คฤหาสน์กว้างใหญ่นี้ไม่ใช่เพียงสง่างามน่าเกรงขาม ทว่าเธอกลับรู้สึกเหมือนกับว่าที่นี่มีพลังงานบางอย่างที่ทำให้เลือดในกายของเธอเย็นเฉียบ ทุกย่างก้าวที่เดินตามอาฉีจึงพยายามแล้วที่จะสลัดไล่ความประหม่าในหัวใจนี้ออกไป แต่อาการเสียวสันหลังวาบๆ นี่คืออะไรล่ะ ที่นี่มีอะไรที่น่ากลัวอย่างนั้นเหรอ
‘ฉันว่าแกต้องเจอเนื้อคู่ที่ฮ่องกงแน่ยัยพุด’
‘ทำไม... ทำไมต้องฮ่องกง’
‘อ้าว... ก็เวลาฝันว่างูรัดก็แปลว่าจะเจอเนื้อคู่น่ะสิ แต่นี่แกดันฝันว่ามังกรรัด มังกร ฮ่องกง เข้ากันจะตายไป มังกรตาสีเขียวด้วย จำไว้นะถ้าเจอใครตาสีเขียว นั่นแหละเนื้อคู่แก’
นั่นคือคำหยอกเย้าของชุติมนต์เมื่อเธอบอกเล่าความฝันนั้นให้ฟังก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่ เพราะความฝันดันเกิดขึ้นเมื่อคืนน่ะสิ คืนก่อนวันเดินทางแต่กลับฝันสัปดน แค่เธอฝันว่าถูกมังกรรัด ชุติมนต์ยังล้อเลียนเธอแบบนี้ หากเธอพูดทั้งหมดว่าถูกมังกรทำ... ชุติมนต์จะไม่ยิ่งล้อมากกว่านี้เหรอ
แต่สัมผัสวาบหวิวรอบกายและหนาวจนต้องลูบต้นแขนที่รับรู้ได้ในขณะนี้ อินถวากลับคิดต่าง เพราะหากดวงตาสีเขียวมาปรากฏตรงหน้าจริง นั่นเธอจะคิดว่าผีมังกรเจ้าที่ของคฤหาสน์ลีมาหลอกหลอน
.
.
สาวเอเชีย ผมดำ ผิวขาว อยู่ในชุดสูทเข้ารูปสีชมพูหวานที่เดินตามหลังอาฉีมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทำให้ดวงตาคมหวานเจือไปด้วยแววเจ้าชู้ซุกซนละความสนใจจากเนื้อหนังเต็มตรึงตรงหน้า และมองตรงไปยังร่างงามระหงอย่างไม่วางตา เพราะความตื่นตัวเหมือนกลัวและก็เกรงพื้นที่โดยรอบนั้นทำให้เขาต้องสนใจมอง
‘ผู้หญิงเอเชียมาทำอะไรที่นี่’ ตั้งคำถามเพราะเธอคนนี้ไม่เหมือนคนที่จะมาสมัครงาน เพราะหากเธอสนใจจะทำงานก็ควรจะไปติดต่อที่ฝ่ายบริหารงานบุคคลของโรงพยาบาลมากกว่า ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องมาที่นี่
“อืม... คุณชายคะ ต่อสิคะ”
เสียงเรียกจากคนที่นอนอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่างทำให้ ‘ไรเฟิล ลี’ ตื่นจากภวังค์ รอยยิ้มบาดใจสาวส่งให้กับสินค้าเช่าซื้อจากอเมริกาที่จะหมดสัญญาในวันนี้ เพียงแต่ว่าเขาไม่คิดจะต่อสัญญาอีก แม้ว่าเธอจะอยากจนเรียกร้องให้เขามอบความสุขครั้งสุดท้ายก่อนจะจากกันก็ตาม
“ต่อสิคะ แซนดี้รออยู่ แซนดี้รับประกันว่าจะทำให้คุณชายถึงสวรรค์”
“หึหึ... นี่มันทางเดินนะแซนดี้”
ไรเฟิลละสายตาจากสาวเอเชียลงมามองสาวยุโรปทรงโต ยิ้มแบบวายร้ายเย้ายั่วเพราะมั่นใจว่านางแบบอเมริกันคนนี้คงไม่กล้าที่จะร่วมรักกับเขาตรงทางเดินด้านข้างของคฤหาสน์ที่จะพามุ่งสู่ลานจอดรถด้านหน้าแน่ เพราะ ณ จุดนี้ใครก็อาจจะผ่านไปผ่านมาก็ได้ และหากคนด้านนอกมองเข้ามาก็จะรู้ว่ามีคนอยู่ ส่วนคนด้านในที่ยืนอยู่ในตำแหน่งของเขาก็มองเห็นด้านนอกจนทั่วเช่นกัน
“ก็ทางเดินสิคะ เร้าใจดี ทีสนามหญ้าคุณชายยังกล้า นี่แค่ระเบียงเอง ไม่กล้าเหรอคะ”
“ไม่กล้าก็เสียชื่อไรเฟิลน่ะสิ จะยิงให้พรุนเลย”
ดวงตาท้าทายของแม่สาวทรงสะบึมส่งตรงมา มีหรือที่เสือปืนยาวอย่างเขาจะถอย จมูกปากจึงทำหน้าที่ซุกไซ้ทรวงอกเต่งตึงทันที รสสัมผัสหยุ่นนุ่มล้นไม้ล้นมือคือของชอบ เพราะเป็นของจริงที่แซนดี้ได้รับมรดกมาจากแม่ ทว่าก็คล้อยและเหลวลงมาก อาจเพราะผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง
ไรเฟิลยกยิ้มที่มุมปากเพราะเขาสามารถเนรมิตให้เธอกลับมาเต่งตึงได้เหมือนเดิม ด้วยบัตรสมนาคุณศัลยกรรมฟรีตลอดทั้งตัวที่เขามอบให้ แซนดี้ก็กลับมาสะบึมดุจสาวแรกรุ่นอีกครั้ง ทุกสัดส่วนจะเต่งตึงและกระชับ พร้อมสำหรับการออกศึกไปทุกสัดส่วนเหมือนเดิม แต่นั่นจะเป็นการปิดฉากสัญญาว่าจ้างระหว่างเธอกับเขาไปตลอดกาล เพราะเขาไม่มีรสนิยมชอบของปลอม เขาชอบอะไรๆ ที่เป็นของจริง เช่น...
ดวงตาวาววาบของไรเฟิลตวัดขึ้นมองแรงดึงดูดมหาศาล ความอูมเด่นที่ถูกบดบังไว้ด้วยเสื้อยืดสีขาวอยู่ด้านในนั้นและมีสูทเข้ารูปทับอีกชั้น แต่สาบเสื้อที่แหวกออกยามเธอเคลื่อนไหว แม้จะมองเห็นแค่แวบแรกแต่เขามั่นใจว่านั่น ‘ของจริง’ แน่นอน
“คุณชาย... ทำไมล่ะคะ ไม่ต่อเหรอ”
ร่างสูงใหญ่รั้งตัวเองขึ้นเต็มความสูงพร้อมจัดแต่งชุดสูทสีเทาเข้มให้เข้าที่ ก่อนจะปลายตามองนางแบบสุดเอ็กซ์ พูดในสิ่งที่แซนดี้คงไม่อยากได้ยิน เพียงแต่เขา ‘อยาก’ อย่างอื่นซะแล้ว
“ให้อาหวังไปส่งที่โรงแรม”
ไรเฟิลผละออกมาโดยไม่สนใจอีกว่าแซนดี้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร รู้แต่ว่าเขาจ่ายค่าตอบแทนเหมาะสมแล้วสำหรับอาชีพแม่บ้านบนเตียงของพวกเธอ เงินจำนวนมหาศาลในสัญญาจ้างงาน 1 เดือน ไม่ว่าใครก็อยากมาทำงานกับเขาทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องการใช้ซ้ำจึงไม่เกิดขึ้น และเพราะค่าแรงที่แพงมาก เขาย่อมระบุความต้องการไปได้ นั่นคือ ‘ของจริง’ ทั้งตัว จะมีเพียงดวงตาเท่านั้นที่อนุญาตให้ใส่คอนแทคเลนส์ได้ เพราะดวงตาหลากสีก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดดีเหมือนกัน นอกนั้นทุกสัดส่วนที่เขาจะใช้ปลายนิ้วหรือปลายลิ้นไล้สัมผัส เขาขอจริงล้วนๆ
ร่างสูงใหญ่พาตัวเองลัดเลาะผ่านระเบียงด้านในจนมาอยู่ในส่วนใต้ปีกของตัวตึก เพื่อที่จะมองผ่านไปยังคนด้านนอกได้อย่างชัดเจน และยิ่งเข้าใกล้ เขาก็ยิ่งแน่ใจว่าสัญญาจ้างงานฉบับใหม่คงจะเป็นเธอคนนี้เป็นผู้ลงนามแน่ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยเลยที่เขาจะพิสมัยสาวเอเชียก็ตาม เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่โรงพยาบาลเป็นคนเอเชียน่ะสิ ดังนั้นของจริงและสวยงามตามธรรมชาติจึงมีอยู่น้อยมาก แต่เธอคนนี้ทั้งจริงทั้งน่าลองไม่ใช่หยอก
สัมผัสบางอย่างที่เคลียคลออยู่รอบตัวทำให้อินถวาพยายามจะเปิดเปลือกตาที่ง่วงงุนขึ้นมองดู เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งปกติที่จะเกิดขึ้น เมื่อฝ่ามืออุ่นจัดของใครบางคนกำลังลูบไล้เนื้อตัวของเธออยู่ทั้งๆ ที่เธอ ‘นอนคนเดียว’ แค่คิดถึงสิ่งนั้น ความง่วงงุนก็หายวับพร้อมดวงตาที่หนักอึ่งก็บางเบาราวติดปีกและดีดผึงขึ้นทันที ทว่าสิ่งที่เห็นนั้นมีเพียงความมืดมิด มืดจนไม่มองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง แต่สัมผัสนั้นยังคงอยู่ อินถวาสั่นไปทั้งร่าง ขนกายลุกตั้งไปทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า ไม่มีจุดใดเลยที่ขนจะไม่ลุก เพราะสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังลูบไล้ไปทั่วทั้งเนื้อตัวเธอ ‘มัน’ หรือ ‘ใคร’ หรือ ‘อะไร’ บางอย่าง ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ทั้งๆ ที่น่าจะรู้ว่าเธอตื่นแล้ว ‘กรี๊ดดดดด... ปล่อยฉันนะ! กรี๊ดดดดด...’ เสียงร้องที่ดังอยู่เพียงในลำคอ ยิ่งทำให้อินถวาสะท้านและสั่นจนหยุดไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนหรือจะกรีดร้องดังเพียงใดแต่เสียงนั้นก็เพียงได้ยินอยู่ในลำคอของเธอเท่านั้น เธอพยายามแล้วที่จะดิ้นรน พยายามที่จะกรีดร้องให้ดังที่สุด แต่เจ้าของฝ่ามือที่แตะ
‘คฤหาสน์ลี’ นั่นคือชื่อของคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูงกลางเกาะฮ่องกง พื้นที่ที่คนรวยสุดขีดของเกาะฮ่องกงเท่านั้นจึงจะสามารถอยู่อาศัยได้ เพราะราคาที่ดินของทำเลทองคำนี้สูงลิ่วถึงตารางฟุตละ 7 แสนบาทไทย ดังนั้นใต้ฝ่าเท้าที่เธอกำลังจะเหยียบย่างอยู่นี้ ทุกย่างก้าวคือมูลค่ามากกว่าครึ่งล้านบาท ร่างงามระหงในชุดสูทเข้ารูปสีชมพูพาสเทลของ ‘อินถวา จิตราภานุพงษ์’ ค่อยๆ จดฝ่าเท้าก้าวลงจากรถอย่างแผ่วเบา เพราะกลัวเหลือเกินว่าเธออาจทำให้พื้นถนนด้านหน้าคฤหาสน์นี้ยุบตัวลง เพราะหากมีอะไรเสียหายสักน้อยนิด เธอก็คงจะไม่มีปัญญาไปชดใช้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแหงนหน้าสำรวจไปทั่วบริเวณ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินทางออกนอกประเทศไทย เป็นครั้งแรกที่มาเยือนฮ่องกง และก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันกับการทำงาน เพราะเธอเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ และยังไม่ทันรับพระราชทานปริญญาบัตรเลยด้วยซ้ำ แต่ภาวะจำเป็นทำให้ต้องเลือกมาทำงานต่างแดน ทั้งที่ใจจริงไม่ได้อยากมาเลย ใบหน้างดงามมองสำรวจคฤหาสน์สไตล์โมเดิลที่คล้ายเป็นประติมากรรมที่ประดับอยู่บนหน้าผามากกว่าที่จะเข
‘พี่อรไม่เข้าใจหรอก บอกมาว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยเท่านั้น ไม่ต้องมาบ่นให้มากความ ถ้าพี่ไม่ช่วย ฉันก็แค่ติดคุกเท่านั้นแหละ จะยากอะไร’ ‘ทำไมแกพูดอย่างนั้นอิฐ ฉันเป็นพี่สาวแกนะ แกดูถูกน้ำใจพี่สาวคนนี้มากไปแล้ว ถ้าแกบอกพี่มาตรงๆ ว่าแกเอาเงินไปทำอะไร พี่อาจหาทางช่วยแกได้ แต่แกไม่บอกพี่ แล้วแกจะให้พี่ทำยังไง’ ‘พูดไปพี่อรก็ไม่เข้าใจฉันหรอก ฉันมันเป็นแค่น้อง ไม่ใช่ลูกพี่หนิ พี่จะมาช่วยเหลืออะไรฉันเต็มร้อย สุดท้ายพี่ก็ต้องเลือกอนาคตของยัยพุดอยู่ดี’ ‘แกพูดอะไรของแกอิฐ ยัยพุดมาเกี่ยวอะไรด้วย หลานไม่เคยยุ่งอะไรกับแกเลยนะ’ ‘ไม่ยุ่งได้ไง ก็เพราะพี่มียัยพุดไง พี่ถึงไม่สนใจฉัน เงินทุกบาททุกสตางค์ พี่ก็พูดแต่ว่าเก็บไว้ให้ลูก แล้วอย่างนี้พี่ยังจะมาบอกว่าถ้าฉันขาดเหลืออะไรก็ให้มาบอกพี่เหรอ เจอหน้าฉันทีไร พี่ก็บ่นว่าต้องจ่ายค่าเทอมยัยพุด ต้องจ่ายค่าเรียนพิเศษ ค่าเรียนเต้น ค่าเรียนรำไทย ค่าเรียนดนตรี เรียนวาดภาพ เรียนว่ายน้ำ สารพัดที่มันร่ำร้องจะเรียน แล้วพี่ก็หาเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตปรนเปรอมันทุกอย่าง มันอยากไปเรียนซัมเมอร์ที่เมืองนอก พี่ก็หาเงินส่งมันไป
‘หรือฉันจะไปทำงานที่ยัยรุ้งแนะนำดี’ ‘งานอะไร ทำไมฉันไม่รู้ ไม่เห็นยัยรุ้งบอกฉันว่าแนะนำงานให้แก’ ‘อ้าวก็งานรับจ้างเป็นเพื่อนไง ยัยรุ้งบอกว่างานนี้ที่เมืองนอกบูมมากเลยนะ ตอนนี้บ้านเราก็เลยเอามาทำบ้าง เห็นรุ้งว่าได้ค่าจ้างวันละห้าหมื่นเลยล่ะ และยังได้ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร เบี้ยเลี้ยงต่างหากด้วย ชุคิดสิ พุดทำแค่ยี่สิบวัน ก็ได้ล้านนึงแล้วนะ’ ‘แล้วยัยรุ้งบอกหรือเปล่าว่าคนที่เขามาจ้างนะเป็นใคร ใครที่ไหนเขาจะมาเสียเงินจ้างเพื่อน และถ้าไม่มีเพื่อนจนถึงขนาดที่ต้องมาจ้าง ไม่เพี้ยนก็โรคจิตแล้วล่ะ’ ‘ไม่ใช่แบบนั้น รับจ้างเป็นเพื่อน ก็เช่นมีนักธุรกิจมาจากเมืองนอก ต้องการให้เราไปเป็นเพื่อนเดินซื้อของ ไปเป็นเพื่อนกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง แบบบางทีเขามาจากต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องการคนพื้นที่ให้พาไปไง คนรวยทั้งนั้นแหละชุ แค่เศษเงินเขา ไม่ได้เยอะอะไรหรอก’ นั่นคือข้อมูลที่เธอได้มาจากเพื่อนที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน เพราะเพื่อนก็ทำงานรับจ้างเป็นเพื่อนนี้มาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน และก็ได้เงินดีจนมีเงินเก็บและส่งเสียทางบ้านได้ แต่สีหน้าของชุติมน