หลีเกอกลับไม่รู้สึกอะไร"คุณฮั่ว คนที่คุณควรสนใจไม่ใช่ฉัน ตอนนี้เฉียวซีอวิ๋นยังอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณมีเวลา ก็แวะไปเยี่ยมเธอสักหน่อย"เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมานานสีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว "อย่าพูดถึงเธอ!"แต่หลีเกอกลับหัวเราะ"ทำไมคะ คุณฮั่ว แสงสว่างในดวงใจของคุณตอนนี้กลายเป็นความมืดมนแล้วเหรอ?"ฮั่วจิ้นเฉิงพยายามระงับความโกรธในใจ "หลีเกอ ผมกับเธอไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ทำไมถึงไม่เชื่อผม...""พอเถอะ คุณฮั่ว! วันเป็นวันดึ การพูดถึงเรื่องในอดีตไม่รู้จบจะนำมาซึ่งความโชคร้ายนะคะ"หลีเกอไม่สนใจเรื่องราวระหว่างเขากับเฉียวซีอวิ๋นไม่สนใจเรื่องใด ๆ ของพวกเขาเลย"ฉันต้องไปแล้วค่ะ คุณฮั่ว เชิญตามสบาย"หลังจากพูดจบ หลีเกอก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองแต่เมื่อเธอกลับมาที่หลังเวที สถานการณ์กลับกลายเป็นความโกลาหล"หลีเกอ ในที่สุดเธอก็กลับมา เป็นเรื่องแล้ว..." เจี่ยงอีอีดึงแขนเธอไปพร้อมกับพูดด้วยความกังวลหลีเกอรีบถาม"อะไร มีอะไรเกิดขึ้น?""...ชุดเสียหาย"เมื่อหลีเกอได้ยินดังนั้น เธอก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว พบว่าชุดเด่น ๆ หลายชุดบนโต๊ะถูกกรรไกรตัดจนกลายเป็น
"ทำไงกันดี หลีเกอ อีกแค่ห้านาทีงานก็จะเริ่มแล้ว เราจะทันหรือเปล่า?"เจี่ยงอีอีเดินไปเดินมาที่หลังเวทีด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลหลีเกอพยายามจัดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วแล้วแท้ ๆ แต่เสื้อผ้าในมือก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง"หรือเราจะไปขอให้ผู้จัดงานเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อยดี..."เจี่ยงอีอีเสนอ แต่หลีเกอกลับปรามไว้"ไม่ได้ งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้สำคัญมาก ถ้าขอเลื่อนเวลาออกไป จะส่งผลกระทบอย่างมาก""แล้วจะทำไงดีล่ะ? จะปล่อยให้พวกเขารอเฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ"หลีเกอเคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น เธอหยิบเข็มและด้ายในมือขึ้นมาเย็บ พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก จากนั้นก็พูดขึ้น "นอกซะจากว่า... จะหาเหตุผลที่เหมาะสมได้""โอ๊ย เวลาจวนตัวจะแย่แล้ว เหตุผลอะไรถึงเหมาะสมล่ะ?"ทีมงานหลังเวทีช่วยกันครุ่นคิดกันอย่างหนัก ทุกคนมองหน้ากันไปมา แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรออก"ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ให้นางแบบเซตแรกเดินวนบนเวทีหลาย ๆ รอบ อย่างน้อย ๆ ก็จะได้เวลาเพิ่มขึ้นมาสิบนาที""แต่บรรดานักข่าวไม่ได้คนโง่นะ ถ้าเดินหลายรอบ พวกเขาก็จะเดาได้ทันทีว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่หลังเวที""งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ถ้าเกิดเ
หลีเกอก็โล่งใจเช่นกัน"เยี่ยมไปเลย!"จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น สังเกตฮั่วจิ้นเฉิงบนเวที เขายืนหันหลังให้แสงไฟ หลีเกอมองไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่จากเสียงที่ได้ยินผ่านเครื่องขยายเสียงนั้นทั้งนุ่มนวลและมั่นใจเสี้ยววินาทีนั้นหลีเกอพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเขาฮั่วจิ้นเฉิงกล่าวสุนทรพจน์นานถึงสิบห้านาที ซึ่งถือว่านานกว่าเวลาที่กำหนดไว้แต่เดิมไปมากแต่บรรดาผู้สื่อข่าวที่อยู่ด้านล่างกลับไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายหรือเซ็ง เพราะฮั่วจิ้นเฉิงพูดถึงแผนงานในอนาคตของฮั่วกรุ๊ป ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนในเมืองปินเฉิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นทุกคนดังนั้นทุกคนจึงตั้งใจฟังฮั่วจิ้นเฉิงพูดอย่างจริงจัง"ผู้อำนวยการหู เกิดอะไรขึ้นครับ? ทำไมสุนทรพจน์ถึงนานเกินเวลาอย่างนี้" ผู้ช่วยกระซิบข้างหูเบา ๆผู้อำนวยการหูพอจะเข้าใจเช่นกันว่าฮั่วจิ้นเฉิงกำลังยืดเวลา แต่เขาไม่คิดว่าเวลาสิบกว่านาทีจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้"...ยังมีแผนสำรองอีกไหม" ผู้อำนวยการหูถามผู้ช่วยรีบตอบ "วางใจเลยครับ เราเตรียมพร้อมมาอย่างดี... งานแฟชั่นโชว์วันนี้จะต้องพังพินาศไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม..."เป็นไปตามคาดหลังจากฮั่วจิ้นเฉิงกล่าวสุนทร
"อาจจะดังไปทั่วโลกเลยก็ได้นะ""..."ผู้อำนวยการหูฟังผู้คนรอบข้างพูดคุยกันอย่างออกรส ส่วนใหญ่ชื่นชมแฟชั่นโชว์นี้เป็นเสียงเดียวกัน แต่สีหน้าของเขากลับมืดมนจนน่าเกลียดผู้ช่วยข้าง ๆ ถึงกับปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วก็กระซิบเบา ๆ ว่า "ผู้อำนวยการหูครับ ถึงยังไงชุดหลักของพวกเธอก็ขาดวิ่นไปแล้ว ถึงยังไงงานก็ต้องพัง..."ใครจะรู้ว่าเขายังไม่ทันจะพูดจบนางแบบที่สวมชุดหลักก็ปรากฏตัวบนเวทีทันทีที่เธอปรากฏตัว บรรยากาศทั้งงานก็เงียบกริบ สายตาทุกคู่จ้องไปที่กลางเวที ชุดหลักที่หลีเกอเพิ่งแก้ทรงไปเมื่อครู่ ไม่เพียงแต่จะเลือกใช้สีสันที่แหวกขนบและใช้สไตล์การตัดเย็บที่แปลกใหม่เท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือมันมีความพิเศษมากทำให้ผู้คนละสายตาไม่ได้"ถ่ายเร็ว! สไตล์การตัดเย็บของชุดนี้มีมิติจริง ๆ เป็นชุดที่สวยที่สุดในค่ำคืนนี้เลย""ดีไซน์เนอร์คนนี้เก่งมาก! ถ่ายทอดสไตล์แปลกใหม่ออกมาได้อย่างสมบูรณ์""หลังจากจบงาน ฉันต้องไปขอสัมภาษณ์เธอให้ได้!""เธอสามารถออกแบบชุดที่มีความพิเศษขนาดนี้เชียว ทำให้วัฒนธรรมจีนดั้งเดิมของเราดังไกลไปทั่วโลก ดีไซน์เนอร์คนนี้ต้องมีจิตใจรักชาติอย่างเต็มเปี่ยม""เธอสมควรได้รับ
"อะไรนะ กี่เพ้าตัวเดียว ประมูลกันเป็นยี่สิบล้านเลยเหรอ!""พลิกความคิดของฉันเลยนะนี่ แต่คุ้มค่าที่ได้เห็นจริง ๆ!!!""..."หลีเกอไม่รู้เลยว่าขณะนี้ชาวเน็ตกำลังแตกตื่นด้วยเรื่องอะไรกัน เธอเดินไปตามทางเดินทอดยาวบนเวที ทุกก้าวเหยียบลงบนจุดเป๊ะ ๆ ทุกการเคลื่อนไหวแสดงให้เห็นถึงความสง่างามของเธอผู้คนข้างล่างต่างก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะโดยเฉพาะอย่างยิ่งฮั่วจิ้นเฉิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้ดวงตาของเขาไม่สามารถเฉไฉมองไปเห็นสิ่งอื่นใดได้อีกแล้วสายตาของเขามีเพียงเธอคนเดียว!หลีเกอเดินจบรอบแล้ว เธอก็เดินลงจากเวที เท้าของเธออ่อนแรงลงทันที ตกลงไปอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่ง เป็นหลีหรานนั่นเองที่รับเธอไว้อย่างมั่นคง แล้วโอบเธอเข้ามากอดในอ้อมแขนหลีเกอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "พี่สาม! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้คะ???"หลีหรานปล่อยเธอออก ริมฝีปากของเขาเผยอขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "บอกแล้วไงว่ามีของขวัญจะให้ แต่เธอดันไม่ยอมมารับ ฉันเลยถือวิสาสะแกะริบบิ้นเอง แล้วตามมาหาเธอนี่ไง"หลีเกอเพิ่งจะเข้าใจของขวัญที่หลีหรานพูดถึงคือตัวเขาเอง!"ว้าว ขอบคุณนะคะพี่สาม! แต่ฉันต้องไปเปลี่ยนชุดก่อน รอให้แฟชั่นโชว์จบเมื่
"ตรวจสอบแล้ว..."ฟู่ซิวเป่ยเดินออกมาจากความมืด แล้วมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหลีเกอ "กล้องวงจรปิดทุกตัวในสถานที่จัดงานได้รับการเช็กย้อนหลังแล้ว พบเบาะแสบางอย่างจริง แต่ตอนนี้เห็นผู้กระทำแค่จากด้านหลัง ไม่เห็นหน้าตรง""ว่าไงนะ! มีคนจงใจทำให้งานพังจริง ๆ ด้วย!" เจี่ยงอีอีโกรธมาก"ถ้าเห็นแค่ด้านหลังจะตามตัวได้ไหมคะ?" หลีเกอถามฟู่ซิวเป่ยตบไหล่เธอเพื่อปลอบโยน"วางใจเถอะ! มันหนีไปไหนไม่รอดหรอก"หลีเกอจึงวางใจ"ช่วงนี้ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันมามากพอแล้ว คืนนี้ผมจองห้องส่วนตัวไว้ ออกไปผ่อนคลายกันสักหน่อยเถอะ!"เมื่อฟู่ซิวเป่ยพูดจบ เจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบ ๆ ก็ร้องเฮไปตาม ๆ กัน"เยี่ยมเลยค่ะ! ขอบคุณคุณหนูหลี!""ขอบคุณประธานฟู่!""..."แต่หลีเกอกลับหันไปจับมือหลีหราน "ไปกันเถอะ! คืนนี้ไปสนุกด้วยกันสิคะ?"หลีหรานยักไหล่แล้วตอบตกลง "ได้อยู่แล้ว!"แต่หลีเกอก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ!เธอโทรหาเจินซินเดี๋ยวนั้นเป็นไปตามคาดทันทีที่ได้ยินว่าหลีหรานกลับมา เจินซินก็รีบถามหาโลเคชั่นทันทีหนึ่งชั่วโมงต่อมาห้องส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในห้องคาราโอเกะฮวนเถิง คนทั้งกลุ่มมาถึงกันครบแล้วเจินซินเห็นหล
หลีเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็ละสายตาจากไป"ไม่มีอะไรค่ะ""ยืนเฉยอยู่ทำไมเล่า รินให้เต็ม รินให้เต็มแก้ว..." เจี่ยงอีอีถือแก้วเบียร์แล้วรินแจกจ่าย บรรยากาศเริ่มครึกครื้นมาก"ดื่มกันอย่างเดียวก็ไม่มีอะไรสนุกน่ะสิ! งั้นมาเล่นอะไรสนุก ๆ กันดีกว่า!" จู้หว่านอี้เสนอ สายตาของเธอวนเวียนอยู่ที่เจินซินและหลีหรานทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันแท้ ๆ แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรกันเลยในฐานะเพื่อนสนิทของพวกเธอ สองสาวถือเป็นตัวชงชั้นดีที่สุดดังนั้น จู้หว่านอี้และเจี่ยงอีอีจึงสบตากันครู่หนึ่ง แล้วดึงหลีเกอและฟู่ซิวเป่ยให้มานั่งเล่นเกมด้วยกันหลีเกอถาม"เล่นเกมอะไรกันดี?"จู้หว่านอี้ม้วนริมฝีปาก แสดงให้เห็นรอยยิ้มจางๆ "ยังจะถามอีกเหรอ แน่นอนว่าเป็นเกม จริง หรือ ท้า สิ...""เย่! ดีเลย!"เจี่ยงอีอีตอบรับเป็นคนแรก ทุกคนจึงมานั่งล้อมวงกัน"ฉันจะบอกกฎก่อนนะ! ง่ายมาก เราจะหมุนขวดเหล้าขวดนี้ ปากขวดหันไปทางใคร คนนั้นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างพูดความจริง หรือรับคำท้า ห้ามโกง แต่คนที่แพ้ต้องดื่มนะ..."จู้หว่านอี้รีบเสริม "ไม่มีปัญหา! มาเริ่มกันเลย!..."พูดจบ จู้หว่านอี้ก็หมุนขวดแก้วเป็นคนแรก "ห้า สี่ ส
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ของหวานมาแล้วค่ะ…”พนักงานเสิร์ฟเดินมาวางของหวานตรงหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนไม่ทันสังเกตเห็นอะไรหลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินออกไป อีกฝ่ายก็จัดการล็อกประตูห้องเอาไว้กู้หว่านชิงถอดกุญแจออกจากเบ้า สีหน้ามืดมัวหลีเกอ แกไม่ให้ฉันมีชีวิตที่ดี ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องตายกันไปข้าง...กู้หว่านชิงไปหยิบน้ำมันมาจากที่ไหนสักแห่งสาดน้ำมันไปทั่วประตูห้องและทางเดินของร้านคาราโอเกะโดยไม่ลังเลหลังจากที่ราดน้ำมันเสร็จ เธอก็หยิบไฟแช็กขึ้นมาแล้วโยนไปตรงน้ำมันทันทีภายในพริบตาไฟก็ลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็วกู้หว่านชิงระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งหลีเกอ หลีเกอ วันนี้คือวันตายของแก!“กรี๊ด... ไฟไหม้... ไฟไหม้แล้ว…” พนักงานที่เดินผ่านมาเป็นคนแรกที่เห็นไฟไหม้ จึงรีบกดสัญญาณเตือนภัย!ชั่วพริบตาโถงทางเดินเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย... ไฟไหม้... ทุกคนวิ่งหนีไปเร็ว”ในห้องส่วนตัวฟู่ซิวเป่ยเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว “แย่แล้ว ไฟไหม้”พูดจบก็ดึงหลีเกอไปที่ประตูโดยไม่ลังเล!ทุกคนต่างก็ตกใจ รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู“อะไรกันเนี่ย ประตูเปิดไม่ออก”