จนกระทั่งวันซ้อมใหญ่ก่อนถึงวันงานจริงเธอถึงได้รู้เรื่องนี้จากปากของเจี่ยงอีอี"ที่รัก ฉันได้ยินมาว่าสถานที่จัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากฮั่วกรุ๊ป ท่านประธานฮั่วจิ้นเฉิงจะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์วันพรุ่งนี้ด้วย และจะกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานด้วยตัวเอง"หลีเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย"ฮั่วกรุ๊ปหันมาทำงานการกุศลตั้งแต่เมื่อไหร่?"เจี่ยงอีอีพูดแดกดันอย่างไม่เกรงใจ "คงเป็นเพราะเรื่องฉาวของฮั่วซินเมื่อครั้งก่อนแน่ ๆ การกระทำของหล่อนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลฮั่วในระดับหนึ่ง ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงน่ะสิ"หลีเกอร้องอ๋อออกมาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเธอเป็นแค่นักออกแบบหลักของงาน ภารกิจของเธอคือทำให้เสื้อผ้าทุกชุดในงานแฟชั่นโชว์พรุ่งนี้สามารถจัดแสดงได้อย่างราบรื่น"ที่รัก เธอว่า หรือฮั่วจิ้นเฉิงจะรู้ว่าเธอเป็นนักออกแบบหลักของงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ถึงได้จงใจเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับงาน?"ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างนั้น"อีอี เธอคิดมากเกินไปแล้วมั้ง?"ฮั่วจิ้นเฉิงเป็นคนแบบไหนไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธออีกแล้วเขาไม่เคยสนใจเรื่องใด ๆ ของเธอเลย แล้วจะทำเรื่องที่แหวกขนบสามัญสำนึกแบ
งานแฟชั่นโชว์ในเมืองปินเฉิงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก นักออกแบบหน้าใหม่ในวงการ และสื่อมวลชนจากทั้งในและต่างประเทศมาร่วมงานจำนวนมากผู้คนมากมายต่างเฝ้ารอคอยงานแฟชั่นโชว์ครั้งสำคัญนี้หลีเกอรีบมาถึงงานตั้งแต่เช้าตรู่ และทำงานยุ่งวุ่นวายอยู่หลังเวทีเจี่ยงอีอีก็อยู่เป็นเพื่อนเธอ คอยคุมช่างแต่งหน้าดูแลช่างแต่งหน้าให้กับนางแบบ และจัดชุดเสื้อผ้ากับนางแบบให้เข้าชุดกันงานโชว์ในวันนี้มีความสำคัญมาก เธอจึงต้องตรวจสอบทุกรายละเอียดอย่างใกล้ชิดห้ามไม่ให้มีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นหลีเกอรู้สึกกังวลตลอดเวลาเจี่ยงอีอีเห็นดังนั้นจึงรีบยื่นน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว "ที่รัก ดื่มน้ำหน่อยสิ!"หลีเกอรับมาพร้อมกับพูด "ขอบคุณนะ"หลังจากเตรียมงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสองถึงค่อยโล่งใจ"แขกด้านหน้ามาเกือบครบแล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนแฟชั่นโชว์จะเริ่ม เธอไปพักผ่อนได้"หลีเกอพยักหน้าทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าของหลีเกอก็ดังขึ้นเมื่อเห็นเบอร์โทรเข้า พบว่าเป็นพี่ชายคนที่สามของเธอ หลีหราน คนคนนี้ไม่ได้ติดต่อเธอมาเป็นเวลานานแล้ววันนี้เขาโทรมาหาเธอทำไม?หลีเกอใช้ช่วงเวล
หลีเกอกลับไม่รู้สึกอะไร"คุณฮั่ว คนที่คุณควรสนใจไม่ใช่ฉัน ตอนนี้เฉียวซีอวิ๋นยังอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณมีเวลา ก็แวะไปเยี่ยมเธอสักหน่อย"เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมานานสีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว "อย่าพูดถึงเธอ!"แต่หลีเกอกลับหัวเราะ"ทำไมคะ คุณฮั่ว แสงสว่างในดวงใจของคุณตอนนี้กลายเป็นความมืดมนแล้วเหรอ?"ฮั่วจิ้นเฉิงพยายามระงับความโกรธในใจ "หลีเกอ ผมกับเธอไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ทำไมถึงไม่เชื่อผม...""พอเถอะ คุณฮั่ว! วันเป็นวันดึ การพูดถึงเรื่องในอดีตไม่รู้จบจะนำมาซึ่งความโชคร้ายนะคะ"หลีเกอไม่สนใจเรื่องราวระหว่างเขากับเฉียวซีอวิ๋นไม่สนใจเรื่องใด ๆ ของพวกเขาเลย"ฉันต้องไปแล้วค่ะ คุณฮั่ว เชิญตามสบาย"หลังจากพูดจบ หลีเกอก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองแต่เมื่อเธอกลับมาที่หลังเวที สถานการณ์กลับกลายเป็นความโกลาหล"หลีเกอ ในที่สุดเธอก็กลับมา เป็นเรื่องแล้ว..." เจี่ยงอีอีดึงแขนเธอไปพร้อมกับพูดด้วยความกังวลหลีเกอรีบถาม"อะไร มีอะไรเกิดขึ้น?""...ชุดเสียหาย"เมื่อหลีเกอได้ยินดังนั้น เธอก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว พบว่าชุดเด่น ๆ หลายชุดบนโต๊ะถูกกรรไกรตัดจนกลายเป็น
"ทำไงกันดี หลีเกอ อีกแค่ห้านาทีงานก็จะเริ่มแล้ว เราจะทันหรือเปล่า?"เจี่ยงอีอีเดินไปเดินมาที่หลังเวทีด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลหลีเกอพยายามจัดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วแล้วแท้ ๆ แต่เสื้อผ้าในมือก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง"หรือเราจะไปขอให้ผู้จัดงานเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อยดี..."เจี่ยงอีอีเสนอ แต่หลีเกอกลับปรามไว้"ไม่ได้ งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้สำคัญมาก ถ้าขอเลื่อนเวลาออกไป จะส่งผลกระทบอย่างมาก""แล้วจะทำไงดีล่ะ? จะปล่อยให้พวกเขารอเฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ"หลีเกอเคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น เธอหยิบเข็มและด้ายในมือขึ้นมาเย็บ พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก จากนั้นก็พูดขึ้น "นอกซะจากว่า... จะหาเหตุผลที่เหมาะสมได้""โอ๊ย เวลาจวนตัวจะแย่แล้ว เหตุผลอะไรถึงเหมาะสมล่ะ?"ทีมงานหลังเวทีช่วยกันครุ่นคิดกันอย่างหนัก ทุกคนมองหน้ากันไปมา แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรออก"ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ให้นางแบบเซตแรกเดินวนบนเวทีหลาย ๆ รอบ อย่างน้อย ๆ ก็จะได้เวลาเพิ่มขึ้นมาสิบนาที""แต่บรรดานักข่าวไม่ได้คนโง่นะ ถ้าเดินหลายรอบ พวกเขาก็จะเดาได้ทันทีว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่หลังเวที""งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ถ้าเกิดเ
หลีเกอก็โล่งใจเช่นกัน"เยี่ยมไปเลย!"จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น สังเกตฮั่วจิ้นเฉิงบนเวที เขายืนหันหลังให้แสงไฟ หลีเกอมองไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่จากเสียงที่ได้ยินผ่านเครื่องขยายเสียงนั้นทั้งนุ่มนวลและมั่นใจเสี้ยววินาทีนั้นหลีเกอพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเขาฮั่วจิ้นเฉิงกล่าวสุนทรพจน์นานถึงสิบห้านาที ซึ่งถือว่านานกว่าเวลาที่กำหนดไว้แต่เดิมไปมากแต่บรรดาผู้สื่อข่าวที่อยู่ด้านล่างกลับไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายหรือเซ็ง เพราะฮั่วจิ้นเฉิงพูดถึงแผนงานในอนาคตของฮั่วกรุ๊ป ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนในเมืองปินเฉิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นทุกคนดังนั้นทุกคนจึงตั้งใจฟังฮั่วจิ้นเฉิงพูดอย่างจริงจัง"ผู้อำนวยการหู เกิดอะไรขึ้นครับ? ทำไมสุนทรพจน์ถึงนานเกินเวลาอย่างนี้" ผู้ช่วยกระซิบข้างหูเบา ๆผู้อำนวยการหูพอจะเข้าใจเช่นกันว่าฮั่วจิ้นเฉิงกำลังยืดเวลา แต่เขาไม่คิดว่าเวลาสิบกว่านาทีจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้"...ยังมีแผนสำรองอีกไหม" ผู้อำนวยการหูถามผู้ช่วยรีบตอบ "วางใจเลยครับ เราเตรียมพร้อมมาอย่างดี... งานแฟชั่นโชว์วันนี้จะต้องพังพินาศไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม..."เป็นไปตามคาดหลังจากฮั่วจิ้นเฉิงกล่าวสุนทร
"อาจจะดังไปทั่วโลกเลยก็ได้นะ""..."ผู้อำนวยการหูฟังผู้คนรอบข้างพูดคุยกันอย่างออกรส ส่วนใหญ่ชื่นชมแฟชั่นโชว์นี้เป็นเสียงเดียวกัน แต่สีหน้าของเขากลับมืดมนจนน่าเกลียดผู้ช่วยข้าง ๆ ถึงกับปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วก็กระซิบเบา ๆ ว่า "ผู้อำนวยการหูครับ ถึงยังไงชุดหลักของพวกเธอก็ขาดวิ่นไปแล้ว ถึงยังไงงานก็ต้องพัง..."ใครจะรู้ว่าเขายังไม่ทันจะพูดจบนางแบบที่สวมชุดหลักก็ปรากฏตัวบนเวทีทันทีที่เธอปรากฏตัว บรรยากาศทั้งงานก็เงียบกริบ สายตาทุกคู่จ้องไปที่กลางเวที ชุดหลักที่หลีเกอเพิ่งแก้ทรงไปเมื่อครู่ ไม่เพียงแต่จะเลือกใช้สีสันที่แหวกขนบและใช้สไตล์การตัดเย็บที่แปลกใหม่เท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือมันมีความพิเศษมากทำให้ผู้คนละสายตาไม่ได้"ถ่ายเร็ว! สไตล์การตัดเย็บของชุดนี้มีมิติจริง ๆ เป็นชุดที่สวยที่สุดในค่ำคืนนี้เลย""ดีไซน์เนอร์คนนี้เก่งมาก! ถ่ายทอดสไตล์แปลกใหม่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์""หลังจากจบงาน ฉันต้องไปขอสัมภาษณ์เธอให้ได้!""เธอสามารถออกแบบชุดที่มีความพิเศษขนาดนี้เชียว ทำให้วัฒนธรรมจีนดั้งเดิมของเราดังไกลไปทั่วโลก ดีไซน์เนอร์คนนี้ต้องมีจิตใจรักชาติอย่างเต็มเปี่ยม""เธอสมควรได้รับ
"อะไรนะ กี่เพ้าตัวเดียว ประมูลกันเป็นยี่สิบล้านเลยเหรอ!""พลิกความคิดของฉันเลยนะนี่ แต่คุ้มค่าที่ได้เห็นจริง ๆ!!!""..."หลีเกอไม่รู้เลยว่าขณะนี้ชาวเน็ตกำลังแตกตื่นด้วยเรื่องอะไรกัน เธอเดินไปตามทางเดินทอดยาวบนเวที ทุกก้าวเหยียบลงบนจุดเป๊ะ ๆ ทุกการเคลื่อนไหวแสดงให้เห็นถึงความสง่างามของเธอผู้คนข้างล่างต่างก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะโดยเฉพาะอย่างยิ่งฮั่วจิ้นเฉิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้ดวงตาของเขาไม่สามารถเฉไฉมองไปเห็นสิ่งอื่นใดได้อีกแล้วสายตาของเขามีเพียงเธอคนเดียว!หลีเกอเดินจบรอบแล้ว เธอก็เดินลงจากเวที เท้าของเธออ่อนแรงลงทันที ตกลงไปอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่ง เป็นหลีหรานนั่นเองที่รับเธอไว้อย่างมั่นคง แล้วโอบเธอเข้ามากอดในอ้อมแขนหลีเกอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "พี่สาม! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้คะ???"หลีหรานปล่อยเธอออก ริมฝีปากของเขาเผยอขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "บอกแล้วไงว่ามีของขวัญจะให้ แต่เธอดันไม่ยอมมารับ ฉันเลยถือวิสาสะแกะริบบิ้นเอง แล้วตามมาหาเธอนี่ไง"หลีเกอเพิ่งจะเข้าใจของขวัญที่หลีหรานพูดถึงคือตัวเขาเอง!"ว้าว ขอบคุณนะคะพี่สาม! แต่ฉันต้องไปเปลี่ยนชุดก่อน รอให้แฟชั่นโชว์จบเมื่
"ตรวจสอบแล้ว..."ฟู่ซิวเป่ยเดินออกมาจากความมืด แล้วมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหลีเกอ "กล้องวงจรปิดทุกตัวในสถานที่จัดงานได้รับการเช็กย้อนหลังแล้ว พบเบาะแสบางอย่างจริง แต่ตอนนี้เห็นผู้กระทำแค่จากด้านหลัง ไม่เห็นหน้าตรง""ว่าไงนะ! มีคนจงใจทำให้งานพังจริง ๆ ด้วย!" เจี่ยงอีอีโกรธมาก"ถ้าเห็นแค่ด้านหลังจะตามตัวได้ไหมคะ?" หลีเกอถามฟู่ซิวเป่ยตบไหล่เธอเพื่อปลอบโยน"วางใจเถอะ! มันหนีไปไหนไม่รอดหรอก"หลีเกอจึงวางใจ"ช่วงนี้ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันมามากพอแล้ว คืนนี้ผมจองห้องส่วนตัวไว้ ออกไปผ่อนคลายกันสักหน่อยเถอะ!"เมื่อฟู่ซิวเป่ยพูดจบ เจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบ ๆ ก็ร้องเฮไปตาม ๆ กัน"เยี่ยมเลยค่ะ! ขอบคุณคุณหนูหลี!""ขอบคุณประธานฟู่!""..."แต่หลีเกอกลับหันไปจับมือหลีหราน "ไปกันเถอะ! คืนนี้ไปสนุกด้วยกันสิคะ?"หลีหรานยักไหล่แล้วตอบตกลง "ได้อยู่แล้ว!"แต่หลีเกอก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ!เธอโทรหาเจินซินเดี๋ยวนั้นเป็นไปตามคาดทันทีที่ได้ยินว่าหลีหรานกลับมา เจินซินก็รีบถามหาโลเคชั่นทันทีหนึ่งชั่วโมงต่อมาห้องส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในห้องคาราโอเกะฮวนเถิง คนทั้งกลุ่มมาถึงกันครบแล้วเจินซินเห็นหล