Share

EP.04 แม่บ้านเงินเดือนสูง

            ‘หรือฉันจะไปทำงานที่ยัยรุ้งแนะนำดี’

            ‘งานอะไร ทำไมฉันไม่รู้ ไม่เห็นยัยรุ้งบอกฉันว่าแนะนำงานให้แก’

            ‘อ้าวก็งานรับจ้างเป็นเพื่อนไง ยัยรุ้งบอกว่างานนี้ที่เมืองนอกบูมมากเลยนะ ตอนนี้บ้านเราก็เลยเอามาทำบ้าง เห็นรุ้งว่าได้ค่าจ้างวันละห้าหมื่นเลยล่ะ และยังได้ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร เบี้ยเลี้ยงต่างหากด้วย ชุคิดสิ พุดทำแค่ยี่สิบวัน ก็ได้ล้านนึงแล้วนะ’

            ‘แล้วยัยรุ้งบอกหรือเปล่าว่าคนที่เขามาจ้างนะเป็นใคร ใครที่ไหนเขาจะมาเสียเงินจ้างเพื่อน และถ้าไม่มีเพื่อนจนถึงขนาดที่ต้องมาจ้าง ไม่เพี้ยนก็โรคจิตแล้วล่ะ’

            ‘ไม่ใช่แบบนั้น รับจ้างเป็นเพื่อน ก็เช่นมีนักธุรกิจมาจากเมืองนอก ต้องการให้เราไปเป็นเพื่อนเดินซื้อของ ไปเป็นเพื่อนกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง แบบบางทีเขามาจากต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องการคนพื้นที่ให้พาไปไง คนรวยทั้งนั้นแหละชุ แค่เศษเงินเขา ไม่ได้เยอะอะไรหรอก’

            นั่นคือข้อมูลที่เธอได้มาจากเพื่อนที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน เพราะเพื่อนก็ทำงานรับจ้างเป็นเพื่อนนี้มาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน และก็ได้เงินดีจนมีเงินเก็บและส่งเสียทางบ้านได้ แต่สีหน้าของชุติมนต์กลับทำให้เธองง       

            ‘แกทำไม่ได้หรอกพุด’

            ‘ทำไมล่ะชุ ยัยรุ้งยังทำได้เลย พุดก็ต้องทำได้สิ เพื่อแม่ พุดทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”

            ‘แต่เรื่องนี้ยกเว้น ยังไงแกก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าแค่นั้นคงไม่มีใครเขามาจ้างหรอกมั้ง มันต้องมากกว่านั้นอยู่แล้วล่ะ’

            ‘มากกว่า... มากกว่าแค่ไหนเหรอชุ แล้วพุดทำไม่ได้เหรอ ยัยรุ้งยังทำได้เลยนะ’

            ‘ก็ที่แกพูดน่ะมันเป็นแพ็กเกจเหมารวมไว้หมดแล้วน่ะสิ ทั้งเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว และก็... เพื่อนนอน’

            นั่นคืออีกความจริงที่เธอไม่เคยรู้ บนโลกที่โหดร้ายใบนี้แต่เธอกลับได้รับการประคับประคองจากแม่ให้อยู่แต่ในโลกที่บริสุทธิ์ มองโลกในแง่เดียวตลอด ไม่เคยรู้เลยว่า เพื่อนร่วมคณะหรือต่างคณะหลายคนต่างทำงานแบบนี้กันมาเนิ่นนานแล้ว และต่างคนก็ต่างมองว่าไม่ใช่สิ่งผิด เมื่อฝ่ายหนึ่งเต็มใจจ่ายได้มากเท่าที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการ ก็แค่ข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อเท่านั้น

            และเพื่อนบางคนที่ชุติมนต์ยกตัวอย่างมานั้นก็ถึงกับมีคนเลี้ยงเป็นตัวเป็นตน ซึ่งในภาษาชาวบ้านก็คือ ยอมเป็นเมียน้อยเมียเก็บของคนรวยนั่นเอง และบางคนก็ใช้เทคนิคสลับรางรถไฟ จนสามารถมีคนเลี้ยงทีเดียว 10 คนต่อเดือน ได้ทั้งคอนโดมิเนียม รถยนต์ และเงินสดในบัญชี มีเงินใช้ได้อย่างสบาย ซึ่งไม่มีทางที่คนอย่างเธอจะทำได้ตามนั้นแน่

            ‘แล้วพุดจะทำยังไงล่ะชุ พุดจะไปหางานอะไรทำที่ได้เงินเยอะขนาดนั้นได้ พุดมีเวลาแค่เดือนเดียวเองด้วยนะ ถ้าพุดช่วยแม่หาเงินมาไม่ได้ แม่ต้องแย่แน่ แค่นี้ก็สามวันดีสี่วันไข้แล้ว พุดไม่อยากให้แม่ต้องทุกข์แบบนี้’

            เพราะสภาพของแม่ที่ป่วยทางใจและสีหน้าที่มีแต่ความทุกข์ คือสิ่งที่เธอเห็นมาตลอดนับตั้งแต่วันนั้น และหากครบกำหนด 1 เดือนแต่แม่ยังหาเงินมาได้ไม่ครบ เธอไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า แม่จะเจ็บปวดหัวใจมากมายแค่ไหน ที่ต้องมองเห็นน้องชายเพียงคนเดียวเข้าไปอยู่ในห้องขัง หรือสุดท้ายแล้วเธอควรจะเลือกงานนั้น งานที่ได้เงินมากๆ งานที่จะตอบแทนความรักทั้งหมดที่แม่มีให้ต่อเธอ

            ‘ถ้าพุดไม่มีทางเลือก พุดก็จะทำ’

            ‘อย่าบ้าน่ะพุด มันต้องมีทางออก เดี๋ยวฉันจะคุยกับคุณน้าให้’

            สุดท้ายชุติมนต์นั่นแหละที่เป็นคนหางานนี้ให้กับเธอ เพราะญาติของชุติมนต์ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศกันหลายคน และหากจะทำงานให้ได้เงินเยอะๆ มีทางเดียวก็คือต้องไปทำงานที่ต่างประเทศเท่านั้น เพราะถ้าเมืองไทย ไม่พ้นต้องไปเป็นเพื่อนนอนอย่างที่หลายๆ คนทำแน่ เพราะหน้าตาอย่างเธอนั้น ผู้ชายที่เข้าหาก็คงจะมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ ขอเป็นเพื่อนนอน

            เมื่อน้าสาวของชุติมนต์แนะนำงานมาให้ เธอก็ไม่รอช้าที่จะยื่นข้อเสนอกลับไปในทันที ซึ่งทางนายจ้างก็ไม่ขัดข้อง จากนั้นเงินจำนวน 1 ล้านบาท ก็ถูกโอนเข้าบัญชีของแม่ในทันทีที่เธอจดปากกาลงชื่อในสัญญาว่าจ้าง

            จริงอยู่ว่าเงิน 1 ล้านบาทนั้นอาจจะมาก แต่ทางเลือกที่เธอหามาได้นั้นกลับไม่มากตามจำนวนเงิน เพราะหากต้องยอมเป็นของเล่นของคนรวย เธอขอทำงานที่ต้องใช้แรงงานดีกว่า อย่างน้อยหยาดเหงื่อของเธอที่เสียไปก็จะได้มีคุณค่า แม้จะต้องทำงานเป็นคนรับใช้ หรืออาจเรียกหรูๆ แบบให้เกียรติว่า ‘แม่บ้าน’ เธอก็ไม่เกี่ยง ขอให้งานนั้นสุจริตก็พอ

            “จะเข้าไปเลยมั้ยครับคุณ”

            “คุณลุงคะ ไม่ต้องเรียกหนูว่าคุณหรอกค่ะ หนูก็มาทำงานเป็นลูกจ้างที่นี่เหมือนกัน”

            อินถวาตื่นจากภวังค์ก่อนจะหันไปพูดกับ ‘อาฉี’ คนขับรถของคฤหาสน์ลีที่กรุณาไปรับเธอมาจากสนามบิน โชคดีที่คุณนายลีนั้นเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ดังนั้นคนทำงานในคฤหาสน์ลี ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนไทยเชื้อสายจีนเหมือนๆ กัน ภาษาที่ใช้สื่อสารจึงไม่ยากสำหรับเธอนัก เพราะคนงานส่วนก็จะพูดไทยได้ แม้จะไม่ชัดแต่ก็พอฟังออก

            “ไม่ได้หรอกครับ คุณแม่บ้านใหญ่ท่านให้พวกเราพูดให้สุภาพกับทุกคน เชิญเถอะครับ เดี๋ยวลุงจะแนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จัก”

            อินถวารับคำเบาๆ ก่อนจะเดินตัวลีบตามอาฉีผ่านประตูรั้วอลังการณ์งานสร้างเข้าไป และแค่ก้าวเข้าสู่อาณาจักรของตระกูลลีอย่างเต็มตัว เธอก็ยิ่งหวาดหวั่นมากขึ้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status