รวมถึงขนาดตัวเธอด้วย ขนาดเสื้อผ้าพอดีตัวและเข้ากับบุคลิกของเธออย่างสมบูรณ์แบบ"พี่สาม รสนิยมของพี่นี่ดีเหมือนเดิมเลยนะ"เมื่อได้รับคำชม หลีหรานก็รู้สึกใจพองโต "แหงล่ะ ใครเป็นคนเลือกล่ะ"หลีเกอกลับพูดว่า "ว่าที่พี่สะใภ้สามนี่โชคดีจังเลยนะ!"หลีหรานรีบขัด "น้องสี่ พี่สะใภ้สามอะไรกัน แม้แต่แฟนฉันยังไม่มีเลย อย่ามาพูดมั่วซั่วนะ"หลีเกอหัวเราะคิกคัก "เป็นอะไรไป แค่นี้ก็เขินเหรอ?""ไม่ได้เขินโว้ย รีบไปกันเถอะ..."เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แฟนคลับจำได้บนถนน หลีหรานจึงปลอมตัวเล็กน้อย ขับรถสปอร์ตสุดเท่พาน้องสี่ของเขาออกไปพวกเขาไปที่ย่านการค้าซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในท้องถิ่น ซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับการชอปปิ้งสินค้าหรูหราในท้องถิ่นย่านนี้มีทั้งอาหารและสินค้าแบรนด์เนมหรูหราครบครัน เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการเที่ยวเล่นในท้องถิ่นหลีเกอลงจากรถก่อน รอหลีหรานขับรถไปจอดที่โรงจอดรถด้านข้าง แต่ไม่นานเสียงทักทายของผู้หญิงก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว "หลีเกอ นั่นเธอเองเหรอ..."เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย หลีเกอก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว หันกลับไปก็เห็น 'คู่ปรับ' ตั้งแต่วัยเด็กจนโตของเธอ ซ่งเซียงเ
"อย่าเพิ่งไปสิ เพื่อนเก่า นานทีจะได้มาเจอกันแบบนี้ ต่อให้ชีวิตเธอไปไม่สวยก็ไม่เห็นต้องรู้สึกต่ำต้อยเกินไปหรอกน่า พวกเราไม่หัวเราะเยาะเธอหรอก..."ซ่งเซียงเซียงทำที 'เข้าอกเข้าใจ'"พูดแล้วก็บังเอิญจริง ๆ เลยนะ ฉันนัดเพื่อนร่วมชั้นเราไปกินข้าวกันพอดี เธอไปด้วยกันเลยไหมล่ะ เพราะดูแล้วเธอเองก็ไม่น่าจะได้เข้าไปเหยียบสถานที่หรูหราแบบนี้บ่อย ๆ ตามฉันไปเปิดหูเปิดตาก็ได้"หลีเกอหัวเราะใบหน้าฉายแววโกรธเล็กน้อย "ซ่งเซียงเซียง เธอจะหยุดได้หรือยัง?""สมัยเรียนก็ไม่เคยเรียนตามฉันทัน ตอนนี้ก็ยังทำตัวแบบนี้อีกเหรอ? เอาแต่โอ้อวดว่าตัวเองมีเงิน ระวังเถอะจะโดนเตะตกสวรรค์เข้าสักวัน"ซ่งเซียงเซียงไม่คิดว่าปากของหลีเกอจะยังร้ายกาจเหมือนเดิม เมื่อก่อนเธอไม่เคยได้เปรียบหลีเกอเลยสักครั้ง ตอนนี้ก็ยังเถียงชนะเธอไม่ได้เข้าไปใหญ่แต่เรื่องนี้กลับกลายเป็นความตั้งใจแน่วแน่ที่ทำให้เธอไม่ยอมปล่อยหลีเกอไปวันนี้จะต้องสอนบทเรียนให้หลีเกออย่างสาสม ให้เธอได้รู้ว่าระหว่างอีกฝ่ายกับตัวเองมีช่องว่างที่กว้างใหญ่แค่ไหนคนจนอย่างหลีเกอ สมควรอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอเท่านั้น"เพื่อนที่ว่าก็เรียนมาด้วยกันทั้งนั้น ไปกินข้าวด้
เมื่อพูดจบ ซ่งเซียงเซียงก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที เก็บกระเป๋าตัวเองกอดไว้กับอกโดยไม่รู้ตัว "หึ เธอก็แค่คนบ้านนอก ไม่รู้เรื่องอะไร ฉันขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว"แต่ลูกสมุนทั้งสองกลับมองหน้ากัน พวกเธอไม่เชื่อว่าซ่งเซียงเซียงจะถือกระเป๋าซึ่งเป็นรุ่นเก่าของปีที่แล้วแต่ไม่รู้ทำไม ซ่งเซียงเซียงกลับแสดงท่าทีเหมือนสิ่งที่หลีเกอพูดเป็นความจริงแต่ลูกสมุนก็ยังคงซื่อสัตย์ "เซียงเซียง เราอย่าไปสนใจเธอเลย เดี๋ยวเธอก็จะเห็นเองว่าระหว่างเธอกับพวกเรามีช่องว่างด้านฐานะที่แตกต่างกันแค่ไหน"สีหน้าของซ่งเซียงเซียงถึงได้ดีขึ้นหลีเกอหัวเราะในใจ เธอเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าพวกเธอจะเล่นกลอะไรอีกทางด้านหลีหรานพอจอดรถแล้วเดินออกมาจากโรงจอด กลับไม่เห็นหลีเกอ จึงรีบโทรหาเธอทันทีแต่หลีเกอกลับกดวางสายทันที แล้วส่งข้อความตอบกลับไปว่า "พี่สาม ฉันมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย เดี๋ยวติดต่อกลับนะ"หลีหรานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ตอบกลับไปว่า "โอเค"ซ่งเซียงเซียงพาหลีเกอไปที่ร้านอาหารหรูหราที่สุดในประเทศ F ที่นี่มีแต่ลูกค้าระดับสมาชิกเท่านั้นที่จะเข้าได้ ซึ่งผู้ที่สามารถสมัครสมาชิกและใช้บริการที่นี่ได้ ล้วนแล้วแต่
เพื่อนพวกนี้เคยติดสอยห้อยตามซ่งเซียงเซียงไปไหนมาไหน ส่วนใหญ่ก็มีนิสัยไม่ต่างไปจากซ่งเซียงเซียง ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ดูถูกคนอย่างหลีเกอที่ฐานะต่ำต้อย แต่กลับอยากจะเข้ามาอยู่ในกลุ่มของพวกเขาดังนั้น ยิ่งนานคำถามก็เริ่มไม่สุภาพ"หลีเกอ ช่วงนี้เธอทำงานที่ไหน รายได้ต่อเดือนเท่าไหร่?""แต่งงานหรือยัง มีแฟนไหมเนี่ย?""ให้พวกเราช่วยแนะนำให้ไหม?""..."ซ่งเซียงเซียงพูดแทรกขึ้นมาทันที "พวกเธอถามอะไรแบบนี้กัน หลีเกอจะเหมือนพวกเราได้ยังไง พวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้บ้านรวยกันทั้งนั้น ไม่ต้องออกไปทำงานก็สามารถรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัวได้อย่างสบาย ๆ""ตอนนี้หลีเกออาจจะทำงานพิเศษอยู่ก็ได้ พวกเธออย่าไปล้อเธอเลยนะ คนเรามีความจำเป็นที่แตกต่างกัน"ทุกคนหัวเราะคิกคัก แต่หลีเกอกลับหลุบตาลงเล็กน้อย ไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่ายแต่มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่สังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าที่หลีเกอสวมใส่นั้นดูเหมือนจะเป็นเสื้อผ้าสั่งตัดรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์ชาแนล ราคาแพงมาก ไม่ได้วางจำหน่ายในช็อปทั่วไปแต่หลีเกอมีฐานะแบบนี้ จะมีปัญญาซื้อได้ยังไงจึงพูดออกไปโดยไม่คิด "หลีเกอ เธอไปซื้อเสื้อผ้าก๊อบมาจากไหนเหรอ ดู
หลีเกออุทาน "เหรอ""หนึ่งในนั้นก็รวมถึงไช่โหม่วโหม่ว อินฟลูดังคนหนึ่งด้วยใช่ไหม ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกจับเพราะเลี่ยงภาษีและโดนปรับไปหลายร้อยล้านเลยนี่""เป็นแค่อินฟลูตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง เลี่ยงภาษีเก่งขนาดนี้ แสดงว่าต้องมีความสัมพันธ์กับนายทุนที่อยู่เบื้องหลังแน่ ๆ แต่ข่าวนี้ก็ออกจะดังอยู่นะ คนอื่นคงได้ยินผ่านหูกันหมด"จ้าวหมิงทนไม่ไหวแล้ว เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเขาอย่างมาก บริษัทเกือบจะล้มละลายเพราะเรื่องนี้ทีเดียวแต่หลีเกอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?หลีเกอไม่สนใจเขาอีกต่อไป หันไปมองลูกสมุนหมายเลข 1 ของซ่งเซียงเซียง "บ้านเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทะเล คงได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ ได้ยินมาว่าบ้านเธอไปกู้หนี้ยืมสินกันให้วุ่น ตอนนี้ใช้หนี้หมดหรือยัง?"สีหน้าของลูกสมุนหมายเลข 1 เปลี่ยนไปทันที จากนั้นหลีเกอก็หันไปมองลูกสมุนหมายเลข 2 "ได้ยินมาว่าครอบครัวเธอได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังฟื้นตัวไม่ได้ เป็นหนี้ธนาคารเยอะมาก เรื่องนี้จริงหรือเปล่า?"ลูกสมุนหมายเลข 2 ก็ตกใจเช่นกัน"เธอ... เธอ... เธอรู้ได้ยังไง"หลีเกอยักไหล่ ทำท่าท
ผู้คนต่างพากันถอนหายใจ แต่ในใจกลับเหยียบย่ำหลีเกอลงไปจนจมดิน แถมยังไม่ลืมที่จะข่มขู่"คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเราเลย""ถ้าเจออีก ฉันจะสั่งสอนให้เข็ด""ทุกคนต้องช่วยกัน อย่าให้เมียน้อยอย่างแม่นั่นมีที่ยืน""..."เช้าวันรุ่งขึ้นซ่งเซียงเซียงก็ได้รับโทรศัพท์จากสายสืบ "พี่เซียงเซียง พวกเราสืบหาคนชื่อหลีเกอที่คุณให้สืบแล้ว แต่ไม่พบอะไรเลย"ซ่งเซียงเซียงไม่พอใจ "พวกไร้ประโยชน์! ประเทศ F ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นซะหน่อย แค่สืบหาคนคนหนึ่งยังหาไม่เจอ แล้วฉันจะเลี้ยงพวกแกไว้ทำมะเขืออะไร?!"สายสืบพูดอย่างระมัดระวัง "หรือจะมีใครปกปิดข้อมูลส่วนตัวของเธอไว้ พวกเราถึงได้หาเบาะแสอะไรไม่เจอเลย"ซ่งเซียงเซียงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เชื่อว่าหลีเกอจะมีความสามารถขนาดนั้น"ฉันว่าพวกแกทำงานไม่ได้เรื่องเองมากกว่า ยังจะโยนความผิดให้คนอื่นอีก ต่อไปนี้ไม่ต้องทำงานร่วมกันแล้ว..."พูดจบก็กระแทกโทรศัพท์เข้ากับแป้นเสียงดัง "ปัง"ขณะนั้นเอง ซ่งฟู่ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าใจดี "เซียงเซียง หงุดหงิดอะไรตั้งแต่เช้าลูก?"ซ่งเซียงเซียงเม้มปาก "เปล่าค่ะ พ่อคะ! วันนี้มีงานประชุมทางธุรกิจ ฉันต้องใช้โอกาสนี้หาคำสั
"น้องสี่ ชุดราตรีชุดเป็นไงบ้าง?" หลีหรานหยิบชุดราตรีสุดหรูที่สไตล์การตัดเย็บค่อนข้างเรียบง่ายออกมาจากราวแขวนชุดหนึ่ง แล้วโบกไปมาตรงหน้าหลีเกอหลีลั่วที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ยอมแพ้ หยิบชุดราตรีที่ดูโดดเด่นมาชุดหนึ่ง "น้องสี่ ฉันว่าชุดนี้เข้ากับบุคลิกเธอดีนะ""พี่รอง ชุดของพี่มันดูเว่อร์เกินไปหน่อยไหม?"แต่หลีลั่วกลับโต้แย้ง "ชุดที่นายเลือกก็ดูเรียบเกินไปเหมือนกัน"ทั้งสองคนต่างก็ไม่ยอมกัน สุดท้ายก็โยนสิทธิ์การตัดสินใจให้หลีเกอ "น้องสี่ เธอว่าไง?"หลีเกอมองชุดราตรีทั้งสองชุดแล้วพูดว่า "พี่รอง พี่สาม! รสนิยมพวกพี่ดีทั้งคู่เลย ชุดราตรีที่เลือกก็สวยทั้งคู่เหมือนกัน แต่ว่า ฉันคิดไว้แล้วว่าวันนี้ควรจะแต่งตัวให้เรียบง่ายกว่านี้อีกหน่อย"พูดจบ หลีเกอก็หยิบชุดราตรีสีม่วงอ่อนหรูหราออกมาชุดหนึ่ง หลีหรานและหลีลั่วสบตากัน หลีหรานพูดว่า "เสมอกัน! พี่รอง เกมนี้ไม่นับ"หลีเกอมองคนทั้งสองที่กำลัง ‘แย่งกันเอาใจเธอ’ แล้วอดขำไม่ได้ เธอเดินไปข้างหน้า คล้องแขนของทั้งสองคนแล้วพูดว่า "พี่รอง พี่สาม! ขอบคุณพวกพี่มากเลยนะ""เด็กโง่ ขอบคงขอบคุณอะไรกัน ในบ้านหลังนี้ เธอจะเป็นเจ้าหญิงน้อยของพวกเราตลอดไป"หลีลั่
ซ่งเซียงเซียงมาถึงงานเลี้ยงตั้งนานแล้ว หลังจากที่เดินวนไปมา เธอก็หาที่นั่งพักผ่อน แต่เพียงไม่กี่วินาที สายตาก็เหลือบไปเห็นหลีเกอที่ประตูทางเข้าดวงตาของซ่งเซียงเซียงฉายแววตกใจ"หลีเกอ เธอมานี่ได้ยังไง?" ซ่งเซียงเซียงพูดขึ้น ลูกสมุนที่ติดตามเธอมาด้วยก็หันไปมองตามสายตาลูกสมุนก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กันแต่พอคิดถึงภาพเมื่อวานที่เห็นหลีเกอนั่งรถสปอร์ตไปกับผู้ชายอีกคน ก็พูดจาเสียดสีว่า "คงมาเกาะกินในงานเลี้ยงหรอกมั้ง?"ซ่งเซียงเซียงเบ้ปาก รู้สึกว่าการที่หลีเกอมาปรากฏตัวที่นี่ทำให้เธอเสียเกียรติอย่างยิ่ง"งานแบบนี้ ใคร ๆ ก็มาได้สินะ"เมื่อลูกสมุนเห็นว่าเธอไม่พอใจ ก็คิดแผนขึ้นมา "เซียงเซียง งั้นพวกเราไปสั่งสอนเธอสักหน่อยดีไหม ให้เธอหลาบจำฐานะของตัวเองซะบ้าง"ซ่งเซียงเซียงไม่ได้พูดอะไร แต่การนิ่งเฉยก็เหมือนกับการอนุญาตเมื่อลูกสมุนเห็นดังนั้น ก็เดินตรงไปหาหลีเกอ"โอ้ เพื่อนร่วมรุ่นของเราเองนี่นา มาที่นี่ได้ยังไง มีบัตรเชิญหรือเปล่า หรือว่าแอบเข้ามาเกาะกินในงานเลี้ยง"คำพูดของเธอเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยหลีเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อหันกลับไปมอง ก็เห็นลูกสมุนคนเดิมทำหน้าหยิ่งยโส กำลังมอ