บนกระดาษถูกเขียนไว้ว่า “อย่าหวังจะล้วงข้อมูลจากปากฉันซะให้ยาก พวกต่ำ พวกไร้ค่า”หลีเกอฉีกกระดาษนั้นทิ้งทันทีแล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ปากแข็งดีนี่ คิดว่าฉันจะสืบไม่ได้อย่างนั้นเหรอ”ชายทั้งหลายต่างไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อยหลีเกอพูดขึ้นว่า “เมืองปินเฉิง เฮียเปียว”คำสี่คำสั้น ๆ แต่กลับทำให้ชายทั้งหลายพากันตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป หลีเกอจ้องตาเขม็ง “ดูเหมือนว่าฉันพูดถูกสินะ”“ไม่จริง ไม่เกี่ยวอะไรกับเฮียเปียว พวกเราแค่หมั่นไส้คุณ เลยแค่อยากปิดปากคุณก็เท่านั้น”หลีเกอไม่หลงเชื่อคำโกหกของพวกเขาง่าย ๆ“มาพูดเอาป่านนี้ก็สายไปแล้ว” หลีเกอพูดพลางลุกขึ้นยืนและหันหลังให้พวกเขา น้ำเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกยิ่งขึ้น “สิ่งไร้ค่าก็คือขยะ ก็จัดการตามวิธีจัดการขยะไปซะ”“รับทราบครับคุณหนู”หลีเกอพูดจบก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง ชายทั้งหลายเห็นว่าหลีเกอเอาจริงก็ตกใจกลัว ต่างรีบร้องขอความเมตตาทันที“คุณหลีปล่อยเราไปเถอะ”“พวกเราผิดไปแล้ว”“พวกเราจะไม่ทำอีกแล้ว”“ขอร้องเถอะ ให้โอกาสพวกเราที”...แต่หลีเกอไม่สนใจ เดินออกไปอย่างใจเย็น“พวกนี้มันต่ำช้ากันจริง ๆ ให้โอกาสไปแล้วไม่เอา ทีตอนนี้เพิ่ง
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอเห็นการถ่ายทอดสดในห้องทำงานดวงตากลอกไปมาด้วยความตกใจจนตัวแข็งทื่อ“นี่... นี่เป็นไปได้ยังไง” วิเวียนพึมพำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อที่แท้หลีเกอก็เป็นคุณหนูตระกูลหลีงั้นเหรอแปลว่าเธอไปทำร้ายคนที่เธอไม่ควรทำร้ายที่สุดไปแล้ววิเวียนโกรธจนอยากจะกรอกยาแก้ปวดเข้าปากโจวจื่อหยางเห็นดังนั้นก็พูดขึ้นด้วยความโกรธ “ดูสิว่าพวกเธอทำอะไรลงไป ตอนนี้ความร่วมมือกับตี้เซิ่งก็พังไปแล้ว รู้ไหมว่าบริษัทขาดทุนไปกี่พันล้าน”วิเวียนตัวสั่นเทิ้มแต่สิ่งที่เธอคิดไม่ใช่ว่าบริษัทต้องขาดทุนไปเท่าไหร่ แต่เป็นหลีเกอ เธอไปทำร้ายหลีเกอเข้า ถ้าวันหลังหลีเกอคิดจะตามเอาคืน เธอคงจะเหมือนมดที่ถูกเหยียบตายอย่างไร้ทางสู้“คุณ... คุณโจว! เรื่องนี้เป็นความผิดของเสี่ยวเฉินคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับฉันสักนิด ตอนนี้เสี่ยวเฉินก็ถูกไล่ออกไปแล้ว คุณใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ ใจเย็น ๆ ...”โจวจื่อหยางได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ตอนนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามโชคชะตาแล้ว “ช่างเถอะ ออกไปได้แล้ว”วิเวียนโล่งใจ รีบเดินออกจากห้องทำงานทันทีเมื่อออกไป วิเวียนก็โทรศัพท์แล้วพูดว่า “เตรียมของขวัญราคาแพงให้ฉัน
หลีเกอรีบหันหน้าหนีไม่กล้าสบตาเขา!แม้เขาจะเปิดเผยความในใจอย่างชัดเจน แต่เธอก็ยังไม่กล้าตอบสนองเขาแม้แต่น้อย!ทันใดนั้น อากาศเริ่มเงียบสงัดไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ฟู่ซิวเป่ยเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ “ไม่ต้องรีบตอบผมก็ได้ คิดให้ดี ๆ คิดให้รอบคอบก็พอ ผมไม่รีบ”หลีเกอจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาภาพที่ปรากฏในความคิดของเธอล้วนเป็นภาพเมื่อได้อยู่กับเขาบางทีในโลกใบนี้ เธออาจจะหาใครสักคนที่ปฏิบัติกับเธอได้ดีเท่าเขาไม่ได้อีกแล้ว“พี่ซิวเป่ย ให้เวลาฉันอีกหน่อยได้ไหมคะ”ฟู่ซิวเป่ยพยักหน้าพลางตอบว่า “ได้”หลีเกอสูดลมหายใจเข้าลึก เงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าเธอรู้ว่าถึงแม้ตัวเองจะพยายามลืมเรื่องราวในอดีต และละทิ้งความยึดติดในใจอย่างสุดความสามารถแต่ไม่รู้ทำไม ในส่วนลึกของหัวใจเธอยังมีมุมเล็ก ๆ ที่ทำให้เธอคิดถึงเด็กหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยความยุติธรรมในมหาวิทยาลัยใบหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่ที่น่าเสียดายคือเธอหาความรู้สึกแบบเดิมจากตัวเขาไม่เจออีกแล้ว“ฉันจะพบประธานหลี ให้ฉันเข้าไปที”“ขอโทษด้วยครับ ประธานหลีกำลังร่วมงานเลี้ยงอยู่ตอนนี้ ไม่สะดวกพบแขก” ที่ประตูใหญ่ เจ้
สีหน้าของวิเวียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเธอรีบอธิบาย “นั่นเป็นเรื่องในอดีต ตอนนี้เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันเลย”หลีเกอไม่โง่ขนาดนั้น วันนี้วิเวียนทำเรื่องแบบนี้ซึ่งแตกต่างจากการปฏิบัติที่เห็นได้ชัดก่อนหน้านี้ เหตุผลก็มีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ อีกฝ่ายรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว!หลีเกอยิ้ม แต่รอยยิ้มนี้ไม่ได้มาจากก้นบึ้งของหัวใจ “ผู้จัดการวิเวียน คุณว่าเลขาคนหนึ่งจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครสั่งหรือเปล่า?”พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของวิเวียนก็เปลี่ยนไปทันที ทั้งซีดขาวและดูน่าเกลียดเธอยังอยากจะอธิบายอะไรบางอย่างหลีเกอไม่ฟังคำอธิบายของเธอเลย “ผู้จัดการวิเวียน ถ้ามีเวลาว่างมากก็เอาเวลาไปทุ่มเทให้กับงานมากขึ้นเถอะ อย่ามัวแต่ทำเรื่องไร้สาระแบบนี้เลย”“เราต่างก็เป็นคนทำงานกันทั้งคู่ ต้องใช้ผลงานแทนคำพูด”หลังจากตำหนิแล้ว หลีเกอก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก หันหลังและเดินจากไปพร้อมกับฟู่ซิวเป่ยทิ้งให้วิเวียนยืนนิ่งอยู่ที่นั่นด้วยความตกใจในใจรู้สึกเสียใจจนไส้บิดไปหมดแล้วหลังจากเซ็นสัญญาร่วมมือกับติ่งลี่ หุ้นของติ่งลี่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลาปิดตลาดก็พุ่งขึ้นไปแล้วสิบกว่าเปอร์
หลีเกอร้องอืมออกมา จากนั้นเจิ้งหลิ่วก็หยิบมีดคัตเตอร์แล้วใช้กรีดที่รอยเปิดของกล่องพัสดุ ทันใดนั้น รูปภาพจำนวนมากก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้นเจิ้งหลิ่วรีบเก็บขึ้นมาแล้วส่งให้หลีเกอ “ประธานหลี ดูนี่สิครับ!”สายตาของหลีเกอเมื่อสบกับรูปภาพเหล่านั้น ริมฝีปากของเธอก็ค่อย ๆ ยกขึ้น “ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว”เธอไม่คิดว่าผู้บงการเบื้องหลังจะกลายเป็นคนคุ้นเคยเก่าแก่!“มีเฉียวซีอวิ๋นเข้ามาเกี่ยวข้องก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่”ริมฝีปากของหลีเกอยิ้มแย้ม น้ำเสียงเย็นชา “ครั้งก่อนถือว่าเธอโชคดี แต่หลังจากอยู่ในคุกมาหลายเดือน ครั้งนี้ฉันจะให้เธอรู้อะไรบางอย่าง ว่าบางคน บางเรื่อง คนอย่างเธอไม่ควรแส่เข้ามายุ่ง”“ประธานหลี เรื่องนี้ให้ผมจัดการเลยดีไหม...”หลีเกอตอบกลับ “ไม่จำเป็น เรื่องนี้ฉันจัดการเองได้...”ในเวลาเดียวกันเฉียวซีอวิ๋นไม่รู้ว่าแผนการของตัวเองถูกเปิดเผยแล้ว เธอยังคิดว่าหลีเกอต้องแห้งตายอยู่ที่ตานตง!ดังนั้นเธอจึงอารมณ์ดีมาก ขณะนี้กำลังถือบัตรเครดิตแบล็กการ์ดที่ฮั่วจิ้นเฉิงให้ไปชอปปิงอย่างสบายใจบนห้างสรรพสินค้าหลังจากซื้อของมาหลายถุงจนสองมือของบอดี้การ์ดถือไม่ไหวแล้ว เฉียวซีอวิ๋นจึงห
เจี่ยงอีอีได้ยินคำพูดเหล่านั้น สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที"ว่าไงนะ?"เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเธอ เฉียวซีอวิ๋นก็หัวเราะ เสียงหัวเราะนั้นช่างโอหังและเย่อหยิ่งในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง"ไม่เชื่อเหรอ? แต่ความจริงก็คือคงวามจริง หลีเกอตายที่ตานตงแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานข่าวนี้ก็จะมาถึงหูแก"คราวนี้ เจี่ยงอีอีโกรธจัดอย่างที่สุดเธอคว้าไม้กวาดแล้วฟาดใส่เฉียวซีอวิ๋น "นังแพศยา! นังเมียน้อย! นังหนูโสโครกในกองขยะ อย่ามาพูดจาเหลวไหลที่นี่นะ ฉันจะตีแกให้ตายเลย"เฉียวซีอวิ๋นหลบอย่างรวดเร็ว ปากก็ยังด่าไม่หยุด "ฮ่าฮ่าฮ่า เอาเลย ด่าเลยสิ!""แกด่าฉันแค่ไหน นังหลีเกอก็ไม่ฟื้นคืนชีพหรอก เป็นไปได้ว่าตอนนี้แม้แต่ศพของมันก็หาชิ้นส่วนไม่ครบด้วย""ฉันแนะนำให้แกเตรียมกระดาษเงินกระดาษทองไว้เยอะหน่อยนะ เผาไปให้นังหลีเกอมากหน่อย จะได้พอซื้อประตูในปรโลกได้""..."เจี่ยงอีอีโกรธจนหน้าแดงก่ำ วิ่งไล่ตามเฉียวซีอวิ๋นไปที่ด้านหน้า แล้วตบหน้าเธออย่างแรงแต่เฉียวซีอวิ๋นกลับไม่รู้สึกเจ็บ ยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง บอดี้การ์ดที่อยู่ข้าง ๆ เห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาขวางเจี่ยงอีอีเจี่ยงอีอีดิ้นไม่หลุดจากบอดี้
เจี่ยงอีอีพยักหน้า จากนั้นก็พูดว่า "นังกากเดนฆ่าไม่ตายนี่ นับวันยิ่งหลงระเริงเกินไปแล้ว"หลีเกอรีบปลอบเธอ “หัวเราะทีหลังดังกว่า ปล่อยเธอย่ามใจให้เต็มที่ไปเลย ฉันกับเธอถึงเวลาที่ต้องสะสางบัญชีกันแล้ว"แววตาของหลีเกอแฝงไปด้วยความเฉียบคมหลังจากวางสายแล้ว เจิ้งหลิ่วก็ผลักประตูเข้ามา "ประธานหลี ผมติดต่อเฮียเปียวได้แล้ว เขาบอกให้เราไปพบที่คฤหาสน์ผานหลง พรุ่งนี้ตอนแปดโมง"มุมปากของหลีเกอปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ตอบเขากลับไปว่าเราจะไปตามนัดแน่นอน"เจิ้งหลิ่วเตือน "ควรแจ้งสำนักงานใหญ่ที่ประเทศ F ไหมครับ ให้พวกเขาส่งคนมาช่วย?""ไม่ต้อง พาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใต้บังคับบัญชาของเราไปด้วยก็พอแล้ว เจอกันซึ่งหน้าแบบนี้ สังคมบ้านเรามีขื่อมีแป เขาคงไม่โง่พอที่จะทำอะไรสุดโต่งพรรค์นั้น""ครับ ประธานหลี"เมื่อเจิ้งหลิ่วจากไปแล้ว หลีเกอก็เงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้จากมุมสูงนิ้วของหลีเกอเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างเช้าวันรุ่งขึ้นเวลาเจ็ดโมง บอดี้การ์ดฝีมือดีที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดรออยู่ที่หน้าอาคารตี้เซิ่งแล้ว หลีเกอไม่ได้บอกใ
เรื่องนี้เฮียเปียวไม่รู้ จึงถามด้วยความสงสัย "เรื่องอะไรนะ?"หลีเกอยิ้มไม่เต็มปาก "ถึงตอนนี้แล้ว เฮียเปียวจะยังแกล้งโง่ไปทำไมกัน?"สีหน้าเฮียเปียวมืดลงทันที หันไปพูดกับตาวอิ่งที่อยู่ข้าง ๆ "นี่มันเรื่องอะไร? พวกแกไปทำอะไรคุณหนูหลี? บอกมาตามความจริง"สีหน้าตาวอิ่งดูไม่ค่อยดีนัก จากนั้นก็กระซิบบอกอะไรบางอย่าง เฮียเปียวฟังแล้วก็ตบโต๊ะดังปัง "ไอ้สารเลว!"ตาวอิ่งตกใจ รีบปลอบเขา "เฮียเปียว อย่าโกรธเลยนะครับ ตอนนั้นผมก็แค่เกิดความคิดชั่ววูบ ทำเรื่องหุนหัน..."เฮียเปียวฝืนอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ไม่ได้แสดงอาการต่อหน้าหลีเกอตาวอิ่งติดตามเขามานานหลายปีแล้ว เป็นแขนขวาของเขาเสมอ ตอนนี้หากจะลงโทษตาวอิ่งเพราะหลีเกอคนเดียวก็คงไม่เหมาะสมนักดังนั้นเขาจึงยิ้มเจื่อน "คุณหนูหลี ผมว่าเรื่องนี้คงต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ ๆ?"หลีเกอเดาใจออีกฝ่ายได้คร่าว ๆ จึงพูดว่า "เฮียเปียว ฉันเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้วนะคะ ยังบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดอีกเหรอ?"เฮียเปียวรู้จักฐานะของหลีเกอ ถึงแม้ว่าเขาจะมีอิทธิพลคับฟ้าเมื่ออยู่ในเมืองปินเฉิงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลีเกอโดยตรงเขาทำได้แค่ไกล่เกล