ถ้าไม่มีมันแล้ว เธอจะต้องเป็นบ้าตายแน่

เจียงฉีหานหัวเราะเสียงเย็น “งั้นก็เอาอย่างที่คุณผู้หญิงเจียงว่า!” หลังจากนั้นก็โยนโทรศัพท์ให้ซางอู่ “ปล่อยเธอไป ส่วนนายไปรับเสิ่นเหมียนไปส่งที่สถานีตำรวจ!”

เซิ่งเซี่ยได้ยินเข้าก็ถึงกับร้อนรน พูดออกไปทันทีว่า “เมื่อคืนเหมียนเหมียนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย นายจะพาเธอไปสถานีตำรวจไม่ได้!”

เดิมทีเธอคิดอยากจะบอกเรื่องที่เหมียนเหมียนท้องกับเขา แต่ตอนนี้เธอไม่อยากบอกแล้ว

ผู้ชายเฮงซวยอย่างเจียงฉีหานน่ะ ไม่แน่ว่าอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ว่าเหมียนเหมียนท้อง แถมยังบังคับให้เหมียนเหมียนทำแท้งอีก!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสพติดรัก   บทที่ 4

    เจียงฉีหานเม้มปาก ดวงตาดำล้ำลึกมองเซิ่งเซี่ย “เธอเกิดอุบัติเหตุ?”จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเมื่อคืนนี้ที่เสิ่นเหมียนโทรศัพท์มาหาถ้าเป็นเรื่องจริง...ณ ตอนนี้ ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกผลัก เสิ่นเหมียนเดินเข้ามาจากด้านนอก ไอเย็นชโลมไปทั่วทั้งตัวพอเวินเจี่ยนเห็นเสิ่นเหมียน ความเย็นชาพลันปรากฏอยู่ในดวงตา แต่ไม่นานนักก็หายไป เธอพูดขึ้นอย่างร้อนรน “เพิ่งได้ข่าวว่าเธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ รีบมาให้ฉันดูเร็วว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง หนักหรือเปล่า!” แสดงท่าทีราวกับว่าเธอเป็นห่วงเสิ่นเหมียนมากแค่ไหนดวงตาของเจียงฉีหานมืดครึ้มเสิ่นเหมียนถึงกับรวมหัวกับเพื่อนรักมาหลอกเขาเสิ่นเหมียนเดินมาลากตัวเซิ่งเซี่ยไปด้านหลัง “เธอกลับไปก่อน ปล่อยให้ฉันจัดการที่นี่เอง!”เซิ่งเซี่ยรีบพูดกับเธอ “ฉันไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ นะ เธอตบตัวเอง!”เสิ่นเหมียนตัดบทคำพูดของเธอ “ฉันรู้แล้ว เธอไปก่อนเถอะ!”ตอนนี้เธอไม่แน่ใจเลยว่าเจียงฉีหานอยู่ในสภาพอารมณ์แบบไหน เซิ่งเซี่ยอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์เซิ่งเซี่ยกัดปาก เดินออกไปทั้งที่ขอบตาแดงก่ำซางอู่มองเจียงฉีหานเล็กน้อย แล้วออกไปจากห้องพักผู้ป่วยเช่นกันไม่นานนักภายในห้องพักผ

  • เสพติดรัก   บทที่ 5

    เสิ่นเหมียนจ้องดวงตาของเจียงฉีหานอยู่พักใหญ่ แล้วจึงยิ้มออกมาพลางพูดว่า “เสียสละทุกอย่างของฉันเพื่อเธอ นายเลิกคิดไปได้เลย! แล้วอีกอย่างนะ สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกก็คือ เจียงฉีหาน ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะหย่า ถ้านายมีว่างแล้วก็ไปสำนักงานกิจการพลเรือน แลกหนังสือสำคัญกัน ก็ไม่ได้เสียเวลามากเท่าไร!”รอยยิ้มบนใบหน้าสวยงามแค่ไหน ในใจยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้นเธอรู้มาตลอดว่าเจียงฉีหานเข้าข้างเวินเจี่ยนเสมอ เพียงแต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะลำเอียงได้ขนาดนี้อยากให้เวินเจี่ยนเหยียบหัวเธอขึ้นไปอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!“อยากหย่า งั้นก็แก้ไขเรื่องฮอตเสิร์ชของเวินเจี่ยนซะก่อน แล้วฉันจะทำให้เธอสมปรารถนา! ถ้ารอให้ฉันลงมือก็คงไม่ง่ายดายอย่างให้เธอไปแก้ข่าวแล้วละ!” ความโกรธเกรี้ยวแล่นอยู่ในใจของเจียงฉีหาน เขาตอบกลับไปโต้ง ๆ โดยไม่เสียเวลาคิดสำหรับเขาแล้ว ที่เสิ่นเหมียนขอหย่าก็เป็นแค่อีกอุบายหนึ่งที่เธอเอามาเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้นเขาไม่เชื่อหรอกว่าเสิ่นเหมียนจะหย่ากับเขาจริงๆ!เพราะอย่างไรแล้ว ตอนนั้นเสิ่นเหมียนก็ใช้เล่ห์กลเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขาอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้น ตลอดสามปีที่แต่งงานกัน เสิ่นเหมี

  • เสพติดรัก   บทที่ 6

    เมื่อได้ยินเสียงนี้ ซางอู่ก็รีบเลื่อนกระจกกั้นกลางขึ้นทันทีเจียงฉีหานมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน ราวกับถูกมนต์สะกด เขาก้มลงประทับจูบที่ริมฝีปากของเธอภาพเหตุการณ์ในห้องผู้ป่วยวันนี้ที่เจียงฉีหานจูบเวินเจี่ยนแวบเข้ามาในหัวของเสิ่นเหมียนทันที ทำให้เธอรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องผลักเจียงฉีหานออก ก่อนจะใช้มือปิดปากและทำท่าจะขย้อนออกมาเสียงราวกับคลื่นไส้ของเธอทำให้สีหน้าของเจียงฉีหานมืดมนลงทันที“เสิ่นเหมียน! นี่เธอหมายความว่าอะไร!”เขาจูบเธอ แต่เธอกลับจะอาเจียนออกมาอย่างนั้นเหรอ?เสิ่นเหมียนรีบหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่แดงก่ำของเธอจ้องมองไปทางเจียงฉีหาน “พวกเราจะหย่ากันแล้ว ทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม!”เจียงฉีหานยื่นมือไปเชยคางของเธอขึ้น ก่อนจะบังคับให้เธอจ้องตาเขา “เรื่องที่เธอสัญญายังทำไม่สำเร็จเลยไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ยังพูดเรื่องหย่าไม่ได้”เสิ่นเหมียนจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา แล้วแค่นยิ้มเบา ๆ “ก่อนฟ้าสางวันพรุ่งนี้ ฉันจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอน”ที่เจียงฉีหานรีบร้อนอยากจะล้างมลทินให้เวินเจี่ยน ก็เพราะเธอเคยได้รับรางวัล และยืนโดดเด่นบนเวทีจนเป็

  • เสพติดรัก   บทที่ 7

    พี่สะใภ้ใหญ่สนิทสนมกับลุงรองขนาดนี้ ไม่กลัวว่าจะเป็นขี้ปากชาวบ้านบ้างเลยซางอู่พยายามจะขวางทางพ่อบ้าน แต่ก็พบว่าเสิ่นเหมียนที่นั่งอยู่เบาะหลังได้เปิดประตูลงจากรถไปแล้วเมื่อครู่ ตอนที่ได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านพูด เธอก็เดาได้ทันทีว่า ต้องเป็นเพราะการปรากฏตัวของเวินเจี่ยนที่ทำให้ผู้อาวุโสเจียงโกรธจนเป็นลมก่อนหน้านี้ เธอก็เคยเตือนเจียงฉีหานไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เชื่อเธอตอนนี้คุณปู่เป็นลมไปแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เจียงฉีหานจะรู้สึกยังไงหรือบางทีเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้เพราะยังไงซะ นอกจากเวินเจี่ยน เขาก็ไม่เคยเป็นห่วงใครอยู่แล้วเมื่อพ่อบ้านเห็นเสิ่นเหมียน เขาก็ยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก จนพูดเสียงดังขึ้นอีกหลายระดับโดยไม่รู้ตัว “คุณผู้หญิง รีบตามผมมาเถอะ!”เสิ่นเหมียนรีบก้าวเท้าไปข้างหน้า ขณะเดินก็เอ่ยถามขึ้น “โทรหาหมอประจำตระกูลหรือยัง?”“โทรแล้วครับ น่าจะอีกยี่สิบนาทีกว่าจะมาถึง”“เปิดหน้าต่างระบายอากาศหรือยัง?”“เปิดหมดทุกบานแล้วครับ”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเพิ่มความเร็วในการก้าวเท้าเล็กน้อยทันทีที่เดินเข้าไปในโถงทางเข้า เสียงสะอื้นแผ่วเบาของเวินเจี่ยนก็ลอยเข้ามาข้างหูเธอเสิ

  • เสพติดรัก   บทที่ 8

    คุณท่านอาวุโสเจียงโมโหจนเกือบจะตายคาที่เจียงฉีหานเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจว่าเป็นคนฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแต่ทำไมทุกครั้งที่พูดถึงเวินเจี่ยน กลับรู้สึกว่าเขาดูเหมือนคนที่ไม่พกสมองออกจากบ้านมาด้วยเสิ่นเหมียนตักซุปมาหนึ่งถ้วย และวางลงตรงหน้าผู้อาวุโสด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณปู่ ทานซุปหน่อยนะคะ”ผู้อาวุโสเจียงยื่นมือออกมารับถ้วยซุป ก่อนจะยกขึ้นดื่มไปหนึ่งคำ ความหงุดหงิดในใจจึงคลายลงไปได้บ้าง เขาวางถ้วยลง ก่อนจะหันไปมองเจียงฉีหานด้วยสายตาจิกกัด แล้วพูดขึ้น “ในเมื่อแกถามมาขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็จะตอบให้แกฟัง”“ทุกครั้งที่ยัยหนูเหมียนเหมียนมาที่นี่ทีไร เธอก็จะลงมือเข้าครัวทำอาหารให้ฉันเองทุกครั้ง เธอยังรู้อีกว่าฉันชอบกินอะไร และถ้ากินปลากัน เธอก็จะยังบรรจงแกะก้างออกให้ฉันด้วย เธอใส่ใจดูแลฉันทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด!”“แล้วเธอล่ะ? ทุกครั้งที่มาถึงก็จะนั่งบนโซฟา ทำตัวเป็นคุณผู้หญิงใหญ่ของบ้าน สั่งให้พวกคนใช้คอยประคบประหงมตัวเอง พวกคนใช้ต้องวิ่งวุ่นกันทั้งบ้านเพื่อเอาใจเธอ แล้วใครล่ะที่จะมาดูแลฉัน!”พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสก็ดูแย่ลงเป็น

  • เสพติดรัก   บทที่ 9 

    เจียงฉีหานถูกเสียงหวานกระเซ่าของเธอยั่วจนใจสั่น สองมือโอบรัดเอวของเธอแน่นขึ้น เขากดเธอเข้ามาในอ้อมอก ราวกับต้องการจะกดเธอให้กลืนหายเข้าไปในร่างของเขา“เสิ่นเหมียน เธอเองก็คิดถึงฉันใช่ไหม? ไหน เรียกฉันว่าสามีให้ฟังหน่อย”สามปีที่ทั้งสองแต่งงานกัน พวกเขาแทบจะมีอะไรกันวันเว้นวัน จะปลุกเร้าเสิ่นเหมียนยังไง หรือจะทำยังไงให้เธอรู้สึกดีที่สุด เจียงฉีหานรู้แจ่มแจ้งอยู่แก่ใจเพราะแบบนี้ เขาจึงสามารถปลุกเร้าให้เธออ่อนไหวได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วทุกครั้ง และบางครั้งเธอถึงกับอดรนทนไม่ไหว ร้องขอให้เขามอบสัมผัสมากกว่านี้ด้วยตัวเองเขาไม่ได้แตะต้องเสิ่นเหมียนมาแล้วสองวัน แน่นอนว่าเขาอยากทำมากและตอนนี้ ผู้หญิงตัวนุ่มนิ่มกำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางคิดที่จะปล่อยเธอไปอีกอย่าง เขายังไม่เคยลองทำแบบกลางแจ้งเลย เขาอยากลองดูสักครั้งเสิ่นเหมียนกัดริมฝีปากแน่น เพราะไม่อยากให้ตัวเองส่งเสียงที่น่าอายออกมาเจียงฉีหาน ชายหนุ่มที่ภายนอกดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง แต่กลับมีรสนิยมประหลาดตอนอยู่บนเตียงคือ เขาชอบจงใจแกล้งเธอ ชอบทำให้เธอไม่สุขสมดั่งปรารถนา และชอบบังคับให้เธอเรียกเขาว่าสามีที่บ้านไม่

  • เสพติดรัก   บทที่ 10

    เวินเจี่ยนโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า “เสิ่นเหมียนเรียกคุณนะ รีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน!”“ให้คนขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก่อน ไม่นานเดี๋ยวฉันจะตามไป” จากนั้นเจียงฉีหานก็อุ้มเวินเจี่ยนขึ้นรถ แล้วสั่งให้คนขับออกรถไปทันทีเวินเจี่ยนนั่งอยู่ในรถ มองร่างของเจียงฉีหานที่ค่อย ๆ ไกลออกไป สองมือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกันตาแก่ตายยากนั่น!ต้องมีสักวันที่ฉันจะเห็นแกตายไปต่อหน้ากับตาตัวเอง!หลังจากส่งเวินเจี่ยนขึ้นรถ เจียงฉีหานก็เดินกลับเข้าบ้านในห้องรับแขก เสิ่นเหมียนกำลังนั่งกินผลไม้อยู่บนโซฟา ขณะที่ลุงจงนั่งคุยกับเธออยู่ข้าง ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลายเจียงฉีหานหยุดฝีเท้าไปครู่หนึ่งเสิ่นเหมียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนในคฤหาสน์ประจำตระกูลหลังนี้ แต่ทำไมกลับเป็นศัตรูกับเวินเจี่ยนอยู่ตลอด?เมื่อเห็นเจียงฉีหาน เสิ่นเหมียนก็หยิบผลไม้เข้าปาก ก่อนจะชี้ไปที่ชั้นสอง “คุณปู่รอนายอยู่ในห้องหนังสือ”เธอไม่รู้ว่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกับเจียงฉีหานและเธอเองก็ไม่ได้สนใจลุงจงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าลงทันที ก่อนจะเดินไปอยู่ตรงหน้าเจียงฉีหาน “คุณชายรอง เชิญมากับผมครับ”คุณผู้หญิงทั้งอ่อน

  • เสพติดรัก   บทที่ 11

    ผู้อาวุโสเจียงส่งเสียงหึออกมา “ฉันไม่เดิมพันกับแกหรอก! ถ้ายัยหนูเสิ่นไม่ต้องการแกแล้ว ก็อย่าคิดกลับมาหาฉัน!​ มันขายหน้า!”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทางประตูเจียงฉีหานคิดเอาเองว่าเสิ่นเหมียนไม่มีทางไปไหน และไม่มีวันที่เขาจะเสียใจ!เจียงฉีหานเลิกคิ้วขึ้น หยิบซองเอกสาารขึ้นมาแล้วเดินตามออกไปเสิ่นเหมียนที่อยู่นอกประตูลงมาข้างล่างตั้งนานแล้วเมื่อลุงจงเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเธอก็กังวลเล็กน้อย “คุณผู้หญิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ? สีหน้าดูไม่ดีเลย”เสิ่นเหมียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ถ้อยคำเหล่านั้นที่เจียงฉีหานพูดเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกถึงหัวใจ แล้วเธอจะมีสีหน้าดีได้อย่างไร“คุณนั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปรินน้ำมาให้” ลุงจงพูดจบก็รีบไปรินน้ำมาให้เธอผู้อาวุโสเจียงกับเจียงฉีหานลงมา เห็นเสิ่นเหมียนนั่งอยู่ตรงนั้น ผู้อาวุโสเจียงเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ข้างนอกอากาศเริ่มเย็น พวกแกไม่ต้องกลับหรอก อยู่ค้างที่นี่แหละ ทุกห้องทำความสะอาดไว้หมดแล้ว ผ้าห่มก็สะอาดเอี่ยมอ่อง รีบขึ้นไปพักข้างบนเถอะ”เขาคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ทั้งสองคนเผื่อนอนด้วยกันแล้วจะตั้งท้องขึ้นมา“พรุ่งนี้หน

บทล่าสุด

  • เสพติดรัก   บทที่ 40

    “ไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายที่มาใหม่เป็นใคร ทำซะลึกลับมาก แต่ว่าไม่รีบ พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นตัวจริงแล้ว!”“ฉันยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีก ว่าเจ้านายที่มาใหม่รับซื้อหัวเหิงเพื่อเป็นของขวัญมอบให้ว่าที่คู่หมั้น! ไม่ลงรอยปุ๊บก็ส่งมาที่สำนักงานกฎหมายเลย! การเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายนี่มันโชคดีจริงๆ!”“พี่เสิ่น พี่หน้าตาดีขนาดนี้ ต่อไปคงจะหาสามีที่ร่ำรวยได้แน่นอน”เสิ่นเหมียนเม้มริมฝีปาก หลินม่านพูดถูกแล้ว เธอหาสามีที่ร่ำรวยพบแล้วจริงแต่ว่าสามีของเธอไม่รักเธอ“จริงสิพี่เสิ่น คืนนี้กินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร เวลาจองเป็นตอนหกโมงเย็น เมื่อกี้ฉันมัวแต่คุยเล่นกับพี่จนเกือบลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปซะแล้ว!”เสิ่นเหมียนค่อนข้างอิจฉาในความมองโลกในแง่ดีและความร่าเริงของหลินม่าน อยู่สำนักกฎหมายมาสองปี ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังทุกวันเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปีเองแท้ ๆ แต่กลับเคยสัมผัสถึงความผ่านร้อนผ่านหนาวของมนุษย์โลก สภาพจิตใจก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว“พี่เสิ่น พี่อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” หลินม่านถามอย่างสงสัย “ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่าเจ้านายคนใหม่จะต้องเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้พวก

  • เสพติดรัก   บทที่ 39

    ถ้าเจียงฉีหานกระทำรุนแรงจนทำร้ายเด็กจะทำอย่างไร?เจียงฉีหานเห็นท่าทางราวกับผู้หญิงที่รักษาพรหมจรรย์ของเธอ ความโกรธที่อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น “เสิ่นเหมียน พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน ทำไมฉันจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้แล้ว!”เสิ่นเหมียนหายใจเข้าลึก ๆ และเบิกตากว้างมองเขา “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรก!”มีลูกกับเวินเจี่ยนแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะแตะต้องตัวเธออีก!เจียงฉีหานหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง อ้าปากและกัดเข้าที่ติ่งหูอันอวบอิ่มของเธอ “เธอบอกว่าฉันสกปรกฉันก็จะทำกับเธอ!”เสิ่นเหมียนหัวใจกระตุกวูบ และกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าคุณไม่พอใจเพราะเวินเจี่ยนท้อง ฉันช่วยคุณหาคนอื่นได้ รับรองว่าสะอาด!” พูดจบ ในหัวของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันเรื่องที่เจียงฉีหานเคยทำกับเธอ ก็เคยทำกับเวินเจี่ยนเช่นเดียวกัน!คิด ๆ ดูก็รู้สึกขยะแขยง!อารมณ์โกรธในตัวเจียงฉีหานนั้นรุนแรงมาก “คุณผู้หญิงเจียงใจกว้างแบบนี้ ฉันควรชื่นชมที่เธอรู้จักคิด และรู้ว่าเมื่อไรควรรุกเมื่อไรควรรับด้วยไหม?”เสิ่นเหมียนหันหน้าหนี “ฉันแค่คิดแทนคุณเท่านั้น”ยังมีอีกคือ เธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาเจียงฉีหานส่งเสียงในลำคอ และใช้น

  • เสพติดรัก   บทที่ 38

    ร่างกายกระแทกกับโต๊ะประชุม จนรู้สึกเจ็บเสิ่นเหมียนเจ็บจนขอบตาแดงเจียงฉีหานโน้มตัวเข้ามากดทับ และยื่นมือยกปลายคางของเธอเชิดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยแววกระหายเลือด “เธอนอบกับฉันหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เธอก็พาคนมาเคาะประตูโรงแรม แถมยังหยิบรูปภาพที่ถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายข่มขู่ให้ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเอารูปภาพไปเปิดเผยต่อสาธารณะ!”“ฉันรับปากจะแต่งงานกับเธอ ตระกูลเสิ่นขอสินสอดแล้วห้าสิบล้าน แต่งงานสามปี ฉันลงทุนในบริษัทของตระกูลเสิ่นไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน ยังมีค่าใช้จ่ายที่ยายเธออยู่โรงพยาบาลอีก ฉันยังอ้างว่าทำวิจัยด้วยร่างกายที่ป่วยของเธอจึงลดค่ารักษาลงครึ่งหนึ่ง”“หลังแต่งงาน ทำอาหาร ซักผ้าให้สามี ดูแลสามีในเรื่องอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนควรทำไม่ใช่เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวเธอเอาเงินฉันไปเยอะขนาดนั้น แถมยังได้รับผลประโยชน์จากฉันไปมากขนาดนั้นอีก เธอดูแลฉันอย่างดีไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเหรอ?”“แต่งงานสามปีเธอล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้ได้ยินว่าฟู่จือกุยกลับมาเธอก็พยายามทุกวิถีทางเพื่ออยากจะหย่ากับฉัน! อยากจะหย่ากับฉันแล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

  • เสพติดรัก   บทที่ 37

    คิ้วโค้งเรียวของเจียงฉีหานเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มที่ล้ำลึกตกไปอยู่บนใบหน้าของเสิ่นเหมียนนี่เป็นความคิดของผู้หญิงคนนี้เหรอ?เสิ่นเหมียนสบตาเข้ากับเจียงฉีหาน ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย!”คุณปู่พูดแบบนี้ เจียงฉีหานคงจะคิดว่าเป็นความคิดของเธออย่างแน่นอนตอนที่เพิ่งแต่งงานกับเจียงฉีหานเมื่อสามปีก่อน เธอยังคงอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการเธอรักเจียงฉีหาน แน่นอนว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วแต่ในคืนวันแต่งงาน เจียงฉีหานพ่นประโยคหนึ่งออกมาว่า “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกันฉันไม่อยากให้ใครรู้! เธอก็ระวังด้วย!”หลังจากนั้นก็จากไปแล้วคืนวันนั้น จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้กลับมาในคืนแต่งงานของพวกเขา เธอผ่านมาด้วยการอยู่ในที่ห้องว่างเปล่าเพียงลำพังหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกเลยตอนนี้เธอวางแผนจะหย่าแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ถึงช่วงแต่งงานของทั้งสองถือว่าเป็นการรักษาหน้าของกันและกันบ้างแล้วกัน“อะไรคือไม่เคยคิด! ยัยหนูเหมียน เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธานของช่วงซื่อ การทำความรู้จักกับทุกคนมันผิดตรงไหน! ฉีหาน แกรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 36

    “คุณปู่ไม่เป็นไร…” เจียงฉีหานมองมั่วเฟยแวบหนึ่ง ก็เปิดปากขัดคำพูดของเธอ “ผมจะให้ซางอู่ส่งคุณกลับไป”ตอนนี้คุณปู่เป็นแบบนี้ การโอนหุ้นคงทำไม่ได้แล้วอย่างแน่นอน“รอคุณปู่ฟื้นขึ้นมาฉันก็จะกลับ ไม่อย่างนั้นฉันไม่วางใจ” เสิ่นเหมียนยังคงกังวลต่อสุขภาพของคุณท่านอาวุโส เมื่อไม่เห็นกับตาให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร เธอก็คงรู้สึกไม่สบายใจดวงตาสีเข้มของเจียงฉีหานหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอนานมาก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากและไม่ได้พูดอะไรสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาคงกำหนดนิสัยของเขาให้เย็นชาใส่ทุกคนคงไม่ใช่เพราะเสิ่นเหมียนเป็นภรรยาของเขา เขาถึงจะกระตือรือร้นต่อเธอเช่นกัน“ถึงผู้อาวุโสจะฟื้นก็ไม่มีทางโอนหุ้นให้เธอ กลับไปซะ!” มั่วเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเสิ่นเหมียนไม่ได้สนใจเธอนี่คือห้องทำงานของเจียงฉีหาน ตราบใดที่เจียงฉีหานไม่เอ่ยปากไล่เธอ เธอจะไม่สนใจก็ได้มั่วเฟยเห็นเสิ่นเหมียนไม่สนใจเธอก็โมโห แต่เจียงฉีหานอยู่ ถึงเธอจะโมโหก็ไม่กล้าระบายออกมา “ซางอู่ เชิญคุณนายเจียงกลับไป!” เจียงฉีหานใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็ดูเรี

  • เสพติดรัก   บทที่ 35

    ก่อนที่เธอจะมาเพื่อคืนกำไลข้อมือก็โทรศัพท์ไปหาแม่สามี ตอนนี้แม่สามีน่าจะขึ้นไปแล้ว ถ้าเจียงฉีหานขึ้นไปอีก จะไม่ทำลายแผนการใหญ่ของแม่สามีเหรอ!ไม่ได้ เจียงฉีหานไปไม่ได้!เจียงฉีหานหันหน้ามา สายตาตกไปอยู่ที่มือของเธอ แฝงไปด้วยความเย็นชาจนถึงกระดูกอยู่หลายส่วน “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าสุขภาพไม่ดีก็พักผ่อนอยู่ในบ้าน! อย่าวิ่งไปทั่ว! เด็กเป็นคนที่เธอต้องคลอดออกมา เธอจะต้องมีความรับผิดชอบต่อเด็ก! เข้าใจไหม?”เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเวินเจี่ยนตกใจจนชักมือกลับ กัดริมฝีปาก น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา “ฉันแค่กังวลว่าเสิ่นเหมียนกับนายจะทะเลาะกัน เลยตั้งใจเข้ามาคืนกำไลข้อมือให้นาย ไม่ได้จะไม่ทะนุถนอมสุขภาพของตัวเองเลย”“ต่อไปอยากจะรู้อะไรโทรศัพท์มาหาฉันโดยตรง อย่าทำให้ซางอู่ลำบากใจ!” คำพูดของเจียงฉีหานตรงไปตรงมามาก ไม่มีการรักษาน้ำใจให้เธอเลยเวินเจี่ยนเคยช่วยชีวิตเขา จึงรู้สึกขอบคุณเวินเจี่ยน ปกติก็ยอมอ่อนข้อให้เวินเจี่ยน แต่จะไม่ยอมทนให้เวินเจี่ยนแตะต้องขอบเขตของเขาอย่างเด็ดขาด!เวินเจี่ยนหัวใจตื่นตระหนก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดในชั่วพริบตาก่อนเธอจะเข้าบริ

  • เสพติดรัก   บทที่ 34

    ได้ยินคำพูดของคุณปู่เจียง มั่วเฟยรู้สึกเหมือนพลังงานทั้งหมดจู่ ๆ ก็ถูกดึงออกไป ไม่มีชีวิตชีวาเลย“การตายของเจ๋อเฉิงเป็นความผิดของฉันเอง! เป็นฉันที่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเอง!”เธอพูดพึมพำคุณปู่เจียงเห็นจนรู้สึกหงุดหงิด จึงตะโกนว่า “รีบไปซะ อย่ามาเกาะอยู่ที่นี่! เรื่องที่ฉันตัดสินใจ แกห้ามไปก็ไร้ประโยชน์!”เจียงฉีหานอายุเกือบสิบขวบจึงจะถูกรับกลับมายังตระกูลเจียง ในระหว่างที่เขาเจริญเติบโตมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเจียงฉีหานจึงไม่ไว้ใจใคร และปฏิเสธการเข้าใกล้จากคนอื่นปีนั้นตอนเขาเห็นเสิ่นเหมียนเป็นครั้งแรกก็คิดว่า เสิ่นเหมียนจะสามารถเดินเข้าไปในใจของเจียงฉีหานได้ทั้งสองแต่งงานกันมาสามปี เจียงฉีหานไม่ได้แสดงออกถึงความใส่ใจต่อเสิ่นเหมียน แต่อย่างน้อยทุกคืนก็จะกลับมานอนที่บ้านเขาไม่ปฏิเสธเสิ่นเหมียน และยินดีเข้าใกล้เสิ่นเหมียนแต่ตอนนี้จู่ ๆ เวินเจี่ยนก็ตั้งครรภ์ เจียงฉีหานใส่ใจท่าทีของเวินเจี่ยนมากเกินไป อย่าว่าแต่คนภายนอกจะลือกันถึงความไม่ชอบมาพากลของทั้งสอง แม้แต่เขายังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นผิดปกติ เขาให้หุ้นเสิ่นเหมียน อย่างแรกคืออยากรั้งเธอไว้ อย่างที่สองคื

  • เสพติดรัก   บทที่ 33

    “หนูแต่งงานกับฉีหานมาสามปีแล้ว พวกหนูควรจะมีลูกได้แล้ว เอางี้ หนูลาออกจากงานแล้วเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ในบ้านก่อนเถอะ? รอคลอดลูกเสร็จหนูค่อยกลับไปทำงาน เป็นยังไง?“ ผู้อาวุโสคาดหวังอย่างยิ่งว่าเสิ่นเหมียนจะคลอดลูกสักคน เพราะตราบใดที่เสิ่นเหมียนมีลูก ความคิดของเจียงฉีหานก็จะถูกดึงกลับมาเสิ่นเหมียนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่ายหน้า และยังไม่ทันเปิดปาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา “คุณพ่อคะ ได้ยินว่าคุณพ่อต้องการจะโอนหุ้นของช่วงซื่อให้เสิ่นเหมียน ฉันไม่เห็นด้วย!”เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเหมียนก็เงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่สามีของเธอเดินเข้ามาจากประตูด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูอ่อนล้าเหมือนเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างที่คุณปู่เจียงใบหน้าบึ้งตึง “หุ้นของฉัน อยากจะให้ใครก็ให้คนนั้น! แกไม่เห็นด้วยแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”มั่วเฟยเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหมียน สายตาที่แหลมคมก็พิจารณาเธอไปด้วย “เสิ่นแหมียน ถ้าเธอรับหุ้นพวกนั้น เช่นนั้นก็หย่ากับฉีหาน!”เธอรู้ดีว่าเสิ่นเหมียนใส่ใจเจียงฉีหานมากแค่ไหนดังนั้นเธอจึงแน่ใจว่าเสิ่นเหมียนจะปฏิเสธหุ้นเหล่านี้เพื่อเจียงฉีหานได้เสิ่นเหมียนยิ้มอย่างเรียบเฉย “หากคุณแม

  • เสพติดรัก   บทที่ 32

    เวินเจี่ยนมองเจียงฉีหานอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉีหาน ไม่เกี่ยวกับเสิ่นเหมียน เป็นฉันเองที่ไม่ระวังชนเธอจนล้ม ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก!”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเวินเจี่ยน เสิ่นเหมียนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดเวินเจี่ยนอยากจะเสแสร้งก็ปล่อยเธอเสแสร้งไปตราบใดที่ไม่ทำให้เธอลำบากใจ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!เจียงฉีหานมองเสิ่นเหมียน “เธอเดินไม่มองทางเลยเหรอ?”เสิ่นเหมียนขี้เกียจทะเลาะกับเขา จึงตอบรับเสียงหนึ่ง “ได้ ต่อไปฉันจะมองทางแล้วกัน!”เห็นได้ชัดว่าเวินเจี่ยนชนเธอ ทำไมถึงกลายเป็นเธอเดินแล้วไม่มองทาง!เจียงฉีหานเกลียดชังเธอ แม้แต่ลมหายใจก็ยังผิดคุณปู่เจียงทำบึ้งอยู่ตลอดเวลา และมองเวินเจี่ยนด้วยสายตาที่แหลมคมเธอพูดจากำกวม ก็แค่อยากให้เจียงฉีหานเข้าใจผิดเล่ห์เหลี่ยมนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลยยัยหนูเสิ่นเหมียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างไร!เมื่อรับรู้ถึงสายตาของผู้อาวุโสเจียง หัวใจของเวินเจี่ยนก็กระตุกวูบ ทำไมเธอถึงลืมตาแก่ตายยากนี่ไปได้นะเขาจะต้องได้ยินคำพูดเกินจริงของเธออย่างแน่นอนหากเขาพูดออกมาจะทำอย่างไร?เมื่อคิดถึงข้อนี้ เธอก็ไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป รีบลุกขึ้นจา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status